Share

5

Author: RainyStarSea
last update Last Updated: 2025-08-18 00:07:46

[ติ๊ง! มิชชันใหม่เปิดใช้งาน: ทำให้ฝ่าบาทหัวเราะครั้งแรก!]

[รางวัล: +10 คะแนนความอบอุ่น / ปลดล็อกฉากหลังวัยเยาว์ของพระเอก]

เช้าวันรุ่งขึ้นในตำหนัก หลินซินเยว่ยังไม่หายจากอาการมึนงงจากภารกิจเมื่อวาน เธอนั่งพิงหน้าต่างมองสวนหิมะโปรยบาง ๆ ด้านนอก พร้อมชาร้อนในมือ

“...นายแน่ใจนะว่าเขาหัวเราะเป็น?”

[ระบบ: ตามบันทึกในคลังจักรวรรดิ ไม่พบข้อมูลว่าฝ่าบาทเคยหัวเราะ แม้ในวัยเด็ก]

[เพิ่มเติม: ขันทีคนหนึ่งเคยลองเล่นกลลิงควงดาบหน้าตำหนัก ผลคือถูกส่งไปชายแดนทันที]

“...พระเจ้าช่วยกล้วยทอด”

หลินซินฟุบหน้าลงบนโต๊ะ ลูบแก้มตัวเองอย่างปลง ๆ ก่อนจะลุกขึ้นพลางพูดเสียงฮึดฮัด

“ก็ได้! ถ้าเขาจะไม่เคยหัวเราะกับใครเลย ฉันจะเป็นคนแรกของเขาเอง!” ประโยคที่ออกมาจากปากของหลินซินเยว่นี้ ทำเอาระบบอย่างเสี่ยวหลิงถึงกับหลุดเสียงขลุกขลักคล้ายคนสำลักอะไรบางอย่าง

…….

ซินซินให้ระบบช่วยสร้างรายการ “มุกตลกยุคใหม่” พร้อมภาพประกอบแบบ hologram (แน่นอนว่าเธอเป็นคนเดียวที่มองเห็น) เธอฝึกมุกตลก 3 มิติ, เลียนเสียงสัตว์, แสดงละครใบ้กลางห้องบรรทมจนสาวใช้เริ่มมองแปลก ๆ

“ฮองเฮา...พระองค์กำลังฝึก...ท่าเต้นเทพธิดาหรือเพคะ?”

“เอ่อ...อา...ก็...ประมาณนั้นแหละ” ซินซินยิ้มเกร็ง

[เสี่ยวหลิง: หม่าม๊าอย่าลืม ห้ามล้ม ห้ามปล่อยมุกลามก ห้ามใช้คำหยาบนะครับ! ฝ่าบาทมีโหมด ‘ตัดคออย่างรวดเร็ว’ เปิดอยู่ตลอดเวลา]

จักรพรรดิอวี้เหยียนนั่งอยู่หลังโต๊ะชาขนาดเล็กในศาลาริมน้ำ นิ้วเรียวคีบใบชาหย่อนลงในกาน้ำร้อน กลิ่นหอมจาง ๆ ของชาขาวลอยอบอวลในอากาศ พระพักตร์ยังคงไร้รอยยิ้ม ราวกับสลักจากหยกน้ำแข็งที่ไม่มีวันละลาย ขันทีเฒ่าเอ่ยรายงานด้วยเสียงนอบน้อม

“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ ฮองเฮา…ประสงค์จะเข้าเฝ้า”

ดวงตาสีดำสนิทตวัดมองเพียงนิด ก่อนเสียงทุ้มเย็นเอื้อนเอ่ย

“ให้เข้ามา”

หลินซินเยว่ใจเต้นตึกตัก เมื่อโอกาส “แสดงตลกต่อหน้าเขา” มาถึงแบบไม่ได้ตั้งตัว เธอเตรียมไม้ไผ่ 1 ท่อน / ก้อนหิน / และเสื้อคลุมของขันทีที่แอบยืมมาแสดงละครสั้นเรื่อง “ขันทีน้อยกับเต่าโบราณ” แบบด้นสด

เมื่อฝ่าบาททรงนั่งลงและรับชาจากนางกำนัล หลินซินเยว่ก็ปรากฏตัวด้วยสีหน้าเรียบเฉยเกินจริง มือข้างหนึ่งถือไม้ไผ่ ข้างหนึ่งถือลูกมะพร้าววาดหน้าเต่า

“ฝ่าบาท หม่อมฉัน...ขอแสดงมุทิตาจิตแด่วันพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว ด้วยการแสดง...เต่ากระโดดน้ำ!”

เสียงในลานเงียบกริบ... จักรพรรดิอวี้เหยียนวางถ้วยชาอย่างแผ่วเบา ดวงตาคมกริบจ้องนางเหมือนกำลังประเมิน “สติสัมปชัญญะ” ของฮองเฮา

หลินซินเยว่กลืนน้ำลายดังเอื๊อก

แต่เธอไม่ถอย!

หญิงสาวแสดงละครใบ้ เต่ายืนสองขา เดินชนต้นไม้ พลัดตกน้ำ แล้วสรุปด้วยเสียงใสว่า “รักแท้...ทำให้เต่าว่ายน้ำได้!”

เงียบ...

เงียบสนิทจนได้ยินเสียงใบไม้ตกใส่ผิวน้ำ ขันทีข้างพระวรกายตัวแข็งราวรูปสลัก

และแล้ว... เสียงเบาราวกระซิบหลุดออกจากริมฝีปากชายหนุ่มผู้ไม่เคยยิ้ม

“...เต่าโง่”

เฮือก! เสียงกระแอมเบา ๆ ตามมาพร้อมกับ... มุมปากที่กระตุกขึ้นเล็กน้อย!

[ระบบ: ตรวจพบ! มุมปากพระเอกกระตุกขึ้น 7 องศา!]

[ประกาศ: หัวเราะเบาสุดในรอบสิบปี มิชชันสำเร็จ!]

[คะแนนอบอุ่นหัวใจ +12 / ความสนใจ: เพิ่มระดับ “น่ารำคาญน้อยลง”]

หลินซินเยว่แทบทรุด ดีใจจนน้ำตาคลอ

“ฉันทำให้เขาหัวเราะได้จริง ๆ เหรอ…” หลินซินเยว่นั่งกอดเข่าที่ระเบียง หัวใจเต้นแรงอย่างประหลาด ระบบเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนเสียงใส ๆ ของเสี่ยวหลิงจะดังขึ้นช้า ๆ

[ครับ… และท่านคือคนแรกในชีวิตเขาที่ทำได้]

หญิงสาวหลุบตาลง เห็นภาพมุมปากของอวี้เหยียนที่ขยับเพียงเล็กน้อย แต่กลับตราตรึงใจอย่างน่าประหลาด

“เวลาที่เขายิ้มเนี่ย ก็ดูดีเหมือนกันนะ ดีกว่าตอนทำหน้าเก๊กขรึม ตึงอย่างกับเพิ่งฉีดโบท็อกซ์มา”

ติ๊ง!

[รางวัลภารกิจสำเร็จ: ปลดล็อก “ความลับลำดับที่ 1” ฉากลับแรก – ความทรงจำในวัยเยาว์ของอวี้เหยียน]

[โหมด: การมองเห็นความทรงจำ]

แสงรอบกายหลินซินเยว่พร่ามัว ร่างเธอเหมือนถูกดูดลงไปในเงามืด ก่อนภาพใหม่จะค่อย ๆ ปรากฏ เธอกำลังยืนอยู่บนลานหินกรวดเย็นเยียบของเรือนเก่า ๆ แห่งหนึ่ง

เสียงฝนซัดสาดกระทบหลังคากระเบื้องดัง “เปาะแปะ” ราวกับค้อนนับพันทุบลงมาพร้อมกัน กลิ่นฝนชื้นปนกลิ่นดินโคลนลอยตีจมูก

เด็กชายตัวเล็กอายุราวเจ็ดหรือแปดขวบ นั่งกอดเข่าอยู่ตรงมุมระเบียง ผ้าฝ้ายสีซีดบนร่างเปียกชุ่มจนแนบกับผิวกาย

น้ำฝนที่ซัดมากับลมเย็นจัดตีกระทบผิวหน้าและต้นคอ ทำให้ไหล่เล็ก ๆ นั้นสั่นไหว

เส้นผมดำขลับเปียกจนเกาะติดแก้ม ใบหน้าเรียวเล็กซีดเซียว แต่ยังคงมีเค้าความสง่างาม ใช่แล้ว…เด็กคนนั้นคืออวี้เหยียนตอนยังเยาว์วัย

ฝ่ามือเล็กโอบบางสิ่งเอาไว้แนบอก พอหลินซินเยว่เพ่งมองจึงเห็นชัดว่าเป็นตุ๊กตาผ้าขนาดฝ่ามือ รูปร่างคล้ายมังกรน้อยเย็บด้วยด้ายสีทอง แม้ฝีเข็มจะไม่เรียบร้อย แต่ก็มองออกว่าทำด้วยความตั้งใจสุดหัวใจ สองมือน้อย ๆ นั้นถูกผ้าสีขาวพันไว้รอบนิ้ว บางนิ้วมีจุดสีแดงซึมออกมาหลายแห่ง

ทว่า…ตุ๊กตาผ้าบางส่วนถูกฉีกขาด ด้ายหลุดลุ่ย และตรงลำตัวของมันมีรอยเปื้อนโคลนกับรอยเหยียบแบนราบ เหมือนถูกกระทืบซ้ำหลายครั้ง

“องค์ชายสิบสี่! ทำไมพระองค์ยังนั่งอยู่นี่เล่าเพคะ” เสียงหญิงวัยกลางคนในชุดข้ารับใช้รีบเข้ามา ใช้ผ้าคลุมบาง ๆ โอบไหล่เขา

เด็กชายเพียงเหลือบตามองเล็กน้อย ก่อนเอ่ยเสียงเรียบ

“แม่นม ท่านแม่…ไม่ให้ข้าเข้าไปในตำหนักนาง”

แม่นมหลี่นั้นชะงักเล็กน้อย สายตาเต็มไปด้วยความสงสารแต่ไม่กล้าแสดงออกมากนัก “องค์ชายเพคะ คืนนี้อากาศเย็น ทรงเสวยข้าวต้มสักหน่อยก่อนเถอะเพคะ เดี๋ยวหม่อมฉันจะพาพระองค์ไปกินที่เรือนเล็กด้านหลัง”

เขาส่ายหน้าเบา ๆ แล้วมองไปยังตำหนักใหญ่ที่อยู่ไกลออกไป แสงโคมสีทองส่องวับวาว เสียงหัวเราะคิกคักของเด็ก ๆ ลอยมาตามลม เด็กเหล่านั้นคือองค์ชายองค์หญิงที่เกิดจากฮองเฮาและพระสนมชั้นสูง

อวี้เหยียนไม่พูดไม่จา ดวงตาดำสนิทนิ่งคู่นั้นเพียงมองไปยังภาพไกล ๆ ราวกับกำลังจดจำทุกอย่างเอาไว้ในหัวใจ

เสียงหัวเราะสดใสของเด็กเหล่านั้นดังลอยมาตามลม เสียงที่ควรจะมีเขาร่วมอยู่ด้วย…แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น

เด็กชายเพียงกอดตุ๊กตาผ้าไว้แน่นขึ้น น้ำฝนไหลจากปลายคางลงบนหัวมังกรผ้าที่ถูกย่ำยี หัวใจเด็กชายเจ็บแปลบจนต้องเอามือเล็กนั้นนวดวนไปมาตรงอกข้างซ้าย เขารู้สึกถึงน้ำอุ่น ๆ ที่หลั่งรินออกมาจากสองตา

‘ดีเหลือเกินที่ฝนตกพอดี’

ภาพฝนที่ซัดลงมาอย่างไม่ปรานีซึมลึกเข้าไปในใจหลินซินเยว่ เธออยากจะก้าวไปคว้าตัวเด็กคนนั้นเข้ามาในอ้อมกอดเสียเดี๋ยวนั้น ปลอบประโลมเขาด้วยถ้อยคำอ่อนโยน แต่ก็ทำได้เพียงแค่มอง

เสียงฝนเลือนหาย กลายเป็นเสียงน้ำชาหยดลงถ้วย เธอสบตากับอวี้เหยียนในปัจจุบันที่ยังคงจิบชาเงียบ ๆ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ทว่าหัวใจของเธอกลับหนักอึ้ง…พร้อมความตั้งใจใหม่ ว่าเธอจะไม่มีวันยอมให้เขากลับไปอยู่ในความหนาวเหน็บนั้นอีก

[ข้อมูลลับที่ 1 ได้ถูกบันทึก]

[เคล็ดลับ: หากใช้ความทรงจำนี้ในจังหวะที่เหมาะสม จะเพิ่มค่าความใกล้ชิดอย่างมาก])

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   15

    เสียงเหล่าขุนนางขานรายงานลากยาวราวบทสวดอันซ้ำซาก อวี้เหยียนนั่งบนบัลลังก์มังกร สายพระเนตรเย็นเยียบไล่ไปทีละคน…จนถึงเงาร่างหนึ่งที่นั่งเคียงข้าง ผ้าคลุมไหล่สีเข้มของฮองเฮาอวิ๋นซินเยว่สะท้อนเข้าตาเขาพอดี ดวงตาเธอก้มต่ำ ฟังรายงานอย่างสงบ แต่นิ้วเรียวแอบหมุนกำไลหยกบนข้อมือซ้ายไปมาอย่างเบื่อหน่ายเพียงท่าทางเล็กน้อยนั้น กลับสะกิดของเขายิ่งนัก มุมปากหยักหนายกขึ้นเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว แต่เพียงแวบเดียวเท่านั้น เขารีบตวัดสานตากลับไปยังขุนนางที่กำลังเถียงกันเรื่องการเก็บภาษีชายแดน หลี่กงกงที่ยืนก้มหน้าอยู่ด้านล่าง มองเห็นแววตานั้นชัดกว่าใคร คนที่นั่งสูงสุดบนบัลลังก์ มังกรยังเป็นมังกร แต่แววตานั้น…ไม่เหมือนเดิม ฮ่องเต้หนุ่มที่ดึงสติกลับมา ได้ยินเสียงขุนนางหนุ่มฝ่ายบุ๋นดังขึ้นอย่างกล้าหาญเกินวัย “ทูลฝ่าบาท หากยังเก็บภาษีเช่นนี้ต่อไป ชาวบ้านชายแดนจะอดตายพะย่ะค่ะ” “เงียบ” พระสุรเสียงดังก้องไปทั่วท้องพระโรงขุนนางหนุ่มหน้าซีดเผือด รีบก้มลงคุกเข่า ทุกสายตาในท้องพระโรงตึงเครียด แต่ละคนไม่กล้าเงยหน้าทั้งห้องเงียบรางกับไร้ผู้คน…ยกเว้นเพี

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   14

    เสียงวิพากษ์วิจารณ์ยังดังระงมรอบลานชมบุปผา “ฮองเฮาเป็นผู้จัดงานจะปฏิเสธความผิดได้อย่างไร!”“สนมขั้นผินถึงกับเกือบสิ้นใจเช่นนี้ มิใช่เรื่องเล็กแล้ว!”หมอหลวงยังคงคุกเข่า รายงานเสียงหนักแน่นว่าเป็นอาการแพ้ดอกไม้ที่ใช้ประดับงานซึ่งทั้งหมดล้วนผ่านมือฮองเฮาจัดการทั้งสิ้นสายตาของเหล่าสนมพุ่งมาที่อวิ๋นซินเยว่ไม่วาง ราวกับเธอเป็นอาชญากรตัวจริง ร่างบางกำมือแน่น หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุอก ไม่ว่าจะคิดทางไหน ก็ไร้ทางรอด…ทันใดนั้น เสียงเล็ก ๆ ดังเจื้อยแจ้วขึ้นในโสตประสาทของเธอ เสี่ยวหลิง![หม่าม๊า…ทุกคนกำลังตัดสินท่านผิดแน่ ๆ แล้วครับ แต่ถ้าหม่าม๊าอยากให้ช่วย เสี่ยวหลิงก็พอมีวิธีขอรับ]อวิ๋นซินเยว่สะดุ้งน้อย ๆ คิ้วขมวดแน่น พลันกระซิบในใจ 'วิธีอะไร'[วิธีที่จะทำให้ท่านหลุดพ้นในวันนี้อย่างปลอดภัย… เสี่ยวหลิงสามารถปล่อยบั๊กข้อมูล ให้หลักฐานทั้งหมดเบี่ยงเบนไปหาคนอื่นได้ แต่ว่ามีข้อแลกเปลี่ยนครับ]'ข้อแลกเปลี่ยนเหรอ'เสี่ยวหลิงเงียบไปชั่วครู่ ก่อนตอบเสียงเบาลง ราวกับตัวเองก็ไม่อยากพูด[หากวันนี้หม่าม๊าใช้วิธีนี้…ท่านจะรอดพ้นก็จริง แต่ระบบจะตัด *เหตุการณ์พิเศษกับฝ่าบาท ที่ควรเกิดขึ้นหลังงานนี้ออกไปขอรับ]

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   13

    เสียงหัวเราะชื่นชมจากบรรดาสนมดังระงมไปทั่วลาน เมื่อ ซูกุ้ยเฟย ยกกลอนที่เพิ่งแต่งเสร็จขึ้นถวายไทเฮา ท่วงทำนองอ่อนหวาน เปรียบดอกโบตั๋นเป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติยศ สละสลวยจนแม้แต่ขุนนางฝ่ายในที่นั่งอยู่ด้วยยังพยักหน้ารับ ซูกุ้ยเฟยยกยิ้มบาง ก่อนหันไปทางซินเยว่พลางเอื้อนเอ่ยเสียงใส “กลอนของหม่อมฉันหาได้พิเศษอันใดไม่… ผู้ที่มีความสามารถแท้จริงด้านบทกวีคือฮองเฮาต่างหากเพคะ” ทันใดนั้นสายตาทุกคู่ก็หันมาจับจ้องยัง อวิ๋นซินเยว่ หัวใจเธอกระตุก เพราะตัวเองแต่งกลอนไม่เป็นแม้แต่นิดเดียว! [ติ๊ง! สถานการณ์อันตรายระดับ 95%! หากตอบไม่ได้ = ค่าศักดิ์ศรีฮองเฮาลดฮวบ! ถูกผู้คนหัวเราะเยาะทั้งงาน และไทเฮาจะผิดหวังในตัวท่านมากขอรับ] “เอ่อ…หม่อมฉันกลัวว่า หากแต่งกลอนออกมา…จะไปไม่ถึงครึ่งของกุ้ยเฟยเพคะ” เสียงกระซิบดังระงม หลายคนชะงักนึกว่าฮองเฮาจะถอยหนี แต่เธอกลับหันไปยิ้มกว้างต่อหน้าทุกคน ไทเฮาเลิกพระขนงเล็กน้อย คล้ายสนใจอยากฟัง อวิ๋นซินเยว่สูดหายใจลึก แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงใส “ดอกไม้อาจงดงามเพราะฤดูกาล แต่ก็เหี่ยวเฉาไปเพราะฤดูกาลผันผ่านเช่นกัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   12

    และแล้ววันจัดงานชมบุปผาก็มาถึง เสียงกลองเบา ๆ จากเหล่านักดนตรีด้านนอกดังมาเป็นสัญญาณ งานเลี้ยงชมบุปผาที่ทุกคนรอคอยกำลังจะเริ่มขึ้น ภายในตำหนักคุนหนิง อวิ๋นซินเยว่แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง นางกำนัลนับสิบต่างรุมล้อม ใส่เสื้อคลุมชั้นแล้วชั้นเล่า สีสันสดใสราวท้องฟ้ายามรุ่งอรุณกับกลีบกุหลาบแรกแย้ม ชุดปักดิ้นเงินลายหงส์สยายปีกโอบล้อมไปทั่วร่าง ผมดำถูกรวบขึ้นอย่างประณีต ประดับปิ่นหยกมรกตระยิบระยับ เมื่อเครื่องประดับชิ้นสุดท้ายถูกเสียบลง เธอถูกดันให้นั่งต่อหน้ากระจกทองเหลืองบานใหญ่ ภาพสะท้อนเบื้องหน้าทำให้เธอถึงกับตะลึง “นี่…คือข้าจริง ๆ หรือ?” อวิ๋นซินเยว่อ้าปากค้างเล็กน้อย กะพริบตาปริบ ๆ เหมือนมองคนแปลกหน้า ผิวที่ปกติซีดขาวบัดนี้เจือสีแดงนวลอย่างสุขภาพดี ริมฝีปากทาด้วยชาดสีแดงอ่อนดูงามละมุน สายตาที่เคยสดใสราวเด็กสาวกลับกลายเป็นวาววับดั่งหญิงสูงศักดิ์ที่พร้อมจะสะกดทุกสายตาแต่แววซุกซนยังไม่หายไป ทำให้ความสง่างามนั้นยิ่งมีเสน่ห์มากกว่าใคร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   11

    ลมฤดูใบไม้ผลิพัดกลีบดอกเหมยปลิวเข้ามาในตำหนักคุนหนิง อวิ๋นซินเยว่นั่งอยู่ท่ามกลางกองบันทึกพิธีและตำรามารยาทสูงเป็นตั้ง ดวงตาคมกวาดมองทีละบรรทัดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม นางพึมพำเบา ๆ “งานชมดอกไม้… มิใช่เพียงเรื่องความงาม หากแต่สะท้อนศักดิ์ศรีของฮองเฮา หากข้าพลาดเพียงนิดเดียว ซูกุ้ยเฟยจะต้องใช้เป็นข้ออ้างโจมตีข้าแน่” ทันใดนั้น แสงสีฟ้าใสสว่างวาบขึ้นกลางอากาศ เสี่ยวหลิง ระบบเอไออัจฉริยะปรากฏร่างจำลองขึ้นมาพร้อมเสียงแจ่มใสที่ตัดกับบรรยากาศตึงเครียด “หม่าม๊า อย่ากังวลไปเลย ข้าได้สแกนบันทึกงานราชพิธีเก่า ๆ ทั้งหมดแล้ว พบว่ามีจุดอ่อนอยู่หลายอย่างที่สามารถพลิกสถานการณ์ให้ท่านได้เปรียบ!” อวิ๋นซินเยว่เงยหน้ามองด้วยสายตาวาบประกายความหวัง “เจ้ามีแผนอะไรหรือ เสี่ยวหลิง?” ภาพเสมือนคล้ายแผนผังสามมิติถูกฉายขึ้นกลางห้อง แสดงการจัดวางตำแหน่งโต๊ะสำรับ น้ำชา ดนตรี และตำแหน่งดอกไม้ในสวน เสี่ยวหลิงเอ่ยเสียงกระตือรือร้น “หากท่านเลือกพันธุ์ดอกไม้ที่ยังไม่เบ่งบานเต็มที่ พอถึงวันงานมันจะผลิบานพร้อมกันพอดี สร้างความประทับใจได้มากกว่าซูกุ้ยเฟยที่มัวแต่เน้นความหรูหราเกินจำเป็น” นางพยักหน้าอย่างครุ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาราชาทรราชย์   10

    เสียงฆ้องเบา ๆ ดังขึ้นสามครั้ง ก่อนที่ม่านกำมะหยี่สีแดงขลิบทองในห้องโถงของตำหนักคุนหนิงจะถูกเลิกขึ้นอย่างช้า ๆ แสงแดดยามสายส่องลอดเข้ามาตกต้องกับอาภรณ์สีม่วงทองระยับตา ไทเฮาปรากฏกายอย่างสง่างามเรือนพระเกศาที่ขาวแซมเพียงเล็กน้อยถูกเกล้าอย่างประณีต ประดับปิ่นหยกชั้นสูง สายตาคมกริบของนางกวาดมองเหล่าสนมและพระสนมชั้นสูงที่คุกเข่าลงและนั่งเรียงรายอยู่เบื้องหน้า ทันใดนั้น บรรยากาศทั้งตำหนักอี้คุนก็เหมือนถูกตรึงด้วยไอเย็นแห่งอำนาจของสตรีที่เคยได้ชื่อว่ามีอำนาจที่สุดในวังหลังของจักรพรรดิองค์ก่อนเสียงขันทีขานพระนามกังวานก้อง “ไทเฮาเสด็จ”เหล่าสตรีในวังหลังที่มียศต่ำต่างหมอบลงจนหน้าผากแตะพื้น อวิ๋นซินเยว่เองก็ยืนขึ้นเช่นกัน เพียงประสานมือค้อมตัวลงต่ำอย่างนอบน้อม แต่ในใจกลับรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลที่กำลังกดทับมาบนบ่าไทเฮา ก้าวลงจากบัลลังก์ย่อม ๆ แท่นสูง เสียงรองเท้าปักมุกกระทบพื้นไม้ดังก้องอย่างสง่างามนางทอดพระเนตรมายังอวิ๋นซินเยว่ ริมฝีปากโค้งเพียงน้อย แต่เต็มไปด้วยนัยลึกล้ำ “ฮองเฮา… อีกเจ็ดวันจะมีงานเลี้ยงชมบุปผา เจ้าคงรู้ดีว่า นี่ไม่ใช่เพียงงานรื่นเริง แต่เป็นงานที่แสดงเกียรติยศและเป็

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status