LOGIN'เธอ' ตกเป็นเป้าหมายเพียงครั้งแรกที่เขาพบเจอ นั่นคือรักแรกพบหรือเพียงเพราะเธอตรงสเปค แล้วเธอจะทำเช่นไร เมื่อต้องเข้ามาพัวพันในชีวิตของเขาโดยไม่รู้ตัว 'บราฮิม' ผู้ชายดีกรีไม่ธรรมดา
View Moreสาธารณะรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อาณาเขตดินแดนในฝันที่ใครหลายคนนั้นอยากไปเหยียบสักครั้งในชีวิต ด้วยเสน่ห์ที่น่าหลงใหล ความมั่งคั่งของผู้คนและเศรษฐกิจที่รุ่งเรือง ความตระการตาของตึกราบ้านช่อง วัฒนธรรมที่น่าศึกษาและสิ่งสวยงามของประเทศนี้ที่แตกต่างและหรูหรา
"สวยจัง" เสียงหวานของม่านฟ้าหญิงสาววัยสร้างตัวที่ได้แต่นั่งมองรูปภาพ ชื่นชมทัศนียภาพแค่ภาพนิ่ง อยากให้สักวันมันเป็นความจริง ว่าเธอนั้นจะได้มีโอกาสสัมผัส ผืนทะเลทราย ที่ร้อนระอุแต่มันก็มีความงามในแบบของตัวมันเอง ที่ทำให้ม่านฟ้านั้นหลงใหล อยากจะไปสักครั้ง
ม่านฟ้า เป็นสาวโสดตัวคนเดียว ไร้ญาติพี่น้อง พ่อแม่ตายจากตั้งแต่เธอยังเด็ก มีเพียงยายคนเดียวที่ชุบเลี้ยงเธอมา แต่ต้องมาจากลาไปอย่างไม่มีวันกลับเมื่อปีที่แล้วด้วยโรคชรา ม่านฟ้าเป็นคนใจแข็ง เธอเลือกคบคน น้อยนักที่ใครจะกล้าเข้าหาเพราะหน้าตา ท่าทางเธอนั้นดูเย็นชา ม่านฟ้าชอบอิสระ ชอบท่องเที่ยว ชอบถ่ายรูป มีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง แต่แอบดื้อเงียบ มีความมั่นใจในตัวเอง กล้าได้กล้าเสีย
ม่านฟ้าทำงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง มีเพื่อนที่สนิทกันแค่ไม่กี่คน เพราะเธอนั้นเลือกที่คบ มันมีสาเหตุให้เธอเป็นแบบนี้เพราะความไว้ใจของเพื่อนสมัยอนุบาล แต่ม่านฟ้ากลับถูกเพื่อนคนนี้หักหลัง จนม่านฟ้ากลายเป็นคนหยิ่งในสายตาคนอื่นเพราะเธอเบื่อหน่ายกับการที่ต้องให้ใจใคร แต่ที่จริงเธอนั้นอ่อนไหวและใจดีเสียยิ่งกว่ากระไร
"เป็นอะไรยัยม่าน นั่งยิ้มคนเดียว" และนี่แหละเพื่อนสนิทไม่กี่คนของเธอที่พูดถึง 'เอย' เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่มารู้จักกันตอนที่ม่านฟ้ามาทำงานที่นี่ซึ่งเอยทำงานอยู่ก่อนแล้ว และมีแค่หล่อนเคยคนเดียวที่กล้าเข้าหาม่านฟ้าจนกลายเป็นทั้งสองนั้นสนิทสนมกันจนถึงปัจจุบัน
"นี่...ฉันอยากไปที่นี่สักครั้งแก" ม่านฟ้าชี้โรงแรมแห่งหนึ่งที่มีลักษณะเป็นรูปเรือใบให้เอยดู เป็นโรงแรมที่ขึ้นชื่อและสวยงาม มีเอกลักษณ์ที่น่าตราตรึงแก่สายตา
"ฝันเฟื่องแล้วแกอ่ะ...ตื่นจ๊ะตื่น" เอยดีดนิ้วดังเปาะอย่างดึงสติทำให้ม่านฟ้านั้นหลุดจากภวังค์ จากที่ยิ้มจนต้องหุบยิ้มทันทีเพราะเพื่อนสนิทนั้นดับฝัน
“ฝันอะไร...ฉันกำลังเก็บเงินอยู่ ฝันของฉันมันต้องเป็นจริงเว้ยเพื่อนรัก หุหุ” เสียงหวานหัวเราะขบขันอย่างมีความหวัง
“เป็นเอามากเพื่อนฉัน” เอยส่ายหัวและเปรยออกมาอย่างเอือมระอาในความฝันของม่านฟ้าที่พร่ำเพ้อออกทางสีหน้าชัดเจน
“แล้วนี่แกไม่มีงานมีการทำหรือไง...มาดับฝันฉันเนี้ย”
“มี!”
“แล้วทำไมไม่ไปทำ”
“ฉันขี้เกียจ”
“เออ...ง่ายดีเนอะ”
“ก็ฉันเป็นคนง่าย ๆ ผู้ชายก็ได้ ผู้หญิงก็ดี” เอยไหวไหล่และเอ่ยออกมาหน้าตาเฉย ไม่สะทกสะท้านกับคำพูดสักนิด
“ไม่มีคำบรรยาย...” ม่านฟ้าเอ่ยอย่างเอือมระอาจนเอยเพื่อนรักเดินออกไป ส่วนม่านฟ้าก็ก้มหน้ามองสถานที่ต่าง ๆ ในฝันที่เธอนั้นอยากจะไปด้วยความหวังที่มีเต็มเปี่ยม เพราะตั้งใจไว้แล้วว่า จะต้องไปให้ได้ในชีวิตนี้
“ดรูฟ ฮือ ๆ” ม่านฟ้าที่เห็นใบหน้าของบุตรชาย วิ่งกรูเข้าหาสามีทันทีเมื่อพบเจอ ความดีใจที่มากมายยิ่งกว่าสิ่งใดเมื่อบุตรชายนั้นปลอดภัยกลับมา “ฮือ ลูกแม่” ม่านฟ้ากอดบุตรชายแนบกับอกแน่น จมูกดอมดมสูดความอ่อนของกลิ่นเด็กอย่างแสนรัก เชคฮ บราฮิม โอบกอดภรรยาที่รักและบุตรชายไว้ในอ้อมกอดใหญ่ พร้อมกับมือหนาที่ลูบหัวภรรยาอย่างปลอบโยน “ดรูฟปลอดภัย ไม่ต้องร้องนะ” เชคฮ บราฮิม พูดปลอบใจภรรยาที่เอาแต่ร้องไห้สะอึกสะอื้นแทบขาดใจ เมื่อบุตรชายนั้นหายตัวไป “ขอบคุณนะคะที่พาลูกของเรากลับมา” ม่านฟ้าเงยหน้ามองสามีที่ตอนนี้ดวงตาแดงก่ำ กลีบปากอวบจูบซับลงคางสากอย่างขอบคุณ ข่าวการกลับมาของทายาทตัวน้อยรับรู้ถึงปู่ย่าและอา ทุกคนล้วนดีใจเป็นรู้สึกโล่งอก เมื่อหลานชายและทายาทเพียงคนเดียวนั้นกลับมาอย่างปลอดภัย ทำให้ความร้อนใจของคนในครอบครัวและบริวารที่จงรักภักดีนั้นปลื้มใจ เพราะดรูฟที่เป็นที่รักของทุกคนในตระกูล เวลาผ่านไปความคับแค้นใจที่อานัสนั้นมีย่อมผ่อนปรนลง ฟาตินก็ยังคงอยู่กับอานัสในคฤหาสน์หลังนั้นเรื่อยมา ท่ามกลางความเจ็บช้ำและจำยอมที่จะอยู่ต่อเพราะถูกบังคับและเพราะคำสัตย์ที่เธอนั
อำนาจที่มีพร้อมกับพละกำลังคนที่มากโขความชำนาญของลูกน้องที่เก่งกาจในด้านเทคโยโลยี จนทำให้ เชคฮ บราฮิม นั้นรู้แล้วว่าบุตรชายนั้นอยู่ที่ใด การติดตามตัวบุตรชายเพียงคนเดียวจึงเริ่มต้นขึ้น เชคฮ บราฮิม รีบมุ่งตรงไปยังที่หมายที่สืบหามาได้ ด้วยห่วงใยบุตรชายที่ตกอยู่ในมือของอดีตเพื่อนรักอย่างอานัสและทำให้รู้ด้วยว่าฟาตินนั้นอาศัยพักพิงอยู่กับอานัสมานานแรมเดือน“เรามาขอพบอานัส” เสียงเข้ม ใบหน้าดุดันเอ่ยขึ้นเมื่อก้าวขาเข้ามาในบริเวณคฤหาสน์หลังโตของอดีตเพื่อนรัก“ไม่ทราบว่าได้นัดไว้หรือเปล่าครับ” หัวหน้าองครักษ์เอ่ยถาม เมื่อการมาของเชคฮ บราฮิมนั้นมีบุคลากรที่มากมายพร้อมทั้งอาวุธประจำกายแทบทุกคน“ไม่ได้นัด และเราก็ต้องเจออานัสตอนนี้” เสียงเข้มบอกกล่าวเมื่อเขานั้นร้อนใจเพราะกลัวบุตรชายเกิดอันตราย แค่ใบหน้าของม่านฟ้าที่แปดเปื้อนด้วยน้ำตาเพราะความเศร้าโศกก็ทำให้เชคฮ บราฮิมนั้นใจแทบสลายแล้ว“ต้องขออภัยเพราะกระผมคงให้ท่านพบพร้อมคนมากมายที่มีอาวุธติดกายไม่ได้” หัวหน้าองครักษ์บอกกล่าวหน้านิ่ง ยิ่งทำให้เชคฮ บราฮิมนั้นเลือดขึ้นหน้า“ไปบอกอานัส ว่าเรา เชคฮ บราฮิมต้องการพบ เดี๋ยวนี้!!” ความร้อนใจที่มีทำให้เชคฮ
ทันทีที่รู้ข่าวของบุตรชายที่หายตัวไปโดยที่ไม่มีใครเห็นเลย เชคฮ บราฮิม ร้อนรนใจอย่างมาก ละจากงานทุกอย่างโดยไม่รีรอ รีบปรี่กลับไปยังคฤหาสน์ทันที สถานที่ที่คนคุ้มกันแน่นหนาทำบุตรชายนั้นจะหายไปอย่างไรกัน “บราฮิม ฮึก อึก ฮือ...ดรูฟ ดรูฟหายไป ฮืออออ” ม่านฟ้าที่ร่ำไห้จนดวงตาบวมแดง ตั้งแต่ออกจากห้องน้ำแล้วไม่เห็นลูกชายที่ตนวางไว้บนเตียงนอน สั่งคนตามหาในอาณาบริเวณก็ไร้วี่แวว เด็กน้อยที่ยังไม่สามารถเดินเองได้จะหายไปได้อย่างไร หากไม่มีคนอุ้ม “ม่านฟ้า ใจเย็น ๆ นะ ดรูฟหายไปได้ยังไง” เชคฮ บราฮิม โอบกอดภรรยาที่ร้องไห้อย่างโศกเศร้า พูดด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นแทบฟังไม่ได้ศัพท์ “ไม่รู้ เข้าห้องอยู่ออกมาก็ไม่เจอลูก บราฮิม ฮือ ฮึก ดรูฟ จะ จะเป็นอะไรไหม” “ดรูฟจะต้องปลอดภัย จะไม่มีใครทำอะไรดรูฟได้ ผมสัญญา” เชคฮ บราฮิม พูดปลอบประโลมภรรยาให้คลายกังวล ทั้งที่ตนนั้นกลับยิ่งกังวลใจไม่แพ้กัน “ราชิต สั่งคนตามหาดรูฟ เช็คกล้องวงจรปิดทุกตัวอย่างละเอียด” “ครับ” ราชิตรับคำสั่งอย่างหนักแน่น แล้วเดินจากไปเพื่อทำหน้าที่ของตน คนในครอบครัวที่เชคฮ บราฮิมนั้นส่งข่าวท่านปู่
“ดรูฟ รอแม่อยู่ตรงนี้นะ แม่ขอเข้าห้องน้ำสักครู่เดียว” เสียงของม่านฟ้าพูดคุยกับบุตรชายที่กำลังนอนหลับสนิท เวลานี้ที่เธอนั้นอยู่เพียงลำพังในห้องนอนเพราะต้องให้นมบุตรชาย จึงต้องอยู่เป็นการส่วนตัวและไร้หญิงรับใช้คนสนิทที่เธอนั้นไว้วานให้ไปทำงานให้ ประจวบเหมาะกับที่ผู้คิดร้ายนั้นได้ยินในคำพูด และแอบย่องเบาเข้ามาในห้องนอนอย่างถือวิสาสะและไร้คนมองเห็น ฟาตินเดินเข้ามาใกล้ เป้าหมายคือทายาทเพียงคนเดียวของ เชคฮ บราฮิม ที่เขานั้นรักปานดวงใจ ดรูฟน้อยถูกอุ้มขึ้นสู่อ้อมอกของฟาติน ไร้เสียงร้องของเด็กน้อยที่นอนหลับสนิทเมื่อกินอิ่มพลี ฟาตินค่อย ๆ อำพรางร่างกายของดรูฟด้วยผ้าคลุมสีทึบที่พกมา ทุกอย่างถูกเตรียมการมาอย่างดี ฟาตินคิดแบบนั้น การลักลอบเข้ามายังคฤหาสน์โดยที่ไม่มีใครล่วงรู้และการก่อเหตุลักพาตัวทายาทเพียงคนเดียวเริ่มขึ้น ฟาตินค่อย ๆ ย่องและหลบซ่อนสายตาของหน่วยคุ้มกันภัยที่รายล้อมทั่วอาณาบริเวณ การคุ้มกันที่แน่นหนา จะทำอย่างไรถึงจะรอดพ้นได้“จะหนีออกไปอย่างไรดี” ฟาตินยืนบ่นและใช้ความคิด ดีในความคิดของเธอคือดรูฟไม่มีเสียงร้องใด ๆ ให้คนสงสัย“ฮึ แกต้องเจ็บเจียนตายแน่ เชคฮ บราฮิม” สายตามองเห็นรถส





