หน้าหลัก / รักโบราณ / แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า / บทที่ 65 การตัดสินใจของเหยียนหลิ่ว (2)

แชร์

บทที่ 65 การตัดสินใจของเหยียนหลิ่ว (2)

ผู้เขียน: ฮาจิฮาจิ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-21 17:23:30

บทที่ 65

การตัดสินใจของเหยียนหลิ่ว (2)

            “เฮ้อ!”

            จู่ๆ เหิงเจาก็ถอนหายใจเสียงดังออกมา ทำลายบรรยากาศอึดอัดปนเศร้า 

            เว่ยจ้งเลิกคิ้วมองเหิงเจาด้วยสีหน้านิ่งๆ 

            เหิงเจายิ้มเจื่อนให้กับใต้เท้าเสนาธิการผู้ยิ่งใหญ่ หากกระนั้น กลับไม่วายหันมาเตือนสติของเด็กหนุ่ม

            “เจ้าหนุ่ม ข้าขอถามเจ้าหน่อย อาจารย์ของเจ้าเคยพูดหรือว่า ‘ผิดหวัง’ ในตัวของเจ้าน่ะ?”

            เหยียนหลิ่วนิ่งคิดสักครู่ จากนั้นพลันส่ายหน้า

            “ไม่เคยขอรับ” 

            นอกจากจะไม่เคยพูดคำว่าผิดหวัง พวกเขาก็ไม่เคยชักสีหน้าใส่

            กลับกันแล้ว ทุกคนคอยให้กำลังใจเหยียนหลิ่วตลอดเวลา  

            “ในเมื่ออาจารย์ของเจ้าไม่เคยพูดแบบนั้น แล้วเจ้าจะตีโพยตีพายคิดไปเองทำไม”

            คำพูดประโยคนี้ของเหิงเจา ทำให้เว่ยจ้งพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

            “ตรงกันข้ามเลย เจ้าควรรีบไปอธิบายให้อาจารย์ของเจ้าเข้าใจ ไปให้เขาเห็นหน้า เขาจะได้หายห่วงที่รู้ว่าเจ้าปลอดภัย” 

            คำสอนขอเหิงเจาทำเอาเหยียนหลิ่วถึงกับอึ้ง

            “คนของข้าพูดถูก เจ้าควรกลับหาจางไคเฮ่อเพื่อให้เขาสบายใจ” เว่ยจ้งกล่าวเสริม

            “ขอรับ” เหยียนหลิ่วตอบรับอย่างเชื่อฟัง

            เมื่อบรรยากาศรอบๆ ตัวของเด็กหนุ่มไม่ขุ่นมัวเศร้าหมอง เว่ยจ้งจึงเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง

            “เจ้าถูกลอบโจมตีระหว่างทางไปเมืองซินหยาน เป็นแบบนี้แล้ว ยังจะไปที่นั่นอีกหรือ”

            “เพื่อเป็นอิสระ ข้าไม่มีทางเลือกอื่น เพราะงั้นยังต้องไปเมืองซินหยานเพื่อคัดเลือกเป็นทหารขอรับ” 

            “ผิดแล้ว โลกนี้กว้างใหญ่ ล้วนมีเส้นทางมากมาย” เว่ยจ้งแย้ง

            “อ…เอ๊ะ!?”

            “หากข้าบอกว่ายังมีเส้นทางอื่นให้เลือก เจ้าจะเชื่อหรือไม่”

            “….”

            เด็กหนุ่มลังเล ไม่กล้าแสดงความคิดใดๆ

            ตั้งแต่เกิดมา โลกของเขาคับแคบมากนัก

            เด็กหนุ่มไม่รู้หรอกว่า ยังมีเส้นทางอะไรให้ตนได้เลือกอีก

            เว่ยจ้งเห็นเด็กหนุ่มเกิดความลังเล จึงกล่าวต่อ “เข้าหน้าหนาวหิมะตกหนัก เดินทางขึ้นเหนือตอนนี้อันตราย แต่ถ้าเจ้าอยากเข้ากองทัพของแม่ทัพเสวี่ยให้ได้จริงๆ ข้าก็จะไม่ห้าม ลุกขึ้นเก็บของเดินทางตอนนี้ อาจจะทันสอบคัดเลือกก็เป็นได้”

            “ท่านเว่ย เขาบาดเจ็บหนัก เดินทางขึ้นเหนือตอนนี้เหมือนเอาชีวิตไปทิ้งนะขอรับ” เหิงเจากล่าวเพราะเป็นห่วงแทนเด็กหนุ่ม

            “เป้าหมายของเขาคือทหาร และการคัดเลือกเข้ากองทัพแม่ทัพเสวี่ย มีเวลาแค่ถึงสิ้นปีนี้เท่านั้น ขืนช้าเขาอาจไปคัดเลือกไม่ทัน” 

            คนปกติ หากใช้ม้าเร็วเดินทางจากเมืองหลวงไปเมืองซินหยานที่อยู่ติดชายแดนทางเหนือ ต้องใช้เวลาเกือบสองเดือน

            แต่…

            เหยียนหลิ่วบาดเจ็บสาหัส แค่นั่งรถม้าสบายๆ ก็ทำให้แผลเปิด เสี่ยงทำให้อาการกลับมาสาหัส หากแผลติดเชื้อ ตายระหว่างเดินทางแน่นอน

            “ยังมีอีกเรื่อง ในเมื่อลอบสังหารครั้งแรกไม่สำเร็จ ก็ต้องมีครั้งที่สอง ซ้ำผู้อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารยังรู้ปลายทางของเจ้าแล้ว คิดหรือไม่ว่า ฝ่ายนั้นจะต้องตามไปถึงกองทัพของแม่ทัพเสวี่ยแน่นอน”

            “เอ่อ…”

            ฟังมาถึงตรงนี้ เหยียนหลิ่วรู้สึกว่าตนไม่ต่างจากตัวเคราะห์ร้าย นำปัญหาไปให้ผู้อื่น

            ถูกลอบสังหารครั้งนี้ก็ทำให้คนไม่รู้อีโหน่อีเหน่ต้องตาย เขามันตัวซวย!

            ระหว่างกำลังสับสน และดิ่งลึกอยู่กับแผลใจ

            เหิงเจาเอ่ยถามเว่ยจ้งว่า “ท่านเว่ยขอรับ แล้วเส้นทางอื่นที่เจ้าหนุ่มนี่ควรเลือก คืออะไรหรือ”

            เด็กหนุ่มดึงสติกลับ มองเว่ยจ้งด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหวัง 

            “เหตุใดเจ้าไม่ลองพิจารณาสำนักราชองครักษ์หลวง ให้เป็นอีกทางเลือกดูเล่า”

            ได้ยินประโยคนั้น เหิงเจาถึงกับเผลอร้อง “เอ๊ะ!?” ออกมา

            เหยียนหลิ่วเบิกตาโต เหมือนได้ยินเรื่องเหลือเชื่อ

            แต่เมื่อได้สติ เขาก็กล่าวถามอย่างงุนงง “หมายความว่ายังไงหรือขอรับ”

            เว่ยจ้งอธิบาย “การสอบเข้าสำนักราชองครักษ์หลวงจะจัดขึ้นต้นฤดูใบไม้ผลิของทุกปี ด้วยวรยุท์ของเจ้า สอบเข้าหน่วยจู่โจมยังพอได้ลุ้น ส่วนที่เหลือ ถามคนของข้าเอาเอง” 

            ว่าจบ เว่ยจ้งก็ตบบ่าหนาๆ ของเหิงเจา

            ชายร่างใหญ่ตอบรับทันที

            “ขอรับ ท่านเว่ย”

            เมื่อเข้าใจตรงกันแล้ว เว่ยจ้งพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหมุนตัวเดินไปเยี่ยมคนเจ็บเตียงอื่น 

            เหยียนหลิ่วทำหน้าเหวอ เพราะสมองประมวลผลไม่ทัน

            แพทย์สูงวัยกำลังจะออกจากห้องพักฟื้น เห็นเด็กหนุ่มทำหน้าลังเล เหมือนไม่รู้จะเริ่มถามจากตรงไหน เขาจึงกล่าวขึ้นว่า “ท่านเว่ยต้องการให้เจ้าใช้ความสามารถด้านวรยุทธ์สอบเข้าหน่วยจู่โจม เหลือเวลาแค่สามเดือน เจ้าก็รีบๆ รักษาตัวให้หาย แล้วสอบเข้าให้ได้ล่ะ”

            “แบบนี้เอง” เหยียนหลิ่วพึมพำ สีหน้าเริ่มมีความหวัง

            “เจ้าหนู นานๆ ครั้งท่านเว่ยจะทาบทามคนเข้าสำนัก หมายความว่าเจ้าต้องมีความสามารถ ท่านเว่ยถึงได้ออกปากเอง…ข้าชื่อเหิงเจา อยู่หน่วยคุ้มกัน หากเจ้าไม่เข้าใจอะไร ถามข้าได้ตลอด”

            “ขอรับ”

            โลกของเหยียนหลิ่วนั้นคับแคบมาก

            เพราะเกิดและโตในบ้านทหาร เส้นทางอาชีพที่มีให้เห็น หากไม่เป็นบ่าวรับใช้ของคุณชายใหญ่ ก็ต้องไปเป็นทหาร

            แต่เพราะเขาไม่อยากถูกกู้อวี้ชุนรังแก จึงตัดสินใจว่าจะเป็นทหารให้ได้ และคิดว่าการเป็นทหารเท่านั้นถึงจะทำให้เขาได้รับอิสระ

            อย่างไรก็ตาม

            เขาเพิ่งรู้ว่าในโลกนี้ยังมีอาชีพอื่นนอกจากการเป็นทหาร!

            “ตอนนี้เจ้าควรพักฟื้น เรื่องอาชีพก็ค่อยๆ คิดแล้วกัน ข้าไปทำงานก่อนละ”

            เหิงเจาว่าจบพลันหมุนตัวตั้งท่าเดินออกมา 

            ตอนนั้นเอง เสื้อของเขากลับถูกดึง

            “มีอะไรอีก”

            “พี่ชาย ข้าอยากเข้าหน่วยจู่โจม!”

            เด็กหนุ่มพูดด้วยแววตากระตือรือร้น

            พลันนั้น ในอกของเหิงเจาพลุ่งพล่าน เหมือนเห็นเงาตัวเองตอนวัยรุ่นทาบทับกับเงาของเด็กหนุ่มคนนี้

            “ดี เช่นนั้นข้าจะช่วยแนะนำเจ้าเต็มที่!”

            …..

            …..

            เพราะมีกฎว่าคนนอกห้ามเข้าสำนักราชองครักษ์หลวง

            ต่อให้ทุกคนเป็นห่วงและอยากเข้าไปเยี่ยมเหยียนหลิ่วมากแค่ไหน ก็ทำได้แค่รอฟังข่าวจากเหิงเจา 

            ในตอนเที่ยงของวันนั้น

            เหิงเจามาที่โรงเตี๊ยมตระกูลจาง

            “บะหมี่ฉงชิ่งกับไข่เยี่ยวม้า” เขาอาหารแล้วนั่งลงที่โต๊ะประจำ

            “ได้ขอรับ” จิ่งฝางรับเมนู ก่อนจะเข้าไปบอกหยูฮูหยิน

            ผ่านไปสักครู่ จิ่งฝางยกอาหารออกมาเสิร์ฟ ถึงอย่างนั้น เขากลับไม่ได้ไปรับรองลูกค้าโต๊ะอื่น 

            จิ่งฝางทิ้งก้นนั่งลงเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับเหิงเจา มือเท้าคาง สายตาจดจ้องรอฟังข่าวของเหยียนหลิ่ว

            เหิงเจาที่กำลังคีบบะหมี่คำโตเข้าปากพลันหยุดชะงักเมื่อเห็นสายตารอคอยอย่างมีความหวัง

            “อ้อ ข่าวของเจ้าหนุ่มนั่นสินะ”

            “ขอรับๆ”

            “ฟื้นแล้วละ”

            “ฟื้นแล้วหรือ?”

            “อืม”

            “ดีจัง ข้าต้องรีบไปบอกตงตงกับท่านอาจาง” จิ่งฝางร้องขึ้นด้วยความดีใจ ก่อนจะลุกพรวดพราดทำท่าจะวิ่งออกไปร้านข้างๆ

            เวลานี้ ตงตงอยู่ร้านค้าส่งที่อยู่ด้านข้าง ถ้ารู้เรื่องที่เหยียนหลิ่วฟื้น นางต้องดีใจมากแน่ๆ

            จังหวะนั้น เหิงเจารั้งจิ่งฝางแล้วว่า “เดี๋ยวสิ ข้าขอเกี๊ยวซ่าเพิ่มก่อน”

            “จัดให้ขอรับ”

            “เร็วๆ ล่ะ ข้าหิวแล้ว” เหิงเจาพูดจบก็ส่ายหัว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทพิเศษ ความลับของตระกูลจาง

    บทพิเศษความลับของตระกูลจาง หนึ่งวันหลังเสร็จสิ้นงานแต่ง จางไคเฮ่อนำชื่อของเหยียนหลิ่วเข้าทะเบียนราษฎร์ของตระกูลจาง นับจากนี้เหยียนหลิ่วจะกลายเป็นคนตระกูลจางเต็มตัว กลายเป็น ‘จางเหยียนหลิ่ว’ ล่วงเข้าสู่วันที่ห้าหลังจากที่ทั้งสองกลายเป็นสามีภรรยากัน เหยียนหลิ่วก็ถูกตงตงจูงมือพาลงไปที่ห้องใต้ดินของโรงเตี๊ยม “ภรรยา…ห้องใต้ดินเป็นความลับของตระกูล เจ้าแน่ใจหรือว่าข้าลงไปที่นั่นได้” เหยียนหลิ่วถามเพื่อให้ตงตงไตร่ตรองอีกครั้ง เหยียนหลิ่วรู้แค่ว่า ภายในห้องใต้ดินเป็นสถานที่เก็บสินค้าและสมบัติของตระกูลจาง กุญแจมีเพียงสองดอกเท่านั้น ดอกหนึ่งจางไคเฮ่อเป็นคนเก็บ และดอกหนึ่งเป็นของตงตง กระนั้น ตงตงกลับหันมายิ้มให้กับเหยียนหลิ่วด้วยสีหน้าสบายๆ “ตอนนี้ท่านเองก็เป็นคนของตระกูลจางแล้ว” “ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ แต่…” “ในอนาคตท่านคิดจะหย่ากับข้าหรือ…หรือว่า…ท่านจะหักหลังตระกูลจาง?” “เรื่องนั้นจะไม่มีทางเกิดขึ้นเด็ดขาด!” เหยียนหลิ่วตอบกลับอย่างหนักแน่น หย่ากันหรือ

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทส่งท้าย

    บทส่งท้าย ฤกษ์แต่งงานที่เร็วที่ก็คือต้นเดือนหน้า นับวันดูแล้ว พวกเขามีเวลาจัดเตรียมงานไม่ถึง 1 เดือนด้วยซ้ำ ตงตงกับเหยียนหลิ่วจึงต้องตัดชุดแต่งงานกันตั้งแต่เนิ่นๆ เขียนบัตรเชิญส่งให้แขก กำหนดเมนูอาหาร และเริ่มซื้อข้าวของมาตกแต่งสถานที่ พอยุ่งอยู่กับการเตรียมงาน เผลอแป๊บเดียวก็เหลือเวลาอีกแค่ 2 วันเท่านั้น “ตงตง!” เสียงหญิงสาวอันคุ้นเคยดังหน้าประตูโรงเตี๊ยม ตงตงกำลังตรวจความเรียบร้อย หลังจากที่จิ่งฝางกับพวกเสี่ยวกวางแขวนโคมแดงเสร็จ รีบหันมองตามเสียงเรียกนั้น หานเจียเอ๋อร์ยืนยิ้มให้กับตงตง ข้างๆ หานเจียเอ๋อร์คือถังเหวินที่กำลังอุ้มลูกชายวัย 2 ขวบ ทั้งคู่แต่งงานกันเมื่อ 3 ปีก่อน หลังพิธีวิวาห์ สองเดือนถัดมา หานเจียเอ๋อร์ก็ตั้งครรภ์ทันที ถัดจากถังเหวินก็คือซานหลัวเฉินกับภรรยาที่เพิ่งแต่ง ครั้นเห็นคนคุ้นเคย ตงตงก็เดินยิ้มเข้าไปหาทุกคน “พวกท่านมากันแล้ว เข้ามาก่อนเจ้าค่ะ…อาหลงตัวน้อย สบายดีไหมจ๊ะ” เด็กน้อยวัย 2 ขวบพยักหน้าตอบ “อื้อ”

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 78 ขอแต่งงาน

    บทที่ 78ขอแต่งงาน 10 วันต่อมา ณ สำนักราชองครักษ์หลวง ทันทีที่กลับมาถึงเมืองหลวง เหิงเจากับเหยียนหลิ่วเข้าพบเสนาธิการเว่ยจ้ง รายงานเรื่องราวทั้งหมดตอนอยู่ป้อมปราการตะวันออก เมื่อเสร็จธุระหมดแล้ว เหยียนหลิ่วขอตัวกลับทันที ชายหนุ่มเดินบนถนนด้วยฝีเท้าเร่งรีบ เมื่อมาถึงโรงเตี๊ยมตระกูลจาง เห็นหญิงสาวในดวงใจยืนต้อนรับลูกค้าอยู่หน้าร้านพอดี เหยียนหลิ่วส่งเสียงเรียกหญิงสาวด้วยความตื่นเต้น “ตงตง!” เสียงเรียกของชายหนุ่มไม่เพียงดึงดูดสายตาของตงตง ยังเรียกความสนใจจากคนรอบข้างอีกด้วย ทว่า… สองหนุ่มสาวหาได้สนใจคนอื่นแต่อย่างใด ในสายตาของทั้งคู่มีเพียงกันและกันเท่านั้น “พี่หลิ่วกลับมาแล้ว!” ตงตงยิ้มกว้าง ก้าวยาวๆ เข้าไปหาชายหนุ่ม เมื่อระยะห่างของทั้งคู่ร่นลงจนไม่เหลือช่องว่าง เหยียนหลิ่วตอบกลับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ข้ากลับมาแล้ว” เหยียนหลิ่วไม่เพียงพูดเปล่าๆ สองมือใหญ่ยังโอบเอวบางของนาง แล้วยกร่างของนางขึ้นจากพื้นอ

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 77 จู่โจมรวดเร็ว

    บทที่ 77จู่โจมรวดเร็ว หลังจากหัวหน้าเผ่าฮุยรู้ข่าวเรื่องกองทัพสนับสนุนเดินทางมาถึงป้อมปราการตะวันออก พวกมันก็ไม่อยู่เฉย เคลื่อนทัพท่ามกลางความมืด รอจังหวะบุกโจมตีป้อมปราการตะวันออกอย่างไม่ให้แคว้นเฉียนรู้ตัว หากทว่า กลางดึกคืนเดียวกันนั้น ฟางอู่เซิงวางกองกำลังไว้ที่นอกป้อมปราการอย่างเงียบเฉียบ ทันทีที่แสงแรกมาเยือน หัวหน้าพลธนูที่ซ่อนตัวตั้งแต่กลางดึก ก็ได้ส่งสัญญาณมือให้โจมตี พลธนูที่ซุ่มบนต้นไม้นับสิบนายปล่อยศรพุ่งออกไป ฟิ้ว… “อึก!” “อั่ก!!” ทหารเผ่าฮุยที่ตั้งทัพเตรียมบุกป้อมปราการ ล้มกองบนพื้นทีละคนสองคนราวกับใบไม้ล่วงจากต้น เริ่มต้นสงคราม มองเผินๆ ฝ่ายที่ได้เปรียบอาจจะเป็นทางแม่ทัพฟางอู่เซิง แต่ทันทีที่เผ่าฮุยรู้สึกตัวว่าพวกมันถูกซุ่มโจมตี หัวหน้าเผ่าฮุยได้สั่งการและแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งให้หันกลับไปสังหารพลธนูของแคว้นเฉียน โดยใช้ศพของพวกเดียวกันเป็นเกาะกำบัง อีกฝ่ายหนึ่งทุ่มเทสุดกำลังทำลายป้อมปราการแล้วบุกเข้าไป “แทนที่จะล่าถอย แต่เลือกบุกต่

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 76 กำลังเต็มร้อยด้วยอาหารอัดแท่ง

    บทที่ 76กำลังเต็มร้อยด้วยอาหารอัดแท่ง วันต่อมา กองทัพของแม่ทัพฟาง หน่วยคุ้มกันเสบียงของเหิงเจา และหน่วยลอบโจมตีของเหยียนหลิ่ว เคลื่อนตัวออกจากเมืองหลวง เสบียงที่ทหารทุกนายพกติดตัวนั้น ส่วนใหญ่มาจากโรงเตี๊ยมตระกูลจาง นอกจากจะเป็นของแห้งที่เก็บไว้ได้นาน น้ำหนักเบา สารอาหารยังครบถ้วน ไม่เปลืองแรงเวลาต้องหอบหิ้วเวลาที่ต้องเดินทางไกลๆ แถมรสชาติยังอร่อย กินเท่าไรก็ไม่เบื่อ และต้องขอบคุณเสบียงจากโรงเตี๊ยมตระกูลจางเช่นกัน ทำให้การเดินทางมาถึงชายแดนตะวันออกเร็วกว่ากำหนดหลายวัน แม้ระหว่างทาง รถขนเสบียงจะถูกดักปล้น แต่ทหารทุกคนที่ได้กินธัญพืชอัดแท่งที่มีพลังงานสูง พวกเขาจึงปกป้องเสบียงหลวงเอาไว้ได้ โดยที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ในขณะเดินทางไกล เลี่ยงไม่ได้ท่ีจะมีล้มป่วยด้วยพิษไข้ แต่ด้วยยาเม็ดจากโรงเตี๊ยมตระกูลจาง กินเพียงสองเม็ด ไข้หวัดเล็กน้อยพลันบรรเทาลง พร้อมออกเดินทางต่อได้ทันที ไม่ต้องทิ้งใครไว้ข้างหลัง ด้วยเหตุนี้เอง ตอนมาถึงป้อมปราการตะวันออก เรี่ยวแรงของทหารทุกนายจึงยังล้นเหลือ พร้อมออกรบได้ทันที

  • แม่ครัวแห่งยุคกับระบบร้านค้า    บทที่ 75 คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการ

    บทที่ 75คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการ ครั้นพอได้ยินเสียงคุ้นๆ สองหนุ่มสาวที่พลอดรักกันอยู่หน้าบ้าน มองผู้มาเยือนที่ไม่ได้รับเชิญด้วยสายตาเอือมระอา “เข้าบ้านคนอื่นก่อนได้รับอนุญาต ใครกันแน่ที่หน้าไม่อาย” เหยียนหลิ่วบอกด้วยเสียงเย็นชา “แม้ว่าเป็นข้าอย่างนั้นหรือ พี่เหยียนหลิ่ว” เสียงหวานกังวานใสดังขึ้นที่หน้าประตู จากนั้นหญิงสาววัยสิบแปดรูปร่างหน้าตาสะสวย สวมใส่อาภรณ์หรูหราก็ก้าวเข้ามาในบ้าน สาวรับใช้ที่ยืนเท้าสะเอว ทำหน้ายักษ์มองมาที่ตงตง รีบกลับไปยืนข้างหลังหญิงสาวผู้มาใหม่ พร้อมเรียกฝ่ายนั้นว่า “คุณหนู” เหยียนหลิ่วขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจนัก “ถึงจะเป็นคุณหนูสามจากจวนเจ้ากรมพิธีการ ก็ควรเรียนรู้มารยาทสักหน่อย” ถูกชายหนุ่มที่ตัวเองชอบสั่งสอน ซูหลันหลัน…คุณหนูสามแห่งจวนเจ้ากรมพิธีการรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก หันไปขึงตาใส่ตงตงที่นั่งเงียบ เหยียนหลิ่วลุกขึ้น ใช้ร่างใหญ่โตของตนยืนบังตงตงหมายปกป้องหญิงคนรัก แม้จะรู้ว่าคุณหนูสามซูคนนี้จะไม่กล้าแตะต้องตงตงก็ตาม

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status