" พอแล้ว " เธอดันตัวหนาออกแต่เขาไม่ขยับเลยสักนิด ไม่แม้แต่จะละห่างจากหน้านวลแถมยังเอ่ยเสียงแหบพร่าจนเธอปั่นป่วนไปทั่วท้องน้อย " ไม่ลองหน่อยเหรอ ผมเด็ดนะ "
ดูเพิ่มเติมจังหวัดเชียงใหม่
บรรยากาศในคืนเดือนมืดในช่วงกลางดึกปกคลุมไปด้วยความเงียบสงัดและอากาศที่เย็นยะเยือกในฤดูหนาว ท่ามกลางความมืดมิดคงมีแต่เสียงจิ้งหรีดและแมลงตัวน้อยที่คอยแทรกแซงแข่งกันโก่งเสียงสั่น
บุคคลชุดดำปิดบังใบหน้าเหลือแต่ลูกตากำลังหันซ้ายหันขวา เป้าหมายคือบ้านหลังใหญ่กินเนื้อที่หลายไร่ที่ตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้าน รองเท้าผ้าใบสีซีดกำลังถูกยกขึ้นมาปีนต้นไม้ใหญ่ริมรั้วที่กำลังแผ่กิ่งก้านสาขาไปทั่วบริเวณ มือเรียวที่สวมถุงมือสีเข้มจับแล้วห้อยโหนตามแนวกิ่ง กระโดดลงสู่ภายในรั้วอย่างเชี่ยวชาญตามสเต็ปนักกีฬายิมนาสติกเก่า และด้วยความสูงของร่างกายจึงไม่ใช่ปัญหามากนัก
' บ้านเงียบจัง ดูท่าจะยังไม่มีใครกลับมาสิท่า ดี! '
บันไดในห้องเก็บของหลังบ้านถูกยกมาวางทาบกับขอบหน้าต่างชั้นสอง ก่อนจะค่อยๆปีนขึ้นไปทีละก้าว ทีละก้าวจนถึงขอบหน้าต่างบานใหญ่
แกร๊ก! แกร๊ก!
' เชี่ย เสือกล็อคอีก '
บุคคลดังกล่าวหันรีหันขวางก่อนจะตัดสินใจหยิบกระถางดินเผาพอดีมือที่วางประดับหน้าต่างมาทุบกับกระจกตรงหน้าจนแตกกระจาย
รีบล้วงมือเข้าไปปลดกุญแจแล้วอ้ากว้าง นำตัวเองเข้าไปในห้องใหญ่ แสงจากไฟฉายกระบอกเล็กสาดส่องไปทั่วท้องก่อนจะหยุดตรงตู้เซฟขนาดใหญ่สีดำมุมห้อง
ในเวลาไม่นานตู้เซฟก็ถูกปลด นี่เธอฉลาดเกินไปหรือคนตั้งรหัสโง่กันแน่!
มือบางรีบหาของสำคัญแล้วหยิบลงในกระเป๋าเป้ใบเล็กที่ติดหลังมา ก่อนจะปิดเซฟสายตาดันไปปะทะกับบรรดากล่องเครื่องเพชรทั้งหลาย มุมปากกระตุกเหยียด ก่อนจะเปิดกล่องกำมะหยี่แล้วกวาดเอาเครื่องประดับราคาแพงเข้ากระเป๋าอีกรอบ
' หวงนักใช่ไหม! กระอักตายไปเลยสิพวกมึง! '
ร่างบางปาดเปรียวลุกขึ้นสำรวจบริเวณซ้ำอีกรอบ ก่อนจะรีบปีนออกจากหน้าต่างบานเดิม ค่อยๆไต่ลงมาตามราวบันได พอถึงพื้นก็วิ่งไปเก็บเครื่องมือไว้ที่เดิม แล้วรีบเผ่นออกจากรั้วบ้านหลังใหญ่ในเวลาต่อมา
สนามบินดอนเมือง
เวลา 7:05 นาฬิกา
ร่างบางระหงเดินออกมาจากประตูทางออกของสนามบิน มือบางรีบกดโทรศัพท์หาเพื่อนสนิทที่นัดแนะกันตั้งแต่เริ่มวางแผน
" กูรออยู่หน้าประตูตรงทางออก 1 แล้วนะ โอเคๆ "
ยืนรอไม่ถึงสิบนาทีรถยุโรปคันมินิก็เข้ามาจอดเทียบ กระจกฝั่งข้างคนขับเลื่อนลงพร้อมคนขับสาวที่สวมชุดนอนผมเพ้ายุ่งเหยิ่ง " ลูกจันทร์! ขึ้นรถ "
ปึง!
" มึงได้ของมาปะ " คนขับยิงคำถามทันทีที่เพื่อนสนิทปิดประตู
" ได้ดิ ระดับนี้แล้ว แถมยังได้ของแถมมาด้วยนะ " นิ้วมือเรียวรูดซิปกระเป๋าเป้อ้ากว้าง แสงระยิบระยับภายในทำคนข้างๆเบิกตาโต
" เชี่ยยยย มึงกวาดมาหมดตู้เลยปะเนี่ย! "
" ไม่หมด เหลือเส้นเล็กๆไว้ดูต่างหน้าสักสองสามเส้น " แค่คิดภาพตอนเจ้าของบ้านมาเห็นสภาพกรุสมบัติโดนขโมย ก็แทบจะอดสะใจไม่ไหว ความจริงอยากจะเห็นภาพกรีดร้องชักดิ้นชักงอของเจ้าของบ้านด้วยตาตัวเองมากกว่า
" มึงเช็คดีแน่นะ ว่าไม่เหลือร่องรอยสาวถึงมึงได้อะ "
" แน่นอน กูวางแผนคอยดูการเคลื่อนไหวของคนในบ้านมาสักพักละ "
" โอเค มึงว่าไง กูก็ตามนั้นแหละ แล้วมึงจะเอายังไงกับบรรดาเครื่องเพชรพวกนี้ " ที่เพื่อนถามเพราะรู้ดี ว่ามันไม่ใช่สไตล์ของเธอเลยสักนิด
" เดี๋ยวเลือกไว้แค่เส้นสำคัญๆ ที่เหลือกูจะให้เพื่อนชำแหละแล้วแบ่งขายในตลาดมืด " คนขับพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะเลี้ยวรถเข้าคอนโดสูงตระหง่านใจกลางเมือง
" กูขอไปงีบต่อนะ มีอะไรให้ช่วยก็โทรมา " หล่อนพยักหน้าตอบก่อนจะไขกุญแจห้องข้างๆแล้วเดินเข้าห้องตัวเองเพื่อพักผ่อนเช่นกัน
ผับ xx
เวลา 22.00 นาฬิกา
ไฟจากหน้ารถดับสนิทหลังจากถอยจอดเข้าช่องที่จอดรถ สองสาวจัดแจงทรงผมและเปิดประตูลงจากรถแล้วตามกันเข้าไปข้างใน พอได้โต๊ะก็สั่งเครื่องดื่มก่อนจะวางกระเป๋าแล้วเริ่มจับขาเมาท์มอย
" ทำไมมึงพามาร้านนี้ " ลูกจันทร์กวาดสายตามองรอบๆ แล้วเริ่มโยกหัวเบาๆตามจังหวะเพลง
" เขาบอกว่าเหล้าที่นี่อร่อย บาร์เทนเดอร์ก็แซ่บ! " เพื่อนสาวกรีดกรายจีบปากจีบคอเวลาเมาท์เรื่องผู้ชาย " แถมยังเป็นเจ้าของผับด้วยนะมึง " รู้ดี
" แล้ววันนี้บาร์เทนเดอร์สุดหล่อมึงมาป่ะ กูอยากเห็น "
" มาดิ แต่มาดึกหน่อย " มิน่า วันนี้ลูกค้าสาวๆดูครึกครื้นแถมเยอะเป็นพิเศษ
แก้วแล้วแก้วเล่าถูกยกจิบเรื่อยๆ แถมจังหวะดนตรีก็แปรเปลี่นเป็นชวนโยก เสียงแหลมกรี๊ดกร๊าดทำเธอหันไปตามกลุ่มสาวๆที่กรู่กันไปที่บาร์
" กรี๊ดๆๆๆ เขามาแล้วมึงงงง " เพื่อนเธอก็เป็นไปกับเขาด้วย " มึงไปไหม กูอยากดื่มฝีมือผู้ชาย "
" มึงไปเถอะ นั่งโต๊ะนี้ก็เห็น " ฉันมองเข้าไปในส่วนของบาร์ที่มีสาวๆรายล้อม มีบาร์เทนเดอร์หนุ่มหล่อสองสามคน แต่คนที่สะดุดตาที่สุดคงจะเป็นคนสูงๆนั่นสินะ
ชายหนุ่มร่างสูงสวมเชิ้ตปลดกระดุม พับแขนเสื้อขึ้นโชว์มัดกล้ามที่แขน ไหนจะกล้ามหน้าอกนั่นอีก ทำสาวๆแทบอ่อนระทวยกันเป็นแถบ
ไม่แปลกใจทำไมสาวๆถึงกรี๊ดนัก
เธอยอมรับว่าเขา...ดูดีและน่าดึงดูดใช่ย่อย
ไหนจะสายตาแพรวพราว ริมฝีปากกระจับที่เปื้อนรอยยิ้ม โปรยอ่อยเหยื่อไปทั่วนั้นอีก
ชายหนุ่มยิ้มหวาน ก่อนจะยกเชคเกอร์ขึ้นมาเขย่าแกมเล่นหูเล่นตากับบรรดาสาวๆ สายตาคมคอยไล่เรียงหาสาวในสเปคเฉพาะคืนนี้ ก่อนจะสบตากับสาวผมยาวที่นั่งอยู่ท้าวคางอยู่ขวามือ มือใหญ่รินคอกเทลสีหวานลงในแก้วทรงสวย ประดับตกแต่งด้วยเชอรี่สีสดแล้วดันให้ลูกค้าสาวตรงหน้า
พอเริ่มดึกขึ้นเรื่อยๆ แอลกอฮอล์เริ่มรบกวนสติสัมปชัญญะ จากที่นั่งบนเก้าอี้ก็เปลี่ยนเป็นยืนแล้วเริ่มขยับตามเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม สองสาวต่างยกดื่มแล้วชูแขนอวดทรวดทรงวาดลวดลายกันอย่างเต็มที่
" ขมิ้น!! กูไปเข้าห้องแป๊บนะ " ฉันกอดคอมันมากระซิบ แล้วเดินเบียดกับนักท่องราตรีพลางมองหาป้ายห้องน้ำไปด้วย พอไปถึงคนก็เยอะ! ฉันเลยเลี่ยงไปหาห้องน้ำมุมอื่นซึ่งพอดีกับพนักงานที่กำลังเดินมา
" ถ้าคนไม่เยอะ ต้องเป็นห้องน้ำด้านหลังครับ " โอเคไม่เป็นไร ขี้เกียจยืนรอด้วย
ห้องน้ำด้านหลังแทบจะไม่มีคนแถมไฟก็ไม่สว่าง ฉันรีบเดินเข้าไปกำลังจะจัดการธุระตัวเอง แต่อยู่ดีๆก็ได้ยินเสียงแปลกๆ
อย่านะ! อย่าเป็นแบบที่กูคิดนะ!
เลือดลมที่เคยตีมึนบัดนี้สว่างเปล่งปลั่งเหมือนไม่เคยดื่ม ขนอ่อนลุกชันใจสาวเต้นโครมคราม
' อื้อออออ อ่าาาา ' หื้อ!?
' เบาหน่อย เดี๋ยวคนได้ยิน ' เดี๋ยวนะ! กูว่าไม่ใช่ล่ะ!
แล้วก็ตามาด้วยเสียงกระทบกันของหน้าขาดัง ปึกๆและสียงลมหายใจที่เหนื่อยหอบ โอเค! ชัดเลย!
ไม่ชงไม่ฉี่มันแล้ว! ฉันค่อยๆย่องออกมาจากห้องน้ำ มายื่นอยู่หน้ากระจก หยิบลิปสติกขึ้นมาทาระหว่างรอเสียงห้องน้ำด้านในสุดสงบ และตามมาด้วยเสียงเปิดประตู
ฉันทำเป็นไม่สนใจแต่สายตาก็แอบมองผู้หญิงที่เดินผ่านกระจกออกไป อื้อหื้อ! เหงื่อโชกเชียว สักพักก็มีผู้ชายเดินตามออกมา แต่สายดันไปสบตากับร่างสูงผ่านกระจกใสตรงหน้า
ผู้ชายคนนั้น!
คนที่เป็นบาร์เทนเดอร์!
••••••••••••••••••••
พาคุณดินมาแล้วนะคะทุกท่าน อิอิ
สองอาทิตย์ต่อมาสุริยันแสงสุดท้ายกำลังจะลับขอบฟ้า บริเวณโดยรอบของมหาวิทยาลัยถูกระบายด้วยสีส้มเข้มจากท้องฟ้าจนเต็มพื้นที่ รวมถึงนักศึกษากลุ่มสุดท้ายของตึกใหญ่ที่ทยอยกันเดินออกมาจากลิฟต์ คาบสุดท้ายถือว่าโหดหฤหรรษเนื่องด้วยอาจารย์ผู้สอนเป็นถึง ดร.จึงใช้เวลาในการสอนทุกนาทีอย่างมีค่า " มึงทำอะไรขมิ้น " เพื่อนสาวคนสนิทถามขึ้นขณะเดินตามกันมา ปฏิกิริยาเพื่อนดูแปลกๆเหมือนกำลังหลบอะไรสักอย่าง คอยหวาดระแวงทุกครั้งทั้งแต่เดินออกมาจากลิฟต์ " กูเปล่า " แต่ก็อาศัยฝูงชนกลุ่มใหญ่บดบังความสูงแค่ 155 ซม.ของตน จะให้บอกมันยังไงดีล่ะ? ไม่รู้จะเริ่มเล่าจากตรงไหนด้วยซ้ำ แค่หลบหน้ามาได้สองอาทิย์นี่ก็บุญหัวสุดๆแล้ว บ้านก็ไม่ได้กลับกลัวเขาไปดัก ต้องคอยโกหกพ่อแม่ว่าต้องเร่งทำรายงานก่อนสอบเลยต้องหอบสังขารมานอนคอนโด " กูไม่เชื่อ " แน่ล่ะ! คำพูดกับการกระทำโคตรจะสวนทาง ปากบอกเปล่าแต่ดูมันทำซิพอพ้นตัวตึกได้ หล่อนรีบจูงมือเพื่อนสนิทเดินสับขาไปยังลานจอดรถแล้วรีบปิดประตู นั่งเงียบทำใจอยู่นานกว่าจะอ้าปาก" มึง..." เอาวะ! ไหนๆก็ไหนๆ ลูกจันทร์ไม่ใช่คนอื่นคนไกลสักหน่อย " คือ...กูกับผู้กองอะ..." ฮืออออ จะเล่าก็กระดากป
ปากกระจับกดทับปกปิดริมฝีปากที่เผยอเผลอตอบ บดเบียดเอวหนาผ่านเนื้อผ้าบางๆ ของกันและกัน" อืมมม " ชายหนุ่มส่งความกำหนัดส่งต่อคนตัวเล็ก แลบลิ้นร้อนเลียตามเนื้อปากนุ่มภายนอกก่อนจะค่อยๆ แหย่ปลายนุ่มเข้าโพรงปากเธอช้าๆ แทรกได้ก็กวาดต้อน เกี่ยวรั้งลิ้นน้อยจนสมองเธอมึนเบลอ พัลวันดึงดูดจนร่างบางอ่อนเปลี้ยเพลียแรง ช่วงล่างก็ถูกรุกรานด้วยเอวหนาอ่า...เธอรับมือไม่ทัน" ผู้กอง..."" อืมม " ตอบส่งๆ ด้วยเสียงครวญคราง ไม่ยอมละเนื้อหวานในปากแม้แต่น้อยจูบจนพอใจก็ไล่พรมลมร้อนลงมาตามซอกคอขาว เลียหยอกจนเธอย่นคอหนีความซ่าน คนตัวโตคล่อมทับแทบไม่เห็นคนใต้ร่าง แต่มือใหญ่อีกข้างยังทำงานได้ปกติสอดเข้าใต้เสื้อยืดสีเข้มอ้อมแผ่นหลังบางแล้วปลดตะขอก่อนจะเลื้อยมืออุ่นๆ มาข้างหน้ากอบกุมเต้าเล็กพอดีมือ ปัดระรัวที่ยอดเล็กสีชมพูอ่อน" อื้อออ " คนถูกกระทำซ่านเสียว แอ่นรับความหรรษาที่เขาเสิร์ฟ ก่อนจะค่อยๆ ถอดเสื้อยืดแสนเกะกะทิ้งตามด้วยชั้นในตัวจิ๋วเมื่อลมเย็นๆ ปะทะผิวกายจนขนลุกซู่ หล่อนจึงยกมือขึ้นมาปิดหน้าอกตัวเอง จะว่าอายก็ได้ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยแก้ผ้าโชว์นมต่อหน้าใครเลยนะ" ปิดทำไมผมอยากเห็น " อยากจับ อยากเลียช่อเล็กๆ น
ตั้งแต่วันนั้นมานางก็เทวเข้าเทวออกบ้านฉันเป็นว่าเล่น ปกติวันจันทร์ถึงศุกร์ฉันจะไปนอนคอนโดเพราะใกล้มหาวิทยาลัย อีกอย่างคือมันเมาสะดวก เสาร์อาทิตย์ถึงค่อยกลับมาอยู่ในอ้อมอกพ่อแม่ร่างขาวนวลสวมแต่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเดินออกมาจากห้องน้ำ พอดีกับเสียงโทรเข้าที่วางอยู่ปลายเตียงนอน มือขาวซีดหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูขึ้นมาดูจอแล้วจึงกดรับ(อาบน้ำเสร็จยัง เย็นนี้มึงมากินข้าวที่ห้องกูนะ) พอดีเลย กำลังจะไปขอข้าวห้องมันกิน ลูกจันทร์เป็นคนที่ทำอาหารอร่อยมาก ตั้งแต่ออกจากบ้านมาใช้ชีวิตข้างนอกก็มีนางนี่แหละเป็นบ่อประทังชีวิต" ไปดิ เดี๋ยวกูแต่งตัวเสร็จแล้วไปหา กูซื้อกับข้าวมาด้วย "(เคๆ)หลังสายถูกตัวหล่อนก็โยนโทรศัพท์ทิ้งลงบนเตียงนุ่มก่อนจะเดินหันหลังปลดผ้าขนหนูทิ้งแล้วใส่เสื้อผ้าแค่ไปกินข้าวห้องเพื่อนก็แต่งตัวชิวๆ นิ้วมือเรียวดึงเสื้อยืดสีดำพอดีตัวกับกางเกงขาสั้นสบายๆ แล้วหอบหิ้วถุงกับข้าวไปเคาะห้องเพื่อนสนิทข้างๆ" มึง "" ว่า "" คุณดินชวนไปกินข้าวที่ห้อง มึงไปกับกูนะ " มือที่กำลังหยิบจานชะงัก เดี๋ยวนะ! มันไปสนิทกับผู้ชายห้องตรงข้ามตอนไหน ทำไมกูไม่รู้เรื่อง" ทำไมเขาชวนมึงไปกินข้าวที่ห้อง มีอะไรที่กู
" อ้าว จริงหรือเนี่ย ฮ่าๆๆ ที่แท้ก็คนกันเองนี่เอง " บนโต๊ะอาหารมีแต่เสียงหัวเราะของพ่อกับแม่ และเสียงของอีตาตำรวจนั่นที่เข้ากับผู้ใหญ่ได้เป็นอย่างดี ส่วนฉันกลายเป็นตัวประกอบมื้ออาหารเย็นไปโดยปริยาย อีกนิดคือต้องยกจานข้าวตัวเองแล้วไปนั่งพับเพียบกินในครัวเหงาๆแล้วอ่ะ " ครับ ไว้วันหลังไปคุณพ่อกับคุณแม่ไปทานข้าวที่บ้านผมนะครับ พ่อผม ต้องตกใจแน่ๆเลย " " ฮ่าๆๆ เอาสิๆ ไปเซอร์ไพรส์อดีตตำรวจเก่ากัน ไม่ได้เจอกันตั้งหลายสิบปี อยากเห็นหน้าตอนมันตกใจเหมือนกัน ฮ่าๆๆ " มื้อนี้ดูพ่อจะดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ก็แหงล่ะ จู่ๆเขาก็บอกว่าเป็นตำรวจเพราะตามรอยพ่อ เล่าไปเล่ามา พ่อเขากับพ่อฉันกลายเป็นเพื่อนสมัย ม.ปลายด้วยกันเฉย แต่ต้องมาห่างกันเพราะต่างคนต่างแยกย้ายเรียนตามสายที่ตัวเองถนัดและสนใจ บ้างก็แต่งงานมีครอบครัว จึงไม่ได้นัดเจอกันเหมือนช่วงที่เรียนจบกันมาใหม่ๆ" ผู้กองชอบกินต้มแซ่บเหรอคะ เดี๋ยวแม่ไปตักมาให้เพิ่มนะ " " ครับ กลมกล่อมและแซ่บมาก ผมไปทานข้างนอกยังไม่อร่อยเท่าคุณแม่ทำ " คนตัวเล็กได้แต่แอบเบะปากหมั่นไส้ คนอะไรประจบประแจงผู้ใหญ่เก่ง ส่วนแม่ครัวได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มหน้าบานไปอีก เรื่องกับข้าวกับปล
" ค่ะแม่ หนูจะรีบไป แม่กับพ่อเช็กอินก่อนได้เลยนะคะ นั่งรอในเกตได้เลยค่า รับรองไม่เกินครึ่งชั่วโมงได้เห็นคนสวยคนนี้แน่นวล บายจุ๊บ " ฉันรีบกดวางสายแล้วยัดเสื้อผ้าที่เตรียมไว้ใส่กระเป๋าเดินทางแบบลวกๆฮืออออ~ไม่น่าดื่มเยอะจนตื่นสายเลยอ่ะร่างเล็กบอบบางหิ้วกระเป๋าใบโตเดินลงบันไดอย่างทุลักทุเล เปิดท้ายรถได้ก็โยนกระเป๋าลากใบใหญ่ลงไปแล้วรีบปิดดังปึง! สับขาสั้นๆ ขึ้นรถ จังหวะที่กำลังจะออกจากบ้านสายตาก็ดันเห็นรถยุโรปคันคุ้นตาจอดอยู่ไม่ไกล" แม่ง! จะตามกูไปถึงไหนวะ! " พูดดีก็แล้ว ไล่ก็แล้ว ทำไมผู้ชายหน้าด้านคนนี้ถึงฟังคำคนไม่รู้เรื่องเอาไงดี...เอาไงดี!?เธอกัดปากอย่างใช้ความคิด เรียวนิ้วก็คอยเคาะพวงมาลัยไปด้วย สุดท้ายหลอดไฟทิพย์บนหัวก็สว่างดัง ปิ๊ง!ลูกจันทร์เพื่อนรักฉันโทรขอความช่วยเหลือจากเพื่อนสนิ๊ทสนิทเพียงคนเดียว คนอื่นไม่ค่อยสนิทเท่าไหร่ แต่มันดันบินขึ้นเชียงใหม่ก่อนแล้ว แต่ไม่เป็นไร...นางฟ้าทูนหัวยังส่งคนมาช่วยคนสวยได้ทันเวลาเธอกดเบอร์โทรออกตามไลน์ที่เพื่อนส่งมาให้ไม่นานปลายสายก็รับ" สวัสดีครับ " อุ้ย เสียงหล่อน่าฟัง" สวัสดีค่ะ ใช่เบอร์ผู้กองกรกันต์หรือเปล่าคะ ฉันชื่อขมิ้น.... "" อ่
รถหรูยี่ห้อดังถอยจอดเทียบที่ชั้นวีไอพี เรียวขาแกร่งก้าวออกจากรถ เสยผมเล็กน้อยแอบปลดกระดุมที่หน้าอกลงมาอีกเม็ดเพื่อเช็คเรตติ้ง ก่อนจะมองทางเข้าประตูบานเดิมที่เคยใช้เมื่อหลายปีก่อน เสียงเพลงข้างในยังคงอึกทึกครึกครื้นไม่เปลี่ยน บรรดานักดื่มยังคงโยกย้ายกันอย่างสนุกสนานปลดปล่อยอารมณ์กันอย่างเต็มที่เขามองไปรอบๆ ก่อนจะเดินขึ้นบันไดมุ่งหน้าขึ้นชั้นสองท่ามกลางสายตาสาวๆ ที่คอยสะกิดกัน บ้างก็ยิ้มอ่อยสะบัดผมเชื้อเชิญ" คุณดินเชิญครับ คุณอคิณและคุณลมรออยู่ข้างในแล้วครับ " มือขวาพี่ชายกล่าวต้อนรับแล้วเปิดประตูเชิญเข้าข้างใน" ไงมึง " พี่ชายอย่างสายลมพยักหน้าทักทาย มือยังคนถือแก้วบรั่นดีสีอำพัน ถัดไปเป็นเพื่อนสนิทที่นั่งไขว่ห้างกอดอกทักทายคนมาใหม่ปฐพีทรุดตัวนั่งโซฟาฝั่งตรงข้ามตอบรับชายทั้งสองแล้วยกแก้วของตัวเองขึ้นจิบ" เมียมึงล่ะ "" ดูลูกอยู่บ้านแม่ไง " เมียมึงก็อยู่ด้วยปะ ไม่งั้นจะมีโอกาสมานั่งผ่อนคลายแบบนี้เหรอ" แสดงว่าคืนนี้มีแต่พวกเรา... " สายลมวางแก้วแล้วทำหน้าเจ้าเล่ห์" อยากลองเชิงพนักงานใหม่หน่อยไหม กูพึ่งรับมาเมื่ออาทิตย์ก่อน ชื่อน้องอมยิ้ม น่ารักแถมเอาใจเก่ง ลูกค้าติดตรึม "" กูขอบาย
ความคิดเห็น