เสียงฝีเท้าหนักอึ้งที่ดังเข้ามาจากภายนอกห้องทำให้บรรยากาศภายในห้องพักผู้ป่วยยิ่งตึงเครียดขึ้นไปอีก ฟูมิโกะมองไปที่เก็น ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความกังวล
“เก็น… เสียงนั่น… มันไม่ใช่แค่เงาปีศาจธรรมดาแล้วใช่ไหม?” ฟูมิโกะถาม เสียงของเธอแผ่วเบาจนเกือบเป็นกระซิบ เก็นกำมีดลงอาคมแน่น เขาพยักหน้าช้าๆ “ใช่… ฉันสัมผัสได้ถึงพลังงานที่มหาศาล… นี่แหละคือ ‘นายใหญ่’ ที่ท่านหมอเคยพูดถึง” แววตาของเขาเคร่งขรึมและเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะปกป้องฟูมิโกะ “แต่เราจะทำยังไงดีล่ะ? เรายังไม่ได้ผ้ายันต์อีกตั้งสี่ผืน! แล้วก็ยังไม่ได้ช่วย ‘ผู้ถูกสังเวย’ คนนี้เลย!” ฟูมิโกะร้อนรน เธอเหลือบมองร่างที่ซีดเซียวผอมแห้งที่นอนอยู่บนพื้น ผ้ายันต์ผืนที่สี่กับห้ายังคงแปะแน่นอยู่บนหน้าผากและหน้าอกของเขา ตุบ… ตุบ… ตุบ… เสียงฝีเท้าหยุดลงที่หน้าประตูห้องพอดี พร้อมกับกลิ่นอายของพลังงานมืดมิดที่พุ่งเข้ามาอย่างรุนแรงจนอากาศภายในห้องรู้สึกหนาวเย็นไปถึงกระดูก “มันมาถึงแล้ว!” เก็นคำราม เขาเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับการโจมตี แต่แล้ว… กลับไม่มีเสียงทุบประตู ไม่มีเสียงคำราม มีเพียงความเงียบที่น่าสะพรึงกลัวเข้าปกคลุมแทน ราวกับว่าสิ่งที่อยู่ภายนอกกำลังจ้องมองพวกเขาอยู่ ผ่านผ้ายันต์ป้องกันที่แปะอยู่บนประตู “มัน… มันทำอะไรของมันน่ะ?” ฟูมิโกะพึมพำด้วยความสงสัยปนหวาดระแวง เก็นหรี่ตาลง เขาสัมผัสได้ถึงพลังงานที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จากภายนอกประตู “มันกำลังใช้ ‘พลังจิต’ กดดันเรา… หรือไม่ก็… กำลังรอจังหวะ” ฟูมิโกะตัดสินใจว่าไม่มีเวลาลังเลอีกแล้ว เธอรีบกลับไปที่หนังสืออาคม เธอต้องหาวิธีช่วย “ผู้ถูกสังเวย” ให้เร็วที่สุด และหาวิธีที่จะจัดการกับ “นายใหญ่” ที่อยู่ภายนอก “โอเค! ฉันจะอ่านวิธีถอนผ้ายันต์จาก ‘ผู้ถูกสังเวย’!” ฟูมิโกะบอก “นายคอยระวัง ‘นายใหญ่’ ให้ดีนะ!” เก็นพยักหน้า “ระวังตัวด้วยนะฟูมิโกะ!” ฟูมิโกะก้มหน้าลงอ่านหนังสืออาคมอย่างรวดเร็ว หน้าที่เขียนเกี่ยวกับ “การถอนผ้ายันต์กักเก็บพลังงาน” มีรายละเอียดที่ซับซ้อนมาก มันไม่ใช่แค่การดึงผ้ายันต์ออกไปเฉยๆ แต่ต้องร่ายคาถาเฉพาะเพื่อลดพลังงานที่ถูกกักเก็บไว้ในผ้ายันต์เสียก่อน เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อ “ผู้ถูกสังเวย” และไม่ให้พลังงานมืดมิดเหล่านั้นระเบิดออกมา “มันบอกว่าต้องใช้ ‘คาถาแห่งการถ่ายเท’ เพื่อถ่ายโอนพลังงานจากผ้ายันต์ไปยังขวดกักเก็บวิญญาณของเรา” ฟูมิโกะอ่านเสียงดังฟังชัด “จากนั้นก็ใช้ ‘คาถาแห่งการชำระล้าง’ เพื่อชำระล้างผ้ายันต์ให้กลับมาเป็นปกติ แล้วค่อยดึงออก” “ดูยุ่งยากเหมือนกันนะ” เก็นพึมพำ “แต่มันเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด” ฟูมิโกะตอบ เธอเริ่มร่ายคาถาแห่งการถ่ายเททันที เธอชูขวดกักเก็บวิญญาณขึ้น แล้วชี้ไปที่ผ้ายันต์ผืนที่สี่ที่แปะอยู่บนหน้าผากของ “ผู้ถูกสังเวย” แสงสีฟ้าอมม่วงอ่อนๆ พวยพุ่งออกจากขวดอาคมของฟูมิโกะ แล้วพุ่งตรงไปยังผ้ายันต์บนหน้าผากของร่างนั้น ทันทีที่แสงสัมผัสกับผ้ายันต์ สีดำทึบของผ้ายันต์ก็เริ่มจางลงเล็กน้อย และมีกระแสพลังงานสีดำบางๆ ไหลออกมาจากผ้ายันต์เข้าสู่ขวดอาคมของฟูมิโกะอย่างช้าๆ “มันได้ผล!” ฟูมิโกะบอกด้วยความดีใจ “เร็วเข้าฟูมิโกะ!” เก็นเร่งเร้า “ฉันรู้สึกได้ว่า ‘นายใหญ่’ กำลังรวบรวมพลังงานบางอย่างอยู่!” ฟูมิโกะร่ายคาถาแห่งการถ่ายเทอย่างต่อเนื่อง เธอสัมผัสได้ถึงพลังงานมืดมิดที่ไหลเข้ามาในขวดอาคมของเธอ ขวดอาคมสั่นสะท้านเล็กน้อย แสดงให้เห็นว่ามันกำลังทำงานอย่างหนัก เมื่อพลังงานจากผ้ายันต์ผืนที่สี่ถูกถ่ายเทออกไปจนหมด ฟูมิโกะก็เริ่มร่ายคาถาแห่งการชำระล้าง แสงสีขาวบริสุทธิ์แผ่ออกมาจากมือของเธอปกคลุมผ้ายันต์ เมื่อแสงนั้นสัมผัสกับผ้ายันต์ ผ้ายันต์ก็เรืองแสงสีดำจางๆ ก่อนที่สีดำนั้นจะสลายหายไป กลายเป็นผ้ายันต์สีแดงสดที่เต็มไปด้วยอักขระโบราณที่สลับซับซ้อน “นี่แหละ! ผ้ายันต์ผืนที่สี่!” ฟูมิโกะอุทาน เธอค่อยๆ ดึงผ้ายันต์ผืนที่สี่ออกจากหน้าผากของ “ผู้ถูกสังเวย” อย่างระมัดระวัง ผ้ายันต์ผืนนี้ให้ความรู้สึกของ “การควบคุม” และ “การผูกมัด” ซึ่งน่าจะตรงข้ามกับผ้ายันต์แห่งการปลดปล่อย “ตอนนี้เหลืออีกผืน!” เก็นบอก ฟูมิโกะพยักหน้า เธอทำตามขั้นตอนเดิมกับผ้ายันต์ผืนที่ห้าที่แปะอยู่บนหน้าอกของ “ผู้ถูกสังเวย” เธอร่ายคาถาแห่งการถ่ายเท และตามด้วยคาถาแห่งการชำระล้าง แสงสีฟ้าอมม่วงและแสงสีขาวบริสุทธิ์สลับกันพวยพุ่งออกมาจากมือของฟูมิโกะ กระแสพลังงานสีดำไหลออกจากผ้ายันต์เข้าสู่ขวดอาคมอย่างต่อเนื่อง และในที่สุด ผ้ายันต์ผืนที่ห้าก็เปลี่ยนจากสีดำทึบกลายเป็นผ้ายันต์สีน้ำเงินเข้มที่เต็มไปด้วยลวดลายคล้ายเกลียวคลื่น “ได้แล้ว! ผ้ายันต์ผืนที่ห้า!” ฟูมิโกะอุทานด้วยความโล่งใจ เธอค่อยๆ ดึงผ้ายันต์ออกจากหน้าอกของ “ผู้ถูกสังเวย” ผ้ายันต์ผืนนี้ให้ความรู้สึกของ “การดึงดูด” และ “การนำทาง” เมื่อผ้ายันต์ทั้งสองผืนถูกถอดออก ร่างกายของ “ผู้ถูกสังเวย” ก็ไม่เรืองแสงสีดำอีกต่อไป แต่เขาก็ยังคงหมดสติและซีดเซียวอยู่ “เขาปลอดภัยแล้ว… ในตอนนี้” เก็นบอก เขาสัมผัสชีพจรของ “ผู้ถูกสังเวย” “แต่เขายังอ่อนแอมาก” ฟูมิโกะรวบรวมผ้ายันต์ทั้งห้าผืนเข้าด้วยกัน ผ้ายันต์ผืนที่หนึ่ง (สีเหลืองอำพัน - กักเก็บวิญญาณ), ผืนที่สอง (สีขาวนวล - ตรึง/ป้องกัน), ผืนที่สาม (สีขาวบริสุทธิ์ - สงบสุข/ปลดปล่อย), ผืนที่สี่ (สีแดงสด - ควบคุม/ผูกมัด), และผืนที่ห้า (สีน้ำเงินเข้ม - ดึงดูด/นำทาง) พวกมันเรืองแสงจางๆ อย่างเป็นเอกลักษณ์ “ตอนนี้เรามีห้าผืนแล้ว เหลืออีกสองผืน!” ฟูมิโกะบอกด้วยความหวัง ตุบ… ตุบ… ตุบ… เสียงฝีเท้าที่เคยเงียบหายไปเมื่อครู่ ก็กลับมาดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้มันใกล้เข้ามามากกว่าเดิม และดูเหมือนจะดังมาจากด้านบน! ครืนนนนน! เสียงบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่เหนือหลังคาห้องพักผู้ป่วยที่พวกเขากำลังซ่อนตัวอยู่ แรงสั่นสะเทือนทำให้ฝุ่นผงร่วงลงมาจากเพดาน “มันอยู่บนหลังคา!” เก็นคำราม เขารู้สึกได้ถึงพลังงานมหาศาลที่กดทับลงมาจากด้านบน ฟูมิโกะรีบชี้ไปที่นาฬิกาข้อมืออาคมของเธอ จุดสีแดงสำหรับผ้ายันต์ผืนที่หกและเจ็ดปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน ผ้ายันต์ผืนที่หกอยู่บนดาดฟ้าของโรงพยาบาล! “มันอยู่บนดาดฟ้าเก็น! ที่เสาล่อฟ้า!” ฟูมิโกะอุทาน เธอจำได้ว่าเคยเห็นเสาล่อฟ้าขนาดใหญ่บนดาดฟ้าอาคารหลักของโรงพยาบาลเมื่อตอนที่พวกเขามาถึง “มันขึ้นไปอยู่ตรงนั้นได้ยังไง?!” เก็นพึมพำ “และทำไมต้องเป็นเสาล่อฟ้า?” ตูม! จู่ๆ หลังคาห้องพักผู้ป่วยก็ยุบลงมา! เก็นกับฟูมิโกะเบิกตากว้างด้วยความตกใจ พวกเขาเห็นเงาร่างขนาดมหึมาของสิ่งที่ดูคล้ายมนุษย์ แต่กลับมีรูปร่างที่บิดเบี้ยวและมีแขนขายาวผิดปกติ กำลังพุ่งลงมาจากเพดาน! “นั่นไง… ‘นายใหญ่’!” เก็นคำราม เขาพุ่งตัวเข้าบังฟูมิโกะทันที มีดลงอาคมในมือของเขาส่องประกายสีเงินวูบวาบ “หนีไปฟูมิโกะ!” เก็นตะโกนบอก “ฉันจะถ่วงเวลาให้!” ฟูมิโกะไม่ลังเล เธอรู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมามัวแต่ลังเล เธอรีบคว้าขวดกักเก็บวิญญาณและผ้ายันต์ทั้งห้าผืนที่อยู่ในกระเป๋า แล้ววิ่งหนีออกจากห้องพักผู้ป่วยทันที โดยมี “นายใหญ่” ที่มีดวงตาสีแดงฉานจ้องมองเธออยู่ “เจ้า… จะไปไหน… มนุษย์…” เสียงของนายใหญ่ดังก้องในหัวของฟูมิโกะ มันไม่ใช่เสียงพูดธรรมดา แต่เป็นเสียงที่เต็มไปด้วยพลังจิตที่รุนแรงจนน่าขนลุก มันพยายามจะตรึงร่างของเธอไว้ ฟูมิโกะกัดฟันแน่น เธอใช้พลังจากผ้ายันต์ผืนที่สอง (ตรึง/ป้องกัน) เพื่อต้านทานพลังจิตของนายใหญ่ และวิ่งหนีไปตามโถงทางเดินที่มืดมิดอย่างสุดชีวิต เก็นพุ่งเข้าปะทะกับนายใหญ่ทันที มีดลงอาคมของเขาสะท้อนแสงสีเงินวูบวาบในความมืดมิด “อย่าคิดจะแตะต้องเธอ!” เก็นคำราม การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือดภายในห้องพักผู้ป่วย เก็นพุ่งเข้าโจมตีนายใหญ่ด้วยความว่องไวและแม่นยำ แต่ร่างของนายใหญ่กลับแข็งแกร่งและว่องไวกว่าที่เขาคาดไว้มาก มันหลบหลีกการโจมตีของเก็นได้อย่างง่ายดาย และใช้แขนยาวๆ ของมันปัดป้องการโจมตีของเก็นอย่างไม่ยากเย็น ในขณะเดียวกัน ฟูมิโกะก็วิ่งหนีไปตามทางเดินอย่างสุดชีวิต เธอรู้ว่าเธอต้องไปให้ถึงดาดฟ้าให้เร็วที่สุด เพื่อให้ได้ผ้ายันต์ผืนที่หก “ผ้ายันต์ผืนที่หก… อยู่บนเสาล่อฟ้า… บนดาดฟ้า…” ฟูมิโกะพึมพำกับตัวเอง เธอวิ่งผ่านห้องต่างๆ ที่พังทลาย ผนังอาคารที่ทรุดโทรม และเศษซากปรักหักพังที่กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น ในที่สุด เธอก็มาถึงบันไดที่ทอดยาวขึ้นไปสู่ชั้นบนสุดของอาคาร ฟูมิโกะกัดฟันแน่น เธอรู้ว่าข้างบนนั้นอาจจะมีอันตรายรออยู่ แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่น เธอรีบวิ่งขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็ว บันไดเหล็กเก่าๆ ส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดทุกครั้งที่เธอเหยียบลงไป ฟูมิโกะเงยหน้าขึ้นมอง เห็นแสงจันทร์ส่องลอดผ่านช่องว่างเล็กๆ บนเพดาน แสดงว่าเธอใกล้จะถึงดาดฟ้าแล้ว เมื่อเธอมาถึงชั้นบนสุด ฟูมิโกะก็ผลักประตูเหล็กเก่าๆ ที่นำไปสู่ดาดฟ้าออกอย่างแรง ครืน! ประตูเหล็กเปิดออก เผยให้เห็นดาดฟ้าที่กว้างใหญ่ไพศาล เบื้องบนคือท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิด และเบื้องล่างคือโรงพยาบาลร้างที่ดูน่าขนลุก ท่ามกลางความมืดมิด ฟูมิโกะมองเห็น เสาล่อฟ้าขนาดใหญ่ ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางดาดฟ้า มันสูงเสียดฟ้า และมีปลายแหลมคมที่ชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า และที่น่าตกใจที่สุดคือ… ผ้ายันต์ผืนที่หก กำลังถูกพันรอบปลายเสาล่อฟ้าอย่างแน่นหนา! ผ้ายันต์ผืนนั้นเรืองแสงสีม่วงเข้ม และมีสายฟ้าเล็กๆ แลบแปลบปลาบอยู่รอบๆ ราวกับมันกำลังกักเก็บพลังงานสายฟ้าเอาไว้ “ผ้ายันต์แห่งสายฟ้า?!” ฟูมิโกะอุทานด้วยความประหลาดใจ ผ้ายันต์ผืนนี้ดูแตกต่างจากผ้ายันต์อื่นๆ ที่เธอเคยเจอมาทั้งหมด มันให้ความรู้สึกที่ทรงพลังและอันตรายอย่างยิ่ง แต่การที่จะได้ผ้ายันต์ผืนนั้นมา… เธอจะต้องปีนขึ้นไปบนเสาล่อฟ้าที่สูงเสียดฟ้า และสัมผัสกับพลังงานสายฟ้าที่อาจจะอันตรายถึงชีวิต… และที่สำคัญที่สุด… เธอต้องทำมันให้เสร็จก่อนที่ “นายใหญ่” จะตามมาถึง…แสงแรกของรุ่งอรุณสาดส่องผ่านหน้าต่างที่พังทลายของห้องผ่าตัด สาดไล่ความมืดมิดที่เคยปกคลุมโรงพยาบาลแห่งนี้มานานหลายทศวรรษให้จางหายไป ความเหนื่อยล้าถาโถมเข้าใส่ฟูมิโกะและเก็นอย่างหนัก ทั้งคู่ล้มตัวลงนอนแผ่กับพื้นคอนกรีตเย็นเฉียบ หอบหายใจอย่างหนักหน่วง ราวกับเพิ่งผ่านการวิ่งมาราธอนอันยาวนาน แต่ในดวงตาของพวกเขากลับเต็มไปด้วยความโล่งอกและความสุขที่ไม่สามารถบรรยายได้ฟูมิโกะหันไปมองเก็น ใบหน้าของเธอเปื้อนฝุ่นและมีรอยขีดข่วนเล็กน้อย แต่รอยยิ้มที่ปรากฏบนริมฝีปากกลับเปล่งประกายสดใส เก็นเองก็ยิ้มตอบ ดวงตาของเขายังคงฉายแววอ่อนเพลีย แต่ก็เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจในสิ่งที่พวกเขาทำสำเร็จ“เราทำได้จริงๆ ด้วยนะเก็น…” ฟูมิโกะพึมพำ เสียงของเธอแหบพร่าด้วยความเหนื่อยล้า แต่ก็เต็มไปด้วยความตื้นตันใจ“ใช่ฟูมิโกะ… เราทำได้แล้ว” เก็นตอบ เสียงของเขาเองก็หอบไม่แพ้กัน “มันเป็นการต่อสู้ที่หนักหนาสาหัสที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลย”ฟูมิโกะค่อยๆ หยิบ ขวดกักเก็บวิญญาณ ที่มีแสงสีเหลืองอำพันเรืองรองอยู่ภายในขึ้นมาดูด้วยรอยยิ้ม แสงนั้นอบอุ่นและบริสุทธิ์ ไม่ใช่แสงสีดำที่น่าขนลุกเหมือนตอนแรกอีกต่อไป“ในที่สุด… เหล่าวิญญาณก็ไ
เสียงทุบประตูห้องผ่าตัดยังคงดังกึกก้องไม่หยุดหย่อน ผนังห้องสั่นสะเทือนราวกับจะพังทลายลงมาได้ทุกเมื่อ เก็นและฟูมิโกะนั่งพิงกำแพง หอบหายใจอย่างหนัก ร่างกายของพวกเขาเหนื่อยล้าเต็มทีจากบาดแผลและจากการต่อสู้ที่ไม่รู้จบกับ "นายใหญ่" ที่ยังคงกราดเกรี้ยวอยู่ภายนอก“เราจะทำยังไงดีเก็น?” ฟูมิโกะถาม เสียงของเธอเต็มไปด้วยความกังวล เธอพลิกหน้าหนังสืออาคมอย่างรวดเร็ว ดวงตากวาดไปตามตัวอักษรโบราณพยายามหาวิธีที่จะเอาชนะนายใหญ่ได้เสียทีเก็นมองไปที่ประตูห้องผ่าตัด ผ้ายันต์ผืนที่สองที่แปะอยู่เริ่มเรืองแสงริบหรี่ลงแล้ว แสดงว่าพลังป้องกันของมันกำลังจะหมดลงในไม่ช้า “เราต้องหาทางหยุดมันให้ได้ก่อนที่มันจะบุกเข้ามา ฟูมิโกะ!”ตูม!ประตูห้องผ่าตัดถูกกระแทกอย่างรุนแรงจนบานประตูเริ่มปริแตกออก เศษไม้กระเด็นเข้ามาในห้อง“มันใกล้จะพังแล้ว!” ฟูมิโกะอุทาน เธอกัดฟันแน่น พยายามรวบรวมสมาธิทั้งหมดที่มี เพื่ออ่านหนังสืออาคมให้เร็วที่สุดทันใดนั้น!ดวงตาของฟูมิโกะก็หยุดอยู่ที่หน้ากระดาษหน้าหนึ่ง! เธอจำได้ว่าเคยเห็นคาถานี้มาก่อน! มันเป็นคาถาที่ดูเหมือนจะไม่รุนแรงมาก แต่กลับมีคุณสมบัติที่น่าสนใจ!“เก็น! ฉันเจอแล้ว!” ฟูมิโกะตะ
กลิ่นยาฆ่าเชื้อที่ผสมปนเปกับความชื้นและกลิ่นคาวเลือดจางๆ ยังคงคละคลุ้งอยู่ในห้องแล็บที่มืดมิด ฟูมิโกะกับเก็นนั่งอยู่บนพื้นคอนกรีตเย็นเฉียบ หอบหายใจด้วยความเหนื่อยล้าจากการต่อสู้กับ "นายใหญ่" บนดาดฟ้า ผ้ายันต์ผืนที่สองที่แปะอยู่บนประตูกำลังเรืองแสงจางๆ เป็นเกราะป้องกันที่เปราะบาง แต่ก็เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้พวกเขารู้สึกปลอดภัยได้ในตอนนี้“เราต้องหาผ้ายันต์อีกสองผืนให้เจอ” ฟูมิโกะบอก เสียงของเธอแหบพร่าเล็กน้อย เธอเปิดหนังสืออาคมเล่มหนาออกอีกครั้ง พยายามกวาดสายตาหาเบาะแสเก็นพยักหน้า เขายังคงกุมแขนที่บาดเจ็บจากกรงเล็บของนายใหญ่ “ใช่… ยิ่งเราได้ผ้ายันต์ครบเร็วเท่าไหร่ เราก็ยิ่งมีโอกาสโค่นมันได้มากเท่านั้น”“แต่ผ้ายันต์ผืนสุดท้ายที่ฉันสัมผัสบนดาดฟ้า… มันหายไป” ฟูมิโกะพึมพำ “ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร หรือว่ามันทำงานยังไง”“อย่าเพิ่งคิดมากเรื่องนั้นเลยฟูมิโกะ” เก็นบอก “ตอนนี้เราต้องหาอีกสองผืนที่เหลือให้เจอ” เขามองไปที่นาฬิกาข้อมืออาคมของฟูมิโกะที่วางอยู่ข้างๆฟูมิโกะเห็นแล้ว ดวงตาของเธอเบิกกว้าง “จุดสีแดง! มันอยู่ที่ด้านหลังโรงพยาบาล! ทั้งสองจุดเลย!” เธอกรีดร้องด้วยความดีใจ“ด้านหลังโรงพยาบาลเหร
แสงจันทร์ส่องสลัวๆ ลงมาบนดาดฟ้าที่ทรุดโทรมของโรงพยาบาลร้าง เสียงลมยามค่ำคืนพัดหวีดหวิวราวกับเสียงกระซิบของเหล่าวิญญาณที่ถูกจองจำ เก็นและฟูมิโกะยืนเผชิญหน้ากับ “นายใหญ่” ร่างกายของมันสูงใหญ่กำยำ บิดเบี้ยวผิดรูป เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งราวกับหินผา ดวงตาสีแดงฉานคู่นั้นจ้องมองมาที่พวกเขาอย่างอำมหิต พลังงานมืดมิดแผ่ออกมาจากร่างของมันอย่างมหาศาล จนอากาศรอบตัวรู้สึกหนักอึ้ง“เจ้า… จะต้องชดใช้… สำหรับสิ่งที่เจ้าทำ!” เสียงของนายใหญ่ดังก้องในหัวของฟูมิโกะและเก็น มันไม่ใช่เสียงพูดที่ออกมาจากลำคอ แต่เป็นเสียงที่ส่งตรงจากจิตใจ เต็มไปด้วยความโกรธแค้นที่รุนแรงจนน่าสะพรึงกลัวเก็นก้าวไปข้างหน้าเล็กน้อย มือหนึ่งกำมีดลงอาคมแน่น อีกมือหนึ่งถือผ้ายันต์แห่งสายฟ้าที่ยังคงเรืองแสงสีม่วงเข้ม “เรามาที่นี่เพื่อยุติความทุกข์ทรมานของวิญญาณทุกดวงในโรงพยาบาลแห่งนี้! และเราจะไม่มีวันยอมให้เจ้าทำร้ายใครได้อีก!”“หึหึ… ไร้สาระ!” นายใหญ่หัวเราะเยาะ เสียงหัวเราะของมันแหบพร่าและน่าขนลุก “เจ้าคิดว่า… เจ้าจะทำอะไรข้าได้งั้นหรือ? ข้าคือ… ผู้ที่ควบคุมทุกสิ่งในสถานที่แห่งนี้! ข้าคือ… ผู้ที่สร้างพวกมันขึ้นมา!” มันยกแข
แสงจันทร์ส่องสลัวๆ ลงมาบนดาดฟ้าที่ทรุดโทรมของโรงพยาบาลร้าง เสียงลมยามค่ำคืนพัดหวีดหวิวราวกับเสียงกระซิบของเหล่าวิญญาณที่ถูกจองจำ เก็นและฟูมิโกะยืนเผชิญหน้ากับ “นายใหญ่” ร่างกายของมันสูงใหญ่กำยำ บิดเบี้ยวผิดรูป เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งราวกับหินผา ดวงตาสีแดงฉานคู่นั้นจ้องมองมาที่พวกเขาอย่างอำมหิต พลังงานมืดมิดแผ่ออกมาจากร่างของมันอย่างมหาศาล จนอากาศรอบตัวรู้สึกหนักอึ้ง“เจ้า… จะต้องชดใช้… สำหรับสิ่งที่เจ้าทำ!” เสียงของนายใหญ่ดังก้องในหัวของฟูมิโกะและเก็น มันไม่ใช่เสียงพูดที่ออกมาจากลำคอ แต่เป็นเสียงที่ส่งตรงจากจิตใจ เต็มไปด้วยความโกรธแค้นที่รุนแรงจนน่าสะพรึงกลัวเก็นก้าวไปข้างหน้าเล็กน้อย มือหนึ่งกำมีดลงอาคมแน่น อีกมือหนึ่งถือผ้ายันต์แห่งสายฟ้าที่ยังคงเรืองแสงสีม่วงเข้ม “เรามาที่นี่เพื่อยุติความทุกข์ทรมานของวิญญาณทุกดวงในโรงพยาบาลแห่งนี้! และเราจะไม่มีวันยอมให้เจ้าทำร้ายใครได้อีก!”“หึหึ… ไร้สาระ!” นายใหญ่หัวเราะเยาะ เสียงหัวเราะของมันแหบพร่าและน่าขนลุก “เจ้าคิดว่า… เจ้าจะทำอะไรข้าได้งั้นหรือ? ข้าคือ… ผู้ที่ควบคุมทุกสิ่งในสถานที่แห่งนี้! ข้าคือ… ผู้ที่สร้างพวกมันขึ้นมา!” มันยกแข
เสียงการต่อสู้ที่ดุเดือดดังมาจากชั้นล่างของโรงพยาบาลร้าง คลอไปกับเสียงฝีเท้าหนักอึ้งของ "นายใหญ่" ที่กำลังไล่ตามฟูมิโกะมาติดๆ บนดาดฟ้า ลมยามค่ำคืนพัดกรรโชกแรงจนเส้นผมของฟูมิโกะปลิวไสวไปตามแรงลม เธอยืนอยู่หน้า เสาล่อฟ้าขนาดใหญ่ ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางดาดฟ้า ผ้ายันต์ผืนที่หกเรืองแสงสีม่วงเข้มพร้อมกับสายฟ้าเล็กๆ ที่แลบแปลบปลาบอยู่รอบๆ ราวกับมันกำลังมีชีวิต"ผ้ายันต์ผืนนั้น… มันคงเป็นผ้ายันต์แห่งสายฟ้าแน่ๆ" ฟูมิโกะพึมพำกับตัวเอง เธอสัมผัสได้ถึงพลังงานที่มหาศาลจากผ้ายันต์ผืนนั้น พลังงานที่แตกต่างจากผ้ายันต์อื่นๆ ที่เธอเคยสัมผัสมาทั้งหมดตุบ! ตุบ! ตุบ!เสียงฝีเท้าหนักๆ ของ "นายใหญ่" ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ มันกำลังปีนขึ้นมาบนบันไดที่นำไปสู่ดาดฟ้า"ไม่นะ… มันกำลังมาแล้ว!" ฟูมิโกะอุทานด้วยความตกใจ เธอรู้ว่าไม่มีเวลาลังเลอีกต่อไปแล้วทันใดนั้น!ร่างของเก็นก็พุ่งพรวดขึ้นมาบนดาดฟ้า! ใบหน้าของเขาซีดเซียวเล็กน้อย มีรอยเปื้อนฝุ่นและรอยขีดข่วนอยู่หลายแห่ง แต่แววตาของเขากลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งกว่าเดิม เขากำมีดลงอาคมแน่นในมือ“ฟูมิโกะ! เธอไม่เป็นไรนะ?!” เก็นตะโกนถาม เสียงของเขาหอบเล็กน้อยจ