Home / รักโบราณ / แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า / บทที่ 32 เจ้าใช่ลูกสาวข้าจริงๆ หรือ?

Share

บทที่ 32 เจ้าใช่ลูกสาวข้าจริงๆ หรือ?

last update Last Updated: 2025-06-21 17:06:21

บทที่ 32

เจ้าใช่ลูกสาวข้าจริงๆ หรือ?

            เช้าวันต่อมา

            ตงตงกับจางไคเฮ่อ และทุกคนมารวมตัวกันที่โรงเตี๊ยมตระกูลจาง

            ตงตงทำการแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มและบอกหน้าที่ของทุกคน 

            อันดับแรก ตงตงกับจางไคเฮ่อจะนำของไปขายให้กับคุณชายต้วนเซียวที่จวนเจ้าเมือง

            จิ่งฝางกับอาฉีหาร้านเช่ารถม้า เช่ารถม้า 2 คัน และนัดวันเวลาออกเดินทาง

            กลุ่มสุดท้าย หยูฮูหยิน เสี่ยวซินและเสี่ยวกวาง เอาเครื่องเทศไปขายที่ร้านเครื่องเทศ 

            พอมาถึงจวนเจ้าเมือง ตงตงบอกกับพ่อบ้านว่าขอพบคุณชายต้วนเซียว

            หลังจากพ่อบ้านหายไปเข้าจวน สักพักหนึ่ง คุณชายต้วนเซียวก็ออกมาต้อนรับตงตงด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

            ภายในห้องโถงอันกว้างขวาง จางไคเฮ่อขนลังไม้ขนาดใหญ่เข้ามา

            ทันทีที่วางลังไม้ลง คุณชายต้วนเซียวรีบเข้ามาเปิดด้วยความอยากรู้อยากเห็น คงเพราะว่ามีกลิ่นหอมของเครื่องเทศโชยออกมาจากลังไม้นั่นเอง

            พอเห็นของในลังปุบ ชายหนุ่มพลันเบิกตาโต ร้องอย่างตื่นเต้นว่า “โอ้โห ของเยอะมาก อะไรเป็นอะไรบ้างหรือ!”

            ตงตงรีบอธิบายอย่สงฉะฉาน “ก้อนเล็กๆ ในห่อกระดาษเป็นซุปก้อนหมาล่าแบบสำเร็จ ใส่หนึ่งก้อนลงในน้ำเดือดก็ได้หม้อไฟหมาล่าแล้ว…หากอยากได้รสเข้มข้นกว่าเดิม ท่านก็เติมเครื่องเทศพวกนี้ลงไป ทีนี้ก็จะได้น้ำซุปหมาล่าเผ็ดร้อนแล้วเจ้าค่ะ ส่วนที่อยู่ในโหลแก้วคือขนมอบกรุบกรอบกับผลไม้อบแห้งห้าชนิด ท่านลองชิมดูได้นะเจ้าคะ”

            นิสัยของคุณชายต้วนเซียวคือชื่นชอบของอร่อย แค่เห็นก็รู้ทันทีว่าของพวกนี้อร่อยกว่าท้องตลาดทั่วไป

            เขากลืนน้ำลงคออยู่หลายครั้งเมื่อกลิ่นหอมของอาหาร

            “เถ้าแก่เนี้ยน้อยต้องการจะเอาของพวกนี้มาขายอย่างนั้นหรือ” คุณชายต้วนเซียวถาม จากนั้นก็คาดเดาต่อ “ว่าไปแล้ว เจ้าเอาของพวกนี้มาขายให้ข้า ทั้งยังมีเครื่องเทศ ไม่ต่างอะไรกับการเปิดเผยสูตรหม้อไฟหมาล่า หากข้าคิดไม่ซื่อ เอาสูตรพวกนี้ไปเปิดเผยต่อ ร้านเจ้าก็ลำบากแล้ว!?”

            ตงตงฉีกยิ้มแล้วตอบ “โรงเตี๊ยมตระกูลจางปิดกิจการแล้วเจ้าค่ะอยากทำอะไรก็ทำ”

            “หา!?”

            “แต่จะไปเปิดที่เมืองหลวง”

            “ฮู่ว์!” คุณชายต้วนเซียวถอนหายใจเมื่อได้ยินอย่างนั้น แต่เพียงครู่ สีหน้าโล่งใจก็เปลี่ยนเป็นสับสนงุนงง “เปิดกิจการที่เมืองหลวงหรือ ไหนอธิบายมาหน่อยสิ”

            “พอดีว่าเกิดเรื่องนิดหน่อยเจ้าค่ะ”

            คุณชายต้วนเซียวกะพริบตาปริบๆ

            เกิดเรื่องนิดหน่อย!?

            ‘นิดหน่อย’ ในความความของนาง แต่ถึงขั้นต้องย้ายร้านไปเมืองหลวง หมายความว่าอย่างไรกันแน่

            เห็นสีหน้าสับสนของชายหนุ่ม ตงตงจึงอธิบาย “เมืองอู่เฉิงจะว่าใหญ่ก็ใหญ่ จะว่าเล็กก็เล็ก ตอนนี้แทบไม่มีใครไม่รู้จักหม้อไฟหมาล่า แต่ว่า ข้าเป็นคนโลภเจ้าค่ะ ข้าอยากทำให้อาหารของข้าเป็นที่รู้จักในคนกลุ่มมาก แค่เมืองอู่เฉิง ไม่ทำให้ข้าพอใจได้ อีกอย่างเป้าหมายของข้าคือการเป็นเถ้าแก่เนี้ยที่ร่ำรวย”

            ไม่รู้ทำไม พอได้ฟังคำพูดของเด็กสาว คุณชายต้วนเซียวถึงเชื่อว่านางทำอย่างที่พูดได้อย่างแน่นอน

            เป็นเถ้าแก่เนี้ยที่ร่ำรวย เช่นนั้นควรเข้าเมืองหลวง!

            “เมืองหลวงอยู่ไม่ไกล แล้วข้าจะไปอุดหนุน”

            ตงตงยิ้มตอบว่าเจ้าค่ะ

            “ร้านข้ายังคงเป็นร้านตระกูลจางเหมือนเดิมเจ้าค่ะ”

            “เหตุผลของเจ้า คงไม่ใช่สร้างชื่อเสียงและร่ำรวยหรอกใช่หรือ” คุณชายต้วนเซียวถามต่อ

            ปัญหาคงมาจากโรงเตี๊ยมตระกูลฉิน

            โรงเตี๊ยมตระกูลฉิน หากหมายตาอะไรแล้ว ก็พร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาไว้ในมือ แม้วิธีการนั้นจะสกปรกก็ตาม

            พวกเขาคงต้องการสูตรหม้อไฟหมาล่า และคงใช้แผนสกปรกที่ทำให้เถ้าแก่เนี้ยตัวน้อยคนนี้ปฏิเสธไม่ได้

            แม้นางใจแข็งปฏิเสธไปเรื่อยๆ คนพวกนั้นก็จะหาวิธีกลั่นแกล้งนางไปเรื่อยๆ เช่นกัน อยู่ที่ว่านางจะอดทนได้นานแค่ไหน

            แต่…การหนีไม่ใช่ประเด็น

            หากต้องการหนีจริงๆ นางคงไม่เลือกย้ายไปที่เมืองหลวง

            เมื่อกี้นางบอกว่าจะเป็นเถ้าแก่เนี้ยผู้ร่ำรวย การไปสร้างตัวที่เมืองหลวงเป็นวิธีที่ถูกต้อง

            ตระกูลต้วนนับว่าเป็นตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง แต่ว่า ฮูหยินของแม่ทัพกู้เหว่ยเป็นถึงท่านหญิง ต่อให้ตระกูลต้วนเป็นถึงเจ้าเมืองก็ไม่กล้างัดข้อกับเชื้อพระวงศ์

            พอคิดจบ คุณชายต้วนเซียวก็บอกตงตงว่า “คิดถูกแล้วที่ไปเมืองหลวง ด้วยฝีมือของเจ้า ไม่นาน โรงเตี๊ยมของเจ้าต้องโด่งดังยิ่งกว่าโรงเตี๊ยมของตระกูลฉิน”

            “ขอบคุณคุณชายต้วน”

            “ว่าแต่ ของทั้งหมดนี้เท่าไรหรือ ข้าจะเหมาทั้งหมดเลย เรื่องราคาไม่เกี่ยง”

            ในขณะที่ถาม คุณชายต้วนเซียวประเมินราคาไปด้วย

            ทั้งก้อนน้ำแกงแบบสำเร็จ เครื่องเทศที่ห่อมาเป็นชุดๆ และของกินเล่น แค่เห็นก็ทำให้น้ำลายสอ เดาว่าคงไม่ต่ำกว่า 3 ตำลึงทอง!

            (หมายเหตุ ราคาสินค้าในร้านค้าระบบถูกกว่าข้างนอกหลายเท่า)

            แต่ทว่า….

            “ข้ายกให้ท่านทั้งหมด ไม่คิดเงินเจ้าค่ะ”

            “หา!”

            คำพูดของตงตงไม่เพียงทำให้คุณชายต้วนเซียวตะลึง แม้แต่จางไคเฮ่อก็ตกใจไปด้วย

            “ไม่คิดเงินหรือ ทำไมเล่า!?”

            “เช่นนั้นเจ้าคงมีเรื่องขอร้องอย่างอื่น?” คุณชายต้วนเซียวถามอย่างรู้ใจ

            ตงตงยิ้มแฉ่ง

            “ว่าแล้วเชียว เดาถูกสินะ”

            เด็กสาวหัวเราะแห้งๆ

            คุณชายต้วนเซียวกางมือตรงหน้า ก่อนที่ตงตงจะบอกจุดประสงค์ออกมา “ขอบอกไว้ก่อน ข้าไม่ชอบยุ่งเรื่องยุ่งยาก ปรารถนาแค่อยากกินของอร่อย โปรดอย่าใช้ชื่อข้าในทางที่ผิดล่ะ!”

            “ข้าไม่มีอะไรลึกซึ้งขนาดนั้น แค่อยากให้ท่านซ่อนคนและพาออกจากเมืองอู่เฉิงเจ้าค่ะ”

            คุณชายต้วนเซียวได้แบบนั้นก็ขมวดคิ้ว

            จางไคเฮ่อเองก็มองตงตงด้วยแววตาเหลือเชื่อ 

            ย้อนกลับมาที่คุณชายต้วนเซียว

            เขาถามนางว่า “คนคนนี้มีคดีติดตัวหรือไม่”

            “ไม่มีเจ้าค่ะ”

            “เขาเป็นคนอย่างไร”

            “เป็นคนน่าสงสาร”

            “ต้องการหนีออกเมืองเร็วแค่ไหน”

            “เร็วได้ยิ่งดีเจ้าค่ะ ข้าเองก็จะย้ายออกภายใน 3 วัน”

            “แบบนี้เอง”

            คุณชายต้วนเซียวกอดอกครุ่นคิด ผ่านไปสักครู่ เขาก็รับปากว่าจะช่วยพาคนออกจากเมือง หากก็ถามว่าคนคนนั้นเป็นใคร

            ตงตงตอบ “เหยียนหลิ่ว ท่านคงเคยได้ยินชื่อนี้ใช่หรือไม่”

            ชายหนุ่มอึ้งไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะหัวเราะดังลั่น

            “เจ้าไปพัวพันกับกับคนยุ่งยากเข้าให้แล้วนี่เอง ทางนั้นรู้เรื่องลับๆ ระหว่างเจ้ากับเหยียนหลิ่วก็เลยใช้เขาเป็นเครื่องมือต่อรองแลกกับสูตรหมาล่า?”

            “ทำไมรู้สึกว่าคำพูดท่าน เหมือนข้ากับเหยียนหลิ่วทำเรื่องงามหน้า”

            จางไคเฮ่อฟังบุตรสาวพูดประโยคนี้ก็ย่นคิ้วไม่พอใจ

            คุณชายต้วนเซียวหัวเราะชอบใจ ก่อนจะกล่าวหนักแน่น “ได้ เข้าใจแล้ว!”

            ไม่ใช่เรื่องยากที่จะพาคนหนีออกจากเมือง

            เรื่องนี้เข้าทางฮูหยินของแม่ทัพกู้เหว่ยพอดี เพราะถือเป็นการกำจัดลูกนอกสมรส แต่กู้อวี้ชุนที่เห็นเหยียนหลิ่วเป็นกระสอบทรายคงยากหน่อย ทางนั้นคงตามหากระสอบทรายให้ควัก

            “ขอบคุณเจ้าค่ะ” ตงตงขอบคุณคุณชายต้วนเซียวอีกครั้ง

            “ยังไงก็เถอะ สินค้าทุกชิ้นล้วนมีต้นทุน ยังไงข้าก็ต้องจ่ายทุนคืนเจ้า ว่ามาเถอะ ทั้งหมดนี้เท่าไร”

            จริงๆ แล้วไม่ถึงสิบตำลึงเงินด้วยซ้ำ

            แต่ในเมื่อเขาอยากให้เงิน ถ้าตงตงไม่รับไว้ถือเป็นการเสียมารยาท!

            “สองตำลึงทองเจ้าค่ะ”

            “ถูกจัง!”

            ถึงจะพูดแบบนั้น คุณชายต้วนเซียวให้เงินตงตงมา 5 ตำลึงทองเพื่อเหมาสินค้าทั้งหมด ทั้งยังย้ำนักหนาว่าหากเข้าเมืองหลวงจะอุดหนุนร้านของตงตงแน่นอน

            …..

            …..

            ระหว่างเดินออกจากจวนเจ้าเมือง จางไคเฮ่อมองตงตงด้วยสายตาเรียบนิ่งตลอดเวลา

            ทันทีที่เดินพ้นประตูใหญ่ออกมา

            จางไคเฮ่อหยุดยืนนิ่ง

            ตงตงรู้สึกถึงความผิดปกติ นางจึงหันหลับกลับมาถาม

            “ท่านพ่อ พวกเราต้องไปขายสินค้าให้กับถังเหวินและหานเจียเอ๋อร์อีกนะ หากมันแต่เหม่อเดี๋ยวก็ค่ำกันพอดี”

            จางไคเฮ่อไม่ได้ตอบ หากมองตงตงด้วยแววตาสงสัย สักครู่ก็หรี่ดวงตาพร้อมขยับปากถาม

            “เจ้าใช่ลูกสาวของข้าจริงๆ หรือ?”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทพิเศษ ความลับของตระกูลจาง

    บทพิเศษความลับของตระกูลจาง หนึ่งวันหลังเสร็จสิ้นงานแต่ง จางไคเฮ่อนำชื่อของเหยียนหลิ่วเข้าทะเบียนราษฎร์ของตระกูลจาง นับจากนี้เหยียนหลิ่วจะกลายเป็นคนตระกูลจางเต็มตัว กลายเป็น ‘จางเหยียนหลิ่ว’ ล่วงเข้าสู่วันที่ห้าหลังจากที่ทั้งสองกลายเป็นสามีภรรยากัน เหยียนหลิ่วก็ถูกตงตงจูงมือพาลงไปที่ห้องใต้ดินของโรงเตี๊ยม “ภรรยา…ห้องใต้ดินเป็นความลับของตระกูล เจ้าแน่ใจหรือว่าข้าลงไปที่นั่นได้” เหยียนหลิ่วถามเพื่อให้ตงตงไตร่ตรองอีกครั้ง เหยียนหลิ่วรู้แค่ว่า ภายในห้องใต้ดินเป็นสถานที่เก็บสินค้าและสมบัติของตระกูลจาง กุญแจมีเพียงสองดอกเท่านั้น ดอกหนึ่งจางไคเฮ่อเป็นคนเก็บ และดอกหนึ่งเป็นของตงตง กระนั้น ตงตงกลับหันมายิ้มให้กับเหยียนหลิ่วด้วยสีหน้าสบายๆ “ตอนนี้ท่านเองก็เป็นคนของตระกูลจางแล้ว” “ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ แต่…” “ในอนาคตท่านคิดจะหย่ากับข้าหรือ…หรือว่า…ท่านจะหักหลังตระกูลจาง?” “เรื่องนั้นจะไม่มีทางเกิดขึ้นเด็ดขาด!” เหยียนหลิ่วตอบกลับอย่างหนักแน่น หย่ากันหรือ

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทส่งท้าย

    บทส่งท้าย ฤกษ์แต่งงานที่เร็วที่ก็คือต้นเดือนหน้า นับวันดูแล้ว พวกเขามีเวลาจัดเตรียมงานไม่ถึง 1 เดือนด้วยซ้ำ ตงตงกับเหยียนหลิ่วจึงต้องตัดชุดแต่งงานกันตั้งแต่เนิ่นๆ เขียนบัตรเชิญส่งให้แขก กำหนดเมนูอาหาร และเริ่มซื้อข้าวของมาตกแต่งสถานที่ พอยุ่งอยู่กับการเตรียมงาน เผลอแป๊บเดียวก็เหลือเวลาอีกแค่ 2 วันเท่านั้น “ตงตง!” เสียงหญิงสาวอันคุ้นเคยดังหน้าประตูโรงเตี๊ยม ตงตงกำลังตรวจความเรียบร้อย หลังจากที่จิ่งฝางกับพวกเสี่ยวกวางแขวนโคมแดงเสร็จ รีบหันมองตามเสียงเรียกนั้น หานเจียเอ๋อร์ยืนยิ้มให้กับตงตง ข้างๆ หานเจียเอ๋อร์คือถังเหวินที่กำลังอุ้มลูกชายวัย 2 ขวบ ทั้งคู่แต่งงานกันเมื่อ 3 ปีก่อน หลังพิธีวิวาห์ สองเดือนถัดมา หานเจียเอ๋อร์ก็ตั้งครรภ์ทันที ถัดจากถังเหวินก็คือซานหลัวเฉินกับภรรยาที่เพิ่งแต่ง ครั้นเห็นคนคุ้นเคย ตงตงก็เดินยิ้มเข้าไปหาทุกคน “พวกท่านมากันแล้ว เข้ามาก่อนเจ้าค่ะ…อาหลงตัวน้อย สบายดีไหมจ๊ะ” เด็กน้อยวัย 2 ขวบพยักหน้าตอบ “อื้อ”

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 78 ขอแต่งงาน

    บทที่ 78ขอแต่งงาน 10 วันต่อมา ณ สำนักราชองครักษ์หลวง ทันทีที่กลับมาถึงเมืองหลวง เหิงเจากับเหยียนหลิ่วเข้าพบเสนาธิการเว่ยจ้ง รายงานเรื่องราวทั้งหมดตอนอยู่ป้อมปราการตะวันออก เมื่อเสร็จธุระหมดแล้ว เหยียนหลิ่วขอตัวกลับทันที ชายหนุ่มเดินบนถนนด้วยฝีเท้าเร่งรีบ เมื่อมาถึงโรงเตี๊ยมตระกูลจาง เห็นหญิงสาวในดวงใจยืนต้อนรับลูกค้าอยู่หน้าร้านพอดี เหยียนหลิ่วส่งเสียงเรียกหญิงสาวด้วยความตื่นเต้น “ตงตง!” เสียงเรียกของชายหนุ่มไม่เพียงดึงดูดสายตาของตงตง ยังเรียกความสนใจจากคนรอบข้างอีกด้วย ทว่า… สองหนุ่มสาวหาได้สนใจคนอื่นแต่อย่างใด ในสายตาของทั้งคู่มีเพียงกันและกันเท่านั้น “พี่หลิ่วกลับมาแล้ว!” ตงตงยิ้มกว้าง ก้าวยาวๆ เข้าไปหาชายหนุ่ม เมื่อระยะห่างของทั้งคู่ร่นลงจนไม่เหลือช่องว่าง เหยียนหลิ่วตอบกลับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ข้ากลับมาแล้ว” เหยียนหลิ่วไม่เพียงพูดเปล่าๆ สองมือใหญ่ยังโอบเอวบางของนาง แล้วยกร่างของนางขึ้นจากพื้นอ

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 77 จู่โจมรวดเร็ว

    บทที่ 77จู่โจมรวดเร็ว หลังจากหัวหน้าเผ่าฮุยรู้ข่าวเรื่องกองทัพสนับสนุนเดินทางมาถึงป้อมปราการตะวันออก พวกมันก็ไม่อยู่เฉย เคลื่อนทัพท่ามกลางความมืด รอจังหวะบุกโจมตีป้อมปราการตะวันออกอย่างไม่ให้แคว้นเฉียนรู้ตัว หากทว่า กลางดึกคืนเดียวกันนั้น ฟางอู่เซิงวางกองกำลังไว้ที่นอกป้อมปราการอย่างเงียบเฉียบ ทันทีที่แสงแรกมาเยือน หัวหน้าพลธนูที่ซ่อนตัวตั้งแต่กลางดึก ก็ได้ส่งสัญญาณมือให้โจมตี พลธนูที่ซุ่มบนต้นไม้นับสิบนายปล่อยศรพุ่งออกไป ฟิ้ว… “อึก!” “อั่ก!!” ทหารเผ่าฮุยที่ตั้งทัพเตรียมบุกป้อมปราการ ล้มกองบนพื้นทีละคนสองคนราวกับใบไม้ล่วงจากต้น เริ่มต้นสงคราม มองเผินๆ ฝ่ายที่ได้เปรียบอาจจะเป็นทางแม่ทัพฟางอู่เซิง แต่ทันทีที่เผ่าฮุยรู้สึกตัวว่าพวกมันถูกซุ่มโจมตี หัวหน้าเผ่าฮุยได้สั่งการและแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งให้หันกลับไปสังหารพลธนูของแคว้นเฉียน โดยใช้ศพของพวกเดียวกันเป็นเกาะกำบัง อีกฝ่ายหนึ่งทุ่มเทสุดกำลังทำลายป้อมปราการแล้วบุกเข้าไป “แทนที่จะล่าถอย แต่เลือกบุกต่

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 76 กำลังเต็มร้อยด้วยอาหารอัดแท่ง

    บทที่ 76กำลังเต็มร้อยด้วยอาหารอัดแท่ง วันต่อมา กองทัพของแม่ทัพฟาง หน่วยคุ้มกันเสบียงของเหิงเจา และหน่วยลอบโจมตีของเหยียนหลิ่ว เคลื่อนตัวออกจากเมืองหลวง เสบียงที่ทหารทุกนายพกติดตัวนั้น ส่วนใหญ่มาจากโรงเตี๊ยมตระกูลจาง นอกจากจะเป็นของแห้งที่เก็บไว้ได้นาน น้ำหนักเบา สารอาหารยังครบถ้วน ไม่เปลืองแรงเวลาต้องหอบหิ้วเวลาที่ต้องเดินทางไกลๆ แถมรสชาติยังอร่อย กินเท่าไรก็ไม่เบื่อ และต้องขอบคุณเสบียงจากโรงเตี๊ยมตระกูลจางเช่นกัน ทำให้การเดินทางมาถึงชายแดนตะวันออกเร็วกว่ากำหนดหลายวัน แม้ระหว่างทาง รถขนเสบียงจะถูกดักปล้น แต่ทหารทุกคนที่ได้กินธัญพืชอัดแท่งที่มีพลังงานสูง พวกเขาจึงปกป้องเสบียงหลวงเอาไว้ได้ โดยที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ในขณะเดินทางไกล เลี่ยงไม่ได้ท่ีจะมีล้มป่วยด้วยพิษไข้ แต่ด้วยยาเม็ดจากโรงเตี๊ยมตระกูลจาง กินเพียงสองเม็ด ไข้หวัดเล็กน้อยพลันบรรเทาลง พร้อมออกเดินทางต่อได้ทันที ไม่ต้องทิ้งใครไว้ข้างหลัง ด้วยเหตุนี้เอง ตอนมาถึงป้อมปราการตะวันออก เรี่ยวแรงของทหารทุกนายจึงยังล้นเหลือ พร้อมออกรบได้ทันที

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 75 คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการ

    บทที่ 75คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการ ครั้นพอได้ยินเสียงคุ้นๆ สองหนุ่มสาวที่พลอดรักกันอยู่หน้าบ้าน มองผู้มาเยือนที่ไม่ได้รับเชิญด้วยสายตาเอือมระอา “เข้าบ้านคนอื่นก่อนได้รับอนุญาต ใครกันแน่ที่หน้าไม่อาย” เหยียนหลิ่วบอกด้วยเสียงเย็นชา “แม้ว่าเป็นข้าอย่างนั้นหรือ พี่เหยียนหลิ่ว” เสียงหวานกังวานใสดังขึ้นที่หน้าประตู จากนั้นหญิงสาววัยสิบแปดรูปร่างหน้าตาสะสวย สวมใส่อาภรณ์หรูหราก็ก้าวเข้ามาในบ้าน สาวรับใช้ที่ยืนเท้าสะเอว ทำหน้ายักษ์มองมาที่ตงตง รีบกลับไปยืนข้างหลังหญิงสาวผู้มาใหม่ พร้อมเรียกฝ่ายนั้นว่า “คุณหนู” เหยียนหลิ่วขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจนัก “ถึงจะเป็นคุณหนูสามจากจวนเจ้ากรมพิธีการ ก็ควรเรียนรู้มารยาทสักหน่อย” ถูกชายหนุ่มที่ตัวเองชอบสั่งสอน ซูหลันหลัน…คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก หันไปขึงตาใส่ตงตงที่นั่งเงียบ เหยียนหลิ่วลุกขึ้น ใช้ร่างใหญ่โตของตนยืนบังตงตงหมายปกป้องหญิงคนรัก แม้จะรู้ว่าคุณหนูสามซูคนนี้จะไม่กล้าแตะต้องตงตงก็ตาม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status