Share

21

last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-08 19:50:47

“หมายความว่า... ท่านมาพำนักอาศัยบนโลกมนุษย์สักระยะ ท่านคุ้นชินกับการขึ้นเกวียน ดำเนินชีวิตเยี่ยงผู้สูงศักดิ์ โดยมิได้ใช้เวทเซียนเข้าช่วย”

คล้ายนางกำลังตัดพ้อว่าทำไมไม่มาหานางให้เร็วกว่านี้สักหน่อย ไยท่านอาจารย์จึงปล่อยนางไว้กับความรู้สึกผิดอันท่วมท้นในอก เรื่องที่นางจำต้องโกหกเบื้องบน รับโทษทัณฑ์แทนท่านอาจารย์

“ข้ามิได้มีชีวิตเยี่ยงผู้สูงศักดิ์เหมือนเจ้า ได้ถือกำเนิดเป็นบุตรสาวท่านโหว ข้ากินนอนบนดินทราย อดมื้อกินมื้อ อาศัยกับพ่อค้าเกลือ เผชิญเคราะห์กรรมก่อนขึ้นตรงเป็นแม่ทัพ สวามิภักดิ์ต่อฮ่องเต้”

“ท่านอาจารย์ยินเฟิงคงมองเห็นบางสิ่งจากเบื้องบน จึงเลือกสวามิภักดิ์ต่อฮ่องเต้ผู้นี้...”

ยินเฟิงส่ายหน้าไปมา “มิใช่เลยภรรยา ข้าเพียงเฝ้ารออำนาจในมือเพื่อครอบครองหญิงสาวผู้หนึ่ง ข้าลักลอบไปดูนาง นั่งกินผลส้มบนต้นไม้สูงใหญ่ ใบหน้างดงามแลดูผ่อนคลายไร้กังวล...” มือหนาเลื่อนไปแตะแก้มนวลที่ค่อย ๆ แดงระเรื่อขึ้นตามลำดับ ลูบจับแก้มอุ่นด้วยแววตาอ่อนโยน

“แลเห็นว่ามีความสุขดี จึงตั้งปณิธานแน่วแน่ว่าจะมาสู่ขอเจ้าโดยเร็ว”

หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวแรง เมื่อสามีเล่าเรื่องราวในอดีตไประหว่างทาง เขาจับกระบี่สู้รบในทุกวันจนช่ำชอง แม้มีบาดแผลตามร่างกายก็กัดฟันอดทน รักษาเยียวยาด้วยสมุนไพรมนุษย์ ถึงแม้ว่าบาดแผลจะเลือนหายไปทิ้งไว้แค่ร่องรอยแผลเป็น ต้องคอยปิดบังความลับนี้ไม่ให้ผู้ใดล่วงรู้

ว่าด้วยเรื่องวิชากระบี่นั้นอาจารย์ยินเฟิงเป็นหนึ่งในสำนักเซียวเหยา นางได้รับการฝึกฝนจากท่านอาจารย์ด้วยเช่นเดียวกับศิษยานุศิษย์อื่น ๆ

“ท่านผ่านสมรภูมิรบมามาก”

“เป็นดังเจ้าว่า”

“ในฐานะภรรยาท่าน ข้าอยากจับกระบี่ เรียนวิชาป้องกันตัว...” นางเงียบไป ดวงตาคู่สว่างใสจับจ้องรอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลา พยักหน้าตอบรับนาง

“ข้าตามใจเจ้า ข้าจะสอนเจ้าเท่าที่เจ้าต้องการร่ำเรียน ศิษย์ไป๋”

ใบหน้าสดสวยระรื่นดีใจ หลังจากที่นางได้รับอนุญาตจากสามีผู้ตามใจนางไปเสียทุกอย่าง

ยามเซินนี้เขาพานางกลับบ้านไปเยี่ยมเยียนบิดาเมื่อนางบ่นว่าคิดถึง นางเกิดความคิดมากมายหลายสิ่ง นางอยากฝึกฝนวิชากระบี่กับท่านอาจารย์หากเกิดความไม่สงบ นางคงได้รื้อฟื้นวิชาป้องกันตัว ในยามบ้านเมืองเกิดสถานการณ์คับขัน นางจะได้เอาตัวรอดโดยไม่ต้องรอสามี

นางนั่งแกว่งไกวไปตามทางเดินเกวียน ผ่านบ้านเรือนผู้คน เรือนของบิดาคงอยู่ไม่ไกลนัก นางตั้งใจว่าพบบิดาแล้วจะเลยไปไร่ส้มไปดูความเป็นอยู่ของชาวนาชาวไร่เสียหน่อย พวกเขาสบายดีหรือไม่อย่างไร

บนเกวียนวัวนี้ได้รับความนิยมเมื่อรถม้าหายากขึ้น ก่อนหน้านี้เกิดสงครามทำให้ผู้สูงศักดิ์เริ่มขาดแคลนม้า กระทั่งในวังหลวงจะหาม้าที่มีสีเดียวกันครบสี่ตัวนับเป็นว่าเป็นเรื่องยากยิ่ง

ยินเฟิงนึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ จึงว่า “ผ่านร้อนหนาวในเมืองปีศาจมาเก้าพันปี ไม่นับรวมช่วงเวลายากลำบากบนโลกมนุษย์ ข้าไม่เคยชายตาแลมองหญิงใด นอกจากปั้นดินของข้า นามว่าไปไป๋...”

“นั่นไง ท่านกอดปั้นดินมาตั้งกี่ก้อน พวกนางย่อมเหลือไอรักที่ท่านพันผูกไว้ ท่านจะแก้ไขปัญหานี้ยังไง”

“เป็นหน้าที่ภรรยาควรช่วยคิดว่าข้าควรทำอย่างไรกับปั้นดินที่กลายเป็นเศษดิน ไม่สูญสลาย เป็นไปได้ว่าไฟรักในใจข้าที่มีต่อเจ้า ไม่มีวันดับมอด”

“พูดอะไรเจ้าคะ? เพ้อเจ้อไปกันใหญ่”

“ข้าไม่มีโอกาสได้บอกเจ้าว่าข้ามีความรู้สึกต่อเจ้าเพียงใด ข้าไม่อาจไปไหนไกลจากเจ้า ข้ายินดีรอเจ้า จนกว่าเจ้าจะใจอ่อนยอมกลับไปภพภูมิปีศาจกับข้า...”

ต้องเป็นปีศาจที่ย่ามใจเพียงใด ถึงได้มาใช้ชีวิตร่วมกันมนุษย์เดินดิน โดยไม่ทำร้ายผู้ใด ไม่ใช้เวทปีศาจเข้าช่วย หากมีลมหายใจเพื่อจุดประสงค์เดียว

ไป๋เหม่ยหลานสับสนกับความรู้สึกของนาง ทั้งเหตุผลมากมายในรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ไม่น่าไว้วางใจ นางเองก็ไม่เคยไปเมืองปีศาจ หากไม่นับรวมครั้งที่นางติดกับดักเงือก นางเลยไม่ได้ตอบคำถามสามี จนรถเกวียนหยุดลง

“เอาไว้เจ้าค่อยคิดเรื่องนี้ เมื่อใดก็ย่อมได้ เรารีบไปพบท่านพ่อกันเถิด” พูดจบ เขาลงจากเกวียน ยื่นมือให้ความช่วยเหลือนางจับชายกระโปรงยาวประข้อเท้าขึ้นด้วยใบหน้าสดชื่นแจ่มใส เพื่อไปพบบิดา

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ท่านอาจารย์อย่ารบกวนข้าเลย   49 [จบ]

    ตอนพิเศษ : เศษใบชาในถ้วยกระเบื้องที่มีควันลอยฉุยสลายไปในเวหา อาภรณ์สีนิลสะบัด ยินเฟิงปัดมือเบา ๆ ร่ายเวทปีศาจอย่างระวัง หลังปัดชาใบเล็กไม่ให้ระคายคอภรรยา ขณะก้มหน้ามองนางชักชวนเขาสนทนาไปเรื่อยเปื่อยในฝั่งตรงกันข้าม ชาบนโต๊ะไม้ไม่พร่องไป นางไม่ดื่มมันเสียที“ไยเจ้าไม่รีบดื่มชาให้หมดถ้วยเสีย เย็นหน่อยก็จะไม่อร่อยแล้ว”“เจ้าค่ะ” นางยิ้มพลางยกถ้วยชาขึ้นแตะริมฝีปาก เหลือบตามองสามีที่ชะเง้อคอมองออกไปด้านนอกท้องนทีมืดสนิท บิดาสงสัยว่าบุตรชายของเขาออกไปเที่ยวเตร็ดเตร่ที่ไหน ไม่ทันสังเกตเห็นน้ำในถ้วยหายไป“เจ้าไม่ควรลืมดื่มชาเป็นอันขาด”“ข้าอาจลืมก็ได้”“ไม่ได้”ยินเฟิงได้คำตอบจากภรรยาในรอยยิ้มมีเลศนัย“ข้าจะลืมแน่...”หลังจากนั้นเขาก็เฝ้าอธิบายเหตุผลของตน ไม่ใช่ว่าไม่อยากตามใจนาง ซึ่งไม่เป็นผล เมื่อได้พูดคุยเรื่องบุตรกันทีไร ยากจะหาข้อสรุป...ไป๋เหม่ยหลานมิได้เชื่อฟังสามี นางกำลังนึกถึงช่วงเวลาสำคัญ ร้อยกว่าปีที่ผ่านพ้นมา ความเจ็บปวดทรมานจากการคลอดบุตรเพียงครั้ง ไม่เทียมเท่าความสุขล้นในอกมารดาบุตรชายตัวน้อย ‘อี้เฉิน’ เป็นบุตรชายที่น่ารักใคร่ นางเฝ้ามองเจ้าตัวน้อยนอนหลับใหล ในร่างของทารกและเ

  • ท่านอาจารย์อย่ารบกวนข้าเลย   48

    หลังผ่านพ้นงานวิวาห์ในภพภูมิปีศาจ ร่างอรชรในอาภรณ์สีชาดงดงามพลันหายไปพร้อมกลุ่มไอหยินไป๋เหม่ยหลานตั้งใจไปนำของวิเศษมาให้สามี เพื่อเป็นของขวัญวันแต่งงาน นางใส่ใจกับการเป็นปีศาจและปรมาจารย์ปีศาจ สามีของนักเป็นอย่างมากทว่าระหว่างทางมีปีศาจจิ้งจอกฝีมือเก่งฉกาจเข้ามาขวางทาง ยื้อแย่งก้อนหินน่าอัศจรรย์ไป นางตบะไม่ถึงปีศาจตนนั้น ไม่ได้ของวิเศษจากถ้ำประหลาดที่ได้ยินมาว่ามันเพิ่มกำลังวังชา ทำให้ร่างกายแข็งแรงอายุยืนนานไปอีกนับหมื่นปี นางกลับเมืองเหยียนมือเปล่า พร้อมความเศร้าหมองจนนางเกือบจะร้องไห้ออกมาอย่างผู้อ่อนแอ ขณะปลายเท้าล่องลอยในเวหา หยุดลงหน้าโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง“วันนี้ข้าไม่ได้อะไรเลยสักอย่าง ไปทำเรื่องสำคัญก็คว้าน้ำเหลว ข้าควรมีวันหยุดเสียบ้าง” เสียงหวานบ่นพึมพำ กรงเล็บสีนิลสะอาดกรีดกรายผ่านริมฝีปากสีชาด การผัดหน้างดงามของนางจึงกลายเป็นเรื่องง่ายดาย นางหันไปกล่าวกับสามีที่เหยียบยืนบนพสุธาตามหลังนางมาไม่นาน“ปีศาจควรมีวันหยุดพักผ่อน”“ปีศาจไม่มีวันหยุด”“แล้วจะต้องเหน็ดเหนื่อยไปตลอดกาลเลยหรือ? แค่เฉพาะการบำรุงบำเรอใจสามีอสรพิษในภพภูมิปีศาจ ร่างของข้าแทบป่นเป็นเถ้าธุลี”“นับตั้งแต่เราส

  • ท่านอาจารย์อย่ารบกวนข้าเลย   47

    “ย่อมได้ เมื่อใดก็ได้ทั้งนั้น เราจะไปเยี่ยมบิดาของเจ้าด้วยกัน เราสาม...” รับปากแล้วมือหนาพลันปลดเปลื้องอาภรณ์ กองหล่นบนพื้นไม้เป็นเงามัน เลื่อนสายตามองไปทั่วทุกอณูกายขาวผ่องงาม หน้าท้องแบนราบปรากฏกลุ่มอายสีดำวนเวียนอยู่เหนือสะดือสวยยินเฟิงเข้าใจภรรยาว่าคงไม่คุ้นชินกับร่างกายซึ่งค่อย ๆ กลายเป็นอสรพิษร้าย ที่มีความอิจฉาริษยาเช่นปีศาจสตรี นางใจร้อน ไม่โอนอ่อนตาม นางกำลังตั้งครรภ์ อารมณ์แปรปรวนไม่น้อยขณะมือเรียวลูบบ่ากว้างของบุรุษร่างกำยำ สตรีในอาภรณ์งดงามสีนิลปักทอด้วยลวดลายอสรพิษ เผยอริมฝีปากรับจูบอ่อนหวานของสามีจูบของนางกลับกลายเป็นเร่าร้อนเมื่อเขาเป็นฝ่ายริเริ่ม หลังมื้ออาหารในทุกเช้าค่ำ นางคืบคลานเข้าหา หากสามีไม่เป็นฝ่ายเปิดศึกสู้รับกับนางบนฟูกนอนยับเยิน พร่ำบอกคำรักด้วยการสานราคะ จนกว่าจันทราสีชาดจะลับคล้อยไปในความมืดของเมืองเหยียนในภพภูมิปีศาจ ซึ่งไม่เคยพบแสงตะวันเมื่อสะโพกกลมกลึงยกขึ้น บุรุษร่างกำยำถูกผลักติดกับหัวเตียงไม้สนแดง นางใช้พลังเวททั้งหมดบังคับให้เขาอยู่ใต้อาณัติ ลวดลายที่สลักอย่างงดงามเหล่านั้นกลายเป็นอสรพิษที่มีชีวิต เลื้อยไหลผ่านฟูกนอนและสองเรือนร่างที่สอดประสาน

  • ท่านอาจารย์อย่ารบกวนข้าเลย   46

    “ท่านจะไม่สูญเสียข้าไป ส่วนข้าก็ไม่จำเป็นต้องเฝ้าติดตามท่าน ข้ามีความคิดว่า...” สองมือเรียวผลักอกสามีให้ออกห่างนาง นัยน์ตาสีชาดเบิดกว้างทอประกายชิงชัง “ทำลายใบหน้าหล่อเหลาของท่านเสีย น่าจะสิ้นเรื่องกระมัง”ไม่พูดเปล่า กรงเล็บสีนิลผงาดกางขึ้น ขณะดวงตาคู่สวยสีชาดสั่นไหวลังเล แม้ใจนางปรารถนาจะกรีดใบหน้าหล่อเหลาให้เสียโฉมนัก ด้วยความโง่เง่าของนาง ยังคิดว่าสมควรตัดเจ้ามังกรร้ายทิ้งไปให้หมดทั้งยวง เพราะคงมิใช่เพียงใบหน้าคมคาย บุรุษผู้นี้สามารถสรรค์สร้างความสำราญใจให้สตรีสามีเพียงจับข้อมือเล็ก ๆ ของนางไว้ จูบกรงเล็กและเขี้ยวขาวคมตรงมุมปากสีชาด“เก็บเขี้ยวเล็บของเจ้าไว้ขบกัดสามีจะดีกว่าไหมเล่า? ข้ายังมิได้ต้อนรับการกลับมาของเจ้าเลย ศิษย์ไป๋”แววตารุ่มร้อนทอประกาย จ้องมองแก้มแดงซ่านของภรรยา หลบเลี่ยงสายตาของเขาไปไป๋เหม่ยหลานอดกลั้นจิตใจ มองผ่านหน้าตาบานกว้างสลักลายอสรพิษและปีศาจ สุดสารพัดจะจินตนาการ ท้องนภาปรากฏดวงดาราทอแสงระยิบระยับ ไม่ต่างไปจากยามราตรีโลกมนุษย์ ทว่ากลางนภากว้างมีจันทราสีชาด ส่องสว่างงดงาม สะท้อนลงบนผืนน้ำสีนิลสะอาด------------บทสุดท้าย终章สามียินยอมพร้อมรับการจิกข่วนจากก

  • ท่านอาจารย์อย่ารบกวนข้าเลย   45

    ในน้ำเสียงเศร้าหมองนั้น มือหนาเฝ้าลูบไล้ผิวกายนุ่มเนียน ละเอียดไปทั่วทุกอณู ซึ่งถูกหยุดอายุขัยไว้เพียงสิบเก้าปี ถึงแม้ว่าอารมณ์ราคะกำหนัดจะรุมเร้าอย่างหนัก เขาขยับอ้อมแขนกระชับกอดนางให้รู้สึกอุ่นปลายจมูกโด่งเป็นสันคมเฝ้าซุกไซ้หาความสำราญจากเรือนร่างนุ่มหอม ราวกับว่านางเป็นปั้นดิน แตกต่างที่นางยังคงเป็นนาง เป็นกลิ่นของนางยินเฟิงมีความเชื่อว่านางเพียงหลับใหลในนิทรา อันจะนำพาสู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หลังจากที่พบเห็นว่านางพักผ่อนมากขึ้นเมื่อจำต้องต่อสู้กับพลังอาฆาตแค้นและราคะของปีศาจ นับตั้งแต่ปลูกถ่ายกระดูกเซียนให้นางบนโลกมนุษย์มาเจ็ดเดือนกว่า ครั้งสุดท้ายนั้นเป็นลูกแก้วอสรพิษนางควรลืมตาขึ้นในอีกไม่ช้า เขาจำต้องเฝ้ารอนางอย่างใจเย็น‘หากข้าเศร้าหมองใจ เจ้าคงเป็นทุกข์ไปด้วย เมื่อใดเจ้าลืมตาตื่น ก็ควรจะเป็นวันที่ดีของเจ้า ไป่ไป๋...’สตรีในอ้อมแขนเป็นผู้เดียวในทั่วทุกพรหมโลกที่ทำให้บุรุษร่างกำยำโศกศัลย์อาลัย เขาจ้องมองใบหน้างดงามนิ่งสงบเช่นเดิม มือหนาสะบัดไปมาในอากาศ ปรากฏผ้าผืนใหญ่สีนิลสนิท ห่มคลุมเรือนกายอรชรมิดชิด ร่างกายของนางเย็นเฉียบราวเหมันต์ ผ่อนลมหายใจเข้าออกแผ่วเบา“อื้อ...”

  • ท่านอาจารย์อย่ารบกวนข้าเลย   44

    เมื่อมองอีกครั้งหนึ่งงูเหล่านั้นกลับกลายเป็นสีนิลสนิท ในห้วงฝันนางพบสตรีในอาภรณ์งดงามหัวเราะร่าเริง นางมีใบหน้างดงามอ่อนหวาน‘โอ้... ไป๋เหม่ยหลาน... ศิษย์ไป๋ของท่านเหลือเพียงโครงกระดูก’‘ท่านอาจารย์จะยอมลืมเลือนเรื่องราวระหว่างท่านและนางหรือ?’สตรีอสรพิษคลับคล้ายคลับคลาที่นางเคยพบจากโถดึงความทรงจำ แลเห็นอาจารย์ยินเฟิงในสภาพน่าอดสู ร่างกายผ่ายผอมเหลือเพียงหนังติดกระดูก ล้มลุกคลุกคลานอยู่บนพื้น ทำร้ายหัวใจดวงน้อย ๆ ของนางนักนางได้ยินทั้งสองยื่นข้อเสนอต่อรอง ซึ่งสำหรับอาจารย์ยินเฟิงขอเพียงจดจำนางไว้ในห้วงความทรงจำ หากเป็นไปได้ก็จะออกตามหานางสุดท้ายแล้วนางก็ยังไม่เข้าใจ...ไยท่านอาจารย์ไม่ลืมนางไปเสีย เมื่อมีวาสนาต่อกันย่อมได้กลับมาพบกันอีกในภพหน้า เขากลับยอมกลายเป็นอสรพิษ เพื่อเก็บความทรงจำระหว่างอาจารย์-ศิษย์ เพื่อให้ได้กลับมาครองคู่นางอย่างสามีภรรยา...---------------ยินเฟิงคงไม่อยู่รอพบหมอหลวงจากราชสำนัก เพียงรอท่านโหวผู้มาเยี่ยมเยียนบุตรสาว ก่อนที่จะหันหลังกำมือแน่นแล้วเดินจากไปฉางผิงโหวรู้แก่ใจดีว่าวันนี้จะมาถึงในสักวัน ไม่สามารถรั้งบุตรสาวซึ่งไม่ใช่บุคคลบนโลกมนุษย์เอาไว้ได้ นาง

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status