بيت / รักโบราณ / “เจ้าสาวของขุนศึกเงา” / 48 ผู้ครอบครองความสิ้นหวัง

مشاركة

48 ผู้ครอบครองความสิ้นหวัง

مؤلف: mafath9
last update آخر تحديث: 2025-06-22 20:19:13

บทที่ 48: ผู้ครอบครองความสิ้นหวัง

หญิงสาวที่ถูกเรียกว่า “ความสิ้นหวัง” ยิ้มอย่างเย็นชา ดวงตาของเธอมองมาที่อากิระและเพื่อนๆ ราวกับว่าพวกเขาเป็นเพียงของเล่นที่พร้อมจะถูกทำลายในไม่ช้า

“ความหวังของพวกเจ้าเป็นเพียงภาพลวงตาที่งดงาม” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “และข้าจะทำลายมัน”

ทันใดนั้น เงาของเธอที่อยู่บนพื้นก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้นและกลายเป็นเงาของสิ่งที่น่ากลัว มันไม่ใช่สัตว์ประหลาด แต่เป็นภาพหลอนที่สร้างขึ้นจากความทรงจำอันเลวร้ายของพวกเขา ภาพที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ความเศร้า และความเจ็บปวด

เคนจิเห็นภาพครอบครัวของเขาถูกเผาในเปลวไฟที่ดับลงไม่ได้

ยูมิโกะเห็นภาพผืนดินที่แห้งแตกระแหงและผู้คนอดอยาก

มิสึกิเห็นภาพสายลมในตัวเธอหยุดนิ่งและถูกจองจำในความมืด

ทุกคนทรุดตัวลงไปกองกับพื้นด้วยความเจ็บปวด พวกเขากำลังถูกโจมตีทางจิตใจด้วยพลังที่ไม่อาจมองเห็นได้

“เจ้าไม่สามารถทำอะไรเราได้!” อากิระตะโกนเสียงดัง “เพราะเรามีความหวัง!”

อากิระและคาเงะใช้พลังที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขาเพื่อสร้างกำแพงแสงสว่างที่ปกป้องเพื่อนๆ จากภาพหลอนที่น่าสะพรึงกลัว แสงสว่างนั้นไม่ได้ทำลายภาพหลอน แต่ทำให้มันจางหายไป

“พวกเจ้าอ่อนแอเกินไป!” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความดูถูก “พวกเจ้าไม่มีทางสู้กับความสิ้นหวังได้!”

“ความสิ้นหวังไม่ใช่พลังที่ยิ่งใหญ่!” คาเงะตอบด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ “มันเป็นเพียงเงาของความเจ็บปวดที่เจ้าไม่ยอมรับ”

คำพูดของเขาทำให้หญิงสาวโกรธจัด เธอใช้พลังทั้งหมดที่เธอมีเพื่อสร้างพายุทรายที่น่าเกรงขาม พายุทรายนั้นเต็มไปด้วยเงาของวิญญาณที่ถูกครอบงำด้วยความสิ้นหวัง มันพุ่งเข้าโจมตีพวกเขาอย่างบ้าคลั่ง

“เราจะสู้ไปด้วยกัน!” อากิระตะโกน

เคนจิใช้พลังแห่งเปลวไฟเพื่อสร้างแสงสว่างที่ทำลายเงาของวิญญาณ ริวใช้พลังแห่งวารีเพื่อสร้างกระแสน้ำวนที่น่าเกรงขาม ยูมิโกะใช้พลังแห่งผืนดินเพื่อสร้างกำแพงหินที่แข็งแกร่ง และมิสึกิใช้พลังแห่งลมเพื่อช่วยให้พวกเขาหลบหลีกจากการโจมตี

อากิระและคาเงะใช้พลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขาเพื่อสร้างแสงสว่างที่พุ่งเข้าไปในตัวของหญิงสาว แสงสว่างนั้นไม่ได้ทำร้ายเธอ แต่มันทำให้ความมืดในตัวเธอเริ่มสลายไป และทำให้เธอร้องไห้ออกมาอย่างไม่มีเสียง

“ข้า… ไม่ต้องการความสิ้นหวัง” หญิงสาวพูดเสียงสั่น “ข้าแค่อยากให้มันหายไปจากชีวิต”

อากิระและคาเงะมองเธอด้วยความสงสาร พวกเขาใช้พลังที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขาเพื่อโอบกอดเธอไว้ และในทันใดนั้น เงาที่น่าเกรงขามที่เคยครอบงำเธอก็สลายไปในอากาศ ทำให้หญิงสาวล้มลงไปกองกับพื้นอย่างหมดสติ

เมื่อเธอตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาของเธอกลับมามีชีวิตอีกครั้ง และเธอก็ยิ้มอย่างอ่อนโยน

“ข้า… ชื่อ อุมิ” เธอพูดเสียงแผ่วเบา “ข้าไม่ต้องการให้ใครต้องทนทุกข์เหมือนข้า”

อุมิได้บอกพวกเขาถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เธอได้เรียนรู้จาก Void รวมถึงความจริงที่ว่าผู้ส่งสารคนต่อไปไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็น “ผู้ทรยศ” ที่มีพลังแห่ง ความโกรธ และเขากำลังรอที่จะทำลายความหวังของพวกเขาทุกคน

استمر في قراءة هذا الكتاب مجانا
امسح الكود لتنزيل التطبيق

أحدث فصل

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 129: พระที่ล้มแท่น

    “พระที่ล้มแท่น” พระบางคนเผาตำราเก่า และฟังเสียงเด็กแทน “เมื่อศรัทธาถูกใช้เพื่อปิดหู บางคนจึงเลือกปิดตำรา...เพื่อเปิดใจ” วัดโฮเซ็นจิในหุบเขาตะวันตกเฉียงเหนือของโยะริมิยะ เสียงระฆังทองแดงหนักเจ็ดร้อยชั่ง เคยดังก้องทุกเช้าค่ำ เรียกชาวบ้านให้สวดตาม สั่นเตือนให้พระผู้ถือบาตรเดินตามระเบียบ ก้องเตือนให้คนในศาสนจักรจำได้ว่า “คำข้างในตำรา...ศักดิ์สิทธิ์กว่าเสียงใด” แต่วันหนึ่ง เสียงระฆังเงียบ ไม่มีใครตี ไม่มีเสียงสวด มีเพียงกลิ่นควันจากกระดาษที่ถูกเผา พระที่เคยเทศน์จนเลือดเปื้อนหมึก ชื่อของเขาคือ “คันริว” ในวัยหนุ่ม เขาเคยจารึกบทสวดด้วยเลือดตนเอง เชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์คือสิ่งที่ต้องบูชา ไม่ใช่ตั้งคำถาม เขาเคยลงโทษพระลูกวัดที่ออกเสียงผิด เคยตราหน้าเด็กที่ถามว่า “ทำไมบทสวดไม่พูดชื่อพ่อแม่ข้าเลย” แต่เขาก็เป็นคนเดียวในวัด ที่ทุกคืน…จะออกไปนั่งใต้ต้นสน เขียนสิ่งที่ไม่อยู่ในตำรา “เสียงที่แม่ร้องไห้” “ชื่อของคนที่ถูกฝังโดยไม่มีใครพูดถึง” “เสียงหัวเราะของเด็กที่ตายโดยไม่มีพิธี” เขาไม่เคยเผยสิ่งที่เขียน จนกระทั่งคืนหนึ่ง...ฝนตก เด็กที่เดินฝ่าฝนเข้า

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 128: แผ่นดินที่ไม่มีตำรา

    แผ่นดินที่ไม่มีตำราเมื่อพื้นที่ที่ไม่มีศาสนจักรเข้าถึง เริ่มจัดพิธีฟังแทนศาสนา“เมื่อบทสวดไม่อาจเข้าถึงผู้คนก็เริ่มฟังกันเองโดยไม่ต้องอ้างคำใดในตำรา”กลางทุ่งอาเคะฮะ แคว้นที่ไม่มีชื่อบนแผนที่แผ่นดินแห่งนี้เคยถูกเรียกว่า "เขตต้องสาป" โดยศาสนจักร เพราะเป็นพื้นที่ที่ไม่เคยสร้างศาลา ไม่เคยมีแท่นสวด และไม่มีพระรูปใดตั้งรกรากยาวนานพอจะจารึกบทบูชาให้ถาวรแต่ในปีแห่งเงาเดินกลา

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 127: พิธีจำที่ไม่มีผู้สั่ง

    พิธีจำที่ไม่มีผู้สั่ง— คนทั่วแผ่นดินเริ่มร่วมพิธีจำชื่อผู้ตายแบบไม่มีลำดับชั้นแผ่นดินโยะริมิยะไม่เคยมีเสียงสวดที่ไหลจากทุ่งสู่พระราชวังไม่เคยมีเสียงชื่อชาวนาถูกเอ่ยในที่ที่เจ้าเมืองเคยยืนไม่เคยมีใครกล้าจดจำ “คนที่ไม่มีชื่อ” อย่างเปิดเผย…จนกระทั่งค่ำคืนหนึ่งในต้นฤดูใบไม้ร่วงเมื่อสายลมเย็นพัดมาจากทิศเหนือ และฝุ่นจากพายุฤดูแล้งยังไม่ทันจางมีหญิงชราในหมู่บ้านอิซานะ นั่งอยู่หน้ากองฟืนที่ยังไม่จุดลูบสมุดเก่าเล่มหนึ่ง แล้วพูดขึ้นกลางวงว่า“คืนนี้...ข้าจะอ่านชื่อสามีของข้าที่ศพเขาไม่เคยมีใครเผาให้…เพราะไม่มีใครมาฟัง”ไม่มีพระ ไม่มีเจ้าเมือง ไม่มีผู้อาวุโสมีเพียงคนในหมู่บ้านนั่งเงียบ ฟังเสียงคนชราสะอื้นจากนั้น เด็กชายคนหนึ่งก็ค่อย ๆ หยิบสมุดฟังเล่มใหม่มาเขียนชื่อของ “อาคิระ” — พ่อของเขา ที่เคยหายไปกลางป่าระหว่างทางไปตลาดไม่มีใครสั่งให้ทำไม่มีตำราบอกให้พูดไม่มีเสียงระฆังเริ่มพิธีแต่เมื่อดวงจันทร์ครึ่งดวงขยับพ้นยอดไผ่เสียงชื่อผู้ตายเริ่มถูกอ่านเรียงต่อกัน โดยผู้เป็นลูก ผู้เป็นภรรยา หรือแม้แต่เพื่อนบ้านที่ไม่เคยรู้ว่าคนตายนั้นมีชื่อจริงว่าอะไรมันเริ่มที่หมู่บ้านหนึ่งแล้วต่อมา มี

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 126: ผู้เงียบที่เริ่มพูด

    ผู้เงียบที่เริ่มพูด- เมื่อคนเงียบในตระกูลใหญ่กลายเป็นผู้นำใหม่ในสายลมเย็นของฤดูใบไม้ร่วงต้นปีที่ 17 แห่งยุคโยะริมิยะใหม่เสียงกระดิ่งไม้ของศาลาฟังในหมู่บ้านซุยโฮดังขึ้นอย่างอ่อนโยนไม่ใช่เพื่อเรียกให้ฟังเทศน์ ไม่ใช่เพื่อเริ่มพิธีศักดิ์สิทธิ์แต่เพื่อแจ้งว่ามีเด็กคนหนึ่ง…เริ่มจดประโยคแรกในสมุดฟังเวียนเล่มใหม่ศาลานั้นไม่มีแท่นบูชา ไม่มีคนควบคุม ไม่มีเสื้อผ้าศักดิ์สิทธิ์แต่มีคนมากกว่าสี่สิบคน นั่งเงียบพร้อมกัน โดยไม่มีใครบอกให้ทำเด็กผู้นั้นชื่อว่า "ริสึ"เขาไม่ใช่คนในตระกูลใหญ่ ไม่เคยถูกสอนให้นำแต่เป็นคนเดียวในหมู่บ้านที่จำชื่อของหญิงชราที่เพิ่งตายได้ครบถ้วนแม้หญิงชรานั้นจะไม่มีหลาน ไม่มีลูกหลงเหลือและศาสนจักรไม่ยอมจัดพิธีให้ผู้ไม่มีตระกูลริสึยืนหน้าศาลามือสั่นเทาแต่พูดอย่างมั่นคง:“ข้าขอให้เราจำเธอ…แม้เธอไม่มีใครเหลือให้จำเพราะถ้าชื่อของเธอเงียบหายวันหนึ่งชื่อของพวกเราก็จะหายไปเช่นกัน”ในห้องใต้ดินของตระกูลยามาโนะขณะเดียวกัน ที่แคว้นกลางของโยะริมิยะในห้องใต้ดินลับของตระกูลยามาโนะ — หนึ่งใน 12 ตระกูลใหญ่หญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่หน้าสมุดฟังที่ไม่มีชื่อผู้เขียนดวงตาของนางมืดแน

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 125: บทที่ไม่มีผู้เขียน

    บทที่ไม่มีผู้เขียนสมุดฟังถูกเวียนเขียนโดยไม่ลงชื่อในเช้าวันหนึ่งที่ไร้หมอก...ศาลาหลังใหม่ในหมู่บ้านอิซุระเต็มไปด้วยเสียงกระซิบ แต่ไม่มีใครพูดเสียงดังเด็กหญิงคนหนึ่งเปิดสมุดอ่านชื่อแม่ของเพื่อน แล้วปิดตาไว้ครู่หนึ่งไม่มีพิธีไม่มีใครสั่งให้ทำและที่สำคัญ…ไม่มีใครบอกว่าต้องเขียนอะไรสมุดฟังเล่มนั้น วางอยู่กลางศาลาใครจะเขียนก็ได้จะเขียนแค่ชื่อจะวาดรูปหรือจะเล่าเรื่องบางอย่างก็ได้ที่ข้างปก…มีเพียงคำเดียวที่ถูกเขียนไว้ในหมึกจาง“เพื่อผู้ที่ไม่มีใครเขียนถึง”เสียงที่ไม่มีเจ้าของความเปลี่ยนแปลงไม่ได้เริ่มจากเสียงใหญ่โตแต่มาจากการเวียนกันอ่าน…เวียนกันเขียน…เวียนกันฟังเมื่อไม่กี่เดือนก่อน สมุดฟังยังเป็นของ “ใครบางคน”อิโตะมีสมุดของเขาซาโยะมีเล่มของพ่อฮากุโร่เคยถือสมุดที่เขียนชื่อศัตรูแต่ตอนนี้ ทุกสมุดกลายเป็นสมุดเดียวกันไม่มีผู้เขียนไม่มีคนถือครองไม่มีแม้กระทั่งลายเซ็นเด็กคนหนึ่งจะเขียน แล้วทิ้งไว้คนถัดไปก็จะเติมเรื่องของตนแล้วส่งให้คนอื่นบางครั้งสมุดก็หายไปเป็นสัปดาห์แต่วันหนึ่ง…มันจะกลับมา พร้อมชื่อใหม่หนึ่งชื่อ และเรื่องเล่าใหม่หนึ่งเรื่องศาลาในหมู่บ้านอิซุระจึงกลา

  • “เจ้าสาวของขุนศึกเงา”   บทที่ 124: บ้านที่ไม่มีประตู

    บ้านที่ไม่มีประตู - เด็กสร้างศาลาฟังใหม่ที่ทุกคนเข้าได้หุบเขาตะวันตกของโยะริมิยะ เคยเป็นพื้นที่ต้องห้ามของศาสนจักรแต่วันนี้ กลายเป็นที่แรกที่มี “บ้าน” หลังหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่บ้านของใครคนใดคนหนึ่งไม่มีประตูไม่มีระฆังไม่มีแท่นมีเพียงเสาสี่ต้น หลังคาฟาง และพื้นดินเปล่าตรงกลางปูเสื่อไม้ไผ่สานหยาบ ๆ วางสมุดฟังเล่มหนึ่ง ซึ่งหน้าแรกยังว่างเปล่าและมีป้ายไม้เก่าเขียนไว้ด้วยลายมือเด็กว่า:“ศาลาฟัง – ไม่มีผู้นำ ไม่มีผู้อนุญาต”พวกเขาไม่ได้รอใครให้สั่งไม่ได้ขอพระรูปใดมาเปิดพิธีไม่ได้ถือธงตระกูล หรือสัญลักษณ์ทางศาสนาพวกเขาคือกลุ่มเด็กสิบสองคนจากหมู่บ้านรอบนอกบางคนเคยเป็นลูกกำพร้าที่พ่อแม่ถูกประหารโดยคำสั่งศาสนจักรบางคนเป็นหลานของผู้ถูกลืมบางคนเคยเขียนชื่อคนตายด้วยดินเพราะไม่มีหมึกและวันนี้ พวกเขามีหมึกพอมีมือที่สั่นแต่แน่นพอมีใจที่ยังจำ“เราจะไม่เปิดประตู…เพราะเราไม่เคยปิด”— ยามาโกะ, เด็กหญิงคนหนึ่งที่เขียนป้ายเสียงแรกในศาลาฟัง“ท่านเคยได้ยินชื่อ ฮานาโกะหรือไม่?”เสียงของเด็กชายชื่อโคจิ เอ่ยขึ้นกลางวงไม่มีใครตอบไม่มีใครรู้ว่าเธอคือใครแต่ทุกคนฟัง“เธอเป็นคนที่เคยให้ขนมฉันโดยไม่ถ

فصول أخرى
استكشاف وقراءة روايات جيدة مجانية
الوصول المجاني إلى عدد كبير من الروايات الجيدة على تطبيق GoodNovel. تنزيل الكتب التي تحبها وقراءتها كلما وأينما أردت
اقرأ الكتب مجانا في التطبيق
امسح الكود للقراءة على التطبيق
DMCA.com Protection Status