นิศาชล คุณหนูผู้อวบอัดหน้าตาบ้านๆ แต่รวยล้นฟ้า เธอทำงานหาเงินเก่งแต่กลับไม่เป็นที่พึงพอใจของชายหนุ่มเท่าไหร่เพราะรูปร่างอวบอ้วน โชคดีว่าผิวขาวเลยทำให้พอดูได้บ้าง ถูกคนรักที่คบกันมานานถึง 3 ปีหักหลังเทงานแต่งอย่างไร้เยื่อใย คุณพ่อผู้ไม่ชอบขี้หน้าว่าที่ลูกเขยจึงรีบหาชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนใหม่มาแต่งงานแทน กล้าตะวัน หนุ่มหล่อ เรียนดี ฐานะยากจน เขาเป็นเด็กกำพร้าที่ต้องเลี้ยงดูน้องชายสองคนเพียงลำพัง ชายหนุ่มทำได้ทุกอย่างเพื่อครอบครัว แม้กระทั่งขายตัวแต่งงานก็ตาม แต่เหตุการณ์หลายอย่างก็เปลี่ยนแปลงชีวิตเขา นิศาชลไม่ใช่คุณหนูเอาแต่ใจแบบที่เคยจินตนาการ และครอบครัวฝ่ายหญิงก็ไม่เคยนึกรังเกียจฐานะอันต้อยต่ำของเขาสักครั้ง มิหนำซ้ำยังเชิดชูออกหน้าออกตา ทว่า เมื่อคนรักเก่าของเธอกลับมาทุกอย่างก็เริ่มวุ่นวาย ความรักที่เพิ่งก่อตัวจะสามารถเอาชนะความรักความผูกพันธ์ครั้งก่อนได้หรือไม่
View More“ตู๊ดๆๆๆ หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้” เป็นเสียงปลายสายที่นิศาชลหรือน้ำค้าง ได้ยินซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดสองวันที่ผ่านมา
ร่างอวบอัดเอนกายพิงพนักโซฟาอย่างเชื่องช้าพร้อมกับหลับตาลงเพื่อทบทวนสิ่งต่างๆ ฝ่ามือขาวนวลยกขึ้นมานวดคลึงบริเวณขมับสองข้างเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดให้เบาบางลง คำถามที่ยังวนเวียนอยู่ในหัวของเธอตอนนี้ ไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้ ภายในห้องทำงานอันกว้างใหญ่มีเพียงเธอกับความเงียบงันเท่านั้น
นิศาชลไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับว่าที่เจ้าบ่าวของเธอกันแน่ งานแต่งงานกำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่ขณะนี้เธอยังติดต่อเขาไม่ได้เลย ภาริชหรือพี่ภาหายเงียบไปสองวันแล้ว
“เฮ้อ พี่ภาหายไปไหนนะ ปกติไม่เคยเป็นแบบนี้” ร่างอวบอุทานออกมาพร้อมกับกดโทรออกหาปลายสายอีกครั้ง
“หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาฝากข้อความ” เสียงตอบกลับอัตโนมัติถูกตัดทิ้งทันทีหลังจากได้ยิน ช่วงเช้าวันนี้นิศาชลโทรหาภาริชไปกว่าห้าสิบสายแล้ว ข้อความเสียงก็ฝากไว้ ทั้งเฟสบุ๊ค ไลน์ อินสตราแกรม ทุกช่องทางที่เธอสามารถติดต่อเขาได้ แต่ยังคงไร้วี่แววการตอบกลับมา
“พี่ดาคะ เลขาพี่ภาว่ายังไงบ้าง”
นิศาชลเดินออกมาหน้าห้องทำงานเพื่อสอบถามเลขาคนสนิทด้วยแววตาเศร้าหมอง เธอมอบหมายให้ญาดาหรือพี่ดา เลขาหน้าห้องติดต่อภาริชผ่านบริษัทของเขาอีกช่องทางหนึ่ง
“คุณภาไม่ได้เข้าบริษัทมาเป็นอาทิตย์แล้วค่ะคุณน้ำ พี่สอบถามเพิ่มเติมแล้ว แต่เลขาบอกว่าเดือนนี้คุณภาไม่มีกำหนดการเข้าบริษัทเลยค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ พี่ดาทำงานอย่างอื่นต่อเถอะ วุ่นวายกับเรื่องของน้ำมาครึ่งวันแล้ว”
“วุ่ยวายอะไรกันคะคุณน้ำ เรื่องนี้สำคัญมากนะคะ งานอย่างอื่นพี่จัดการหมดแล้ว คุณน้ำอย่าพึ่งกังวลใจเลย เหลือเวลาอีกตั้งสามวัน คุณภาอาจจะกำลังวางแผนเซอร์ไพรส์อยู่ก็ได้” ญาดาพยายามปลอบใจเจ้านายสาวสุดความสามารถ เธอทำงานกับนิศาชลมานาน สนิทสนมกันเหมือนคนในครอบครัว แค่เห็นสีหน้าเศร้าหมองก็พอคาดเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“ขอให้เป็นอย่างนั้นนะคะ” นิศาชลเผยรอยยิ้มบางเบาออกมาเพื่อให้เลขาคนสนิทสบายใจ
ญาดาได้แต่มองตามหลังเจ้านายสาวด้วยความเป็นห่วง นิศาชลอะไรก็ดีไปหมด ทั้งทำงานเก่ง การศึกษาดี ฐานะร่ำรวย ครอบครัวรักใคร่ยิ่งกว่าไข่ในหิน เสียอย่างเดียวคือเรื่องรูปร่างหน้าตา นิศาชลจัดได้ว่าเป็นสาวพลัสไซต์รูปร่างอวบอัดเลยทีเดียว ยังดีที่มีส่วนโค้งเว้าอยู่บ้าง ไม่หย่อนยานเหมือนสาวอวบทั่วไป แถมผิวพรรณของเธอยังขาวผุดผ่องเป็นยองใยตามประสาผู้ดีมีเงิน จึงทำให้น่ามองอยู่บ้าง ส่วนใบหน้าก็สวยงามตามธรรมชาติไม่ได้โด่ดเด่นสะดุดตาอะไร
ตอนแรกญาดายังแปลกใจอยู่เลยที่เจ้านายสาวมีแฟนหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาอย่างภาริช แต่พอได้ทำงานด้วยกันจึงทำให้รู้ว่านิศาชลเป็นคนดีมาก ความง่ายๆ สบายๆ ของเธอทำให้ผู้คนตกหลุมรักแบบไม่รู้ตัว เรียกได้ว่าเป็นบุคคลประเภทที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ
“เฮ้อ ขอให้คุณน้ำสมหวังด้วยเถิด อย่าให้เกิดเรื่องเหมือนข่าวในทีวีที่ลูกช้างได้ยินบ่อยๆ เลย สาธุ”
ญาดาพนมมือขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เจ้านายด้วยความเป็นกังวล ไม่รู้ว่าภาริชหายหัวไปไหน เธอพยายามติดต่อเลขาของเขาเพื่อคาดคั้นเอาคำตอบหลายรอบแล้ว แต่ก็ไม่ได้เรื่องราวอะไร
“สวัสดีค่ะคุณน้ำ ชุดเจ้าสาวแก้เสร็จแล้วนะคะ คุณน้ำอยากเข้ามาลองชุดไหม” ร้านตัดชุดเจ้าสาวติดต่อหานิศาชลเพื่อสอบถามความต้องการของลูกค้าครั้งสุดท้ายก่อนส่งมอบผลงาน
“อ่อ ไม่เป็นไรค่ะ เอาชุดไปส่งไว้ที่บ้านได้เลย แจ้งแม่บ้านด้วยนะคะว่าเป็นชุดแต่งงาน”
“โอเคค่ะ ชุดเจ้าบ่าวไปส่งบ้านคุณภาริชได้เลยไหมคะ”
“มะ ไม่ต้องค่ะ ส่งไว้ที่บ้านน้ำทั้งสองชุดเลย” นิศาชลปฏิเสธเสียงติดขัด วันก่อนเธอไปหาภาริชแต่พบว่าเขาไม่อยู่บ้าน จึงไม่รู้ว่าต้องเอาชุดแต่งงานไปส่งไว้ไหน
“ได้ค่ะ ขอบคุณที่ใช้บริการร้านตัดเสื้อของเรานะคะ”
เมื่อสิ้นสุดบทสนทนา นิศาชลก็ได้แต่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกด้วยความเหนื่อยหน่าย ยิ่งใกล้ถึงวันแต่งงานมากเท่าไหร่ เธอยิ่งร้อนรนใจมากขึ้นเท่านั้น
“คุณน้ำคะ ตอนเย็นมีนัดทานข้าวกับท่านประธาน ส่วนบ่ายนี้มีนัดสัมภาษณ์งานวิศวกรคนใหม่ คุณน้ำอยากเข้าฟังสัมภาษณ์ด้วยไหมคะ” ญาดารายงานนัดหมายให้นิศาชลทราบ พร้อมกับสอบถามความพร้อมของเจ้านาย เนื่องจากนัดสัมภาษณ์ครั้งนี้ไม่ได้สลักสำคัญอะไร
“น้ำขอข้อมูลเบื้องต้นเพิ่มเติมได้ไหมคะ” นิศาชลเงยหน้าจากเอกสารกองโตเพื่อคุยงาน เรื่องส่วนตัวของเธอคงต้องพักเอาไว้ก่อน
“ข้อมูลส่วนตัวผู้สมัครค่ะคุณน้ำ” ญาดายื่นเอกสารที่เตรียมมาให้เจ้านายอย่างรู้ใจ
“รอบนี้มีคนผ่านการทดสอบขั้นพื้นฐานแค่คนเดียว ผู้สมัครชื่อคุณกล้าตะวัน อายุ 26 ปี จบปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง มหาวิทยาลัยชื่อดัง ตอนนี้ยังโสด เคยรับผิดชอบงานก่อสร้างโรงแรมในจังหวัดกระบี่ มีใบประกอบวิชาชีพวิศวกรเรียบร้อยค่ะ”
“อื้มมม ข้อมูลละเอียดมากเลยนะคะพี่ดา” นิศาชลหรี่ตาเอ่ยแซวอย่างรู้ทัน
“แหมม คุณน้ำ นิดๆ หน่อยๆ เองค่ะ กำลังใจในการทำงาน คุณน้ำดูสิ วิศวกรคนใหม่ทั้งหล่อเหลาทั้งหุ่นดี พี่ดาจะอดใจไหวได้ยังไง”
“เดี๋ยวน้ำให้พี่ดาเข้าฟังสัมภาษณ์ด้วยดีไหมคะ แต่ต้องดูแลเรื่องอาหารว่างให้ด้วยนะ โอเคไหม”
“รับรองว่าจะดูแลเป็นอย่างดีเลยค่ะ ถึงเวลาสัมภาษณ์จะมาเรียกคุณน้ำอีกทีนะคะ” ญาดายิ้มแป้นออกมาอย่างมีความสุขจนนิศาชลต้องส่ายหน้าเบาๆ เรื่องผู้ชายหล่อเหลาต้องยกให้ญาดาเท่านั้น เต๊าะเก่งไม่มีใครเกินเชียวหล่ะ
ห้องประชุมอันกว้างใหญ่ของบริษัทนธีการก่อสร้างเต็มไปด้วยความกดดัน การสัมภาษณ์งานของกล้าตะวันเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเพียงไม่กี่นาที กรรมการกว่าสิบคนต่างจ้องมองเขาเป็นจุดศูนย์กลาง ทำให้ร่างสูงยิ่งเกิดอาการประหม่า ข่าวลือว่าบริษัทนี้รับพนักงานยากคงจะเป็นเรื่องจริง
“เชิญแนะนำตัวเองให้พวกเราได้รู้จักคร่าวๆ หน่อยค่ะ” นิศาชลเริ่มต้นสนทนาด้วยคำถามง่ายๆ เพื่อให้ผู้สมัครรู้สึกผ่อนคลาย
“สวัสดีครับ ผมชื่อกล้าตะวัน อายุ 26 ปี จบจากมหาวิทยาลัย”
“พอก่อนค่ะ ข้อมูลเบื้องต้นพวกนี้ เราทุกคนทราบดีจากเรซูเม่ของคุณแล้ว อยากให้คุณแนะนำเรื่องความชอบ การทำงาน ไลฟ์สไตล์ อืมมม หมายถึงอธิบายตัวตนของคุณให้พวกเราฟังหน่อย” นิศาชลค่อยๆ ชี้แจงรายละเอียดที่เธอต้องการทราบให้เขาฟังอย่างชัดเจน
“ครับ ผมชอบทำงาน ชื่นชอบการก่อสร้างหรือการออกแบบด้านวิศวกรรมเป็นพิเศษ เวลาว่างชอบออกกำลังกาย เล่นกีฬา พัฒนาความรู้ด้านไอทีเพิ่มเติมเพราะเป็นความชื่นชอบอีกหนึ่งอย่าง สามารถเดินทางไปต่างจังหวัดได้ทั่วประเทศ นอนกลางดินกินกลางทรายได้ เป้าหมายหลักในการทำงานคือเงินเดือนครับ” หลังจากกล้าตะวันแนะนำตัวจบกรรมการในห้องก็ตกอกตกใจกันไม่น้อย ชายหนุ่มคนนี้เถรตรงเกินไปหรือเปล่า
“น่าสนใจดีนะคะ เชิญกรรมการท่านอื่นสอบถามต่อได้เลย” นิศาชลมอบหมายการสัมภาษณ์งานด้านความรู้เฉพาะทางให้ผู้บังคับบัญชาหรือหัวหน้างานสัมภาษณ์ต่อเพราะเธอไม่เชี่ยวชาญ
“คุณมีประสบการณ์สร้างโรงแรมขนาดกลางมาก่อน แถมผลงานชิ้นนั้นยังได้รับคำชมด้วย ทำไมถึงลาออกจากบริษัทเดิมเสียหล่ะ” คำถามจากกรรมการท่านหนึ่งดังขึ้นมาเมื่อการสัมภาษณ์ด้านอื่นๆ สิ้นสุดลง
“พอดีผม เอ่อ”
“คุณน้ำ คุณน้ำ คุณน้ำขาาาา” ญาดาวิ่งพรวดพราดเข้ามาในห้องประชุมอย่างเร่งรีบจนลืมไปเลยว่าทุกคนกำลังสัมภาษณ์งานวิศวกรคนใหม่
“มีอะไรคะพี่ดา” นิศาชลเลิกคิ้วถามด้วยความงุนงง
“อะ อ้อ ขอโทษที่เข้ามารบกวนทุกคนนะคะ พอดีคุณน้ำมีงานด่วนเข้ามา เชิญสัมภาษณ์งานต่อได้เลยค่ะ ขอตัวคุณน้ำสักครู่” ญาดาจูงมือเจ้านายสาวออกจากห้องประชุมทันที ไม่มีเรื่องอะไรคอขาดบาดตายไปมากกว่านี้อีกแล้ว ตาเถรเอ๊ย เวรกรรมอะไรของคุณน้ำกันนะ
“มีเรื่องด่วนอะไรกันคะพี่ดา” นิศาชลหยุดยืนหน้าห้องทำงานพร้อมกับสอบถามอย่างสงสัย ท่าทีร้อนรนของญาดาทำให้เธอเริ่มใจเสียขึ้นมา
“คุณน้ำ คุณน้ำทำใจดีๆ นะคะ ตั้งสติไว้นะ”
“เรื่องใหญ่เลยหรือคะพี่ดา รีบบอกมาเถอะ เผื่อน้ำหาทางแก้ไขได้”
“คะ คุณน้ำ ดูนี่ค่ะ” ญาดายื่นโทรศัพท์มือถือที่กำลังรายงานข่าวประเด็นร้อนของวันให้นิศาชลดูด้วยมืออันสั่นเทา ข่าวนี้ทำให้ธอสำลักน้ำแทบหยุดหายใจ ไม่รู้ว่านิศาชลจะรับได้ไหมกับสิ่งที่เกิดขึ้น
(ประเด็นร้อนไฮโซวันนี้ขอแสดงความยินดีกับ คุณภาริชและคุณระรินด้วยนะครับ เพิ่งประกาศคบกันอย่างเป็นทางการเมื่อตอนบ่าย ฝ่ายชายเป็นเจ้าของบริษัทสถาปนิกรุ่นใหม่ไฟแรง ส่วนฝ่ายหญิงก็เป็นถึงทายาทสาวสวยบริษัทสยามดีเวล๊อปเมนต์ชื่อดัง ทุกคนในแวดวงธุรกิจก่อสร้างต่างจับตามองคู่นี้กันยกใหญ่ ได้ข่าวมาว่าตอนนี้บริษัทของคุณภาริชกำลังจะจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ด้วย ประเด็นนี้ร้อนแรงมาก)
“ปิดเถอะค่ะพี่ดา น้ำไม่อยากดูต่อแล้ว” นิศาชลขอร้องเสียงสั่น ความรู้สึกผิดหวังกำลังถาโถมเข้ามาในหัวใจเธอ ทำไมมันช่างปวดหนึบแทบหายใจไม่ออกอย่างนี้หล่ะ น้ำตาเม็ดโตไหลรินออกมาไม่ขาดสาย คำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัวเต็มไปหมด ทำไมภาริชถึงทำกับเธอแบบนี้ พวกเขาคบกันมานานแค่ไหนแล้ว เธอถูกหักหลังใช่ไหม เธอทำผิดตรงไหน แล้วงานแต่งงานหล่ะ ที่ผ่านมาคืออะไร ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นความจริงไหม เกิดอะไรขึ้นกันแน่ นิศาชลตั้งคำถามกับตัวเองซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น น้ำตาเม็ดโตไม่สามารถบรรเทาความเจ็บปวดในใจของเธอได้ ยิ่งน้ำตาไหลมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดจนหายใจไม่ออกมากเท่านั้น อยากให้เรื่องราวของวันนี้เป็นเพียงความฝันเสียเหลือเกิน
“ว้ายยยย คุณน้ำ ช่วยด้วย ช่วยด้วยค่ะ คุณน้ำเป็นลม” ญาดาตะโกนขอความช่วยเหลือลนลานพลางวิ่งเข้าไปดูอาการเจ้านายที่นอนหมดสติแน่นิ่งบนพื้น
งานแต่งแสนเรียบง่ายถูกจัดขึ้นภายในคฤหาสน์หลังงามของเจ้าสัวนธีอีกครั้ง แต่ครานี้ต่างจากคราแรกเพราะเจ้าบ่าวและเจ้าสาวต่างมีสีหน้าชื่นมื่น นิศาชลยืนต้อนรับแขกร่วมกับเจ้าบ่าวอย่างกล้าตะวันพร้อมรอยยิ้ม แขกที่เชิญมาในงานแต่งครั้งนี้มีเพียงเพื่อนสนิทและญาติใกล้ชิดกันเท่านั้น กะจากสายตาแล้วน่าจะประมาณสามสิบคน ถือว่าเป็นงานแต่งขนาดเล็กที่อบอวลไปด้วยความสุขอย่างแท้จริง ที่น่าอิจฉาไปกว่านั้นคือเจ้าบ่าวลงมือเตรียมงานทั้งหมดด้วยตนเอง ทั้งเลือกชุด เลือกการ์ด ตกแต่งสถานที่ เขาจัดการอย่างดีจนหลายคนเอ่ยปากชมกล้าตะวันตระเตรียมสินสอดมาสู่ขอนิศาชลตามประเพณี แม้รู้ว่าพ่อแม่ของฝ่ายหญิงมิได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากมายนัก ทว่าเขาอยากให้เกียรติเธอเช่นลูกผู้ชายคนหนึ่งพึงกระทำ อยากให้พ่อตาและแม่ยายรับรู้ว่าเขาสามารถดูแลบุตรสาวของพวกท่านได้ ซึ่งเจ้าสัวนธีเองก็พึงพอใจมากเมื่อลูกเขยคนโปรดอยากจัดงานวิวาห์ด้วยทรัพย์สินที่หามาจากน้ำพักน้ำแรงของตนเอง แม้เป็นเพียงงานแต่งเล็กๆ แต่เขากับภรรยาก็มีความสุขมาก ในที่สุดบุตรสาวเพียงคนเดียวก็เจอคู่ชีวิตเสียที ไม่ต้องกังวลว่าเมื่อจากโลกนี้ไปแล้วนิศาชลจะเดียวดาย ขอบคุณโชคชะตา
ข่าวการล้มละลายของภาริชไม่ได้ทำให้นิศาชลรู้สึกมีความสุขเลย เธอเป็นห่วงเขาด้วยซ้ำ ตั้งแต่รู้จักกันมาผู้ชายคนนั้นใช้ชีวิตบนกองเงินกองทองและความสะดวกสบายมาตลอด เขาจะเอาชีวิตรอดจากสังคมอีกแบบได้อย่างไร ทุกคนรอบตัวเธอต่างลงความเห็นกันว่าบทลงโทษที่ภาริชได้รับนั้นสมควรแล้ว เพราะการกระทำของเขาค่อนข้างเลวร้าย เขาไม่เคยสำนึกผิดแถมยังเล่นงานเธอถึงสองครั้งสองครา ครั้งแรกตั้งใจวางยาเพื่อข่มขืน ส่วนครั้งที่สองก็ร่วมมือกับระรินทำลายชีวิตครอบครัวของเธอหน้าระรื่น ขืนปล่อยเอาไว้เธอนั่นแหละจะเป็นฝ่ายถูกเขาเล่นงานซ้ำๆ ตัดไฟตั้งแต่ต้นลมดีกว่า หากต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกบุคคลหนึ่งที่นิศาชลรู้สึกว่าช่วงนี้หายเงียบไปจากวงสังคมก็คือระริน เนื่องจากพักหลังมีเพียงเจ้าสัวธนินผู้เป็นบิดาเท่านั้นที่มาร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ต่างๆ ไม่รู้ว่าท่านจัดการกับบุตรสาวเพียงคนเดียวของตนเองยังไง อีกฝ่ายถึงได้เงียบหายไปแบบนี้ ในวงสังคมไม่มีการพูดถึงระรินอีกเลยเหมือนว่าเธอไม่เคยมีตัวตนมาก่อนอย่างไรอย่างนั้น แถมยังมีข่าวลือแว่วๆ ออกมาว่าเจ้าสัวธนินกำลังผลักดันบุตรชายนอกสมรสให้ก้าวขึ้นมานั่งในตำแหน่งรองประธานบริษัทเพื่อสืบทอดกิ
เมื่อเดือนก่อนภาริชได้ติดต่อมาหากล้าตะวันเพื่อขอเจรจาเรื่องการฮั้วประมูลเป็นการส่วนตัว เขากลัวว่านิศาชลจะเดือดร้อนไปด้วยจึงตั้งใจปิดบังเธอไว้ เมื่อปัญหาทุกอย่างคลี่คลายค่อยสารภาพความผิดกับเธอทีหลัง การกระทำของภาริชสร้างความประหลาดใจให้กล้าตะวันไม่น้อยเนื่องจากอีกฝ่ายคอยหาเรื่องดูถูกเหยียดหยามเขาเป็นประจำ การเจรจาต่อรองแทบไม่อยู่ในหัวภาริชด้วยซ้ำ ทว่าเขากลับลงทุนติดต่อมาด้วยตัวเอง มองยังไงก็ไม่สมเหตุสมผลกล้าตะวันคิดว่าอีกฝ่ายคงวางแผนเล่นงานเขาไว้แน่ๆ เพียงแต่เขาเองก็ต้องการหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อเอาผิดภาริชเช่นกัน ดังนั้นจึงยอมไปพบอีกฝ่ายตามที่เสนอมา เขาวางแผนเตรียมพร้อมรับมือกับภาริชอย่างลับๆ โดยมีพร้อมพงษ์คอยให้ความช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง วันที่ออกไปพบศัตรูเขาได้ติดตั้งกล้องขนาดเล็กและไมโครโฟนไว้ใต้เนกไทเพื่อบันทึกเสียงสนทนาระหว่างเขากับภาริชไว้เป็นหลักฐาน แต่คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายกล้าหาญถึงขึ้นวางยาสลบเขาโชคดีที่พร้อมพงษ์รับรู้ถึงความผิดปกติและเตือนให้ระวังตัวเอาไว้ เขาแสร้งดื่มน้ำในแก้วแล้วสลบไปตามแผนการของอีกฝ่ายอย่างแนบเนียน ไม่นานนักก็มีรถตู้พร้อมชายชุดดำอีกหลายคนมารับตัวเขาเพื่อพา
พูลวิลล่าส่วนตัวบนเกาะภูเก็ตถูกเลือกให้เป็นสถานที่พักพิงหัวใจแสนบอบช้ำ นิศาชลนั่งทบทวนเรื่องราวต่างๆ พลางขบคิดหาวิธีแก้ไขมากว่าสามวันแล้ว หากเรื่องราวเหล่านั้นไม่ได้เป็นไปอย่างที่เธอหวัง ยอมรับว่าหวาดกลัวคำตอบจากปากกล้าตะวันมาก นิศาชลถูกประสบการณ์เมื่อครั้งอดีตคอยหลอกหลอนตลอดเวลาและย้ำเตือนเสมอว่าเธอนั้นจะเป็นฝ่ายถูกทิ้งเมื่อพวกเขามีตัวเลือกที่ดีกว่าหรือใกล้เคียงกันเรียกได้ว่าเธอเกิดมาเพื่อผิดหวังอย่างแท้จริง โดยเฉพาะเรื่องความรักและคู่ครอง ไม่ใช่แค่ภาริชที่เลือกทำแบบนั้น คนรักของเธอแทบทุกคนเป็นเหมือนกันหมด สุดท้ายพวกเขาก็เลือกภรรยาที่สวยหยาดเยิ้มสามารถเชิดหน้าชูตาและอวดเพื่อนๆ ในวงสังคมได้ นักธุรกิจส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยประสบความสำเร็จเรื่องครอบครัวมากนัก จะหย่ากันทีก็เป็นข่าวใหญ่โตให้ผู้คนนินทา บางคู่จึงเลือกกล้ำกลืนฝืนทนประคับประคองความสัมพันธ์จวบจนวาระสุดท้ายของชีวิตแม้พอดูออกว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นแผนการของระริน ทว่าหากสามีของเธอเกิดพลาดท่าขึ้นมาจริงๆ ฝ่ายนั้นต้องหาทางบีบบังคับเขาแน่ กลัวเหลือเกินว่ากล้าตะวันจะหันหลังให้เธอเหมือนอย่างภาริชเคยทำ การหนีมาพักผ่อนเป็นเพียงการถ่วงเวลาแล
ห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านใจกลางเมืองเป็นสถานที่ที่กล้าตะวันขับรถมาส่งภรรยา เขาเสนอให้เธอเข้าไปเลือกซื้อสินค้าที่ต้องการก่อน ระหว่างรอเขาจะออกไปทำธุระข้างนอกเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา นิศาชลเห็นด้วยกับความคิดของสามีเนื่องจากเธอมีนัดเลือกซื้อเสื้อผ้ากับญาดา คาดว่าคงใช้เวลานานพอสมควร ถ้าให้นั่งรอเขาจะเบื่อหน่ายเสียเปล่าๆสองสาวต่างวัยทักทายกันด้วยรอยยิ้มเมื่อพบหน้า นิศาชลรีบควงแขนญาดาเข้าไปในร้านเสื้อผ้าสำหรับเด็กทันที ภายในร้านมีการตกแต่งที่น่ารักสดใส ใช้สีฟ้าพาสเทลและสีชมพูอ่อนเป็นหลัก แสงสว่างจากโคมไฟสีเหลืองนวลตามมุมต่างๆ ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกอบอุ่นใจ พื้นที่ทางเดินถูกจัดเตรียมไว้เป็นสัดส่วนให้เหมาะสมสำหรับการเลือกซื้อสินค้า นอกจากนี้ยังมีห้องลองชุดสำหรับเด็กทารกและเด็กโตไว้บริการหากต้องการลองสวมใส่ก่อนตัดสินใจร้านขายเสื้อผ้าแห่งนี้มีเสื้อผ้าสำหรับเด็กแรกเกิดไปจนถึงเด็กโต หลายขนาด หลายไซต์ รวมถึงของเล่นเพื่อเสริมพัฒนาการ หนังสือสำหรับคุณแม่มือใหม่ ตุ๊กตาน่ารักๆ และของใช้จิปาถะสำหรับเด็ก เรียกได้ว่าครบครัน พนักงานในร้านก็ยิ้มแย้มพร้อมให้บริการตลอดเวลา“ชุดนี้สวยมาก น้ำซื้อให้หลานนะคะ
นิศาชลนั่งจิบกาแฟพลางฮัมเพลงเบาๆ เมื่อทราบข่าวว่าบริษัทของภาริชกำลังปั่นป่วนอย่างหนัก ราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ดิ่งลงกว่าสามวันแล้ว แถมยังมีข่าวลือแว่วๆ ว่าไฮโซสาวอย่างคุณหนูระรินต้องการถอนหมั้น เมื่อหมดประโยชน์ก็ถูกฝ่ายนั้นเขี่ยทิ้งทันที จะโทษว่าเป็นความผิดของเธอคนเดียวไม่ได้ หากภาริชไม่ทำร้ายเธอก่อน เรื่องนี้ย่อมไม่มีทางเกิดขึ้น“คุณน้ำคะ ตอนบ่ายมีประชุมกับฝ่ายการตลาดนะคะ” ญาดาเร่งรุดเข้ามารายงาน ทว่าผู้ฟังกลับไม่สนใจเธอแม้แต่น้อย ซ้ำยังมีรอยยิ้มที่ดูแปลกตากว่าปกติผุดขึ้นมาเต็มใบหน้า“มีเรื่องน่ายินดีอะไรหรือเปล่าคะ” ความอยากรู้อยากเห็นทำให้เลขาสาวเอ่ยปากถามออกไปทันที“พี่ดาลองเดาดูสิ” นิศาชลยิ้มหวาน หน้าท้องที่เคยแบนราบของคุณแม่มือใหม่เริ่มนูนขึ้นมาเล็กน้อย เธอต้องคอยบอกให้ระวังเสมอเพราะญาดาไม่ยอมพักงาน อ้างว่าร่างกายแข็งแรงดี น่าแปลกที่เลขารุ่นพี่ไม่มีอาการแพ้ท้องให้เห็น แต่เมื่อทราบจากสามีว่าพร้อมพงษ์แพ้ท้องแทนญาดาอย่างหนัก ทำเอาเธอหัวเราะชักดิ้นชักงออยู่เป็นวัน ทั้งขำขันทั้งสงสาร“เดาไม่ถูกหรอกค่ะ ช่วงนี้พี่ดาวุ่นวายแต่กับเจ้าตัวเล็ก” ฝ่ามือเรียวยกขึ้นลูบหน้าท้องเบาๆ ก่อนคลี่ยิ้ม
Comments