ข้าคือทายาทของโรงปักผ้าอันดับหนึ่งแห่งเป่ยชาง

ข้าคือทายาทของโรงปักผ้าอันดับหนึ่งแห่งเป่ยชาง

last updateDernière mise à jour : 2025-08-24
Langue: Thai
goodnovel16goodnovel
Notes insuffisantes
56Chapitres
1.5KVues
Lire
Ajouter dans ma bibliothèque

Share:  

Report
Overview
Catalog
Scanner le code pour lire sur l'application

ข้าหยางเฟิ่งเซียนยึดถืออุมการณ์ ดีมาดีกลับ ร้ายมาต้องสั่งสอนให้เข็ดหลาบ รวมถึงบุรุษของข้าผู้นี้ผู้ใดกล้ารังแก ข้าจะช่วยเขาแก้แค้นอย่างสาสม “ฮูหยินรองผู้ชั่วช้าสมควรได้รับโทษ!”

Voir plus

Chapitre 1

ฝาแฝดหยาง-ฟง

ตั้งเริ่มก่อตั้งตระกูลจินและทำการค้าเกี่ยวกับผ้าไหม จนกระทั่งได้รับตำแหน่งตระกูลอันดับหนึ่ง ที่ได้รับการไว้วางพระราชหฤทัยจากฮ่องเต้ ในด้านการส่งผ้าไหมลวดลายต่าง ๆ ให้กับกองภูษา เพื่อใช้ในการตัดเย็บเป็นชุดฉลองพระองค์ นับแต่นั้นก็ไม่มีตระกูลใดสามารถโค่นล้มตระกูลจินได้

ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อบุตรสาวตระกูลจินทั้งสองคน ได้เกี่ยวดองกับตระกูลขุนนางใหญ่อย่างตระกูลหยาง ที่มีแม่สามีเป็นถึงองค์หญิงใหญ่แล้ว ตระกูลฟงก็มิได้น้อยหน้าเพราะเป็นตระกูลแม่ทัพของแคว้นเป่ยชาง บุตรชายบุตรสาวล้วนมีความสามารถไม่เป็นรองผู้ใด

ภายหลังลูกสะใภ้ของสองตระกูลให้กำเนิดทายาท ซึ่งเป็นบุตรฝาแฝดยิ่งสร้างความอิจฉาต่อผู้คนอีกเท่าตัว เนื่องจากฝาแฝดจากตระกูลหยางเป็นแฝดหงส์มังกร จึงเป็นที่รักใคร่ของฮ่องเต้และรัชทายาท ยิ่งไปกว่านั้นฝาแฝดจากจวนแม่ทัพฟง ก็ได้รับพระเมตตาจากอานิสงส์ของฝาแฝดที่เป็นญาติผู้น้องไปด้วย

นอกจากนี้ฝาแฝดทั้งสี่ยังเป็นพระสหาย ที่องค์ชายเจิ้งหลงโอรสในพระชายาเอกของรัชทายาท แต่กลับเป็นศัตรูคู่กัดกับองค์ชายเฉิงหานและองค์หญิงเจิ้นอี้ ตั้งแต่เด็กจนกระทั่งทั้งหมดเติบโต

เมื่อทั้งหมดอายุได้สิบหนาวนั้น เกิดเหตุการณ์ปะทะคารมที่ถือว่ารุนแรง เกินกว่าจะเป็นเรื่องล้อเล่นทั่วไป เนื่องจากองค์ชายเฉิงหานกับองค์หญิงเจิ้นอี้ มักจะเป็นฝ่ายหาเรื่องฝาแฝดสี่น้องเสมอ

“นี่ พวกเจ้าสองพี่น้องไม่รู้จักเข็ดหลาบหรืออย่างไร จะอิจฉาริษยาข้ากับพี่ชายไปถึงเมื่อใดกัน” หยางเฟิ่งเซียนที่ยืนประจันหน้าเอ่ยด้วยความระอาใจ

“หึ หยางเฟิ่งเซียนเจ้ากล้าพูดจาไม่มีมารยาทกับข้า ที่เป็นถึงองค์ชายของเชื้อพระวงศ์เชียวรึ”

“ทำไมน้องสาวของข้าจะพูดเช่นนี้ไม่ได้ ในเมื่อเป็นรับสั่งจากเสด็จปู่ที่ประทานอนุญาต ว่าข้ากับน้องสาวไม่จำเป็นต้องใช้คำชาศัพท์กับพวกเจ้า หรือแม้แต่องค์ชายองค์หญิงที่เป็นพระนัดดาเช่นพวกเจ้าสองคน”

ฟงเสวี่ยหลินย่อมปกป้องเข้าข้างญาติผู้น้องของตนเช่นกัน “ที่ญาติผู้น้องของกระหม่อมกล่าวนั้นถูกต้องแล้ว หากองค์ชายเฉิงหานกับองค์หญิงเจิ้นอี้ไม่พอใจ ก็เชิญไปทูลฟ้องฮ่องเต้เอาเองเถิด แล้วมาดูกันว่าใครกันแน่ที่จะถูกลงโทษพ่ะย่ะค่ะ”

“กรี๊ดด! พวกเจ้าบังอาจเกินไปแล้ว วันนี้ข้าจะให้คนสั่งสอนพวกเจ้าให้เข็ด” องค์หญิงเจิ้นอี้ไม่เคยแก้ไขนิสัยตนเอง เพราะมารดาที่เป็นอนุชายาไม่เคยสั่งสอนในทางที่ดี

แต่การทะเลาะวิวาทในครั้งนี้นั้น กลับมีท่านอ๋องสี่อย่างเป่ยชางเว่ยเฉวียน ทรงได้ยินคำพูดทุกคำอย่างชัดเจน และท่านอ๋องสี่ก็ทรงชื่นชมฝาแฝดผู้เป็นหลาน และฝาแฝดจากจวนตระกูลฟงอีกพระองค์

“หยุด! เกิดอันใดขึ้นระหว่างพวกเจ้า เหตุใดถึงได้ใช้วาจาโอหังคิดจะสั่งลงโทษผู้ใดตามใจชอบเช่นนี้”

เด็กทั้งเจ็ดคนเมื่อเห็นว่าเป็นผู้ใดที่เข้ามาในศาลา ก็โน้มตัวทำความเคารพตามลำดับอาวุโสทันที

“ถวายบังคมเสด็จอาพ่ะย่ะค่ะ /เพคะ”

“ถวายบังคมท่านอ๋องสี่พ่ะย่ะค่ะ”

“อืม บอกกับเปิ่นหวางมาสิว่าครั้งนี้ทะเลาะกันเรื่องอันใดอีก ถึงได้ส่งเสียงดังถึงขั้นจะสั่งให้มีการลงโทษตามอำเภอใจ”

องค์ชายเฉิงหานชิงตอบก่อนผู้ใด “ทูลเสด็จอาเจ้าฝาแฝดสองคนนี้ ใช้วาจาไม่ให้ความเคารพกับหลาน ทั้งยังแอบอ้างรับสั่งของเสด็จปู่ หลานแค่จะสั่งสอนพวกมันให้หลาบจำพ่ะย่ะค่ะ”

“เหลวไหล! เจ้าก็โตแล้วนะเฉิงหาน เปิ่นหวางไม่เชื่อว่าพระดำรัสของเสด็จปู่เจ้า ที่มีให้กับพี่น้องตระกูลหยางเจ้าจะไม่รับรู้ ทั้ง ๆ ที่ผู้คนทั่ววังหลวงหรือแม้แต่นอกวัง ยังรู้ว่าสองคนนี้มีสิทธิ์เทียบเท่าเชื้อพระวงศ์

แต่เจ้ากับน้องสาวยังบังอาจไม่เชื่อฟัง กล้าหาเรื่องพวกเขาอยู่ร่ำไป เหตุใดไม่ยอมรับความจริงเสียบ้าง ว่าพวกเจ้าความสามารถไม่อาจเทียบพวกเขาได้ และควรปรับปรุงแก้ไขที่ตนเองมิใช่กล่าวโทษผู้อื่นเช่นนี้”

องค์ชายเจิ้งหลงไม่อยากให้กลายเป็นเรื่องใหญ่โต จึงขอให้ท่านอ๋องสี่อย่าโกรธเคืองการกระทำของพี่น้องต่างมารดา “เสด็จอาอย่าได้ทรงกริ้วกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้เลย ถึงเฉิงหานกับเจิ้นอี้จะสั่งนางกำนัลหรือขันทีให้ลงมือ พวกเขาย่อมไม่กล้าทำตามอยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ

พวกหลานเองก็มิได้ถือโทษอันใด ที่ทั้งสองคนมักจะแสดงท่าทีเช่นนี้อยู่แล้ว จึงเป็นการโต้เถียงด้วยคำพูดตามประสาเท่านั้น เสด็จอาอย่าทรงเป็นกังวลให้ไม่สบายพระทัยเลยพ่ะย่ะค่ะ”

ท่านอ๋องสี่ถึงกับถอนพระทัยหนัก ๆ กับสิ่งที่พระนัดดาทั้งสองได้กระทำ ไม่ว่าการทะเลาะจะเกิดขึ้นสักกี่ครั้งก็ไม่เคยหลาบจำ

“เฮ้อ ยังคงเป็นเจิ้งหลงสินะ ที่เข้าใจสถานการณ์และไม่เก็บมาใส่ใจ เอาล่ะนี่ก็ถึงเวลาที่ทั้งสี่คนต้องกลับจวนแล้ว ป่านนี้รถม้าคงมารออยู่ที่หน้าประตูวังหลวงอยู่นาน พวกเจ้ารีบไปเถิดเรื่องวันนี้ก็ให้แล้วกันไป”

“ขอบพระทัยเสด็จอาหลานทูลลาพ่ะย่ะค่ะ /เพคะ”

“กระหม่อมสองคนทูลลาเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ”

หยางเฟิ่งเซียนเดินออกไปด้วยท่าทางสง่างาม ส่วนพี่ชายทั้งสามก็มีท่าทางองอาจสมเป็นชายชาตรี แต่หยางเฟิ่งเซียนกลับหันมามองคู่อริอีกครั้ง ไม่เพียงเท่านั้นยังแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ทั้งสองอีกครั้ง ซึ่งไม่ลืมกล่าวคำทิ้งท้ายโดยไม่มีเสียงอีกว่า ‘พวกเจ้าโดนทำโทษแน่’

เพราะท่านอ๋องสี่ยืนหันหลังให้กับพี่น้องฝาแฝด จึงไม่เห็นการกระทำนั้นของหยางเฟิ่งเซียน เมื่อสองพี่น้องคิดจะฟ้องสิ่งที่นางทำ ก็พบกับสายตาดุ ๆ และมีคำสั่งให้กลับตำหนักไปเสีย แต่ในที่นี้ยังมีอีกคนที่เห็นคำล้อเลียนของญาติผู้น้อง ก็คือองค์ชายเจิ้งหลงที่เชื่อว่าคำพูดของหยางเฟิ่งเซียนย่อมเป็นจริงแน่นอน

และแล้วคำพูดของหยางเฟิ่งเซียนก็เป็นจริง เมื่อเรื่องดังกล่าวไปถึงพระกรรณของรัชทายาท รวมถึงฮ่องเต้ที่มีรับสั่งให้รัชทายาทจัดการเรื่องโอรสและธิดาของตน

มิใช่เพียงองค์ชายเฉิงหานกับองค์หญิงเจิ้นอี้เท่านั้นที่ถูกเรียกพบ แต่ยังมีมารดาของทั้งสองคนหนึ่งมีตำแหน่งพระชายารอง อีกคนก็เป็นอนุชายาจากตระกูลขุนนาง ซึ่งเคยคิดว่าเป็นสตรีที่เข้าใจง่าย แต่ยามนี้องค์รัชทายาทกำลังทรงคิดทบทวนอย่างหนัก

“พวกเจ้าคงรู้ตัวแล้วกระมัง ว่าข้าเรียกมาพบด้วยเรื่องอันใด ต้องให้พูดย้ำให้ฟังอีกครั้งหรือไม่”

พระชายารองเยียนแสร้งทำไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น จึงถามกลับองค์รัชทายาทอย่างมีจริตมารยา “หม่อมฉันกับน้องหญิงหลีไม่ทราบจริง ๆ เพคะ ไท่จื่อมีเรื่องอันใดอยากให้หม่อมฉันสองคนช่วยหรือไม่เพคะ”

“นั่นสิเพคะไท่จื่อ หม่อมฉันกับพระชายารองไปเข้าเฝ้าไทเฮา ไม่ทราบว่าที่นี่เกิดเรื่องร้ายแรงอันใดเช่นนั้นหรือเพคะ” อนุชายาหลีมักจะลื่นไหลตามพระชายารองยามที่ต้องเอาตัวรอด

แต่คนที่เป็นถึงองค์รัชทายาทจะไม่รู้เท่าทันได้อย่างไร ในเมื่อที่ผ่านมาไม่เคยไว้วางใจสตรีจากสองตระกูลเลยสักนิด “หึ ต่อหน้าข้าพวกเจ้าสองคนยังใจกล้าเสแสร้งอีกหรือ มารยาร้อยเล่มเกวียนของสตรีช่างน่ากลัวไม่น้อย เช่นนั้นเจ้าเฉิงหานบอกข้ามาสิว่า วันนี้เจ้ากับเจิ้นอี้ไปก่อเรื่องอันใดไว้

พวกเจ้าสองคนมิใช่เด็กอายุสามหนาวแล้ว ควรจะรู้จักว่าสิ่งใดควรทำสิ่งใดไม่ควรทำ คิดว่าตนเองเป็นเชื้อพระวงศ์แล้วจะอวดเบ่งอำนาจไปทั่วก็ได้รึ ข้าเคยเตือนพวกเจ้าหลายครั้ง ว่าอย่าไปวุ่นวายกับพี่น้องฝาแฝดสองตระกูลนั่น”

องค์ชายเฉิงหานเห็นว่าบิดาไม่เข้าข้างตนก็ยิ่งโกรธเคือง “ก็เจ้าพวกฝาแฝดนั่นไม่ให้ความเคารพลูก เหตุใดเสด็จพ่อถึงไม่เข้าข้างลูก แต่กลับไปเข้าข้างพวกนั้นเสียทุกครั้งพ่ะย่ะค่ะ”

“ใช่เพคะเสด็จพ่อ พวกมันก็แค่สามัญชนที่โชคดีมีย่าเป็นเชื้อพระวงศ์ ถึงอย่างไรก็ควรเคารพข้ากับพี่รอง แต่พวกมันกลับเหิมเกริมต่อปากต่อคำอย่างไม่เกรงกลัวเลยนะเพคะ” องค์หญิงเจิ้นอี้ที่ถูกอนุชายาหลีสั่งสอนให้ใช้บารมีพระบิดา กล่าวเข้าข้างพี่ชายคนรองอย่างเอาแต่ใจ

พระชายารองเยียนและอนุชายาหลี ได้ยินบุตรธิดาของตนโต้เถียงกับพระบิดาเช่นนั้น ถึงกับเล่นงิ้วตบตาทำเป็นดุด่าเด็กทั้งสอง “เฉิงหาน เจิ้นอี้ พวกเจ้าสองคนขออภัยพระบิดาเดี๋ยวนี้ เหตุใดถึงไม่เชื่อฟังที่พระบิดาสอน แม่บอกพวกเจ้าไปหลายครั้งแล้วมิใช่หรือ”

“หยุดเสแสร้งได้แล้ว! คิดว่าข้าไม่รู้หรือว่าพวกเจ้าสั่งสอนบุตรอย่างไร ในเมื่อไม่ยอมแก้ไขเช่นนั้นครั้งนี้ จะต้องถูกกักบริเวณอยู่ในตำหนักเป็นเวลาสามเดือน และคัดกฎมารยาทของวังหลวงคนละยี่สิบจบ

ส่วนมารดาของพวกเจ้าสองคนหลังจากนี้ยังสอนบุตรผิด ๆ อีก ไม่ยอมแก้ไขให้เป็นไปในทางที่ถูกต้อง จงระวังตัวเอาไว้ให้ดีวันไหนที่ข้าหมดความอดทน สิ่งที่พวกเจ้าจะได้รับคือการส่งกลับจวน” รัชทายาทมีรับสั่งลงโทษโอรสธิดาทั้งสองเสร็จ ก็เสด็จกลับตำหนักของตนทันที 

และข่าวการลงโทษโอรสธิดาของรัชทายาทก็พระกรรณฮ่องเต้เช่นกัน เพราะพระนัดดาคนโปรดมีนิสัยตรงไปตรงมา ไม่เคยหาเรื่องรังแกผู้ใดตั้งแต่เด็ก บางครายังแสดงท่าทีเป็นผู้พิทักษ์คุณธรรมเสียมากกว่า

เมื่อฮ่องเต้ทรงทราบจึงไม่เก็บมาใส่พระทัยอีก และยังทรงหวังว่าพระนัดดาทั้งสองจากตำหนักบูรพา จะรู้จักคิดและปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นได้ ทางด้านสี่พี่น้องฝาแฝดกำลังนั่งจับเข่าพูดคุยเรื่องของคู่อริเช่นกัน

“เฮ้อ ข้าล่ะเบื่อกับสองพี่น้องคู่นี้เสียจริง ตั้งแต่สี่หนาวจนถึงยามนี้ผ่านมาหกปีก็ยังเป็นเช่นเดิม คอยหาเรื่องกับพวกเจ้าสองคนไม่เปลี่ยน” ฟงเสวี่ยหลินพูดขึ้นด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายจริง

ฟงเหยาเหวินก็เห็นด้วยกับพี่ชายของตน แต่ก็พูดอย่างคนที่ชอบอ่านตำรา “ทำอย่างไรได้มีมารดาขี้อิจฉาและมักใหญ่ใฝ่สูง ย่อมสั่งสอนบุตรให้เป็นเช่นตนเองลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นของจริง”

หยางเฟิ่งเซียนมิใช่ไม่เบื่อกับเรื่องเดิม ๆ จากญาติทั้งสอง “ครั้งนี้คงถูกเสด็จอารัชทายาทลงโทษหนักกว่าทุกครั้ง ข้าเองก็ไม่อยากจะทะเลาะกับพวกเขานักหรอก ถึงจะหลีกเลี่ยงแค่ไหนแต่ก็ต้องมีวันได้พบเจออยู่ดีเจ้าค่ะ”

หยางซิวหรงก็ไม่ต่างกันนักแต่เขานึกบางอย่างขึ้นมาได้ จึงบอกกับน้องสาวและญาติผู้พี่ด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ข้าว่าเอาเช่นนี้ก็แล้วกัน ครั้งหน้าหากได้พบเจอสองคนนั่นโดยบังเอิญอีก พวกเราหลบเลี่ยงด้วยการใช้วรยุทธ์ที่ท่านแม่สอน อย่างไรเสียสองพี่น้องนั่นย่อมวิ่งตามพวกเราไม่ทันอยู่แล้ว ทุกคนเห็นด้วยกับข้าหรือไม่”

“ข้าเห็นด้วย! /เป็นวิธีที่ดีมาก! /พี่ชายของข้าเก่งที่สุด!”

“ฮ่า ๆ ๆ”

เสียงของพี่น้องทั้งสี่ภายในรถม้า ที่หารือทางออกร่วมกันมีหรือที่ผู้ติดตามจะไม่ได้ยิน แต่พวกเขามิได้คิดว่าสิ่งที่ได้ยินเป็นเรื่องไร้สาระ เพราะเจ้านายตัวน้อยทั้งสี่ล้วนมีความคิดเป็นของตน มิหนำซ้ำยังฉลาดหลักแหลมมีความจำเป็นเลิศเหนือเด็กทั่วไป

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสี่พี่น้องที่ผ่านการฝึกฝนจากซูอันมาหลายปี คนนอกมิเคยรู้เลยว่าพวกเขายามนี้นั้น ถือว่ามีความสามารถด้านวรยุทธ์ ไม่ด้อยไปกว่าหัวหน้านายกองในกองทัพแม้แต่น้อย

Déplier
Chapitre suivant
Télécharger

Latest chapter

Plus de chapitres

Commentaires

Pas de commentaire
56
ฝาแฝดหยาง-ฟง
ตั้งเริ่มก่อตั้งตระกูลจินและทำการค้าเกี่ยวกับผ้าไหม จนกระทั่งได้รับตำแหน่งตระกูลอันดับหนึ่ง ที่ได้รับการไว้วางพระราชหฤทัยจากฮ่องเต้ ในด้านการส่งผ้าไหมลวดลายต่าง ๆ ให้กับกองภูษา เพื่อใช้ในการตัดเย็บเป็นชุดฉลองพระองค์ นับแต่นั้นก็ไม่มีตระกูลใดสามารถโค่นล้มตระกูลจินได้ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อบุตรสาวตระกูลจินทั้งสองคน ได้เกี่ยวดองกับตระกูลขุนนางใหญ่อย่างตระกูลหยาง ที่มีแม่สามีเป็นถึงองค์หญิงใหญ่แล้ว ตระกูลฟงก็มิได้น้อยหน้าเพราะเป็นตระกูลแม่ทัพของแคว้นเป่ยชาง บุตรชายบุตรสาวล้วนมีความสามารถไม่เป็นรองผู้ใดภายหลังลูกสะใภ้ของสองตระกูลให้กำเนิดทายาท ซึ่งเป็นบุตรฝาแฝดยิ่งสร้างความอิจฉาต่อผู้คนอีกเท่าตัว เนื่องจากฝาแฝดจากตระกูลหยางเป็นแฝดหงส์มังกร จึงเป็นที่รักใคร่ของฮ่องเต้และรัชทายาท ยิ่งไปกว่านั้นฝาแฝดจากจวนแม่ทัพฟง ก็ได้รับพระเมตตาจากอานิสงส์ของฝาแฝดที่เป็นญาติผู้น้องไปด้วยนอกจากนี้ฝาแฝดทั้งสี่ยังเป็นพระสหาย ที่องค์ชายเจิ้งหลงโอรสในพระชายาเอกของรัชทายาท แต่กลับเป็นศัตรูคู่กัดกับองค์ชายเฉิงหานและองค์หญิงเจิ้นอี้ ตั้งแต่เด็กจนกระทั่งทั้งหมดเติบโตเมื่อทั้งหมดอายุได้สิบหนาวนั้น เกิดเหตุการณ์ปะทะคา
last updateDernière mise à jour : 2025-08-06
Read More
ญาติผู้พี่ของข้าสอบได้จอหงวนล่ะ
ความครึกครื้นภายในจวนตระกูลหยาง ไม่ว่าจะผ่านมานับสิบปีจนบุตรหลานฝาแฝดเติบโต จนผ่านวัยปักปิ่นสวมกวานกันทั้คู่แล้ว แต่การหยอกล้อระหว่างหย่างไท่หมิงกับบิดา ไม่ว่าเมื่อก่อนจะเป็นเช่นไรในปัจจุบันยังคงเป็นเช่นนั้นไม่เปลี่ยน“ท่านแม่ท่านยังงดงามถึงเพียงนี้ เหตุใดไม่หาบุรุษหน้าตาดีและอ่อนเยาว์มาปรนนิบัติบ้างขอรับ ปล่อยให้ข้างกายมีชายบำเรอแก่ผมขาวมานั่งข้าง ๆ น่ามองที่ใดกัน”หยางหย่งชางใช้หางตามองบุตรชายอย่างหมั่นไส้ จึงกล่าววาจาประชดประชันสิ่งที่บุตรชายก็เป็นเหมือนตน “เหอะ ก่อนจะว่าข้าตัวเจ้าก็ไม่ต่างกันนะอาหมิง ดูลูกสะใภ้สิยามนี้งดงามมากกว่าแต่ก่อนเสียอีก หากมีบุรุษที่ไม่รู้จักพบเห็นยังคิดว่านางเป็นคุณหนูในห้องหอ มิใช่สตรีออกเรือนมีสามีและบุตรชายบุตรสาวสองคนแน่ ๆ”“ท่านพ่อนี่ท่านอยากให้อันอันมีสามีใหม่เช่นนั้นหรือขอรับ”“อือ ทำไม เจ้ายังอยากให้เมียข้ามีบุรุษอื่นมาปรนนิบัติ ถ้าลูกสะใภ้อยากมีสามีใหม่บ้างก็สมเหตุสมผลมิใช่หรือ”“หยางหย่งชาง! /หยางไท่หมิง!”เฮือกก !!องค์หญิงใหญ่กับซูอันต้องรีบห้ามสามีของตน ขืนปล่อยให้ทั้งสองลั่นแกล้งกันไปมาต่อ คงไม่ต้องพูดคุยเรื่องอื่น ๆ กันพอดี“ท่านพี่ท่านอายุ
last updateDernière mise à jour : 2025-08-06
Read More
ความลับของมารดา
เพราะอู๋ซวนบอกว่าเป็นเรื่องสำคัญที่บิดามารดาต้องการพบ เมื่อกลับมาถึงจวนสองพี่น้องจึงตรงไปยังเรือนฉืออวิ๋นเก๋อ ซึ่งยามนี้หย่างไท่หมิงพูดคุยกับซูอันเรื่องกิจการผ้าไหมไปพลาง ๆหยางซิวหรงกับหยางเฟิ่งเซียนเข้ามาถึงห้องรับรอง ก็ทำความบิดามารดาอย่างรู้มารยาท แม้ใครจะมองว่าทั้งสองถูกเลี้ยงดูอย่างตามใจ แต่ก็แค่คนส่วนน้อยที่ไม่รู้อะไรเสียมากกว่า“คารวะท่านพ่อ ท่านแม่ขอรับ /เจ้าค่ะ”“มากันแล้วหรือรีบเข้ามานั่งเถิด พ่อกับแม่รอพวกเจ้าอยู่นานแล้วนะ” หยางไท่หมิงที่เปลี่ยนสีหน้าเป็นเคร่งขรึม เมื่อบุตรทั้งสองมาพบตนที่เรือนอย่างรวดเร็วเพื่อมิให้เกิดความเคร่งเครียดจนเกินไป ซูอันจึงถามเรื่องการสอบของฟงเหยาเหวิน “เป็นอย่างไรเซียนเอ๋อร์ ผลการสอบของพี่เหยาเหวินของเจ้าได้อย่างที่ต้องการหรือไม่”พอได้ยินคำถามของมารดาถึงเรื่องนี้ หยางเฟิ่งเซียนถึงกับคุยโวความเก่งกาจของญาติผู้พี่ “ท่านแม่เจ้าคะพี่เหยาเหวินเก่งกาจมาก เพราะว่าคนที่สอบได้อันดับหนึ่งก็คือพี่เหยาเหวินเจ้าค่ะ”“โอ๋ว ที่แท้จอหงวนปีนี้ก็เป็นของอาเหวินหรอกหรือนี่” ซูอันไม่แปลกใจหากตำแหน่งนี้จะเป็นหลานชายของนาง เพราะฟงเหยาเหวินชอบอ่านตำราเป็นชีวิตจิตใจ
last updateDernière mise à jour : 2025-08-06
Read More
บอกข่าวดีและเตรียมงานเลี้ยง
ที่จวนตระกูลหยางสองพี่น้องฝาแฝด กำลังสนุกสนานกับสิ่งแปลกใหม่ในมิติของมารดา ทั้งยังทดลองวาดลวดลายง่าย ๆ เพื่อให้เครื่องจักรในโรงงานทำออกมา ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของทั้งสองคนอย่างมากเพียงแต่ยังมีสิ่งที่เฝ้ารอคอยที่จะได้รับจากมารดา นั่นก็คือสิ่งของที่จะใช้เป็นมิติเก็บของให้กับพวกตนสองพี่น้อง ซึ่งทั้งสองต้องรอว่าผู้ช่วยของมารดาจะทำได้หรือไม่ส่วนทางด้านจวนตระกูลฟงของฝาแฝดอีกหนึ่งคู่ กำลังเฝ้ารอหลานชายทั้งสองกลับมา หากเป็นจวนอื่นย่อมส่งบ่าวไพร่ไปดูผลการสอบ แต่สองพี่น้องกลับต้องการไปดูด้วยตนเองแม่ทัพฟงที่เริ่มจะเวียนศีรษะขึ้นทุกขณะ เมื่อบุตรชายอย่างฟงเฉิงฮ่าวเดินไปเดินมาไม่หยุด เนื่องจากตื่นเต้นกับผลการสอบของบุตรชายคนนี้ ภายหลังดีใจไปเมื่อหลายเดือนก่อนเรื่องของฟงเสวี่ยหลิน ที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองแม่ทัพ“ฮ่าวเอ๋อร์เจ้านั่งลงเถิด เดินไปเดินมาพ่อเวียนหัวไปหมดแล้วนะ”“โธ่ ท่านพ่อก็ข้าตื่นเต้นจนนั่งเฉย ๆ ไม่ได้นี่นา จึงต้องระบายออกด้วยการเดินไปเดินมาเช่นนี้นะขอรับ”“เฮ้อ เจ้าลูกคนนี้นี่จริง ๆ เลย”เยี่ยนหลิงที่คิดเช่นเดียวกับพ่อสามี จึงเรียกสามีกลับไปนั่งด้วยน้ำเสียงดุ ๆ อย่างที่เคยทำ “ท่านพี่
last updateDernière mise à jour : 2025-08-06
Read More
ในที่สุดก็มีมิติเหมือนมารดา
ในวันที่ตระกูลฟงได้รับข่าวน่ายินดี เมื่อมีจอหงวนคนใหม่อยู่ในตระกูลแม่ทัพใหญ่ การหารือเรื่องงานเลี้ยงจึงเสร็จสิ้นภายในวันเดียวกัน จินเยี่ยนหลิงกับแม่สามีช่วยกันทำงานไม่ให้ตกหล่น รายชื่อแขกที่เชิญมาร่วมงานได้มอบให้พ่อบ้านจัดการเป็นที่เรียบร้อยมีเพียงหนังสือเชิญของตระกูลหยาง ที่สองพี่น้องฝาแฝดตระกูลฟงนำไปส่งด้วยตนเอง เพื่อเยี่ยมคารวะท่านน้ากับน้าเขย แต่สิ่งที่ทุกคนต่างรู้กันดีย่อมหนีไม่พ้นญาติผู้น้อง ไม่ว่าครั้งไหนทั้งสี่คนมักจะนั่งพูดคุยจนลืมเวลาได้เสมอ“พวกเจ้าสองคนอย่าไปถึงงานเลี้ยงช้านักล่ะ พี่สั่งให้พ่อครัวทำอาหารที่พวกเจ้าชอบไว้หลายอย่าง ไปถึงช้าจะถูกคนอื่นแย่งกินจนหมดนะ”“พี่เหยาเหวินท่านไม่ต้องห่วง ข้ากับพี่ใหญ่จะไปถึงเป็นคนแรกแน่นอนเจ้าค่ะ”แต่หยางซิวหรงกลับคิดต่างกับน้องสาวเล็กน้อย “เซียนเอ๋อร์แน่ใจหรือว่าเจ้าจะเป็นคนแรกที่ไปถึง พี่กลับคิดว่าคงมีคุณหนูอีกหลายตระกูล ที่เร่งเร้าให้บิดามารดาพาไปร่วมงานแต่หัววัน เมื่อเจ้าไปถึงพวกนางก็เดินให้เกลื่อนจวนแล้วกระมัง”“เรื่องนี้ข้าเห็นด้วยกับอาหรงนะ นอกจากตระกูลที่เป็นมิตรกับท่านปู่แล้ว อย่างไรเสียพวกที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามจะไม่เชิญก็ไม่ได้
last updateDernière mise à jour : 2025-08-07
Read More
สองสตรีที่เกลียดหยางเฟิ่งเซียน
เรื่องข่าวดีที่บุตรชายฝาแฝดคนเล็กของเยี่ยนหลิงกับฟงเฉิงฮ่าว สามารถสอบได้ตำแหน่งจอหงวนถูกส่งไปยังตระกูลจิน ที่ยังคงคอยดูแลร้านผ้าไหมอยู่ในเมืองผู่เถียน สองสามีภรรยาอย่างมู่ถงและจือเหมย ยังคงทำงานที่ตนเองรักอย่างมีความสุขทุก ๆ สามเดือนทั้งสองคนจะเดินทางเข้าเมืองหลวง เพื่อไปเยี่ยมเยียนบุตรหลานเป็นประจำ ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่บุตรสาวออกเรือน และย้ายไปอยู่บ้านสามีตามธรรมเนียม แม้ซูอันกับเยี่ยนหลิงอยากให้บิดามารดาไปอยู่เมืองหลวง แต่ทั้งสองกลับชอบอยู่ที่เมืองผู่เถียนเสียมากกว่าเนื่องจากข่าวดีส่งมาในเวลากระชั้นชิดเกินไป มู่ถงกับจือเหมยจึงเลือกส่งของขวัญให้กับหลานชาย เพราะคงไม่สามารถเดินทางในเวลาอันสั้นได้ และของขวัญที่ส่งให้หลานชายอย่างฟงเหยาเหวิน ย่อมเป็นผ้าไหมปักลายอย่างประณีตงดงามอย่างแน่แท้ทางด้านเยี่ยนหลิงก็ช่วยแม่สามีจัดเตรียมงานเลี้ยง ทุกอย่างในงานล้วนทำอย่างพิถีพิถันมากที่สุด ด้วยไม่ต้องการทำให้ตระกูลฟงขายหน้าได้ อย่างไรเสียงานเลี้ยงครั้งนี้องค์หญิงใหญ่ย่อมเสด็จมาเข้าร่วม เพราะทั้งสองตระกูลมีสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นเป็นเวลาหลายปี ตั้งแต่บุตรชายจนมาถึงหลาน ๆ ของทั้งสองตระกูลแขกเ
last updateDernière mise à jour : 2025-08-07
Read More
แผนการตื้น ๆ มีมือที่สามรับรู้
และแล้วงานเลี้ยงของจวนตระกูลฟงก็มาถึง แขกเหรื่อมากมายหลายตระกูลต่างมาร่วมแสดงความยินดี ซึ่งในมือของทุกตระกูลจะมีกล่องของขวัญ เพื่อเป็นการแสดงความจริงใจที่บางคนแอบแฝงเรื่องอื่น ๆ เพียงแค่สิ่งที่ผู้คนได้เห็นเป็นเพียงหน้ากากเท่านั้นส่วนหยางเฟิ่งเซียนกับพี่ชายของตน ได้ชักชวนบิดาและมารดามายังจวนญาติผู้พี่ ก่อนจะถึงเวลาเริ่มงานเลี้ยงหนึ่งชั่วยาม เพื่อนำอุปกรณ์พิเศษที่จีจี้จัดเตรียมไว้ล่วงหน้า เข้าไปติดตามมุมต่าง ๆ ที่คาดว่าจะมีคนลงมือทำเรื่องไม่ดีในวันนี้ซูอันนำกล้องวงจรปิดขนาดเล็ก ใส่ไว้ในลังไม้จำนวนนับร้อยชิ้น และกำชับกับบุตรทั้งสองก่อนลงจากรถม้าอีกเล็กน้อย “หรงเอ๋อร์ เซียนเอ๋อร์ อย่าลืมสิ่งที่แม่เคยสอนพวกเจ้าไว้ล่ะ หากมีคนคิดทำร้ายลูกในงานเลี้ยง...”“ถ้าหากลูกถูกคนกลั้นแกล้งหรือลอบทำร้ายในงานเลี้ยง อย่าได้ตอบโต้กลับด้วยความรุนแรง จงทำตัวให้เป็นคนที่น่าสงสาร จากนั้นค่อยเอาคืนอย่างสาสมใช่หรือไม่เจ้าคะ” หยางเฟิ่งเซียนย่อมจดจำได้กับสิ่งที่มารดาต้องการบอกกับตน ยกเว้นหากถูกรังแกซึ่ง ๆ หน้าเท่านั้น นางถึงจะลงมือจัดการอย่างตรงไปตรงมาไม่มีละเว้น“หึ ใช่ ในเมื่อพวกลูกจดจำได้ก็ดีแล้ว แม้จะเป็นที่
last updateDernière mise à jour : 2025-08-07
Read More
ใช้วิธีเดียวกันง่ายกว่า
ส่วนเสี่ยวขุยที่เดินตามหาเสี่ยวฮัวในที่สุดก็เจอตัว จึงพากลับมาพบเมิ่งฟางเอินเพื่อรับภารกิจตามที่รับปากไว้ โดยที่แขกในงานคิดว่าเป็นการตามสาวใช้ มาช่วยเหลือเรื่องอาหารหรือน้ำชาที่พร่องไป มิได้คิดว่าจะมีแผนการสร้างความวุ่นวายแต่อย่างใด“คารวะคุณหนูทั้งสอง ท่านต้องการให้บ่าวทำสิ่งใดหรือเจ้าคะ”เมิ่งฟางเอินไม่รอช้ารีบสั่งการกับเสี่ยวฮัว ตามแผนการที่นางได้เตรียมเอาไว้ เพื่อสร้างเหตุการณ์ให้แขกเหรื่อในงานทั้งหลาย ได้รับรู้ว่าหยางเฟิ่งเซียนมิใช่สตรีที่ดีงามอันใด“เจ้านำกำยานไร้กลิ่นนี้ไปจุดไว้ในเรือนรับรองหลังใดก็ได้ แล้วไปตามบ่าวที่ดูแลม้าของจวนให้เข้าไปอยู่รอด้านใน จากนั้นเจ้าจงกลับมาในงานถือถาดกาน้ำชา แสร้งสะดุดไปทางหยางเฟิ่งเซียน เมื่อชุดของนางเปียกชื้นเจ้ารีบอาสาพานางไปเปลี่ยนชุดยังห้องรับรอง พอผ่านไปสักหนึ่งเค่อก็ส่งเสียงร้องดัง ๆ ข้ากับสหายจะรีบตามไปที่นั่น”เมื่อรู้ว่าเป็นภารกิจที่ไม่ยากเกินความสามารถ เสี่ยวฮัวยกยิ้มอย่างมั่นใจว่าตนเองทำสำเร็จได้แน่ จึงลองเอ่ยถึงเรื่องค่าจ้างที่เหลือกับเซิ่งฟางเอิน “คุณหนูรอฟังสัญญาณจากบ่าวได้เลยเจ้าค่ะ ว่าแต่ค่าจ้างที่เหลือของบ่าว...”“พรุ่งนี้เช้ามื
last updateDernière mise à jour : 2025-08-08
Read More
กรรมนั้นคืนสนอง 1/1
ขณะที่แขกเหรื่อกำลังสนทนากันอย่างออกรส ภายหลังจากองค์หญิงใหญ่ได้เสด็จกลับจวนไปได้ไม่ถึงหนึ่งเค่อ ซึ่งยามนี้ในวงสนทนามีเหล่าฮูหยินหลายตระกูล ต่างกล่าวชื่นชมบุตรสาวของตนไปมาตั้งแต่เริ่มงานเลี้ยง เพื่อเป็นการมองหาบุรุษให้กับบุตรสาวของตนหนึ่งในนั้นยังมีซูอันที่นั่งอยู่ข้างกายพี่สาวโดยไม่พูดสิ่งใด พวกนางมิได้ตอบรับหรือถามอันใดเพิ่มเติม ทำเพียงแค่ยิ้มบางให้กับบางคำถามเท่านั้น เนื่องจากสองพี่น้องตระกูลจิน ไม่เคยคิดบังคับบุตรของตนในเรื่องของการเลือกคู่ครองส่วนเสี่ยวฮัวที่ตั้งหน้าตั้งหน้าวิ่งมาจากเรือนรับรอง นางย่อมรู้ว่าควรวิ่งไปหาผู้ใดเพื่อรายงานเรื่องที่เกิดขึ้น แฮ่ก ๆ ๆ “ฮูหยินเจ้าคะเกิดเรื่องใหญ่แล้วเจ้าค่ะ ทะ ทะ ที่เรือนรับรองมีคนทำเรื่องบัดสีอยู่ในนั้นเจ้าค่ะ”พรึบ! “เจ้าว่ามีเรื่องอันใดเกิดขึ้นในจวนของข้านะ พูดมาให้ชัดว่ามันเป็นเรื่องอะไรกันแน่!” เหอฮูหยินมารดาของฟงเฉิงฮ่าวแทบนั่งไม่ติด เมื่อได้ยินสาวใช้ของจวนวิ่งหน้าตาตื่น เข้ามารายงานเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น“เมื่อครู่บ่าวพาคุณหนูหยางไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เรือนรับรอง แต่บ่าวกับคุณหนูหยางกลับได้ยินเสียงบุรุษกับสตรี กำลังทำเรื่องบัดสีอย
last updateDernière mise à jour : 2025-08-08
Read More
กรรมนั้นคืนสนอง 1/2
หยางเฟิ่งเซียนเดินไปยืนกับมารดาด้วยท่าทางเขินอาย ส่วนเสี่ยวฮัวรีบวิ่งไปตามบ่าวไพร่อย่างรวดเร็ว และประตูเรือนรับรองก็ถูกเปิดโดยแม่นมฟาง หลังจากบานประตูเปิดกว้างสิ่งที่พบเห็น ยิ่งสร้างความโกรธเคืองให้กับเหอฮูหยินอย่างมากแต่ว่าภาพตรงหน้าทำเอาสองฮูหยิน ที่ติดตามมาถึงกับตกตะลึงจนอยากหยุดหายใจ เนื่องจากสตรีสองในสี่ที่อยู่ด้านในนั้น กลับกลายเป็นบุตรสาวของพวกนางเสียเอง พวกนางไม่คิดมาก่อนว่าบุตรสาวของตน จะคิดวางแผนกลั่นแกล้งคนในในจวนตระกูลฟง จนต้องรับผลจากแผนสกปรกเสียเอง หากสามีของพวกนางรู้เข้าต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่เหอฮูหยินยังไม่ทันได้กล่าวสิ่งใด ก็มีเสียงจากด้านหลังกรีดร้องและวิ่งเข้าไป เพื่อแยกคนด้านในออกจากบุรุษ ที่พวกนางดูอย่างไรก็มิใช่คุณชายตระกูลสูงศักดิ์ ที่สำคัญคนภายในห้องนี้ล้วนเปลือยกายล่อนจ้อน ไม่เว้นแม้แต่สาวใช้ของบุตรสาวพวกนางปัง! “กรี๊ดดด! เอินเอ๋อร์ /หรานเอ๋อร์!”“เจ้าคนต่ำช้าออกไปให้ห่างลูกของข้านะ ออกไป๊ เอินเอ๋อร์ ๆ เจ้าอย่าทำเช่นนี้บอกแม่มาเถิดว่าใครที่ทำร้ายเจ้า แม่จะให้คนไปตามจับตัวพวกมามาลงโทษ”“หรานเอ๋อร์ ๆ ลูกแม่” เพียะ! เพียะ! “ออกไปให้พ้นพวกสกปรกอย่ามาแตะลูกสาวของข
last updateDernière mise à jour : 2025-08-08
Read More
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status