Masukจนอิงฮัวแทบจะขาดใจนางจึงเอามือบางตบไหล่เขาเบาๆจนเขาปล่อยปากอวบอิ่มของนาง แล้วดันร่างของนางไปที่โต๊ะเขียนหนังสือแล้วเอามือกวาดที่สิ่งที่วางอยู่บนนั้นลงไปด้านล่างอย่างไม่อินังขังขอบมัน วางร่างนางลงบนโต๊ะนั้นกดตัวนางลงไป แล้วบดจูบนางต่ออย่างเร่าร้อนขึ้นเรื่อย ๆ
มือหนาบีบเค้นอกอวบด้านนอกเสื้อของนางอย่างเมามันจากนั้นมือหนาสอดเข้าไปในสาปเสื้อของนางแล้วแหวกมันออกจากกันอย่างรุนแรงจนเห็นเอี๊ยมตัวบางๆข้างในนั้น อกอวบใหญ่ของนางปรากฏเต็มสองตาของเขา เขาก้มลงอ้าปากดูดดึงผลอิงเถาที่ดุนดันออกมาอย่างเห็นได้ชัด
เขาดูดดึงมันอย่างเมามันดูดมันอย่างโหยหารุนแรงจนเสื้อเอี๊ยมสีขาวตัวบางของนางเปียกเป็นวงกว้าง จากนั้นเขาปลดสายคล้องคอของนางออกจนเอี๊ยมตัวบางหลุดออกจากอกอวบนั้น เขาอ้าปากไล้เลียมันอย่างลุ่มหลงเลียจนร่างอวบแอ่นอกเข้าหาปากรุ่มร้อนของเขา นางครวญครางกระเส่า มือบางเสยเข้าไปในเส้นผมของร่างหนากดศีรษะของเขาลงมาจนชิดอกอวบนั้น
เขาดูดดึงมันจนร่องอวบของอิงฮัวตอดลมเบาๆอย่างร่านร้อน
“อ๊าย อ๊าย อ๊ะ อ๊ะ ท่านอาเจ้าขา อ๊าย”
นางร้องครวญครางปานจะขาดใจ ร่างหนาเมื่อได้ยินเสียงครวญครางของคนใต้ร่างและเอ่ยเรียกเขาว่าท่านอา เขาจึงได้สติขึ้นมาทันที เขาเงยหน้าขึ้นจากอกอวบของอิงฮัว แล้วผละออกจากกายอวบของนางทันควัน
อิงฮัวตกตะลึงที่ร่างหนาผละออกมาจากนางอย่างรวดเร็ว นางจึงได้สติขึ้นมาเช่นกันจึงลุกขึ้นแล้วรวบเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยของนางขึ้นมาปกปิดร่างกายส่วนบนที่เปิดโล่งให้เขาเชยชมเมื่อสักครู่
“อาขออภัยที่ล่วงเกินเจ้า ลืมมันไปเสีย แล้วออกไปจากห้องนี้ ”
เขาเอ่ยขึ้นแล้วเอามือเสยผมตนเองที่ปรกหน้าลงมาเพราะมันหลุดลุ่ยจากเมื่อครู่ที่ต่างพัวพันกันอย่างเร่าร้อนนั้น อิงฮัวหน้าร้อนวูบขึ้นมาทันที นางเหมือนถูกปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนเขารังเกียจนางเหลือทน นางปล่อยโฮออกมา รีบแต่งกายลวกๆ แล้วเอามือปิดหน้าวิ่งร้องไห้ออกมาจากห้องหนังสือนั้น
หลายวันผ่านไปสองอาหลานต่างทำเป็นมองไม่เห็นกัน ต่างเฉยชาใส่กัน หลีกเลี่ยงที่จะพบเจอกัน แม้จำเป็นต้องพูดคุยกันเมื่อหลบเลี่ยงไม่ได้ก็จะพูดจากันอย่างห่างเหินเย็นชา
อิงฮัวก็ทำตัวห่างเหินกับเขา จากที่เมื่อก่อนเขาพยายามออกห่างจากนางฝ่ายเดียว แต่นางพยายามเอาอกเอาใจพยายามพาตัวเองมาพบเจอเขา หาเรื่องที่จะพูดคุยกับเขาทำเป็นมองไม่เห็นว่าเขาพยายามหลีกหนีนาง
แต่บัดนี้นางก็หลีกหนีเขาเช่นกัน นางเจ็บปวดใจที่เขาทำเหมือนรังเกียจนางเหลือแสน นางจึงบอกกับตนเองว่าจะพยายามลืมความรู้สึกที่มีต่อเขาไป หากมีบุรุษใดที่พึงใจนางและเต็มใจที่จะคบหานางก็จะเปิดใจลองคบหาบุรุษนั้นดีกว่ามาเฝ้ามาตื้อคนที่เขาไม่มีวันจะรักตอบนาง ไม่มีใจให้นางเช่นนี้ มันเจ็บปวดเกินไป หัวใจดวงน้อยๆของนางมันทานทนไม่ไหวอีกต่อไป
จากนั้นหากรองแม่ทัพซ่งมาเยี่ยมเยียนนางมาชวนนางออกไปข้างนอกนางก็ไม่เคยปฏิเสธเขาเลย หรือมีบุรุษอื่นเช่นบุตรชายของคหบดีเหลียวที่มีนามว่าเหลียวจงฝานมาเทียวไล้เทียวขื่อนาง จากเดิมนางมักจะปฏิเสธเขาไป
นางก็ไม่ปฏฺิเสธอีกต่อไป นางออกมาต้อนรับเขาที่ศาลาริมบึงบัวนั้นเสมอเมื่อเขามาขอพบนางและมักจะหาของแปลกตาที่สตรีชมชอบหรือของกินที่ขึ้นชื่อของเมืองมาฝากนาง อิงฮัวรับเอาไว้ทุกอย่างอย่างเต็มใจและอยู่พูดคุยกับบุรุษเหล่านั้นอย่างสนิทสนมมากขึ้น บุรุษเหล่านั้นต่างมีความหวังขึ้นมาว่าสาวเจ้าจะมีใจแล้ว จึงเทียวมาหานางไม่เว้นแต่ละวัน
ตอนนี้คนที่อารมณ์พลุ่งพล่านเกินจะระงับได้ อารมณ์เสียง่ายๆลงโทษทหารในบังคับบัญชาและบ่าวที่ทำผิดต่อหน้าเขาแม้เพียงเล็กน้อยก็จะลงโทษทันที แม้ทำงานชักช้าไม่ได้อย่างใจเขาก็ถูกลงโทษเช่นกัน ความเคร่งเครียดนี้แผ่ไปทั้งกองทัพและในจวนก็ไม่เว้นเช่นกัน
บ่าวต่างตัวเกร็งขึ้นมาทันทีแทบจะทำอะไรต้องระวังเป็นพิเศษหากท่านแม่ทัพอยู่ท่ีจวน หากวันใดเขาออกไปนอกจวนบ่าวไพร่แทบจะโห่ร้องยินดีกันทั้งจวน แต่ไม่กล้าแสดงออกให้เขารู้ ยิ่งวันไหนมีบุรุษมาหาหลินอิงฮัวเขายิ่งอารมณ์เสียอาละวาดหนักกว่าทุกวัน พ่อบ้านเหยาก็สังเกตุเห็นแต่ไม่กล้าปริปากได้แต่แอบเฝ้ามองเหตุการณ์เงียบๆภาวนาให้ท่านแม่ทัพรู้ใจตนเองเสียทีจะได้ไม่ลำบากบ่าวไพร่ในจวน
วันหนึ่งเขาเคร่งเครียดจนทนไม่ไหวออกไปร่ำสุรากับสหายจนเมามายแทบไม่รู้สติ สหายจึงพาเขาขึ้นรถม้ามาส่งที่จวน บ่าวออกไปพยุงเขามาไว้ที่ห้องนอนของเขา หลินอิงฮัวเห็นเหตุการณ์ที่เขาเมามายจนบ่าวไพร่ต้องประคองไปส่งที่ห้องนอนของเขาเข้าพอดี
นางอดใจอ่อนมิได้จึงได้เดินเข้าไปในเรือนใหญ่เอากะละมังใส่น้ำแล้วหยิบผ้าเช็ดตัว ไปนั่งข้างๆเตียงของเขาแล้วลงมือถอดเครื่องแต่กายของเขาออกเพื่อจะให้เขาได้นอนสบายๆ แล้วลงมือเช็ดตัวเขาจนทั่วพอนางเช็ดตัวเขาใกล้จะเสร็จแล้ว เขาฟื้นคืนสติมาเล็กน้อยลืมตามาเห็นอิงฮัวอยู่ตรงหน้า
เขาผุดลุกขึ้นทันทีประกบจูบนางอย่างรุนแรงอิงฮัวปิดปากของนานแน่นไม่ยอมให้ลิ้นสากที่มีกลิ่นสุรารุนแรงนั้นเข้าไปในปากนาง แต่เขาขบริมฝีปากด้านล่างของนางเบาๆ นางจึงจำต้องยอมเปิดปากอวบอิ่มนั้นออกให้เขาสอดลิ้นสากเข้าไปควานชิมความหวานในปากของนางจนทั่ว
ลิ้นสากเข้าพัวพันลิ้นเล็กของนางอย่างดูดดื่มจนจูบที่รุนแรงนั้นเปลี่ยนเป็นอ่อนหวานยาวนานขึ้นจนร่างอวบแทบจะขาดอากาศหายใจ นางตีไหล่เขาเบาๆ ใบหน้าคมที่แดงก่ำด้วยฤทธิ์สุรานั้นจึงยอมปล่อยปากอวบอิ่มนั้น
และหันไปโจมตีใบหน้าหวานเขาพรมจูบจนทั่วใบหน้าหวานของนาง ซุกไซ้ซอกคอนางและเลียไล้ใบหูเล็กๆนั้นจนร่างอวบสั่นระริกมือหนาแหวกสาปเสื้อของนางออกจนหลุดจากไหล่มน เขาดึงผ้ารัดเอวของนางออกจนมันหลุดออกจากเอวคอดนั้น
เมื่อสาปเสื้อนั้นแยกออกกว้างจนแทบจะหลุดออกจากตัวของคนใต้ร่าง เขาก็ก้มลงดูดดึงยอดอกอวบนั้นอย่างเมามัน ดูดจนมันแทบจะติดเข้าไปในปากหนาของเขา ดูดจนร่างอวบแอ่นหลังโค้งเพื่อป้อนอกอวบเข้าไปในปากหนานั้นอย่างถนัดถนี่ ร่างอวบครวญครางกระเส่าอย่างทนไม่ไหวอีกต่อไป
เมื่อดูดดึงยอดอกนั้นจนพอใจเขาจึงดึงเชือกที่คล้องคอระหงนั้นจนเอี๊ยมตัวบางหลุดออกพ้นตัวของนาง จนมองเห็นอกอวบใหญ่นั้นอย่างเต็มตาของเขา มือหนาฟอนเฟ้นจนมันปลิ้นออกตามง่ามนิ้วของเขา ส่วนปากก็ไล้เลียมันอย่างเอร็ดอร่อยจนคนใต้ร่างทนไม่ไหวอีกต่อไปส่งเสียงครวญครางกระเส่าอย่างร่านร้อน
เมื่อไล้เลียอกอวบนั้นจนพอใจเขาก็ไล้เลียไปเรื่อยๆจนทั่วร่างงามพบหน้าท้องขาวนวลก็พรมจูบมันจนทั่ว ไล้เลียสะดือเล็กๆนั้นอย่างหยอกเย้า จากนั้นไล้เลียลงไปด้านล่างจนพบเนินอวบใหญ่เต็มมือของเขา
มือหนาแหวกร่องอวบนั้นออกจนเห็นเนื้อสีชมพูด้านใน เขาอดใจไม่ไหวก้มลงเลียไล้มันไปมาแล้วดึงดูดเมล็ดดอกไม้ด่านล่างนั้นอย่างรุนแรงจนมันบวมเป่งทันที เขาดูดดึงจนร่างอวบเสียวซ่านจนทนไม่ไหว โยกสะโพกอวบนั้นเข้าใส่ใบหน้าคมคายเป็นจังหวะอย่างร่านร้อนแม่ทัพเฉินก็ดูดดึงไล้เลียอย่างเอร็ดอร่อยจนกระทั่งสะโพกอวบกระตุกเกร็งเสร็จสมไปทันที ร่างหนาเห็นดังนั้นจึงผุดลุกขึ้นถอดเครื่องแต่งกายชุดในของเขาออกจนหมดกายแล้วชักรูดลำกายใหญ่นั้นจนมันพรักพร้อมแล้วจึงสอดใส่เข้าไปในร่องอวบอิ่มนั้นอย่างช้า ๆ แล้วหยุดเพื่อให้นางปรับตัวด้วยเขารู้ว่านางยังมิเคยชาย และเขาเองก็ปวดลำกายอย่างมากที่ร่องอวบนั้นบีบรัดเขา จนเมื่อน้ำหวานเริ่มไหลชะโลมลำกายใหญ่ของเขาอีกครั้งจนทั่วเขาจึงค่อยๆดันมันเข้าไปจนสุดทาง คนใต้ร่างหวีดร้องสุดเสียงด้วยความเจ็บปวด“อ๊าย อ๊ายเจ็บจังเลย เจ็บ ท่านอาข้าเจ็บ อ๊าย ”แม่ทัพเฉินจุ๊ปากเบาๆปลอบโยนนาง เขาก้มลงบดจูบนางอย่างดูดดื่มจนนางเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบนั้นเขาจึงเริ่มขยับลำกายใหญ่เข้าออกช้าๆ เร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งเริ่มกระแทกนางอย่างรุนแรงเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้อง ตับ ตับ ตับ ตับ เตียงหนาหนักนั้น
จนอิงฮัวแทบจะขาดใจนางจึงเอามือบางตบไหล่เขาเบาๆจนเขาปล่อยปากอวบอิ่มของนาง แล้วดันร่างของนางไปที่โต๊ะเขียนหนังสือแล้วเอามือกวาดที่สิ่งที่วางอยู่บนนั้นลงไปด้านล่างอย่างไม่อินังขังขอบมัน วางร่างนางลงบนโต๊ะนั้นกดตัวนางลงไป แล้วบดจูบนางต่ออย่างเร่าร้อนขึ้นเรื่อย ๆมือหนาบีบเค้นอกอวบด้านนอกเสื้อของนางอย่างเมามันจากนั้นมือหนาสอดเข้าไปในสาปเสื้อของนางแล้วแหวกมันออกจากกันอย่างรุนแรงจนเห็นเอี๊ยมตัวบางๆข้างในนั้น อกอวบใหญ่ของนางปรากฏเต็มสองตาของเขา เขาก้มลงอ้าปากดูดดึงผลอิงเถาที่ดุนดันออกมาอย่างเห็นได้ชัดเขาดูดดึงมันอย่างเมามันดูดมันอย่างโหยหารุนแรงจนเสื้อเอี๊ยมสีขาวตัวบางของนางเปียกเป็นวงกว้าง จากนั้นเขาปลดสายคล้องคอของนางออกจนเอี๊ยมตัวบางหลุดออกจากอกอวบนั้น เขาอ้าปากไล้เลียมันอย่างลุ่มหลงเลียจนร่างอวบแอ่นอกเข้าหาปากรุ่มร้อนของเขา นางครวญครางกระเส่า มือบางเสยเข้าไปในเส้นผมของร่างหนากดศีรษะของเขาลงมาจนชิดอกอวบนั้น เขาดูดดึงมันจนร่องอวบของอิงฮัวตอดลมเบาๆอย่างร่านร้อน“อ๊าย อ๊าย อ๊ะ อ๊ะ ท่านอาเจ้าขา อ๊าย”นางร้องครวญครางปานจะขาดใจ ร่างหนาเมื่อได้ยินเสียงครวญครางของคนใต้ร่างและเอ่ยเรียกเขาว่าท่านอ
แม่ทัพเฉินมองเด็กสาวใบหน้าหวานปานจะล่มเมือง ที่เอ่ยเชิญชวนให้เขาดื่มน้ำแกงของนางด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอ่อนหวานเขาจึงอดใจอ่อนไม่ได้ ยอมดื่มน้ำแกงของนางขณะที่อิงฮัวเดินไปด้านข้างโต๊ะที่ท่านแม่ทัพกำลังนั่งอยู่นางยกโถเทน้ำแกงลงในถ้วยเพื่อจะให้ท่านแม่ทัพดื่มนั้น นางสะดุ้มล้มนั่งลงบนตักของเขา นางตกใจตะลึงงันอยู่อย่างนั้นฝ่ายแม่ทัพเฉินอึ้งงันเมื่อสัมผัสถึงสะโพกอวบอั๋นบนตักหนาของเขามันอ่อนนุ่มเย้ายวนน่าสัมผัสมันนัก ทั้งสองมองตากันและกันนิ่งอยู่นาน นางเห็นแววตาสั่นไหววูบหนึ่งของเขา เมื่อแม่ทัพเฉินระลึกบางอย่างขึ้นมาได้ มือหนาจึงยกร่างอวบออกไปจากตักของเขาทันที“อิงฮัววันหลังอย่าทำแบบนี้อีก ถ้าผู้อื่นมาเห็นจะเข้าใจผิดเอาได้ อาไม่ชอบหญิงเจ้ามารยาชอบหว่านเสน่ห์บุรุษเช่นนี้ อย่าทำแบบนี้ให้เห็นอีกนะ ” แม่ทัพเฉินดุอิงฮัว ใบหน้าหวานสลดลงทันตา นางมิได้ตั้งใจจะหว่านเสน่ห์เขาเลย นางตั้งใจจะเอาน้ำแกงมาให้เขาจริงๆเพียงแต่นางสะดุดขาโต๊ะเท่านั้นเอง เขาก็ดุนางเสียมากมายอย่างคิดว่านางจะหว่านเสน่ห์เขาเช่นนั้น นางจึงโมโหกรุ่นขึ้นมาทันทีตอบโต้เขาไว้ว่า“ ข้าไม่ได้คิดจะหว่านเสน่ห์ท่านอาหรอกเจ้าค่ะ หากข้าคิดจะหว่านเ
หลินอิงฮัวอายุได้เพียงสิบปีบิดาก็มาด่วนจากไปเพราะการออกไปรบคราหนึ่ง ด้วยสาเหตุที่เขาพุ่งเข้าไปรับลูกธนูแทนท่านแม่ทัพเฉินอี้หรานผู้บังคับบัญชาของเขาแล้วเสียชีวิตทันที ทิ้งหลินอิงฮัวเด็กอายุสิบปีไว้ผู้เดียวนางมีบิดาเพียงผู้เดียวเพราะว่ามารดาทิ้งนางและบิดาไปตั้งแต่ยังเล็กๆนางแทบจำมารดามิได้เลยด้วยซ้ำ มีเพียงบิดาที่เลี้ยงดูนางมา แต่บิดาเป็นทหารจึงมักจะออกรบครั้งละนานๆด้วยครานั้นมีศึกมาก จะหยุดพักกลับจากชายแดนมาอยู่กับนานเป็นบางครั้งคราวเท่านั้น นางอยู่กับแม่นมที่เลี้ยงนางมาแต่อ้อนแต่ออดแต่แม่นมฉินก็มาด่วนจากไปเมื่อคราวที่นางอายุได้เพียงสิบสองปีเมื่อมาอยู่ที่จวนแม่ทัพเฉินอี้หรานแล้ว แม่ทัพเฉินก็เช่นเดียวกับบิดาของนางท่ีมักไปรบแต่ในคราหลังๆก็มักอยู่จวนเพราะการศึกน้อยลงกว่าสมัยที่บิดาของนางยังมีชีวิตอยู่ นางว้าเหว่โหยหาความรักของบิดาเมื่อแม่ทัพเฉินเข้ามารับอุปการะนาง นางก็มองแม่ทัพเฉินอย่างเช่นมองบิดาของนางที่เลี้ยงดูนางเฉกเช่นเดียวกันแต่มันกลับกลายเป็นความรักเช่นหนุ่มสาวเมื่อนางล่วงเข้าสู่วัยปักปิ่น เขาดูแลนางอย่างดีให้นางเรียกเขาว่าท่านอา เพราะสงสารที่นางกำพร้าอีกทั้งนางเป็นบุตรสาวของผ







