LOGINในคืนนั้นฟ่านปิงก็แบ่งเงินให้พี่ชายสามหมื่นหยวนไม่รับก็ไม่ได้ น้องสาวจัดใส่ตู้เซฟใบย่อมในห้องนอนในมิติของน้องสาวรียบร้อยไม่ต้องกลัวว่ามันจะหายไปไหน
ถ้าส่งกุ้งไปถึงหน้าหนาวมู่หยางคิดว่าเขาคงร่ำรวยไม่ต่างจากน้องสาวเลยตอนรับเงินมาถือมือของเขาสั่นมากเพราะตั้งแต่เกิดมานี้คือเงินที่ได้มามากที่สุดในชีวิตนี้ ฟ่านปิงจะทำให้เขาตกใจตายเพราะเงินหรือเปล่านะหึๆมู่หยางหัวเราะเหมือนคนบ้าพอน้องสาวปิดเซฟให้เขาเรียบร้อย "พี่ใหญ่ต้องทำใจนะต่อไปเงินของพี่จะต้องเต็มตู้เซฟอย่างแน่นอนเชื่อน้องแล้วจะรวย" ฟ่านปิงหัวเราะกอดอกด้วยความภาคภูมิใจใส่พี่ชาย มู่หยางจึงหัวเราะและเอามือลูบหัวน้องสาวด้วยความเอ็นดู "ได้พี่จะเชื่ออปิงเอ๋อร์ทุกอย่างเลย" สองพี่น้องยอกเย้ากันและพากันออกมานั่งที่ห้องนั่งเล่น ดูทีวีด้วยกันกินผลไม้กับน้ำผลไม้ มู่หยางนั่งดูรายการในทีวีที่น้องสาวของเขาเปิดให้ดูวิธีสร้างอาชีพให้ทุกคนได้เอาไปทำและต่อยอด แม้แต่รายการอาหารมากมายนี้ฟ่านปิงแค่เอาในทีวีนำไปขายให้เพื่อนของเขาทั้งชาติก็ไม่หมดไม่อยากจะคิดเลยว่าจื่อเซิ้นจะร่ำรวยมากแค่ไหน เพราะสูตรอาหารมากหมายในทีวีของฟ่านปิงทั้งทำทั้งกินให้ดูอีกและวิธีดูแลสวนผลไม้หลายสายพันธ์ที่สร้างเงินให้กับคนปลูกมากมายเขาจึงนั่งดูได้ไม่เบื่อเลยสักคืน "พี่ใหญ่คะพอดีน้องบอกกับแม่เสิ่นไปว่าถ้าน้องแต่งงานให้กับลูกชายของท่านไปน้องจะไม่ย้ายออกไปอยู่ในหมู่บ้านหรือบ้านของแม่เสิ่นนั้นนะคะ พี่ใหญ่น้องไม่ชอบคนในหมู่บ้านค่ะอยู่ที่บ้านเราดีกว่าสะดวกดีจะทำอะไรไม่ต้องมาสนใจว่าใครจะมาส่องเรื่องของเรา น้องเลยบอกให้แม่เสิ่นย้ายมาอยู่ที่บ้านเราด้วยกันเลยค่ะพี่ใหญ่ น้องคิดว่าก่อนที่จะเข้าหน้าหนาวเรามาสร้างบ้านหลังใหม่กันเถอะค่ะในเมื่อเราไม่ขัดสนเรื่องเงินกับรายได้ของครอบครัวเราแล้วน้องว่าจะสร้างบ้านสองหลังค่ะให้พี่ใหญ่หลังหนึ่งของน้องหลังหนึ่งพี่ใหญ่เห็นด้วยไหมคะ เพราะต่อไปพี่จะต้องมีภรรยาถ้าเจอคนที่รักถึงไม่เจอก็ไม่เป็นไรน้องสาวคนนี้จะเลี้ยงดูพี่ชายเองค่ะ แต่ก็อยากจะทำเผื่อเอาไว้ชีวิตคนเราไม่แน่นอนจริงไหมคะ" ฟ่านปิงถามพี่ชาย "แล้วทางแม่ของเฉินซานให้คำตอบกับน้องแล้วหรือ" มู่หยางถามน้องสาว "ยังค่ะน้องพึ่งจะถามก่อนที่พี่จะกลับมาจากเขาเองน้องบอกว่าไม่ต้องรีบให้คิดและปรึกษากับลูกชายของท่านดูก่อน ถ้าเป็นไปได้ให้ลูกชายของแม่เสิ่นปฎิเสธน้องและไม่แต่งนี้เข้าทางน้องเลยค่ะยิ่งดี น้องก็แค่วาดลายผ้าให้แม่เสิ่นไปปักที่บ้านของท่านไม่ต้องเจอหน้าของลูกชายของท่านอีกด้วย" "พี่ว่าเฉินซานอยากเร่งวันแต่งจะแย่นี้เขาก็เร่งให้พี่เลื่อนวันแต่งได้ไหมเห็นบอกว่าจะไปปรึกษาแม่ของเขาวันนี้ละ" มู่หยางตอบน้องสาว มู่ฟ่านปิงกรอกตามองบนนี้สรุปว่าเธอต้องแต่งกับผู้ชายคนนี้จริงๆนะหรือ สวรรค์หนูยังไม่อยากแต่งงานเลยทำไม่ต้องส่งมาตอนที่ร่างนี้มีสามีด้วยก็ไม่รู้แต่คนที่จะอยู่ไปกับผู้ชายคนนั้นคือหนูนะคะไม่ใช่ฟ่านปิงคนเก่า กลับภพเดิมก็ไม่ได้ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรให้ห่วงแล้วเพราะพี่ชายเธอก็หาเอาไว้ให้แล้ว นี้ดวงชะตาของหนูต้องอยู่กับผู้ชายใจร้ายคนนั้นไปอีกนานไหมฟ่านปิงคร่ำครวญในใจ "ปิงเอ๋อร์น้องเป็นอะไรเห็นเงียบไปเลยพี่เรียกตั้งหลายครั้งไปนอนเถอะนี้ก็ดึกมากแล้ว" จากสองพี่น้องก็แยกกันเข้าห้องของใครของมัน ฟ่านปิงเดินกลับห้องด้วยใจหงอยเหงาพอคิดถึงเรื่องแต่งงานให้เฉินซาน ความลับที่มีก็ต้องหลบซ่อนอีกมันไม่สะดวกเหมือนอยู่กับพี่ชายของตัวเอง เอาวะร่างนี้พึ่งจะสิบแปดกว่าเองนะในภพเก่ากำลังเรียนอยู่เลยแต่จะเป็นเช่นไรชีวิตต้องเดินหน้าต่อไปจะมามัวเสียใจมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรขึ้นมา เพราะในทุกวันสองครอบครัวก็ยังคงขึ้นเขาไปหาบปลาหาบกุ้งลงมาหลายได้เงินเป็นกอบเป็นกำสร้างความดีใจให้กับทุกคนฟ่านปิงบอกกลับพี่ชายให้ทำประตูทางเข้าสวนอีกที่หนึ่งเพราะวันที่จะเข้าไปส่งของให้พี่สาวเจียงหยู่ เธอจะแวะไปหาพี่ชายจื่อเซิ้นหาช่างมาทำบ้านให้ทันก่อนจะเข้าหน้าหนาวที่จะถึง เธอไม่อยากให้ใครรู้ว่ามีรถวิ่งมาบ้านของเธอ จะทำให้รถมารับวิ่งเข้าสวนไปจอดที่ท้ายสวนเลยมู่หยางกับมู่เฉินจึงงดขึ้นเขาไปเก็บผักป่ามาทำประตูและทางเข้าสวนใหม่ซึ่งสองหนุ่มก็ทำตามใจฟ่านปืงทุกอย่าง สามวันต่อมาก็เกือบจะแล้วเสร็จแต่วันนี้ฟ่านปิงจะไปส่งแบบผ้าในเมืองกับพี่ชายสองคนแต่เฉินซานขอไปด้วยหรือเขาก็ขอให้ตัวเองเป็นคนไปส่งฟ่านปิงเอง แม่เสิ่นก็เลยตัดปัญหาคือไปด้วยกันทั้งสี่คนเลยพอส่งปลากันเสร็จจึงปั่นจักรยานออกจากหมู่บ้านประมาณห้าโมงเช้า ประมาณสี่สิบห้านาทีก็ถึงในเมืองฟ่านปิงให้พี่ชายพาไปที่ร้านผ้าของพี่สาวเจียงหยู่ ที่มาถึงเวลานี้เพราะต้องส่งปลาให้กับพี่ชายจื่อเซิ้นก่อนแต่ฟ่านปิงฝากจดหมายมาบอกเวลานัดกับพี่สาวเจียงหยู่ก่อนแล้ว พอมาถึงหน้าร้านพี่สาวเจียงหยู่ถึงกับยืนรอที่ด้านหน้าร้านเลยและรีบเดินมาหาฟ่านปิงจูงแขนเธอเข้าไปในห้องทำงานเลยหลังจากทักทายทุกคนและเชิญเข้าไปในร้านพาไปที่ห้องรับรองแขกและให้เด็กในร้านรับรองแขกทุกคนเป็นอย่างดี ก่อนจะขอตัวจูงมือมู่ฟ่านปิงไปที่ห้องทำงานเพื่อคุยงานเพราะตอนนี้พี่ชายกับพี่สะใภ้รออยู่ก่อนแล้ว พอเข้ามาถึงในห้องเจียงห่าวกับเหม่ยอิงนั่งรออยู่และยิ้มทักทายฟ่านปิงอย่างเป็นกันเอง "สวัสดีค่ะคุณเจียวห่าวคุณเหม่ยอิงฟ่านปิงทักทายสองสามีภรรยาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม "ขอโทษที่มาสายนะคะพอดีมีงานให้ทำในตอนเช้าค่ะ" ฟ่านฟิงไหว้ขอโทษทุกคนจากใจจริง "ไม่เป็นไรขอแค่ฟ่านปิงส่งจดหมายมาบอกพวกพี่รอได้แต่บางคนแทบจะไปตามถึงหหมู่บ้านเลยมั้ง" พี่ว่าเจียงห่าวแซวน้องสาวเล่น "อย่าว่าแต่น้องเลยพี่ก็เหมือนกันนั้นละค่ะ" เจียงหยู่ตอบยิ้มๆจากนั้นในห้องก็เกิดเสียงหัวเราะกันเกิดขึ้น ส่วนอีกห้องที่สามคนเข้าไปนั่งรอฟ่านปิงมีเด็กในร้านยกน้ำชากับขนมมาเสริฟเรียบร้อย แต่อีกคนคอยมองแต่ประตูด้วยความกังวลที่เห็นเจ้าของร้านจูงมือภรรยาตัวน้อยของเขาไปในอีกห้อง จนแม่เสิ่นต้องบอกน้องไปคุยงานเดี๋ยวก็มาลูกแต่เขาก็ยังมองแต่ประตูตลอดเวลาด้วยความเป็นห่วงภรรยาตัวน้อยของตนเองทุกอย่างในชีวิตของฟ่านปิงในแต่ละวันนี้ผ่านมาได้เกือบหนึ่งเดือนในการย้ายเข้ามาในเมืองและตอนดึกหลังจากที่เข้าห้องนอนกับสามีฟ่านปิงปวดท้องตอนหกทุ่มเฉินซานรีบนำรถจากบ้านหลังจากที่อุ้มเมียขึ้นรถเรียบร้อยแม่เสิ่นเตรียมของจนครบทุกอย่าง ทุกคนรู้ว่าฟ่านปิงได้ลูกแฝดเพราะท้องใหญ่มากทุกคนในครอบครัวดูแลเธอเป็นอย่างดีคุณนายเจียงซินเย่วแวะเข้าไปหาลูกสาวบุญธรรมแทบจะทุกวัน หาของบำรุงมากมายไปให้ฟ่านปิงบำรุงหลานในท้องเพราะตอนนี้กิจการของร้านขยายไปอีกหลายเมืองเพราะแบบที่บุตรสาวบุญธรรมคนนี้ให้มาและงานประกวดที่มีขึ้นสองปีได้ที่หนึ่งสองปีซ้อนสร้างความโด่งดังไปทั่วปักกิ่งจนต้องเปิดสาขาในเมืองหลวงอีกที่หนึ่งเป็นร้านที่ใหญ่โตมากเพราะลูกค้ามากมายชอบในแบบสินค้าที่ทางร้านมีแทบจะทุกแบบ แถมมีห้องลองที่ทันสมัยมีนางแบบนายแบบโฆษณาแทบจะทุกสิ้นเดือนเลือกได้ว่าช่างนี้ตัดกันมือเป็นระวิงฟ่านปิงปวดท้องอยู่สองชั่วโมงคุณหมอจึงผ่าทำคลอด เฉินซานเดินจนมารดาเวียนหัวที่ห่วงเมียจนนั่งไม่ติดมู่หยางก็เดินทางมาพร้อมกันกับจื่อเซิ้นตั้งแต่ได้รับโทรศัพท์แล้วรวมทั้งพี่สาวเจียงหยู่กับคุณแม่และพี่ชายที่พากันตามหลังมาติดๆในที่สุดคุณหมอก
วันเวลาหมุนเวียนผ่านไปสองปีตอนนี้ฟ่านปิงมีลูกให้กับเฉินซานสมใจ ทีแรกจนเขาแทบจะท้อใจคิดว่าตัวเองเป็นหมั่นแท้ที่จริงฟ่านปิงกินยาคุมเอาไว้ จนตอนนี้เธอท้องได้เข้าเดือนที่เก้า ฟ่านปิงในวันที่เธอท้องได้สองเดือนที่ตื่นขึ้นมาเวียนหัวจนลุกไม่ได้สามีวิ่งไปบอกให้พี่ชายเอารถออกไปโรงพยาบาลพอรู้ว่ามู่ฟ่านปิงท้องเฉินซานทั้งยิ้มและหัวเราะมาตลอดทางเหมือนคนบ้าจนจื่อเซิ้นกับมู่หยางได้แต่ส่ายหัวให้กับน้องเขยตั้งแต่นั้นมาเขาดูแลฟ่านปิงเหมือนไข่ในหินฟ่านปิงพอคุมได้สองปีเธอจึงปล่อยให้ท้องอะไรเชื้อจะแรงมากขนาดนั้นเพราะปล่อยสามเดือนท้องเลยต้องให้รางวัลของคนขยันที่สามีของเธอขยันปั้นลูกทุกคืนจนสมใจ ก่อนที่เธอจะท้องได้พาสามีเข้ามิติและบอกเรื่องกินยาคุมกับสามีเขางอนเธอไปหลายวันคิดว่าตัวเองจะเป็นหมั่นจนจะไปตรวจที่โรงพยาบาลฟ่านปิงจึงบอกความจริงให้ฟังและนั้นคือการทำโทษของสามีที่ตั้งใจตั้งปั้นใหม่และก็สมใจเขาถึงตอนนี้ซึ่งตอนที่เธอบอกเรื่องที่มีมิติและบอกว่าได้พรมาจากท่านตาเทพตั้งแต่ที่โดนเพื่อนรักอย่างเสี่ยวชิงชิงวางยาในคืนนั้น คิดว่าตัวเองตายไปแล้วท่านตาจึงพาไปที่โลกของอนาคตข้างหน้าและให้เรียนรู้สิ่งต่างๆในโลกใบนั
ทั้งห้าคนในบ้านมู่กินมื้อเช้าด้วยความสุขพอได้บอกเรื่องที่หนักลงจากบ่า สองหนุ่มคู่รักต่างก็มีสีหน้าของความสุขที่ไม่ต้องหลบซ่อนสายจากใครในครอบครัวหลังจากนั่งพักฟ่านปิงไปล้างถ้วยในครัวและบอกให้ทุกคนพักก่อนไม่ต้องตามมาช่วยเดี๋ยวเสร็จแล้วเธอจะออกไปช่วยที่โรงเรือนที่ทุกคนตักผักเองหลังนั่งย่อยอาหารไม่นานสามหนุ่มจึงชวนกันไปตัดผักต่อ แม่เสิ่นจะไปด้วยแต่ทุกคนบอกเหลือไม่เยอะ"แม่ปักผ้าไปเลยครับไม่ต้องห่วงงานผักผมกับพี่ภรรยาทำทันอย่างแน่นอนเพิ่มคุณจื่อเซิ้นไปอีกคนไม่นานก็เสร็จแล้วครับ" ก่อนจะไปเฉินซานที่ช่วยภรรยายกถ้วยให้ภรรยาล้าง เขาสวมกอดฟ่านปิงจากทางด้านหลังด้วยความรักก่อนจะกระซิบใส่เมียรักเบาๆ"ปิงเอ๋อร์เมื่อคืนน้อนร้อนแรงมากพี่เกือบตายคาอกเมียพี่ขอแบบนี้ทุกคืนนะครับ" พูดจบเฉินซานก็ก้มลงหอมทั้งสองงแก้มซ้ายขวาบอกรักฟ่านปิงแล้วรีบไปตัดผักต่อฟ่านปิงที่ยืนนิ่งเพราะมือไม่ว่างติดล้างถ้วยอยู่ได้แต่ส่งค้อนให้สามีที่ส่งเสียงหัวเราะออกไปจากครัวด้วยความสุขออกไปจากในครัวหลังจากได้รางวัลจากสองแก้มเธอนับวันเขายิ่งทำตัวหื่นไม่เลือกสถานที่ ตั้งแต่ที่เมื่อคืนที่ตัวเธอยอมขอโทษที่พูดให้สามีได้เอาเปรียบเธอแทบจ
"ก็ไม่เป็นอะไรนี้ครับปิงเอ๋อร์พี่รับได้คนเราเลือกเกิดไม่ได้ พี่อยู่ในเมืองใหญ่ในค่ายทหารมาหลายปีหนูคิดว่าพี่จะไม่พบเจอบ้างเลยหรือครับและมันกลับเป็นเรืองที่ดีที่พี่ชายของหนูจะได้อยู่ใก้ลหนูทั้งสองคนยังไงละครับ แม่ของพี่ท่านเป็นคนในเมืองมาก่อนและมีเหตุผลท่านใช้ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนพวกเรา ท่านต้องเข้าใจมากมากกว่าและเห็นใจพี่ภรรยาทั้งสองคนอยู่แล้วครับ แล้วหนูจะมาขอหย่าพี่เรื่องแค่นี้หรือครับเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะครับ พี่เสียใจมากนะครับปิงเอ๋อร์ที่น้องไม่เคยมองพี่ในแง่ดีขึ้นมาบ้างเลยหรือครับ พี่รู้ว่าที่ผ่านมาพี่ผิดจนหนูโกรธพี่มากพี่จะบอกน้องตรงนี้ต่อหน้าพี่ชายของน้องว่าพี่รักหนูมากเท่าชีวิตของพี่ครับ" เฉินซานบอกภรรยารักและมองหน้าเธอด้วยความเสียใจที่ภรรยาไม่เคยใจอ่อนให้เขาเข้าร่วมและขอความคิดเห็นเลยมีแต่อยากทิ้งเขาทั้งที่ไม่เคยถามสามีสักคำก่อนเลย ฟ่านปิงมองหน้าสามีและเดินเข้าไปจับมือของสามี"หนูขอโทษที่ยังไม่ได้ถามพี่แต่หนูก็คิดไปก่อนขอบคุณพี่ที่เข้าใจพี่ชายของหนูค่ะ" ฟ่านปิงบอกสามีเฉินซานเห็นภรรยาจับมือและขอโทษที่เธอทำผิดเพราะตลอดเวลาที่แต่งงานกันมาฟ่านปิงจะไม่เคยแตะต้องตัว
ฟ่านปิงมาส่งพี่ชายทั้งสองถึงบ้านและดึงพี่ชายทั้งสองคนเข้าห้องนอนของพี่ใหญ่ก่อนจะพูดให้ทั้งสองคนฟังชัดๆเพราะตอนนี้จื่อเซิ้นกับมู่หยางยังตกใจที่ฟ่านปิงรู้เรื่องของตัวเองได้ยังไง"ไม่ต้องตกใจหรอกค่ะพี่จื่อเซิ้นหนูรู้ว่าพี่ชอบพี่ใหญ่เกินคำว่าเพื่อนรัก เพียงแต่คนที่นี้ไม่ค่อยยอมรับเรื่องชายรักชายเท่านั้นเอง แต่สำหรับหนูไม่ว่าพี่ทั้งสองคนจะเป็นแบบไหนหนูก็รับได้ค่ะพี่ไม่ต้องตกใจหนูยินดีที่พี่ทั้งสองคนจะมีความสุขด้วยกันถึงแม้คนอื่นจะไม่ยอมรับแต่จะสนใจทำไมละคะ ในเมื่อพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้หาข้าวให้เรากินหรือมารับเลี้ยงเรานี้คะทำตัวตามที่ใจพี่ทั้งสองคนต้องการเถอะค่ะ" ฟ่านปิงบอกพี่ชายที่เธอรักทั้งสองคน "ปิงเอ๋อร์" มู่หยางพูดเสียงเบาเขาพยายามที่จะหักใจมาตลอดว่าที่ผ่านมามีเพียงจื่อเซิ้นที่คอยช่วยเหลือเขามาโดยตลอดตั้งแต่ขาดพ่อกับแม่เค้าต้องเป็นเสาหลักให้น้องสาว จากที่เรียนมาด้วยกันและรับเข้าไปทำงานในร้านอาหารของพ่อตัวเองตอนเรียนจบ จื่อเซิ้นต้องปกปิดตัวตนทุกอย่างเพราะกลัวว่าบิดาจะเสียใจที่เขามีใจเป็นหญิงท่านพาไปดูตัวผู้หญิงที่ไหนเขาก็ปฎิเสธและขอแลกกับการทำงานแทนการแต่งภรรยาและบอกความจริงกับบิดาไปว่
อีกสองวันต่อมาพี่ชายจื่อเซิ้นก็มาค้างที่บ้านกับพี่ใหญ่เพื่อจะตกปลากัน หลังจากที่พากันตัดผักส่งให้คนรถนำกลับไปที่ร้านสามหนุ่มจึงพากันไปนั่งตกปลาที่ริมลำธารกันตั้งแต่ตอนกินมื้อเที่ยงอิ่มแล้วฟ่านปิงมีหน้าที่ทำอาหารให้กับสามหนุ่มวันนี้เธอจึงคิดจะกินหม้อไฟชาบูดีกว่าหลายคนดี จากนั้นรอบบ่ายฟ่านปิงจึงคลุกอยู่ในครัวปรุงน้ำซุปและหั่นหมูหั่นปลา แล่กุ้งทำกุ้งแช่น้ำปลาทำน้ำจิ้มรสเด็ดหอมหอมแห้งนำมาแช่น้ำรวมทั้งเห็ดหูหนูฟ่านปิงเดินไปที่โรงเรือนหลังจากที่ทำของสดครบทุกอย่าง ลูกชิ้นเธอก็ทำเองทั้งหมูทั้งปลาและกุ้งทำให้มีจานเนื้อหลากหลายจะเอาออกมาจากในมิติก็ไม่ได้ เพราะมันยังเป็นความลับสำหรับสามีรวมทั้งแม่เสิ่นที่ตอนนี้ฟ่านปิงยังไม่อยากเปิดเผยและรู้ว่าสามมีสงสัยของใช้ของเธอบางอย่างที่เขาไม่เคยเห็น แต่เขาจะไม่ถามถ้าภรรยาไม่อยากให้รู้ ฟ่านปิงก็ไม่ได้รังเกียจสามีแต่ที่ผ่านมาเขาก็ยอมรับผิดทุกอย่างและแสดงให้เห็นว่ารักเธอและทำตามที่ลั่นวาจาเอาไว้ทุกอย่าง ฟ่านปิงถามว่ารักสามีไหมสำหรับเธอก็มีใจสั่นเวลาสามีออดอ้อนเหมือนลูกน้อยในห้องนอนทุกคืนและเธอคิดว่าคงไม่ยากที่จะเปิดใจยอมรับความรักของสามีอีกไม่นานเธอเลือกเอ







