เพราะเขาคือบุคคลที่ได้รับฉายาเย็นชาประดุจกระเบื้องน้ำแข็ง การที่จะรักใครสักคน คงจะยากหน่อย โครทิส เวเดโน่ หรือ เวเดน หนึ่งในสมาชิดเหล่าอัลฟา มาเฟียมีอำนาจใหญ่คับเมือง เธอ ผู้มีความหวังเดียว จากคำสัญญาของพี่ชาย ที่หายไปหลายปี โดยไม่ส่งข่าวคราว เพราะต้องการจะสืบหา นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เธอกับเขาได้พบกัน พร้อมชีวิตที่เปลี่ยนไปตลาดกาล ไศลา สาวหัวแข็งชาวไทยที่ไปทำงานอยู่ต่างประเทศ
View Moreแรงปรารถนาเป็นจริง...
ฉันจะถือว่านี่เป็นสิ่งที่สวรรค์ได้เลือก
แม้เส้นทางเบื้องหน้าจะเป็นทางชัน เต็มไปด้วยความมืดและเงียบสงัด แต่ถ้ามันนำพาไปถึงจุดหมายที่ฉันต้องการได้
ฉันคงต้องทำ!
พี่ชายฉันหายไป ครั้งสุดท้ายที่เราคุยกัน เขาสัญญาว่าจะมารับฉัน หลังจากที่ฉันเรียนจบ ทว่านับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ ผ่านมาจะหกปีเศษ... กลับไม่มีข่าวคราวจากเขาเลย ทั้งที่ทางบ้านพยายามติดต่อ ก็ไร้ซึ่งการติดต่อกลับ
... เกิดอะไรขึ้น ทั้งที่พี่ชายรักพวกเรามาก
" จะไปจริงๆหรือลูก"
แม่ของพวกเราอายุเริ่มเยอะ โรคเรื้อรังก็เริ่มถามหา ปกติค่ารักษาพี่ชายเป็นคนจัดการทั้งหมด
ฉันเองก็ช่วยได้อยู่หรอก กว่าหกปีมานี้ หากโรคเดิมยังอยู่ โรคใหม่นั้นเข้ามาเพิ่ม ยิ่งนานวันก็ยิ่งต้องใช้เงิน ไม่รวมหนี้สินจากการกู้เงินส่งน้องชายคนเล็กเรียน ฉันคนเดียวก็คงไม่ไหว
" งานที่ต่างประเทศ จะช่วยให้เราสบายขึ้นค่ะแม่มีเจ้าสรรค์อยู่ด้วย คงหมดห่วงไปบ้าง... ดูแลตัวเองนะคะ"
" แต่ว่า..."
" แล้วจะส่งข่าวมาบ่อยๆค่ะ ที่นั่นน่ะคงช่วยเราได้ หนูจะมารับแม่กับน้องให้เร็วที่สุด"
ต่อให้ต้องคิดถึงมาก เมื่อห่างกันแล้ว แต่หากไม่ตัดสินใจทำแบบนี้ พี่ชายของฉันก็คงไม่กลับมา
เพราะหากเขาตาย.. ฉันจะคิดว่าครอบครัวของเราก็แค่โชคร้ายเท่านั้น อย่างน้อยจะได้รู้ว่าถึงเหตุผลที่เขาหายไป..
" ลานะคะแม่ "
" ไศลา! "
" คะ? "
"พี่ของลูก.. ไม่ได้ทำงานสุจริตหรอกนะ ถ้าการไปทำงานของลูกเจตนาจะนำเงินมารักษาแม่ ก็ขอให้ทำมันแค่นั้น อย่าตามหาเขาเลย"
และฉันคงต้องยอมทำบาปโดยการโกหกอีกสักครั้ง
".. ค่ะ ไศจะพยายาม"
ใช่ เพราะพี่ชายทำงานผิดศีลธรรม การตายของเขาจึงไม่ธรรมดา แม่อาจปล่อยวาง
แต่ฉัน...ไม่
“ห๊ะ ขายตัว! อู้!!!”
ดวงตาคมในแบบฉบับสาวไทยถ่างขึ้น กรอกไปกรอกมา ตกใจกับเพื่อนร่วมงานที่อยู่ๆ นึกจะโพล่งอะไรก็โพล่ง ก่อนจะถูกฝ่ามือหล่อนอุดปากเอาไว้
“ชู่วววว จะบ้าเหรอ ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้นสักหน่อย แค่พูดลอยๆเฉยๆ”
เทเรน่าโน้มหน้าลงมากัดฟันกรอด ก่อนจะปล่อยคนตัวเล็กกว่า ให้ยืนเหมือนเดิม
“ก็เธอพูด...”
“ก็เธอถามนี่!”
“แค่ถามว่า ทำยังไงให้ได้เงินเยอะๆ แต่เหนื่อยน้อย ...แค่นั้นเอง”
“ฉันก็บอกเธอไง ว่าคงต้องไปขายตัว ชิ! ยัยบ้า เมื่อไหร่จะฟังให้จบก่อนจะโวยวายสักทีนะ”
เทเรน่าบ่นอุบ ออกแรงถูแก้วหนักกว่าเดิมตามอารมณ์ฉุนเฉียว
แต่แล้ว...
"นี่ ตรงนั้นน่ะ มัวทำอะไรกันอยู่ อีกสิบนาทีเราต้องเปิดร้านแล้วนะ”
เหมือนว่าเสียงเถียงกันเล่นๆ ของพวกเธอจะโชยตามลมออกไปไกล แล้วนำพาเสียงของใครบางคนลอยมาต่อว่า ก่อนเดินดุ่มๆ มาหยุดเท้าสะเอว ใช้สายตาเพ่งเล็งมายังคนพูดเป็นพิเศษ
“ค่ะ จะเสร็จแล้วค่ะ”
นั่นทำเทเรน่าตกใจไม่น้อย หล่อนเอ่ยเสียงอ่อยพร้อมหน้าละห้อย ส่วนคนข้างๆ กลับอั้นขำราวกับมันเป็นเรื่องตลก
“คิกๆๆ โอ้ย..”
เทเรน่าจึงหันมาทำตาขวางใส่ หลังหัวหน้าแผนกเดินออกไปแล้ว พร้อมยิกเนื้อเธอตรงชายโครง
“ตลกมากไปแล้ว”
“โถ่ เทเรน่า ฉันขอโทษ”
“ไม่ต้องเลย เธอมักทำให้ฉันซวยประจำ”
หล่อนปาผ้าขาวในมือทิ้งแสร้งงอน เปลี่ยนจากเช็ดแก้วไวน์ไปทำอย่างอื่นแทน นั่นจึงทำให้ไศลาถึงกับเซ็ง เธอเป่าลมใส่เส้นผมบนหน้าผากกระเพื่อมขึ้น พร้อมทำปากขมุบขมิบใยตาม
“หยีๆๆ ขี้งอนชะมัด คราวนี้ฉันไม่ง้อหรอกนะจะบอกให้!”
“ก็ดี งั้นคืนนี้ห้ามเอายัยซิมบ้าขึ้นมานอนบนเตียงนะ”
ทว่า หญิงสาวมักจะแพ้เพื่อนตลอด มันคือจุดอ่อนของเธอเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อไหร่ที่ไศลาขัดใจ เจ้าของห้องครึ่งนึงอย่างเทเรน่ามักจะยกคำนี้ขึ้นมาข่มขู่ประจำ
“ชิ...ไม่เป็นคนรักแมวบ้างให้มันรู้ไป”
ไศลาทำหน้าละห้อย กลายเป็นเธอที่ต้องบ่นอุบแทน ส่วนหล่อนเดินเชิ่ดหน้าอมยิ้มออกไปจากบาร์
“เหลืออีกหนึ่งตะกร้า ฝากเช็ดด้วยนะ เช็ดให้เร็วๆ ด้วยล่ะ ได้ข่าวว่าวันนี้ คุณโครทิสจะเข้ามา”
“ห๊ะ..”
ทิ้งให้เพื่อนสาวชาวไทยทำงานคนเดียว เธอทำเป็นงงในทีแรก รอให้เพื่อนสนิทที่สุดในคาสิโนแห่งนี้เดินออกไปก่อน จึงจะเปลี่ยนเป็นยืนนิ่งในทีหลัง เธอถือแก้วไวน์ในมือพร้อมผ้าเช็ดค้างไว้ หรี่ตาลงต่ำข้างในไม่ได้โฟกัสอะไรเป็นพิเศษ หากใครมาเห็น คงมองไม่ออกว่าเธอกำลังใช้ความคิดอยู่
“โครทิส? ...” ในหัวมีแต่เสียงพี่ชาย พร้อมชื่อนี้ที่คุ้นเคย
“โครทิส ดิ เวเดโน่ น่ะหรือ...”
ไม่น่าเชื่อว่าวันนี้เขาจะเข้ามาอย่างที่เทเรน่าบอกไว้จริงๆ หลังจากเธอใช้เวลารอคอยการตอบกลับรับเข้าทำงานอยู่ที่ประเทศไทยนานโข และบรรจุอยู่ที่นี่นานเป็นเดือนกว่าจะได้ยินคำนี้
การปรากฏตัวของเขาจึงน่าทึ่ง นั่นเพราะเจ้าของบ่อน... มีอุปนิสัยที่ดูเหมือนเป็นคนไม่เอาไหน ขี้เกียจ ไม่ค่อยสนใจในกิจการและลูกน้องของตัวเอง ดูจากการเข้ามาที่นี่แบบนับครั้งได้ก็พอจะรู้ ทว่าเขากลับรู้เรื่องราวทุกเรื่อง โดยผ่านสิ่งอื่น หากเดาให้ถูกสิ่งนั้นคงจะเป็นกล้องวงจรปิด และสายลับที่แฝงอยู่ในตัวพนักงานบางคน
" เฮ้อ..จะหาโอกาสเข้าไปยังไงล่ะนี่ "
แน่นอนหญิงสาวใคร่เห็นหน้าเขามาก และอยากจะไถ่ถาม เกี่ยวกับเรื่องของพี่ชาย กลับต้องคิดหนัก
เนื่องจากว่าที่อยู่ของที่นี่เป็นที่ทำงานที่ถูกต้องของเขา ซึ่งเคยถูกจ่าบนพัสดุและส่งมายังประเทศไทย แต่ดูท่า ความหวังของเธอจะพังทลายเสียลง เมื่อถามใครไม่มีใครรู้
" แลดูจะไม่ง่ายนะเนี่ย แกจะเข้าไปถามเขายังไง ยัยไศลา..." หล่อนพึมพำกับแก้วไวน์
นอกจากอุปสรรคจะเป็นผู้คนที่ระรานตาเพราะเป็นวันหยุดแล้ว แผนกของเธอยังถูกสับเปลี่ยน เนื่องจากหน้าบาร์พนักงานไม่เพียงพออีก
" มาหยุดอะไรเอาวันนี้นะ "
" เหอะ บ่น? ไม่ยักรู้นะว่าเธอจะมีใจรักการเสิร์ฟมากกว่ามายืนผสมคอกเทลช่วยฉัน ไหนว่าถูกแตะอั๋งบ่อยไง? "
" หูดีจริงนะ "
" แน่นอน มันอยู่ห่างกันแค่นี้ "
เทเรน่ายักใหล่ สายตาจับจ้องตัวหนังสือในออเดอร์ และพยายามเคลียร์ไปทีละบิล ทำไศลาที่แอบลอบมองนึกทึ่ง
ทั้งที่หล่อนกำลังยุ่ง สมองต้องจำสูตร แต่กลับมีเวลามาแหย่เธออีก
" ยัยคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ "
หญิงสาวส่ายหน้ายิ้ม ขยับเข้าไปใกล้กว่าเดิมพลางกระแทกไหล่
" เทเรน่า หายงอนยังน่ะ"
" ยัง.."
" โธ่ หายเถอะนะ "
" เห็นไหมว่าฉันทำงานอยู่ "
หล่อนเหลือบตาขึ้นมามอง บ่งบอกถึงความรำคาญ ทว่ามีหรือเธอจะเลิก ไศลาเป็นคนเข้าข่ายยิ่งห้ามยิ่งยุเสียด้วย
" ฉันมีเรื่องจะถาม ถ้าเธอตอบ สัญญาว่าจะตั้งใจช่วยเธอ "
" อืม "
" คุณโครทิสที่ว่าน่ะ คนไหนหรือ ฉันจะมีโอกาสเจอไหม "
"ทำไม? เธอชอบเขาหรือ "
" เปล่า ก็แค่อยากรู้ ว่าเจ้านายตัวเองเป็นใครก็เท่านั้น " เทเรน่าสายหน้า
" ทำไม? "
" ไม่มีโอกาสหรอก เพราะเขาไม่ได้มาเดินหล่อให้ใครเห็นง่ายๆ "
" ทำไมล่ะ "
" ไม่รู้สิ เขามีผู้จัดการของเราแล้วนี่ อยากรู้อะไร ก็คงกระดิกนิ้วเรียกถาม นอกจากว่า..."
" นอกจากอะไร? " คนอยากรู้ทำตาโต เขย่าแขนเพื่อน ขวดเหล้าในมือสั่น " เร็วๆ "
" เฮ้ย เดี๋ยวหก "
หล่อนจึงวางมันลงชั่วคราว หันไปถลึงตาใส่เธอ
" ก็นอกจากว่า เธอจะทำเรื่องใหญ่ จนเขาเรียกไปฆ่าน่ะสิ! รับรอง...ได้เจอก่อนตายแน่" แล้วยักคิ้วล้อเลียน
" พูดเป็นเล่นน่า "
" จริง "
คาสิโนใหญ่ระดับต้นๆ ในสมาคมดาร์ก หรือเทียบเท่ากับแก็งค์อัลฟา มีผู้ปกครองนามว่า โครทิส ดิ เวเดโน่ หรือฉายาเจ้าพ่อกระเบื้องน้ำแข็ง ผู้ที่มีความเย็นชาระดับสูง ฉายานามว่า ' เวเดน' ไม่ใช่ไม่กลัวใครแค่อย่างเดียว ทว่า เขาสามารถทำลายฝั่งตรงข้ามได้ ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย เขาไม่ได้มีพละกำลัง หรืออาวุธวิเศษแต่อย่างใด เพียงแต่ทุกคนคาดเดาความคิดของเขาไม่ได้ก็เท่านั้น
กว่าจะบรรลุหยั่งรู้ได้ ก็คงต้องหลังจากร่วงลงไปแล้ว!
" สมานฉันท์กันแล้ว ต่อไปนี้การค้าขายของเราที่ทะเลทราย คงไม่ต้องผ่านการตรวจสอบจากออร์แกนแล้วสินะ "
" ครับ แต่จะผ่านเรกาโดแทน "
" หืม..."
บุหรี่กำลังยกดูด ถูกชะงักจ่อคาปาก คู่สนทนาขมวดคิ้วงง ก่อนจะหัวเราะถูกอกถูกใจภายหลัง
" ท่านไม่รู้หรือ เขาเป็นลูกเขย "
" ฮ่าๆๆ ใช่! เออใช่ ใช่ ทำไมอยู่ๆ ถึงลืมไปได้วะ"
คราวนี้ถึงกับดูดอัดเข้าเต็มปอดอย่างสาแก่ใจ เมื่อรับรู้เต็มสองหูถึงเรื่องที่เคยเป็นอุปสรรคของพวกเขา กว่าจะนำอาวุธจากเมืองนึงเข้าไปอีกเมืองนึงได้ในอดีตนั้น เล่นเอาเหงื่อตกสูญเสียพลังงานกันมากมายเลยทีเดียว โครทิสยกยิ้ม เหลือบตามองไปยังลังไม้ที่วางอยู่ใกล้กัน
" หวังว่าท่านคงชอบใจของขวัญชิ้นใหญ่จากผม"
แล้วผ่ายมือ เมกาเซ ดีรัส ลูกค้ารายใหญ่ ผู้ที่อุปโภคสินค้าของเขาเพียงหนึ่งเดียวหันมองแล้วยิ้มกว้าง พอใจสูงสุด ไม่คิดว่าวันคล้ายวันเกิดของเขาจะถูกต้อนรับเป็นอย่างดีแบบนี้ แม้จะรู้ว่านี่คือการแสร้งอวยพร ในแวดวงมาเฟีย หาใครจริงใจได้ไม่ เขาก็ยังดีใจอยู่
" ให้ตายเถอะ ได้ของจากสมาชิกอัลฟาไปใช้แบบฟรีๆ คงไม่ต่างกับได้ของขวัญจากพระเจ้าสินะ "
" ท่านก็พูดเกินไป พระเจ้าที่ไหนกัน ก็แค่สาวกของพระเจ้า "
" และพระเจ้าก็คือเงิน? ฮ่าๆๆ เข้าใจคิดนะเวเดน "
เพื่อแรกกับคำยกยอแค่ไม่กี่คำ และซื้อขายกันต่อกับเขา ถือว่าเป็นของสัมนาคุณ หวังต่อยอดให้กับอนาคต สำหรับมาเฟียคิดการใหญ่อย่างเขาย่อมยอมได้
" ทั้งเครื่องดื่ม ทั้งผู้หญิง ทั้งคาสิโนเฉพาะคืนนี้ ฟรีทุกอย่าง ผมยกให้ท่าน "
" บ๊ะ! ฮ่าๆๆ เอากับเขาเซ่! "
ถึงสิ่งนี้จะไม่เต็มใจนัก ทว่า แลกมาด้วยเสียงหัวเราะชอบใจ ไม่ใช่เท่าแต่นาย แต่ลามไปถึงลูกน้องของคู่ขายด้วย แค่นี้ก็คุ้มแล้ว เวเดโน่เหลือบตามองพลางยิ้มตามในจังหวะโน้มตัวไปหยิบแก้วบรั่นดีมาชน ใครจะรู้เท่าลูกน้องฝั่งเขา ว่าพฤติกรรมและรอยยิ้มร้ายของเจ้านายในตอนนี้นั้น มันเป็นบ่อเกิดของแผนการต่างๆ ที่อยู่ในหัวเขาคนเดียวต่างหาก แถมไม่มีใครไปรับรู้ด้วย
มากกว่าความหวาดเสียวในสมรภูมิรบก็คงเป็นคำพูดของเวเดโน่นี่แหละ ที่ดูจริงจังเกินเหตุสำหรับแมททริกในตอนนี้ ซึ่งหลังได้ฟังชัดเต็มสองรูหูเหมือนจะค้างไปแล้ว เขาอึ้ง และพูดอะไรไม่ออก “ อะไรของมึงวะ “ได้แต่เอ่ยเสียงแผ่ว กับคำถามที่ใคร่รู้เพียง เพื่อนกำลังคิดอะไรอยู่ ความหมายของเขาที่มีในหัวประมาณว่า ...“ เพราะผู้หญิงคนนั้นเนี่ยนะ ซึ่งคำตอบที่ได้คือร่างสูงพยักหน้ายอมรับโดยไม่คิดสักนิด“ เฮ้ยยย พวกเราสั่งให้แกเข้าไปพัวพันในชีวิตเธอ เพราะหวังให้ชดเชยสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าวันนึงจะกลายเป็นเมียก็ไม่มีใครว่า แต่ไม่ใช่ให้ทำแบบนี้ ““ แบบนี้มันแบบไหนวะ! “กลายเป็นประเด็นใหญ่ให้เขาทั้งคู่ได้ถกเถียง และมองหน้ากัน ในขณะต่างฝ่ายต่างไม่ละสายตาและไม่มีใครยอมใคร แมททริกอมลมกลั้วปาก รู้สึกขัดใจขึ้นมาทันทีกับความคิดของเขา หนึ่งในแก็งค์อัลฟา ผู้ที่เคยเป็นตัวเต็งแนวหน้า ไม่เคยกลัวสิ่งใด แต่วันนี้กลับมากลัวความรักของตัวเองจะพังลง “ ก็แบบ...”เขาเงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะเบือนหน้าไปทางอื่น พ่นลมหายใจเฮือกใหญ่“ จะแบบไหนก็ช่างเถอะ แต่มึงจะทำแบบนั้นไม่ได้ มันเสี่ยงมากเกินไป ถ้าฝั่งศัตรูรู้ว่าเราแตกคอกันเอง จะทำยัง
ไศลานั่งคอตก เมื่อเห็นสีหน้าของน้องชาย หลังพูดประโยคนั้นออกไป เธอเม้มปากแน่น ข่มเปลือกตาลงจนมันสั่นระริก ก่อนจะค่อยๆคลี่คลายออก มองไปยังที่เก่า ในขณะรอบนี้เผยความหม่องหม่นนัยย์ตาออกมาด้วย ที่ดูก็รู้เธอกำลังจะร้องไห้ และคนข้างกายเธอเองก็เช่นกัน " พี่พูดว่าอะไรนะ? " เขาถามย้ำก่อนน้ำตาก้อนใหญ่เหล่านั้นจะไหลลงมา ไศลาไม่ตอบ แต่เลือกที่จะก้มหน้านิ่งแทน มองผ่านม่านน้ำตาไปยังมือตัวเอง ซึ่งบีบจิกเข้าหากันราวกับกำลังระบาย" ฮึก..."ความอึดอัดเคยเก็บไว้ในใจสุดลึก เสแสร้งทำเป็นเข้มแข็งมาตลอด ทั้งต่อหน้าและลับหลังครอบครัว วันนี้ถล่มทลายลงมาไม่เหลือชิ้นดี เพียงแค่อยากให้คนที่เธอรักหมดปัญหาเรื่องนี้ไม่ว่าผลจะออกมาดีหรือร้าย เธอก็สบายใจทั้งนั้น ริมฝีปากแดงระเรื่อปริเบ้ออก ยิ่งสะอื้นไห้หนัก หลังร่างสูงถลาเข้ามาเขย่าตัว พยายามกดดันเค้นหาคำตอบ" มองหน้าผมเซ่! ผมถามตั้งนานแล้วนะ พี่ใหญ่เป็นอะไรถึงตาย"ทว่า สิ่งที่เธอเห็น กลับเป็นเพียงภาพที่ไร้เสียง มีเพียงปากพูดเขาที่ขยับ และร้องไห้อยู่ พร้อมบริเวณรอบๆ ที่เปลี่ยนไป' รู้ไหมว่าพี่สอนให้ฉันชิน ชินต่อการคิดถึงพี่ ในวันที่พี่ไม่อยู่ ..ชินกับการเห็นพี่โบ
ร่างบางยืนตระหง่านอยู่บนถนนคอนกรีต เบื้องหน้าของเธอคือกึ่งบ้านกึ่งคฤหาสน์ที่จัดไปทางค่อนข้างจะทรุดโทรมทว่าดูหรูหราจนน่าแปลกใจ อุ้งมือน้อยๆกำสายกระเป๋าสะพายไว้แน่น พร้อมดวงตากลมโตเคลือบอมไปด้วยน้ำหล่อเลี้ยง สลดปนละห้อย เธอใช้สายตาคู่นั้น จรดตั้งแต่ระดับเดียวกันช้อนขึ้นไปมอง พลันถอนหายใจเฮือก เมื่อไปหยุดอยู่ตรงระเบียงชั้นสอง ที่มีใครคนนึงซึ่งคุ้นเคยและจำได้แม่น" แม่คะ..." เธอขยับปากเรียก หล่อนยืนมองอยู่ก่อนแล้ว นับตั้งแต่รถแล่นเข้ามาไกลๆแม้เสียงนั้นดังไปไม่ถึง เพราะระยะทางที่ห่างกัน แต่น้ำตาแห่งความคิดถึง กับสีหน้าเลือนลาง ยังทำให้ทั้งคู่นั้นมองเห็นชัดใช่ เพราะต่างฝ่ายต่างโหยหาไม่มีใครยอมแพ้ ในขณะหัวไหล่เธอกำลังจะตก เผลอคิดไปถึงเหตุการณ์หลังจากนี้ ระหว่างที่อยู่ จะสรรหาประโยคไหนที่ดีพอ ที่ไม่ทำให้แม่ต้องเสียใจ หากจะกล่าวถึงเรื่องของพี่ชายคนโต และการตายของเขาแต่แล้ว.. มือใหญ่ข้างหนึ่งของคนที่มาด้วย กลับทำเธอหลุดภวังค์เสียก่อน ไศลาค่อยๆหันกลับไปมอง “ ฉันต้องการฟังความรู้สึกของเธอตอนนี้ที่มีต่อฉัน “ก่อนจะก้มหน้าลอบถอนหายใจ“ ฉันไม่มีอะไรจะพูด...” เธอส่ายหน้าเชื่องช้า“ พูดให้กำลังใ
" ก็ถ้าสมมุติว่าฉันท้อง"หญิงสาวช้อนตาหน้าสลด หลังคนสูงกว่าเอาแต่ยืนมอง คิ้วผูกติดฉงนงุนงง เธอจึงเริ่มพูดต่อ กับประโยคใส่อารมณ์ ที่บ่งบอกถึงความไม่แน่ใจ แต่แล้ว...กลับถูกมือใหญ่จับหมับตรงต้นแขน" สรุป ท้องหรือไม่ท้อง "เขาเค้นหาคำตอบไศลาเม้มปากแน่น คิดทบทวนตัวเองใหม่ ถ้านี่เป็นเรื่องที่กุขึ้นมา เพื่อความสะใจ และเอาชนะเล่าก็ อีกไม่นาน ร่างทั้งร่างของตัวเอง อาจจะระบมไปหมด เพราะถูกคนตรงหน้านั้นกระทืบเธอกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนพยักหน้าเชื่องช้า ดวงตากลมโตไม่กระพริบ จับจ้องมั่นอยู่ตรงหน้าหล่อเหลา ซึ่งหลังจากจบประโยคนี้ มันค้างชะงันไปกลางคัน และเธอนั้นเห็นพอดีเขาอึ้ง... " แน่ใจ? "" ค่ะ..."" ตรวจดีแล้ว... "" ยังค่ะ เราจะตรวจพร้อมกันวันนี้ ซึ่งฉันมั่นใจไปเกินครึ่ง ว่าในท้องฉัน มีเลือดเนื้อของคุณอยู่ "เธอตอบคำถามอย่างฉะฉาน เวเดโน่เงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะกระโชกโฮกฮาก" ให้ตาย ฉันควรดีใจไหมไศลา..."" เอ๋..."ซึ่งนั่นทำเธอแปลกใจไม่น้อย " ในสถานการณ์ขับขัน ไม่รู้จะเป็นหมู่หรือจ่า อยู่ๆ ก็มีเด็กขึ้นมาให้ฉันต้องรับผิดชอบ.. "เปลี่ยนความคิดในหัวของเธอเป็นฝั่งตรงข้าม ความแรงของมันราวกับตบให้มึน
' แต่ถ้าไม่ได้ ก็ช่วยฆ่ากันให้ตายซะเถอะ 'เวเดโน่ยืนอึ้ง ไม่คิดว่าประโยคนี้ของเธอจะทำเขาชะงัก เมื่อได้ยินมัน ยอมรับว่าเขาใจหาย กระนั้นก็เป็นเพียงเสี้ยววินาทีแรกเท่านั้น ก่อนจะดึงสติ " เธอว่าไงนะ.. " เขาขมวดคิ้ว ถามย้ำ ใช้นิ้วทั้งห้าได้เป็นประโยชน์สูงสุดหลังถลาเข้ามาบีบหัวไหล่เธอ" อึก..." ไศลานิ่วหน้า น้ำตาแทบทะลัก ทว่าทำได้เพียงช้อนตาขึ้นมองและฟังเขากัดฟันพูดด้วยความโมโห เขาเกลียดที่สุด คำประชดประชัน" พูดใหม่อีกทีสิ "" อะ โอ้ย! " " หยุดทำตัวงี่เง่า เพ้อเจ้อเถอะไศลา ต่อให้เธอนอนหายใจพะงาบๆ เธอก็ไม่มีวันได้ตาย หรือไปจากฉัน เรื่องของไอ้ซันก็เหมือนกัน ไหน ...ตรงไหนที่มันทำเธอ" " นี่หยุดนะ! " กับคำตอกกลับมาอย่างเจ็บแสบ ราวกับแผลสดโดนป้ายพริก แหวกคอเสื้อเธอ กระชากหารอยอะไรบ้างอย่าง พร้อมมือใหญ่อีกข้างหนึ่ง สอดเข้ามาใต้กระโปรง จับหยาบลูบคลำตรงเนินเนื้อนั่น ทำไศลาตกใจ ถึงกับต้องรีบหุบ เบียดต้นขาเข้าหากัน ไม่สนว่าจะหนีบมือเขาด้วย นี่เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ ถึงไม่สนใจความรู้สึกของเธอเลย...เธอเจ็บปวดจริงๆนะ! หัวใจจะแหลกเหลว อย่างไม่มีชิ้นดีอยู่แล้ว! ใจคอจะไม่รับรู้ถึงความทรมานของเธอ
ดวงตากลมโตที่เคยเคลือบน้ำใสๆก่อนหน้า ช้อนขึ้นมองคนสูงกว่า เธอกำลังจะบอกให้รู้ว่า สิ่งที่เธอพูดออกมา ความหมายของมันนั้นทำให้เธออึดอัดมานาน" ฉันไม่รู้หรอกนะ ว่าคุณทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร อาจจะชอบฉันจริงๆ หรือเอาชนะเขา แต่เชื่อเถอะว่า ทั้งสองอย่างมันทำให้ฉันรู้สึกไม่โอเค " ก่อนจะหลุบตาลง ในจังหวะที่เขานั้นเงียบไป " และเหมือนว่า คุณจะทำมันสำเร็จ ถ้าวันนี้คิดจะแยกระหว่างฉันกับคุณโครทิส ...มันสำเร็จแล้วล่ะ "ประโยคทิ้งท้ายเธอช้อนตาขึ้นอีกรอบ มองลึกเข้าไปข้างใน ก่อนจะเหยียดยิ้มราวกับขบขำกับสิ่งที่เจอ " เธอพูดจริงหรือ? " เขาย้ำ หญิงสาวพยักหน้า ทั้งที่ยังไม่ละสายตาจากกรอบหน้าเขา" ค่ะ..แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะสมหวังหรอกนะคะ กับผลที่ต้องการและทำอยู่ "" หมายความว่าไง.."" ฉันชอบคุณไม่ลง"จนกระทั่งอีกประโยคหลุดออกมาจากปากเธอนั่นแหละ ซันดรูจึงจะเงียบกริบแบบไร้ปี่ไร้ขลุ่ย" ทำไม..." พลางถามเสียงแหบ ไศลายิ้มบางๆให้กับเขา " เพราะว่า..คนที่ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ครอบครอง ใช้วิธีแย่ง เป่าหู และทำลาย ไม่สนใจความรู้สึกของเพื่อน ไม่สนแม้กระทั่งมิตรภาพที่เคยผูกพันกันมาก่อน เพื่อผู้หญิงคนเดียวก็คือฉัน บ
Comments