แชร์

ตอนที่ 110 เจ้าช่วยปลดปล่อยข้าที

ผู้เขียน: ท่านจอมยุทธ์1991
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-12-03 12:42:15

ภายในห้องโถงเงียบงัน แสงตะเกียงส่องสลัวสะท้อนเงายาวบนพื้นหินเย็นยะเยือก อัครเสนาบดี จ้าวเจี้ยนกั๋ว นั่งอยู่เพียงลำพังบนเก้าอี้ไม้แกะสลัก มือใหญ่ถือถ้วยชาละเอียดแน่นแต่ท่าทีไม่อาจซ่อนความกระวนกระวายได้ กลิ่นชาหอมกรุ่นกลับไม่ช่วยกลบความกังวลที่เกาะกุมหัวใจ

ริมฝีปากหนาเอื้อนเอ่ยเสียงต่ำปนหงุดหงิด “ทำไมเจ้าพวกนั้นถึงได้กลับมาช้านัก…” สายตาคมเหม่อมองไปยังประตูใหญ่ราวกับจะทะลุความมืดด้านนอก ความไม่สงบทำให้ปลายนิ้วเคาะเบา ๆ กับถ้วยชาราวกับจะระบายความอึดอัดทว่าเสียงหนึ่งกลับดังแทรกขึ้นมา เย็นชา คมกริบราวกับมีดสั้นกรีดกลางใจ

“คนของเจ้าข้าได้ส่งไปโลกหน้าหมดแล้ว”

เสียงนั้นดังสะท้อนอยู่ในโสตประสาท ทำให้จ้าวเจี้ยนกั๋วสะดุ้งเล็กน้อย เขาเงยหน้าขึ้นอย่างช้า ๆ เพียงเพื่อเห็น สตรีลึกลับ ก้าวออกมาจากเงามืด นางงดงาม ดวงตาคมเรียบนิ่งราวกับสายน้ำแข็งที่ไร้คลื่นไหว แต่กลับแผ่รังสีเย็นยะเยือกที่บีบคั้นอากาศรอบห้องเพียงแค่การปรากฏตัวของนาง บรรยากาศทั้งห้องพลันหนักอึ้งเหมือนถูกกดทับด้วยภูเขาใหญ่ริมฝีปากเหี่ยวย่นคลี่ยิ้มบางที่เต็มไปด้วยความขมขื่น เขาเอ่ยช้า ๆ ด้วยน้ำเสียงที่พยายามรักษาความสงบ แม้ในใจจะพลุ่งพล่าน

“ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลย…ว่าสตรีที่บุตรชายของข้าหมายตาจะเป็นยอดคนเช่นนี้”

ภายในห้องโถงกว้างเงียบงัน มีเพียงเสียงหยดชาที่หยดกระทบถ้วยเป็นจังหวะเบา ๆ อัครเสนาบดี จ้าวเจี้ยนกั๋ว นั่งสงบนิ่ง สีหน้าเต็มไปด้วยความเหน็ดเหนื่อยและความว่างเปล่า เขาค่อย ๆ หลับตาลง สูดหายใจลึกเพื่อปรับใจที่สั่นคลอนให้กลับมาตั้งมั่นอีกครั้ง รสชาเข้มขมที่เขาจิบเป็นดั่งสหายสุดท้ายในยามปลายทาง

ห้วงสติพาเขาย้อนกลับไปยังความผิดบาปนับครั้งไม่ถ้วน ทุกอุบายชั่วร้าย ทุกการสังหาร และทุกการตัดสินใจต่ำช้าที่เขาทำลงไป ล้วนเพื่อตอบสนองความต้องการของบุตรชายเพียงผู้เดียว โดยไม่เคยคิดถึงเกียรติหรือศักดิ์ศรีของตนเองเลยสักครั้ง และครั้งล่าสุด…เขากลับถูกบีบบังคับให้ทำเรื่องที่เลวทรามที่สุดส่งมือสกปรกไปฉุดพร่าสตรีที่ไม่รักบุตรชายของเขา

ดวงตาเหนื่อยล้าคล้ายจะมีน้ำใสเอ่อ ก่อนเสียงพร่าหนักแน่นจะหลุดออกมา “สาวน้อย…เจ้าช่างโชคดีนักที่ปลอดภัย” น้ำเสียงนั้นไม่ใช่เพียงคำพูดธรรมดา หากแต่เป็นการสารภาพทั้งความยินดีและความละอาย ว่าเขายินดีที่แผนครั้งนี้ล้มเหลว เพราะหากสำเร็จ มันคงเป็นตราบาปชั่วชีวิตที่ไม่มีวันลบเลือนริมฝีปากที่สั่นเครือขยับอีกครั้ง เปล่งเสียงอ่อนแรงเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง “ข้ามีเรื่อง…อยากจะขอร้องเจ้า… เจ้าช่วย…ปลดปล่อยข้าที”

หลานเยว่ ยืนอยู่ท่ามกลางเงามืด ดวงตานิ่งดุจน้ำแข็ง ไร้ซึ่งความโกรธและความสงสาร การเคลื่อนไหวของนางรวดเร็ววูบเดียวราวกับเงาสะบัดคมมีดสติของอัครเสนาบดีดับสิ้นในพริบตา ร่างใหญ่เอนพิงเก้าอี้ก่อนทรุดลงอย่างเงียบสงบ ไร้ความเจ็บปวดเสียงเย็นเฉียบเอื้อนเอ่ยเป็นถ้อยสุดท้ายของนาง ก้องสะท้อนในห้องโถงที่ว่างเปล่า“หากชาติหน้ามีจริง…ขอให้เจ้าได้บุตรชายที่ดี” ทันใดนั้น ร่างของหลานเยว่ ก็ค่อย ๆ จางหายไปราวกับหมอกควันในราตรี เหลือเพียงร่างไร้วิญญาณของจ้าวเจี้ยนกั๋วและกลิ่นชาที่แปรเปลี่ยนเป็นความเย็นเยียบเป็นฉากสุดท้ายของอำนาจที่ยิ่งใหญ่ซึ่งดับสูญไปโดยไม่เหลือแม้เงา

แสงอรุณแรกสาดส่องลงบนหลังคาจวนใหญ่ของอัครเสนาบดี แต่แทนที่วันใหม่จะเริ่มด้วยความสงบสุข กลับเต็มไปด้วยเสียงวุ่นวายโกลาหล บ่าวไพร่วิ่งพล่านไปทั่วเมื่อพบว่า จ้าวเจี้ยนกั๋ว สิ้นลมอยู่ในห้องโถง ร่างสูงใหญ่ยังนั่งพิงเก้าอี้ท่ามกลางความเงียบสงัด ใบหน้าสงบคล้ายเพียงแค่หลับใหล ริมฝีปากคลี่ยิ้มบาง ๆ ราวกับฝันดีในยามสุดท้าย หาได้มีร่องรอยทรมานใด ๆ ไม่

เสียงคร่ำครวญแผดดังขึ้นเมื่อ จ้าวหย่งหยู ถูกเข็นเข้ามาในห้อง สายตาขุ่นมัวเบิกกว้างเมื่อเห็นร่างไร้วิญญาณของผู้เป็นบิดา หัวใจของมันเหมือนถูกฉีกออกเป็นเสี่ยง ๆ มือพิการสั่นเทิ้มทุรนทุราย ริมฝีปากบิดเบี้ยวพยายามเปล่งเสียงพร่าขาดห้วงออกมา

“ท่ะ…ท่านพ่อ…ตั๋ว…ตัวท่าน…จะทิ้งง…ขะ…ข้าไป…บะ…บ่ะได้ดั๋ววว…”

น้ำเสียงสั่นเครือปนสำลักลมหายใจดังสะอื้นสะอื้นปนฟังแทบไม่รู้ความ เลือดซึมบางเบาไหลออกจากมุมปากยามเขาขยับริมฝีปากสั่น ๆ ดวงตาเบิกโพลงพร่ามัวด้วยน้ำตา

“แร้วว…ใคะ…ใคร…จาเป๋น…มือออ…เป๋นเท้าออ…ไห่ขะ…ข้า…”

ภายในโถงใหญ่ที่เงียบสงัด มีเพียงเสียงหอบหายใจติดขัดของ จ้าวหย่งหยู ดังสะท้อนก้องไปมา ดวงตาพร่ามัวเต็มไปด้วยความสับสน เขาจ้องร่างไร้วิญญาณของบิดาไม่กะพริบ ใบหน้าซีดเผือดที่ยังคงประดับรอยยิ้มสงบ ราวกับคนกำลังหลับฝันดี ทำให้หัวใจของเขายิ่งปั่นป่วนริมฝีปากบิดเบี้ยวสั่นระริก พยายามกลั่นถ้อยคำที่แทบฟังไม่เป็นภาษา“ท่านพ่อ…ทำไม…ตั๋ว…ตัวท่าน…ถึงสิ้นน…ลม…ง่ายดั่กนี้…ท่านมีพลั่…พลังปราณสูงส่ง…ทำไม…ถึง…”

เสียงพร่าแตกขาดห้วงดังสะท้อนเจือปนด้วยเสียงสะอื้น มันไม่อาจเข้าใจได้เลยว่าบิดาผู้ทรงอำนาจ อัครเสนาบดีผู้ยิ่งใหญ่ จะจากไปอย่างง่ายดายเช่นนี้ ทั้งที่ตลอดชีวิตไม่เคยมีสิ่งใดโค่นล้มได้

แต่สิ่งที่ จ้าวหย่งหยู ไม่เคยรู้ คือบิดาของมันเลือกจะจากไปเอง เลือกจะปลดปล่อยพันธนาการแห่งความละอายและตรอมใจ เพราะทนมองการกระทำอันชั่วร้ายและเอาแต่ใจของผู้เป็นลูกไม่ได้อีกต่อไป สำหรับเขา บุตรชายมิใช่ทายาท หากเป็นเพียงกากเดนที่กัดกินหัวใจผู้เป็นพ่ออย่างช้า ๆ

และในคืนสุดท้าย เขาจึงฝากความตายไว้ในมือของ หลานเยว่ ผู้ซึ่งเย็นชาและเด็ดขาด ให้เธอเป็นผู้ปิดฉากชีวิตอันหนักอึ้งด้วยการจากไปอย่างสงบ ปลดปล่อยทั้งเกียรติและความอับอายทิ้งไว้เบื้องหลัง

ทว่า จ้าวหย่งหยู ที่นั่งร้องไห้คร่ำครวญอยู่ตรงนั้น ไม่เคยรู้เลยว่า รอยยิ้มสงบของบิดา หาใช่เพราะความสุข…แต่เป็นการหลุดพ้นจากลูกชายที่เขารักสุดหัวใจ แต่ก็ผิดหวังที่สุดในชีวิต

ณ ศาลาริมน้ำยามรุ่งสาง แสงแดดอ่อนคลอคล้ายม่านหมอก สาดลงบนเรือนร่างบอบบางของ หลานเยว่ ที่นั่งนิ่งอยู่ท่ามกลางสายลมอันเยือกเย็น แววตาของนางทอดยาวไปยังผิวน้ำที่สงบนิ่ง ราวกับกำลังขบคิดเรื่องราวอันหนักอึ้งในค่ำคืนที่ผ่านมา

ริมฝีปากเรียวขยับช้า ๆ เปล่งเสียงแผ่วเบา แต่ทุกถ้อยคำกลับแฝงด้วยความหนักแน่น ราวกับคำพิพากษาที่ส่งออกไปสู่โชคชะตา “เห็นแก่ความเด็ดเดี่ยวของเจ้า… ข้าจะเมตตาให้โอกาสมัน ได้มีชีวิตรอดอีกสักครั้ง”

คำพูดของนางไม่ได้หมายถึงผู้ล่วงลับอย่าง จ้าวเจี้ยนกั๋ว แต่แท้จริงแล้วมุ่งตรงไปถึง จ้าวหย่งหยูบุตรชายพิการผู้เอาแต่ใจของเขา ชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยความริษยาและความบ้าคลั่ง หากตามปกติ นางคงไม่ลังเลที่จะสั่งเด็ดชีพมันไปเสียตั้งแต่ต้น ทว่าเพียงเพราะบิดาของมันยังกล้าพอที่จะยอมวางศักดิ์ศรีและชีวิตในมือของนาง นางจึงยอมลดหย่อนโทษ ให้มันได้หายใจต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง

สำหรับนางแล้ว จ้าวเจี้ยนกั๋ว อาจจะเป็นปีศาจในสายตาผู้คน แต่ความรักที่เขามีต่อลูกชายเป็นสิ่งที่แท้จริง และเพราะความรักนั้นแม้จะผลักเขาลงสู่หุบเหวแห่งความตายกลับทำให้หลานเยว่เลือกจะผ่อนปรนให้เจ้าง่อยที่เป็นต้นเหตุของทุกสิ่ง

นัยน์ตาของนางยังคงนิ่งสงบ ไม่หวั่นไหว ไม่ใช่ความสงสารที่ทำให้นางให้โอกาส แต่เป็นการยอมรับใน ความเด็ดเดี่ยวของบิดามันที่เลือกจะสิ้นลมอย่างสงบ นางเพียงจะยืดเส้นชีวิตของลูกชายไว้ชั่วคราว …เพื่อดูว่ามันจะใช้โอกาสนี้อย่างไร หรือสุดท้ายก็ยังคงจมปลักอยู่ในความต่ำตมของตนเอง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 117 สิบสี่ปีต่อมา (จบ)

    กาลเวลาล่วงเลยผ่านไปสิบสี่ปี… ชื่อเสียงของ นักฆ่าไร้นาม ค่อย ๆ กลายเป็นเพียงตำนานเล่าขานในหมู่ผู้คน ถึงแม้ในโลกมืดจะยังมีใบสั่งตายมากมาย แต่ไม่มีใครเคยเห็นพวกเขาออกมาเคลื่อนไหวอีก ราวกับได้หายลับไปจากยุทธภพ เหลือเพียงความเงียบงันที่แฝงไว้ด้วยปริศนาในเวลานี้ ภายในจวนตระกูลซู กลิ่นหอมอ่อนของชาอบอวลอยู่ในห้องโถง หลานเยว่ วัยสี่สิบปี นั่งอยู่ตรงหน้าต่าง แสงแดดอ่อนยามเช้าส่องกระทบเรือนผมดำขลับที่ยังคงเงางาม ความงดงามของนางหาได้ลดทอนลงตามกาลเวลา หากแต่เพิ่มพูนด้วยเสน่ห์อันสงบเย็นและน่าเกรงขาม นางหันไปถามสามีด้วยเสียงอ่อนโยน แฝงด้วยความเย็นชาที่ไม่เคยเลือนหายไป“ท่านพี่… หลานจิ่วอวิ๋น ลูกของเราไปที่ใด?”คำถามของนางเหมือนหยดน้ำเย็นไหลผ่านกลางอก ซูจิ่งหลง ชายวัยหกสิบกว่า ที่แม้ร่างกายจะผ่านศึกและกาลเวลามานับไม่ถ้วน แต่ความสง่างามและอำนาจในแววตายังคงไม่เสื่อมคลาย เขายกยิ้มบาง ๆ ตอบเสียงนุ่ม แต่แฝงความเกรงใจ“เจ้าจะไปห่วงทำไมกัน… บัดนี้หลานจิ่วอวิ๋นเติบใหญ่แล้ว ไม่ใช่เด็กตัวน้อยอีกต่อไป”สายตาของ หลานเยว่ หันมาสบเขา ดวงตาคู่นั้นนิ่งสนิทและเย็นชา ราวกับคมดาบที่ซ่อนอยู่ใต้ฝัก คำตอบนั้นไม่ใช่สิ่งท

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 116 วันมงคล

    แสงแดดยามสายส่องลอดผ่านซุ้มศาลาริมน้ำ เงาไม้ไหวระริกตามแรงลมเย็น เสียงน้ำกระทบฝั่งดังแผ่วเบา บรรยากาศรอบกายดูสงบสุขราวกับไม่มีคลื่นลมใด ๆ เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ซูจิ่งหลงนั่งนิ่ง สายตาเหม่อมองสตรีตรงหน้าอย่างไม่รู้จักเบื่อ หลานเยว่ ยังคงสงบนิ่งเช่นเคย มือเรียวยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างอ่อนช้อย แววตาเย็นชาไร้อารมณ์ ทำให้เขารู้สึกว่าผู้หญิงผู้นี้…ไม่เพียงแต่เป็นมือสังหาร แต่ราวกับเป็นผู้ชี้ขาดโชคชะตาของผู้คนเพียงแค่ปรายตามอง นางไม่จำเป็นต้องลงมือเองเสมอไป เพียงกำหนดเส้นทางให้ เรื่องราวก็จะดำเนินไปอย่างที่นางปรารถนาชายหนุ่มพยายามสลัดภาพชะตากรรมอันน่าสมเพชของจ้าวหย่งหยูออกจากใจ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกสะท้านทั้งจากความโหดเหี้ยมของฟ้า และจากสตรีผู้ลึกลับตรงหน้า“เจ้ามองอะไร” เสียงของนางดังขึ้นเรียบเย็น แต่กลับกระทบเข้ากลางใจเขาราวกับใบมีดบางเฉียบซูจิ่งหลงสะดุ้งเล็กน้อย เขารีบยกยิ้มประดับใบหน้า พยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกที่กำลังพลุ่งพล่าน “เปล่า… ข้าเพียงแค่รู้สึกดีที่มีเจ้าอยู่เคียงข้างเท่านั้น”รอยยิ้มของเขาดูจริงใจ แต่ดวงตากลับซ่อนความเขินอายไว้ไม่มิดหลานเยว่ไม่กล่าวสิ่งใด นางเพียงวางถ้วยชาลงบนโ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 115 จุดจบของกากเดนในร่างมนุษย์

    แรกเริ่ม จ้าวหย่งหยู ยังยกยิ้มเยาะบนใบหน้า มันแสดงสีหน้าถือดีนักที่ได้เห็นอดีตบ่าวรับใช้ทำตัวราวกับสุนัขเชื่อง ๆ ยอมหมอบคลานต่อหน้า ทว่ากาลเวลาไม่เคยเข้าข้างใคร การรอคอยที่เนิ่นนานเกินไปกลับค่อย ๆ เผาอารมณ์อันบิดเบี้ยวของมันให้พลุ่งพล่านมันมาถึงตั้งแต่ฟ้ายังไม่เปลี่ยนสี จนบัดนี้ดวงอาทิตย์ค่อย ๆ คล้อยต่ำใกล้ตกดินแล้ว แต่เงาของเจ้าขี้ข้าก็ยังไม่กลับออกมาเสียที ใบหน้าที่เหยียดหยามในคราแรกจึงค่อย ๆ กลายเป็นความบิดเบี้ยวทั้งโกรธเกรี้ยวและน่าสมเพชเจ้าง่อยตะเบ็งเสียงพร่าหอบ ริมฝีปากสั่นกระตุก น้ำลายเหนียวไหลเลอะเป็นทาง“แค่กกก… อ่อกกก… เจ้า…เจ้าขี้-ชะ-ชั้นต่ำ! กล้าาา…ปล่อยให้ข้า…รอออ…นานถึงเพียงนี้เรอะะะ! ขะ-ข้ามาตั้งแต่ฟ้าา…ยังไม่ทันเปลี่ยนสี…จนตะวัน…จวนจะตกแล้ววว!”เสียงโวยวายแตกพร่า แผดก้องไปทั่วหน้าประตู ราวกับเด็กร่างพิการเอาแต่ใจในสลัมผู้ไม่รู้จักคำว่าอดทนหรือศักดิ์ศรีไม่นานนัก ประตูไม้เก่าโทรมค่อย ๆ ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดแล้วเปิดออกอย่างเชื่องช้า คล้ายเจตนาแอบทดสอบความอดกลั้นของนายเก่า อดีตบ่าวโค้งตัวลง น้ำเสียงราบเรียบคล้ายไร้เดียงสา“ขออภัยด้วยขอรับ… มันเป็นเพราะเรือนข้ารกและสกปรกมากเก

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 114 อดีตบ่าวรับใช้

    สำหรับบางคน…ความตายอาจเป็นเพียงการปลดปล่อย แต่สำหรับจ้าวหย่งหยู เศษเดนในร่างพิการผู้นี้ มันไม่ควรมีจุดจบที่เรียบง่ายถึงเพียงนั้นชีวิตของมันเต็มไปด้วยมลทินที่แม้ตัวมันเองยังจำไม่ได้ว่าก่อกรรมชั่วกับใครไปมากเท่าไรแล้วเคยสั่งลูกน้องรุมซ้อมบัณฑิตผู้ใฝ่ดีจนพิการ เพียงเพราะริษยาที่อีกฝ่ายมีสติปัญญาดีมากกว่าตนเคยฉุดคร่าสตรีงามที่สะดุดตา ไม่สนใจว่านางมีครอบครัวหรือฐานะเช่นไรเคยเหยียบย่ำชีวิตผู้คนจนพังพินาศนับครั้งไม่ถ้วนเพราะบารมีและอำนาจของบิดาอย่าง อัครเสนาบดีจ้าวเจี้ยนกั๋ว ที่คอยปกปิด เก็บกวาด และอุ้มชู ทำให้มันยังลอยหน้าลอยตาอยู่ได้จนถึงวันนี้แต่เมื่อเสาหลักล้มลงแล้ว โลกทั้งใบของมันก็ดิ่งลงเหวอย่างไร้ทางหนีค่ำคืนหนึ่ง ร่างพิการที่นั่งค่อมบนรถเข็นเก่า ๆ จมอยู่ในความมืด ดวงตาขุ่นหมองฉายแววโหยหวน น้ำเสียงแหบพร่าเล็ดลอดออกมาพร้อมหยาดน้ำตา“ท่ะ…ท่านพ่อ… ข้า…คึ-คิดถึงท่าน… เหลือเกิน…”เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของนายน้อยผู้เคยอหังการ แต่คือเสียงสะอื้นของเศษมนุษย์ที่ไร้ที่พึ่งตลอดทั้งวันทั้งคืน ไม่มีแม้แต่อาหารสักคำตกถึงปาก ความหิวกัดกินจนท้องไส้บิดเกร็ง แต่ถึงกระนั้น จ้าวหย่งหยู ก็ยังยึดมั่นในศักดิ์

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 113 ของขวัญแต่งงาน

    ภายในจวนร้างที่เงียบงัน เสียงล้อรถเข็นยังคงเสียดสีพื้นหินดังเอี๊ยดอ๊าดไม่ขาดสาย จ้าวหย่งหยู เข็นตัวเองไปอย่างทุลักทุเล ใบหน้าบิดเบี้ยวชุ่มไปด้วยน้ำตาและน้ำลายที่ไหลยืดเลอะเปรอะคาง ร่างพิการสั่นเทาคล้ายจะล้มพังได้ทุกเมื่อทุกห้องที่มันเปิดเข้าไป ภาพที่ปรากฏตรงหน้าไม่ต่างอะไรกับฝันร้ายตู้หีบสมบัติถูกเปิดอ้า หยกงาม ทองคำ และเงินก้อนโตที่เคยเป็นภูเขาทรัพย์หายวับไปราวกับไม่เคยมีอยู่ ร่องรอยการกวาดล้างปรากฏทุกซอกมุม เหลือเพียงความว่างเปล่ากับความเย้ยหยันที่บีบคั้นหัวใจอันบิดเบี้ยวมันสั่นระริกทั้งร่าง ก่อนจะเงยหน้าขึ้น หัวเราะปนสะอื้นเสียงแหบพร่า“ฮึ่กก… ฮือออ… มะ-ไม่… ไม่นะะะ… ทรัพย์… ซะ-สินของข้าาาาา… ทองคำของข้าาา! ฮ่ะ…ฮึ่กก!”หยาดน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูออกมานั้น มิใช่เพราะมันเสียใจที่ถูกเหล่าคนรับใช้ทอดทิ้ง แต่เป็นเพราะ เกราะกำบังเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของมันทรัพย์สมบัติที่พ่อทิ้งไว้ถูกพรากไปจนสิ้นมันรู้ดีแก่ใจ ว่าที่ผ่านมาอำนาจและรัศมีที่มันอวดอ้างล้วนแล้วแต่เป็นเพียงเงาของบิดาผู้ล่วงลับ กับกำแพงทองคำที่ห้อมล้อมคุ้มครองมัน หากปราศจากสิ่งเหล่านี้ มันก็เป็นเพียง ซากพิการอัปลักษณ์ที่ไร้ค่า เดิ

  • ทะลุมิติมาเป็นนักฆ่าแม่ลูกอ่อน   ตอนที่ 112 นักฆ่าไร้นามเคลื่อนไหว

    ภายในห้องโถงที่เงียบสงัด แสงตะเกียงเพียงไม่กี่ดวงส่องให้เห็นเงาเรียงรายของผู้คนที่ยืนรอคำสั่งอย่างพร้อมเพรียง มือสังหารนับร้อยในชุดดำสนิท ปิดบังใบหน้าแน่นหนา ราวกับเป็นเงามืดที่ไร้ตัวตน แต่ละคนแผ่รังสีอันตรายคล้ายคมดาบที่ซ่อนอยู่ในฝัก ทุกสายตาหันมาจับจ้องยังสตรีเพียงผู้เดียวที่นั่งอยู่เบื้องหน้าหลานเยว่ เอนกายเล็กน้อยบนเก้าอี้ไม้ แววตาคมเรียบเฉยดั่งผืนน้ำแข็งที่ไร้คลื่นกระเพื่อม ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเพียงเสี้ยว ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ต้องใส่ใจนัก ก่อนเสียงเย็นยะเยือกจะเอื้อนเอ่ยออกมา“สังหารสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำในร่างคนพวกนั้นให้สิ้นซาก… และชิงเอาทรัพย์สินของมันมาให้หมด”น้ำเสียงนั้นสงบนิ่งเสียจนชวนขนลุก คล้ายกับนางไม่ได้สั่งการล้างชีวิตผู้คนนับร้อย แต่เป็นเพียงการบอกให้คนของนางไปดูแลสวนหรือจัดการเรื่องบ้านเรือน ความเย็นชานี้เองทำให้ทุกคำยิ่งดังก้องและหนักหน่วงนางหยุดเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยสายตาที่เฉียบคม “เหลือชีวิตไว้แต่เพียง…เจ้าง่อย และคนที่ไม่เกี่ยวข้อง”ถึงแม้นางจะสั่งฆ่าอย่างไร้ความปรานี แต่ก็ไม่มีวันเอ่ยคำให้พรากชีวิตผู้บริสุทธิ์ คำสั่งของหลานเยว่เด็ดขาด นางต้องการเพ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status