นางหลงรักองครักษ์ข้างกาย ร้องขอบิดาจนได้หมั้นหมายกัน ไม่สนว่าเขาไม่ได้มีใจให้นาง นางถูกคนร้ายจับตัวไป พยายามร้องเรียกให้เขาช่วย แต่เขาไม่หันมามองนางเลยสักนิด สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่จ้าวฉู่หรันน้องสาวต่างมารดาของนาง " ข้าหายไปเจ้าไม่สนใจตามหา แต่ไปดูแลฉู่หรัน ตกลงเจ้าเป็นองครักษ์ของข้าหรือของนางกันแน่" " หวังจื่อเย่ ในเมื่อเจ้าอยากดูแลฉู่หรันมากขนาดนั้น งั้นข้ายกเจ้าให้นาง ไม่ใช่แค่ฐานะองครักษ์แต่รวมถึงฐานะคู่หมั้นด้วย" ผ้าม่านเปิดออกพร้อมชายชุดดำที่คลุมหน้าเห็นแต่ลูกตา นางยกเท้าจะถีบ เขาจับเท้านางไว้เข้ามาประชิดตัว เอ๊ะ ทำไมคุ้นๆ " เจ้า ไอ้โจรบ้ากาม" " ข้าเอง" " เจ้าจะพาข้าไปไหน" " รังของเรา" " รัง รังโจรหน่ะรึ" ฮ่าวหยูยิ้มแป้นพยักหน้าหงึกหงัก
View Moreจ้าวถิงถิงเดินเข้ามาในห้องโถงก็ตาลุกวาวตรงเข้าไปตวัดมือตบหน้าจ้าวฉู่หรันอย่างแรง
" นี่มันกำไลของแม่ข้า กล้าดียังไงเอาของแม่ข้ามาใส่ถอดออกเดี๋ยวนี้"
" พี่ถิงถิงท่านเข้าใจผิดหรือไม่ กำไลวงนี้เป็นของท่านแม่ข้า ท่านแม่ให้ข้ามา"
" แม่ของเจ้าเป็นแค่ภรรยารองจะมีของล้ำค่าแบบนี้ได้ยังไง นี่เป็นกำไลหยกของราชวงศ์ที่ฮองเฮาประทานให้แม่ของข้า แม่ของเจ้ามันขี้ขโมย"
นางเข้าไปยื้อแย่งถอดกำไลออกจากแขนของจ้าวฉู่หรัน จ้าวฉู่หรันไม่ยอมแพ้ยื้อแย่งคืน
" พี่ถิงถิงท่านเข้าใจผิดแล้ว กำไลนี้เป็นท่านพ่อมอบให้ท่านแม่ของข้า แล้วมอบให้ข้าอีกที มันเป็นของข้าคืนให้ข้าเถอะ"
" เจ้าโกหก ของของท่านแม่มีรึที่ท่านพ่อจะมอบให้คนอื่น เอาคืนข้ามานะ"
ยื้อยุดกันไปมาจนกำไลตกแตก เพล้ง เจ้าฉู่หรันแกล้งล้มลงไปเอามือกดทับเศษกำไลจนเลือดออก ผิงกั่วบ่าวคนสนิทรีบเข้าไปประคอง
" คุณหนูรองท่านบาดเจ็บ คุณหนูใหญ่ท่านทำเกินไปแล้ว"
" เกินไปรึ แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ"
จ้าวลี่ถิงเก็บซากกำไลของมารดานางขึ้นมาน้ำตาคลอด้วยความโกรธ
ในห้องโถง
จ้าวฟานนั่งหน้าตาเคร่งเครียด จ้าวฉู่หรันกอดจ้าวซูฉีร้องไห้
" คุณหนูใหญ่ท่านทำเกินไปแล้ว ก็แค่กำไลวงเดียวเท่านั้น"
" นี่เป็นกำไลของแม่ข้า ข้าจำได้ว่าท่านพ่อเก็บเอาไว้ระลึกถึงท่านแม่ ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงไปอยู่กับฉู่หรันได้ "
" ข้าเก็บไว้ในหีบอย่างดี เหตุใดถึงไปอยู่ที่เจ้าได้ แล้วยังแตกอีก"
" ข้า ข้าเปิดเจอเห็นว่าสวยดี พอดีหรันเอ๋อมาหาข้า นางชอบ ข้าก็เลยให้นาง ข้าไม่รู้ว่ากำไลวงนี้เป็นของฮูหยิน"
" คราวหลังอย่าหยิบอะไรในหีบส่วนตัวของข้าไป โดยที่ข้าไม่ได้อนุญาติอีก"
" เจ้าค่ะ ข้ารู้แล้ว"
" ท่านพ่อเป็นความผิดของข้าเอง เพราะข้าอยากได้ท่านแม่เลยให้ข้ามา ข้ากับท่านแม่ไม่รู้จริงๆว่ากำไลหยกวงนี้เป็นของฮูหยินหากรู้พวกเราจะไม่แตะต้องมันเลย พี่ถิงถิงข้าขออภัยเจ้าค่ะ หากท่านจะโกรธเคืองข้าก็สมควรแล้ว ข้าผิดเองเจ้าค่ะ"
จ้าวฉู่หรันสะอื้นไห้น้ำตาไหลพราก
" เอาหล่ะเรื่องมันผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไปถิงเอ๋อ กำไลวงนี้ข้าจะให้คนส่งไปซ่อมเองเจ้าก็อย่าโกรธพวกนางเลยนะ"
" ไม่ต้อง แตกขนาดนี้มันซ่อมไม่ได้แล้ว ในเมื่อท่านรักษาของของท่านแม่ไม่ได้ ข้าจะเก็บมันไว้เอง"
นางเก็บซากกำไลเดินน้ำตาคลอออกไป
จ้าวลี่ถิงเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็หยุดชะงัก หันไปมองหวังจื่อเย่ที่ยังยืนอยู่ที่เดิม แล้วพูดด้วยความโมโห
" เหตุใดเจ้ายังไม่ตามข้ามา ลืมหน้าที่ตัวเองแล้วรึไง"
จ้าวถิงถิงมาเดินเล่นที่ตลาด ดูของสวยๆงามๆให้ลืมเรื่องไม่สบายใจเมื่อครู่
หวังจื่อเย่เดินตามจ้าวถิงถิงแวะร้านนี้ร้านนั้นในตลาด เขายิ่งมองก็ยิ่งรังเกียจ รับไม่ได้กับนิสัยเอาแต่ใจของนาง แต่เพราะเขาเป็นองครักษ์ของนางต้องติดตามดูแลความปลอดภัยนางไปทุกที่ จึงต้องข่มความไม่พอใจเอาไว้ นึกถึงใบหน้าของจ้าวฉู่หรันที่มีแต่น้ำตา เขาเจ็บปวดใจยิ่งนัก นางทั้งอ่อนหวานแสนดี ผิดกับจ้าวถิงถิงลิบลับ ทั้งที่มีบิดาคนเดียวกันแท้ๆ
เขาเป็นทาสที่ถูกซื้อมาเป็นบ่าวรับใช้ในเรือนตั้งแต่เด็กพร้อมหยางหาน ตอนนั้นเขาเห็นนางผลักจ้าวฉู่หรันจนล้มลง ความรู้สึกไม่พอใจเกิดขึ้น อยากปกป้องดูแลจ้าวฉู่หรัน แต่จ้าวถิงถิงดันเลือกให้เขาเป็นองครักษ์ติดตาม หากให้เขาเลือกเองได้เขาก็จะไม่เลือกนางอย่างแน่นอน
" จื่อเย่ จื่อเย่ "
" ขอรับคุณหนู"
" เจ้าเหม่ออะไรอยู่ ข้าถามเจ้าว่าปิ่นสองอันนี้อันไหนเหมาะกับข้ามากกว่ากัน"
" อันไหนก็เหมาะขอรับ หากท่านเลือกไม่ได้ก็เอาไปทั้งสองนั่นแหละ"
" แต่ข้าอยากได้แค่อันเดียว เจ้าต้องเลือกให้ข้า"
หวังจื่อเย่ถอนหายใจ ก่อนจะหยิบปิ่นหยกสีเขียวออกมาจากมือนาง นางยิ้มพอใจ
" ดี ข้าก็ชอบอันนี้เหมือนกัน"
นางส่งปิ่นให้พ่อค้าห่อ นัวนั่วทำหน้าที่จ่ายเงิน หวังจื่อเย่จ้องมองปิ่นสีชมพูก่อนจะเดินตามนางไปจนมาถึงโรงเตี๊ยม
" เอ้า เจ้าทำไมไม่เข้ามาหล่ะ คุณหนูเข้าไปข้างในแล้ว"
" ข้านึกได้ว่ามีเรื่องต้องทำ เจ้าตามนางไปก่อนเดี๋ยวข้ามา"
หวังจื่อเย่ย้อนกลับไปที่ร้านขายเครื่องประดับ หยิบปิ่นสีชมพูขึ้นมา โชคดีที่ยังอยู่ ปิ่นอันนี้เหมาะกับจ้าวฉู่หรันมาก
" แล้วจื่อเย่หล่ะ"
" เขาบอกว่ามีเรื่องต้องทำ เดี๋ยวตามมาเจ้าค่ะ"
" เรื่องอะไร ช่างเถอะ เสี่ยวเอ้อ"
นางเรียกเสี่ยวเอ้อมาสั่งอาหาร
หวังจื่อเย่มาถึงโรงเตี๊ยม ก็เห็นเสี่ยวเอ้อยกอาหารมาวางเต็มโต๊ะ จ้าวถิงถิงกวักมือเรียก
" มานั่งเร็ว ข้าสั่งของชอบเจ้าไว้หลายอย่างเลย เอ้ามองทำไมหล่ะกินสิ เจ้าก็ด้วยนัวนั่ว
กินเยอะๆ นี่ไก่ตุ๋นน้ำแดงข้ารู้เจ้าชอบ "
" ขอบคุณเจ้าค่ะคุณหนู"
เห็นหวังจื่อเย่นั่งเฉย จ้าวถิงถิงจึงคีบเนื้อปลาผัดเปรี้ยวหวานใส่ชามข้าวให้เขา
" เจ้าก็กินเยอะๆ"
เขาคีบเนื้อปลาเข้าปาก แม้อาหารจะเรียงรายตรงหน้า แต่เขาไม่อยากแม้แต่น้อย หัวสมองของเขานึกถึงแต่ใบหน้าของจ้าวฉู่หรัน ภาพที่นางร้องไห้ทำให้เขากินอะไรไม่ลง
วันต่อมาเป็นงานเลี้ยงวันเกิดของจ้าวฟานเพราะเป็นขุนนางเก่าแก่ในราชสำนักมาหลายปี ทำให้มีแขกเหรื่อมาร่วมงานคับคั่ง
จ้าวฉู่หรันแสดงการร่ายรำอ่อนช้อย ชายในงานต่างมองนางอย่างชื่นชมหลงใหล โดยเฉพาะหวังจื่อเย่ จ้าวถิงถิงเบะปาก ไม่เห็นจะงามตรงไหน ก็งั้นๆแหละ รำแบบนี้ใครๆก็ทำได้น่าชื่นชมตรงไหนกัน นางหันไปมองหวังจื่อเย่ เห็นสายตาเขาจ้องมองจ้าวฉู่หรันอย่างหลงใหลก็ไม่พอใจ มองไปที่จ้าวฉู่หรันที่สบตากับเขาเหมือนสื่อความหมายว่าใจตรงกัน นางก็กำมือแน่น นางชอบหวังจื่อเย่มานานหลายปี อย่าได้คิดจะแย่งเขาไป
การแสดงจบลง ทุกคนปรบมือเสียงดังเกรียวกราว ต่างเอ่ยปากชื่นชมจ้าวฉู่หรันไม่หยุด จ้าวฟานกวักมือเรียกจ้าวถิงถิงให้ไปหา
" ถิงเอ๋อนี่เป็นศิษย์น้องร่วมสำนักของข้าที่ไม่ได้เจอกันมานาน อันเจ๋อหยวน ไม่คิดว่าเขาจะมาในวันนี้ด้วย"
" คาระวะท่านอาอัน"
" อืมถิงเอ๋อโตเป็นสาวแล้ว ตอนนั้นที่เห็นเจ้ายังเป็นทารกอยู่เลยฮ่าฮ่า ดูสิเจ้างามเหมือนแม่ของเจ้าไม่มีผิด"
" ฮ่าฮ่าใช่ๆ นางยิ่งโตก็ยิ่งเหมือนแม่ของนางตอนนั้นที่เจ้ามาเยี่ยมข้า ลี่เซียนพึ่งคลอดจนตอนนี้ถิงเอ๋อได้17ปีแล้ว"
" โอ้ถิงเอ๋อ17แล้ว แต่งงานรึยัง"
" ยังเจ้าค่ะท่านอา แต่ข้ามีคู่หมายแล้ว"
" อย่างงั้นรึ"
" ถิงเอ๋อ คู่หมายอะไรกันข้าเป็นพ่อของเจ้าไม่เห็นรู้เรื่อง"
" ท่านพ่อ ท่านเคยบอกว่าเรื่องคู่ครองของข้าท่านจะให้ข้าเลือกเอง ข้าเลือกแล้วเจ้าค่ะ ข้าจะแต่งงานกับเขาเท่านั้น"
" คนผู้นั้นเป็นใคร"
" หวังจื่อเย่เจ้าค่ะ"
เสียงเหยียบใบไม้ดังกรอบแกรบใกล้เข้ามา" กลับมาทำไม ข้าบอกให้ไปไง"จ้าวฟานคิดว่าเป็นจ้าวซินหรู แต่พอหันไปมองกลับไม่ใช่" จื่อเย่"" เกิดอะไรขึ้น เหตุใดท่านถึงได้อยู่คนเดียว"จ้าวฟานเห็นหวังจื่อเย่มีไหเหล้ามาด้วย ก็คว้ามากระดกลงคอ ก่อนจะเล่าเรื่องบัดซบที่เกิดขึ้นให้ฟังหวังจื่อเย่ฟังไปก็ขมวดคิ้วไป หลายวันที่ผ่านมาเขาไม่ได้ไปไหนไกล แต่สืบหาร่องรอยอยู่แถวป่าบริเวณที่ขบวนต้าลี่เดินผ่านไม่รู้อะไรดลใจให้เขากลับมาที่นี่อีก เขาลุกขึ้นยื่นมือออกมา" ท่านไปกับข้าเถอะ เราจะไปตามหาถิงเอ๋อด้วยกัน ข้าเชื่อว่าสักวันต้องได้พบนาง"จ้าวฟานน้ำตาคลอยิ้มกว้าง ความหวังเดียวของเขาที่จะมีชีวิตอยู่คือบุตรสาวของเขาจ้าวถิงถิง ใช่ สักวันเขาต้องได้พบนางอีก ต่อไปเขาจะหนักแน่นไม่ฟังใครอีก เขาจะปกป้องนางตามใจนางทุกอย่าง ไม่มีจ้าวซินหรูมาทำให้ลำบากใจอีก ถึงต่อให้นางจะพูดอะไรเขาก็จะไม่สนใจ ตอนนี้นางคงโกนหัวบวชชีอยู่ที่วัดแล้ว เขาวางมือลงบนมือของหวังจื่อเย่ให้ฉุดเขาลุกขึ้น" ขอบใจนะ ขอบใจที่เจ้าไม่ทิ้งข้าเหมือนคนอื่น"" ไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก หากวันนั้นท่านไม่ซื้อข้ากลับมาที่จวน ข้าก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเช่นไร บางทีข้าอาจจะตาย
" หรันเอ๋อ จวนของเราถูกโจรปล้น แล้วพวกมันยังจุดไฟเผาจวนอีก ตอนนี้พวกเราไม่เหลืออะไรแล้ว"จ้าวซูฉีบอกจ้าวฉู่หรัน" อะไรนะเจ้าคะ เหตุใดถึงเป็นแบบนี้ งั้นตอนนี้เราก็ไม่มีอะไรเหลือเลยหน่ะสิ"หวังจื่อเย่เองก็ไม่คิดว่าตระกูลจ้าวจะโชคร้ายถึงเพียงนี้ เขามองดูจ้าวฟานที่หน้าตามอมแมมนั่งทุกข์ท้ออยู่กับพื้น ก่อนจะเดินไปนั่งลงใกล้ๆ" นายท่าน แล้วบ่าวรับใช้คนอื่นๆหล่ะขอรับ"" ข้าให้พวกเขาแยกย้ายกันไปหมดแล้วตอนนี้ไม่มีตระกูลจ้าวแล้ว ข้าเองก็ไม่ใช่นายท่านอีกต่อไป"" ท่านพี่ แต่ท่านยังเป็นขุนนางในราชสำนักนะเจ้าคะ"" ขุนนาง หึ เรื่องชิงตัวเจ้าสาวเจ้าคิดว่าฝ่าบาทยังไม่รู้รึ ป่านนี้คงรู้ไปทั่วทั่ววังหลวงแล้ว เจ้ายังคิดว่าตำแหน่งของข้าจะยังมีอยู่รึไง ตอนนี้คงมีคำสั่งให้กวาดล้างตระกูลจ้าวแล้ว จวนก็ถูกไฟไหม้ไปทั้งหลังทรัพย์สินของมีค่าก็ถูกปล้นไปจนหมด รอดชีวิตมาได้ก็บุญแล้ว แต่ถิงเอ๋อของข้าสิ ไม่รู้จะเป็นตายร้ายดียังไง ตอนนี้ข้าไม่มีอะไรเหลือแล้ว"" นายท่านยังไงก็ยังมีลมหายใจอยู่ ก่อนที่ทหารจะตามตัวพวกท่านเจอ ข้าว่าเราควรหาที่ซ่อนกันก่อนดีกว่า"" จื่อเย่ หยางหาน ข้าไม่ใช่นายท่านของพวกเจ้าแล้ว พวกเจ้าไปเถอะ อ
" ท่านแม่ ท่านย่า ขบวนเจ้าสาวไปแล้ว ในที่สุดข้าก็ไม่ต้องแต่งงานกับองค์ชายพิการนั่นแล้ว ข้าดีใจที่สุดเลยเจ้าค่ะ"จ้าวฉู่หรันพูดไปยิ้มไป มีจ้าวซินหรูกับจ้าวซูฉียืนขนาบข้างซ้ายขวา จ้าวฟานจ้องมองทั้งสามคนด้วยสายตาไม่พอใจ" พอใจพวกเจ้าแล้วสินะ"" ท่านพี่ จะโทษพวกข้าไม่ได้นะ ก็นางยอมไปเอง"" หากไม่เพราะพวกเจ้า นางจะยอมได้ยังไง โดยเฉพาะท่าน เพราะท่านจะฆ่าตัวตายนางถึงได้เห็นแก่ข้า ยอมขึ้นเกี้ยวเจ้าสาว"จ้าวฟานชี้หน้าต่อว่าจ้าวซินหรู" ข้าทำเพื่อฉู่หรัน เพื่อหลานของข้า จะให้ข้ามองดูนางแต่งงานกับคนพิการได้อย่างไร นั่นมันชีวิตทั้งชีวิตของนางเลยนะ"" แล้วถิงเอ๋อนางไม่ใช่หลานของท่านรึ นางก็เป็นลูกของข้ามีสายเลือดตระกูลจ้าวเหมือนกัน"" หรันเอ๋อไม่เหมือนกับนาง หรันเอ๋อของข้าร่างกายอ่อนแอบอบบาง อากาศที่ต้าลี่หนาวเย็นตลอดทั้งปี ร่างกายของนางรับไม่ไหวหรอก ไม่เหมือนกับถิงถิง นางออกจะแข็งแรงบึกบึนออกอย่างนั้น ไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก"จ้าวฟานไม่อยากจะตอบโต้ด้วย เขาเดินเข้าห้องแล้วยกไหเหล้าขึ้นดื่มจนเมามาย" ผิงกั่วเจ้าเห็นจื่อเย่หรือไม่"" ไม่เห็นเลยเจ้าค่ะคุณหนู"" เจ้าไปตามเขามาพบข้าที ข้าจะไปรอในสวน"" เจ
" ข้าไม่ได้คิดแบบนั้น ข้าไม่อยากให้ท่านแต่งงานไปกับคนอื่น"" แล้วจะให้ข้าแต่งกับใครหล่ะ กับเจ้ารึ"" ชะ ใช่ ข้าอยากให้ท่านแต่งกับข้า ข้ารู้ว่าท่านชอบข้ามาตั้งหลายปี ท่านเคยบอกต่อหน้าทุกคนว่าจะแต่งงานกับข้า"หวังจื่อเย่คุกเข่าลงจับมือนางไว้"ถิงเอ๋อ ข้าอยากแต่งงานกับท่าน เราแต่งงานกันดีไหม ไม่สิ ข้าว่าเราเข้าหอกันก่อนดีกว่าไว้ค่อยแต่งทีหลัง แบบนี้ท่านก็จะได้ไม่ต้องแต่งกับองค์ชายพิการอัปลักษณ์นั่นแล้ว"นางดึงมือออกจากเขา" เมื่อก่อนข้าเคยชอบเจ้า อยากแต่งงานกับเจ้าคือเรื่องจริง แต่ตอนนี้ไม่ใช่ ข้าไม่ได้ชอบเจ้าแล้ว และข้าก็ไม่อยากแต่งงานกับเจ้าด้วย"" ไม่ ไม่จริง ข้าไม่เชื่อ ท่านรักข้ามาตั้งหลายปี จะเลิกรักง่ายๆได้ยังไง"" แล้วเจ้าหล่ะ หลงรักฉู่หรันมาหลายปี เหตุใดตอนนี้ถึงมาบอกว่าอยากจะแต่งงานกับข้า"" ข้าไม่ได้รักนางแล้ว ที่ผ่านมาข้าแค่หลงผิด ข้าคิดว่านางเป็นคนอ่อนหวานจิตใจดีแต่ข้าเข้าใจผิด นางไม่ได้แสนดีอย่างที่ข้าคิด นางเห็นข้าเป็นเพียงสุนัขรับใช้ตัวหนึ่งเท่านั้น"" อ้อ อย่างนี้นี่เอง ที่จริงนางก็ชอบดูถูกผู้อื่นมาตลอด เพียงแต่ความรักที่เจ้ามีให้นางมันปิดหูปิดตาเจ้า แต่ก็ยินดีด้วยนะที่เ
จ้าวถิงถิงมาถึงห้องโถง ก็เห็นทุกคนนั่งกันอยู่พร้อมหน้า" คาระวะฮูหยินผู้เฒ่า"จ้าวซินหรูจ้องมองจ้าวถิงถิงอย่างไม่พอใจ" คุกเข่าลง"จ้าวถิงถิงที่กำลังจะนั่งเก้าอี้ก็หยุดชะงัก จ้องมองจ้าวซินหรู" เหตุใดข้าต้องทำ"" เจ้าจงใจไม่ไปร่วมงานเลี้ยงทำให้หรันเอ๋อต้องถูกเลือกเป็นพระชายาแทนเจ้า เจ้ายังไม่รู้ความผิดอีก ข้าบอกให้คุกเข่า"จ้าวถิงถิงไม่สนใจ นางนั่งลงที่เก้าอี้พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา" ท่านพ่อไม่ได้บอกท่านรึ ว่าคืนนั้นข้าถูกโจรปล้นรถม้า ข้าหนีพวกโจรเข้าไปในป่าจนหลงทางเกือบเอาชีวิตไม่รอด ท่านพ่อกับบ่าวรับใช้ในจวนต่างก็พากันออกตามหาข้าทั้งคืน"" ข้าบอกแล้วแต่"" ข้าไม่เชื่อ เจ้าโกหก เจ้าแต่งเรื่องขึ้น อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น"" ไม่เชื่อก็แล้วแต่ท่าน"" เรื่องงานแต่งเจ้าต้องรับผิดชอบ"" ท่านแม่"" เจ้าไม่ต้องพูดข้าจะจัดการเอง"" ไหนลองพูดมาซิ ว่าจะให้ข้ารับผิดชอบยังไง"" เจ้าต้องแต่งงานแทนหรันเอ๋อ"" องค์ชายเลือกนางไม่ได้เลือกข้า"" แต่ถ้าเจ้าไปงานคืนนั้น ตำแหน่งที่หรันเอ๋อยืนก็ควรเป็นเจ้า ฉะนั้นผู้ที่ได้รับลูกบอลก็คือเจ้า เพราะเจ้าไม่ไปนางเลยต้องมารับเคราะห์แทนเจ้า"" ท่านรู้ได้ยังไงว่าถ้
หวังจื่อเย่มาที่เรือนของจ้าวถิงถิง เห็นในห้องนางมืดมิด เหตุใดถึงไม่จุดเทียนหรือว่านางไม่อยู่ในห้อง" นี่เจ้าเห็นคุณหนูใหญ่หรือไม่ นางอยู่ที่ใดแล้วเหตุใดถึงไม่มีใครเข้าไปจุดเทียนในห้องนาง"" คุณหนูใหญ่นางหลับแล้ว"" หลับแล้ว แต่นี่พึ่งยามซวีเองนะ ปกตินางจะนอนยามห้ายนี่""เห็นนัวนั่วบอกว่าคุณหนูใหญ่ไม่ค่อยสบายเลยนอนเร็ว ยังสั่งห้ามใครรบกวน"" แบบนี้นี่เอง"หวังจื่อเย่มองดูกล่องใส่ปิ่นปักผมในมือ งั้นพรุ่งนี้ค่อยให้นางละกันก่อนฟ้าสาง ฮ่าวหยูมาส่งจ้าวถิงถิงที่จวน " ปล่อยข้าได้แล้ว"เขาส่ายหน้ากอดนางไว้แน่นไม่ยอมปล่อยเขาอยากกอดนางไว้แบบนี้ จะต้องทำยังไงนะเขาถึงจะได้อยู่กับนาง จ้าวถิงถิงตีมือเขาให้ปล่อย เขาจำใจปล่อยนางลงจากหลังม้าแล้วรอรับนาง นางเดินเข้าทางประตูหลังจวน ก่อนไปก็หันมามองโบกมือไล่เขาให้ไปได้แล้ว เดินไม่ทันจะถึงเรือนก็เจอกับหวังจื่อเย่" คุณหนูใหญ่ ท่านจะไปไหนแต่เช้ามืดรึ"นางถอนหายใจเหนื่อยหน่าย" ข้าจะไปไหนมาไหนต้องรายงานเจ้าด้วยรึ"" ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้น ข้าก็แค่เป็นห่วงท่าน เมื่อคืนเห็นบ่าวรับใช้บอกว่าท่านไม่สบายเลยนอนเร็ว ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างหายหรือยัง แล้วได้ให้หมอม
Comments