เมื่อฮานาและโกฮัน นักเรียนห้องม.5/B ถูกส่งไปทำภารกิจปราบเงาปีศาจที่สวนสนุกต้องสาปแห่งหนึ่งซึ่งมีเพียงแค่พวกเขาเท่านั้นที่จะสามารถต่อสู้กับพวกมันได้....เหตุการณ์หน้าระทึกจะเป็นอย่างไรโปรดติดตาม
View Moreเสียงหวีดหวิวของลมที่พัดผ่านช่องว่างมิติเหมือนเสียงกระซิบจากอีกฟากโลก ฮานา กับ โกฮัน ยืนอยู่หน้าประตูมิติที่เรืองแสงสีฟ้าอ่อน ภาพสะท้อนของครอบครัวและคนอื่นๆ ที่ยืนส่งอยู่ด้านหลัง ประกายแห่งความหวังฉายชัดในดวงตาของพวกเขา ความหวังที่ฝากไว้กับสองคู่หูที่กำลังจะก้าวสู่ความมืดมิด
“ทุกคน… พวกเราจะกลับมา” ฮานาเอ่ยเสียงแผ่ว พลางปรายตามองเพื่อนทีละคน โกฮันพยักหน้ารับช้าๆ มือใหญ่ของเขาเลื่อนมากอบกุมมือของฮานาไว้แน่น สัมผัสอุ่นร้อนที่ส่งผ่านถึงกันนั้นคือเครื่องยืนยันว่าพวกเขาไม่ได้อยู่คนเดียว “พร้อมนะฮานา?” โกฮันถาม ใบหน้าจริงจังฉายแววกังวลเล็กน้อย ฮานาบีบมือเขาตอบ “พร้อมเสมอแหละน่า โกฮัน” วินาทีถัดมา ทั้งคู่จับมือกันแน่น ก้าวแรกที่เท้าสัมผัสพื้นภายในประตูมิติ ความรู้สึกเหมือนถูกดูดกลืนลงไปในอุโมงค์มืดมิดที่ปลายทางมีแสงสว่างจางๆ อยู่ เมื่อแสงนั้นสว่างวาบขึ้นอีกครั้ง พวกเขาก็พบว่าตัวเองยืนอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง “ที่นี่งั้นเหรอ?” ฮานาเอ่ย พลางมองไปรอบๆ ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคือ สวนสนุกร้าง บรรยากาศเงียบสงัดเข้าแทนที่เสียงอึกทึกครึกโครมจากโลกที่พวกเขาจากมา ม้าหมุนหยุดนิ่ง ประติมากรรมตุ๊กตาตัวตลกขนาดใหญ่ดูน่าขนลุกภายใต้แสงสลัวของท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยเมฆหนาทึบ สีสันสดใสของสวนสนุกถูกกลืนกินด้วยความหมองหม่นและคราบสนิม กลิ่นอับชื้นและกลิ่นโลหะลอยอวลในอากาศ เธอรีบยก นาฬิกาอาคม ขึ้นมาดู หน้าปัดของมันยังคงนิ่งสนิท ไม่มีสัญญาณของเงาปีศาจปรากฏขึ้นเลยแม้แต่น้อย “ใช่ มีสัญญาณอะไรขึ้นบ้างไหม?” โกฮันถาม น้ำเสียงของเขามีความระแวงเจือปน มืออีกข้างของเขากำ มีดอาคม ที่ทำจากเหล็กไหลสีนิลไว้แน่น “ไม่เห็นมีเลย… น่าแปลกจัง” ฮานาขมวดคิ้ว “หรือว่าพวกมันจะซ่อนตัวได้ดีกว่าที่เราคิด?” “เป็นไปได้” โกฮันเห็นด้วย “เราลองไปทางสวนน้ำกันเถอะ ตรงนั้นดูจะเป็นจุดที่เปิดโล่งที่สุด อาจจะหาสัญญาณเจอ” ทั้งคู่จับมือกันแน่นขึ้นกว่าเดิม ออกเดินตรงไปยังโซนสวนน้ำที่อยู่ไม่ไกลจากจุดที่พวกเขาปรากฏตัวขึ้น สระน้ำขนาดใหญ่แห้งขอด แผ่นกระเบื้องบางส่วนแตกร้าว สไลเดอร์หลากสีสันที่เคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของเด็กๆ บัดนี้ดูราวกับงูยักษ์ที่หลับใหลอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง เสียงฝีเท้าของพวกเขาดังก้องไปทั่วบริเวณราวกับเป็นเพียงสองชีวิตที่เหลืออยู่บนโลกใบนี้ พวกเขาเดินสำรวจไปทั่วโซนสวนน้ำ เดินผ่านซุ้มขายอาหารที่ถูกทิ้งร้าง เครื่องเล่นน้ำที่หักพัง และห้องแต่งตัวที่ประตูเปิดอ้าทิ้งไว้ แต่ไม่ว่าพวกเขาจะเดินไปมุมไหนของสวนน้ำ นาฬิกาอาคมบนข้อมือของฮานาก็ยังคงนิ่งสนิท ไร้ซึ่งปฏิกิริยาใดๆ “น่าแปลกจัง หรือว่านาฬิกาจะเสีย?” ฮานาเอ่ยพลางยื่นนาฬิกาขึ้นไปบนฟ้า หวังว่าการเปลี่ยนมุมจะทำให้สัญญาณปรากฏขึ้น และในทันใดนั้นเอง! เสียงนาฬิกา บนข้อมือของฮานาก็พลันดังขึ้นอย่างบ้าคลั่ง! ติ๊ดๆๆๆๆๆๆ พร้อมกับที่หน้าปัดของมันเรืองแสงสีแดงฉาน สัญญาณเงาปีศาจปรากฏขึ้นเป็นรูปเงาขนาดมหึมาที่พุ่งตรงมาจากเบื้องบน “กรี๊ดดดด!” ฮานาอุทานเสียงหลง พลางหันกลับมามองเงาปีศาจรูปร่างคล้ายนกยักษ์ที่บินโฉบลงมาด้วยความเร็วสูง ปีกของมันแผ่กว้างบดบังแสงสว่างที่เหลืออยู่บนฟ้า ดวงตาของมันเรืองแสงสีแดงก่ำราวกับดวงไฟนรก “ฮานาระวัง!!!” โกฮันตะโกนสุดเสียง แรงดึงจากมือของเขาที่พยายามจะดึงฮานาให้หลบออกไปจากวิถีของมันรุนแรงมาก เขาก้าวเท้าไปข้างหน้า พลางชักมีดอาคมขึ้นตั้งท่าพร้อมจะป้องกัน เงาปีศาจนกยักษ์พุ่งเข้าใส่ฮานาอย่างรวดเร็ว ปีกของมันที่ประกอบขึ้นจากเงามืดดูราวกับใบมีดที่พร้อมจะบดขยี้ทุกสิ่ง ฮานาหลับตาปี๋ ร่างกายแข็งทื่อด้วยความกลัว ฉัวะ! เสียงบางอย่างขาดออกจากกัน ดังสนั่นไปทั่วบริเวณ! “ฮานา! เป็นอะไรไหม?!” โกฮันรีบถาม พลางรีบสำรวจร่างกายของฮานาด้วยความร้อนรน ฮานาส่ายหน้าช้าๆ “ฉัน… ฉันไม่เป็นไร” เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามอง เมื่อเห็นว่าตัวเองไม่ได้รับบาดเจ็บ เธอก็รีบมองหาเงาปีศาจนกยักษ์ แต่สิ่งที่เห็นกลับทำให้เธอต้องเบิกตากว้าง เงาปีศาจตัวนั้นไม่ได้หายไป แต่กลับมีร่างที่สองแยกตัวออกมาจากร่างเดิมที่ใหญ่กว่า และบินวนอยู่เหนือหัวของพวกเขา ทั้งสองร่างดูเหมือนจะพุ่งเข้าใส่ด้วยความดุร้ายกว่าเดิม “มัน… มันแยกตัวได้!” โกฮันอุทานด้วยความตกใจ “ไม่เคยมีบอกไว้เลยว่ามันจะแยกตัวได้แบบนี้!” “หมายความว่าไงเนี่ย!? เราต้องรับมือกับมันสองตัวเลยเหรอ!?” ฮานาถามเสียงสั่น พลางพยายามจะหยิบเครื่องรางอาคมออกมาจากกระเป๋า แต่ด้วยความตื่นตระหนกทำให้มือของเธอสั่นไปหมด เงาปีศาจนกยักษ์ทั้งสองตัวส่งเสียงคำรามกึกก้อง ก้องกังวานไปทั่วสวนสนุกที่ไร้ซึ่งชีวิตอื่นใด บรรยากาศรอบตัวเริ่มเย็นเยียบลงอย่างรวดเร็ว กลิ่นอับชื้นยิ่งคละคลุ้งจนน่าเวียนหัว “ใจเย็นไว้ฮานา!” โกฮันพยายามรวบรวมสติ “เราเคยรับมือกับพวกมันที่สวนผักมาแล้ว นี่ก็ไม่ต่างกัน!” เขาพุ่งตัวออกไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว พลางเงื้อมีดอาคมในมือขึ้นสูง เล็งไปยังเงาปีศาจตัวที่เล็กกว่าที่กำลังพุ่งเข้าใส่เขาอย่างไม่ลดละ “ไม่ใช่แค่นั้นโกฮัน!” ฮานาตะโกนเสียงหลงเมื่อนาฬิกาอาคมบนข้อมือของเธอก็พลันส่งสัญญาณที่รุนแรงกว่าเดิม “สัญญาณมันแรงขึ้นกว่าเดิมอีก! เหมือนว่า… เหมือนว่ามันจะมีตัวอื่นอีกเยอะเลย!” โกฮันหันขวับกลับมามองฮานาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “อะไรนะ!?” เขาไม่ทันได้ระวังตัว เงาปีศาจอีกตัวที่ใหญ่กว่าก็โฉบลงมาจากด้านหลัง ปีกของมันเฉียดศีรษะของโกฮันไปเพียงเส้นยาแดงผ่าแปด “โกฮัน!” ฮานาตะโกน เธอเห็นเงาปีศาจตัวนั้นพุ่งผ่านโกฮันไปแล้วมุ่งตรงมายังเธอโดยไม่ลังเล เธอรู้ตัวว่าไม่สามารถหลบได้ทัน เธอหลับตาปี๋อีกครั้ง เตรียมรับแรงปะทะ “อาาา!” เสียงกรีดร้องของเงาปีศาจดังขึ้น แทนที่จะเป็นเสียงกรีดร้องของเธอ! ฮานารีบลืมตาขึ้นมอง ภาพที่เห็นทำให้เธอตกใจยิ่งกว่าเดิม โกฮันพุ่งเข้ามาขวางเธอไว้ได้อย่างหวุดหวิด ร่างของเขาถูกปีกของเงาปีศาจเฉือนเข้าอย่างจัง ทำให้เกิดรอยแผลเป็นทางยาวบนแขนของเขา เลือดสีแดงสดซึมออกมาจากบาดแผล “โกฮัน! นาย… นายเลือดออก!” ฮานาอุทานด้วยความตกใจ ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตื่นตระหนกที่ปนเปไปกับความห่วงใย โกฮันกัดฟันแน่น ใบหน้าซีดเผือดด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ยังคงยืนหยัดอย่างมั่นคง เขากดมือลงบนบาดแผล “แค่รอยข่วน… ไม่เป็นไร” เขาพยายามพูดให้เสียงปกติที่สุด พลางหันไปจ้องมองเงาปีศาจทั้งสองตัวที่กำลังบินวนอยู่เหนือหัวพวกเขาด้วยความเดือดดาล นาฬิกาอาคมบนข้อมือของฮานายังคงส่งเสียงเตือนดังลั่นไม่หยุดยั้ง สัญญาณสีแดงยังคงกะพริบถี่รัว และนั่นหมายความว่าอันตรายยังไม่จบแค่นี้! “เราต้องหาที่กำบัง!” โกฮันตัดสินใจ เขาเห็นซากอาคารหลังหนึ่งอยู่ไม่ไกลจากสวนน้ำ “ทางนั้นฮานา!” ทั้งคู่รีบวิ่งสุดฝีเท้า พยายามหลบหลีกเงาปีศาจนกยักษ์สองตัวที่พุ่งเข้าใส่พวกเขาไม่หยุดหย่อน ปีกของพวกมันที่ตวัดผ่านอากาศสร้างแรงลมมหาศาลจนทำให้เศษซากปรักหักพังปลิวว่อน การวิ่งบนพื้นผิวที่เต็มไปด้วยสิ่งกีดขวางในสวนสนุกร้างแห่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย “นี่มันจะจบเมื่อไหร่กันเนี่ย!” ฮานาหอบหายใจพลางพยายามเร่งฝีเท้า “เราต้องไปให้ถึงก่อนที่พวกมันจะล้อมเราไว้หมด!” ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงซากอาคารที่ว่า ซึ่งดูเหมือนจะเป็นโรงละครเก่า ด้านในมืดสลัวและเต็มไปด้วยฝุ่นผง ม่านเวทีขาดวิ่นและเก้าอี้ถูกคว่ำกระจัดกระจาย โกฮันรีบผลักบานประตูเหล็กที่บิดเบี้ยวให้เปิดออก แล้วดึงฮานาให้เข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว ก่อนจะใช้แรงทั้งหมดดันประตูให้ปิดลง โครม! เสียงประตูกระแทกปิดดังสนั่น เงาปีศาจนกยักษ์ทั้งสองตัวพุ่งชนประตูอย่างรุนแรง ทำให้เกิดเสียงดังอึกทึกจากด้านนอก แต่ประตูก็ยังคงปิดสนิท “รอดแล้ว…” ฮานาทรุดลงกับพื้น หอบหายใจอย่างหนัก ตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวและอ่อนล้า โกฮันทรุดลงข้างๆ เธอก็หอบไม่ต่างกัน เขายกมือขึ้นมาดูบาดแผลที่แขน เลือดหยุดไหลไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังคงรู้สึกเจ็บแปลบๆ “เราต้องคิดให้ดีกว่านี้” โกฮันกล่าวเสียงแหบพร่า “พวกมันฉลาดกว่าที่เราคิดเยอะ มันรอจังหวะที่เราเผลอ แล้วก็แยกตัวออกมาโจมตี” “แต่ทำไมนาฬิกามันถึงไม่แสดงสัญญาณตั้งแต่แรก?” ฮานาถาม สีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย “แล้วทำไมมันถึงแรงขึ้นตอนที่เรายกขึ้นฟ้าล่ะ? มันเหมือนพวกมันซ่อนตัวอยู่ในมิติที่สูงขึ้นงั้นเหรอ?” โกฮันขมวดคิ้ว เขาคิดตามคำพูดของฮานา “เป็นไปได้… หรือมันอาจจะเกี่ยวข้องกับ ‘พลังงาน’ บางอย่างที่อยู่ในสวนสนุกแห่งนี้ด้วยรึเปล่า?” ทันใดนั้นเอง! ครืนนนน… เสียงประหลาดดังขึ้นจากด้านในโรงละคร! มันไม่ใช่เสียงจากเงาปีศาจที่อยู่ด้านนอก แต่เป็นเสียงเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่ด้านล่างเวที “นั่นเสียงอะไรน่ะโกฮัน?” ฮานาหน้าซีด ดวงตาเบิกกว้างอย่างหวาดระแวง โกฮันคว้ามีดอาคมขึ้นมาอีกครั้ง “ไม่รู้สิ… แต่ดูเหมือนว่าเราจะไม่ได้อยู่คนเดียวในที่แห่งนี้” เขากระซิบเสียงเบา พลางกวาดสายตามองไปรอบๆ ความรู้สึกอันตรายไม่ได้อยู่แค่ภายนอกอีกต่อไป แต่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้พวกเขาจากด้านในอาคารที่คิดว่าเป็นที่หลบภัยหลังจากผ่านการต่อสู้อันดุเดือดกับบริวารแห่งความมืด ฮานาและโกฮันก็มาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้า หอคอยแห่งความมืด ที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางสวนสนุกร้าง ตัวหอคอยสูงเสียดฟ้า ปกคลุมไปด้วยเงามืดทะมึนราวกับถูกสร้างขึ้นจากความสิ้นหวัง แสงสลัวๆ รอบๆ ไม่สามารถส่องเข้าไปได้เลยแม้แต่น้อย มันดูดกลืนทุกสิ่งไว้ในความมืดมิด มีเพียงแสงเรืองรองสีแดงฉานจากดวงตาปีศาจที่ประดับอยู่ตามผนังหอคอยเท่านั้นที่กะพริบเป็นจังหวะ ราวกับกำลังจับจ้องพวกเขา กลิ่นอายความชั่วร้ายที่แผ่ออกมาทำให้รู้สึกอึดอัดและหนาวเหน็บไปถึงกระดูก“นี่แหละ… ที่ที่จอมมารแห่งเงามืดซ่อนผ้ายันต์สองผืนสุดท้ายไว้” ฮานากล่าว เสียงของเธอหนักแน่น แม้จะมีความกังวลฉายแววในดวงตา“มันดูน่ากลัวกว่าที่คิดเยอะเลยนะฮานา” โกฮันพึมพำ เขากำมีดอาคมแน่น แสงสีเทาจากมันส่องสว่างขึ้นเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังงานด้านลบมหาศาล“ใช่… แต่เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้วโกฮัน” ฮานาตอบ เธอสอดส่องสายตาไปรอบๆ หอคอย “ท่านภูติแห่งวารีบอกว่ามีเงาปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุดเฝ้าอยู่”“เราพร้อมแล้วฮานา! เราฝึกมาหนักเพื่อวันนี้!” โกฮันประกาศด้วยความมุ่งมั่น ดวงตาของเขาฉายแววกล้าหาญ “ไปกันเถอะ!”พวกเขาเ
แสงสีฟ้าอ่อนนวลตาห่อหุ้มร่างของ ฮานา และ โกฮัน ลอยขึ้นช้าๆ ผ่านโพรงถ้ำที่เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยเรืองแสง พวกเขาสัมผัสได้ถึงพลังงานบริสุทธิ์ของโลกใต้บาดาลที่ยังคงไหลเวียนอยู่ในกาย พลังงานที่ได้จากการฝึกฝนอย่างหนักในห้องต่างๆ ภายใต้การชี้แนะของเหล่าวิญญาณภูมิ“เรากลับมาแล้วฮานา…” โกฮันพึมพำ ดวงตาของเขาฉายแววความมุ่งมั่น“ใช่… ถึงเวลาที่เราจะต้องทำในสิ่งที่ต้องทำแล้วโกฮัน” ฮานาตอบ เสียงของเธอหนักแน่น ไม่มีความลังเลอีกต่อไป ผ้ายันต์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งเจ็ดผืนในมือของเธอเปล่งแสงสีเทาอ่อนๆ ที่แสดงถึงพลังแห่งแสงและความมืดที่หลอมรวมกันอย่างสมบูรณ์แบบเมื่อร่างของพวกเขาพ้นจากปากโพรงถ้ำ แสงแดดที่เจิดจ้าก็สาดส่องกระทบดวงตา ทำให้พวกเขาต้องหรี่ตาลง สวนสนุกร้างที่เคยดูมืดมิดและน่ากลัว บัดนี้กลับมีแสงสว่างสลัวๆ ส่องเข้ามาจากด้านบน เผยให้เห็นซากปรักหักพังที่น่าเศร้าและบรรยากาศที่เงียบงันราวกับถูกทิ้งร้างมานานหลายศตวรรษ“พวกเจ้ากลับมาแล้ว…” เสียงใสราวระฆังแก้วของ ภูติแห่งวารี ดังขึ้น เบื้องหน้าพวกเขา ภูติแห่งวารีกำลังลอยอยู่เหนือพื้นดิน รายล้อมด้วยพลังงานแสงสีฟ้าอ่อนโยน“ท่านภูติแห่งวารี!” ฮานาและโกฮันกล่
ฮานาและโกฮันก้าวเข้าสู่ ห้องแห่งการควบคุม ด้วยหัวใจที่เต้นระรัว นี่คือบททดสอบสุดท้ายของการฝึกฝนในโลกใต้บาดาล แสงภายในห้องนี้แตกต่างจากทุกห้องที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง มันไม่ใช่แสงสีเดียว แต่เป็นแสงสีขาวดำที่สลับกันไปมาอย่างรวดเร็วราวกับชีพจรของจักรวาล พื้นห้องเป็นเหมือนตารางหมากรุกขนาดใหญ่ที่ช่องสี่เหลี่ยมสีขาวและดำเคลื่อนไหวและสลับตำแหน่งกันไม่หยุด กำแพงห้องทอดยาวขึ้นไปสูงลิบตาจนมองไม่เห็นเพดาน และมีกระแสพลังงานที่มองไม่เห็นไหลวนไปมา ทำให้รู้สึกถึงความสมดุลที่เปราะบางและพร้อมจะแตกหักได้ทุกเมื่อ บรรยากาศเงียบสงัดไร้เสียงใดๆ มีเพียงเสียงการเคลื่อนไหวของแสงและเงาที่สร้างความรู้สึกแปลกประหลาดและกดดัน“ห้องนี้… มันดูน่ากลัวยังไงก็ไม่รู้ฮานา” โกฮันกระซิบเสียงแผ่ว เขากำมีดอาคมแน่น แสงสีเทาที่เปล่งออกมาจากผ้ายันต์และมีดอาคมของพวกเขาส่องสว่างตัดกับแสงขาวดำในห้อง“ใช่… เหมือนมันกำลังเตือนว่าทุกอย่างมันต้องอยู่ในความสมดุล” ฮานาตอบ เธอพยายามตั้งสติ ผ้ายันต์ในมือของเธอกำแน่นทันใดนั้นเอง! แสงสีขาวดำที่สลับกันไปมาก็พลันรวมตัวกันเป็นร่างโปร่งแสงสีเทาอ่อน รูปร่างของเขาดูคล้ายชายชราผู้ทรงภูมิ มีเครายาวส
ฮานาและโกฮันก้าวเข้าสู่ ห้องแห่งการแยกสมาธิ ด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกันระหว่างความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นและความกังวลที่ยังคงหลงเหลืออยู่ แสงภายในห้องนี้แตกต่างออกไปอีกครั้ง ที่นี่มืดมิดเกือบสนิท มีเพียงแสงสลัวๆ สีฟ้าอมเขียวคล้ายแสงออโรร่าที่เต้นระริกบนเพดานและผนังห้อง ทำให้เกิดเงาที่เคลื่อนไหวไปมาอย่างรวดเร็ว พื้นห้องเต็มไปด้วยแท่นหินเล็กๆ นับไม่ถ้วนที่เรียงรายอยู่ไม่เป็นระเบียบ แต่ละแท่นมีอักขระโบราณที่ส่องแสงริบหรี่จารึกไว้ เสียงกระซิบแผ่วเบาที่ไม่สามารถจับใจความได้ดังแว่วมาเป็นระยะๆ ชวนให้รู้สึกรบกวนสมาธิ“ห้องนี้ดูประหลาดกว่าห้องอื่นอีกนะฮานา” โกฮันพึมพำ เขากวาดสายตามองไปรอบๆ อย่างระแวดระวัง มีดอาคมในมือของเขาส่องแสงสีเทาอ่อนๆ“ใช่… บรรยากาศมันชวนให้รู้สึกสับสนยังไงก็ไม่รู้” ฮานาตอบ เธอพยายามตั้งสติ ผ้ายันต์ในมือของเธอเปล่งแสงสีเทาเช่นกันทันใดนั้นเอง! แสงสลัวๆ บนเพดานก็พลันรวมตัวกันเป็นร่างโปร่งแสงสีม่วงเข้ม รูปร่างของเขาดูสง่างามคล้ายนักปราชญ์โบราณ เขามีผมสีขาวยาวสลวยผูกเป็นมวยไว้ด้านหลัง ดวงตาของเขาสุกใสราวกับดวงดาวที่มองเห็นทะลุปรุโปร่งทุกสิ่ง ในมือถือคัมภีร์เล่มเก่าที่เปล่งแสงเรื
ฮานาและโกฮันก้าวเข้าสู่ ห้องแห่งการแยกสัมผัส ท่ามกลางความงุนงง แสงสว่างภายในห้องนี้ดูแปลกประหลาด มันเป็นแสงสีรุ้งที่หมุนวนไปมาอย่างช้าๆ ทำให้ภาพที่เห็นบิดเบี้ยวและพร่าเลือน ผนังห้องทำจากวัสดุโปร่งแสงที่ไม่สามารถระบุได้ว่าคืออะไร ทุกอย่างในห้องดูเลือนลางและไม่แน่นอน กลิ่นหอมแปลกๆ ลอยคละคลุ้งในอากาศ ชวนให้รู้สึกเคลิบเคลิ้มและมึนงง“นี่มัน… ห้องอะไรกันเนี่ย?” ฮานาพึมพำ เธอรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อยเมื่อมองแสงสีรุ้งที่หมุนวนไม่หยุด“ฉันก็ไม่แน่ใจฮานา… แต่บรรยากาศมันประหลาดมาก” โกฮันตอบ เสียงของเขามีอาการมึนงงเล็กน้อย เขากำมีดอาคมแน่น พยายามตั้งสติทันใดนั้นเอง! แสงสีรุ้งก็พลันรวมตัวกันเป็นร่างโปร่งแสงสีขาวบริสุทธิ์ รูปร่างคล้ายหญิงสาวงดงามราวกับนางฟ้า เธอมีปีกสีรุ้งโปร่งแสงขนาดใหญ่ ผมยาวสลวยสีเงินระยิบระยับ ดวงตาของเธอเป็นสีฟ้าใสราวกับท้องฟ้าไร้เมฆ และมีรัศมีอ่อนโยนแผ่ออกมาจากตัวเธอ“ยินดีต้อนรับ… ผู้กล้าทั้งสอง” เสียงใสราวกับเสียงกระดิ่งแก้วดังขึ้นในห้อง “ข้าคือ วิญญาณแห่งดารา ผู้พิทักษ์ห้องแห่งการแยกสัมผัส… ข้าจะทดสอบความสามารถในการแยกแยะของพวกเจ้า… ทั้งการแยกแยะประสาทสัมผัส… และการแยกแยะคว
ฮานาและโกฮันก้าวเข้าสู่ ห้องแห่งพละกำลัง ด้วยความตื่นเต้นระคนความเหนื่อยล้าจากการฝึกฝนในห้องแห่งความเร็ว แสงสว่างภายในห้องนี้แตกต่างจากห้องก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง ที่นี่สว่างไสวด้วยแสงสีส้มอมแดงที่ดูอบอุ่นและมั่นคง ผนังห้องเป็นหินแกรนิตสีเข้มแข็งแกร่ง มีรอยจารึกรูปค้อนและขวานโบราณประดับอยู่ทั่วไป กลิ่นดินและแร่ธาตุที่คุ้นเคยในโลกใต้บาดาลกลับเข้มข้นขึ้นในห้องนี้ ให้ความรู้สึกดิบและทรงพลัง“ดูเหมือนว่าห้องนี้จะไม่ได้เน้นความเร็วแล้วนะฮานา” โกฮันกล่าว เขากำหมัดแน่น รู้สึกถึงพละกำลังที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายหลังจากได้รับการเยียวยาจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์“ฉันก็ว่างั้น… บรรยากาศมันต่างกันลิบลับเลย” ฮานาตอบพลางกวาดตามองไปรอบๆ เธอยกผ้ายันต์ในมือขึ้น มันเปล่งแสงสีขาวนวลตัดกับแสงสีส้มอมแดงของห้องทันใดนั้นเอง! เสียงฝีเท้าที่หนักแน่นราวกับแผ่นดินไหวก็ดังขึ้นมาจากมุมมืดของห้อง ร่างสูงใหญ่กำยำปรากฏตัวขึ้นช้าๆ มันเป็นร่างโปร่งแสงสีน้ำตาลเข้ม มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ผมของเขาสั้นเกรียน ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเคราดกดำ ดวงตาคมกริบราวกับหินผา ในมือถือค้อนขนาดมหึมาที่ดูหนักอึ้ง“ยินดีต้อนรับ… ผู้กล้าทั้งสอง” เสียงท
Comments