แชร์

ลิขิตรัก 5 ปองร้าย

ผู้เขียน: ดุจเพชร
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-22 21:38:06

ลิขิตรัก 5

ปองร้าย

“อืมม  ดูไปดูมา เมืองนี้ก็น่าอยู่เหมือนกันนะ”  จิวฮวาพึมพำเบาๆกับตัวเองหลังจากขออนุญาตท่านพ่อบุญธรรมที่สนทนากับเถ้าแก่อย่างออกรสว่าจะออกมาสำรวจด้านนอก

พลักกก !

“โอ้ยยย” แต่แล้วจู่ๆก็มีหญิงนางหนึ่งเดินมาชนนางทำให้ผ้าคลุมหน้าหล่นพื้น

เหมือนทุกอย่างหยุดนิ่ง ทุกคนมองนางตะลึงค้าง โดยเฉพาะหญิงที่ตั้งใจชนนาง ก่อนที่เสียงซุบซิบภายในบริเวณดังขึ้นทันทีเนื่องจากตรงนี้มีคนสัญจรไปมา

‘นางเป็นบุตรบ้านใดกัน

‘งดงามยิ่งนัก’

‘แม้แต่นางสนมในวังยังสู้มิได้’

“ปะ เป็นอันใดหรือไม่เจ้าคะ” เมื่อหญิงนางนั้นตั้งสติได้จึงเข้ามาถามไถ่

“ข้ามิเป็นอันใด”  จิวฮวาเอ่ยก่อนจะรีบหยิบผ้าคลุมขึ้นมาคลุมหน้าเช่นเดิม  มีคนเห็นหน้าข้าแล้ว จะบอกท่านพ่อบุญธรรมอย่างไรดี

“ขอโทษจริงๆเจ้าค่ะ ข้าขอตัวก่อน” หญิงนางนั้นเอ่ยก่อนจะรีบเดินออกไป  จิวฮวาจึงไม่เก็บมาใส่ใจและเดินออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางสายตาผู้คนที่มองนางแม้จะลับสายตาไปแล้วอย่างอยากรู้อยากเห็น

เฮ้ออ หมดกันวันสงบสุขของข้า

“กรี๊ดดดดด !”

ตุ้บ

พลัก

“ใจเย็นๆเจ้าค่ะคุณหนู”

“เป็นแค่ขี้ข้าอย่ามาสั่ง !!”

 เกลียด นางเกลียดมัน

หลังจากที่นางแสร้งให้บ่าวรับใช้ไปเดินชนสตรีนางหนึ่งเพื่ออยากรู้ว่าหญิงแพศยาหน้าตาเป็นอย่างไรภายใต้ผ้าคลุมนั่น ถึงทำให้ ‘จินเทียน’ ของนางสนใจยิ่งนัก แต่ผลที่ได้กลับทำให้ใจนางร้อนเสมือนมีเพลิงมาเผาไหม้ ด้วยความริษยาหญิงผู้นั้นเป็นร้อยเท่าพันเท่า 

ใบหน้างดงามสุดแสนภูมิใจของนาง เทียบไม่ติดกับหญิงผู้นั้นเลยแม้แต่น้อย  ขนาดเขายังไม่เห็นหน้านางแต่ให้ความสนใจได้ขนาดนี้ ถ้าเห็นหน้าไม่ลุ่มหลงนังแพศยานั่นไปเลยหรือ ไม่ได้ นางต้องทำอะไรสักอย่าง !

“ชิงเถา !!”

“ขอรับคุณหนู” เงามืดที่แฝงตัวอยู่รีบออกมาทันทีหลังได้ยินเสียงคุณหนูของตน

“ข้ามีงานให้เจ้าทำ”  นางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์  หึ ถ้ารอดก็ให้รู้ไป !

“เฮ้ออ เหนื่อยยิ่งนัก” จิวฮวาทรุดตัวนั่งหลังจากเดินสำรวจพื้นที่แห่งนี้ได้สักพักใหญ่  โลกมนุษย์มีที่ที่น่าสนใจเยอะแยะเต็มไปหมด แต่สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดคงหนีไม่พ้นประตูใหญ่ทึบด้านหน้าเขียนว่า หอสุขสรรค์  นางกำลังจะเข้าไปแต่มีชายร่างใหญ่หน้าโหดที่ยืนเฝ้าประตูสองคน เดินมาบอกนางว่าเข้าไม่ได้เพราะมันสำหรับชาวยุทธ

ทำไมมมม เห็นข้าเป็นสตรีแต่ข้าก็มีความสามารถนะ นางคิดอย่างไม่เข้าใจ

แต่พอแอบดูอยู่สักพักนางกลับเห็นชายแก่พุงพลุ้ยเดินมาพร้อมผู้ติดตามมากมาย ยื่นเงินให้นิดหน่อยก็ยิ้มซะจนเห็นแต่ฟันกับเหงือก ก้มหัวเคารพแทบติดพื้นคือจะเข้าไปได้ต้องยัดเงินถูกมะ ? อยากเข้าแทบขาดใจแต่ประเด็นสำคัญคือ นางมีเงินที่ไหนกันล่ะ !!!

“เฮ้อออ” นางถอนหายใจหลายรอบอย่างใช้ความคิดว่าจะเข้าไปในนั้นอย่างไรดี 

“ให้ข้าช่วยอะไรหรือไม่แม่หนู” นางรีบเงยหน้าขึ้น พบชายชราหน้าตาใจดีแต่งกายด้วยชุดกึ่งเก่ากึ่งใหม่กำลังมองมาที่นาง

“ท่าน…”

“ข้าเห็นเจ้าทำหน้าเครียดมาสักพักแล้ว ให้ข้าช่วยอันใดหรือไม่”

“ข้าอยากเข้าไปในนั้นเจ้าค่ะ”  จิวฮวาตัดสินใจเอ่ยบอกพร้อมชี้ไปทางประตูทึบที่มีชายหน้าโหดยืนเฝ้าอยู่ 

“เจ้าจงยื่นตรานี้กับชายหน้าประตูตรงนั้น” ชายชรายื่นป้ายสีน้ำตาลมาให้  หญิงสาวมองป้ายในมือของชายชราอย่างชั่งใจ สุดท้ายตัดสินใจเอื้อมมือหยิบมา

“ขอบคุณเจ้าค่ะ”  นางเอ่ยด้วยความดีใจ ไม่คิดว่าบนโลกมนุษย์จะมีคนใจดีขนาดนี้ นับว่าเป็นความโชคดีของนางจริงๆ  นางคิดก่อนจะเดินไปที่ประตูใหญ่อีกครั้ง โดยไม่รู้เลยว่าเสียงชายชราเมื่อสักครู่จะกลายเป็นเสียงแหบพร่าของชายหนุ่ม

“ขอโทษจริงๆแม่นาง ข้าขัดคำสั่งไม่ได้…

ด้านในเป็นโถงขนาดใหญ่  นางมองพื้นที่รอบๆด้วยความตื่นเต้น มีผู้คนมากมาย แต่งตัวแปลกๆละลานตาไปหมด ผู้คนที่นี่พกดาบกันมาเหมือนเป็นเรื่องปกติ  หันมองซ้ายทีขวาทีอย่างไม่รู้จะเดินไปทางไหนต่อ

“เจ้าหรือผู้เข้าแข่งขัน” พลันเสียงหนึ่งดังขึ้น  จิวฮวาหันไปมอง ภาพด้านหน้าปรากฏชายสวมชุดสีเหลืองทอง ให้ความรู้สึกสูงส่งนัก  ร่างสูงโปร่ง คิ้วเข้ม จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากหยักลึก  หากอยู่โลกปีศาจ ชายผู้นี้คงโดนปีศาจสาวรุมแย่งเป็นแน่  แม้สำหรับนางหน้าเช่นนี้บนโลกปีศาจจะหาได้โถมไป

แต่เดี๋ยวนะ แข่งขันอะไร ใครเข้าแข่งขัน ?

“ข้าไม่เข้าใจ”  เอ่ยตามความจริง แค่ยื่นป้ายตามชายชราบอก หาได้เอ่ยจะเข้าแข่งขันแต่อย่างใด ชายผู้นี้ทักคนผิดแล้ว

“ก็ป้ายที่เจ้าถืออยู่นั่นไง ป้ายของผู้เข้าแข่งขัน”

“ห๊ะ !!!”   หญิงสาวร้องลั่นเมื่อเขาชี้มาตรงป้ายสีน้ำตาลที่อยู่ในมือ อยากจะตะโกนดังๆว่านางไม่รู้เรื่องโว้ยยยยยย

“ข้าไม่รู้นะว่าเจ้าได้มันมาอย่างไร แต่ที่ป้ายมีตัวเลขอยู่ …”  รีบยกขึ้นมาดูทันที มีเลขอยู่จริงๆด้วย

ต่อไปขอเชิญผู้เข้าแข่งขันหมายเลข 12

จู่ๆ ห้องโถงที่เหมือนมีไว้สำหรับเล่นอะไรสักอย่าง ก็มีเสียงประกาศมาแว่วๆ เหมือนเสียงประกาศมันอยู่ชั้นล่างนี้

‘หมายเลข 12 งั้นหรือ’  นางพึมพำพร้อมมองดูเลขป้ายตามชายตรงหน้าบอก  ในมือปรากฏตัวเลข 13

“เลข 13” 

“หึๆ ดีใจด้วย เจ้าขึ้นสู้ต่อจากนี้แล้วนะสาวน้อย” 

“!!!!”  นางอยากจะกรี๊ดดังๆแล้วบอกว่าไม่รู้เรื่องแข่งขันอะไรนี่ทั้งนั้นแต่กลับพูดมันไม่ออก เพราะเป็นผู้รับป้ายนี้มาเองไม่ได้โดนใครบังคับ

ซวยแล้วจิวฮวา !

“ตอนนี้ยังไม่มีใครล้ม ‘มัน’ ได้”  ชายชุดเหลืองเอ่ย  เขาพาหญิงสาวเดินลงมาชั้นใต้ดินแล้วพามานั่งตรงไหนสักที่ของห้องโถง  จิวฮวาใช้สายตาสำรวจรอบๆ  พบว่าจำนวนผู้คนชั้นบนที่มาเทียบกับคนในห้องโถงนี้ไม่ได้เลย  ส่วนใหญ่เป็นบุรุษ สตรีมีบ้างประปราย  ทุกคนนั่งเหมือนกำลังดูอะไรสักอย่าง 

เมื่อหันไปมองตาม ช่างเป็นกิจกรรมแปลกประหลาดนักในสายตานาง มนุษย์ชอบดูอะไรแบบนี้งั้นหรือ เบื้องหน้าเป็นลานกว้างมีคราบเลือดสีแดงฉาน พร้อมด้วยเศษชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ 

นางเข้าใจแล้วทำไมผู้เฝ้าประตูด้านหน้าถึงมองอย่างตกตะลึงในตอนแรกที่หญิงสาวยื่นป้ายอัปมงคลนี้ให้  ที่นี่มันลานประลองเพื่อเอาชีวิตรอดชัดๆ  คิดพร้อมมองชายแต่งตัวคล้ายชาวยุทธกำลังสู้กับสัตว์อสูร

ใช่ ทุกคนฟังไม่ผิด ชายคนนั้นกำลังสู้กับสัตว์อสูรที่มีพละกำลังมากกว่าโข แม้แขนข้างหนึ่งจะขาด คาดว่าน่าจะถูกฟันอันแหลมคมของมันกระชากแต่เขากลับไม่หยุดการต่อสู้

“ชายผู้นั้นกล้าหาญมาก แต่ยังขาดประสบการณ์”  ชายที่นั่งข้างเอ่ยวิเคราะห์ชายหนุ่มผู้นั้น  แววตามีประกายความชื่นชม

“หากสู้ไม่ไหวขอยอมแพ้…”

“ย่อมได้ แต่จำนวนเงินของผู้ชนะนั้นล่อตาล่อใจผู้เข้าแข่งขันไม่ใช่หรือ”   เขาบอกแต่ประโยคหลังเหมือนหันมาถามนาง อะไร ข้าไม่รู้เรื่อง เงินอันใดกัน  ข้าคือคนดวงซวยที่เผอิญผ่านมา

“ต่อให้มีเงินมากองด้านหน้าข้าหลายร้อยตำลึงทอง หากต้องแลกด้วยชีวิต ข้าก็ไม่ขอเสี่ยง !!”  เรื่องอะไรจะไปเสี่ยงเพื่อเงินที่ไม่รู้ว่าถ้าสู้ไปตายขึ้นมาจะได้ใช้เงินนั้นไหมกัน อีกอย่างจุดประสงค์ที่มาที่นี่ไม่ใช่เงินสักหน่อย

“ฮ่าๆ งั้นเจ้าจะบอกว่าที่มาลงแข่งขันเพื่ออยากทดสอบฝีมืองั้นสิ” เขาเลิกคิ้วพลางหัวเราะเยาะหญิงภายใต้ผ้าคลุมเหมือนเป็นตัวตลก  ทำให้นางแอบหน้างอง้ำแต่ก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดตอบกลับไป อยากตะโกนใส่หน้ากวนโอ๊ยนั่นดังๆว่า

ทดสอบฝีมืออันใดกัน ข้าคือตัวโง่งมที่เห็นแก่ของฟรีเลยโดนหลอก!

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • The Evil Queen ฝืนลิขิตร้ายกลายเป็นลิขิตรัก   ลิขิตรัก 13 อนุคนแรก

    ลิขิตรัก 13 อนุคนแรก“อ๊ะ อื้มมมม” ไม่ทันได้ตอบกลับ ริมฝีปากโดนปิดด้วยริมฝีปากหนาของคนที่คร่อมอยู่ทันที มือของเขาอยู่ไม่นิ่ง จับร่างกายไปทุกส่วน ข้าสะดุ้งทันทีที่เขาจงใจกดร่างกายท่อนล่างกับส่วนนั้นของข้าทั้งที่ตัวเองยังมีเสื้อผ้าอยู่ครบ แต่มันก็อดรู้สึกแปลกๆไม่ได้“อื้มมม” เขาครางกระหึ่มอย่างพอใจและยิ่งกระหายในกายข้ามากยิ่งขึ้นเมื่อมือแกร่งจับมือนิ่มของข้าให้เลื่อนลงไปสัมผัสกลางลำตัวที่บัดนี้โป่งพองแข็งสู้มือข้าจนแทบจะระเบิด แต่ดูเหมือนเขาพยายามข่มอารมณ์ไว้คล้ายอยากเล่นสนุกกับร่างกายข้ามากกว่านี้“อ้าปาก” ดุเสียงเข้มเมื่อข้าปิดปากไม่ให้ลิ้นร้อนนั่นเข้ามาได้อีก“อ๊ะ!” เขากัดริมฝีปากข้าเมื่อเห็นว่าข้ายังดื้อไม่ยอมเปิดปากตามเขาสั่ง ก่อนจะครางอย่างพอใจเมื่อลิ้นร้ายกาจเข้ามาไล่ต้อนข้าได้อย่างจนมุมปากหนายังไซร้คอข้าอยู่และมีทีท่าว่ากำลังจะเลื่อนลงมายังหน้าอกหน้าใจที่มันใหญ่จนล้นมือเขา มือทำหน้าที่ไม่อยู่นิ่ง บีบคลึงหน้าอกอย่างมันมือ ส่วน

  • The Evil Queen ฝืนลิขิตร้ายกลายเป็นลิขิตรัก   ลิขิตรัก 12 หลอกใช้

    ลิขิตรัก 12 หลอกใช้เพล้ง !“เป็นอันใดหรือเจ้าคะท่านพี่เฟยหลง” เสียงหวานเอ่ยถามชายคนรัก เมื่อเห็นร่างสูงปล่อยความกดดัน จนแจกันแตกเป็นเสี่ยงๆ“มิเป็นอันใด ต้องขออภัยเหมยเอ๋อร์ด้วยแล้วที่ทำให้เจ้าตกใจ” ชายหนุ่มหันมองหญิงคนรักที่เดินเข้ามาตั้งแต่เมื่อใดไม่รู้ สบถในใจที่เผลอใช้พลังจนอาจเกือบทำให้หญิงคนรักบาดเจ็บ“น้องมิเป็นอันใดเจ้าค่ะ ว่าแต่ผู้ใดหนอที่ทำให้ท่านพี่อารมณ์ไม่ดีเช่นนี้”“เรื่องงานหน่ะ” ร่างสูงไม่ได้โกหก ทุกคืนเขาจะออกไปตรวจในเมืองโดยรอบ จนบางวันปะทะเข้ากับพวกนอกด่านแทบไม่ได้นอน แต่ส่วนหนึ่งคิดไปถึงต้นตอที่ทำให้ตนเป็นเช่นนี้อีกเรื่อง อยากจัดการกับหญิงไร้ยางอายนั่นเด็ดขาด แต่ทำไมใจมันถึงสั่นตลอดเมื่ออยู่กับนางอาคเนย์ที่นางใช้เรียกเขานั้นไม่รู้เป็นชายใด แต่พอนางพูดชื่อนี้ ใจเขามันหงุดหงิดทุกครั้ง แทบอยากกระชากร่างบางให้หยุดเรียกชื่อนั้น แล้วจดจำเพียงชื่อเขา พลันความคิดต้องหยุดชะงักลงยามเขาได้จับไปที่สร้อยท

  • The Evil Queen ฝืนลิขิตร้ายกลายเป็นลิขิตรัก   ลิขิตรัก 11 ไร้ยางอาย

    ลิขิตรัก 11 ไร้ยางอาย “อุ้ย พี่เฟยหลง”“เดินระวังๆสิ เหมยเอ๋อร์” เสียงทุ้มที่เดินตามหลังประคองร่างบอบบางของคนรักไว้ในอ้อมกอดอย่างทะนุถนอม สายตาคมดุคนในอ้อมแขนไม่จริงจังนัก“คิกๆ เหมยเอ๋อร์รู้อยู่แล้วว่าพี่ต้องไม่ปล่อยให้เหมยเอ๋อร์เป็นอันใด” เสียงหวานใสตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม“พี่อยู่กับเจ้าได้มิตลอด เจ้าก็ต้องระวังตัวให้มาก” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยความเป็นห่วง พลันครุ่นคิดเรื่องที่ได้ยินมาตลอดเวลา ศัตรูย่อมต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเร้นหาจุดอ่อน หากพวกมันรู้ว่าเขามีคนรักต้องหาทางทำร้ายนางเป็นแน่“อย่าทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างงั้นสิเจ้าคะ เหมยเอ๋อร์มิเป็นอันใดง่ายๆหรอกนะ” นางบอกคนรักที่ทำหน้ากลัดกลุ้มใจอย่างชัดเจน“พี่ก็หวังให้เป็นเช่นนั้น”“จริงสิ สร้อยที่น้องให้...”“พี่ใส่ติดตัวไว้ตลอดเลยล่ะ” หยางหลงสลัดความคิดฟุ้งซ่านทิ้งไปก่อนจะยกแขนข้างขวาที่สวมสร้อยลูกปัด ซึ่งคนรักร้อยเองกับมือขึ้นมาให้ดู เขาใส่ต

  • The Evil Queen ฝืนลิขิตร้ายกลายเป็นลิขิตรัก   ลิขิตรัก 10 ไม่เชื่อใจ

    ลิขิตรัก 10ไม่เชื่อใจ“เจิ้นมิเคยเห็นเจ้าทำหน้าเครียด มีเรื่องทุกข์ใจอันใดหรือ” ชายหนุ่มบนบัลลังก์เอ่ยถามสหายที่ยามนี้เหมือนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว“หามิได้พะย่ะค่ะ” ร่างหนาผู้ถูกถามตอบกลับคล้ายปฏิเสธกลายๆ“อืมม หรือเจ้ากำลังคิดถึงหญิงนางนั้น” สายตาคมปราดมองอย่างหยอกล้อ หญิงนางนั้นที่ว่าคงหนีไม่พ้นนางที่ลานประลองแคว้นเฟิง“กระหม่อมมิสนผู้ใจนอกจากเหมยฟาง” และเขาก็ยังคงกล่าวออกมาเช่นเดิม สายตาเย็นชาช่างราบเรียบคล้ายเหนื่อยหน่ายกับทุกสิ่ง จนผู้เป็นใหญ่แห่งแคว้นต้าเช่นเขานึกอยากเห็นว่าจะมีหญิงใดในหล้าทำให้แม่ทัพใหญ่ผู้นี้เปลี่ยนไปได้หรือไม่ ซึ่งแม้กระทั่งคู่หมายที่เป็นบุตรสาวของเสนาบดีฝ่ายซ้ายเองก็ยังมิอาจทำได้“หึ ๆ เจิ้นก็ยังตรัสคำเดิมว่าจะรอดู”“หากหวงช่างเชิญมาเพียงเท่านี้ กระหม่อมขอลา” ชายหนุ่มลุกขึ้นโดยยังไม่ได้รับอนุญาต หน้าตานิ่งเฉยบ่งบอกว่าไม่เกรงกลัวอาญาเลยแม้แต่น้อย“ดะ เดี๋ยวเจิ้นมีเรื

  • The Evil Queen ฝืนลิขิตร้ายกลายเป็นลิขิตรัก   ลิขิตรัก 9 พบเจอ

    ลิขิตรัก 9พบเจอหนึ่งชั่วยามผ่านไปจบเสียที…กี่ตัวกันนะ 10 ตัว 50 ตัว หรือมากกว่านั้น ข้าทิ้งตัวลงนอนที่พื้นอย่างคนหมดแรง เนื้อตัวเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด คิดว่าถ้ากลับไปต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าชั่วยามกว่าจะล้างมันออกหมด ตามร่างกายมีรอยกรงเล็บที่ร่างกายสมานบาดแผลไม่ทันเนื่องจากมันมีเยอะเกินไปโฮกกกกกเหลืออีกตัวหรือ ข้าหันไปมองทางต้นเสียง เห็นมันหนึ่งตัวขู่คำราม เห็นเขี้ยวแหลมคมที่สามารถฉีกร่างกายมนุษย์พร้อมกินอย่างไม่เหลือแม้แต่กระดูก มันทำท่าพร้อมกระโจนเข้ามาทุกเมื่อ แต่ข้าหมดแรงแล้วนะ คิดในใจทว่าสมองสั่งให้ลุกขึ้น แต่ร่างกายกลับหนักอึ้งแขนขาขยับได้อย่างยากลำบากอาจเป็นเพราะนี่มันเลยขีดจำกัดของความเป็นมนุษย์มามากแล้ว สุดท้ายจึงล้มตัวลงนอนที่เดิม จบแล้วสินะ ชีวิตข้าคงมาได้เพียงเท่านี้ ข้าขอโทษท่านพ่อท่านแม่ที่มิอาจกลับไปหาพวกท่าน ลาก่อนท่านอาค

  • The Evil Queen ฝืนลิขิตร้ายกลายเป็นลิขิตรัก   ลิขิตรัก 8 เทพเซียน

    ลิขิตรัก 8 เทพเซียนยามจื่อ (23.00 - 24.59 น.)“ฝั่งนั้นมีกี่ตัว” ข้าสวมชุดสีดำทะมัดทะแมง พร้อมผ้าคาดผืนบาง เหลือเฉพาะดวงตา มองไปมาเหมือนนักฆ่าไม่มีผิด“2 ตัวขอรับ” ฮุ่ยเฉินที่แต่งตัวไม่ต่างจากข้าเอ่ยบอก ตอนนี้บาดแผลเขาสมานกันดีแล้ว เหลือเพียงรอยขีดข่วนจากกรงเล็บที่แขนนั่นนิดหน่อย พละกำลังก็เหมือนจะฟื้นตัวแล้วด้วย ข้าคงลืมบอกอีกอย่างสินะ เลือดของข้าหน่ะ นอกจากจะรักษาบาดแผลแล้วยังฟื้นฟูพลังตบะ นี่คือเหตุผลว่าทำไมข้าถึงไม่อยากให้ผู้อื่นรู้เรื่องนี้ เพราะข้าเกลียดความวุ่นวาย“จัดการ” ข้าบอกเขาเสียงเรียบก่อนที่ตัวเองจะปรี่ตัวเข้าไปจัดการอีกฝั่งที่มี 5 ตัว ลักษณะของมันแตกต่างจากซือเป่าลิบลับ เหมือนสัตว์อสูรกายมากกว่าเป็นสัตว์อสูร มันมองมาอย่างหิวโหยแต่ก่อนที่มันจะกระโจนใส่ ข้าชิงเรียกดาบศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาก่อนจะฟันไปที่ลำตัวของมันจนเลือดสีดำคล้ำสาดกระเด็นเปื้อนชุดข้าและนี่คงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เลือกหยิบชุดสีน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status