Masukวันต่อมายามเหมาทั้งสี่คนเดินขึ้นเขาพร้อมกันวันนี้ฟ่านปิงจึงเอาซาลาเปาออกมายี่สิบลูกพร้อมกาแฟให้ตัวเองกับพี่ชายและสามีจำเป็น ส่วนโอวัลตินเอาออกมาให้แม่เสิ่นดื่มเตรียมของเสร็จก็พอดีกับสองแม่ลูกมาถึงบ้านของเธอสองพี่น้อง ก็พากันเดินขึ้นเขาไปถือไฟฉายรุ่นเก่าคนละอันส่องนำทางไม่นานก็ไปถึงลำธาร สองหนุ่มพากันเดินลงน้ำเก็บลอบดักปลาเทใส่ถังที่เตรียมมาเลยจากที่เดิมไปสักหน่อยตามที่ฟ่านปิงบอกเอาไว้
ทุกคนอึ้งกับปลาที่ติดลอบจนเต็มทุกอันเพราะมีเหยื่อที่ฟ่านปิงเอาให้ใส่ในลอบทุกอันแม้แต่ที่หลุมก็มีแต่ปลาตัวใหญ่ที่ตกลงไปจนแม่เสิ่นตกใจเกิดมาก็พึ่งจะเคยเจอวิธีหาปลาแบบใหม่ของลูกสะใภ้ของตัวเอง ทั้งสองคนช่วยกันเก็บปลาใส่ถังรอสองหนุ่มที่ตอนนี้พากันหาบปลาลงเขาไปที่บ้าน แล้วจะขึ้นมาหาบลงไปอีกหลายเที่ยวละวันนี้ฟ่านปิงจึงให้แม่เสิ่นเก็บปลาขึ้นจากหลุม ส่วนกุ้งนั้นเธอไปเก็บใส่ถุงตาข่ายเองและเทใส่ตาข่ายหลายอันตอกไม้เอาไว้ให้แน่นหนาจึงมัดเชือกที่ใส่กุ้งเอาไว้ให้กุ้งอยู่ในน้ำพร้อมตาข่ายกุ้งจะได้ไม่ตาย สองหนุ่มหาบปลาลงไปสามรอบจึงหยุดกินมื้อเช้าที่ฟ่านปิงนำมาข้าวเหนียวเนื้อทอดแดดเดียวเพราะทุกคนรองท้องซาลาเปาไปตั้งแต่ยามเหมาแล้วจึงไม่หิวมาก แต่ตอนนี้กินข้าวเช้าหมดเกลี้ยงกันทุกคนเพราะว่ามันอร่อยมากสองหนุ่มจะได้เยอะเป็นพิเศษเพราะทำงานหนัก ฟ่านปิงก็เตรียมเครื่องดื่มชูกำลังให้อีกรอบหลังกินผลไม้ล้างปากกันเรียบร้อยแล้ว "พี่ว่าหาบลงไปอีกสองเที่ยวก็คงจะหมดแล้วละรอบที่สามเราก็ลงไปพร้อมกันทุกคนเลยสิบโมงรถของจื่อเซิ้นคงจะมาถึง" มู่หยางบอกน้องสาวหลังกินทุกอย่างเรียบร้อย "ค่ะพี่ใหญ่เดี๋ยวน้องจะเก็บผักรออยู่ใกล้ๆนี้ละค่ะสำหรับแม่เสิ่นนั่งรอที่นี้ก่อนก็ได้ไม่ต้องเดินไปมามันจะเหนื่อย แม่จับมาจนครบแล้วนั่งพักก่อนนะคะเดี๋ยวหนูจะเก็บผักรอใกล้ๆคุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ" ฟ่านปิงบอกกับมารดาของเฉินซาน "ปิงเอ๋อร์เนื้อแดดเดียวนี้ที่น้องทำมันอร่อยมากๆเลยครับ฿เฉินซานบออกกับภรรยาตัวน้อย "เครื่องดื่มของน้องมันทำให้พี่กับมู่หยางมีกำลังไม่เหนื่อยเลยขอบใจน้องมากนะทั้งซาลาเปาทั้งอาหารที่น้องทำมาเผื่อพี่กับแม่ของพี่ในวันนี้" "อือไม่เป็นไรก็เราร่วมทำธุระกิจร่วมกันแล้วฉันก็ทำมาเผื่อได้อยู่แล้ว" มู่ฟ่านปิงตอบเลี่ยงๆไม่อยากสบตากับสามีจำเป็นมากนัก เพราะเขาชอบมองเธอตาเยิ้มทุกครั้งเห็นแล้วขนลุกส่วนมากเธอจึงเลือกอยู่ใกล้พี่ชายของตัวเองมากกว่าหรือก็ข้างแม่เสิ่น "อือแม่ก็ว่าจะขอบใจเหมือนกันหนูทำอาหารอร่อยมากปิงเอ๋อร์ขอบใจอีกครั้งนะลูก" นางเสิ่นหนานบอกกับฟ่านปิงอีกครั้ง "ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่หนูเต็มใจทำมาให้ทุกคนกินจะได้มีแรงขนเอาปลาลงไปขายเราก็จะได้เงินเยอะๆยังไงละคะ" ฟ่านปิงบอกยิ้มจนจนตาหยี่ทุกคนจึงหัวเราะตามเธอพอพูดเรื่องเงินเธอจะอารมณ์ดี เสิ่นเฉินซานเก็บทุกอย่างที่ภรรยาชอบเอาไว้ในใจว่าภรรยาตัวน้อยชอบอะไรเขาจะได้หามาให้เธอเยอะๆแต่ตอนนี้เขารู้ว่าเธอชอบเงินเขาก็จะขยันหาเงินมาให้เธอเก็บจนพอใจ "อือเราเป็นครอบครัวเดียวกันเงินของพี่จะให้ภรรยาเก็บทั้งหมดเลยครับ" เฉินซานหยอดภรรยาหน้าตาเฉย ส่วนฟ่านปิงหันไปมองหน้าของชายหนุ่มเลิ่กลักและถลึงตาใส่เขาอีกเฉินซานหัวเราะเบาๆอย่างถูกใจที่เธออายเพราะเขาที่เกี้ยวเธอต่อหน้าของมารดาของตัวเองและพี่ชายของเธอ เขาจึงได้เห็นริ้วแดงขึ้นแก้มใสของเธอช่างหน้าเอ็นดูยิ่งนัก "ไปหาบปลาลงไปได้แล้วซานเอ๋อร์มัวแต่แกล้งน้องเดี๋ยวจะไม่เสร็จนะ" มารดาบอกลูกชายเพราะเห็นลูกสะใภ้ของเธออายที่ลูกชายตัวดีเกี้ยวต่อหน้าพี่ชายของตัวเอง ยิ่งมองเธอก็ยิ่งเอ็นดูลูกสะใภ้ตัวน้อยของตัวเองยิ่งนัก "ครับแม่ไปเถอะครับพี่ภรรยาจะได้รีบขึ้นมาหาบลให้เสร็จเร็วๆครับ" เขาบอกมู่หยางก่อนจะลุกขึ้นไปหาบปลาเดินนำหน้าพี่ชายของภรรยาตัวน้อยลงเขาไปก่อน มู่หยางจึงลุกขึ้นไปหาบปลาเดินตามน้องเขยของตัวเองและหันมากำชับน้องสาว "ห้ามไม่ให้ไปไกลจากที่พักตรงนี้เข้าใจไหมปิงเอ๋อร์" "ค่ะรู้แล้วค่ะน้องจะอยู่ใกล้ๆไม่ไปไหนไกลอย่างแน่นอนค่ะ" ฟ่านปิงรับปากพี่ชายก่อนจะหยิบเอาตระกร้าสะพายหลังพร้อมเสียมกับมีดเดินเลาะตามลำธาร ส่วนแม่เสิ่นนั่งปอกหน่อไม้ก่อนจะเดินเก็บผักรออยู่ใกล้ๆที่พักข้างลำธาร ฟ่านปิงเดินมาไม่ไกลมากมองเห็นแม่เสิ่นนั่งปอกเปลือกหน่อไม้อยู่ที่เดิมและคอยมองตามหลังของเธอไม่ห่างจึงหยุดแล้วลงมือเก็บผักใส่ตระกร้าจนเต็มและเอาเข้ามิติเอาไว้อีกเพราะว่าผักป่าเยอะมากฟ่านปิงเก็บด้วยความรวดเร็วไม่นานจึงเต็มตระกร้า เธอจึงมองไปที่แม่เสิ่นนั่งอยู่จึงเห็นว่ามารดาของสามีจำเป็นเดินไปเก็บผักป่าไม่ไกลจากที่พักมาก ฟ่างปิงจึงเดินลงน้ำในลำธารกวาดเอากุ้งเข้ามิติไปไว้เผื่อวันไหนที่ฉุกเฉินจะได้เอาออกมาใช้แก้ขัดไปได้เหมือนเมื่อวานนี้มันเยอะจริงๆ ฟ่านปิงเก็บกุ้งเข้ามิติมากมายจนพอใจจึงเอาน้ำในมิติหยดลงไปในลำธาร พอได้กลิ่นของน้ำพลังวิญญาณปลามากมายว่าเข้ามาที่ฟ่านปิงยืนอยู่รวมทั้งกุ้งเธอรีบกวาดเข้ามิติอย่างรวดเร็วเพราะกลัวว่าจะมีคนมาเห็น จากนั้นฟ่านปิงก็เดินขึ้นมาจากลำธารขุดเอาหน่อไม้อีกถือพอให้แม่เสิ่นมองเห็นนอกนั้นเธอเอาเข้ามิติจนหมดมีตัวช่วยมันก็ดีแบบนี้ละ ฟ่านปิงมองเห็นพี่ชายกลับสามีจำเป็นเดินกลับมาหาบปลาลงไปอีกรอบจึงโบกมือทักทายพี่ชายว่าเธออยู่ตรงนี้ และเห็นสามีจำเป็นโบกมือตอบและยิ้มให้เธอฟ่านปิงจึงแกล้งก้มลงขุดหน่อไม้ต่อเพราะดูเวลาคงจะสองโมงเช้าพี่ชายหาบลงไปอีกรอบพอขึ้นมาเธอก็จะลงเขาไปด้วยเช่นเดียวกัน สองหนุ่มที่มองเห็นคนของตัวเองแล้วก็ดื่มน้ำที่ฟ่านปิงเตรียมเอาไว้ให้แล้วพากันหาบปลาลงไปอีกรอบหนึ่งฟ่านปิงที่ทั้งเอาเข้ามิติทั้งขนหน่อไม้ไปกองเอาไว้ที่ตรงนั่งพักกินข้าว มองตามหลังพี่ชายไปจนลับตาเธอจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปอีกใกล้ๆกัน ไปส่องดูเห็ดก็ไมผิดหวังเธอเธอเก็บใส่ถุงผ้าที่นำมาด้วยจนเต็มจึงเดินกลับมานั่งปอกหน่อไม้ตรงที่แม่เสิ่นนั่งไม่นานแม่เสิ่นก็เดินกลับมาหาฟ่านปิง "ปิงเอ๋อร์ผักทางโน้นก็เยอะเช่นเดียวกันเหรอแม่เห็นเก็บไม่นานก็เต็มตระกร้า อื้อหือมีเห็ดด้วยเหรอลูกแม่ก็เจอแต่คงไม่เยอะเท่าหนูนี้ไงเห็ดที่แม่เก็บมา" แม่เสิ่นเอาให้ฟ่านปิงดู และนั่งลงช่วยปอกหน่อไม้ช่วยลูกสะใภ้อีกจนเรียบร้อยสองสาวคนละรุ่นจึงพากันเดินลงลำธารล้างตาล้างตากันให้สดชื่นพูดคุยปรึกษากันตามประสาแม่ผัวลูกใภ้ "เดี๋ยวพรุ่งนี้หนูจะลองเดินไปฝั่งนั้นเช่นกันค่ะคุณแม่น่าจะมีผักป่าเยอะเหมือนกันเพราะมันติดลำธารและอาจจะมีเห็ดให้เก็บอีกด้วยนะคะคุณแม่" ฟ่านปิงบอกแม่เสิ่น "อือหนูไม่ต้องหักโหมมากหรอกฟ่านปิงเรื่องผักเราลงไปส่งปลาให้เฉินซานกับมู่หยางขึ้นมาเก็บสองคนก็พอส่วนเราจะได้ปักผ้ากันต่อยังไงละ" แม่เสิ่นบอกกับฟ่านปิงด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนทุกอย่างในชีวิตของฟ่านปิงในแต่ละวันนี้ผ่านมาได้เกือบหนึ่งเดือนในการย้ายเข้ามาในเมืองและตอนดึกหลังจากที่เข้าห้องนอนกับสามีฟ่านปิงปวดท้องตอนหกทุ่มเฉินซานรีบนำรถจากบ้านหลังจากที่อุ้มเมียขึ้นรถเรียบร้อยแม่เสิ่นเตรียมของจนครบทุกอย่าง ทุกคนรู้ว่าฟ่านปิงได้ลูกแฝดเพราะท้องใหญ่มากทุกคนในครอบครัวดูแลเธอเป็นอย่างดีคุณนายเจียงซินเย่วแวะเข้าไปหาลูกสาวบุญธรรมแทบจะทุกวัน หาของบำรุงมากมายไปให้ฟ่านปิงบำรุงหลานในท้องเพราะตอนนี้กิจการของร้านขยายไปอีกหลายเมืองเพราะแบบที่บุตรสาวบุญธรรมคนนี้ให้มาและงานประกวดที่มีขึ้นสองปีได้ที่หนึ่งสองปีซ้อนสร้างความโด่งดังไปทั่วปักกิ่งจนต้องเปิดสาขาในเมืองหลวงอีกที่หนึ่งเป็นร้านที่ใหญ่โตมากเพราะลูกค้ามากมายชอบในแบบสินค้าที่ทางร้านมีแทบจะทุกแบบ แถมมีห้องลองที่ทันสมัยมีนางแบบนายแบบโฆษณาแทบจะทุกสิ้นเดือนเลือกได้ว่าช่างนี้ตัดกันมือเป็นระวิงฟ่านปิงปวดท้องอยู่สองชั่วโมงคุณหมอจึงผ่าทำคลอด เฉินซานเดินจนมารดาเวียนหัวที่ห่วงเมียจนนั่งไม่ติดมู่หยางก็เดินทางมาพร้อมกันกับจื่อเซิ้นตั้งแต่ได้รับโทรศัพท์แล้วรวมทั้งพี่สาวเจียงหยู่กับคุณแม่และพี่ชายที่พากันตามหลังมาติดๆในที่สุดคุณหมอก
วันเวลาหมุนเวียนผ่านไปสองปีตอนนี้ฟ่านปิงมีลูกให้กับเฉินซานสมใจ ทีแรกจนเขาแทบจะท้อใจคิดว่าตัวเองเป็นหมั่นแท้ที่จริงฟ่านปิงกินยาคุมเอาไว้ จนตอนนี้เธอท้องได้เข้าเดือนที่เก้า ฟ่านปิงในวันที่เธอท้องได้สองเดือนที่ตื่นขึ้นมาเวียนหัวจนลุกไม่ได้สามีวิ่งไปบอกให้พี่ชายเอารถออกไปโรงพยาบาลพอรู้ว่ามู่ฟ่านปิงท้องเฉินซานทั้งยิ้มและหัวเราะมาตลอดทางเหมือนคนบ้าจนจื่อเซิ้นกับมู่หยางได้แต่ส่ายหัวให้กับน้องเขยตั้งแต่นั้นมาเขาดูแลฟ่านปิงเหมือนไข่ในหินฟ่านปิงพอคุมได้สองปีเธอจึงปล่อยให้ท้องอะไรเชื้อจะแรงมากขนาดนั้นเพราะปล่อยสามเดือนท้องเลยต้องให้รางวัลของคนขยันที่สามีของเธอขยันปั้นลูกทุกคืนจนสมใจ ก่อนที่เธอจะท้องได้พาสามีเข้ามิติและบอกเรื่องกินยาคุมกับสามีเขางอนเธอไปหลายวันคิดว่าตัวเองจะเป็นหมั่นจนจะไปตรวจที่โรงพยาบาลฟ่านปิงจึงบอกความจริงให้ฟังและนั้นคือการทำโทษของสามีที่ตั้งใจตั้งปั้นใหม่และก็สมใจเขาถึงตอนนี้ซึ่งตอนที่เธอบอกเรื่องที่มีมิติและบอกว่าได้พรมาจากท่านตาเทพตั้งแต่ที่โดนเพื่อนรักอย่างเสี่ยวชิงชิงวางยาในคืนนั้น คิดว่าตัวเองตายไปแล้วท่านตาจึงพาไปที่โลกของอนาคตข้างหน้าและให้เรียนรู้สิ่งต่างๆในโลกใบนั
ทั้งห้าคนในบ้านมู่กินมื้อเช้าด้วยความสุขพอได้บอกเรื่องที่หนักลงจากบ่า สองหนุ่มคู่รักต่างก็มีสีหน้าของความสุขที่ไม่ต้องหลบซ่อนสายจากใครในครอบครัวหลังจากนั่งพักฟ่านปิงไปล้างถ้วยในครัวและบอกให้ทุกคนพักก่อนไม่ต้องตามมาช่วยเดี๋ยวเสร็จแล้วเธอจะออกไปช่วยที่โรงเรือนที่ทุกคนตักผักเองหลังนั่งย่อยอาหารไม่นานสามหนุ่มจึงชวนกันไปตัดผักต่อ แม่เสิ่นจะไปด้วยแต่ทุกคนบอกเหลือไม่เยอะ"แม่ปักผ้าไปเลยครับไม่ต้องห่วงงานผักผมกับพี่ภรรยาทำทันอย่างแน่นอนเพิ่มคุณจื่อเซิ้นไปอีกคนไม่นานก็เสร็จแล้วครับ" ก่อนจะไปเฉินซานที่ช่วยภรรยายกถ้วยให้ภรรยาล้าง เขาสวมกอดฟ่านปิงจากทางด้านหลังด้วยความรักก่อนจะกระซิบใส่เมียรักเบาๆ"ปิงเอ๋อร์เมื่อคืนน้อนร้อนแรงมากพี่เกือบตายคาอกเมียพี่ขอแบบนี้ทุกคืนนะครับ" พูดจบเฉินซานก็ก้มลงหอมทั้งสองงแก้มซ้ายขวาบอกรักฟ่านปิงแล้วรีบไปตัดผักต่อฟ่านปิงที่ยืนนิ่งเพราะมือไม่ว่างติดล้างถ้วยอยู่ได้แต่ส่งค้อนให้สามีที่ส่งเสียงหัวเราะออกไปจากครัวด้วยความสุขออกไปจากในครัวหลังจากได้รางวัลจากสองแก้มเธอนับวันเขายิ่งทำตัวหื่นไม่เลือกสถานที่ ตั้งแต่ที่เมื่อคืนที่ตัวเธอยอมขอโทษที่พูดให้สามีได้เอาเปรียบเธอแทบจ
"ก็ไม่เป็นอะไรนี้ครับปิงเอ๋อร์พี่รับได้คนเราเลือกเกิดไม่ได้ พี่อยู่ในเมืองใหญ่ในค่ายทหารมาหลายปีหนูคิดว่าพี่จะไม่พบเจอบ้างเลยหรือครับและมันกลับเป็นเรืองที่ดีที่พี่ชายของหนูจะได้อยู่ใก้ลหนูทั้งสองคนยังไงละครับ แม่ของพี่ท่านเป็นคนในเมืองมาก่อนและมีเหตุผลท่านใช้ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนพวกเรา ท่านต้องเข้าใจมากมากกว่าและเห็นใจพี่ภรรยาทั้งสองคนอยู่แล้วครับ แล้วหนูจะมาขอหย่าพี่เรื่องแค่นี้หรือครับเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะครับ พี่เสียใจมากนะครับปิงเอ๋อร์ที่น้องไม่เคยมองพี่ในแง่ดีขึ้นมาบ้างเลยหรือครับ พี่รู้ว่าที่ผ่านมาพี่ผิดจนหนูโกรธพี่มากพี่จะบอกน้องตรงนี้ต่อหน้าพี่ชายของน้องว่าพี่รักหนูมากเท่าชีวิตของพี่ครับ" เฉินซานบอกภรรยารักและมองหน้าเธอด้วยความเสียใจที่ภรรยาไม่เคยใจอ่อนให้เขาเข้าร่วมและขอความคิดเห็นเลยมีแต่อยากทิ้งเขาทั้งที่ไม่เคยถามสามีสักคำก่อนเลย ฟ่านปิงมองหน้าสามีและเดินเข้าไปจับมือของสามี"หนูขอโทษที่ยังไม่ได้ถามพี่แต่หนูก็คิดไปก่อนขอบคุณพี่ที่เข้าใจพี่ชายของหนูค่ะ" ฟ่านปิงบอกสามีเฉินซานเห็นภรรยาจับมือและขอโทษที่เธอทำผิดเพราะตลอดเวลาที่แต่งงานกันมาฟ่านปิงจะไม่เคยแตะต้องตัว
ฟ่านปิงมาส่งพี่ชายทั้งสองถึงบ้านและดึงพี่ชายทั้งสองคนเข้าห้องนอนของพี่ใหญ่ก่อนจะพูดให้ทั้งสองคนฟังชัดๆเพราะตอนนี้จื่อเซิ้นกับมู่หยางยังตกใจที่ฟ่านปิงรู้เรื่องของตัวเองได้ยังไง"ไม่ต้องตกใจหรอกค่ะพี่จื่อเซิ้นหนูรู้ว่าพี่ชอบพี่ใหญ่เกินคำว่าเพื่อนรัก เพียงแต่คนที่นี้ไม่ค่อยยอมรับเรื่องชายรักชายเท่านั้นเอง แต่สำหรับหนูไม่ว่าพี่ทั้งสองคนจะเป็นแบบไหนหนูก็รับได้ค่ะพี่ไม่ต้องตกใจหนูยินดีที่พี่ทั้งสองคนจะมีความสุขด้วยกันถึงแม้คนอื่นจะไม่ยอมรับแต่จะสนใจทำไมละคะ ในเมื่อพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้หาข้าวให้เรากินหรือมารับเลี้ยงเรานี้คะทำตัวตามที่ใจพี่ทั้งสองคนต้องการเถอะค่ะ" ฟ่านปิงบอกพี่ชายที่เธอรักทั้งสองคน "ปิงเอ๋อร์" มู่หยางพูดเสียงเบาเขาพยายามที่จะหักใจมาตลอดว่าที่ผ่านมามีเพียงจื่อเซิ้นที่คอยช่วยเหลือเขามาโดยตลอดตั้งแต่ขาดพ่อกับแม่เค้าต้องเป็นเสาหลักให้น้องสาว จากที่เรียนมาด้วยกันและรับเข้าไปทำงานในร้านอาหารของพ่อตัวเองตอนเรียนจบ จื่อเซิ้นต้องปกปิดตัวตนทุกอย่างเพราะกลัวว่าบิดาจะเสียใจที่เขามีใจเป็นหญิงท่านพาไปดูตัวผู้หญิงที่ไหนเขาก็ปฎิเสธและขอแลกกับการทำงานแทนการแต่งภรรยาและบอกความจริงกับบิดาไปว่
อีกสองวันต่อมาพี่ชายจื่อเซิ้นก็มาค้างที่บ้านกับพี่ใหญ่เพื่อจะตกปลากัน หลังจากที่พากันตัดผักส่งให้คนรถนำกลับไปที่ร้านสามหนุ่มจึงพากันไปนั่งตกปลาที่ริมลำธารกันตั้งแต่ตอนกินมื้อเที่ยงอิ่มแล้วฟ่านปิงมีหน้าที่ทำอาหารให้กับสามหนุ่มวันนี้เธอจึงคิดจะกินหม้อไฟชาบูดีกว่าหลายคนดี จากนั้นรอบบ่ายฟ่านปิงจึงคลุกอยู่ในครัวปรุงน้ำซุปและหั่นหมูหั่นปลา แล่กุ้งทำกุ้งแช่น้ำปลาทำน้ำจิ้มรสเด็ดหอมหอมแห้งนำมาแช่น้ำรวมทั้งเห็ดหูหนูฟ่านปิงเดินไปที่โรงเรือนหลังจากที่ทำของสดครบทุกอย่าง ลูกชิ้นเธอก็ทำเองทั้งหมูทั้งปลาและกุ้งทำให้มีจานเนื้อหลากหลายจะเอาออกมาจากในมิติก็ไม่ได้ เพราะมันยังเป็นความลับสำหรับสามีรวมทั้งแม่เสิ่นที่ตอนนี้ฟ่านปิงยังไม่อยากเปิดเผยและรู้ว่าสามมีสงสัยของใช้ของเธอบางอย่างที่เขาไม่เคยเห็น แต่เขาจะไม่ถามถ้าภรรยาไม่อยากให้รู้ ฟ่านปิงก็ไม่ได้รังเกียจสามีแต่ที่ผ่านมาเขาก็ยอมรับผิดทุกอย่างและแสดงให้เห็นว่ารักเธอและทำตามที่ลั่นวาจาเอาไว้ทุกอย่าง ฟ่านปิงถามว่ารักสามีไหมสำหรับเธอก็มีใจสั่นเวลาสามีออดอ้อนเหมือนลูกน้อยในห้องนอนทุกคืนและเธอคิดว่าคงไม่ยากที่จะเปิดใจยอมรับความรักของสามีอีกไม่นานเธอเลือกเอ







