แชร์

บทที่ 17 สั่นระริก

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-11 01:55:12

ค่ำวันนั้นนางไปหามู่เฉินคนชั่วของนาง แต่ท่านหมอบอกว่าเขาไม่อยู่ออกไปอาบน้ำ หลี่เฟิ่งเซียนไปรอเขาที่ห้องของเขาอยู่นานเขาก็ยังไม่กลับ นางจึงบุกไปที่ห้องอาบน้ำ แต่เขาก็ไม่อยู่ที่นั่น หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ นางกลัวว่าเขาจะออกไปข้างนอกค่ายแล้วเกิดถูกจับตัวไปขายอีกครั้ง

หลี่เฟิ่งเซียนวิ่งกลับไปที่ห้องของนางเพื่อหยิบกระบี่ไปช่วยเขา แต่กลับพบเขากำลังนั่งปลอบใจยู่ยี่ที่ร้องไห้อยู่ นางมองเขากำลังใช้มืออีกข้างตบหลังยู่ยี่เบาๆ อย่างปลอบโยน จู่ๆ นางก็เกิดไม่กล้าเดินเข้าไปรบกวนพวกเขา ในใจของนางมีบางอย่างหนักอึ้งจนนางเองก็อธิบายไม่ได้

หลี่เฟิ่งเซียนหอบกล่องใส่เข็มไปนั่งเหม่อมองดวงดาวบนท้องฟ้าที่ริมน้ำ เพราะนางไม่กล้าเข้าห้องของตัวเอง สายลมเย็นส่งเสียงหวีดเป็นบางครั้ง เสียงน้ำไหลกระทบก้อนหิน แม้จะหนวกหู แต่ช่วยให้นางสงบ ไม่ต้องได้ยินเสียงจี้ดๆ ที่ได้ยินในหูตั้งแต่เห็นสองคนนั้นนั่งด้วยกัน

ยิ่งมืดดวงดาวยิ่งแจ่มชัด แต่จู่ๆ กลับมีแสงไฟใกล้นางมาทุกที หลี่เฟิ่งเซียนกลัวว่าจะมีคนร้ายมาแอบจับตัวนางไปอีก จึงรีบหลบหลังพุ่มไม้ แอบก่นด่าตัวเองในใจที่ไม่รู้จักระวัง มืดแล้วยังไม่ระวังตัว ถูกจับไปครั้งหนึ่งแล้วยังไม่รู้จักจำ ตอนเดินมาที่นี่มัวแต่ใจลอยจึงไม่ได้คิด ยามนี้คิดแล้วก็เป็นเรื่องน่าอันตรายมากจริงๆ

เพียงแต่คนที่ถือแสงไฟมากลับไม่ใช่ใคร เป็นลู่มู่เฉิน หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกโล่งใจ แต่พอคิดอีกที นางไม่ควรโล่งใจเลย เพราะเขาก็เคยถูกจับไม่ต่างจากนาง นางจึงคิดจะออกไปด่าเขาเสียหน่อยที่ไม่รู้จักระวังตัวออกมาเดินเล่นนอกค่ายดึกดื่น

แต่นางยังไม่ทันได้ออกไปด่า เขาก็เสียบคบเพลิงไว้แถวริมน้ำและเริ่มถอดเสื้อผ้า หลี่เฟิ่งเซียนชะงัก นางไม่แน่ใจว่าควรออกไปดีหรือไม่ เห็นเขาถอดทีละชิ้นทีละชิ้น สุดท้ายเหลือเพียงกางเกงตัวใน เขากลับไม่ยอมถอด!

‘อืม ดูแล้วเขามีเนื้อหนังขึ้นมามากเมื่อเทียบกับตอนที่ข้าเคยเช็ดตัวให้เขา กระดูกตรงไหล่กับตรงสะโพกมองไม่เห็นแล้ว แถวหน้าอกก็ไม่ได้เห็นแต่ซี่โครง หน้าท้องก็ไม่ได้ยุบจนใกล้ติดกระดูกหลังอีก ตามแขนก็เริ่มมีกล้ามเนื้อ นี่เขา..ไหล่กว้างเช่นนี้เลยหรือ ยังเหลือก็แต่..!!!’ นางกำลังสำรวจเขาอยู่ดีๆ เขาก็กระโดดลงน้ำเสียอย่างนั้น

“เจ้าทำอะไรน่ะ!!!” หลี่เฟิ่งเซียนเผลอตะโกนออกไป

ลู่มู่เฉินตกใจรีบหันมาทางเสียงที่ได้ยิน เขาเห็นนางโผล่ออกมาจากไหนไม่รู้ รีบวิ่งมาหาตัวเขาดึงเขาขึ้นจากน้ำ

“เจ้าไม่สบายอยู่ จะลงน้ำเย็นเช่นนี้ไม่ได้” นางว่าให้เขา ระหว่างที่ดึงแขนของเขาสุดแรง บังคับให้เขาขึ้นจากน้ำ

ลู่มู่เฉินยืนอยู่นิ่ง น้ำไม่ได้ลึก แต่ก็ท่วมเอว ทั้งนางทั้งเขาต่างเปียกน้ำเย็น ใช้เวลาสักระยะกว่าที่ลู่มู่เฉินจะรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น กะพริบตามองนางให้ชัดอีกครั้ง นางกลับลากเขาขึ้นมาอยู่บนบกแล้ว

“เจ้ายิ่งอ่อนแออยู่ ข้าใช้เวลาและเงินทองไปตั้งเท่าไหร่กว่าจะสร้างกล้ามเนื้อพวกนี้ให้เจ้าได้ เหตุใดไม่รู้จักรักชีวิต เจ้าอยากตายเร็วขึ้นงั้นหรือ” หลี่เฟิ่งเซียนด่าเขาไม่พักหายใจ

ลู่มู่เฉินก้มมองนางที่เปียกไปครึ่งล่าง และมองเลยมายังตัวเอง เขาก็ต้องตกใจจนต้องรีบนั่งลงกอดเข่าตัวเองไว้

เขาเปียกน้ำไม่ต่างจากนาง แต่เขาใส่กางเกงตัวในสีขาว เห็นไปถึงไหนต่อไหน!!มันทั้งชูชันและแข็งขืน ยิ่งนางอยู่ใกล้ มันก็ยิ่งขยายใหญ่ขึ้น ภาพหน้าอกที่ถูกกระชากตู้โตวทิ้งก็ยิ่งเด่นชัดในความทรงจำ อยากสลัดทิ้งก็ทำไม่ได้ เพียงเขาได้กลิ่นหอมของนางที่ลอยมากับสายลม เขายิ่งรู้สึกว่ามันสั่นระริก

“เจ้า! เจ้าหนาวหรือ” หลี่เฟิ่งเซียนลนลาน ใช้สองมือลูบแขนของเขาพยายามให้ความอบอุ่น นางหันไปมา ก่อนจะรีบวิ่งไปหยิบเสื้อของเขาที่ถอดเอาไว้มาคลุมให้เขา

“มา ข้าพยุงเจ้ากลับบ้าน” นางยังพยายามจะล้วงลงไปใต้แขนดึงให้เขาลุกขึ้น เพื่อจะพาเขากลับบ้าน มือสัมผัสถูกผิวเนื้อของเขาโดยตรง ไม่นึกรังเกียจตุ่มน้ำใสๆ ที่ขึ้นอยู่ตามหัวไหล่และแขนแม้สักนิด

“อย่ามายุ่งกับข้า” เขากัดฟันพูดออกมาประโยคหนึ่งในที่สุด

หลี่เฟิ่งเซียนชะงัก นางรู้ว่าเขาโกรธมาก เขามักจะใช้น้ำเสียงเช่นนี้เวลานางแกล้งเขามากเกินไป แต่ครั้งนี้นางเป็นห่วงเขาจริงๆ ไม่ได้แกล้งเขาเสียหน่อย

“ข้าเป็นห่วงเจ้านะ” นางโกรธเขาบ้าง

“ไม่ต้องยุ่งกับข้า” เขาซุกหน้ากับเข่า ไม่อยากกระทั่งหันมามองนาง

“ได้ ..” หลี่เฟิ่งเซียนหันหลังเดินกลับ

เมื่อก่อนนางเป็นห่วงเขา เขารำคาญแต่ก็ยังขอบคุณนาง แม้จะพูดเบาจนนางแทบไม่ได้ยิน แต่เขาก็ยังพูด ยามนี้เขาชอบอยู่กับยู่ยี่ แค่ความเป็นห่วงของนางก็เป็นสิ่งรบกวน หลี่เฟิ่งเซียนน้อยใจ

ปกติทุกสองสามวัน หลี่เฟิ่งเซียนจะแวะไปเยี่ยมลู่มู่เฉินครู่หนึ่ง แต่ตั้งแต่เกิดเรื่องคืนนั้น นางก็ไม่ไปหาเขา กับยู่ยี่นางก็พูดด้วยน้อยลง อ๋องเยียนก็ไม่ได้ไปเกี้ยวหลายวันแล้ว กับท่านพ่อก็พูดด้วยน้อยลง

“ใครทำอะไรลูกพ่อ บอกพ่อมาเดี๋ยวพ่อจัดการให้” แม่ทัพหลี่พูดกับลูกสาว ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังกินข้าวมื้อเย็นด้วยกัน

“ไม่มีอะไร” หลี่เฟิ่งเซียนบอกปัด

“พ่อจะฆ่ามัน!”

“ฆ่าเขาไม่ได้ อย่างไรเขาก็ป่วยใกล้ตายอยู่แล้ว”

“นี่ลูก ..ทะเลาะกับมู่เฉินมาหรือ?” แม่ทัพหลี่ถามลูกสาว แต่ไม่กล้ามองสบตานาง

ปัง!! หลี่เฟิ่งเซียนกระแทกตะเกียบกับโต๊ะอาหาร

“ข้าไม่ได้ทะเลาะ!”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 22 เช็ดน้ำลาย

    “ข้าไม่เป็นไร มันหายแล้ว แต่มันไม่เหมือนเดิมแล้ว อย่างไรก็ยังต้องเป็นเช่นนี้เวลาอากาศหนาวมากๆ” เขาหลบตามองต่ำอธิบาย“เช่นนั้นเพราะหนาวหรือถึงได้เจ็บ” นางถาม ลู่มู่เฉินพยักหน้าหลี่เฟิ่งเซียนทำหน้าดุก่อนจะวิ่งไปที่เตียงดึงผ้าห่มมาห่อตัวเขาไว้“แล้วเจ้าหนีมานอนที่พื้นเพื่ออันใดกัน ต่อไปห้ามทำเช่นนี้อีก หากข้าเมาก็ต้องเรียกข้าให้เอาผ้าห่มให้เจ้า เข้าใจหรือไม่” นางดุลู่มู่เฉินพยักหน้ารับอีกครั้ง แต่ไม่กล้ามองนาง ไม่กล้าบอกนางว่ามือข้างนี้จะไม่หาย มันยังคงต้องเจ็บเช่นนี้ไปตลอดชีวิต แม้จะตัดทิ้งความรู้สึกเจ็บปวดที่ไม่มีอยู่จริงก็ยังเกิดขึ้น เวลานี้ก็ยังรู้สึกเจ็บมาก แต่อย่างไรก็ต้องทนต่อไป เขาไม่ต้องการให้นางไม่สบายใจแต่ห่มผ้าให้เขาแล้วนางก็ไม่ยอมไปไหน ยังคงนั่งมองเขา ทั้งยังกระเถิบมาใกล้ขึ้นจ้องมองเขาไม่วางตา ลู่มู่เฉินได้แต่ก้มหน้าไม่กล้าเอ่ยคำพูด แต่แล้วนางก็ยกมือขึ้นมาเช็ดบางอย่างที่ข้างแก้ม“เจ้านอนน้ำลายไหลเปื้อนแก้มด้วย”“!!..” เขาตกใจรีบก้มหน้าไม่ยอมให้นางเช็ดคราบน้ำลาย“ชิ ทำเป็นเล่นตัว อย่างไรเจ้าก็แต่งกับข้าแล้ว เป็นหรือตายก็ต้องเป็นคนของข้า” หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกอารมณ์เสีย เมื

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 21 คืนเข้าหอ

    เขาจึงยังไม่ได้พูดคุยกับนางให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำได้แต่คาดเดา เพราะเขาถามอ๋องเยียนก็แล้ว ท่านหมอก็ถามแล้ว แม้แต่แม่ทัพหลี่เขาก็พยายามถามแล้ว แต่ไม่มีผู้ใดตอบคำถามของเขา"ตาของเจ้างดงามมากจริงๆ ราวกับเก็บดวงดาวยามค่ำคืนไว้ทั้งท้องฟ้า" พูดแล้วนางก็ล้มใส่ตัวเขา หลับไปทั้งเช่นนั้น‘ความฝันที่เป็นได้เพียงความฝัน ห้ามคิดฝันเกินตัว มันต้องมีบางสิ่งทำให้ท่านแม่ทัพตัดสินใจเช่นนี้ นางต้องทำความผิดใดจนท่านแม่ทัพโกรธ จนต้องลงโทษนางให้แต่งกับคนอัปลักษณ์ใกล้ตายเช่นเขา’ ลู่มู่เฉินตักเตือนตัวเองเขามั่นใจว่างานแต่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะนางชอบเขา หรือเพราะดันมีคนรู้เข้าว่าเขาชอบนาง เขารู้ว่าต้องมีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้น นางจึงถูกบังคับให้แต่งกับเขาเขารู้ว่านางพูดชมเขาโดยไม่มีสิ่งใดลึกซึ้ง เพราะนางเป็นคนเช่นนั้น ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม พูดสิ่งที่คิดออกมาตรงๆ เพียงแต่..ทุกครั้งที่นางพูดเช่นนี้ ในอกของเขายังคงสั่นระรัวไม่เป็นจังหวะ ในท้องปั่นป่วนคล้ายมีผีเสื้อนับพันกำลังโผบินลู่มู่เฉินแอบยิ้มน้อยๆ งานแต่งนี้อาจต้องจบลงสักวัน เขาย่อมรู้ดี แต่ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นงานแต่งของเขากับนาง หากนางยังตื่นอยู่ เขาก็จะปั้น

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 20 งานแต่ง

    แม่ทัพหลี่หันหน้าแบบประหลาดมากมามองลูกสาว เขากะพริบตาไล่ความงุนงง สังเกตอาการของลูกสาวที่หน้าแดงกระวนกระวายทำสิ่งใดไม่ถูก จู่ๆเขาก็เข้าใจทุกอย่าง‘ข้าว่าแล้วเชียว เท่าที่จำได้ ไอ้หนุ่มนั่นเป็นคนเดียวที่ทำให้ลูกข้าเงียบได้ใช่หรือไม่ แต่มันดูแลลูกข้าได้แน่หรือ ถึงอย่างไรนางก็ดูจะชอบมันเข้าแล้วจริงๆ ข้าไม่เคยเห็นนางเป็นเช่นนี้เลย’ แม่ทัพหลี่คิด ยิ่งคิดยิ่งตกใจ นี่เขาไม่เคยสังเกตเลยจริงๆ สุดท้ายเขาไม่พูดสิ่งใดแต่เดินดุ่มๆ ออกไปจากห้องโถงทันทีปล่อยให้หลี่เฟิ่งเซียนและอ๋องเยียนมองตามอย่างงุนงง ก่อนที่นางจะคิดบางอย่างได้และตะโกนออกไป“ท่านพ่อ ห้ามฆ่าเขานะ!!” แล้วนางก็วิ่งตามแม่ทัพออกไป อ๋องเยียนค่อยๆพ่นลมออกมา รู้สึกโล่งอกที่คนถูกฆ่าไม่ใช่เขาลู่มู่เฉินกำลังช่วยเตรียมยาให้ทหารนายหนึ่ง ขาของเขาขาด ไม่ได้ทำแผลให้สะอาดแต่ต้น ยามนี้จึงทั้งบวมและเป็นหนอง“ลู่มู่เฉิน!!” แม่ทัพหลี่ตะโกนเรียกชื่อเขาแต่ไหล “หยุดนะท่านพ่อ ห้ามฆ่าเขาเด็ดขาด!” หลี่เฟิ่งเซียนวิ่งตามหลังแม่ทัพหลี่มาติดๆ ตะโกนอย่างร้อนรนลู่มู่เฉินไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นางคงก่อเรื่องอีกแล้ว เขาถอนหายใจ ยื่นห่อยาให้ทหารอย่างใจเย็น ก

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 19 คำแนะนำของอ๋องเยียน

    หลี่เฟิ่งเซียนค่อยๆหันกลับไป กะพริบตาปริบๆ ไม่อยากเชื่อว่าใครๆก็มองออก แต่นางไม่รู้ตัว นี่นางโง่เพียงนี้เชียวหรือ“เจ้าไม่ชอบเขา แล้วสั่งทำกล่องเข็มให้เขาทำไมหรือ” นางยังคาใจ“ท่านเป็นคนสัญญาว่าจะออกเงินสร้างสิ่งที่เขาอยากได้ไม่ใช่หรือเจ้าคะ เขาบอกว่าอยากได้กล่องเข็มครบ 18 แบบ ข้าจึงไปสั่งร้านช่างในหมู่บ้านให้ ใช้เวลาหลายสิบวันกว่าจะเสร็จ วันก่อนช่างเอามาส่งแต่ข้าลืมบอกท่าน” ยู่ยี่อธิบายนางสัญญาไปเช่นนั้นจริงๆ นางรีบร้อนจะตามอ๋องเยียนไปขี่ม้าดูบึงใหญ่ จึงรับปากเขาไปส่งๆ จนนางก็ลืมไปแล้ว ดังนั้น ถือว่ากล่องเข็มนี้นางเป็นคนมอบให้เขา ไม่ใช่ยู่ยี่หัวใจของหลี่เฟิ่งเซียนพองโต นางไม่ต้องแย่งชิงเขากับยู่ยี่ เขาไร้ญาติขาดมิตร ครอบครัวก็ไม่มี ขอเพียงนางรวบหัวรวบหาง เขาต้องเป็นของนางแน่ ถึงเขาจะน่าเกลียดมากไปหน่อย แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยนัยน์ตาของเขางดงามมาก นางชอบนัยน์ตาของเขาที่ราวกับเก็บดวงดาวไว้ทั้งท้องฟ้ายามค่ำคืนคิดแล้วนางก็หยุดตัวเองไม่ได้ อยากจะไปหาเขาตอนนี้เสียเลย หลี่เฟิ่งเซียนวิ่งไปหาลู่มู่เฉิน ไม่สนใจว่ายามนี้ดึกมากเพียงใด ยู่ยี่ห้ามอย่างไรนางก็ไม่ฟัง นางเอากล่องเข็มไปด้วย นางอยาก

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 18 รู้ตัวว่าชอบเขา

    “แล้ว..เกิดอะไรขึ้น” แม่ทัพหลี่เบาเสียงลง กลัวจะทำให้ลูกสาวเสียงดังมากขึ้น“...ข้าก็ไม่รู้ เขาคงไม่อยากให้ข้าไปยุ่งกับเขา” นางตอบเบาลง“เหลวไหล ใครจะไม่อยากยุ่งกับลูกพ่อ” แม่ทัพหลี่รีบเอาใจ“มาๆ กินเยอะๆ เดี๋ยวพ่อไปถามให้ ถ้าเขาไม่ยอมพูด พ่อจะบังคับให้เขาพูดให้ได้” เขาหยิบอาหารใส่ถ้วยให้นาง เอาอกเอาใจลูกสาวเต็มที่“ไม่ต้อง ข้า..ข้าจะ ไปถามด้วยตัวเอง”หลี่เฟิ่งเซียนพอจะนึกบางอย่างได้ นางพาลู่มู่เฉินมาที่นี่ อ้างว่ามารักษาตัว แต่ไม่เคยถามว่าเขาอยากอยู่หรือไม่ ท่านพ่อของนางเป็นถึงแม่ทัพ หากเขาไม่เอ่ยปาก ผู้ใดจะกล้าออกไปจากที่นี่ บางทีลู่มู่เฉินอาจไม่อยากอยู่ที่นี่ เขาอาจรู้สึกไม่ต่างจากถูกคุมขังในกรงสุนัข เขาอาจอยากกลับไปหาครอบครัวสุดท้ายหลี่เฟิ่งเซียนตัดสินใจจะถามให้กระจ่าง นางตามหาเขาจนพบเขาอยู่ที่ห้องเก็บยา“ลู่มู่เฉิน ข้ามีเรื่องอยากถามเจ้า” หลี่เฟิ่งเซียนมาถึงก็ถามตรงๆ“..อืม” เขาหันมามองนางครู่หนึ่ง และหันไปยุ่งกับการตวงยาต่อไป“เจ้าอยากกลับบ้านของเจ้าหรือไม่”“ใครบ้างจะไม่อยากกลับบ้าน”เขาตอบตามจริง แต่นางรู้สึกบางอย่างในอกหนักอึ้ง“เจ้ามีบ้านหรือไม่ มีพ่อแม่ ภรรยา...หรือคนที่รอใ

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 17 สั่นระริก

    ค่ำวันนั้นนางไปหามู่เฉินคนชั่วของนาง แต่ท่านหมอบอกว่าเขาไม่อยู่ออกไปอาบน้ำ หลี่เฟิ่งเซียนไปรอเขาที่ห้องของเขาอยู่นานเขาก็ยังไม่กลับ นางจึงบุกไปที่ห้องอาบน้ำ แต่เขาก็ไม่อยู่ที่นั่น หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ นางกลัวว่าเขาจะออกไปข้างนอกค่ายแล้วเกิดถูกจับตัวไปขายอีกครั้งหลี่เฟิ่งเซียนวิ่งกลับไปที่ห้องของนางเพื่อหยิบกระบี่ไปช่วยเขา แต่กลับพบเขากำลังนั่งปลอบใจยู่ยี่ที่ร้องไห้อยู่ นางมองเขากำลังใช้มืออีกข้างตบหลังยู่ยี่เบาๆ อย่างปลอบโยน จู่ๆ นางก็เกิดไม่กล้าเดินเข้าไปรบกวนพวกเขา ในใจของนางมีบางอย่างหนักอึ้งจนนางเองก็อธิบายไม่ได้หลี่เฟิ่งเซียนหอบกล่องใส่เข็มไปนั่งเหม่อมองดวงดาวบนท้องฟ้าที่ริมน้ำ เพราะนางไม่กล้าเข้าห้องของตัวเอง สายลมเย็นส่งเสียงหวีดเป็นบางครั้ง เสียงน้ำไหลกระทบก้อนหิน แม้จะหนวกหู แต่ช่วยให้นางสงบ ไม่ต้องได้ยินเสียงจี้ดๆ ที่ได้ยินในหูตั้งแต่เห็นสองคนนั้นนั่งด้วยกันยิ่งมืดดวงดาวยิ่งแจ่มชัด แต่จู่ๆ กลับมีแสงไฟใกล้นางมาทุกที หลี่เฟิ่งเซียนกลัวว่าจะมีคนร้ายมาแอบจับตัวนางไปอีก จึงรีบหลบหลังพุ่มไม้ แอบก่นด่าตัวเองในใจที่ไม่รู้จักระวัง มืดแล้วยังไม่ระวังตัว ถูกจับไป

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status