Share

บทที่ 15 เช็ดตัว

last update Last Updated: 2025-06-11 01:40:13

แต่เจ้าคนชั่วไม่สนใจคำพูดนางสักนิด ยังคงลงจากเตียง แต่พอเขาลงจากเตียง กลับล้มลงไปนั่งกองกับพื้นทันที นางเห็นเขาล้มก็รีบไปพยุงลากเขาขึ้นไปนั่งบนเตียงอีกครั้ง

“ท่านพ่อ!!” นางหันไปดุพ่อของตัวเอง

“เอาล่ะๆ ท่านผู้มีพระคุณอย่าเพิ่งรีบลงมา ข้าใจร้อนไปเอง” แม่ทัพหลี่เชื่อฟังลูกสาวทันที

เจ้าคนชั่วถูกจัดให้นั่งอยู่บนเตียง เขาทำได้เพียงเชื่อฟังหลี่เฟิ่งเซียน นางยังดึงผ้าห่มที่มีกลิ่นดอกไม้จางๆ มาห่มขาให้เขาด้วย เมื่อเขานั่งได้ดีๆแล้ว จึงยกสองมือประสานทำความเคารพแม่ทัพหลี่ผู้ยิ่งใหญ่ ทำเป็นไม่สนใจมือข้างซ้ายที่ถูกห่อจนเป็นก้อนกลม

“ข้าน้อย ลู่มู่เฉิน เป็นหมอพเนจร คารวะท่านแม่ทัพ” คนชั่วของหลี่เฟิ่งเซียนบอกชื่อแซ่ของเขา

‘ที่แท้ชื่อของเขาก็น่าฟังเช่นนี้ อาบแสงดวงดาว เหมาะกับดวงตาของเขายิ่ง’ หลี่เฟิ่งเซียนแอบคิด

“มู่เฉิน เป็นชื่อที่ดี” แม่ทัพหลี่พูด ก่อนเขาจะถอยออกเล็กน้อยและคุกเข่าลงไปบนพื้น

“ผู้มีพระคุณลู่ ได้โปรดรับการคารวะจากคนแก่เช่นข้า” ท่านแม่ทัพกล่าวเสียงสั่น

ลู่มู่เฉินไหนเลยจะกล้ารับการคารวะที่หนักหน่วงนั้น เขาที่พึ่งถูกจัดให้นั่งบนเตียงดีๆ ก็ต้องรีบทิ้งตัวลงมาบนพื้นอีกครั้ง

“ท่านอย่าทำเช่นนี้ ข้าไม่อาจรับการคุกเข่าจากท่าน” เขาพูดเสียงรัวเร็ว

หลี่เฟิ่งเซียนไม่รู้เลยว่าควรตกใจเรื่องใดก่อนดี เจ้าคนชั่วเป็นคนป่วยยังไม่หายตัวร้อน แต่ต้องตกเตียงครั้งแล้วครั้งเล่า ส่วนท่านพ่อของนาง เขาเป็นคนสอนนางเสมอมาว่าอย่ายอมให้หัวเข่าถูกพื้นง่ายๆ ให้ตายก็ห้ามเด็ดขาด แต่วันนี้ท่านพ่อที่นางเคยเคารพยกย่องเสมอกลับคุกเข่าให้คนป่วยผู้หนึ่ง

ที่แท้นางมองท่านพ่อผิดไป นางคิดว่านางกลับมาได้ก็จบเรื่อง ไหนเลยจะเคยคิดถึงความรู้สึกของท่านพ่อ เขาต้องดูแลกองทัพ แต่นางหายไป ระหว่างที่เขาต้องฝากชีวิตของนางไว้กับคนอื่น ตัวเองได้แต่ภาวนาให้นางปลอดภัย ถึงเขาจะไม่แสดงออก แต่คงไม่ง่ายเช่นที่เขาบอกกับนาง ที่นางเห็นว่าท่านพ่อยิ้มแย้มกับนางเสมอ เขาคงห่วงนางมาก พอรู้ว่าได้คนแปลกหน้าช่วยนางไว้ เขาคงรู้สึกขอบคุณมาก

“ท่านพ่อ เป็นข้าที่อกตัญญู ท่านอย่าทำเช่นนี้” หลี่เฟิ่งเซียนรีบไปพยุงแม่ทัพหลี่

“ใช่แล้วท่านแม่ทัพ อย่าทำเช่นนี้” ลู่มู่เฉินขอร้องอีกคน

“ต่อไป ข้าจะเชื่อฟังท่าน อย่าทำเช่นนี้ เป็นข้าเองที่ผิด” หลี่เฟิ่งเซียนเริ่มร้องไห้

“ท่านแม่ทัพ ได้โปรดลุกขึ้นเถิด”

เด็กสองคนขอร้องถึงขั้นนี้ อีกทั้งลูกสาวสุดที่รักถึงกับร้องไห้ เขาจึงได้แต่ลุกขึ้น หลี่เฟิ่งเซียนพยุงท่านพ่อให้ลุกขึ้นแล้วยังต้องไปพยุงคนป่วยลุกขึ้นไปนั่งบนเตียงอีกครั้ง

หลังจากการขอบคุณที่อาจทำให้ฟ้าถล่มดินทลายได้ผ่านพ้นไป สาวใช้หยวนหยวนก็พาท่านหมอเข้ามาดูแลลู่มู่เฉิน ตรวจชีพจรให้เขา ร่างกายของเขาอ่อนแอมาแต่แรก ทำให้เขาเกิดอากรแพ้บางอย่าง จนมีตุ่มใสและแผลถลอกพวกนั้นขึ้นตามผิวหนัง เขาพยายามหาทางรักษามานาน แต่ก็ไม่พบหนทาง ยังส่งผลให้เขากินอาหารได้น้อย ร่างกายจึงยิ่งอ่อนแอ

ส่วนมือซ้ายของเขา เมื่อแกะห่อผ้าก้อนนั้นออก ตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่ากระดูกแตกจนไม่อาจสมาน เส้นเอ็นบางส่วนยังฉีกขาด ท่านหมอแนะนำให้เขาตัดมือทิ้งเสีย บาดแผลเน่าเปื่อยจะได้ไม่ลาม ลู่มู่เฉินพยักหน้ารับราวกับมือของเขาเป็นเพียงท่อนไม้ท่อนหนึ่ง คิดจะตัดเมื่อใดก็ตัดอย่างง่ายดาย และสุดท้ายท่านหมอยังบอกให้เขาอาบน้ำให้สะอาด

“ข้าช่วยเจ้าอาบน้ำเอง” หลี่เฟิ่งเซียนออกตัว นางอยากชดเชยให้เขา เพราะนางรู้สึกผิดที่ไม่อาจช่วยเขาออกมาอย่างปลอดภัย

“!!..” ลู่มู่เฉินหันไปมองนางด้วยความตกใจไม่ต่างจากท่านแม่ทัพ สาวใช้ และท่านหมอ

“พวกเจ้ามองข้าเช่นนี้ทำไม ข้าเคยเช็ดตัวเขามาแล้ว ตกใจอันใดกัน” นางพูดต่อ

“เหลวไหล เจ้าออกมานี่เลย ต่อไปห้ามเจ้าทำเช่นนี้อีกเข้าใจหรือไม่” แม่ทัพหลี่ดุลูกสาว

“หยวนหยวนเจ้าไปเตรียมน้ำให้มู่เฉิน ข้าจะให้ทหารมาช่วยเขาอาบน้ำ” แม่ทัพหันไปสั่งหยวนหยวน

“ท่านพ่อ ท่านเป็นคนพูดเองว่าห้ามใช้ทหารตามใจ นี่ท่านจะผิดคำพูดตัวเองหรือ” หลี่เฟิ่งเซียนสงสัย

แม่ทัพหลี่โกรธ พาลูกสาวออกไปสั่งสอน ท่านหมอขอตัวกลับ ส่วนสาวใช้ก็ไปต้มน้ำให้เขาอาบ ทิ้งให้ลู่มู่เฉินอยู่คนเดียวในกระโจมของคุณหนูใหญ่ เขามองไปรอบๆ กลิ่นหอมดอกไม้จากผ้าห่มลอยมาแตะจมูก และภาพอกชมพูที่เขาลงมือกระชากตู้โตวทิ้งก็ลอยมาในความทรงจำ

‘ข้าเคยเช็ดตัวเขามาแล้ว’ คำพูดของนางยังชัดเจน ลู่มู่เฉินมองสภาพตัวเองแล้วได้แต่กำผ้าห่มจนแน่น ไม่อยากคาดเดาว่านางเช็ดตัวเขาอย่างไร ที่ใด หรือจับตรงไหน

เขายกมือข้างนั้นขึ้นมาดู มันน่ากลัวมากจริงๆ แต่หากจะตัดทิ้ง เขากลัวว่าทั้งแม่ทัพและหลี่เฟิ่งเซียนจะยิ่งรู้สึกติดค้างเขา ถึงอย่างไรเขาก็เป็นหมอ เคยเดินทางไปทั่วหล้า อย่างไรเขาก็พอจะมีหนทางรักษาโดยไม่ต้องตัดมือทิ้ง

“ข้าต้องตัดผม” ลู่มู่เฉินบอกกับหลี่เฟิ่งเซียนในวันหนึ่ง

หลังจากเขาฟื้น นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว เขาแข็งแรงขึ้น มีเนื้อหนังขึ้น ผลจากการที่คุณหนูใหญ่คอยต้มน้ำแกงไก่บังคับให้เขาดื่มทุกวัน เดินเหินไปไหนได้เองแล้ว เขายังไปช่วยทหารที่ป่วยระหว่างเดินทางสองสามคนด้วย แม้มือข้างนั้นจะยังต้องห่อเอาไว้ แต่เขาไม่ยอมอยู่เฉยๆ เขาอาบน้ำไปแล้วสองสามครั้ง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจสระผมก้อนนั้นให้เป็นเส้นตรง

น่าจะเพราะก่อนหน้านี้เขาได้รับบาดเจ็บที่หัว มีเลือดไหล นางช่วยเขาออกมาได้เขาก็หลับไปนาน ไม่มีใครกล้าสระหัวให้คนป่วย พอเขาฟื้นขึ้นมา เลือดที่แห้งติดผมจนเป็นก้อน สระล้างอย่างไรก็ไม่เป็นผล เขาได้แต่ต้องตัดทิ้ง ไม่เช่นนั้นแผลบนหัวของเขาก็จะยิ่งอักเสบ

“ไม่ได้!! ห้ามตัด!” หลี่เฟิ่งเซียนตอบ

ที่จริงลู่มู่เฉินจะตัดเอง แต่พอไปถามหากรรไกรจากหยวนหยวน สาวใช้คนนั้นกลับโวยวายใหญ่โต อย่างไรก็ไม่ยอมมอบกรรไกรให้เขา เขาลองไปขอจากทหารคนอื่นๆ แต่ทุกคนล้วนพูดเป็นเสียงเดียวว่าคุณหนูใหญ่ไม่อนุญาต

“ข้าจำเป็นต้องตัด ไม่เช่นนั้นหัวของข้าจะติดเชื้อลุกลาม ข้ายังไม่อยากตายเพราะหัวไม่สะอาด” เขาอธิบาย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 22 เช็ดน้ำลาย

    “ข้าไม่เป็นไร มันหายแล้ว แต่มันไม่เหมือนเดิมแล้ว อย่างไรก็ยังต้องเป็นเช่นนี้เวลาอากาศหนาวมากๆ” เขาหลบตามองต่ำอธิบาย“เช่นนั้นเพราะหนาวหรือถึงได้เจ็บ” นางถาม ลู่มู่เฉินพยักหน้าหลี่เฟิ่งเซียนทำหน้าดุก่อนจะวิ่งไปที่เตียงดึงผ้าห่มมาห่อตัวเขาไว้“แล้วเจ้าหนีมานอนที่พื้นเพื่ออันใดกัน ต่อไปห้ามทำเช่นนี้อีก หากข้าเมาก็ต้องเรียกข้าให้เอาผ้าห่มให้เจ้า เข้าใจหรือไม่” นางดุลู่มู่เฉินพยักหน้ารับอีกครั้ง แต่ไม่กล้ามองนาง ไม่กล้าบอกนางว่ามือข้างนี้จะไม่หาย มันยังคงต้องเจ็บเช่นนี้ไปตลอดชีวิต แม้จะตัดทิ้งความรู้สึกเจ็บปวดที่ไม่มีอยู่จริงก็ยังเกิดขึ้น เวลานี้ก็ยังรู้สึกเจ็บมาก แต่อย่างไรก็ต้องทนต่อไป เขาไม่ต้องการให้นางไม่สบายใจแต่ห่มผ้าให้เขาแล้วนางก็ไม่ยอมไปไหน ยังคงนั่งมองเขา ทั้งยังกระเถิบมาใกล้ขึ้นจ้องมองเขาไม่วางตา ลู่มู่เฉินได้แต่ก้มหน้าไม่กล้าเอ่ยคำพูด แต่แล้วนางก็ยกมือขึ้นมาเช็ดบางอย่างที่ข้างแก้ม“เจ้านอนน้ำลายไหลเปื้อนแก้มด้วย”“!!..” เขาตกใจรีบก้มหน้าไม่ยอมให้นางเช็ดคราบน้ำลาย“ชิ ทำเป็นเล่นตัว อย่างไรเจ้าก็แต่งกับข้าแล้ว เป็นหรือตายก็ต้องเป็นคนของข้า” หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกอารมณ์เสีย เมื

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 21 คืนเข้าหอ

    เขาจึงยังไม่ได้พูดคุยกับนางให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำได้แต่คาดเดา เพราะเขาถามอ๋องเยียนก็แล้ว ท่านหมอก็ถามแล้ว แม้แต่แม่ทัพหลี่เขาก็พยายามถามแล้ว แต่ไม่มีผู้ใดตอบคำถามของเขา"ตาของเจ้างดงามมากจริงๆ ราวกับเก็บดวงดาวยามค่ำคืนไว้ทั้งท้องฟ้า" พูดแล้วนางก็ล้มใส่ตัวเขา หลับไปทั้งเช่นนั้น‘ความฝันที่เป็นได้เพียงความฝัน ห้ามคิดฝันเกินตัว มันต้องมีบางสิ่งทำให้ท่านแม่ทัพตัดสินใจเช่นนี้ นางต้องทำความผิดใดจนท่านแม่ทัพโกรธ จนต้องลงโทษนางให้แต่งกับคนอัปลักษณ์ใกล้ตายเช่นเขา’ ลู่มู่เฉินตักเตือนตัวเองเขามั่นใจว่างานแต่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะนางชอบเขา หรือเพราะดันมีคนรู้เข้าว่าเขาชอบนาง เขารู้ว่าต้องมีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้น นางจึงถูกบังคับให้แต่งกับเขาเขารู้ว่านางพูดชมเขาโดยไม่มีสิ่งใดลึกซึ้ง เพราะนางเป็นคนเช่นนั้น ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม พูดสิ่งที่คิดออกมาตรงๆ เพียงแต่..ทุกครั้งที่นางพูดเช่นนี้ ในอกของเขายังคงสั่นระรัวไม่เป็นจังหวะ ในท้องปั่นป่วนคล้ายมีผีเสื้อนับพันกำลังโผบินลู่มู่เฉินแอบยิ้มน้อยๆ งานแต่งนี้อาจต้องจบลงสักวัน เขาย่อมรู้ดี แต่ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นงานแต่งของเขากับนาง หากนางยังตื่นอยู่ เขาก็จะปั้น

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 20 งานแต่ง

    แม่ทัพหลี่หันหน้าแบบประหลาดมากมามองลูกสาว เขากะพริบตาไล่ความงุนงง สังเกตอาการของลูกสาวที่หน้าแดงกระวนกระวายทำสิ่งใดไม่ถูก จู่ๆเขาก็เข้าใจทุกอย่าง‘ข้าว่าแล้วเชียว เท่าที่จำได้ ไอ้หนุ่มนั่นเป็นคนเดียวที่ทำให้ลูกข้าเงียบได้ใช่หรือไม่ แต่มันดูแลลูกข้าได้แน่หรือ ถึงอย่างไรนางก็ดูจะชอบมันเข้าแล้วจริงๆ ข้าไม่เคยเห็นนางเป็นเช่นนี้เลย’ แม่ทัพหลี่คิด ยิ่งคิดยิ่งตกใจ นี่เขาไม่เคยสังเกตเลยจริงๆ สุดท้ายเขาไม่พูดสิ่งใดแต่เดินดุ่มๆ ออกไปจากห้องโถงทันทีปล่อยให้หลี่เฟิ่งเซียนและอ๋องเยียนมองตามอย่างงุนงง ก่อนที่นางจะคิดบางอย่างได้และตะโกนออกไป“ท่านพ่อ ห้ามฆ่าเขานะ!!” แล้วนางก็วิ่งตามแม่ทัพออกไป อ๋องเยียนค่อยๆพ่นลมออกมา รู้สึกโล่งอกที่คนถูกฆ่าไม่ใช่เขาลู่มู่เฉินกำลังช่วยเตรียมยาให้ทหารนายหนึ่ง ขาของเขาขาด ไม่ได้ทำแผลให้สะอาดแต่ต้น ยามนี้จึงทั้งบวมและเป็นหนอง“ลู่มู่เฉิน!!” แม่ทัพหลี่ตะโกนเรียกชื่อเขาแต่ไหล “หยุดนะท่านพ่อ ห้ามฆ่าเขาเด็ดขาด!” หลี่เฟิ่งเซียนวิ่งตามหลังแม่ทัพหลี่มาติดๆ ตะโกนอย่างร้อนรนลู่มู่เฉินไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นางคงก่อเรื่องอีกแล้ว เขาถอนหายใจ ยื่นห่อยาให้ทหารอย่างใจเย็น ก

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 19 คำแนะนำของอ๋องเยียน

    หลี่เฟิ่งเซียนค่อยๆหันกลับไป กะพริบตาปริบๆ ไม่อยากเชื่อว่าใครๆก็มองออก แต่นางไม่รู้ตัว นี่นางโง่เพียงนี้เชียวหรือ“เจ้าไม่ชอบเขา แล้วสั่งทำกล่องเข็มให้เขาทำไมหรือ” นางยังคาใจ“ท่านเป็นคนสัญญาว่าจะออกเงินสร้างสิ่งที่เขาอยากได้ไม่ใช่หรือเจ้าคะ เขาบอกว่าอยากได้กล่องเข็มครบ 18 แบบ ข้าจึงไปสั่งร้านช่างในหมู่บ้านให้ ใช้เวลาหลายสิบวันกว่าจะเสร็จ วันก่อนช่างเอามาส่งแต่ข้าลืมบอกท่าน” ยู่ยี่อธิบายนางสัญญาไปเช่นนั้นจริงๆ นางรีบร้อนจะตามอ๋องเยียนไปขี่ม้าดูบึงใหญ่ จึงรับปากเขาไปส่งๆ จนนางก็ลืมไปแล้ว ดังนั้น ถือว่ากล่องเข็มนี้นางเป็นคนมอบให้เขา ไม่ใช่ยู่ยี่หัวใจของหลี่เฟิ่งเซียนพองโต นางไม่ต้องแย่งชิงเขากับยู่ยี่ เขาไร้ญาติขาดมิตร ครอบครัวก็ไม่มี ขอเพียงนางรวบหัวรวบหาง เขาต้องเป็นของนางแน่ ถึงเขาจะน่าเกลียดมากไปหน่อย แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยนัยน์ตาของเขางดงามมาก นางชอบนัยน์ตาของเขาที่ราวกับเก็บดวงดาวไว้ทั้งท้องฟ้ายามค่ำคืนคิดแล้วนางก็หยุดตัวเองไม่ได้ อยากจะไปหาเขาตอนนี้เสียเลย หลี่เฟิ่งเซียนวิ่งไปหาลู่มู่เฉิน ไม่สนใจว่ายามนี้ดึกมากเพียงใด ยู่ยี่ห้ามอย่างไรนางก็ไม่ฟัง นางเอากล่องเข็มไปด้วย นางอยาก

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 18 รู้ตัวว่าชอบเขา

    “แล้ว..เกิดอะไรขึ้น” แม่ทัพหลี่เบาเสียงลง กลัวจะทำให้ลูกสาวเสียงดังมากขึ้น“...ข้าก็ไม่รู้ เขาคงไม่อยากให้ข้าไปยุ่งกับเขา” นางตอบเบาลง“เหลวไหล ใครจะไม่อยากยุ่งกับลูกพ่อ” แม่ทัพหลี่รีบเอาใจ“มาๆ กินเยอะๆ เดี๋ยวพ่อไปถามให้ ถ้าเขาไม่ยอมพูด พ่อจะบังคับให้เขาพูดให้ได้” เขาหยิบอาหารใส่ถ้วยให้นาง เอาอกเอาใจลูกสาวเต็มที่“ไม่ต้อง ข้า..ข้าจะ ไปถามด้วยตัวเอง”หลี่เฟิ่งเซียนพอจะนึกบางอย่างได้ นางพาลู่มู่เฉินมาที่นี่ อ้างว่ามารักษาตัว แต่ไม่เคยถามว่าเขาอยากอยู่หรือไม่ ท่านพ่อของนางเป็นถึงแม่ทัพ หากเขาไม่เอ่ยปาก ผู้ใดจะกล้าออกไปจากที่นี่ บางทีลู่มู่เฉินอาจไม่อยากอยู่ที่นี่ เขาอาจรู้สึกไม่ต่างจากถูกคุมขังในกรงสุนัข เขาอาจอยากกลับไปหาครอบครัวสุดท้ายหลี่เฟิ่งเซียนตัดสินใจจะถามให้กระจ่าง นางตามหาเขาจนพบเขาอยู่ที่ห้องเก็บยา“ลู่มู่เฉิน ข้ามีเรื่องอยากถามเจ้า” หลี่เฟิ่งเซียนมาถึงก็ถามตรงๆ“..อืม” เขาหันมามองนางครู่หนึ่ง และหันไปยุ่งกับการตวงยาต่อไป“เจ้าอยากกลับบ้านของเจ้าหรือไม่”“ใครบ้างจะไม่อยากกลับบ้าน”เขาตอบตามจริง แต่นางรู้สึกบางอย่างในอกหนักอึ้ง“เจ้ามีบ้านหรือไม่ มีพ่อแม่ ภรรยา...หรือคนที่รอใ

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 17 สั่นระริก

    ค่ำวันนั้นนางไปหามู่เฉินคนชั่วของนาง แต่ท่านหมอบอกว่าเขาไม่อยู่ออกไปอาบน้ำ หลี่เฟิ่งเซียนไปรอเขาที่ห้องของเขาอยู่นานเขาก็ยังไม่กลับ นางจึงบุกไปที่ห้องอาบน้ำ แต่เขาก็ไม่อยู่ที่นั่น หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ นางกลัวว่าเขาจะออกไปข้างนอกค่ายแล้วเกิดถูกจับตัวไปขายอีกครั้งหลี่เฟิ่งเซียนวิ่งกลับไปที่ห้องของนางเพื่อหยิบกระบี่ไปช่วยเขา แต่กลับพบเขากำลังนั่งปลอบใจยู่ยี่ที่ร้องไห้อยู่ นางมองเขากำลังใช้มืออีกข้างตบหลังยู่ยี่เบาๆ อย่างปลอบโยน จู่ๆ นางก็เกิดไม่กล้าเดินเข้าไปรบกวนพวกเขา ในใจของนางมีบางอย่างหนักอึ้งจนนางเองก็อธิบายไม่ได้หลี่เฟิ่งเซียนหอบกล่องใส่เข็มไปนั่งเหม่อมองดวงดาวบนท้องฟ้าที่ริมน้ำ เพราะนางไม่กล้าเข้าห้องของตัวเอง สายลมเย็นส่งเสียงหวีดเป็นบางครั้ง เสียงน้ำไหลกระทบก้อนหิน แม้จะหนวกหู แต่ช่วยให้นางสงบ ไม่ต้องได้ยินเสียงจี้ดๆ ที่ได้ยินในหูตั้งแต่เห็นสองคนนั้นนั่งด้วยกันยิ่งมืดดวงดาวยิ่งแจ่มชัด แต่จู่ๆ กลับมีแสงไฟใกล้นางมาทุกที หลี่เฟิ่งเซียนกลัวว่าจะมีคนร้ายมาแอบจับตัวนางไปอีก จึงรีบหลบหลังพุ่มไม้ แอบก่นด่าตัวเองในใจที่ไม่รู้จักระวัง มืดแล้วยังไม่ระวังตัว ถูกจับไป

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status