“สดนะ” โหนเลิกคิ้วพูด ฉันพยักหน้าหงึกหงัก
“อื้อ”
“แตกในด้วย”
“โหน!” เขาหัวเราะออกมาเมื่อแกล้งฉันได้สำเร็จ โหนไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไร รูดแก่นกายเข้ามาถูกับกลีบดอกไม้ของฉันเบาๆ ถูไถแบบนั้นจนฉันเสียววูบวาบไปทั่วทั้งท้องน้อย
มะ... มันจะเข้ามาได้เหรอ ตอนแข็งตัวยาวซะขนาดนั้น
“อ๊ะ โหน!” แต่ยังไม่ทันได้สงสัยจนจบ โหนสอดใส่เข้ามาทันทีโดยไม่ออมมือให้กับคนที่ยังใหม่อย่างฉัน เขารูดเข้ารูดออก ท่อนเนื้อฉ่ำไปด้วยน้ำหล่อลื่น ในขณะที่ฉันรู้สึกเจ็บแปลบๆ
“... แน่นว่ะ”
“จะ เจ็บ” ฉันร้องออกมา น้ำตาเล็ดตอนที่จิกเล็บเข้ากับแผ่นหลังของโหน “โหน... เค้าเจ็บอ่ะ”
“ในตัวเธอคับมากชูใจ” โหนพูดเสียงแหบพร่า “เค้าขยับมันไม่ได้”
“...”
“ลองขึ้นดูเองมั้ยวะ เผื่อจะได้เจ็บน้อยลง?”
[พาร์ท : โหน]
พูดไปแบบไม่คิด แต่กลับเหมือนได้ขึ้นสวรรค์
“อะ อื้อ สอนด้วยนะ” ชูใจที่ไร้เดียงสาหลับตาปี๋ตอนที่ผมชักอาวุธออกมาจากในตัวเธอ หน้าเธอแดงก่ำตอนที่ขยับตัวผุดลุกขึ้นนั่ง จ้องผมตาปริบๆ ทั้งๆ ที่ยังทำหน้าอายสุดกู่
“ขึ้นคร่อมเค้า” ผมพูดสั้นๆ ร่างเล็กขยับตัวทันที เธอลากกางเกงในออกคงเพราะเกะกะ หน้าจิ้มลิ้มกระสับกระส่าย เลิ่กลั่กไม่รู้ว่าต้องทำไงต่อ “ใส่ของเค้าเข้าไปดิ”
“อะ อื้อ” เธอพยักหน้าอย่างว่าง่ายตอนที่คว้าแก่นกายผมมาจ่อที่กลีบเนื้อ ผู้หญิงทุกคนไม่ว่าจะเคยหรือไม่เคย แต่พอขึ้นมานั่งในจุดที่พอดี มันก็จะรู้เองโดยธรรมชาติว่าต้องทำยังไง
ร่องเธอชื้นเปียก ฉ่ำท่อนเอ็นผมไปหมดตอนที่เธอพยายามดันมันเข้ามาด้วยสีหน้าสุดยั่วเย้านั้นจนสุดโคน
“เชี่ย” ผมสบถออกมาแบบเถื่อนๆ เพราะเวลามีเซ็กซ์เป็นคนชอบสบถ พยายามกลั้นไว้แล้ว แต่ภายในตัวเธอทั้งอุ่นทั้งแน่นจนยั้งไม่ไหว
คับไปหมด มันรัดหัวผมแน่นเลยว่ะ
“อ๊ะ” ชูใจขยับตัวขึ้นลงเบาๆ เธอมีท่าทีเสียดเสียวอย่างเห็นได้ชัด มือผมคว้าที่บั้นท้ายของเธอ บีบมันไว้แน่น ก่อนที่จะตบมันเบาๆ พอเธอขยับถี่ขึ้นเพราะความต้องการ
ชูใจเอนกายลงมาซบอกผมในขณะที่ยังขยับสะโพกอย่างไม่ประสีประสา ในกายเธอที่ทั้งแน่นทั้งร้อนมันทำให้ผมอยากจะแตกซะเดี๋ยวนั้น แต่พยายามกลั้นมันไว้แล้วบีบก้นเธอแรงๆ ให้ความอยากเบาลง
แต่ไม่เลยว่ะ ชูใจหยุดกะทันหัน หอบหายใจเหนื่อยเพราะคงเมื่อยแล้ว หัวใจผมเต้นถี่แรงตอนที่เลื่อนมือขึ้นมาจับสะโพกเธอแล้วขยับเองอย่างดุดัน หัวใจที่กระหายของผมร่ำร้องว่า ผมต้องการเธอมากกว่านี้
“อะ อ๊า โหน หะ โหน” เสียงครางหวานล้ำกรีดร้องอยู่ข้างหู แต่ผมกลับรู้สึกดีที่ทำให้เธอเสียวจนทรมาน ผมกระแทกกระทั้นแรงขึ้นแบบไม่ออมแรง บีบขย้ำก้นขาวของชูใจแล้วฟาดมันแรงขึ้นนิดนึง
สนุกว่ะ
จนจังหวะสุดท้าย ชูใจฉี่ราดออกมากลางตัวผม ในขณะที่ผมเองก็ชักลำออกมาเกือบไม่ทัน
เชี่ย แตกเต็มที่นอนเลย
“แฮ่ก...” ร่างเล็กที่ส่วนล่างเปียกชื้นไปยันผ้าปูที่นอนทำให้ผมต้องหยัดกายขึ้นมาโดยที่มีเธออยู่บนตัวผม ชูใจซบเข้ากับอกผม หอบหายใจเหมือนถึงจุดสุดยอดเป็นครั้งแรก
“ฉี่แตกเลย” ผมเองก็อึ้ง เพราะความแรงของตัวเอง ทำให้เธอเสียวจนฉี่ราด “ชูใจ เค้า...”
แต่ไม่ทันที่จะได้แก้ตัวถึงความดุดันเวลามีเซ็กซ์ของตัวเอง ผมก็ได้รับรู้ตอนที่เธอกรนออกมาเบาๆ
ว่าเธอสลบไปแล้วว่ะ ไอ้ชิบหาย
หลังจากเสร็จกิจก็งานช้าง ผมอุ้มชูใจไปนอนบนโซฟา ก่อนที่จะลงมือจัดการกับผ้าปูเตียงด้วยตัวเอง
เลอะเป็นดวง ผมถึงกับต้องส่ายหน้าให้กับความซาดิสต์ที่ผมมอบให้กับครั้งแรกของชูใจ ถ้าเธอรู้ขึ้นมาอายตายห่าแน่
ผมเก็บผ้าปูเตียง มองหาที่ซัก แต่ดูสภาพตัวเองแล้ว คงต้องล้างไอ้นั่นก่อน เพราะมันเปื้อนน้ำหล่อลื่นของชูใจเต็มไปหมดเลยว่ะ
ผมเข้าไปในห้องน้ำ คว้าฝักบัวมาล้างท่อนเอ็นตัวเองที่ยังไม่สงบลง ชูใจตอนขึ้นให้ผมโคตรเซ็กซี่แบบเหลือร้าย เธอทำแบบไม่ประสา แต่โคตรสะกดจิต ยั่วยวนใจผมจริงๆ ว่ะ
ถ้าครั้งหน้าทำอีก จะหลอกให้เธอขึ้นให้อีกทีแน่นอน ผมชอบเวลาที่หน้าอกเธอขยับไปมาแล้วชูชันตอนที่ชูใจโยกสะโพกอยู่บนตัวผม
เชี่ย คิดลึกอีกแล้วอ่ะ
พอผมล้างตัวเสร็จก็ใส่บ็อกเซอร์ เก็บชุดเธอเข้าตะกร้าที่ซัก ก่อนที่จะสะดุดสายตาลงที่ร่างเปลือยเปล่าของชูใจที่นอนอยู่บนโซฟาตัวยาว เธอหลับตาพริ้ม หน้าอกหน้าใจที่พอดีมือขยับไปตามลมหายใจเข้าออก
หัวใจผมเต้นไม่เป็นส่ำ อยากล้างให้แต่ทำได้แค่ควักทิชชู่มาเช็ดน้ำรักของผมที่เปรอะบนตัวเธอออกให้
เอาจริงๆ ผมเองก็รู้สึกดีกับครั้งแรกที่เรามีด้วยกัน ในฐานะที่รอวันที่เธอรักผมมาหลายปีตั้งแต่ ม.ต้น แต่มาถึงวันนี้ใครจะรู้วะ
เราเป็นผัวเมียกันแล้ว
[จบพาร์ท : โหน]
ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาบนโซฟาในห้องตัวเอง ด้านล่างเต้นตุบๆ จนรู้สึกสั่นไปทั้งตัว ก่อนที่จะย้อนความทรงจำก่อนหน้าขึ้นมาได้
ความทรงจำที่ว่าฉันกับโหนเรามีอะไรกันแล้ว
และก็... ฉันก็ฉี่ราดใส่เขาแล้วสลบไป ฮือ
“น่าอายมากเลย” ฉันพึมพำเบาๆ ได้ยินเสียงคนทำอะไรสักอย่างที่หน้าระเบียง หัวใจฉันเต้นแรงเมื่อรู้ว่าโหนยังอยู่ในห้องนี้ ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรอยู่ แต่ไม่กล้ามองหน้าด้วยอีกแล้ว
ผู้หญิงที่ครั้งแรกก็ฉี่ราดใส่แบบนี้เนี่ย ผู้ชายแบบไหนจะไปชอบได้ลง
โหนต้องรังเกียจฉันแล้วแน่ๆ เลย
เสียงข้างนอกยังคงดังอยู่อย่างต่อเนื่อง ฉันฝืนขยับกายที่เมื่อยล้าไปที่ระเบียง หัวใจเต้นแรงตอนที่พยายามมองลอดออกไป
ตึกตัก
ใจฉันเต้นแรงหนักกว่าเก่า ตอนที่เห็นว่าเขา...
กำลังซักผ้าปูที่นอนให้ฉันอยู่
ท่านั่งโหนก็ใช่ย่อยเลย นั่งยองๆ เหมือนพวกนักเลงที่ชอบนั่งสูบบุหรี่ริมถนนอะไรประมาณนี้อ่ะ เขาคีบมวนบุหรี่มือหนึ่ง ส่วนอีกมือก็ล้างผ้าปูเตียงสีขาวสะอาดของฉันเข้ากับน้ำประปา
ฉันแอบดูเขา ใช้ผ้าม่านปิดบังร่างกายตัวเองไว้ เอาจริงๆ การเดินเปลือยให้โหนเห็นก็ไม่ใช่เรื่องน่าอายแล้วอ่ะ ก็อาบน้ำด้วยกันมาตั้งหลายครั้ง
“โหน” เสียงฉันแหบน่าดูตอนที่กลั้นใจเรียกเขา คงเพราะ... ครางไปตั้งเยอะล่ะมั้ง
ร่างสูงหันกลับมามองหน้าฉันทันที
“อ้าว”
“...”
“ตื่นแล้วเหรอ”
ฉันกลับมาแล้วล่ะจริงๆ ก็เพิ่งบินลงมาที่กรุงเทพเมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี่เอง ฉันกลับมาพร้อมกับลูก อุ้มลูกบินข้ามน้ำข้ามทะเลจากญี่ปุ่นมาที่ไทย เพื่อกลับมาสู่ชีวิตเดิมๆ ที่เคยเป็นอยู่พ่อแม่ดูดีใจที่เห็นหลาน แม้ว่าเวลาเกือบปีจะทำให้พวกเขาแทบไม่ค่อยเปลี่ยนไปก็ตาม แต่ไม่ได้บังคับอะไรฉันมากมายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว อีกอย่างตอนที่ฉันตัดสินใจบินไปที่ญี่ปุ่นกับพี่ชาย ฉันเข้าร่วมงานการ์ตูน ออกบู้ทมากมายเพื่อปรับปรุงฝีมือตัวเองที่ทิ้งหายไปนาน โดยมีพี่ชุนคอยดูแลบำรุงฉันที่ท้องโตขึ้นเรื่อยๆ อยู่เสมอฉันไม่ใช่นักวาดการ์ตูนที่ดังที่สุดในญี่ปุ่น แต่ก็พอมีคนรู้จักทั้งต่างประเทศ ญี่ปุ่น และประเทศไทย นามแฝงของฉันคือ ‘Peach’ฉันเริ่มทำงานด้วยการวาดสีน้ำขาย ก่อนที่จะปรับปรุงมาซื้ออุปกรณ์สำหรับวาดภาพในคอมพิวเตอร์ เม้าท์ปากกา โปรแกรมวาดรูปอะไรต่างๆ ที่ต้องซื้อมาอ้อ ฉันสักแบบมินิมอลเล็กๆ ตามจุดต่างๆ ของร่างกายด้วยนะ ขออนุญาตพี่ชายแล้วล่ะ มันก็ดูน่ารักดีเหมือนกัน มุมมองของฉันที่เคยมีต่อคนสักเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเลย ตั้งแต่มาคบกับโหน ฉันก็สนใจอะไรที่ตัวเองไม่ค่อยจะได้สัมผัสมากขึ้นอีกอย่างได้เรียนรู้แฟชั่นของญี่ปุ่
[พาร์ท : โหน]เป็นเกือบปีที่โคตรทรมานใช้ได้ถามว่าทำไมก็ตั้งแต่ที่ไปเคลียร์กับไอ้ลูกโชนวันนั้น มันก็ถอนหมั้นชูใจทันที แต่สาเหตุก็คงเพราะชูใจยังตั้งท้องกับผม ผมไม่รู้ว่ามันได้สารภาพเรื่องที่มันคบซ้อนหรือไม่ แต่ผมไม่สนเท่าไหร่ ขอแค่มันถอนหมั้นก็เป็นพอจะบอกว่าลูกทำให้ผมมีแรงผลักดันโง่ๆ ในเฮือกสุดท้ายก็ได้ และแม่งก็คงโง่จริงๆ เพราะหลังจากที่พ่อแม่เรียกชูใจมาคุยเรื่องที่ไอ้ลูกโชนถอนหมั้น ชูใจก็ตัดสินใจกลับต่างประเทศไปกับพี่ชายเธอ เห็นสายเพื่อนผมมันบอกมาว่าเธอจะอยู่ที่นั่นเป็นปีๆ จนกว่าจะคลอดลูก... ไม่รู้เธอจะกลับมาอีกมั้ยผมกระดกเหล้าลงคอ หลังจากวันนั้นก็ขอมาทำงานในร้านเหล้ากับพ่อ ทำมาได้เกินเกือบปีแล้วว่ะ แต่เป็นเกือบปีที่ผ่านไปได้อย่างยากลำบากผมไม่ได้เหนื่อยกับการรอคนที่ผมรัก เพราะตอนที่แอบรักเธอตอนสมัยเรียน ผมก็ทนมันได้เป็นปีๆแต่ความคิดถึงนี่ดิ มันผ่านยากมากว่ะผมนั่งคิดถึงเธอทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นเวลาทำงาน เวลานอน ทุกวินาทีลมหายใจผมมีแต่ชูใจคนเดียวเท่านั้น ผมตัดสินใจเลิกยุ่งกับใครๆ เพราะผมจะกลับมาหาเธออย่างเด็ดขาดแต่เธอหายไปในที่ที่ไกลเกินเอื้อมถึง เอาตรงๆ ก็ไม่มีเงินตามเธอไปด้วย ไม
ผมมาดักรอไอ้ลูกโชนที่ร้านเหล้าเดิมๆ มาเพื่อจะคุยกับมัน เพราะถ้ามันยังคิดจะยื้อชูใจไว้ต่อไป ผมก็ไม่ไว้หน้าเหมือนกันผมเห็นว่ามันโอบเอวแฟนตัวจริงมาด้วยกัน ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่ผมค่อนข้างไม่คุ้นตา เธอสวย แต่คงไม่เท่าชูใจของกูผมยืนดูดบุหรี่รอ พวกมันเดินไปเต้นที่โต๊ะด้วยกัน ท่าทางกระหนุงกระหนิงทำให้ผมรู้สึกเดือดดาล เป็นครั้งแรกที่รู้สึกอยากต่อยหน้ามันให้เละ แม้ว่าจากที่เคยสืบมา ตัวผมเองคงสู้กำลังมันไม่ได้ก็ตามจนมันย้ายมานัวเนียกันตรงจุดเดิม ผมเลยถือวิสาสะเดินไปขัด“ไอ้ลูกโชน” มันผละปากจากซอกคอของผู้หญิง ก่อนที่จะเลิกคิ้วมองผม ดูเหมือนไอ้ลูกโชนจะเมา“เหี้ยไร? มึงเป็นใคร” ผู้หญิงมองผมอย่างหวาดกลัว ผมแค่นหัวเราะที่มันเมามายจนจำหน้าผมไม่ได้ ก่อนที่จะผลักตัวหนาๆ ของมันจนเซไปทีนึง เพราะไอ้เวรนี่เมามากจนไม่มีสมรรถภาพจะพยุงร่างตัวเองได้เลย“กูมีเรื่องจะคุยกับมึง”“...”“ตัวต่อตัว”“มึงมีไรจะคุยกับกูวะไอ้ขี้ก้าง” ไอ้ลูกโชนพูดอย่างเหยียดหยาม มันมองหน้าผมที่จ้องหน้ามันกลับไปอย่างแน่วแน่ ผมเองก็พร้อมเหมือนกัน ถึงจะรู้ว่าสุดท้ายผมอาจจะสู้มันไม่ได้ก็ตาม“เรื่องชูใจ” ผมตอบไปสั้นๆ มันแค่นหัวเราะทันที“
“เราทนใช้ชีวิตที่ไม่มีเธอไม่ได้ว่ะ” ผมกัดฟันแน่น เขย่าไหล่เธอเบาๆ อย่างออมแรง “ทั้งชูใจ ทั้งลูก เราต้องมีมันจริงๆ”“...”“ถ้าไปไม่ไหว ก็ขอให้คิดใหม่” ชูใจที่สบตาผมในระยะใกล้ ดวงตากลมโตของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา เธอมองหน้าผม ก่อนที่จะเม้มริมฝีปากแน่นและก่อนที่เธอจะได้อ้าปากตอบอะไรกลับมา ความใจร้อนของผมที่อยากได้เธอกลับมาก็ทำให้ผมเลื่อนหน้าเข้าไปจูบเธอหนักๆ ปากที่นุ่มละมุนของชูใจทำให้ผมกุมใบหน้าเธอไว้ ก้มหน้าลงอีกเมื่อรู้ตัวว่าตอนนี้ความสูงเรามันต่างกันเกินไปชูใจพยายามดันอกผมออก ทึ้งเสื้อผมจนมันยับ เธอพยายามดิ้นรนทุกทางที่จะทำให้เธอไม่ทรยศต่อความรักของไอ้ลูกโชน แต่ผมรู้ดี ความรักของแม่งมันเป็นของปลอมทั้งเพถ้าเธอยังเชื่อไอ้เหี้ยนั่นที่มันตอแหลสร้างภาพมาว่ารักหลงเธอนักหนาแบบนั้นลง ผมก็ขอยอมเป็นคนเลวซะดีกว่า ที่จะต้องพยายามทำให้เธอท้องอีกทีในคืนนี้สติผมเลือนราง พอๆ กับแรงผลักไสของชูใจที่เริ่มอ่อนลง ผมไล้ปากของผมไปตามปากเล็กๆ ของเธอ กัดปากล่างของร่างเล็กแล้วช้อนตัวเธอขึ้นอุ้มตัวชูใจเล็กแถมเบาหวิว จนสงสัยว่าหลังจากเลิกกันเธอได้กินอะไรลงบ้างมั้ย ผมลืมตามองเธอระหว่างที่กำลังจูบซับน้ำตาให้เธอตอ
แกรกฉันรีบเปิดประตูออกไปอย่างลืมตัว ด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่มี ฉันเห็นว่าเป็นโหนในลุคที่ดูต่างไปจากเคย เกือบเดือนที่ไม่ได้เจอกัน เขาเปลี่ยนแปลงทั้งสีผม รอยสักที่เพิ่มมากขึ้น และการแต่งตัวโหนที่ยืนจ้องหน้าฉันอยู่ที่หน้าประตู ฉันจ้องตาเขากลับไปเช่นกันแต่สิ่งที่ปรากฏในแววตาของเขา ฉันเห็นว่ามันเต็มไปด้วยความ... โหยหา?“... มาทำไมเหรอ” ฉันถามยิ้มๆ พยายามทำตัวเป็นปกติที่สุดกับเขา ยังไงก็ยังอยากเป็นเพื่อนเขาอยู่นะ ถึงเขาจะเริ่มต้นใหม่ไปแล้วก็ตามฉันคงเหมือนผู้หญิงโง่ๆ คนหนึ่ง ที่ผลักเขาออกไป ทำเหมือนโกรธเขาซะมากมาย แต่สุดท้ายก็โกรธไม่ลง แถมยังขาดเขาไม่ได้อยู่แบบนี้อีกโหนมองหน้าฉัน เขาฉีกยิ้มบางๆ กลับมา“คิดถึงเฉยๆ”“...!”“ผิดมั้ย ถ้ายังคิดถึงเธอ”ฉันนิ่งค้างไป นึกคำพูดออกมาไม่ได้เลย กลิ่นแอลกอฮอล์จากตัวเขาบ่งบอกว่าโหนคงจะเมา เพราะเขาเมาใช่มั้ย... เขาถึงมาที่นี่แต่ก็เพราะเมาอีกนั่นล่ะ ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้นเลย“ผิดสิ” ฉันตอบกลับไป ทั้งๆ ที่ในใจสั่นไหวจนแทบบ้า นี่มันผ่านไปกี่วันแล้วนะ ที่ฉันไม่ได้ยินคำนี้จากเขา “เรามีแฟนแล้วนะ โหนก็มีแฟนแล้วเหมือนกัน”“...”“ถ้าแฟนโหนรู้ว่าโหนมาหาเรา...
จินมาหาผม นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เจอกันเธอใส่ชุดสายเดี่ยว กางเกงขาสั้น ไม่ได้ดูเป็นสก๊อย แต่เธอโตแล้ว จินเป็นพนักงานบริษัท อายุมากกว่าผมแต่เธออยากให้ผมเรียกเธอว่าจินเหมือนเป็นรุ่นเดียวกัน เธอเดินมาหาผม ท่าทางเจิดจ้ากับใบหน้าสวยๆ ทำให้เพื่อนผมตะลึงไป“ฮาย โหน” เธอโบกมือแล้วเดินมาทักทายเพื่อนๆ ผม “สวัสดีค่ะ นี่เพื่อนโหนเหรอ พี่นั่งด้วยนะ”ผมนึกแปลกใจที่เธอพูดกับคนอื่นว่าพี่ แต่แทนตัวกับผมว่าเราแต่ผมไม่ได้คิดอะไรเลย กับเธอ“ครับ นี่พี่สาวโหนเหรอครับ” ไอ้รักที่เป็นตัวม่อหญิงถามท่าทางดี๊ด๊า ผมแค่นหัวเราะ“เปล่า”“...”“แฟนโหนอ่ะ”แต่ประโยคต่อไปของเธอกลับทำให้ทั้งผมและเพื่อนอึ้งบรรยากาศเริ่มกระอั่กกระอ่วนขึ้นมาทันที ผมที่ยกแก้วเหล้าจะกระดกชะงักไป หันไปมองจินที่ฉีกยิ้มแล้วอยู่ดีๆ ผมก็โกรธโกรธที่เธอทำแบบนี้ ทั้งที่ผมบอกเธอว่าผมยังลืมชูใจไม่ได้“จิน” ผมเรียกชื่อเธอสั้นๆ ร่างบางหันมามอง ผมผุดลุกขึ้นทันที ท่ามกลางสายตาเพื่อนๆ ทุกคนที่ไม่กล้าพูดห่าไร เพราะรู้ดีว่าผมกับชูใจเป็นอะไรกันอยู่ “เรามีเรื่องจะคุยด้วย”เคยเป็นดิ เพราะตั้งแต่วันนั้น ผมก็ไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง นอกจากไอ้พัน“อะไรของ