/ โรแมนติก / รักกล้วยกล้วย / ตอนที่ 21  ไปเที่ยวสวนสัตว์  ความพยายามของธนนท์

공유

ตอนที่ 21  ไปเที่ยวสวนสัตว์  ความพยายามของธนนท์

작가: Sitha
last update 최신 업데이트: 2025-09-28 01:18:14

 

กลับถึงบ้าน  กัทลีบอกลูกว่าธนนท์ชวนไปเที่ยวสวนสัตว์ตามที่ชายหนุ่มบอกไว้  ซึ่งเด็กหญิงก็ตอบตกลงทันทีว่าจะไปตามประสาเด็กๆ ที่ชอบไปทั้งสวนสัตว์และสวนสนุก

“หนูอยากไปค่ะแม่  แม่กับลุงนนท์จะพาไปจริงๆ นะคะ”  เธอถามสีหน้าดูเบิกบาน

“ใช่ค่ะ  ไปกันจริงๆ  สวนสัตว์ก็อยู่ไม่ไกลด้วยลูก ขับรถไปไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว  แล้ววันนี้หนูอารมณ์ไม่ดีเรื่องอะไรบอกแม่ได้ไหมคะ”  กัทลีตะล่อมถาม

น้องบัวเงียบไปครู่หนึ่ง  ก่อนจะบอกช้าๆ

“หนูไม่ชอบป้าคนนั้นเลย  เขามองหนูไม่ดีพูดกับหนูก็ไม่ดีด้วยค่ะ” 

กัทลีขมวดคิ้ว  “ไม่ดียังไงคะลูก  เล่าให้แม่ฟังได้ไหม”

“ก็เขาถามว่าทำไมหนูต้องมาหาพ่อทุกวันเลยเหรอ  ทำไมไม่ไปทำงานกับแม่บ้าง” 

กัทลีค่อนข้างงง  เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องของเบญจาที่จะมาถามแบบนี้กับเด็ก  มันดูไม่น่าเชื่อว่าผู้ใหญ่ที่โตแล้วจะทำแต่เธอเชื่อว่าลูกเธอไม่เคยโกหก

“แล้วมีอะไรอีกไหมลูก  เขาว่าอะไรอีกไหม”

น้องบัวพยักหน้า 

“ค่ะแม่  เขาบอกว่าหนูต้องหัดอยู่กับแม่หรือไม่ก็อยู่คนเดียวที่บ้านได้แล้ว  เพราะอีกหน่อยถ้าพ่อแต่งงานมีลูกใหม่  หนูจะกลายเป็นหมาหัวเน่าพ่อเขาจะไม่รักหนูแล้วเหมือนเมื่อก่อนค่ะ” 

น้องบัวเล่าจบก็น้ำตาร่วงเผาะทำให้คนเป็นแม่โกรธมาก

“แล้วหนูบอกพ่อไหมคะว่าเขาพูดแบบนี้” 

เรื่องของหิรัญกับเบญจาจะเป็นอย่างไรก็ช่าง  เธอไม่สนใจจุดนี้แต่ว่าหากหิรัญจะแต่งงานใหม่  ก็อย่าฝันว่าเขาและเมียใหม่จะมาทำร้ายลูกของเธอได้อีก

น้องบัวส่ายหน้า  “พ่อคุยกับเขาตลอด  พ่อไม่สนใจหนูเลย  ปล่อยหนูมานั่งรอแม่หน้าบ้านคนเดียว”    

กัทลีสงสารลูกจับใจ  “ลูกแม่  แม่ขอโทษนะคะที่ปล่อยให้หนูเจอเรื่องแบบนี้”

“หนูไม่ไปหาพ่อแล้วค่ะ  หนูจะอยู่บ้านกับพี่แหม่มแล้วรอแม่กลับจากทำงาน”  เด็กหญิงพูดเสียงอู้อี้ปนสะอื้นไปด้วย

วันรุ่งขึ้นและวันต่อๆ มาน้องบัวไม่ยอมไปหาพ่อจริงๆ แม้ว่าหิรัญจะโทรมาถามกัทลีว่าเกิดอะไรขึ้น  เหตุใดเธอจึงไม่ให้ลูกไปอยู่ที่ฟาร์มอีกจนกว่าจะเปิดเทอมตามที่เคยสัญญากันไว้  ซึ่งหญิงสาวก็บอกไปว่าเหลืออีกแค่ไม่กี่วัน  เธออยากให้น้องบัวมีเวลาทบทวนบทเรียนที่บ้านมากกว่า  ชายหนุ่มจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับ 

จนกระทั่งถึงสุดสัปดาห์ต่อมา  กัทลีและลูกไปสวนสัตว์กึ่งสวนสนุกชื่อดังของจังหวัดสระบุรีตามที่ธนนท์เคยชวนสองแม่ลูกไว้   ซึ่งน้องบัวก็มีท่าทีกระตือรือร้นอยากไปมาก

“ลุงนนท์ขา  หนูอยากไปดูอัลปาก้าค่ะ”

บัวชมพูพูดเสียงใส มือเล็กๆ กระตุกชายเสื้อของธนนท์เบาๆ  เธออยากเห็นอัลปาก้าตัวจริงมานานแล้ว  อยากรู้ว่ามันจะน่ารักแบบในหนังสือนิทานหรือไม่

“งั้นเราไปดูกันเลยครับสาวน้อย แต่ระวังอย่าเดินห่างแม่นะ เดี๋ยวแม่เป็นห่วง” เขาหันไปยิ้มให้กัทลีซึ่งเดินตามหลังห่างๆ 

ภาพที่เห็นทำให้หญิงสาวเผลอยิ้มบางๆ ธนนท์เคยบอกว่าเขาไม่ถนัดเรื่องเด็ก แต่ดูเหมือนวันนี้เขาเต็มใจเรียนรู้ทุกอย่างจากลูกของเธอตั้งแต่ชื่อสัตว์หายาก จนถึงท่าทางที่น้องบัวใช้เรียกหาสัตว์แต่ละตัว

“ลุงนนท์  ตรงนี้มีเต่าตัวใหญ่ด้วยหนูชอบค่ะ  เหมือนที่พ่อเลี้ยงไว้ที่ฟาร์มเลย”

เด็กหญิงหัวเราะคิกคัก  แต่นั่นทำให้กัทลีและธนนท์ต่างชะงักไปเมื่อเด็กหญิงพูดถึงพ่อของเธอ

“ถ้าหนูชอบเต่างั้นเดี๋ยวเราไปดูเต่าอัลลิเกเตอร์ไหมครับ  มันเป็นเต่าสายพันธุ์ดึกดำบรรพ์เลยนะ”  ธนนท์เบี่ยงเบนความสนใจ

“ยังไงเหรอคะคุณลุง  แปลว่าอะไร”  น้องบัวทำหน้าอยากรู้

“กลุ่มเต่าดึกดำบรรพ์ก็หมายถึงว่ามันมีชีวิตอยู่ตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์และยังสืบเผ่าพันธุ์มาถึงปัจจุบัน”

น้องบัวทำตาโต  “โอ้โฮ  ตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์เลยเหรอคะ  แล้วเรารู้ได้ยังไงคะคุณลุง” 

“ที่รู้ก็เพราะเราเคยพบฟอสซิลของมันตั้งแต่ยุคนั้น  โดยการตรวจสอบอายุเราเชื่อกันว่ามันมีวิวัฒนาการมาตั้งแต่เก้าสิบล้านปีก่อน”   ธนนท์อธิบายต่อ

“จริงๆ  ที่นี่มีโซนไดโนเสาร์ด้วยครับ  ถ้าวันนี้เราดูไม่ทั่วเอาไว้เรามากันใหม่ก็ได้นะครับน้องบัว” เขาชวนน้องบัวรีบพยักหน้า 

“จริงด้วยค่ะ  แม่ๆ คราวหน้ามาด้วยกันอีกนะคะ”

กัทลีพยักหน้ารับเบาๆ เธอรู้สึกว่าชายหนุ่มข้างตัวเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่าง  แต่ก็ยังเก็บเอาไว้

หลังจากเดินชมในโซนสวนสัตว์จนทั่วแล้วก็ได้เวลาเที่ยงพอดี   พวกเขานั่งพักที่คาเฟภายในสวนสัตว์โดยที่ร้านนั้นมีบริการทั้งอาหารและเครื่องดื่ม  เด็กหญิงดูดนมชมพูสมูทตี้อย่างอารมณ์ดี  ขณะธนนท์ยื่นทิชชูให้กัทลีเช็ดมือลูก  เขาถามเบาๆ

“วันนี้สนุกไหมครับ”

“สนุกค่ะ  ไม่คิดเลยนะคะว่าที่นี่จะมีอะไรน่าดูเยอะแยะเลย” เธอตอบและเผลอหลุดหัวเราะเมื่อเห็นลูกเลอะนมเต็มปาก

ธนนท์จ้องเธอครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดเสียงเบา  “พี่ไม่เคยคิดว่าจะมีช่วงเวลาดีๆ แบบนี้ได้เลยนะกล้วย…”

เธอชะงักนิดหน่อย  เขาจึงพูดต่อ

“พี่ไม่อยากเร่งอะไร... แต่คิดว่าพี่กำลังเริ่มเข้าใจว่าการมีครอบครัวจริงๆ นั้นเป็นยังไง”

กัทลีเงียบเธอไม่ตอบอะไรในตอนนั้น  แต่ในใจเธอก็เริ่มคิดมากและกังวลเพราะคำว่า “ครอบครัว”  มันเคยเป็นแค่ภาพจำเจ็บปวดจากอดีตทั้งจากครอบครัวเดิมของตัวเองและทั้งจากหิรัญ  เธอจึงไม่เคยกล้าหวังว่าตัวเองจะมีครอบครัวที่อบอุ่นได้จริงๆ

จนถึงวันเปิดเทอมระหว่างที่กัทลีกำลังเตรียมของจะไปส่งลูกที่โรงเรียน   ธนนท์โทรเข้ามาชายหนุ่มใช้น้ำเสียงสุภาพ  ชวนพูดเรื่องงานกิจกรรมของชุมชนที่เคยวางแผนร่วมกัน  ซึ่งกัทลีก็ตอบกลับอย่างสุภาพเช่นกัน

แต่เมื่อธนนท์ถามขึ้นมาว่า

“กล้วยครับ... ถ้าวันหนึ่งเราไม่ต้องทำงานร่วมกันแล้ว  พี่ยังจะโทรหาเราได้ไหม?”

คำถามนั้นทำให้กัทลีชะงัก  เธอเงียบไปเพียงครู่และตอบว่า

“เราก็เป็นเพื่อนกันได้นะคะพี่นนท์ถ้าพี่ไม่รังเกียจ  แต่เราอาจต้องพูดกันให้ชัดเจนว่าขอบเขตของความสัมพันธ์เราอยู่ตรงไหน”

ปลายสายเงียบไป ก่อนจะพูดเสียงอ่อนลงว่า

“พี่เข้าใจครับ  ขอบคุณที่กล้วยพูดตรงๆ  แต่พี่ยังไม่หมดหวังใช่ไหม”

“พี่นนท์คะ  กล้วยรู้สึกดีมากเลยค่ะกับเรื่องของเราในแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้  แต่กล้วยยังไม่อยากคิดอะไรมากกว่านี้  อยากดูแลน้องบัวก่อนค่ะ” 

หลังจากวางสายกัทลียังนิ่งอยู่ตรงนั้น  เธอเงยหน้ามองไปหน้าบ้านเห็นหิรัญยืนอยู่ตรงนั้น  ชายหนุ่มไม่ได้ยินบทสนทนาแต่สีหน้าของเธอก็เพียงพอจะบอกว่า  คนที่อยากเป็นคนที่อยู่ในใจเธอไม่ได้มีแค่เขา

เมื่อกัทลีขับรถออกจากบ้านไปส่งลูกที่โรงเรียน  ชายหนุ่มขับรถตามไปด้วยและได้ยืนส่งน้องบัวพร้อมกัน  เด็กหญิงไหว้ลาทั้งพ่อและแม่และเดินเข้าโรงเรียนไปกับคุณครู   หิรัญถอนใจเบาๆ  เขารู้สึกว่าลูกห่างจากเขาไปมากกว่าเดิมแต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร 

กัทลีแยกตัวไปทำงานโดยที่เธอไม่ได้พูดอะไรกับเขา  หิรัญจึงกลับไปที่ฟาร์มเม‍ล่อน  ทำงานตามปกติที่ต้องทำในทุกวัน  เขาเช็กต้นเม‍ล่อนและเมื่อเดินไปจนถึงต้นที่น้องบัวจองไว้  ผลของมันโตขึ้นมากแต่เขาถอนใจเบาๆ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น  เรื่องที่กำลังจะดีกลับเปลี่ยนไป

การได้อยู่ในแปลงเพาะชำวันนี้ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเป็นเกษตรกรแต่ทำให้เขารู้สึกว่าการเป็น “พ่อ” นั้นไม่ง่าย  เฉกเช่นกับการเป็นสามีที่ดีก็ไม่ง่ายเช่นกัน

เขาเหนื่อย เขาล้า เขายังไม่รู้ว่าจะได้หัวใจของลูกและเมียกลับคืนมาไหม   แต่เขารู้ว่า...เขาต้อง “อยู่”

อยู่ให้ถึงวันที่พวกเธอแน่ใจว่า เขาเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ  และเขายังเชื่อว่าเมล็ดพันธุ์บางเมล็ด…  แม้จะงอกช้าแต่มันยังมีวันผลิบานถ้าเราไม่เลิกรดน้ำมันกลางคัน

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนพิเศษ 3: ทายาทแห่งฟาร์มบัวชมพู

    วันเปิดตัวผลิตภัณฑ์แปรรูปล็อตแรกของ ฟาร์มบัวชมพู ตรงกับช่วงปลายฤดูร้อนของปีที่น้องบัวเรียนจบมหาวิทยาลัยหลังจากใช้เวลากว่าสี่ปีในคณะวิทยาศาสตร์การเกษตร จากมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านเกษตรกรรมแบบยั่งยืนบัวชมพูกลับมาบ้านด้วยความตั้งใจเต็มเปี่ยม และมุ่งมั่นจะต่อยอดฟาร์มของครอบครัว ไม่ใช่แค่เป็นพื้นที่ปลูกพืชเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ งานวิจัย และแหล่งสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์พร้อมผู้บริหารรุ่นใหม่ถูกจัดขึ้นที่ลานหน้าคาเฟฟาร์ม ซึ่งถูกรีโนเวตให้มีมุมจัดแสดงสินค้าทางการเกษตรของครอบครัว โต๊ะไม้ไผ่ถูกเรียงเป็นวงล้อมสนามหญ้า มีซุ้มเม‍ล่อน น้ำผลไม้เย็น แยมผลไม้โฮมเมดจากสวน และขนมพื้นบ้านที่กัทลีเป็นคนคิดสูตรบัวชมพูในวัยยี่สิบสองปีเต็ม วันนี้จากเด็กหญิงตัวเล็กเธอกลายเป็นสาวเต็มตัว หญิงสาวสวมเสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายปักมือกับกางเกงยีนเอวสูง ผูกผ้าโพกหัวลายดอกไม้ เธอดูมีความเรียบง่ายแต่สดใส มีสไตล์เป็นของตัวเอง มีแววของความเป็นหญิงสาววัยทำงานที่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม ในมือของเธอมีแผ่นพับสรุปเรื่องราวของฟาร์มซึ่งเธอเขียนเองตั้งแต่หน้าแรกจนถึงภาพประกอบเสียงพิธีกรประกาศเปิดงานอย่างเป

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนพิเศษ 2: ความรักในหัวใจพ่อ

    เมื่อเข้าสู่หน้าหนาวของปีถัดมา ท้องฟ้าในตอนเช้าอากาศดูปลอดโปร่ง ที่มียังคงมีหมอกบางคลุมยอดเขาในตอนเช้าตรู่ทำให้รู้สึกสดชื่น แสงแดดอ่อนของฤดูหนาวแตะผิวแปลงสตรอว์เบอรี่ที่ปลูกอยู่ด้านหลังโรงเรือนเม‍ล่อนของฟาร์มบัวชมพูจนเกิดเป็นประกายสีเงินระยิบระยับบนใบไม้หิรัญในชุดเสื้อแขนยาวพับข้อศอกสีเขียวเข้ม เดินถือกล่องพลาสติกขนาดกลางมาหาลูก‍สาวที่นั่งแกว่งขาบนแคร่ไม้ใต้ต้นมะขามเทศ“หัวหน้าทีมตรวจผลผลิต พร้อมยังครับ” เขาถามพลางยื่นกล่องให้เด็กหญิงบัวชมพูวัยสิบขวบ เงยหน้าจากสมุดบันทึกแล้วลุกขึ้นยืนทันที“พร้อมแล้วค่ะคุณพ่อ แต่คุณพ่อพูดผิดนะคะ คุณพ่อต้องเรียกหนูอย่างเป็นทางการว่าหัวหน้าบัวค่ะ”ชายหนุ่มหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะยืดตัวตรงแล้วทำท่าเคารพแบบทหาร“รับทราบค่ะ หัวหน้าบัว” เสียงหัวเราะของทั้งสองคนลอยไปตามลมหนาว ขณะพ่อกับลูก‍สาวเดินเข้าไปในแปลงสตรอว์เบอรี่ที่กำลังให้ผล เป็นรุ่นแรกที่หิรัญขยายแปลงออกไปอย่างเต็มพื้นที่หลังจากที่เขาทดลองปลูกมาสองปี ใบของสตรอว์เบอรี่สีเขียวเข้มตัดกับผลสีขาวและแดงคละกันไป ทำให้บรรยากาศโดยรอบดูสดชื่นและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา“คุณพ่อดูสิคะ ลูกนี้แดงจัดเลยต้อ

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนพิเศษ 1: งานแต่งของพ่อกับแม่

    ฤดูหนาวปีนั้น ทุ่งดอกไม้หลังฟาร์มบานสะพรั่งพอดีกับวันสำคัญที่ทุกคนรอคอย“งานแต่งของพ่อจ๋ากับแม่จ๋า” คือชื่องานที่น้องบัวตั้งไว้เอง แม้จะไม่ได้จัดอย่างใหญ่โตเหมือนในละคร แต่ก็เป็นงานแต่งที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยรอยยิ้มจากคนที่ผ่านเรื่องราวมาด้วยกันจริง ๆหิรัญและกัทลีเลือกจัดงานในสวนข้างโรงเรือนเม‍ล่อน ใต้ร่มไม้ที่เด็กหญิงเคยนั่งมองผีเสื้อยักษ์ในวัยเจ็ดขวบ โต๊ะเก้าอี้ไม้ถูกจัดเรียงล้อมรอบลานดินกลางสวน ตกแต่งด้วยซุ้มดอกไม้เป็นระยะ หลักๆ คือทานตะวัน ดอกดาวเรือง และอ่างบัววางตกแต่งปลูกบัวที่บานชูช่อพอดีในวันงาน ซึ่งทั้งปู่เหมกับหลานสาวช่วยกันปลูกไว้ตั้งแต่ต้นฤดูฝนและกะเวลาไว้พอดีเป๊ะเพื่อนของหิรัญมาหลายคน ทั้งเพื่อนมหาวิทยาลัยและเพื่อนร่วมงานสมัยก่อน บางคนมองไม่เชื่อว่าชายผู้เคยเอาแน่เอานอนไม่ได้ในเรื่องชีวิตครอบครัว จะยืนอยู่ตรงนี้พร้อมภรรยาและลูก‍สาววัยสิบขวบได้อย่างมั่นคง “กล้วยนี่เพื่อนสนิทผมสมัยเรียนมหาวิทยาลัย นี่บอม ธนัชส่วนนั่นไอ้ผามันชื่อจริงว่าภูผา สองคนนี้เป็นเพื่อนอยู่ห้องเดียวกัน หอเดียวกันมาตลอดตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีสี่” “สวัสดีค่ะ ยินดีที่รู้จักคุณ

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่ 33 (จบ)  รักกล้วยกล้วยที่ไม่ได้แปลว่ารักง่ายง่าย

    ช่วงต้นฤดูร้อนท้องฟ้าของปีต่อมา อาจจะเป็นปีแรกที่กัทลีเห็นว่าฟ้าเป็นสีฟ้าสดใสตามที่มันควรจะเป็น สายลมอบอุ่นจากทุ่งกว้างพัดเอากลิ่นหอมของดินและหญ้าโชยเข้ามาจนถึงระเบียงของบ้านแม้ว่าบ้านใหม่จะอยู่ห่างจากฟาร์มไกลกว่าบ้านน็อกดาวน์หลังเดิม แต่ความรู้สึกและกิจวัตรประจำวันของสมาชิกในบ้านยังคงไม่เปลี่ยนไป บัวชมพูนั่งระบายสีสมุดภาพเล่มใหม่บนโต๊ะกลางบ้านขณะที่หิรัญกำลังตัดแต่งต้นสตรอว์เบอรี่ที่ให้ผลแล้วในหน้าหนาวที่ผ่านมา ปีนี้เขาทดลองผลิตไหลเองโดยทำแปลงปลูกแบบยกพื้นที่บ้าน เพื่อเตรียมความพร้อมให้ต้นแม่สมบูรณ์พอจะผลิตไหลซึ่งส่วนมากต้นจะเริ่มมีไหลในช่วงก่อนเข้าฤดูฝน และนำไปปลูกเป็นต้นใหม่ในช่วงเดือนตุลาคมกัทลีมองสองพ่อลูกที่ต่างทำงานของตัวเอง จากนั้นเธอเข้าครัวไปเตรียมอาหารว่างไว้ให้ลูกและสามีโดยไม่รู้ตัวว่ารอยยิ้มของเธอมีมากกว่าทุกครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเสียงเรียกหาแม่ของเด็กหญิงดังขึ้นเบาๆ เธอชูภาพที่ระบายสีเสร็จแล้วขึ้นมาให้แม่ดู ระหว่างที่หญิงสาวยกของว่างออกมาให้ลูก"แม่ขา ดูสิหนูวาดครอบครัวของเรามีแม่มีพ่อแล้วก็น้องบัวอยู่ในฟาร์ม พร้อมกับพวกน้องเต่า น้องทานตะวันด้วยนะแม่"

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่  32   จดหมายฉบับสุดท้ายถึงอดีต

    เช้านี้ หิรัญมีแพลนจะพาลูก‍สาวออกไปดูแปลงทานตะวันรอบใหม่ซึ่งจะปลูกที่หน้าฟาร์ม เขาอยากให้กัทลีไปด้วยแต่เธอปฏิเสธโดยการบอกว่าขอเวลาเคลียร์อะไรที่คั่งค้างที่บ้าน“กล้วยไม่ไปด้วยกันแน่นะ น้องบัวลองถามคุณแม่ดูอีกทีดีไหมคะลูก” หิรัญถามขณะที่สวมหมวกให้ลูก‍สาว ปีนี้น้องบัวโตขึ้นมากเกือบสองปีจากวันที่เขากลับมาที่นี่ จากเด็กหญิงวัยเจ็ดขวบตัวเล็กๆ ที่ไม่ไว้ใจพ่อแบบเขา กลายเป็นเด็กหญิงวัยเก้าขวบที่สูงขึ้นมากและแน่นอนตอนนี้เธอสนิทกับพ่อมากเช่นกันจากเด็กหญิงขี้อายที่เคยเขินเวลาคุณพ่อเข้าใกล้ หรือเคยพูดเพียงเบาๆ ว่า “คุณลุง” ในตอนแรก ตอนนี้น้องบัวกลายเป็นคนที่คอยดึงแขนพ่อไปดูดอกไม้ คอยบอกว่า“คุณพ่อถ่ายรูปหนูตรงนี้นะคะ” และคอยเล่าเรื่องราวในโรงเรียนให้ฟังทุกเย็น เด็กหญิงมีความมั่นใจมากขึ้น กล้าคิดกล้าแสดงออก และรู้ว่าตัวเองมีครอบครัวที่มั่นคงหนุนหลังเสมอกัทลีมองเห็นได้เลยว่าความเปลี่ยนแปลงในใจลูกไม่ได้มาจากคำพูด แต่เกิดจากความสม่ำเสมอของหิรัญที่อยู่ตรงนี้ในทุกเช้าเย็น“แม่ขา ไม่ไปด้วยกันเหรอคะแม่” ลูก‍สาวก็ช่างเชื่อฟังคุณพ่อดีจริงๆ บอกให้ทำอะไรก็ทำ กัทลีมองอย่างเอ็นดูแต่เธอก็ยืนยันคำตอบ

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่  31  ความฝันในสวนเม‍ล่อน

    หนึ่งปีผ่านไป ฤดูปลูกเม‍ล่อนเวียนกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงมากมายที่เกิดขึ้นภายในฟาร์มแห่งนี้ โรงเรือนที่เคยมีเพียงต้นเม‍ล่อนแปลงเล็กๆ ปลูกไว้ทดลอง กลายเป็นโรงเรือนขนาดกลางที่มีระบบน้ำหยดและแสงไฟอัตโนมัติ แปลงผักแนวยาวเพิ่มขึ้นอีกหลายแปลงหิรัญวางระบบบริหารจัดการภายในฟาร์มอย่างเป็นสัดส่วน และมีการวางแผนรายได้รายจ่ายรายเดือนอย่างจริงจังในสวนอีกมุมหนึ่ง แปลงดอกไม้หลากสีเริ่มผลิบานไล่จากดอกดาวเรือง ทานตะวัน ไปจนถึงโบตั๋นที่เริ่มอวดกลีบอ่อนชั้นแรก ทั้งหมดนี้เกิดจากความฝันเล็กๆ ของเด็กหญิงบัวชมพูที่เคยขอให้พ่อปลูกทุ่งดอกไม้เอาไว้ให้เธอวิ่งเล่นและถ่ายรูป หิรัญไม่เคยลืมคำขอของลูก‍สาว และในที่สุดมันก็กลายเป็นจริง“หินพรุ่งนี้จะมีสองคณะที่ขอเข้าชมนะ คุณเตรียมไกด์ไว้แล้วหรือยัง” กัทลีถามถึงงานในวันรุ่งขึ้น “เรียบร้อย ชุดแรกอบต.บ้านนา ผมให้ไอ้สิงห์ดูแล ส่วนชุดที่สองโรงเรียนดงอรัญผมจะดูแลเอง” หิรัญเดินมานั่งโต๊ะเดียวกับที่กัทลีเช็กงานอยู่ ฟาร์มแห่งนี้เริ่มมีผู้คนมาเยี่ยมชมมากขึ้นในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และเมื่อธุรกิจใหญ่ขึ้นชายหนุ่มก็ดันให้คนที่เริ่มก่อร่างสร้างตัวมาด้วยกั

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status