"อือ" เสียงครางดังออกมาเล็กน้อย "น้ำเยอะเลยนะเรา" ริมฝีปากหนากระซิบพูดใกล้ก่อนที่จะฝังจูบลงซอกคอระหง ที่เขาบอกว่าน้ำเยอะเพราะตอนนี้นิ้วเปรอะไปด้วยน้ำในร่องเล็กนั่น ใบหน้าคมไซร้ต่ำลงมาจนถึงร่องหน้าอกแล้วก็ดูด วันจันทร์ยังคงปล่อยให้เขาเชยชมเรือนร่างของเธอถึงแม้จะรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจในโชควาสนา เธอก็คงไม่ต่างจากผู้หญิงที่เขาเรียกมาใช้บริการ ไม่สิ..ผู้หญิงพวกนั้นเขายังเรียกมาแต่กับเธอเป็นคนมาหาเขาถึงที่เอง หญิงสาวที่กำลังคิดอะไรอยู่ถึงกับสะดุ้งเมื่อถูกเขาจับมือไปกำส่วนนั้นที่มันกำลังแข็ง วันจันทร์แอบวัดขนาดของมันดู..ไม่อยากคิดเลยถ้ามันเข้ามาอยู่ในร่างกายแล้วเธอจะรับไหวไหม "นั่งทับมันลงมาสิ" "ที่นี่เหรอคะ" ถ้ามันสว่างหน่อยคงเห็นหน้าตาที่ตื่นกลัวของเธอ เธอจะเสียสิ่งที่หวงแหนมา 20 กว่าปีให้เขาที่แบบนี้จริงๆ เหรอ "ไม่มีใครกล้าเข้ามาหรอก" "คือ..ฉัน.." "อย่าบอกนะว่าเธอยังไม่พร้อม แต่ที่เห็นนี่คือพร้อมมากแล้วนะ" ถึงแม้เขาจะดูเถื่อน แต่ไม่เคยขืนใจผู้หญิงที่ไหน ผู้หญิงส่วนมากจะเต็มใจเป็นของเขาเองทั้งนั้น
View Moreในงานแต่งของข้าราชการทหารเรือ..
"สวัสดีครับ" คนที่เอ่ยทักทายก็คือนายอิทธิพลหรือเรียกอีกอย่างว่าพ่อเลี้ยงอิทธิพลบิดาของเจ้าบ่าวในคืนนี้ "สวัสดี" บุญนำคือพ่อของเจ้าสาว "ผมเป็นพ่อเจ้าบ่าว" พ่อเลี้ยงอิทธิพลเห็นท่าทางอีกฝ่ายไม่อยากคุยด้วยก็เลยแนะนำตัว เพราะทั้งสองเพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก "อ้าวเหรอครับสวัสดีครับท่าน" ดวงตาที่แข็งกร้าวเมื่อสักครู่เปลี่ยนไป สองมือของบุญนำพนมขึ้นมากราบไหว้อย่างสวยงาม "กระผมไม่รู้ว่าท่านเป็นบิดาของลูกเขยกระผม" "เราพูดกันปกติเถอะครับ" "มิได้หรอกครับท่านกระผมเป็นแค่ผู้น้อย" "พ่อคะ!" วันจันทร์พยายามปรามพ่อไม่ให้ทำพฤติกรรมแบบนี้ วันจันทร์ก็คือน้องสาวของเจ้าสาว พี่สาวของเธอคือนาวาโทคะน้า "เงียบ!!" ศรีไพรตะคอกบุตรสาว "คนนี้ก็ลูกสาวของพวกคุณหรือครับ" พ่อเลี้ยงอิทธิพลมองดูสาวสวยที่นั่งเคียงข้างอยู่กับแม่เจ้าสาว "ใช่แล้วเจ้าค่ะ" วันจันทร์รู้สึกอายเวลาพ่อกับแม่เจอคนรวยมีฐานะก็ชอบเป็นแบบนี้ ไปเอาคำศัพท์พวกนี้มาจากไหนก็ไม่รู้ ตอนที่กำลังคิดเรื่องพ่อกับแม่อยู่ วันจันทร์แอบมองดูพ่อสามีของพี่สาว สายตาท่านมองเธอแปลกๆ รูปร่างหน้าตาของวันจันทร์ก็ไม่ได้ด้อยไปจากคะน้าคนเป็นพี่สาว และบ้านนี้ลูกสาวสวยกันทุกคน "ทำไมหรือครับ คุณท่านสนใจลูกสาวของผมเหรอ" "พ่อ!" วันจันทร์เหลือจะทนแล้วก็เลยเสียมารยาทลุกขึ้น "วันจันทร์นั่งลง!" มือของแม่เอื้อมไปกระชากตัวลูกสาวให้นั่งลง แต่วันจันทร์ก็สะบัดมือออกแล้วเดินไปจากโต๊ะนั้น "แบบนี้แหละที่เราต้องการ" พ่อเลี้ยงอิทธิพลมองตามหลังเด็กสาว ถึงแม้เธอจะไม่เด็กแล้วแต่สำหรับพ่อเลี้ยงอิทธิพลเธอเด็กมาก "เมื่อสักครู่คุณท่านพูดว่าอะไรนะครับ" "ผมอยากได้ลูกสาวของพวกคุณ" พอคำนี้ออกจากปากพ่อเลี้ยงอิทธิพล บุญนำก็หันมองหน้าภรรยา ส่วนศรีไพรก็มองหน้าสามีแบบไม่ได้นัดหมายกันเลย "ถ้าเป็นแบบนี้เราก็รวยตายน่ะสิ" บุญนำคนเป็นสามีกระซิบพูดกับภรรยา เพราะดูท่าแล้วพ่อเลี้ยงคนนี้คงสนใจลูกสาวคนรอง ถ้ารู้ว่าจะมีแต่คนรวยๆ มาร่วมงานแต่งคงขนลูกสาวมาทั้งบ้านแล้ว "แกก็ลองถามท่านดูหน่อยสิ" "จะให้กูถามอะไรวะ" ถึงแม้ว่าทั้งสองจะไม่ทะเลาะกันแต่คำพูดก็ประมาณนี้อยู่แล้ว "ทำไมต้องให้ได้สอนด้วย ลูกชายให้ได้ตั้งสองล้าน แกไม่คิดเหรอว่าคนพ่ออาจจะให้เยอะกว่านั้น" สองล้านที่ศรีไพรพูดถึงก็คือค่าสินสอด ที่จริงเรียกไปแค่ล้านเดียว แต่พายุเพิ่มให้อีกหนึ่งล้านบาทเพื่อไม่ให้พ่อกับแม่ของเธอมายุ่งเกี่ยวกับชีวิตลูกสาวอีก ก็เป็นเสียแบบนี้ใครเขาอยากให้มายุ่งกับเมียรักล่ะ พายุหรือนาวาโทพายุที่พูดถึงก็คือลูกชายคนรองของพ่อเลี้ยงอิทธิพล ที่แต่งงานกับคะน้าพี่สาวของวันจันทร์ (ทั้งสองอยู่ในเรื่องลวงรักแฟนเก่านะคะ) "คุยกับผมมาได้เลยครับ ไม่ต้องเกรงใจเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว" พ่อเลี้ยงอิทธิพลเห็นสองสามีภรรยากระซิบพูดคุยแถมยังมองมาที่ท่าน "กระผมคิดว่าท่านสนใจลูกสาวคนกลางของกระผมใช่ไหมครับ" "ใช่" "นั่นไงฉันว่าแล้ว ถามต่ออีกสิ" คนเป็นภรรยาสะกิดสามีให้พูดต่อ "ลูกสาวผมยังไม่เคยมีแฟน ถ้าคุณท่านสนใจเราคงต้องคุยเรื่องราคากันหน่อยครับ" "?" อิทธิพลคิดไว้แล้วว่าพ่อกับแม่ของลูกสะใภ้ต้องเป็นคนแบบนี้แน่ แต่ทำไมดูลูกสาวทั้งสองไม่เหมือนพ่อแม่เลย "ได้สิ" "พ่อๆๆ" ศรีไพรสะกิดสามีไว้ก่อน เพราะถ้าพูดเรื่องเงินต้องให้แบ่งกันลงตัว "อะไรของมึงวะเงียบไว้เถอะน่า!" "คนพี่ได้สองล้านคนน้องห้าม น้อยหน้ากันเข้าใจไหม" ศรีไพรยังกระซิบบอกสามี "ได้ๆๆ" พอตอบภรรยาแล้วบุญนำก็หันมาหาพ่อเลี้ยงอิทธิพล "คุณท่านคิดว่าจะให้ผมได้เท่าไรครับ" "พวกคุณจะไม่ถามเลยเหรอว่าผมต้องการลูกสาวพวกคุณไปทำอะไร" "เรื่องนั้นแล้วแต่คุณท่านเลยครับ ผมอยากให้คุณท่านเอ็นดูลูกสาวผมให้มากก็พอแล้ว" บุญนำคิดว่าพ่อเลี้ยงอิทธิพลคงอยากได้ลูกสาวตัวเองไปเป็นอนุภรรยา "เรื่องนี้เรารู้กันแค่สามคน พวกคุณทำได้ไหมล่ะ" "ได้สิเจ้าคะ" ศรีไพรตกปากรับคำไปอย่างไว "งานแต่งเจ้าพายุเสร็จเราค่อยคุยเรื่องนี้กันอีกที" พูดจบพ่อเลี้ยงอิทธิพลก็เดินเข้าไปหาเจ้าบ่าวเจ้าสาวเพราะใกล้ฤกษ์ส่งตัวเข้าหอแล้ว "คนจะรวยช่วยไม่ได้ อยู่ดีๆ บุญเก่าก็นำพา" "นำพาอะไร เงินที่ได้ไปเอาไปเล่นการพนันหมดหรือยัง" เงินที่ศรีไพรพูดถึงก็คือเงินหนึ่งล้านบาทที่แบ่งกับสามี "คุยกันแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะไม่มายุ่งเกี่ยวเรื่องเงินของกันและกัน ตัวเองก็ใช่ย่อยที่ไหน" "อย่ามาพูดมากนะเห็นไหมนั่นเขาจะส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวแล้วรีบไปสิ!" พอสามีพูดให้บ้างก็รีบหาเรื่องเลี่ยง หลังส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าห้องหอเสร็จ ญาติที่มาจากทางไกลก็กลับมาพักโรงแรมเดิม "ผมกลับก่อนนะพ่อ" "แกจะรีบกลับไปไหนรอกลับพรุ่งนี้พร้อมกัน" "งานแต่งจบแล้วทำไมต้องรอด้วย พ่ออยากอยู่ก็อยู่ต่อเองสิ" "ไอ้ใหญ่!""ก็บอกให้ลุกไง" เห็นเธอมัวแต่มองรอบข้าง ชายหนุ่มก็เลยเดินไปคว้าแขนของเธอแล้วพาเดินออกมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น"คุณใหญ่คะ" เดินมายังไม่ถึงไหนวันจันทร์ก็เรียกเขาให้หยุดก่อน"มีอะไร""คุณทำแบบนี้ทำไมคะ""ทำแบบไหน""ก็ทำแบบนี้กับฉันต่อหน้าคนอื่นไงคะ""ทำไมถึงจะทำไม่ได้ ลับหลังทำยิ่งกว่านี้อีก" สายตาคนที่พูดมองต่ำลงไปดูจุดที่ผู้ชายชอบมองผู้หญิงกัน"ฉันไม่ได้พูดเล่นนะคะ คุณมีผู้หญิงที่จะแต่งงานด้วยอยู่แล้ว คุณทำแบบนี้ ถ้าผู้หญิงคนนั้นรู้ แล้วเธอจะคิดยังไงล่ะคะ""หึ.. เดี๋ยวนะ เธอเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า แทนที่จะบอกว่าถ้าคนอื่นรู้เธอจะเสียหาย แต่นี่ทำไมต้องเป็นห่วงคนอื่นด้วย""ฉันไม่มีอะไรจะเสียหายแล้วล่ะค่ะ คุณอย่าทำแบบนี้อีกเลยนะคะ ฉันขอทำงานที่นี่ไปสักระยะหนึ่งก่อน พอได้ค่ารถฉันก็จะ..""ก็จะอะไร""ก็จะไปไงคะ""ใครอนุญาต""คุณใหญ่คะ ฉันรู้ว่าคุณโตมากับเรื่องพวกนี้" เธอหมายถึงว่าผู้ชายที่มีภรรยาหลายคนมันไม่น่าที่ต้องทำเลียนแบบกันเลย"กลับบ้าน" เขาก็ไม่รู้จะให้คำตอบเธอยังไง เพราะเขาก็ไม่มีคำตอบให้ตัวเองเหมือนกัน"ไม่ค่ะ ฉันจะไปพักบ้านในโรงงาน""ทำไมดื้อแบบนี้" พันฤทธิ์มองตามเธอที่เดินออกไปก่
"บอกให้เข้ามาไง" เห็นว่าเธอไม่กล้าเข้ามาเขาก็เลยใช้น้ำเสียงที่ดุหน่อยวันจันทร์รีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินตรงไปที่ห้องของผู้จัดการใหญ่ โดยมีสายตาทุกคนที่อยู่แถวนั้นมองตาม"พ่อมีอะไรจะคุยกับผมครับ" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับเดินไปทิ้งก้นลงเก้าอี้"เราอย่าลืมที่สัญญาไว้กับพ่อ ในเมื่อเราอยากทำงานในตำแหน่งนี้ เราก็ต้องทำให้เต็มที่ อย่าทิ้งงานเด็ดขาด""นั่งสิ"อิทธิพลที่เพิ่งพูดจบหันไปมองผู้หญิงคนที่ลูกสั่งให้นั่ง ตกลงเมื่อสักครู่ลูกชายได้ฟังที่ตนพูดหรือเปล่าเนี่ย"เมื่อกี้พ่อว่าอะไรนะ""พ่อพูดว่า..""นั่งลงตรงนั้นแหละ"อิทธิพลที่กำลังจะพูดอีกครั้ง หันกลับไปมองวันจันทร์แบบอัตโนมัติวันจันทร์ก็เลยได้นั่งลงโซฟารับแขกของเขา เพราะถ้าไม่นั่งก็คงไม่จบง่ายๆ"ต่อเลยครับพ่อ""ลูกต้องทำงานให้ได้เท่าที่น้องทำไว้""แค่นี้ใช่ไหมครับ""ใหญ่!""พ่อไม่ขี้เกียจพูดบ้างหรือไง ออกไปได้แล้วครับผมจะทำงาน""ทำงานแน่นะ""ถ้าไม่มั่นใจในตัวผม ผมไม่ทำก็ได้นะครับ" ว่าแล้วชายหนุ่มก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่เพิ่งนั่ง"คุณใหญ่คะ" วันจันทร์พูดออกไปเพราะลืมตัว พอนึกได้เธอก็เลยเงียบปาก"ตกลงพ่อจะออกไปหรือให้ผมออกไป""พ่อจะคอยดูผลงาน
"เอาล่ะ มาครบกันแล้วใช่ไหม" คนที่ถูกเรียกประชุมก็มีไม่กี่คน พ่อเลี้ยงอิทธิพลเรียกแค่คนที่มีหุ้นส่วน และผู้บริหารระดับสูง "ที่เรียกประชุมในวันนี้จะบอกว่าโรงงานเราจะมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งเล็กน้อย""?" คนที่อยู่ในห้องประชุมต่างก็หันมองไปที่พันฤทธิ์พร้อมกัน คิดว่าการปรับเปลี่ยนตำแหน่งในครั้งนี้คงเกี่ยวกับเขา"พวกคุณก็คงจะรู้จักลูกชายคนโตของผมแล้ว ตาใหญ่หรือพันฤทธิ์" พ่อเลี้ยงอิทธิพลพูดทิ้งช่วงไว้แล้วก็มองไปรอบๆ ห้องประชุม เผื่อว่าจะมีคำถามแต่ทุกคนก็เงียบ "ลูกชายผมอยากเข้ามาบริหารงาน เขาขอบริหารในตำแหน่งผู้จัดการใหญ่" ประโยคนี้พ่อเลี้ยงอิทธิพลมองดูลูกชายอีกคนที่ยังอยู่ในตำแหน่งนี้แต่เพธาก็ดูไม่ตกใจ เพราะเขารู้ดีถ้าพี่ชายเข้ามาทำงาน ตำแหน่งนี้ต้องเป็นของพี่ชายอยู่แล้ว"ถ้าคุณใหญ่เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ แล้วคุณเพธาล่ะครับ" ประโยคนี้ถูกถามจากคนที่ร่วมประชุมอยู่ เพราะคิดว่าพ่อเลี้ยงทำไม่ถูก น่าจะหาตำแหน่งใหม่ให้..ไม่น่าต้องมาแย่งน้องทำเลย"ไม่ต้องห่วงหรอก ลูกชายผมก็ต้องมีตำแหน่งในบริษัทอยู่แล้ว" พูดจบอิทธิพลก็หันมองมาที่ลูกชายอีกคน "ในระหว่างนี้พ่อจะให้เราไปดูงานส่งออกก่อนนะ""ครับ"พั
ขณะที่ขาเรียวก้าวเดินเข้ามาหัวใจเธอเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ยังไงชอบกล"พี่ว่าจะมีศึกชิงนางไหม" ไอ้ขวดกระซิบถามเชี่ยวชาญที่ยืนดูสถานการณ์อยู่รอบนอก"อย่าให้มีแบบนั้นเลย" แค่ทะเลาะเรื่องพ่อรักลูกไม่เท่ากันก็จะแย่แล้ว ยังจะมาทะเลาะกันเรื่องผู้หญิงอีกลูกน้องคงไม่ไหวจะเคลียร์"พี่ใหญ่" เข้ามาก็เห็นพันฤทธิ์นั่งเอนหลังพิงโซฟา มือกอดอดสายตาจ้องเขม็ง ไม่ได้จ้องคนที่เดินเข้ามานะ จ้องคนที่นั่งอยู่โซฟาตัวข้างๆ"....." วันจันทร์ทำตัวไม่ถูก เธอไม่คิดว่าจะเจอเขาพร้อมกับกวิน แล้วทำไมคุณกวินถึงอยู่ที่นี่ด้วย?"เธอมาทำอะไรที่นี่" สายตาคมละจากคนที่นั่งอยู่โซฟาตัวข้างๆ หันไปมองเธอ"ฉันมาทำงานค่ะ""ฉันหมายถึงเธอมาทำอะไรบ้านหลังนี้""คุณวันจันทร์จะมาพักบ้านหลังนี้ครับ" คนที่ตอบก็คือเพธา"ไปเก็บของ""เก็บของ?" ถ้าเขาไม่พูดเธอลืมเลยนะเนี่ย เพราะกระเป๋าของเธอยังอยู่ห้องพี่คนนั้น "เก็บของไปไหนคะ""กลับบ้าน""คุณลืมแล้วเหรอว่าฉันไม่มีบ้าน""เป็นผู้หญิงจะมาพักอะไรอยู่ร่วมกับผู้ชายคนอื่นแบบนี้""ฉันก็ไม่เห็นว่ามันแปลก ฉันไม่ได้นอนห้องเดียวกับพวกเขาสักหน่อย คุณเล็กคะคุณจะให้ฉันนอนห้องไหนคะ" ว่าแล้วหญิงสาวก็หันไปถามเพธา"ห
"แม่ก็รู้ว่าพ่ออยู่ที่โรงงาน ทำไมถึงปล่อยให้เธอไปทำงานที่นั่น""ถ้าลูกเป็นห่วง ลูกก็ตามไปที่โรงงานสิ""ทำไมผมต้องตามไปด้วย แล้วทำไมผมต้องเป็นห่วง""แน่ใจนะว่าไม่เป็นห่วง""แม่กำลังเล่นสงครามประสาทกับผมอยู่ใช่ไหม""ก็ไม่รู้สินะ คนเราจะอยู่ได้ยังไงถ้าไม่มีเงินใช้ หนูวันจันทร์ก็คงคิดแบบนั้น""ถ้าอยากได้เงินก็ขอมาสิครับ" ที่เขาไม่ได้เอาเงินให้เธอใช้เพราะเห็นว่าแม่พาไปซื้อของตลอด แถมบ้านในปางไม้ก็ไม่มีอะไรให้ซื้อ ถ้าออกไปก็ต้องออกไปกับแม่ ยังไงแม่ก็ต้องให้เงินเธออยู่แล้ว"ไม่มีใครเขาอยากจะขอเงินคนอื่นใช้ตลอดไปหรอกนะลูก ยิ่งคนที่ไม่มีสถานะแล้วด้วย" ทำไมนางจะไม่รู้ว่าลูกชายคิดอะไรอยู่"แม่หมายความว่ายังไง""อย่าบอกนะว่าลืมคำพูดตัวเองแล้ว""ก็ตอนนั้นแม่ถามผมไงผมก็ต้องบอกไป""บอกไปโดยไม่คิดถึงความรู้สึกของคนอื่นเลยเนี่ยนะ""เรื่องนั้นมันผ่านไปแล้วครับ ใครเขาจะเก็บมาคิดล่ะ" ความหมายของพันฤทธิ์คิดว่าเธอคงไม่เก็บมาใส่ใจแล้ว"แม่ขี้เกียจพูดกับเราแล้วล่ะ หนูวันจันทร์อยากทำงานก็ปล่อยให้ทำไปเถอะ ถ้ามีคนที่ถูกใจอยากจะสร้างครอบครัว..""อะไรนะครับแม่?" แม่ยังพูดไม่จบเลยด้วยซ้ำเขาก็รีบพูดแทรกขึ้นมาก่อนก
"วันจันทร์?""คุณใหญ่""เธอเป็นอะไร" ชายหนุ่มที่เพิ่งพังประตูเข้ามารีบไปดูคนที่นอนขดตัวอยู่บนเตียง"ปวดท้อง""ไปหาหมอกัน" คนร่างหนาโน้มตัวลงไปกำลังจะอุ้ม"ฉันเดินเองได้ค่ะ""ยังจะทำเก่งอีก พวกมันทำอะไรเธอหรือเปล่า"วันจันทร์ส่ายหน้าตอบไปพอออกมาก็ไม่เห็นคนของพ่อแล้ว เพราะพวกนั้นโทรไปรายงานพ่อเลี้ยงอิทธิพลก็เลยสั่งให้ลูกน้องถอยออกมา"เดี๋ยวฉันพาไปหาไอ้หมอ""ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่พาฉันไปหาอะไรทานก็พอแล้ว""อะไรนะ? เธอเจ็บท้องหิวข้าวเหรอ"วันจันทร์พยักหน้าตอบไปอีกครั้ง"พวกมันไม่หาอะไรให้เธอกินเลยหรือไง""ให้..แต่ฉันทำมันตกแตก" เพราะแบบนี้แหละเธอถึงถูกทำโทษไม่ให้กินอะไรมาทั้งวันพันฤทธิ์ทำได้แค่กัดฟันไว้ ถึงแม้จะแตกไปเป็นสิบก็ต้องหามาให้เธอทานสิ แต่นี่ทำไมต้องลงโทษกันแรงขนาดนี้ด้วย[ร้านอาหารริมทาง] เขาจอดร้านที่เห็นว่ายังเปิดขายอยู่ เพราะอยากให้เธอได้ทานอะไรก่อน"ค่อยๆ กิน""ก็ฉันหิวนี่" เธอเคยเป็นโรคกระเพาะอาหาร พออดข้าวหน่อยก็เจ็บท้องแบบนี้ทานไปยังไม่หมดจานวันจันทร์ก็อิ่ม เพราะกระเพาะของเธอไม่ได้ใหญ่อะไร"อยากกินอะไรอีกไหม""อิ่มแล้ว""เดี๋ยวจะพากลับบ้าน""บ้านไหน""ก็กลับไปหาแม่ไง""ฉัน
Comments