ออกไปท่ามกลางแสงแดดในสวนนอกบ้านของเรา ดอกไม้ที่เบ่งบานส่งกลิ่นหอมหวานไปทั่ว แต่แปลก...ที่สถานที่แห่งนี้เมื่อก่อนเคยคุ้นตา กลับไม่ถูกใจฉันอีกเลย มันวิเศษมากที่คนคนหนึ่ง สามารถสร้างความแตกต่างมากมายในชีวิตของคุณ”หลังจากใช้ชีวิตไปครึ่งชีวิตด้วยความท้อแท้ ในที่สุด แบลร์ก็พบเทพนิยายของเธอ แต่เทพนิยายทุกเรื่อง มีแม่มดที่จะร่ายคาถาชั่วร้าย ความรักของพวกเขาจะผ่านการทดสอบทุกครั้งหรือไม่? หรือพวกเขาจะถูกบังคับให้ต้องแยกทางกัน?
View More“ฉันโง่แค่ไหนนะ ที่มัวเสียเวลารอให้เซนกลายเป็นเลือดบริสุทธิ์ ในเมื่อฉันมีเลือดบริสุทธิ์รออยู่แล้ว” เธอกล่าวต่อ แต่เราเพิกเฉยต่อคำพูดของเธอ และใช้ความเร็วของแวมไพร์ เพื่อราดน้ำมันก๊าดรอบตัวเธอในแบบที่เธอยืนอยู่ตรงกลางวงกลม แน่นอนว่าเธอได้กลิ่นน้ำมันก๊าด แต่เมื่อถึงเวลาที่เธอเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นจริง เราก็เร็วพอที่จะโยนไม้ขีดไฟที่ติดไฟไว้บนน้ำมันก๊าด“ไฟ” เธอตื่นตระหนกเมื่อรู้ว่าตอนนี้เธอยืนอยู่กลางวงแหวนแห่งไฟ“ปล่อยฉัน” เธอร้อง“ได้สิ แต่หลังจากเจ้าตาย” ฉันถ่มน้ำลายด้วยความโกรธ“แบลร์?” เธอพูดด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว จำเสียงของฉันได้ด้วยเหรอ “เธอตายแล้วนี่”“โอ้ เข้าใจแล้ว เซนทำให้คุณกลายเป็นแวมไพร์” เธอพูดตามด้วยเสียงกรีดร้องอีกครั้ง"ขอให้สนุกกับความตายนะแม่มด" เอริคกล่าวเมื่อไฟจับร่างกายของเธอ และผิวหนังของเธอเริ่มไหม้และมีเลือดออก“มันไม่ง่ายดายขนาดนั้นหรอก...ที่จะฆ่าแม่มด” เสียงหัวเราะของเธอดังก้องไปทั่วทั้งบ้าน ก่อนที่เธอจะล้มลงบนพื้นและหลับตาลง เวลาที่ดีที่สุดในการโจมตีศัตรูของคุณ คือเมื่อพวกเขาคาดหวังน้อยที่สุด การทำเช่นนี้จะไม่ทำให้พวกเขามีเวลาเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้หรือป้องก
เรารออยู่ข้างนอกบ้านของจิเซลล์ ตั้งแต่บ่าย 3 โมง และในที่สุดเธอก็มาถึงเมื่อพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน ตอนนี้น่าจะเป็นเวลา 18.00 น. เราตามเธอไปจนสุดทาง ไปยังป่าซึ่งมีอีกคนกำลังรอการมาถึงของเธออยู่“เธอรู้ดีว่าฉันอยากฆ่าเขา แล้วเธอมาฆ่าเขาก่อนทำไม!!!!” ชายคนนั้นตะคอกใส่กิเซลล์ ผิวของเขาซีดขาว ตาเป็นสีน้ำตาล “ก่อนจะฆ่าเขา ทำไมเธอไม่ถามใคร?” ชายคนนั้นพูดต่อ เขาสวมกางเกงยีนส์สีดำ และเสื้อเชิ้ตสีเทา“ขอโทษที แต่ฉันไม่จำเป็นต้องขออนุญาตใครก่อนจะทำอะไร ฉันจะในทำสิ่งที่เป็นประโยชน์กับฉัน” เมื่อชายคนนั้นได้ยินดังนั้น ดวงตาของเขาเปลี่ยนสีจากสีน้ำตาลเป็นสีเหลือง แน่นอนว่าเขาไม่ใช่มนุษย์ แต่แล้วเขาเป็นอะไร? ฉันจำได้ว่าดวงตาของการ์เวียร์ เปลี่ยนเป็นสีเหลือง ไลแคน เขาเป็นไลแคน!!! แต่เขาเกี่ยวอะไรกับเซน? เซนทำผิดอะไรกับเขา? “แต่ฉันจำเป็น ฉันยังไม่ได้บอกคุณก่อนหน้านี้เหรอว่า ที่ฉันต้องฆ่าเขาเพื่อช่วยชีวิตตัวเอง” จิเซลล์พูดต่อ ฉันโกรธมาก อยากจะกระโดดลงไปฆ่าทั้งคู่ซะตอนนี้ แต่ต้องอดทนไว้และทำตามแผน“ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน ฉันอยากเห็นร่างกายของเขา” เขาสั่ง“ตามฉันมา” จิเซลล์พูดโดยไม่รู้ว่า คนๆ นี้ไม่ใช่คนเดีย
เราแอบดูภายในบ้านผ่านหน้าต่าง ชายคนนั้นหันหน้าไปทางหน้าต่าง เราจึงมองไม่เห็นใบหน้าของเขา แต่อีกคนเห็นได้ชัด เธอคือจิเซลล์"ฉันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว" จิเซลล์เถียง "แหวนนั่นมันขังเขาไว้ไม่ได้แล้ว เขาแข็งแรงขึ้นอีก เขากลับมีพลังมากขึ้น เขาฆ่าเจน ลูกพี่ลูกน้องของฉัน และถ้าฉันไม่ได้เอา วูฟส์เบน มาถูตัวเขาละก็ เขาก็คงจะฆ่าฉันเหมือนกัน” ฉันตกใจอย่างมาก และหวังว่าพวกเขาจะไม่ได้กำลังพูดถึงเซน ตอนนี้ชายคนนั้นคำรามด้วยความโกรธ“ฉันเองก็ต้องการให้เขามีชีวิตอยู่ อย่างน้อยก็จนถึงคืนพระจันทร์เต็มดวง ฉันต้องการพลังของเซน ซึ่งจะทำให้ฉันเป็นแม่มดที่แข็งแกร่งและทรงพลังที่สุด แต่ฉันจะทำอย่างไร ฉันต้องฆ่าเซนมันไม่มีทางอื่นแล้ว! " ฉันรู้สึกกระตุกในหัวใจราวกับว่ามีคนทุบมัน เข่าของฉันอ่อนแรง และฉันก็ล้มลงกับพื้น หายใจไม่ออก ซูซาน เอริค และอดัมพูดปลอบโยน แต่ฉันไม่ได้ยิน คำพูดอะไรอีกเลย คำว่า 'ฉันต้องฆ่าเซน' ดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า จิตใจของฉันปฏิเสธที่จะทำหรือฟังอะไรเลย“ฟังฉันนะ” ซูซานเขย่าฉันแรงๆ พยายามทำให้ฉันกลับมารู้สึกตัว ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาตายแล้ว ฉันไม่ต้องการ!"นี่มันไม่จริง มันต้องไม่จริง เข
ฉันตื่นขึ้นด้วยความตกใจ “เซน” ทำไมฉันถึงได้ฝันแบบนี้? เขาสบายดีไหม ฉันหวังว่าเขาจะสบายดี และมันเป็นแค่ฝันร้ายและไม่มีอะไรอื่นใช่ไหม 'ใช่ เซนต้องสบายดี มันเป็นแค่ความฝัน ฉันฝันร้าย' ฉันพยายามสงบสติอารมณ์และล้มตัวลงนอนต่อบนเตียงฉันกระสับกระส่าย ฉันเดินไปมา ฉันนอนไม่หลับอีกแล้ว ความคิดของฉันยังติดอยู่ที่ความฝันนั้น ด้วยความวิตกกังวลในหัวใน ฉันนั่งลง หัวใจของฉันเต้นผิดปกติ ฉันกดหมายเลขของซูซานด้วยนิ้วที่สั่นๆ“ซูซาน... เซนเค้า...” ฉันโพล่งออกไปทันทีที่เธอรับสาย“เซน อะไรนะ เขากลับมาแล้วเหรอ” เธอถาม.“ไม่” ฉันตอบและบอกเธอทุกอย่างเกี่ยวกับความฝัน ฉันเดาว่าโทรศัพท์ของเธอเปิดลำโพงอยู่ เพราะเสียงต่อมาที่ฉันได้ยินคือเสียงของ เอริค "แบลร์ นั่นไม่ใช่แค่ความฝัน เขาตกอยู่ในอันตรายและพยายามติดต่อคุณผ่านกระแสจิต" ใจฉันเต้นแรงเมื่อได้ยินอย่างนั้น เกิดอะไรขึ้นกับเขา? เขาตกอยู่ในอันตรายได้อย่างไร? จิตใจของฉันสงสัยความคิดนับพันและตั้งคำถามหลายข้อ“เอริค มีวิธีติดต่อเขาไหม” เสียงของฉันออกมาอ่อนแอ“ให้เวลาเราสองสามนาทีเพื่อถึงบ้านของคุณ” เขาพูดแล้ววางสาย น้ำตาไหลอาบแก้มเมื่อภาพของเซน ในสภาพอ่อนแอนั้น ย
จิตใจของฉันสับสน เธอทำสิ่งนี้เองหรือไม่? แม่มดสามารถควบคุมอากาศ ไฟ น้ำ และดิน และสามารถสร้างพายุไซโคลนได้เช่นกัน จิเซลล์เป็นแม่มดหรือ ในตอนนั้นความโกรธโหมกระหน่ำในเส้นเลือดของฉัน และฉันก็ยื่นมือออกไปตามลมที่หมุนวน และด้วยพลังทั้งหมดของฉัน ผลักมันออกไปในทิศทางที่จิเซลล์อยู่ ฉันปลดปล่อยตัวเองจากลมนั้น จิเซลล์ล้มลงบนพื้นอย่างแรงขณะที่พายุไซโคลนพัดเข้าใส่เธอ เสียงหัวเราะของเธอหายไปแล้ว“อย่าลืมว่าฉันเป็นแวมไพร์ชั้นสูง และฉันควบคุมพายุไซโคลนได้ เจ้าแม่มดตัวน้อยที่โง่เขลา” ฉันเน้นไปที่คำว่า 'แม่มด' มากขึ้น“อย่าพยายามจะหนี!!!” เธอพูด พลางถอดแหวนเงิน แล้วโยนมาทางฉัน มันขยายตัวใหญ่ขึ้นทันทีที่มันมาโดนตัวฉัน ฉันติดกับดักแล้ว ฉันพยายามจะหนีจากมัน แต่ตอนนี้ฉันขยับไม่ได้“นี่อะไร ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้” ฉันสั่งเสียงดัง และยังคงใช้พลังทั้งหมดของฉัน ต่อสู้อย่างหนักเพื่อกำจัดแหวนที่รัดฉันอยู่ “คุณออกไปไม่ได้ จนกว่าฉันจะอนุญาต!! นี่คือแหวนพิเศษที่พลังของมัน สามารถทำให้ร่างของแวมไพร์เป็นอัมพาตได้ และฉันบอกคุณหรือยัง ว่ามันดูดพลังคุณด้วย? เพราะฉะนั้นอย่าพยายามเลย ประหยัดพลังงานไว้ใช้ทีหลัง เพราะยิ่งสู้
ฉันให้เซนสัญญากับฉันว่าเขาจะไม่ไปแก้แค้นกับจิเซลล์ ฉันทำให้เขาเชื่อและสัญญากับฉันว่าเขาจะไม่ทำอะไรเลย แต่ฉันเกรงว่าถ้าเขาผิดสัญญาล่ะ วิธีที่เธอข่มขู่ฉัน ฉันกลัวว่าเธออาจจะทำร้ายเซนได้ ถ้าเขาต่อสู้กับเธอหรือแย่กว่านั้น เธออาจจะเดิมพันเขาเหมือนที่เธอพูดก่อนหน้านี้ ฉันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกขณะที่ฉันตระหนักว่า ถ้าเซนต้องทำอะไรสักอย่าง เขาคงจะทำมันไปแล้ว ซึ่งมาจนถึงตอนนี้แต่เขาไม่ได้ทำ เขาจะไม่ผิดสัญญากับฉัน ตอนนี้ฉันมั่นใจแล้ว มันคงจะดีกว่าถ้าจะทิ้งความทรงจำเก่าๆ ที่ขมขื่น เพราะมันทำลายปัจจุบันและอนาคตของเราเท่านั้น และฉันไม่ต้องการก้าวในปี 2019 กับความทรงจำอันขมขื่นในอดีต ขอให้ปีใหม่เต็มไปด้วยความสุขและความรักฉันคิดมากจนไม่รู้ว่าการนับถอยหลังสู่ปีใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้วห้า สี่ สาม สอง หนึ่ง ศูนย์ และพลุก็ดังขึ้น สีสดใสเต็มท้องฟ้ามืดมิด ที่ทำให้ดวงตาของทุกคนสว่างขึ้น ต้อนรับปี 2019 ด้วยดอกไม้ไฟ ต้อนรับด้วยสีสันที่ปะทุขึ้นบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ไล่ลงมาเป็นเฉดสีเขียว น้ำเงิน ม่วง และกระทั่งสีทอง เซนหยิบแก้วเปล่าสองใบซึ่งเขาเติมแชมเปญให้เต็มก่อนจะยื่นให้ฉันหนึ่งใบ"สวัสดีปีใหม่" เขายกแก้วขึ
เราเฉลิมฉลองคริสต์มาสอันแสนสุขด้วยการฟังเพลงคริสต์มาส เล่นเกมสนุกๆ และร้องเพลง 'คุณย่าโดนกวางเรนเดียร์ทับ' รอบต้นไม้ แต่ความคิดของฉันพาฉันกลับไปที่นิวอิงแลนด์ ที่ซึ่งฉันกับเอเลน่าเคยฟังคณะนักร้องประสานเสียงร้องเพลง “พระทรงบังเกิด" หรือ 'เพลงคริสต์มาส' ของแนท โคล ฉันจำได้ว่าเราเคยร้องเพลง “O Christmas Tree' , 'Good Christian Men, Rejoice' และ 'Santa Clause Is Coming To Town' และเพลงอื่นๆ รอบต้นคริสต์มาสด้วยเสียงที่ไม่ไพเราะของเรา“อยากหายตัวไปหาเอเลน่าเหรอ” เซนถาม และฉันก็นึกขึ้นได้ว่าฉันเอาแต่ยิ้มอย่างไม่ใส่ใจตลอดเวลา และหลงอยู่ในความคิดของฉัน“ใช่ นี่เป็นคริสต์มาสครั้งแรกของฉันที่ฉันเฉลิมฉลองโดยไม่มีเธอ ทุกๆ ปีเราเคยมีความสนุกสนานมากมายในวันนี้” ฉันพูดพร้อมกับถอนหายใจเล็กน้อย“คุณอยากเจอเธอไหม” คำถามนั้นสร้างความตกใจในตัวเอง ฉันจะพบเธอได้อย่างไร เธอคิดว่าฉันตายแล้ว“เป็นไปได้ยังไง” บทสนทนาของเราถูกขัดจังหวะด้วยเสียงอันน่าตื่นเต้นของซูซาน “เธอสองคนมาทำอะไรตรงนี้ มาเถอะ ได้เวลาแกะของขวัญแล้ว"“มีอยู่ทางหนึ่ง หลังจากที่เราแกะห่อเสร็จแล้ว ฉันจะพาคุณไปพบเธอ” เซนกล่าว ฉันยังสงสัยว่ามันจะ
เราคุยกันอยู่พักหนึ่ง แต่ฉันพูดน้อยมากจะพูดเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับฉันเท่านั้น เวลาที่เหลือฉันก็ค่อนข้างจะฟังการสนทนาของพวกเขา บางครั้งฉันรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เวลาอยู่กับคนแปลกหน้า แต่เมื่อมองมาที่ซูซานที่นั่งข้างๆ ฉันก็รู้สึกสบายใจวินาทีกลายเป็นนาที และนาทีกลายเป็นชั่วโมง และฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันจะมีเพื่อนใหม่เร็วขนาดนี้ การเป็นคนเก็บตัว ฉันมีปัญหาในการหาเพื่อนใหม่ หรือแม้แต่สื่อสารกับผู้คนใหม่ๆ แต่วันนี้ฉันได้เพื่อนใหม่ภายในไม่กี่ชั่วโมง ตอนแรกฉันรู้สึกไม่สบายใจเวลาอยู่กับเพื่อนๆ ของเซน แต่น่าแปลกใจ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเราเป็นเพื่อนกันมานานแล้ว และฉันดีใจที่ได้พบพวกเขา หลังจากรับประทานอาหารอย่างรวดเร็วและอิ่มเอมด้วยการพูดคุยและเสียงหัวเราะมากมาย ก็ถึงเวลาต้องจากกัน มันเป็นค่ำคืนที่ดี“หวังว่าจะได้พบคุณอีกครั้ง” ซูซานกล่าว“แน่นอน ฉันอยู่ในกลุ่มของคุณแล้ว” ฉันยิ้มและกอดเธอก่อนที่เราจะบอกลาระหว่างทางกลับบ้านที่แสนยาวนาน ฉันยังนั่งนึกถึงซูซาน ฉันค่อนข้างจะชอบเธอนะ และรู้สึกโอเคกับเพื่อนของเซน ทั้งเอริคและอดัมอีกด้วย และมันทำให้ฉันคิดถึง เอเลน่า มิตรภาพของ เซนและเอริค ทำให้ฉ
"ตื่นได้แล้ว ผู้หญิงอันเป็นที่รักของผม" ฉันยิ้มที่มุมปากเมื่อได้ยิน ขณะที่เซนกระซิบกับฉัน“อรุณสวัสดิ์” ฉันหอมแก้มของเขาฉันมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นเกล็ดหิมะสีขาวที่ตกลงมาจากท้องฟ้า สีของดอกกุหลาบ กลิ่นลมพัดโชยมา นี่แสดงว่าเป็นเช้าในเดือนธันวาคมแล้วซินะ คริสต์มาสใกล้เข้ามาแล้ว ปัญหาทั้งหมดจะผ่านไป ปีใหม่ที่จะถึงนี้ จะนำพาการเริ่มต้นใหม่อย่างมีความสุขให้พวกเราฉันเปิดตู้เย็นหลังจากอาบน้ำเสร็จ และหยิบซองเลือดที่เราขโมยมาจากโรงพยาบาลที่อยู่ติดกันออกมา ฉันพบว่าความคิดที่จะดื่มเลือดเป็นสิ่งที่น่าขยะแขยง แต่ตอนนี้ ฉันอยากดื่มมัน กลิ่นคาวและหอมหวานเล็กน้อยของเลือดดึงดูดใจฉัน ฉันนำถุงนั้นมาที่ริมฝีปากของฉัน ทำไมก่อนหน้านี้ฉันถึงไม่สบายใจนะ ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามันแย่มาก มันไม่ได้น่ารังเกียจเลย อันที่จริง มันทำให้ฉันรู้สึกกระปรี้กระเปร่า“รังเกียจเหรอ?” ฉันหันไปตามเสียงของเซน"ไม่อย่างแน่นอน"“เธอมีเวลาเตรียมตัวเพียงครึ่งชั่วโมงนะ”"เพื่ออะไร?" ฉันขมวดคิ้ว“ผมมีเซอร์ไพรส์ให้คุณ” เขาขยิบตาฉันแต่งตัวด้วยกางเกงยีนส์สีดำ และเสื้อสีแดง และเนื่องจากอากาศข้างนอกหนาว ฉันจึงสวมแจ็กเก็ตหน