ข้าวหอม เผลอเมาแล้วอ้อน ธีร์ พี่ชายข้างบ้านที่แอบรักมาตลอด จนเขาห้ามตัวเองไม่ไหวเผลอก้าวข้ามเส้น พอตื่นมาเขาบอกจะรับผิดชอบ แต่ยังไม่ทันตอบตกลงก็ดันได้ยินเขาพูดกับดาวมหาลัยว่า 'เธอก็เป็นแค่น้องสาวข้างบ้าน'
View Moreใครจะไปคิดว่าการรับ-ส่งเด็กข้างบ้าน จะกลายเป็นภารกิจที่ทำให้หัวใจของธีร์วุ่นวายที่สุดในชีวิต
ธีร์ไม่ใช่คนตื่นเต้นง่าย โดยเฉพาะเรื่องไปมหาวิทยาลัย... ทั้งที่แค่จะไปมหา’ ลัย... ก็แค่เปิดเทอมวันแรกปีสุดท้ายของนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ แต่เช้านี้มันต่างออกไป
เพราะเขาจะได้เจอ ‘ข้าวหอม’ ทุกวัน
...และนั่นมันเป็นเรื่องใหญ่กว่าที่เขาคิด
แม้จะรู้จักกันมาตั้งแต่จำความได้ โตมาด้วยกันในซอยแคบๆที่เด็กวิ่งไล่จับกันแทบทุกเย็น แต่ตอนนี้ ‘เด็กข้างบ้าน’ คนนั้นไม่ใช่เด็กอีกแล้ว
เธอใส่ชุดนักศึกษา...
และเธอก็น่ารักจนใจเขาโคตรจะไม่ปลอดภัย
เขารีบคว้ากระเป๋าแล้วพุ่งตัวลงบันไดด้วยความเร็ว ใจมันรีบไปหาคนที่อยู่บ้านข้างๆ แต่เท้าเกือบสะดุดขั้นบันไดเพราะเสียงบางอย่าง เสียงที่ดังมาจากครัว
เสียงพูด เสียงหัวเราะ... ที่หวานจนชวนเลี่ยน
ธีร์ชะงักฝีเท้าเบาลงโดยอัตโนมัติ ก่อนที่ดวงตาจะหันไปเห็นภาพประจำบ้านที่ไม่มีวันชิน
แมนกับหมวย พ่อกับแม่ของเขา ตัวต้นแบบของคู่แต่งงานที่โลกไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง
พ่อยังคงรัดเอวแม่ไว้แน่นจากด้านหลังในขณะที่แม่กำลังทอดไข่เจียวอยู่หน้ากระทะ กลิ่นไข่เจียวอาจจะหอม... ถ้าไม่ติดว่ามันมากับกลิ่นน้ำตาลความรักแบบเลี่ยนๆ ที่ไม่รู้จะเทใส่แค่ไหนถึงจะพอ
พ่อไม่แค่กอดเอว ยังเอาหน้าซุกคอแม่อย่างไม่อายฟ้าดิน และเมื่อกระซิบอะไรบางอย่างจบ ก็ดันเอวกระแทกก้นแม่เหมือนเป็นการเน้นประโยค
"เมียจ๋า~ วันนี้ก็น่ากินอีกแล้วนะ" น้ำเสียงพ่อหวานขนาดที่คนฟังอยากอุดหู
"บ้า! แมน เดี๋ยวลูกมาเห็น!" แม่ร้องว่าเบาๆ แต่ก็ไม่ได้ขยับหนี แถมยังอมยิ้มอีกต่างหาก
"เห็นแล้วนี่ไง... แก่แล้วยังจะมาหวานกันอีก" ธีร์พึมพำพลางกลอกตา เขายกมือกุมขมับเหมือนอยากลบภาพเบื้องหน้าออกจากหัว
ไม่ใช่ไม่เคยเห็น... แต่ไม่เคยชิน
แมนผละหน้าออกจากซอกคอเมียแล้วหันมาทำตากรุ้มกริ่มให้ลูกชาย
"แล้วจะให้พ่อหยุดรักแม่เหรอ? ฝันไปเถอะ ไอ้ธีร์!"
ธีร์ถอนหายใจหนักๆ อีกรอบ รอบที่เท่าไหร่ของชีวิตก็ไม่รู้
"ไม่ต้องโชว์ขนาดนี้ทุกเช้าก็ได้มั้ง?"
แต่คนเป็นพ่อไม่สะทกสะท้าน ยังหัวเราะคิกคักเหมือนวัยรุ่นวัยแรกคบกันใหม่ๆ ส่วนแม่ก็ยังทอดไข่ไป หัวเราะไป พูดด้วยน้ำเสียงเอ็นดู
มันยังเช้าเกินไปสำหรับภาพหวานเลี่ยนของพ่อแม่ที่แต่งงานกันมาเป็นชาติ แต่ยังทำตัวเหมือนแฟนกันวันแรก
ทุกเช้า... พ่อของเขาจะทำหน้าที่สามีดีเด่นแบบไม่ขาดตกบกพร่อง กอดเมียแน่นตั้งแต่เธอหยิบตะหลิวยันปิดเตา
“จะไปส่งข้าวหอมเหรอลูก” เสียงแม่ถามโดยไม่หันกลับมา เพราะยังง่วนกับไข่เจียวในกระทะ
“อือฮึ” ธีร์ตอบสั้นๆ พยายามทำเสียงให้เรียบเฉยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งที่หัวใจมันเต้นแรงเมื่อนึกถึงคนที่รออยุ่
“ขับดีๆนะลูก น้องเพิ่งเข้ามหา’ ลัย อย่าเพิ่งแกล้งน้องล่ะ เดี๋ยวเขากลัว”
พ่อหันมาพูดเสริม “ใช่ อย่าทำให้เขาร้องไห้นะ เดี๋ยวพ่อเขาไม่ให้ไปส่งอีก แล้วจะอดเจอน้องทุกวัน”
ธีร์ยกยิ้มมุมปากเล็กๆ “แค่ไปรับไปส่ง ไม่ได้อะไรขนาดนั้นหรอกพ่อ”
"ไม่ได้อะไรเหรอ... แล้วเมื่อคืนเดินวนในห้องจนพื้นจะสึกนี่เพราะอะไรล่ะวะ"
พ่อหัวเราะในลำคออย่างรู้ทันแล้วหันกลับไปกอดแม่ต่อ ส่วนธีร์เดินออกจากบ้านเร็วเท่าที่ใจจะให้ทำได้
เขาไม่ได้ปฏิเสธ... ว่าตัวเอง ‘ไม่ได้อะไร’
เพราะจริงๆแล้ว มัน... โคตรจะมีอะไรเลย
ทันทีที่ประตูหน้าบ้านปิดลงหลังจากที่ธีร์เดินออกไป แมนก็ละสายตาจากลูกชาย หันกลับมามองเมียสุดที่รักด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเดินเข้าไปโอบเอวของหมวยจากด้านหลังอย่างเคยตัว แล้วก้มหน้าซุกลงที่ต้นคอของเธออย่างออดอ้อน
“ทีนี้ก็เหลือเราสองคนแล้วนะเมียจ๋า” เสียงทุ้มกระซิบแนบชิดจนลมหายใจร้อนๆ ทำเอาหมวยขนลุกวาบ
เธอสะดุ้งเล็กน้อยตอนที่รู้สึกถึงริมฝีปากเขาที่แตะลงบนแก้ม แล้วก็ถอนหายใจออกมาเงียบๆ
“ไม่ช่วยก็อย่ามาวุ่น ช่วยหลีกไปหน่อย จะจัดโต๊ะ” เธอพูดขณะวางช้อนลงกับจาน
“ช่วยก็ได้~ แต่ขอค่าจ้างเป็นหอมแก้มก่อนดีไหม” แมนยังคงพูดยียวน พลางกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นอีก จมูกไล้อย่างเย้าแหย่ไปตามแก้มเธออย่างเอาใจ
“ค่าจ้างบ้าอะไรเล่า!” หมวยแกล้งตีแขนของเขา แต่ก็ยังอมยิ้มอยู่ไม่หยุด พยายามดันตัวออกจากอ้อมแขนแต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะแมนยังคงรัดแน่นไม่ปล่อย
“เมื่อก่อนยังอ้อนให้พ่อกอดอยู่เลย ใจร้ายจังเลยนะเมียจ๋า~”
“ไอ้แมน! อย่ามาเล่นนะ เดี๋ยวแม่ฟาดจริงๆ!” หมวยหยิบตะหลิวขึ้นขู่ ทำเอาแมนหัวเราะร่าอย่างชอบใจ
เขายอมคลายอ้อมแขนออกบ้าง แต่ก่อนจะปล่อยจริงๆ ก็ยังขโมยจุ๊บแก้มอีกฟอดใหญ่ จนหมวยได้แต่ส่ายหน้าให้ความขี้อ้อนของสามี
เธอหันกลับมาจัดโต๊ะต่อ พลางพูดขึ้นอย่างครุ่นคิด “พ่อว่าเราควรช่วยลูกหน่อยดีไหม?”
“ช่วยอะไร?” แมนขมวดคิ้ว มองหน้าเมียอย่างสงสัย
ความรู้สึกกังวลเริ่มก่อตัวขึ้น เขาตัดสินใจเปิดประตูรถ ก้าวลงมาเดินตรงไปที่บ้านของฟ้าใสพอเปิดประตูเข้าไป กลิ่นแอลกอฮอล์ตีขึ้นจมูกทันที บรรยากาศภายในบ้านพักเต็มไปด้วยความวุ่นวาย บ้างเมาหลับแน่นิ่งอยู่บนพื้น บ้างโวยวายร้องเพลงเสียงแปร่ง บ้างหัวเราะกันอย่างสุดเหวี่ยง ไม่ต่างจากสนามรบที่เต็มไปด้วยเด็กปีหนึ่งที่สติหลุดเขาก้าวเข้ามาเพียงไม่กี่ก้าว ทุกอย่างกลับหยุดชะงักราวกับกดปุ่มปิดเสียง ดวงตาหลายคู่หันมาจับจ้องเขาแทบจะพร้อมกัน สีหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยความตกตะลึง บางคนถึงกับชะงักมือที่กำลังยกแก้วขึ้นดื่มเฮ้ย! นั่นมันพี่ธีร์!เสียงกระซิบดังขึ้นจากหลายมุม บางคนถึงกับถลึงตาใส่เพื่อน กระซิบกระซาบกันว่า “พี่เขามาได้ไงอ่ะ!?” บ้างก็สะกิดกันด้วยความตื่นเต้นแบบคุมไม่อยู่ไม่แปลก… ใครจะคิดว่าอยู่ๆจะมีพี่วิศวะสุดฮ็อต เดือนคณะปีสี่ที่สาวๆทั้งมอรู้จักในฐานะหนุ่มหล่อเนื้อหอมโผล่มาที่นี่ เพราะข้าวหอมไม่ได้บอกเพื่อนๆว่าพี่ธีร์มาส่งเธอแถมในชุดเสื้อยืดสีเข้มกับกางเกงขาสั้นลุยๆยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของเขาดูแตกต่างจากปกติจนทำให้หลายคนมองกันตาค้างแต่เขาไม่สนใจ กวาดสายตาหาคนที่เขาตามหา และแล้วสายตาก็ไปหยุดที่ร
"ใช่ค่ะ เป็นเตียงเดี่ยวสวีทริมทะเลนะคะ เหมาะกับคู่รักมากเลยค่ะ วิวสวยมากค่ะ" พนักงานสาวยิ้มหวานขณะอธิบายข้าวหอมชะงัก หันไปมองพี่ธีร์ที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ข้างๆ สีหน้าของเขาดูเรียบนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่ข้างในของธีร์กลับ โคตรไม่ปกติเขาไม่คิดว่าเรื่องจะออกมาเป็นแบบนี้ ไม่คิดว่าเขาจะต้องแชร์เตียงเดียวกับเธอจริงๆเวรเอ๊ย… แค่คิดหัวใจก็เต้นแรงเหมือนระเบิดออกมาแล้วถึงภายนอกจะดูนิ่ง แต่ความจริงข้างในเขาปั่นป่วนสุดๆ ธีร์ต้องใช้แรงทั้งหมดที่มีกดความรู้สึกของตัวเองลงไปให้ลึกที่สุด ไม่ให้แสดงพิรุธออกมาแม้แต่น้อย"เอ่อ…" ข้าวหอมอ้าปากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่กลับกลืนคำลงคอ"ทำไมเหรอ? หรือว่าตัวเล็กกลัวพี่?" ธีร์พูดเสียงเรียบ พยายามทำตัวให้ดูปกติที่สุด ทั้งที่ใจอยากเผ่นไปสงบสติอารมณ์ข้างนอกสักสิบนาที"พี่ไม่มีปัญหาอะไรนะ" โกหกชัดๆปัญหามีแน่! ให้นอนเตียงเดียวกับคนที่ตัวเองพยายามหักห้ามใจมาตลอด มันจะไม่เป็นปัญหาได้ยังไง!ข้าวหอมเม้มปากแน่น ดูเหมือนกำลังชั่งใจอะไรบางอย่าง"ม..ไม่ได้กลัวนะ!!…แต่มันเป็นเตียงเดียวนะพี่ธีร์" เธอพูดจากตะกุกตะกักเลิ่กลั่กอย่างเห็นได้ชัด"ก็ใช่" เขาตอบเรียบๆ"แ
ข้าวหอมเบิกตากว้าง หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกมานอกอก พอรู้ตัวว่าเผลอจ้องนานเกินไป เธอก็รีบสะบัดหน้าหนีแทบไม่ทันแต่ไม่ทันแล้ว ธีร์เห็นหมดแล้วริมฝีปากเขายกขึ้นน้อยๆอย่างนึกสนุก“จ้องขนาดนี้พี่ต้องเก็บค่าเข้าชมแล้วมั้ง” เสียงทุ้มๆที่มีแววกลั้วขำดังขึ้นข้างหูข้าวหอมสะดุ้ง ก่อนจะหันไปแหวใส่ทั้งที่หน้ายังร้อนฉ่า “ใครจ้องกันเล่า!?”“อ๋อเหรอ?” ธีร์เลิกคิ้วสูง เท้าแขนกับขอบประตูอย่างสบายๆ เหมือนไม่รู้ตัวเลยว่าสภาพตัวเองตอนนี้มันชวนให้คนมองขนาดไหนข้าวหอมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะลุกเป็นไฟ เธอเลยรีบหมุนตัวหันหลังให้ ก่อนจะโบกมือไล่เขาอย่างลุกลี้ลุกลน “ไปใส่เสื้อผ้าก่อนเลยพี่ธีร์! ข้าวมีเรื่องจะคุยด้วย”เสียงหัวเราะขำดังขึ้นจากด้านหลัง“ก็ได้ๆ”เธอได้ยินเสียงฝีเท้าเขาเดินกลับเข้าไปในห้อง ก่อนที่ประตูจะถูกปิดลงอีกครั้งข้าวหอมเม้มริมฝีปากแน่น พยายามสลัดภาพเมื่อครู่ให้ออกไปจากหัว แต่มันก็ยากเหลือเกินภาพหยดน้ำที่เกาะอยู่ตามแผ่นอกแกร่ง ภาพกล้ามท้องแน่นๆที่ดูแข็งแรง และสำคัญที่สุด ภาพรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขาตอนที่แซวเธอเมื่อกี้!นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย!?เธอไม่ควรจะมาหวั่นไหวกับพี่ธีร์แบบนี้สิ!แต่พอคิด
“พี่ธีร์! จะพาข้าวหอมไปไหนอ่ะ!?”ข้าวหอมพยายามจะดึงมือออก ถึงแม้จะรู้ว่ามันไม่เป็นผลก็ตาม “พี่ธีร์! ทำอะไรของพี่เนี่ย!”เขาไม่ได้ตอบในทันที แต่หัวเราะและยิ้มให้เธอ“ก็แค่… ไม่อยากให้ตัวเล็กเสียเวลาคุยกับคนที่เธอไม่สนใจ”ข้าวหอมชะงักไปครู่หนึ่ง หัวใจเธอเต้นแรงขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัว คำพูดของธีร์…หมายความว่ายังไงกันแน่? เขารู้ได้ยังไงว่าเธอไม่สนใจ? หรือเขากำลังแค่พูดไปเรื่อยเปื่อยกันแน่?เธอเม้มปากแน่นก่อนจะตัดสินใจลองเชิงอีกฝ่าย “พี่ธีร์จะรู้ได้ไงว่าข้าวหอมสนใจหรือไม่สนใจใคร?”ธีร์มองเธอนิ่งๆก่อนจะกระตุกยิ้มเล็กน้อย แล้วจูงมือเธอออกจากโรงอาหารไปโดยไม่พูดอะไรข้าวหอมเริ่มหงุดหงิดจริงๆแล้ว ทำไมถึงเอาแต่ทำแบบนี้นะ? ถามอะไรก็ไม่ตอบ!“พี่ธีร์ เดี๋ยวสิ จะพาข้าวหอมไปไหน?”“ไปหาอะไรกิน” เขาตอบเรียบๆในขณะที่จูงมือเธอก้าวเดินต่อไปโดยไม่สนใจเสียงท้วงของเธอ“แต่ข้าวหอมยังไม่ได้ตกลงเลยนะ!”เธอดึงมือออกอีกครั้ง แต่ธีร์ไม่ยอมปล่อย มิหนำซ้ำเขายังจับแน่นขึ้นไปอีก“ทำไม? ตัวเล็กกลัวมีข่าวลือกับพี่แล้วไม่มีคนมาจีบหรือไง?” น้ำเสียงเขาเจือแววเย้าแหย่ข้าวหอมถึงกับตาโตก่อนจะรีบเถียงกลับ “เปล่าสักหน่อย!”"แต่
เขายังคงไม่ขยับตัว ข้าวหอมเลยเอียงคอน้อยๆ ก่อนจะทำเสียงอ้อน “นะ~ นิดเดียวเอง ข้าวหอมอยากให้พี่ธีร์กินของอร่อยด้วยกัน”เสียงใสๆของเธอแผ่วลงคล้ายอ้อนวอน ตากลมกะพริบมองเขาเหมือนลูกแมวที่อยากให้เจ้าของสนใจธีร์ถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะโน้มตัวไปงับขนมจากช้อนเธอ ท่ามกลางรอยยิ้มพอใจของข้าวหอม“เป็นไง อร่อยไหม?”เขาเคี้ยวไปช้าๆแล้วกลืนลงคอแล้วพยักหน้ารับ ข้าวหอมยิ้มกว้างอย่างภูมิใจอารมณ์ของธีร์ค่อยๆคลายลงทีละนิด จนสุดท้ายเขาก็เลิกตีหน้านิ่ง ข้าวหอมเองก็รู้สึกได้ เธอจึงวางช้อนลงแล้วเอามือเท้าคาง มองเขาด้วยสายตาจริงจัง“พี่ธีร์... อย่าเป็นแบบนี้เลยนะ ข้าวหอมไม่ชอบเลย” เธอเอ่ยเสียงอ่อน แต่แฝงไปด้วยความรู้สึกที่จริงใจ “ข้าวหอมไม่ได้ตั้งใจพูดแบบนั้นจริงๆนะ พี่ธีร์อย่าโกรธข้าวเลย”ธีร์มองเธออยู่นาน ก่อนจะยกมือขึ้นลูบหัวเธออย่างแผ่วเบา“พี่ไม่ได้โกรธ” เขาพูดช้าๆ สายตายังคงอ่อนโยน “แล้วก็ขอโทษที่วุ่นวายกับเรามากเกินไป ถ้าข้าวหอมไม่ชอบ... พี่จะไม่วุ่นวายอีก”ข้าวหอมชะงัก ใจเธอโหวงแปลกๆอย่างบอกไม่ถูกไม่วุ่นวายอีกเหรอ... หมายถึง จะไม่มายุ่งกับเธอเท่าเดิมแล้วใช่ไหม?เธอเม้มปากแน่น ก่อนจะรีบพู
ธีร์ชะงักไปเล็กน้อย มือที่จับพวงมาลัยเกร็งขึ้น แต่สุดท้ายเขาก็แค่ถอนหายใจ“เปล่าหรอก วันนี้พี่แค่เหนื่อย”ข้าวหอมกัดริมฝีปาก พี่ธีร์คงต้องโกรธเธอแน่ๆ แถมโกรธมากด้วย ไม่งั้นจะเป็นแบบนี้ทำไมกัน ปกติเขาไม่เคยเมินเธอเลย ไม่เคยปล่อยให้เธอเป็นฝ่ายชวนคุยอยู่คนเดียวแต่ธีร์ไม่ได้โกรธ… เขาแค่พยายามห้ามตัวเองตั้งแต่เช้าแล้วที่เขาพยายามทำตัวให้เป็นปกติ แต่พอเห็นหน้าเธอ ได้ยินเสียงเธอ เขาก็อยากแหย่ อยากพูดจากวนประสาท อยากให้เธอทำหน้ามุ่ยใส่เหมือนทุกวัน แต่เขาก็กลัว… กลัวว่าเธอจะรำคาญเขาจริงๆ แบบที่พูดเมื่อเช้าคำพูดผลักไสนั้นยังคงดังก้องอยู่ในหัว แม้เขาจะพยายามไล่มันออกไปแล้วก็ตามแค่คิดถึงประโยคนั้น ใจก็เผลอหวิวแปลกๆ ธีร์ไม่ได้โกรธเธอจริงจัง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกดีนัก มันคล้ายกับว่าถูกผลักไสให้ห่างออกไปทีละนิด ในเมื่อเขาอยู่ใกล้เธอมาตลอด แต่เธอกลับบอกว่าไม่ต้องการมันอีกแล้ว แล้วเขาควรรู้สึกยังไง?ข้าวหอมอยากให้เขากลับมาเป็นพี่ธีร์คนเดิม คนที่กวนเธอจนเธอเผลอหัวเราะ คนที่มองเธอด้วยแววตาอบอุ่น แม้จะขี้แกล้งไปหน่อย แต่ก็ไม่เคยทำให้เธอรู้สึกห่างเหินและเธอจะทำให้เขากลับมาให้ได้…เธออยากจะง้อเขา แต่จะให้
Comments