เหลียนฮวาหลานสาวของแม่นมของท่านอ๋องหรู่หยาง ผู้ที่มาอาศัยอยู่ในจวนท่านอ๋องหรู่หยางผู้แสนจะเย่อหยิ่ง เกิดถูกเข้าใจว่าวางยาปลุกกำหนัดเขา จนตกเป็นของอ๋องหนุ่ม ทั้งที่เขาไม่ได้สนใจใยดีนางมาก่อน และก็มิอาจจะรับผิดชอบใดๆนางได้เพราะฐานะของนางไม่่คู่ควรกับเขา เหลียนฮวาจึงแบกร่างอันบอบช้ำจากไป โดยสัญญาว่าจะไม่มารบกวนใจของเขาอีก แต่กลับกลายเป็นว่าท่านอ๋องหรู่หยางกลับเป็นฝ่ายไปวอแวนางเอง จนกระทั่งกลับกลายมาเป็นชายาที่เขาเองแสนจะเต็มใจยกย่องนาง เรื่องราวความรักที่สถานะแตกต่างกันมากเช่นนี้จะลงเอยได้อย่างไร เอาใจช่วยเหลียนฮวานางเอกของเราไปด้วยกันนะคะ
View Moreเหลียนฮวา เป็นหลานสาวแม่นมเหลียนที่เลี้ยงดูท่านอ๋องหรู่หยางมาตั้งแต่เล็ก เพราะพระสนมหยูพระมารดาของท่านอ๋องหรู่หยางสุขภาพไม่แข็งแรงนักหลังจากคลอดเขาออกมาแล้ว นางก็เจ็บป่วยกระเสาะกระแสะเรื่อยมา ท่านอ๋องหรู่หยางจึงได้ที่แม่นมเหลียนเลี้ยงดูเขามาจนเติบใหญ่
บัดนี้เขาแยกตำหนักมาเป็นของตนเองแล้ว ไม่ได้พำนักอยู่ในวังหลวงดังเช่นตอนเป็นเด็กอีกต่อไป เพราะเขาเข้ารับราชการช่วยเหลือราชกิจของเสด็จพ่อของเขา และได้ทำความดีความชอบหลายครั้งๆทั้งเรื่องไขคดีทุจริตที่ซับซ้อน
และสืบหาคนที่ฉ้อราษฎร์บังหลวงในคดีสำคัญๆหลายคดีมารับโทษ ทำให้เขาเป็นที่ไว้วางพระทัยจากฮ่องเต้เป็นอย่างมาก จนได้รับพระราชทานรางวัลเป็นจวนหลังใหญ่และทรัพย์สินเงินทองอีกมากมาย
เขาจึงได้ย้ายออกมาพำนักที่ตำหนักของตนเองนอกวังหลวงมาหลายปีแล้ว โดยมีแม่นมเหลียนตามออกมาพำนักในตำหนักของเขาด้วย โดยเขาสร้างเรือนหลังเล็กให้อยู่เป็นสัดส่วนของตนเอง เพราะแม่นมก็ชราขึ้นมากแล้ว
แม่นมเหลียนมีหลานสาวคนหนึ่ง นางเป็นสตรีที่งดงามมาก ยิ่งเติบใหญ่ยิ่งงดงาม แต่นางนั้นกลับไม่ยอมรับการหมั้นหมายกับชายหลายๆคนที่ส่งแม่สื่อมาทาบทามนาง มีทั้งที่เป็นขุนนางและบุรุษที่มีฐานะร่ำรวยในเมืองนี้
ที่เมื่อได้พบนางก็เกิดพึงใจและส่งคนมาสู่ขอ แต่เหลียงหรูอี้ปฏิเสธบุรุษเหล่านั้นไปจนหมดเพราะในใจของนางนั้นมีเพียงท่านอ๋องหรู่หยาง
แม้นางจะรู้ว่าสิ่งที่นางใฝ่ฝันมันเกินตัวไปมาก นางเป็นเพียงหลานสาวของแม่นมของเขา ที่ไม่มีอะไรที่คู่ควรกับเขาเลยสักนิด นางเป็นเพียงสตรีกำพร้าอาศัยอยู่กับป้าก็คือแม่นมเหลียน
เพราะบิดาของนางที่เป็นน้องชายของป้าเหลียนเสียชีวิตไปแล้ว นางจึงไร้ที่พึ่งพิงได้แต่ขึ้นรถม้าที่ท่านป้าเหลียนแม่นมของท่านอ๋องหรู่หยางส่งไปรับนางมาจากบ้านนอกเพราะนางไม่มีญาติมิตรที่ไหนที่จะดูแลนางได้อีก นอกจากแม่นมเหลียนที่เป็นป้าของนางเพียงเท่านั้น
แม้นางจะพยายามซ่อนความในใจของตนเองเอาไว้เพราะเกรงว่าจะไม่สมควร แต่อ๋องหนุ่่มก็รับรู้ได้ว่านางมีใจให้กับตน แต่เขาก็มิได้ตอบสนองใดๆ เพราะมิได้คิดอันใดกับนาง ปกติอ๋องหนุ่มก็มิใคร่ได้สนใจสาวใช้หรือผู้คนที่อยู่ในจวนของเขานัก
วันนี้มีคุณหนูซ่งม่านอี้สตรีอีกนางที่หลงรักท่านอ๋อง และเทียวไปเทียวมาที่ตำหนักของเขาอยู่บ่อยครั้ง วันนี้นางมาพบท่านอ๋องหรู่หยางที่จวนของเขาเช่นเคย
เมื่อพ่อบ้านของจวนที่ก็เริ่มจะเคยชินแล้วที่คุณหนูซ่งม่านอี้มักจะเทียวมาพบท่านอ๋องที่จวนแห่งนี้ จึงได้บอกว่าท่านอ๋องทำงานอยู่ในห้องหนังสือที่สร้างเป็นเรือนหลังเล็กแยกต่างหากจากหมู่เรือนของเขาที่สร้างเรียงรายกันเป็นหมู่ใกล้กับเรือนหลักที่เป็นที่พำนักของเขา
เรือนที่เป็นห้องหนังสือที่ท่านอ๋องมักจะใช้นั่งทำงานสร้างอยู่กลางบึงบังขนาดไม่ใหญ่นัก มีสะพานไม้ยาวทอดจากตัวเรือนไปจนถึงท่ี่ทางเดินระหว่างตัวเรือนต่่างที่มีหลังคาคลุมเอาไว้ตลอดแนว หรือไม่ก็อาจจะเดินจากบันไดทางขึ้นที่ในสวนได้อีกทางหนึ่ง
คุณหนูซ่งตัดสินใจว่าวันนี้นางจะต้องเผด็จศึกท่านอ๋องให้ได้ เพื่อที่นางจะได้แต่งเป็นชายาของเขาสมใจเสียที เพราะนางเทียวมาที่จวนของเขาจนเริ่มเป็นที่ครหาแล้ว แต่เขาก็ไม่มีทีท่าใดๆตอบเลยแม้แต่น้อย
นางจึงผสมยาปลุกกำหนัดเอาไว้ในน้ำแกงบำรุงที่นางยกมาให้กับท่านอ๋องหรู่หยาง โดยสาวใช้ของนางถือตระกร้าสานที่ใส่โถน้ำแกงนั้นเข้าไปให้เขาถึงในห้องหนังสือ
เมื่อเขาอนุญาตแล้ว นางจึงได้เปิดประตูเข้าไปในห้องพร้อมกับสาวใช้ที่ถือตระกร้าสานตามนางเข้าไป “ ท่านอ๋องเพคะ ม่านอี้นำน้ำแกงบำรุงกำลังมาถวายเพคะ หม่อมฉันเคี่ยวมันกับมือรสชาติดีมากนะเพคะ ดื่มแล้วรับรองว่าร่างกายจะแข็งแรงและสดชื่นขึ้นมากเลยเพคะ
เมื่อวันก่อนหม่อมฉันได้ตัวยาอย่างชั้นดีมาจากสหายที่ไปต่างเมืองมา จึงได้แบ่งมาต้มเป็นน้ำแกงให้ท่านอ๋องได้ดื่มด้วยเพคะ หม่อมฉันได้ลองดื่มมันแล้วรสชาติดีและสรรพคุณดีจริงๆเพคะ ” นางบอกเล่ากับเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
ท่านอ๋องหนุ่มยิ้มให้นางอย่างอารมณ์ดี “ ขอบใจนะ เอาวางไว้ก่อน เปิ่นหวางอ่านหนังสือฉบับนี้จบแล้ว จะดื่มมันเอง วันนี้เจ้ามีธุระอันใดกับเปิ่นหวางหรือไม่
หากเจ้าไม่มีอะไรคงต้องรบกวนเจ้ากลับไปก่อน เพราะวันนี้เปิ่นหวางมีนัดหมายกับท่านแม่ทัพกังด้วยเรื่องสำคัญมากที่จะต้องปรึกษากัน อีกครู่เขาก็คงจะมาถึงแล้ว
” ท่านอ๋องหนุ่มเอ่ยปากให้นางกลับไปก่อน โดยใช้ข้ออ้างว่าเขาติดมีนัดหมายแล้ว แม้เขามิได้รังเกียจนางแต่ก็มิได้พึงใจนาง แต่จะตัดรอนไปตรงๆเขาก็เกรงใจบิดาของนางที่เป็นพระอาจารย์ของเขาอีกด้วย เขาไม่อยากให้ความหวังนาง เพราะตอนนี้เขาเองก็ยังไม่อยากจะรับสตรีใดเข้าจวนเพราะมีราชกิจยุ่งวุ่นวายมาก
เมื่อซ่งม่านอี้ได้ยินดังนั้น นางจึงจำต้องขอตัวกลับไปก่อน แต่นางก็วิตกกังวลอย่างมากเพราะในน้ำแกงมียาปลุกกำหนัด นางจึงยังอ้ำอึ้งไม่ยอมกลับ เพราะต้องพบพานอุปสรรคที่มิได้คาดคิดมาก่อน แต่ดวงตาคู่คมของท่านอ๋องจ้องมองนางนิ่ง เหมือนบอกเป็นนัยๆ ว่าเขาชักจะไม่พอใจที่นางมัวแต่ชักช้าไม่ยอมทำตามสิ่งที่เขาเพิ่งบอกกับนาง
ม่านอี้พะวักพะวง แต่ก็ทำอะไรมิได้แล้ว จะขอนำมันกลับไปด้วยก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะหากทำเช่นนั้นเขาจะยิ่งสงสัย ประกอบกับขณะนี้ท่านอ๋องกำลังยกมันเทลงในถ้วยตรงหน้าเขา “ ท่านอ๋องเพคะ…”
อ๋องหนุ่มหยุดมือที่กำลังยกโถน้ำแกงเทลงในถ้วยตรงหน้า น้ำแกงอุ่นกำลังดีมันมีควันลอยกรุ่นดูน่าดื่มนัก “ มีอะไรหรือคุณหนูซ่ง ” ซ่งม่านอี้ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงจำต้องปล่อยให้เป็นไปตามชะตากรรม “ ไม่มีอะไรเพคะ หม่อมฉันขอทูลลาก่อน ” แล้วนางก็ยอมออกไปจากห้องหนังสือพร้อมกับสาวใช้ที่ต่างก็เหงื่อตกพอๆกัน
ระหว่างทางก็สวนกับแม่ทัพกังเข้าพอดี ท่านอ่องหรู่หยางมิได้โกหกหรือหาข้ออ้างไล่นาง แต่เขามีธุระกับแม่ทัพกังจริงๆ คุณหนูสาวจึงได้ยอมขึ้นรถม้ากลับไป เพราะไม่มีประโยชน์ใดอีกแล้ว เรื่องฤทธิ์ของยาปลุกกำหนัดนั่น นางจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เสียก็แล้วกัน
ยืนกระต่ายขาเดียวไปเลยว่าไม่รู้ และท่านพ่อก็คงพอจะเป็นเกราะกำบังให้นางได้ คุณหนูสาวคิดอย่างปลงตก เพราะตอนนี้นางก็นึกหาทางแก้ไขใดๆ ไม่ออกจริงๆ นางคิดแผนการณ์เอาไว้เพียงแค่นั้น แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะล้มเหลวผิดแผนไปหมดเช่นนี้
ส่วนแม่ทัพกังก็เคาะประตูก้าวเข้าไปในห้องหนังสือของท่านอ๋องหนุ่ม ทำให้ท่านอ๋องยังมิทันได้ยกถ้วยน้ำแกงขึ้นดื่ม เขาวางมันลงไปตามเดิมแล้วปิดฝาถ้วยเอาไว้ “ ท่านแม่ทัพมาพอดี หนังสือที่เปิ่นหวางจัดการให้ท่าน ตามที่ท่านต้องการอยู่นี่แล้ว ” เขาหยิบหนังสือฉบับหนึ่งในหลายๆฉบับตรงหน้าส่งให้กับแม่ทัพกัง ที่รับมันมาแล้วเปิดอ่านทันที เขานิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“ ถ้าเช่นนั้นกระหม่อมขอตัวก่อน เพราะจะต้องรีบไปเตรียมตัวไปค่ายทหารที่ชายแดนในวันนี้เลย ” เขาคำนับท่านอ๋องพร้อมกับขอตัวลากลับไปจวนแม่ทัพก่อน เพราะจะต้องรีบไปทำภารกิจที่ได้รับมอบหมาย จากองค์ฮ่องเต้ที่รับสั่งมากับท่านอ๋องหรู่หยางในเรื่องสำคัญเกี่ยวกับกองทัพบางอย่าง
เมื่อลับกายท่านแม่ทัพกังแล้ว ท่านอ๋องจึงได้เปิดถ้วยน้ำแกงแล้วยกมันขึ้นมาดื่ม เขารู้สึกว่ารสชาติน้ำแกงนี้ดีไม่น้อย สมคำอวดอ้างของคุณหนูซ่งบุตรีของท่านราชครูอาจารย์ของเขา อ๋องหนุ่มดื่มเทน้ำแกงในโถดื่มไปถึงสามถ้วย แล้วจึงได้วางมันลง แล้วก้มหน้าลงนามในหนังสือตรงหน้าต่อ
“ แม่นม หลานสาวของท่านมิได้พักอยู่ที่นี่กับท่านแล้วหรือ หมู่นี้เปิ่นหวางไม่พบหน้านางเลย ” เขาเอ่ยถามแม่นมขณะที่ทำทีนั่งจิบชาเหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไร เหมือนกับถามไปอย่างนั้น“ หมู่นี้นางออกไปทำงานที่ร้านเสริมความงามของคุณชายเสิ่นอี้หนานเพคะ ได้ยินว่าคุณชายผู้นั้นจ้างให้นางช่วยดูแลร้านของเขาที่เพิ่งเปิดใหม่ นางมาขออนุญาตออกไปทำงานได้เกือบจะสองสัปดาห์แล้วเพคะ เช้าๆขึ้นมานางก็ออกไปทำงานเอง เพราะมีตรอกเล็กๆที่อยู่ถัดจากกำแพงจวนไปนี่ที่เดินลัดออกไปที่ถนนหน้าตลาดได้เพคะ พอตอนเย็นคุณชายเสิ่นก็มาส่งนางที่หน้าจวนเพคะ ได้ยินว่าเป็นทางผ่านกลับจวนของเขาพอดี จึงได้นางติดรถม้าของเขากลับมาด้วย ” อ๋องหนุ่มรู้สึกขุ่นใจเล็กน้อย แต่ก็ยังรักษาใบหน้าให้เรียบเฉยเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไรเพียงถามไถ่ถึงคนในจวนไปตามปกติทั่วไป“ แม่นม เปิ่นหวางมีเรือนว่างอยู่ด้านหลังเรือนหลักนี้ที่ตอนนี้มันไม่มีคนอยู่ ให้หลานสาวของแม่นมย้ายมาอยู่ดีหรือไม่ จะได้มีที่อยู่ของตนเองเป็นสัดส่วน ” เขาหันไปถามเชิงขอความคิดเห็นของแม่นมเหลียน แม่นมชรานิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก็คิดว่าดีเหมือนกัน หลานสาวของนางจะได้มีที่่อยู่ของตนเอง เป็นส
“ เสด็จแม่ว่าอย่างไรนะพะยะค่ะ ” อ๋องหรู่หยางแทบจะตกเก้าอี้ เมื่อได้รับฟังเรื่องราวที่พระมารดาของเขาบอกเล่ากับเขาอย่างเปรมปรีด์ เหมือนพระสนมมีตุ๊กตาตัวใหม่ที่จะจับมันแต่งกายอย่างไร จับวางที่ไหนก็ได้ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน อยู่ๆ ก็จะให้เหลียนฮวาหลานสาวแม่นมเข้าถวายตัวเป็นสตรีของฮ่องเต้ ซึ่งก็คือเสด็จพ่อของเขา มันจะบ้าไปแล้ว นางเป็น เอ่อ…..ของเขาไปแล้ว จะให้ไปถวายตัวให้เสด็จพ่อ ไม่ได้อย่างเด็ดขาด แต่เขาก็ไม่กล้าปริปากบอกกับเสด็จแม่ของเขาไปตรงๆ ในหัวจึงหมุนวนอย่างรวดเร็ว เพราะต้องคิดหาเหตุผลดีๆที่จะไม่ให้สตรีนางนั้นกลายเป็นสตรีของเสด็จพ่อของตัวเอง“ คงไม่เหมาะพะยะค่ะ นางไม่เหมาะกับการเข้าไปอยู่ในวังหลัง ” พระสนมหยู อึ้งไป บุตรชายหมายความว่าอย่างไร แทนที่จะสนับสนุนให้หลานของแม่นมของตัวเองได้ดิบได้ดี แม่นมหวังจะได้พลอยสบายใจไปด้วย “ ทำไมเจ้าถึงคิดว่าไม่เหมาะเล่า แม่ว่าดีนะ นางงดงามถึงปานนั้น ไม่แน่วาสนานางอาจจะได้เป็นถึงพระสนมก็เป็นได้ แล้วนางก็จะสบายไปทั้งชีวิต นางงดงามมากนะ เสด็จพ่อของเจ้าอาจจะโปรดปรานนางก็เป็นได้ รูปร่างของนางก็กำลังดี แม่ว่าบุรุษน่าจะชอบสตรีรูปร่างและ
เหลียนฮวารีบอาบน้ำในถังอาบน้ำใบใหญ่ที่น้ำในอ่างนั้นเย็นชืดแล้ว คงจะมีบ่าวยกมันมาเทให้กับนางแต่มันก็คงจะนานแล้ว เพราะกว่าที่นางจะกลับเข้าห้องมาน้ำในถังไม้ใบใหญ่ก็เริ่มเย็นแล้ว แต่ก็ช่างมันเถอะ อาบน้ำเย็น ๆ เช่นนี้ก็ดีแล้ว สติสัมปชัญญะจะได้ตื่นตัวเต็มที่ และก็จะได้รู้ฐานะของตัวเอง และหัดเจียมตัวบ้าง ไม่ใช่ใฝ่สูงจนทำให้ผู้อื่นหัวเราะเยาะหยันเอาเช่นนี้ได้อีกนางพยายามขัดถูร่างกายที่มีร่องรอยแดงเป็นจ้ำๆ จนแทบจะทั่วร่างกาย เพราะถูกอ๋องผู้นั้นทั้งบีบเค้นและตบตีตามแต่อารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูงของเขา ส่วนปลายยอดถันสีชมพูเข้มที่บัดนี้มันยังรู้สึกได้ถึงสัมผัสที่ร้อนผ่าวของริมฝีปากหนานั่นที่มันครอบครองผลอิงเถาที่เต่งตึงของนางไม่เว้นวาย รสสัมผัสยามที่ถูกเขาดูดดื่มมันยังติดตรึงอยู่ นางยังรู้สึกได้ถึงริมฝีปากที่ร้อนผ่าวที่ประทับลงมา และยังเหลือร่องรอยให้เห็นได้ชัดเจน เหลียนฮวาพยายามใช้สบู่มันแพะชั้นดีที่มีกลิ่นหอมขัดถูไปจนทั่วร่างกายอวบอัดของนางเพื่อชำระล้างรสสัมผัสเหล่านั้นให้จางหายไปอยู่เกือบจะชั่วยาม เมื่อรู้สึกดีขึ้น ถึงได้ยอมลุกขึ้นจากถังอาบน้ำเพื่อเช็ดร่างกายและสวมอาภรณ์เพื่อจะเตรียมตั
เหลียนฮวาที่นั่งหันหลังให้กับเขาเพราะนางกำลังจะสวมอาภรณ์ที่เพิ่งจะควานหามาได้ มือบางชะงักไปครู่หนึ่งหลังจากได้ยินถ้อยคำที่เสียดแทงใจนั้น “ หม่อมฉันไม่ได้วางยาพระองค์เพคะ ” นางเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเบาๆ ริมฝีปากหนาของอ๋องหนุ่มบิดโค้ง เขาไม่เชื่อวาจาของนางแม้เพียงสักนิด “ หากเจ้าไม่ได้ทำแล้วจะเป็นผู้ใดกัน สตรีแพศยา อยากจะเป็นชายาของข้าจนตัวสั่น คิดว่าข้าดูไม่ออกหรืออย่างไรกัน เจ้ามันใฝ่สูงจนเกินตัว คิดหรือว่าวางแผนชั่วเช่นนี้แล้ว ข้าจะยอมรับเจ้าเป็นชายา ฝันสูงสิ้นดี ที่จริงแล้วข้าจะเอาผิดเจ้าก็ได้ที่บังอาจวางยาปลุกกำหนัดข้าจนเกิดเรื่องบัดสีเช่นนี้ แต่เพราะข้าเห็นแก่แม่นมหรอกนะ เอาละ อย่างไรเสียเจ้าก็ตกเป็นสตรีของข้าไปแล้ว ข้าจะรับเจ้าเป็นหญิงอุ่นเตียงก็คงจะได้ ข้าจะให้เจ้าย้ายเรือนไปอยู่ต่างหากไม่ต้องอยู่ในเรือนแม่นมแล้ว ” อ๋องหนุ่มตัดสินใจเอ่ยขึ้น เพราะเขาได้นางเป็นเมียแล้ว แม้ไม่ได้เป็นความตั้งใจของเขา แต่เขาก็ได้นางแล้ว รับเป็นหญิงอุ่นเตียงก็คงจะได้ แค่รับเลี้ยงดูสตรีอีกคนคงไม่กระไรหรอกริมฝีปากแดงระเรื่อที่ตอนนี้บวมเจ่อเพราะถูกจูบจนนับครั้งไม่ถ้วนมาตลอดบ่ายวันนี้ เม้
บั้นเอวสอบโยกไหวควงควานช้าๆ และถอดถอนตัวตนออกและสอดเข้าไปใหม่ระหว่างนี้ก็ครูดผ่านเมล็ดดอกไม้ของคนใต้ร่างไปมาเพื่อจะปลุกเร้านาง อ๋องหนุ่มขยับเข้าออกด้วยลีลารักที่ช่ำชอง เพราะเขาเองก็ผ่านสตรีมามากมายด้วยวัยเกือบจะสามสิบหนาวเข้าไปแล้ว เพียงแต่เขาไม่ได้ถึงกับเป็นบุรุษเจ้าสำราญเพียงเท่านั้น แต่ก็มิใช่มิเคยเรียกสตรีมาปรนนิบัติตามประสาหนุ่มฉกรรภ์ที่ต้องเกิดสิ่งเร้าตามธรรมชาติ อ๋องหนุ่มขยับลำกายเข้าออกแต่ไม่ยอมเข้าไปจนมิดลำกายเสียที เขาทำเช่นนี้เรื่อยๆ เหมือนหลอกล่อให้คนใต้ร่างเสียวซ่านจนทนไม่ไหว ต้องร้องขอเขาด้วยตัวของนางเอง ขณะที่ริมฝีปากหนาของเขาก็ก้มลงไล้เลียอกอวบใหญ่ของนางอย่างเมามัน และเมื่ออดใจไม่ไหวก็อ้าปากออกแล้วรวบทรวงอกอวบใหญ่นั้นเข้าไปแทบจะครึ่งเต้า และก็ออกแรงดูดดื่มมันดังเช่นทารกดูดนมมารดาก็มิปาน “ ท่านอ๋องเพคะ ท่านอ๋อง ฮวาเอ๋อทนไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้วจริงๆเพคะ ” คนใต้ร่างครางออกมาเบาๆ นางรู้สึกเสียวซ่านจนเกินจะทนได้แล้วความเจ็บปวดแทบจะขาดใจในคราวแรกมันหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ได้ เพราะในขณะนี้มันกลับกลายเป็นความเสียวซ่าน เสียวจนนางแทบจะบ้าแล้ว นางเหมือนต้องการบางสิ่ง ต้
ขณะนั้นเหลียนฮวาที่ยกขนมหวานที่นางทำเองมาส่งให้กับท่านอ๋องพอดี เมื่อเขาอนุญาตหลังจากนางเคาะประตูแล้วนางก็เดินเข้าไปพร้อมกับถาดใส่จากขนมหวานที่นางทำเอง อ๋องหนุ่มจ้องมองขนมหวานในจานที่นางยกมาวางตรงหน้าเขา “ ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันทำขนมหวานนี้มาถวายท่านอ๋องเพคะ มันเหมาะกับน้ำชายามบ่ายยิ่งนัก พระองค์ลองชิมดูสิเพคะ " นางคะยั้นคะยอให้เขาชิมขนมหวานที่นางลงมือทำเองเพื่อเอาใจเขาอ๋องหนุ่มหยิบขนมหวานที่เหลียนฮวาหลานสาวแม่นมทำขึ้นชิม เขารู้ว่านี่ก็เป็นสตรีอีกนางที่หลงรักเขา และเทียวมาเอาอกเอาใจเขาดังเช่นคุณหนูซ่ง แต่เหลียนฮวานั้นพำนักอยู่ในจวนของเขา จึงทำให้ได้พบปะกับเขามากกว่าสตรีนางอื่น แต่เขาก็ไม่ได้พึงใจนาง แม้จะนึกชอบใบหน้าหวานและรูปร่างที่อวบอิ่มขาวผ่องของนางก็ตาม แต่ก็เป็นตามวิสัยของบุรุษหนุ่มวัยฉกรรภ์ แต่ก็ไม่ได้คิดไปถึงว่าจะรับนางเข้าเรือนหลังของเขา ไม่ว่าในตำแหน่งใดเขาก็ไม่เคยคิดทั้งสิ้น เขายอมชิมขนมหวานก็เพื่อให้นางยอมออกไปดังเช่นที่เขาทำกับคุณหนูซ่ง เพราะเขาก็รำคาญที่สตรีหลายๆนางพยายามเข้าหาเขาในทุกรูปแบบ บุรุษที่เคร่งขรึมและเอาการเอางานเช่นเขา มิได้ชอบสตรีที่ทอดสะพานให้ช
Comments