“เขาห้ามใจมานาน แต่เมื่อเธอไม่ใช่น้องอีกต่อไป... หัวใจก็ไม่มีเหตุผลอีกแล้ว”หรือ“น้องสาวเพื่อน... คำว่าต้องห้าม ทำให้เขาอยากครอบครองยิ่งกว่าใคร”
ดูเพิ่มเติม“วันนี้มึงเข้าบริษัทรึเปล่า?” ชายหนุ่มกดโทรหาอคิราห์ เพื่อนสนิทของเขา เพราะมีแผนบางอย่างอยู่ในใจ“ตอนนี้กูอยู่บริษัท มีอะไร?” เสียงปลายสายตอบกลับมาด้วยความสงสัย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเพื่อนถึงถามแบบนั้น“เดี๋ยวกูไปหา” ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถามกลับด้วยน้ำเสียงขำ ๆ“แล้วมึงไม่มีงานเหรอ?” เขารู้ดีว่าเพื่อนคนนี้งานเยอะขนาดไหน ขนาดกินข้าวยังแทบไม่มีเวลา แล้ววันนี้ถึงกับว่างมาหาเพื่อน?“วันนี้กูว่างทั้งวัน ไม่มีนัดอะไรเลย”“เหรอ... งั้นก็มาสิ” แม้จะตอบรับ แต่ในใจอคิราห์กลับรู้สึกว่ามันต้องมีอะไรแปลก ๆ แน่ ๆ“อืม เจอกัน” ชายหนุ่มกดวางสายไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะหยิบกุญแจรถแล้วเดินออกจากห้องทำงานทันทีเวลา 12:00 น. – วิทยาลัยทันทีที่เลิกเรียน หญิงสาวเดินออกมาจากตึกเรียน ก็เห็นรถคุ้นเคยจอดรออยู่แล้ว เธอหันไปล่ำลาเพื่อนก่อนจะรีบเดินตรงไปยังรถ“ฉันกลับแล้วนะ บ๊ายบาย~” เมื่อถึงรถ เธอยกมือไหว้คนขับรถอย่างเคารพ“สวัสดีค่ะพี่ขุน มาถึงนานรึยังคะ?” เธอถามด้วยความเป็นห่วง กลัวเขาจะต้องมารอนาน“ผมเพิ่งมาถึงไม่นานครับ คุณหนูจะกลับบ้านเลยไหมครับ หรือว่าจะไปไหนต่อ?” หญิงสาวนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อ
ผับหรูใจกลางเมือง ค่ำคืนในเมืองหลวงยังคงคึกคัก ผับหรูใจกลางเมืองที่มีแสงไฟสีสันสดใสส่องประกายจากหน้าร้าน ดึงดูดผู้คนให้เข้ามาพักผ่อนหลังเลิกงาน บรรยากาศภายในเต็มไปด้วยเสียงเพลงที่กระหึ่ม เครื่องดื่มหลากหลายสีถูกเสิร์ฟไม่ขาดสาย กลุ่มคนมากมายต่างคลาคล่ำภายในร้าน ประตูทางเข้าถูกเปิดออกอย่างมั่นใจ ชายหนุ่มสองคนในชุดลำลองแบรนด์เนมหรูเดินเข้ามาอย่างสง่าผ่าเผย แค่ก้าวเข้ามาก็กลายเป็นจุดสนใจของสาวๆ รอบตัวทันที หญิงสาวร่างบางในชุดรัดรูปสีแดงสด เดินตรงมาหาชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนอยู่ด้านหน้า เธอยิ้มหวานพร้อมส่งสายตายั่วยวนให้ ก่อนจะยื่นมือไปแตะที่หน้าอกเขาเบาๆ อย่างไม่อ้อมค้อม “สวัสดีค่ะ มินนะคะ...ชื่ออะไรเหรอคะ?” เธอถามเสียงหวาน พร้อมยืนเบียดเข้ามาใกล้กว่าเดิม แต่แทนที่ชายหนุ่มจะมีท่าทางตอบสนอง เขากลับสะบัดมือเธอออกอย่างไม่ใยดี ดวงตาคมจ้องเธอเขม็งด้วยแววตารำคาญ ราวกับไม่อยากให้แตะต้องแม้ปลายเล็บ “ออกไป” เสียงเขาทุ้มนิ่งแต่ทรงพลัง จนหญิงสาวหน้าชา รีบชักมือกลับด้วยความตกใจ และหมุนตัวเดินหนีไปแบบเงียบๆ “มึงนี่ก็ใจร้ายเกินไปนะ เพิ่งเข้าร้านมาก็ไล่สาวเขาเลย” อคิราห์แซวพร้อมหัวเราะเบาๆ พล
ภูผาหยิบโทรศัพท์ของอคิราห์ขึ้นมาไถหน้าจอหาชื่อ “เอย” อย่างใจเย็น เมื่อเจอเบอร์ของหญิงสาว เขาก็รีบควักมือถือของตัวเองจากกระเป๋ากางเกงออกมาทันที แล้วบันทึกหมายเลขลงไว้ในรายชื่อโดยไม่ลังเลชื่อที่เขาเมมไว้คือ "หนูเอยของพี่"วินกับกรณ์ที่แอบมองพฤติกรรมของเพื่อนก็ได้แต่สบตากันแล้วส่ายหน้าเบา ๆ อย่างอ่อนใจแค่เห็นหน้าน้องเขาผ่านวิดีโอคอลก็ทำให้หลงได้ขนาดนี้เลยเหรอวะไหนล่ะ ไอ้คนที่บอกว่าเกลียดผู้หญิง? ไหนว่ารำคาญผู้หญิง?สองหนุ่มคิดในใจพร้อมกันอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็นไม่กี่นาทีถัดมา อคิราห์ก็กลับมาจากห้องน้ำ เขาเปิดประตูเข้ามาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ส่วนเพื่อนอีกสามคนก็ทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ต่างคนต่างนั่งจิบเหล้าเหมือนปกติ“ไปไหนมานานวะ” กรณ์ถามขึ้นทันทีที่อคิราห์นั่งลง“หรือแอบติดสาวอยู่ห้องน้ำ?” วินแกล้งแซว“บ้าเหอะ มึงเห็นกูเป็นพวกเสือผู้หญิงรึไง?” อคิราห์รีบส่ายหน้าแรง ๆ “คนมันเยอะว่ะ กว่าจะเข้าได้ อีกอย่าง...น้องสาวกูไม่ให้ผู้หญิงเข้าใกล้มากนะ เดี๋ยวงอนอีก”พูดถึงน้องสาว เขาก็นึกบางอย่างขึ้นได้ จึงหันไปถามเพื่อนอย่างร้อนรน“เฮ้ย! ตอนนี้กี่โมงแล้ววะ?”“สามทุ่มครึ่ง” วิน
เสียงหัวเราะสดใสดังมาจากห้องนั่งเล่น ต้นเสียงคือหญิงสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่งที่กำลังนั่งดูการ์ตูนอย่างมีความสุข เธอชื่อ “เอย” ภันทิลา โชติพิสุทธิ์เมธา ลูกสาวคนเล็กของตระกูลใหญ่ เอยเป็นคนอ่อนหวาน ร่าเริง และเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ มากมาย แต่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ เพราะเธอมีพี่ชายที่ทั้งหวงและดุมาก พี่ชายของเธอชื่อ “โอบ” อคิราห์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานบริษัทใหญ่ของครอบครัว เอยจึงเลือกเรียนคณะบริหารธุรกิจเพื่อจะได้ช่วยงานพี่ชายในอนาคต "ขำอะไรเสียงดังไปถึงหน้าบ้านเลย" เสียงทุ้มอบอุ่นดังขึ้นจากประตู อคิราห์เพิ่งกลับมาถึงบ้าน เขาอดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นน้องสาวหัวเราะร่าเริงอยู่หน้าทีวี "พี่โอบ กลับมาแล้วเหรอคะ เอยดูการ์ตูนอยู่ค่ะ สนุกมากเลย" หญิงสาวเงยหน้ามายิ้มกว้าง ตาหยีเป็นประกายสดใส อคิราห์อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปลูบหัวน้องสาวอย่างเอ็นดู "พี่กลับมาแล้วครับ แต่เดี๋ยวต้องออกไปอีก นัดเพื่อนไว้" พอได้ยินแบบนั้น เอยก็หน้าหงอยทันที เธอไม่ชอบอยู่บ้า
ความคิดเห็น