Home / รักโบราณ / คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์ / บทที่ 44 เรื่องบนเตียงนอนแข็งๆ

Share

บทที่ 44 เรื่องบนเตียงนอนแข็งๆ

last update Last Updated: 2025-06-24 23:08:15

ลู่มู่เฉินหลับตา พยายามควบคุมความรู้สึกและความปั่นป่วนที่ท้องน้อย ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจเพื่อให้ลมหายใจตัวเองสั่นน้อยลง จากนั้นค่อยๆ ใช้สองมืออุ้มหลี่เฟิ่งเซียนขึ้นเพื่อเอานางไปวางนอนบนเตียงอย่างทะนุถนอม แต่ทุกสิ่งไม่ได้เป็นดั่งที่เขาคาด มือข้างซ้ายของเขาใช้การไม่ได้ดั่งใจคิด เขาทำสะโพกของนางหล่นบนเตียง!

“โอะ!..” หลี่เฟิ่งเซียนส่งเสียงร้อง รีบใช้สองมือโอบคอเขาไว้

ทั้งสองคนล้มไปบนที่นอนแข็งๆ เขาลนลานรีบชันตัวขึ้น แต่ติดสองแขนบอบบางที่คล้องคอของเขาเอาไว้ ลู่มู่เฉินจึงต้องอยู่ในท่านั่งชันเข่าหลังโค้ง

“เจ็บหรือไม่ ข้าไม่ได้ตั้งใจ” เขาถาม แม้เขาจะพยายามปรับอารมณ์แล้ว แต่เสียงของเขาก็ยังแหบพร่าเล็กน้อย

“ไม่เจ็บ” หลี่เฟิ่งเซียนทำเสียงเล็กเสียงน้อยตอบ ดึงเขาลงมากอดอย่างเขินอาย แม้นางจะชื่นชอบและเชี่ยวชาญการวิ่งไล่ตามบุรุษรูปงาม แต่ความรู้สึกเช่นเมื่อครู่ นางยังไม่เคยพานพบมาก่อน จึงยังไม่รู้จะรับมืออย่างไร

คนตัวสูงที่ถูกนางกอดเก้งก้างทำอะไรไม่ถูก แต่เขาไม่สามารถอยู่ห้องเดียวกับนาง กอดจูบดังใจคิดได้อีก เขาเกรงว่าคนเช่นเขาจะทำให้นางเสียเวลาชีวิตกับเขามากเกินความจำเป็น

“ข้าต้องออกไปดูอาการของจ้าวเหลียง” เขาพูดขอร้องทั้งที่ไม่จำเป็น

“ไม่เอา ..” หลี่เฟิ่งเซียนกอดเขาไว้แน่นขึ้น สูดกลิ่นเปลือกไม้จากเขาอย่างเมามาย

“อย่าเหลวไหล วันนี้เจ้าดื้อมากพอแล้ว ข้าต้อง..ต้องไปดูว่าเขายังไม่ตาย เจ้า นอนพักที่ห้องนี้ อีกเดี๋ยวข้าจะกลับมา” เขาต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่ง แทบจะกัดฟันพูด เพราะยามนี้ ริมฝีปากของเขาอยู่ใกล้กับติ่งหูที่เขาหลงใหลอย่างช่วยไม่ได้

หลี่เฟิ่งเซียนนึกถึงร่างคนที่ปล่อยให้นางทั้งชกทั้งเตะต่อยโดยไม่ตอบโต้ นางจึงค่อยๆ คลายอ้อมแขนออก ปล่อยให้ลู่มู่เฉินได้ชันตัวลุกขึ้น

เขาลงจากเตียง ถอดรองเท้าให้นาง ถอดถุงเท้า พยายามไม่มองเท้าน่ารักนั้นและรีบห่มผ้าให้หลี่เฟิ่งเซียน จากนั้นก็รีบออกจากห้องนอนของตัวเอง ไม่ยอมหันไปมองนางด้วยซ้ำ แต่ด้วยความที่หลี่เฟิ่งเซียนกำลังเมามายกลิ่นเปลือกไม้จากที่นอนของเขา นางจึงไม่ได้สังเกตเห็นความรีบร้อนนั้น

เขาไปแล้ว หลี่เฟิ่งเซียนมองตามหลังที่ค้อมงอของเขา แต่ในหัวว่างเปล่าคิดสิ่งใดไม่ออก นางพลิกตัวตะแคงเพื่อมองแสงโคมไฟในห้องของเขา สูดกลิ่นหอมเปลือกไม้ของเขา ไล่สายตามองไปทั่วห้องของเขา ความปั่นป่วนยามที่เขาสัมผัสกอดจูบยังคงอยู่จนนางไม่รู้จะทำอย่างไร ยังคงเมามายไม่จบสิ้น

ครู่ต่อมานางรู้สึกเปียกเย็นชื้นที่ด้านในต้นขา นางตกใจรีบลุกขึ้นมานั่งสำรวจตัวเอง นางนึกว่าเพราะเมามายจนควบคุมไม่อยู่ทำให้นางแอบฉี่เล็ดโดยไม่รู้ตัวเหมือนตอนสมัยเด็กๆ ในใจกลัวว่าถ้าเขากลับมาแล้วพบนางฉี่บนที่นอนเขาอาจรังเกียจนางได้

นางใช้มือคลำแล้วแต่ตรงเป้ากางเกงก็ไม่ได้เปียก บนฟูกบางๆ ก็ไม่มีรอยเปียก หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกสับสน นางไม่ได้ฉี่ แต่นางรู้สึกจริงๆ ว่าขาเปียก..

หลี่เฟิ่งเซียนล้วงมือเข้าไปด้านในกางเกง ลูบไล้สำรวจขาด้านในที่รู้สึกเย็นๆ นางพบว่าเป็นเมือกเหนียวๆ มันไม่ใช่เปื้อนเพียงต้นขา แต่ตรงสองกลีบลูกท้อก็เหนอะหนะเปียกชุ่ม คล้ายว่าเมือกเหนียวนี้จะออกมาจากผลท้อของนางเอง นางล้วงจับเมือกนั้นขึ้นมาดู มันไม่มีกลิ่นแปลกๆ แต่เป็นสีใสๆ ทั้งนุ่มทั้งลื่น

หลี่เฟิ่งเซียนไม่รู้จะทำอย่างไร เสื้อที่สวมอยู่ก็เป็นเสื้อของลู่มู่เฉิน นางรีบลุกขึ้นไปหาเสื้อผ้าชุดใหม่ของเขาเพื่อเปลี่ยน แต่เปิดดูในตู้ไม้แล้ว เขามีเสื้ออยู่อีกเพียงสองชุด ตัวที่นางใส่อยู่เป็นชุดที่ใหม่ที่สุด นางรู้สึกสงสารสามีของตัวเองจับใจ นางเป็นภรรยาไม่ได้เรื่องที่ไม่เคยใส่ใจเรื่องความเป็นอยู่ของเขาเลย

หลี่เฟิ่งเซียนจึงมองหาเศษผ้ามาใช้เช็ด โชคดีที่เขาเป็นหมอ จึงมีเศษผ้าสีขาววางเป็นชั้นๆ อยู่ในตู้ไม้มากมาย นางหยิบมาผืนหนึ่งใช้เช็ดคราบเหนียวใสตรงระหว่างขา และรีบใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย จากนั้นก็มองสำรวจไปทั่วห้อง

ห้องของลู่มู่เฉินเล็กมากเมื่อเทียบกับห้องของนาง ทั้งห้องมีโคมไฟแค่ที่เดียวตั้งอยู่บนโต๊ะกลางห้อง ผ้าม่าน ผ้าห่ม ผ้าปูและฟูกก็เป็นของเก่า ทั้งยังบางจนให้ความอบอุ่นได้เล็กน้อยเท่านั้น ยังดีไม่เท่าห้องเก่าของเขาที่ชายแดนเลย หากเขาไม่ได้วางสมุนไพรหอมตามจุดต่างๆ ในห้องนี้อาจจะเหม็นกลิ่นอับจนนอนไม่ได้ นางรู้สึกปวดหัวใจในความโง่เขลาของนาง

หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกได้แล้วว่าท่านย่าไม่ชอบลู่มู่เฉินเอามากๆ เรื่องนี้ไม่มีทางเป็นความคิดของฮูหยินรอง เพราะนางอ่อนแอเกินไป ไม่มีทางกล้าทำเช่นนี้กับคนที่คุณหนูใหญ่รัก ตั้งแต่วันแรกท่านย่าก็สั่งให้ลู่มู่เฉินไปนั่งคุกเข่าในศาลบรรพชน นางเริ่มหวาดกลัวว่าที่เขาต้องแยกห้องนอนก็อาจจะเป็นเพราะถูกท่านย่าบีบบังคับ

‘ข้ามันโง่จริงๆ เป็นภรรยาที่ไม่ได้เรื่องยิ่งนัก ข้าเป็นคนผิดเอง’ นางก่นด่าตัวเองในใจ ก่อนจะค่อยๆ ขยับกลับขึ้นไปนอนบนเตียงแข็งๆ ของเขา

หลี่เฟิ่งเซียนตั้งใจจะรอเขากลับมาก่อนค่อยกอดเขานอนด้วยกัน แต่รออยู่นานเขาก็ยังไม่กลับเข้ามา นางนอนในที่นอนของเขา แม้ผ้าห่มและฟูกจะบางไปหน่อย แต่ยังให้ความอบอุ่นได้ ทั้งยังเป็นที่นอนของลู่มู่เฉินที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมเปลือกไม้จางๆ ของเขา

นางมองโคมไฟรอเขาไปเรื่อยๆ ด้วยเวลาที่ล่วงเลยจนดึก ตัวนางที่ใช้แรงมากมายไปกับการทุบตีจ้าวเหลียง กลิ่นหอมเปลือกไม้อ่อนๆ ความเมามายกับรสจูบที่ไม่เคยรู้จัก และคิดถึงความใจสั่นจนร่างกายแปลบปลาบในรสสัมผัสที่สามีมอบให้ นางเริ่มง่วงนอนและหลับไป..

คืนนั้นหลี่เฟิ่งเซียนนอนหลับไม่สนิท เพราะเตียงของลู่มู่เฉินแข็งมาก แข็งไม่ต่างจากพื้นเปียกแฉะในคุกใต้ดิน นางจึงฝันถึงเรื่องเลวร้ายที่นางไม่อยากจดจำอีกครั้ง ค่ำคืนที่นางถูกปิดปากด้วยยาสลบแสบจมูก เสียงของนางแหบแห้งพูดไม่ได้แม้จะตะโกนสุดเสียง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 50 ภรรยาผู้อื่นยืนอยู่ตรงนี้

    เรื่องราวในคืนนั้น ความหอมหวานที่เขากอดกกนาง รสจูบ ความนุ่มนิ่มนุ่มนวล ทุกอย่างทำให้เขาไม่กล้าเดินไปที่เตียงนั่น แม้บนเตียงนั้นจะเปลี่ยนผ้าปูผ้าห่มใหม่ทั้งหมดแล้วก็ตาม เขายังคงรู้สึกว่ากลิ่นหอมหวานจากตัวนางยังคงติดอยู่ที่จมูก'ตัวเจ้าหอมมาก' คำพูดของหลี่เฟิ่งเซียนลอยมา นางเคยพูดชมเขาเช่นนั้นหลายครั้งแล้ว เขาไม่แน่ใจว่านางได้กลิ่นอันใดทั้งที่บนตัวเขามีแต่กลิ่นยา เขาเองก็อยากจะบอกกับนางว่า 'ตัวเจ้าหอมน่ากินมาก' เพราะบนตัวของนางมีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายดอกไม้ผสมกลิ่นบางอย่างคล้ายหนิวหน่าย[1] ต้มผสมน้ำผึ้ง เป็นอาหารของชาวอิ่นตู้ที่เขาเคยได้ลิ้มลองเมื่อครั้งยังท่องเที่ยวไปทั่ว มันอร่อยและหอมติดจมูก ดังนั้นเมื่อเขาได้กลิ่นนี้จากตัวนาง เขาจึงรู้สึกน้ำลายสอ อยากจะกลืนกินครั้งแล้วครั้งเล่า เสียดายก็แต่เขาพูดออกไปเช่นนั้นไม่ได้ ในที่สุดลู่มู่เฉินก็ดึงผ้าห่มจากเตียงและลงไปนอนบนพื้นแทน เขาไม่รังเกียจที่จะนอนบนพื้นเพราะเขาเคยนอนในที่ที่ลำบากมากกว่านี้ พื้นแข็งๆที่ทำจากไม้ขัดมันอย่างดี ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการนอนหลับของเขาลู่มู่เฉินนอนหลับด้วยความยากเย็นเพราะมัวแต่คิดถึงนาง ในขณะที่หลี่เฟิ่งเซียนแทบ

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 49 เรียนรู้การเข้าหอ

    “มันก็ไม่ใช่ฉี่เช่นนั้น มันออกมานิดเดียว ไม่ได้เปื้อนผ้าห่ม แต่ก็เปื้อนตามขาด้านใน จับต้องได้ เพราะมันเหนียวๆ ใสๆ” หลี่เฟิ่งเซียนหน้าทั้งร้อนทั้งแดง เรื่องน่าอายเช่นนี้นางไม่เคยพูดกับใคร แต่หากเป็นเช่นคืนนั้นอีก ตอนเขากำลังเข้าหอกับนาง นางไม่รู้ว่าจะรับมือเช่นไร สู้อับอายกับอาหงยังดีเสียกว่า อย่างน้อยนางข่มขู่อาหงได้“หรือว่า..ที่จริงแล้วข้ากำลังป่วยอยู่” หลี่เฟิ่งเซียนพูดออกไปเมื่อคิดได้บางอย่าง นางเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา“ห๊ะ! เอ่อ ไม่สิ ไม่ใช่ ให้ข้าถามก่อนเจ้าอย่าเพิ่งโวยวาย....ฉี่ที่เจ้าพูดนั้น มันใสๆ เหนียวเล็กน้อย และออกมาจากผลท้อของเจ้า เจ้า..เจ้าเคย..กับท่านเขยแล้วหรือ” อาหงพยายามสรรหาคำพูดที่ฟังแล้วไม่น่าเกลียดเกินไปมาถาม“เคยอะไร ข้าไม่เคยสักครั้ง เราสองคนยังไม่เคยเข้าหอ หากเคยไปแล้วข้าจะมานั่งกลุ้มใจเช่นนี้หรือ” หลี่เฟิ่งเซียนตัดพ้อ“เจ้าไม่เคยแล้วน้ำใสๆ นั่นจะออกมาได้อย่างไรกัน” อาหงขมวดคิ้วแน่น“ก็นั่นสินะ ข้า ข้ากำลังป่วยใช่หรือไม่” หลี่เฟิ่งเซียนสลดยิ่งนัก“แล้วน้ำนั่น ไหลมาตอนไหนหรือ” อาหงซักอย่างละเอียด“ห๋า เอ่อ ก็ ..ก็หลังจากที่เขา ..เขา..เขากัด” หลี่เฟิ่งเซียนอธิบาย

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 48 เรียนรู้เรื่องในห้องหอ

    เป็นครั้งแรกที่นางได้ยินเขาพูดครั้งเดียวยาวๆเช่นนี้ หลี่เฟิ่งเซียนพูดไม่ออกได้แต่นิ่งฟัง“ที่ท่านย่าไม่ชอบข้า นั่นก็เพราะนางรักเจ้ามาก อยากให้เจ้าได้แต่งงานกับผู้ที่จะดูแลเจ้าได้ ผู้ที่จะสามารถแบกตระกูลหลี่ไว้บนบ่า แต่เจ้ากลับคว้าเอาใครไม่รู้เช่นข้ามาแต่งงาน ทั้งอัปลักษณ์ ทั้งพิการ นางเพียงกลัวว่าภายภาคหน้าเจ้าจะลำบาก หากว่าท่านแม่ทัพไม่อยู่แล้ว” ลู่มู่เฉินเข้าใจความคิดของท่านย่าเป็นอย่างดี และไม่โทษผู้ใดที่เขามีชีวิตเช่นนี้ “แต่ว่า..เจ้าจะเจ็บมือหากอยู่ในที่เย็นๆ” นางยังคงเป็นห่วงเขา แม้จะเริ่มเข้าใจสิ่งที่เขาพูด“ไม่ต้องห่วง ข้ามีกล่องเข็มของเจ้าช่วยชีวิตแล้ว เวลาที่รู้สึกเจ็บ ข้าสามารถฝังเข็มที่มือบรรเทาความเจ็บได้” เขาตอบอย่างอ่อนโยน“เจ้า พูดจริงหรือ เจ้าย้ายไปอยู่ในห้องดีๆก็ได้ จวนของข้าสามารถดูแลเจ้าได้ ไม่จำเป็นต้องประหยัดเพียงนั้น เจ้า ..ข้าไม่ได้รังเกียจเจ้า” หลี่เฟิ่งเซียนยังดื้อดึง คำพูดท้ายๆนางไม่กล้าสบตาเขาเพราะความเขินอาย จึงก้มหน้าลงบิดมือไปมา“อย่าเหลวไหล ถึงจวนของเจ้าจะมีเงินมากมาย แต่ก็ต้องรู้จักรักษา และหามาเพิ่ม พรุ่งนี้เจ้าควรไปขอโทษท่านย่าด้วย เข้าใจหรือไม่” เข

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 47 ยังไม่หลับ

    “รีบลุกขึ้นมา เจ้าไม่สบายอยู่ เดี๋ยวจะอาการหนักกว่าเก่า” หลี่เฟิ่งเซียนเป็นห่วงสามี“อย่าเหลวไหล ท่านย่าทำโทษเจ้าอยู่ อย่างไรข้าย่อมต้องรับโทษแทนเจ้า เจ้าอย่าทำให้ท่านโกรธอีก” ลู่มู่เฉินดุนาง หลี่เฟิ่งเซียนก็เงียบตามเขาพูด นั่งลงข้างๆเขา“เจ้าไม่ต้องทำเช่นนี้ มีข้ารับโทษแทนเจ้าแล้ว เมื่อวานเจ้าเหนื่อยทั้งคืน หากยังต้องมานั่งคุกเข่าตากอากาศเย็นตอนกลางคืน เจ้าจะไม่สบายได้” เขาพูดอย่างอ่อนโยนกับนางลู่มู่เฉินพูดถึงเรื่องที่นางชกต่อยจนชายชาตินักรบผู้หนึ่งอย่างจ้าวเหลียงต้องนอนรักษาตัวลุกไม่ขึ้น แต่หลี่เฟิ่งเซียนกลับนึกไปถึงเรื่องที่เขาทำให้นางอ่อนระทวยจนไม่มีแม้แต่แรงขยับตัว นางรู้สึกแก้มสองข้างร้อนๆ กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เพราะมืดแล้ว สาวใช้ที่ยืนรอบๆต่างไม่สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของคุณหนูใหญ่ แต่ไม่ใช่ลู่มู่เฉิน เขารับรู้ถึงความเขินอายของนางได้ คราแรกเขาไม่แน่ใจว่าเหตุใดจู่ๆนางจึงเขินอาย แต่เมื่อนึกย้อนทบทวนคำพูดของตัวเองแล้ว เขารู้สึกกระอักกระอ่วนไม่น้อยในความชวนให้เข้าใจผิดของคำพูดนั้น สองสามีภรรยาโง่งมต่างเขินอายโดยไม่มีผู้ใดรับรู้เพล้ง!! เสียงถ้วยกระเบื้องแตกดังออกมาจากเรือนของ

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 46 คุกเข่า

    หลี่เฟิ่งเซียนรีบร้อนไปรับยู่ยี่กลับมา แต่พอไปถึงที่พักของคนใช้นอกจวน นางก็ได้รับรู้ว่ายู่ยี่ไม่ได้อยู่ในที่พักนี้ ยู่ยี่ถูกบังคับให้ไปเช่าบ้านอยู่ และวันนี้นางก็ต้องไปซักผ้าที่แม่น้ำ หลี่เฟิ่งเซียนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น นางยิ่งรู้สึกผิดต่อยู่ยี่ที่พามาลำบากอยู่ในเมืองหลวง หลี่เฟิ่งเซียนสัญญากับตัวเองว่าหากพานางมาได้แล้วจะดูแลนางให้ดีขึ้นเรื่องนี้ หรือเรื่องสามี ทั้งสองเรื่องผิดที่ตัวนาง นางเป็นคนพาพวกเขามาแต่ไม่ดูแลพวกเขา คิดว่าท่านย่ารักนางอย่างไรก็จะดูแลคนของนางให้ดี ที่ไหนได้ท่านย่ากลับเห็นคนไม่เท่ากัน บ่าวก็ยังเป็นบ่าว บ่าวก็ยังแบ่งกันเป็นหลายชั้น สูงต่ำกันไปตามมารยาทที่ได้รับฝึกสอนอีก ส่วนเขยของจวนแม่ทัพอย่างลู่มู่เฉิน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าท่านย่ารังเกียจเขาเพียงใด บังคับให้เขาอยู่ในห้องมืดๆ ผนังไม่ดี ลมเย็นพัดเข้ามาได้ตลอดคืน ผ้าห่มฟู่ปูนอนก็เป็นของเก่า ทั้งที่นางก็บอกไปแล้วว่าเขาป่วยอยู่ในห้องที่มีอากาศเย็นนานๆไม่ได้ นางไม่อาจไม่รับความผิดนี้ นางจะชดเชยให้พวกเขาหลี่เฟิ่งเซียนควบขี่ม้าไปรับยู่ยี่ที่แม่น้ำ ทันทีที่นางเห็นคุณหนูใหญ่ ยู่ยี่ก็ร้องไห้ออกมายกใหญ่ ทั้งด่าทั้งบ่นคุณหนูใหญ่

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 45 นอนในห้องของสามี

    มือเย็นยะเยือกที่ไร้เนื้อหนัง บนหลังมือยังเต็มไปด้วยตุ่มใส เล็บยาวสีแดงน่ากลัว คืบคลานเข้าหาตัวนางทีละเล็กทีละน้อย มือข้างนั้นดึงเสื้อผ้าของนางขาดจนไม่เหลือชิ้นดี หลี่เฟิ่งเซียนตัวแข็งทื่อคล้ายโดนพิษขยับไม่ได้มือที่มีเพียงกระดูกนั้นผลักนางด้วยความแรงชนิดที่นางคิดไม่ถึง ตัวนางล้มลงไปบนกองฟางเปียกชื้น มันทั้งเหม็นทั้งคัน นอกจากกองฟางนั้นแล้วรอบๆ มีแต่สิ่งปฏิกูล นางร้องขอความช่วยเหลือแต่อ้าปากไม่ได้ ทั้งห้องอับชื้นมีเพียงแสงสว่างสายหนึ่งส่องเข้ามาจากด้านบนนางรู้สึกได้ถึงริมฝีปากที่งับเบาๆ แถวปลายคาง ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปตามผิวเนื้อวิ่งตรงไปที่ท้องน้อยของนาง ก่อนจะทำให้ผลท้อชมพูของนางสั่นระริกราวกับโดนไฟลวก สองมือที่มีแต่กระดูกตระกองกอดนาง บีบบังคับให้นางต้องแอ่นอกไปชิดโครงร่างผอมแห้ง ลิ้นชื้นแฉะเลียไปตามคอระหง วกกลับไปดูดริมฝีปากล่างของนางเบาๆ แต่นางยังรู้สึกเจ็บมากหลี่เฟิ่งเซียนกลัวจับใจ แต่ร่างนั้นยังคงกอดกัดนางต่อไป มันกัดริมฝีปากของนางจนเปื่อยก่อนจะผลักนางล้ม ฉีกกระชากตู้โตวของนาง ก่อนจะทาบทับลงไปบนหน้าอก นางรู้สึกถึงยอดถันชมพูที่กำลังเสียดสีกับโครงกระดูก ก่อนที่โครงกระดูกจะโน้มตัว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status