ทะลุนิยายมาเป็นคุณแม่ลูกสี่ นำพาครอบครัวสู่ความรุ่งโรจน์

ทะลุนิยายมาเป็นคุณแม่ลูกสี่ นำพาครอบครัวสู่ความรุ่งโรจน์

last updateDernière mise à jour : 2025-09-09
Par:  ต้าซ้อEn cours
Langue: Thai
goodnovel12goodnovel
Notes insuffisantes
44Chapitres
1.0KVues
Lire
Ajouter dans ma bibliothèque

Share:  

Report
Overview
Catalog
Scanner le code pour lire sur l'application

นางหลุดเข้ามาในนิยายกลายเป็นแม่ตัวร้ายที่มีลูกหลานล้อมรอบ ภารกิจคือสร้างครอบครัวให้มั่งคั่งเพื่อแลกกับการกลับบ้าน แต่เมื่อใจผูกพันจนไม่อาจจาก..โชคชะตากำลังบังคับให้นางต้องจากพวกเขาไปอย่างเจ็บปวด

Voir plus

Chapitre 1

หลี่เหมย

* ไรต์ขออนุญาตแจ้งว่านิยายเรื่องนี้ไรต์เน้นเรื่องความสัมพันธ์ของแม่ลูกเป็นหลัก ถึงช่วงท้ายจะมีคู่ครองของหลี่เหมยเข้ามาเติมเต็ม แต่เรื่องราวทั้งหมดก็ล้วนเป็นเนื้อหาของหลี่เหมยกับลูกหลานของเธอเป็นส่วนใหญ่ ฝากนักอ่านทุกท่านติดตามให้กำลังใจด้วยนะคะ

ท่ามกลางความเงียบสงบของวิลล่าหรูย่านชานเมือง หลี่เหมยในวัยสามสิบแปดปีกำลังใช้เวลาช่วงบ่ายอย่างผ่อนคลายในห้องทำงานที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่แฝงไว้ซึ่งความสง่างามตามรสนิยมของเธอ 

แสงแดดยามบ่ายสายส่องผ่านหน้าต่างบานใหญ่เข้ามาต้องกับพื้นกระเบื้องเนื้อดี ทำให้เกิดเป็นเงาของต้นไม้ใหญ่หน้าบ้านที่พริ้วไหวตามแรงลมเบา ๆ หลี่เหมยในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงผ้าเนื้อดี กำลังนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานตัวโปรด 

สายตาจับจ้องอยู่ที่หน้าจอ MacBook รุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดหน้าเว็บไซต์นิยายออนไลน์ค้างไว้ นิ้วเรียวสวยที่เพิ่งถูกบำรุงด้วยครีมราคาแพงกำลังกดเลื่อนหน้าจออย่างรวดเร็ว ส่วนมืออีกข้างก็ยกแก้วกาแฟเย็นขึ้นมาจิบอย่างเชื่องช้า

กลิ่นหอมของเมล็ดกาแฟชั้นดีอบอวลอยู่ในอากาศผสมผสานกับกลิ่นอายความเย็นจากเครื่องปรับอากาศที่ทำงานอย่างต่อเนื่อง นี่คือช่วงเวลาที่เธอชื่นชอบที่สุดในแต่ละวัน 

ช่วงเวลาที่ได้ปลีกวิเวกจากความวุ่นวายของห้างค้าส่งขนาดใหญ่ที่เธอเป็นเจ้าของ ห้างที่ครั้งหนึ่งเธอเกือยบสูญเสียมันไปตอนที่พ่อแม่ตายจาก แต่ก่อร่างสร้างตัวจากความมุมานะและความเฉียบแหลมของเธอเอง เธอสร้างมันขึ้นมาด้วยสองมืออีกครั้ง จนกลายเป็นอาณาจักรที่มั่นคง เสียดายที่พ่อแม่ตายายจากไปก่อน ยังไม่ทันได้เห็นความสำเร็จของเธอ

แต่แล้วสีหน้าของหลี่เหมยก็เปลี่ยนไปจากเดิมที่ผ่อนคลายกลายเป็นบึ้งตึง ดวงตาเรียวสวยหรี่ลงเล็กน้อยด้วยความไม่พอใจ นิ้วที่กำลังกดเลื่อนหน้าจออยู่ก็หยุดชะงักลงตรงบรรทัดหนึ่งของนิยายที่เธอกำลังอ่านอยู่พอดี 

เนื้อหาในบรรทัดนั้นบอกเล่าเรื่องราวของหญิงสาวที่มีชื่อเดียวกับเธอว่า หลี่เหมย ผู้ซึ่งมีความประพฤติแย่จนน่ารังเกียจเป็นที่สุด หญิงคนนี้คอยกดขี่ข่มเหงลูกชายคนโตและคนที่สามอย่างไม่ไยดี 

ในขณะที่ตามใจลูกชายคนรองที่เอาแต่ได้และไม่เห็นใจพี่น้อง แถมนางยังมีนิสัยชอบขนของกินของใช้ที่ควรจะเป็นของลูก ๆ กลับไปให้บ้านเดิมของตนเอง จนลูก ๆ ต้องอดมื้อกินมื้อ 

และเรื่องราวที่เธอกำลังอ่านอยู่นี้ก็มาถึงจุดที่ หลี่เหมยกำลังจะเอาลูกสาวคนเล็กกับหลานชายทั้งสองคนไปขาย เพื่อหาเงินให้หลานชายบ้านเดิมไปเรียนหนังสือ

"นี่มันเกินไปแล้วนะ! นางนี่มันไม่ใช่มนุษย์แล้ว!"

หลี่เหมยในยุคปัจจุบันกัดฟันกรอดด้วยความโกรธ เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีคนแบบนี้ ยังดีที่เป็นแค่ตัวละครในนิยาย ผู้หญิงคนนี้ไม่เพียงแต่ไร้ความเมตตาต่อลูกของตัวเอง แต่ยังเห็นแก่ตัวและไร้สามัญสำนึกเป็นที่สุด

ฉากต่อไปที่ปรากฏบนหน้าจอคือฉากที่กำลังจะเกิดโศกนาฏกรรม หลี่ซาน ลูกชายคนโตของหลี่เหมยในนิยายพยายามจะปกป้องน้องสาวและลูก ๆ ของตัวเองจากมารดาใจยักษ์ 

เขาอ้อนวอนขอร้องอย่างน่าเวทนา แต่หลี่เหมยในนิยายก็ไม่สนใจ นางพยายามจะฉุดกระชากหลี่หลิน ลูกสาวคนเล็กออกไปให้ได้ ในที่สุดจึงเกิดการยื้อยุดฉุดกระชากกันขึ้นอย่างรุนแรง

"ปล่อยเถิดขอรับท่านแม่! ได้โปรดอย่าทำเช่นนี้เลย!" 

เสียงของหลี่ซานร้องขอด้วยความเจ็บปวด

"แกนี่มันไร้ประโยชน์! ถอยไป!" 

เสียงของหลี่เหมยในนิยายตอบกลับอย่างเย็นชา

ในขณะที่ยื้อยุดกันอยู่นั้น หลี่ซานก็เผลอผลักมารดาออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจเพื่อป้องกันตัวเองและน้องสาว ร่างของหลี่เหมยเสียหลักเซถลาไปปะทะเข้ากับเหลี่ยมกำแพงหินของบ้านจนศีรษะกระแทกอย่างจัง เลือดสีแดงฉานค่อย ๆ ไหลซึมออกมาจากรอยแตกบนศีรษะ ร่างของนางล้มลงกองกับพื้นอย่างเงียบงัน

"ท่านแม่! ท่านแม่ขอรับ!"

"ท่านแม่!"

"ท่านย่า!"

เสียงร้องไห้ระงมของลูก ๆ และหลาน ๆ ดังขึ้นไปทั่วบริเวณ หลี่ซานทรุดตัวลงคุกเข่ากอดร่างมารดาที่แน่นิ่งไปแล้วเอาไว้ในอ้อมกอด เขาร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างน่าเวทนาโทษตัวเองที่ไม่ระมัดระวังจนทำให้มารดาต้องมาเสียเลือดเสียเนื้อเช่นนี้

หลี่เหมยในปัจจุบันที่อ่านมาถึงฉากนี้ก็ทุบโต๊ะทำงานอย่างแรงด้วยความโมโหจนแก้วกาแฟเย็นที่วางอยู่ข้าง ๆ ถึงกับสั่นคลอน

"ปล่อยให้ตาย ๆ ไปเลย! คนแบบนี้จะไปเสียน้ำตาให้ทำไม!"

หญิงสาวสบถออกมาด้วยความรู้สึกที่ท่วมท้น เธอไม่เห็นใจตัวละครหลี่เหมยในนิยายเลยแม้แต่น้อย สมควรแล้วที่ต้องได้รับจุดจบเช่นนี้

ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ป้าหลัว แม่บ้านวัยห้าสิบกว่าปีผู้ที่ทำงานกับหลี่เหมยมานานก็เปิดประตูเข้ามาในห้อง  พร้อมกับถือเหยือกน้ำและแก้วน้ำใบใหม่เข้ามาเติมให้

"วันนี้คุณหลี่ไม่ออกไปที่ห้างเหรอคะ" 

ป้าหลัวเอ่ยถามขึ้นอย่างสุภาพและเป็นห่วงเป็นใย

"ฉันเพิ่งอ่านนิยายเรื่องใหม่ค่ะป้า วันนี้กะว่าจะไม่ออกไปไหน" 

หลี่เหมยตอบกลับไปพร้อมกับยิ้มเล็ก ๆ ให้กับแม่บ้านที่เธอรักเหมือนแม่แท้ ๆ อีกคนหนึ่ง

"ถ้าคุณหลี่หิวเมื่อไหร่ก็โทรเรียกป้านะคะ เดี๋ยวป้าจะยกอาหารขึ้นมาให้"

"ขอบคุณค่ะป้า"

หลังจากป้าหลัวเดินออกจากห้องไปแล้ว หลี่เหมยก็หันกลับมาสนใจนิยายบนหน้าจออีกครั้ง แต่เนื่องจากความรู้สึกยังคงขุ่นเคืองจากเรื่องราวที่เพิ่งอ่านไป เธอจึงอยากจะพักสายตาจากหน้าจอสักครู่ เธอเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำที่ป้าหลัวเพิ่งนำมาวางไว้บนโต๊ะขึ้นมาดื่มเพื่อดับความร้อนในใจ

แต่แล้วอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น แก้วน้ำในมือของเธอหลุดมืออย่างกะทันหัน น้ำในแก้วหกใส่ MacBook ที่กำลังชาร์จแบตเตอรี่อยู่พอดี หลี่เหมยตกใจรีบจะถอยหนี แต่ทว่าก็สายไปเสียแล้ว

ในขณะที่เธอเอนตัวหนีนั้น หน้าจอ MacBook ก็เกิดแสงวาบขึ้นมาอย่างรุนแรง แสงนั้นสว่างจ้าจนไม่อาจมองเห็นสิ่งใดได้ ก่อนที่ลำแสงสีเงินยวงจะพุ่งตรงมาที่เธออย่างรวดเร็ว ดึงเอาวิญญาณของเธอเข้าไปสู่หน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างน่าอัศจรรย์

"อ๊ายยยย!"

เสียงกรีดร้องของหลี่เหมยถูกกลืนหายไปในความว่างเปล่า ในวินาทีนั้นเธอรู้สึกเหมือนร่างกายของตัวเองกำลังถูกฉีกกระชากเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และถูกลากเข้าไปในกระแสวนที่มองไม่เห็น 

เธอคิดว่าเธอคงจะตายไปแล้วแน่ ๆ ทั้งที่เพิ่งจะบ่นว่าตัวละครในนิยายสมควรตายไปไม่นาน แต่ตอนนี้กลับเป็นเธอเสียเองที่ต้องมาเผชิญหน้ากับความตายอย่างกะทันหัน

หลี่เหมยหมดสติไปในความมืดมิดอันว่างเปล่า แต่แล้วความรู้สึกก็ค่อย ๆ กลับคืนมาอีกครั้ง เธอกลับได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็ก ๆ ดังระงมอยู่รอบตัว เสียงสะอึกสะอื้นที่น่าเวทนา เสียงร้องเรียกหาแม่ที่ฟังแล้วปวดร้าวหัวใจ

เธอพยายามลืมตาขึ้น แต่ดวงตาของเธอกลับหนักอึ้งเกินกว่าจะลืมขึ้นมาได้ เธอพยายามอย่างสุดกำลังจนในที่สุดเปลือกตาก็เปิดออก เธอมองเห็นเพดานไม้ที่เก่าและผุพังเหนือศีรษะ ภาพที่เห็นนั้นช่างไม่คุ้นตาเอาเสียเลย นี่ไม่ใช่ห้องทำงานของเธอที่วิลล่าหรูอย่างแน่นอน

"ท่านแม่! ท่านแม่ฟื้นแล้ว!"

เสียงร้องด้วยความดีใจดังขึ้นเมื่อหลี่เหมยลืมตาตื่นขึ้นมา ทุกคนที่คุกเข่าร้องไห้อยู่ข้างเตียงพากันโผเข้ามาหาเธอด้วยสีหน้าดีใจสุดขีด หลี่ซาน ลูกชายคนโตของหลี่เหมยในนิยายก็รีบเข้ามาจับมือของมารดาเอาไว้แน่น เขายังคงมีน้ำตาไหลอาบแก้มอย่างเห็นได้ชัด

"ท่านแม่ ลูกผิดไปแล้วขอรับ! ลูกขอโทษที่ทำให้ท่านต้องเป็นเช่นนี้! หากท่านเป็นอะไรไป ลูกคงไม่มีหน้าไปพบใครได้" 

หลี่ซานเอ่ยออกมาด้วยเสียงสั่นเครือ เขายังคงโทษตัวเองอยู่ร่ำไป

หลี่เหมยที่เพิ่งตื่นขึ้นมามองภาพตรงหน้าด้วยความสับสน เธอกำลังสวมชุดนอนผ้าฝ้ายเนื้อหยาบ มีผ้าพันแผลพันศีรษะไว้แน่นหนา รอบ ๆ ตัวมีเด็ก ๆ สี่คนและหญิงสาวอีกหนึ่งคนคุกเข่าล้อมรอบเตียง

"ยะ...อย่าบอกนะว่าพวกเจ้าคือใคร.."

"ลูกหลี่ซานไงขอรับท่านแม่ ท่านจำลูกไม่ได้แล้วหรือ"

 หลี่ซานตอบกลับด้วยสีหน้าตกใจและเสียใจที่มารดาจำเขาไม่ได้

ทุกคนในห้องต่างก็แสดงความตกใจและเสียใจออกมาอย่างชัดเจนเมื่อเห็นท่าทีของหลี่เหมย พวกเขาคิดว่าหลี่เหมยคงจะความจำอะไรไม่ได้แล้วแน่ ๆ

หลี่เหมยในร่างใหม่ได้แต่มองภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง ใบหน้าของหลี่ซานและทุกคนในครอบครัวช่างดูเหมือนกับคำบรรยายในนิยายที่เธอเพิ่งจะอ่านมาไม่มีผิดเพี้ยนเลยแม้แต่น้อย

"ไม่จริง! นี่มันเป็นเรื่องโกหก! เรื่องตลกใช่ไหม! อย่าบอกนะว่าฉันหลุดเข้ามาอยู่ในนิยายที่กำลังอ่านอยู่จริง ๆ!" 

หลี่เหมยกรีดร้องในใจอย่างบ้าคลั่ง เธอรู้สึกเหมือนหัวใจกำลังจะหยุดเต้น ภาพที่เห็นตรงหน้าคือความจริงที่เธอไม่อยากจะเชื่อเลยแม้แต่น้อย

ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาในห้วงความคิดของเธอ เสียงนั้นฟังดูสุขุมและอบอุ่นอย่างน่าประหลาด

[จากนี้ไปเจ้าต้องใช้ชีวิตอยู่ในร่างนี้ จนกว่าเจ้าจะทำให้ครอบครัวนี้มีความสุขและรุ่งโรจน์ขึ้นมาได้ เจ้าจึงจะมีโอกาสได้กลับไปยังที่ที่เจ้าจากมา ห้างค้าส่งของเจ้าจะติดตามเจ้ามาในรูปแบบของมิติ ยังมีน้ำพุวิเศษที่รักษาได้ทุกโรคเป็นตัวช่วยอีกอย่างหนึ่ง แต่เจ้าควรระวังในการใช้ เพราะสิ่งของเหล่านั้นในยุคนี้มีทั้งคุณและโทษในคราวเดียว]

"อะไร? ใครพูด?" หลี่เหมยถามออกไปในใจ

แต่ไม่มีเสียงใดตอบกลับมาอีกแล้ว เสียงนั้นเงียบหายไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ความทรงจำของร่างนี้จะหลั่งไหลเข้ามาในหัวของเธออย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ

"อ๊ะ!...โอ๊ยย!"

หลี่เหมยกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดอย่างรุนแรง เมื่อความทรงจำทั้งหมดของหลี่เหมยร่างเดิมพรั่งพรูเข้ามาในสมองของเธออย่างรวดเร็ว เกินกว่าที่สมองของคนปกติจะรับไหว 

ความทรงจำอันเลวร้ายของหลี่เหมยร่างเดิมที่เต็มไปด้วยความอิจฉา ริษยา และการกระทำที่เลวทรามหลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน ความทรงจำของร่างนี้ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งกายและใจ

เมื่อเห็นว่าหลี่เหมยส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ลูก ๆ ลูกสะใภ้ และหลาน ๆ ของเธอก็รีบเข้ามาดูเธอด้วยความตกใจ

"ท่านแม่เป็นอะไรไปขอรับ" 

หลี่ซานรีบถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล

"ท่านย่า! ท่านย่าอย่าเป็นอะไรนะขอรับ" 

หลี่ซางจื้อและหลี่ซางหยวนรีบเข้ามาดูอาการของท่านย่าด้วยความเป็นห่วง

หลี่เหมยได้แต่กุมศีรษะของตัวเองไว้แน่น ดวงตาของนางเหลือบไปเห็นหญิงสาวหน้าตาอ่อนโยนที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอด หลี่เหมยรู้ได้ทันทีว่านางคือเสี่ยวม่าย ภรรยาของหลี่ซาน

ร่างทั้งร่างของหลี่เหมยสั่นเทาด้วยความเจ็บปวดจากอาการปวดศีรษะ และในขณะเดียวกันนางก็รู้สึกสับสนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต

"ขะ...ข้าควรจะทำยังไงต่อไปดี" 

นางพึมพำกับตัวเองในใจขณะที่ภาพความทรงจำของร่างเดิมยังคงหมุนวนอยู่ในหัวไม่ยอมหยุดหย่อน

(จากนี้ไปไรต์จะเปลี่ยนคำเรียกแทนตัวของหลี่เหมย จาก เธอ เป็น นาง เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยนะคะ) 

Déplier
Chapitre suivant
Télécharger

Latest chapter

Plus de chapitres

Commentaires

Pas de commentaire
44
หลี่เหมย
* ไรต์ขออนุญาตแจ้งว่านิยายเรื่องนี้ไรต์เน้นเรื่องความสัมพันธ์ของแม่ลูกเป็นหลัก ถึงช่วงท้ายจะมีคู่ครองของหลี่เหมยเข้ามาเติมเต็ม แต่เรื่องราวทั้งหมดก็ล้วนเป็นเนื้อหาของหลี่เหมยกับลูกหลานของเธอเป็นส่วนใหญ่ ฝากนักอ่านทุกท่านติดตามให้กำลังใจด้วยนะคะท่ามกลางความเงียบสงบของวิลล่าหรูย่านชานเมือง หลี่เหมยในวัยสามสิบแปดปีกำลังใช้เวลาช่วงบ่ายอย่างผ่อนคลายในห้องทำงานที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่แฝงไว้ซึ่งความสง่างามตามรสนิยมของเธอ แสงแดดยามบ่ายสายส่องผ่านหน้าต่างบานใหญ่เข้ามาต้องกับพื้นกระเบื้องเนื้อดี ทำให้เกิดเป็นเงาของต้นไม้ใหญ่หน้าบ้านที่พริ้วไหวตามแรงลมเบา ๆ หลี่เหมยในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงผ้าเนื้อดี กำลังนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานตัวโปรด สายตาจับจ้องอยู่ที่หน้าจอ MacBook รุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดหน้าเว็บไซต์นิยายออนไลน์ค้างไว้ นิ้วเรียวสวยที่เพิ่งถูกบำรุงด้วยครีมราคาแพงกำลังกดเลื่อนหน้าจออย่างรวดเร็ว ส่วนมืออีกข้างก็ยกแก้วกาแฟเย็นขึ้นมาจิบอย่างเชื่องช้ากลิ่นหอมของเมล็ดกาแฟชั้นดีอบอวลอยู่ในอากาศผสมผสานกับกลิ่นอายความเย็นจากเครื่องปรับอากาศที่ทำงานอย่างต่อเนื่อง นี่คือช่วงเวลาที่เธอชื่นชอบที่สุดในแต
last updateDernière mise à jour : 2025-08-29
Read More
ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหมขอรับ
หลี่เหมยเป็นคนเห็นแก่ตัวมาตั้งแต่ต้น รากนิสัยนี้ไม่ได้งอกขึ้นมาเพราะโชคชะตาพลิกผัน หากแต่ถูกเพาะบ่มจากการสั่งสอนของครอบครัวเดิมตั้งแต่วัยเยาว์ บ้านเดิมของนางมีพี่น้องสามคน พี่ชายคนโต หวังต้า เป็นบุรุษเจ้าเล่ห์ เห็นแก่ตัวเกินผู้ใด รู้จักใช้ปากหวานและน้ำคำอ้างบุญคุณหลอกกินแรงคนอื่น ส่วนพี่ชายคนรอง หวังเอ้อ เป็นคนซื่อจนเกือบจะโง่งม มักถูกพ่อแม่และพี่ชายคนโตข่มเหงใช้งานแม่ของนาง หวังเฉียน เป็นหญิงปากหวานแต่ใจคด นางชำนาญนักในศิลปะแห่งการบีบคั้นลูกหลาน ยามเอ่ยปากสั่ง หลี่เหมยมักถูกแม่กล่าวถ้อยคำเจือพิษที่แฝงความกดดันไว้เต็มเปี่ยม"พี่เจ้ากำลังลำบาก หากเขาขาดเพียงหมูสามชั้นกับเหล้าดีอีกนิด จะมีแรงทำงานได้อย่างไร" "พี่เจ้าอุตส่าห์ส่งเจ้ามาเป็นสะใภ้บ้านหลี่ หากไม่ตอบแทนเขา คนจะว่าบ้านเราสอนไร้คุณธรรม"ไม่เพียงเท่านั้น พี่ชายคนโตมักใช้สิ่งล่อใจแบบแยบคายมาผูกใจน้องสาว บ้างก็เป็นคำยกยอว่าหลี่เหมยเป็นที่พึ่งของบ้านเดิม เป็นน้องสาวที่กตัญญูยิ่งกว่าผู้ใด บ้างก็ใช้ของเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นผ้าผืนงามจากในเมือง อ้างว่ามีเพียงชิ้นเดียวในตลาด มอบให้หลี่เหมยเพื่อหว่านล้อมให้นางรู้สึกว่าตนเป็นคนสำคัญยิ่งกว
last updateDernière mise à jour : 2025-08-29
Read More
ลูกเจ็บนะขอรับ!
เมื่อเห็นว่าหลี่เหมยไปคว้ามีดพร้าออกมาง้างสูง แม่สื่อเฉินไม่รอช้า นางรีบหันหลังกลับแล้ววิ่งหนีไปอย่างไม่คิดชีวิต นางรีบปีนขึ้นไปบนเกวียนที่จอดรออยู่ไม่ไกล แล้วรีบขับออกไปจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็วราวกับมีภูตผีปีศาจวิ่งไล่ตามหลังมาหลี่เหมยยืนมองตามเกวียนที่ลับหายไปในทิศทางที่มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมือง ก่อนจะหันหลังกลับเข้าไปในบ้าน ในขณะที่ความรู้สึกของนางในตอนนี้กำลังพรั่งพรูออกมาอย่างไม่มีหยุดหย่อน"เฮ้อ...ดูเหมือนว่าปัญหาจะไม่ได้มีเพียงแค่แม่สื่อคนเดียวเสียแล้ว" เธอพึมพำกับตัวเองเบา ๆในขณะที่หลี่เหมยกำลังคิดหาทางออกให้กับปัญหาที่ถาโถมเข้ามา นางก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่กำลังจ้องมองนางอยู่จากด้านในบ้าน เมื่อเธอหันกลับไปดูก็เห็นว่าลูก ๆ และหลาน ๆ ของนางกำลังยืนมองนางอยู่ที่หน้าประตูด้วยสีหน้าตื่นตะลึง ไม่เชื่อสายตาในสิ่งที่พวกเขาเพิ่งจะเห็นไปหลี่ซานเป็นคนแรกที่เดินเข้ามาหานางอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ"ท่านแม่...ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหมขอรับ"หลี่เหมยส่ายศีรษะเล็กน้อย"ข้าไม่เป็นไร""แล้ว...แม่สื่อคนนั้น...ท่านไล่นางไปจริง ๆ หรือขอรับ" หลี่ซานยังคงไม่แน่ใจในสิ่งที่เกิดขึ้น"อืม...ข้าไล่นางไปแล้ว นางคง
last updateDernière mise à jour : 2025-08-29
Read More
คนบ้านหวัง
เสียงปะทะของไม้เรียวกับแผ่นหลังของหลี่หลงยังคงดังก้องอยู่ในหู แต่หลี่เหมยไม่มีเวลาสนใจเรื่องเหล่านั้นอีกแล้ว ท้องที่ว่างเปล่ามานานหลายวันทำให้เธอรู้สึกอ่อนเพลียอย่างถึงที่สุด หลังจากที่จัดการกับเสบียงในมิติเสร็จเรียบร้อย นางก็ถือตะกร้าไข่ออกมาพร้อมกับถุงข้าวสารที่เต็มแน่นจนล้นมือลูกสาวและลูกสะใภ้ที่ยืนรออยู่หน้าห้องครัวถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ พวกนางมองดูถุงข้าวสารในมือของหลี่เหมยด้วยความประหลาดใจ"เหตุใดท่านแม่เอาข้าวออกมาเยอะขนาดนี้เจ้าคะ" เสี่ยวม่ายเอ่ยถามด้วยความสงสัย ปกติแล้วแม่สามีของนางจะให้ข้าวฟ่างมาต้มเพียงแค่หนึ่งหรือสองกำมือต่อมื้อเท่านั้น แต่ครั้งนี้เป๋นข้าวขาวเชียวนะ ที่เห็นนั้นน่าจะอยู่ราว ๆ ห้าถึงหกจินเลยทีเดียวนี่มันเกิดอะไรขึ้น!"เอามาให้ต้มไง ทำเป็นข้าวต้มสามมื้อ กินร้อน ๆ อย่ากินของเหลือ เดี๋ยวจะไม่สบาย ส่วนไข่นี่ แม่จะทำเป็นไข่น้ำ อาหลินเจ้าตั้งหม้อเล็กอีกสักใบนะ น้ำร้อนแล้วเรียกแม่ด้วย"หลี่เหมยตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ หลี่หลินพยักหน้าอย่างว่าง่ายด้วยความรู้สึกที่ท่วมท้น นอกจากจะได้กินข้าวขาว วันนี้พวกเขายังจะได้กินไข่อีกด้วย ช่างน่าตื่นเต้นเสียจริง"เจ้
last updateDernière mise à jour : 2025-08-29
Read More
หน่อไผ่
ท่ามกลางความเงียบสงัดที่ปกคลุมบ้านดินหลังน้อย หลี่เหมยนั่งลงกับพื้นไม้ที่เก่าและผุพัง นางมองดูตะเกียงน้ำมันที่ให้แสงสว่างเพียงน้อยนิดด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความสงสัย "นี่ยามใดกันแล้วนะ" นางเอ่ยถามลอยๆหลี่ซุน ลูกชายคนที่สามตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว "เลยยามเฉินมาแล้วขอรับท่านแม่" (ยามเฉิน 07.00-09.00 น.)"เช่นนั้นอาซานกับอาหลินช่วยกันหาบน้ำมาเติม เสร็จแล้วก็อยู่ที่บ้านหาอะไรทำเป็นเพื่อนเสี่ยวม่ายกับเด็ก ๆ ส่วนอาหลงกับอาซุนเตรียมกระสอบ ตะกร้า แล้วก็จอบมือขึ้นเขากับแม่ แม่อยากไปสำรวจแถวนี้ซะหน่อย" หลี่เหมยสั่งการอย่างรวดเร็วพอได้ยินเช่นนั้น หลี่ซุนก็ท้วงขึ้นทันทีด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล "แต่ท่านแม่ขอรับ บนเขาตอนนี้ไม่มีอะไรเหลือแล้ว แม้แต่สัตว์ป่าสักตัวก็หายากแล้ว จะมีก็แต่งูที่ชุกชุมไปหมด อันตรายขนาดนั้นท่านแม่ไม่ควรไปนะขอรับ""งูหรือ?" น้ำเสียงของหลี่เหมยดูตื่นเต้นไม่น้อยเมื่อได้ยินคำนั้น นางนึกถึงความรู้ที่ได้อ่านจากการดูสารคดีในยุค 2025 ที่บอกว่าในยุคโบราณ ผู้คนนำงูมาทำเป็นอาหารและยาได้มากมาย แต่ต้องทำอย่างถูกวิธี ทั้งยังเคยเห็นคุณตาที่จากไปแล้วเขียนตำรับยาพิษที่ทำจากพ
last updateDernière mise à jour : 2025-08-29
Read More
น้ำพุวิเศษ
เมื่อแสงตะวันลาลับขอบฟ้าไป ความเงียบสงัดก็เริ่มเข้ามาแทนที่ หลี่เหมยมองดูทุกคนในบ้านที่นอนหลับกันไปแล้วอย่างเงียบๆ นัยน์ตาของนางสะท้อนแสงจากตะเกียงน้ำมันที่ให้แสงสว่างเพียงน้อยนิด นางรู้สึกถึงความแตกต่างของยุคสมัยนี้กับยุคที่นางจากมาได้อย่างชัดเจนในยุคที่นางจากมานั้น ทุกค่ำคืนเต็มไปด้วยแสงไฟนีออน เสียงเครื่องยนต์ และความวุ่นวายที่ไม่เคยจางหาย แต่ในยุคนี้ ค่ำคืนกลับเงียบสงัด มีเพียงเสียงหรีดหริ่งเรไรที่ร้องขับกล่อม และแสงดาวที่ส่องประกายระยิบระยับเต็มท้องฟ้า หลี่เหมยมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วแหงนหน้ามองท้องฟ้า ดวงดาวในยุคนี้ดูชัดเจนและงดงามกว่าในยุคที่นางจากมาหลายเท่านัก ยามค่ำคืนอากาศก็บริสุทธิ์และเย็นสบายจนน่าแปลกใจเมื่อเห็นว่าทุกคนหลับสนิทกันแล้ว หลี่เหมยก็ตัดสินใจที่จะทดลองสิ่งที่ค้างคาใจอยู่นาน นางอยากเข้าไปดูในห้างค้าส่งของนางที่อยู่ในมิติ และอยากทดลองน้ำพุวิเศษที่เสียงลึกลับนั้นเคยบอกไว้"พาฉันเข้ามิติ" หลี่เหมยเพียงแค่พูดเบา ๆ ในใจ พริบตาเดียวร่างกายของนางก็พลันหายไปจากบ้านดินหลังเล็ก ๆ แล้วปรากฏขึ้นอีกครั้งในห้างค้าส่งขนาดใหญ่ที่คุ้นเคยทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมทุกประการ สินค้า
last updateDernière mise à jour : 2025-08-30
Read More
ร้านขายยา
แสงแดดยามสายเริ่มส่องแสงแรงกล้าขึ้นเรื่อย ๆ หลี่เหมยกับหลี่ซุนและหลี่หลงพากันเดินเท้าเข้าเมืองเทียนฉาง ต้องใช้เวลาราว ๆ ครึ่งชั่วยามกว่าจะถึง พวกเขาเดินจูงรถเข็นที่บรรทุกงูในกระสอบเข้ามาในเมืองด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความมั่นใจเมื่อมาถึงตลาด หลี่เหมยก็พบว่าบรรยากาศดูซบเซาผิดปกติ ผู้คนเดินจับจ่ายกันน้อยลงกว่าที่ควรจะเป็น และเมื่อเดินสำรวจไปตามร้านค้าต่าง ๆ ก็ต้องพบกับราคาที่สูงลิ่วจนน่าตกใจ"ตายจริง! เนื้อหมูขึ้นราคาอีกแล้วหรือนี่! จากยี่สิบห้าอีแปะต่อจิน ตอนนี้กลายเป็นห้าสิบอีแปะต่อจินแล้วหรือ!" เสียงของหญิงชาวบ้านคนหนึ่งดังขึ้นด้วยความตกใจ"ใช่แล้ว! ข้าก็ตกใจเช่นกัน! ข้าวฟ่างก็เหมือนกัน ก่อนหน้านี้ราคาแค่หกอีแปะต่อจิน ตอนนี้กลายเป็นสิบห้าอีแปะต่อจินไปแล้ว! แบบนี้พวกเราจะเอาอะไรกินกันเล่า" ชายชาวบ้านอีกคนบ่นอุบอิบ"นั่นสิ! ข้าคงต้องซื้อรำข้าวไปต้มกินกับครอบครัวแล้วละ! ยิ่งข้าวขาวตอนนี้เป็นของมีค่าเกินกว่าที่คนจนอย่างพวกเราจะแตะต้องได้เสียแล้ว" หญิงชราอีกคนพูดด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อย"ถ้าไม่ซื้อก็หลบไป อย่ามายืนเกะกะหน้าร้าน รออีก 2 - 3 วัน ต่อให้พวกเจ้ามีเงินก็หาซื้อไม่ได้แล้ว" เส
last updateDernière mise à jour : 2025-08-30
Read More
ไข่พะโล้คืออะไร?
ระหว่างนั้นหลี่เหมยก็ได้ยินเสียงสนทนาของฮูหยินสองคนดังมาจากมุมหนึ่งของร้าน ฮูหยินทั้งสองแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าราคาแพง มีเครื่องประดับเงินทองเต็มศีรษะ"ท่านพี่ ข้ากลัดกลุ้มใจนัก สามีของข้ากำลังเจอปัญหาใหญ่ ผู้ตรวจการพร้อมคณะกำลังจะมาที่นี่ แต่คนที่ข้าให้ไปหาซื้อของสดกลับชิ่งหนีไปเพราะหาของตามที่ข้าต้องการไม่ได้ ตอนนี้เหลือเวลาเพียงพรุ่งนี้เท่านั้น หากยังหาวัตถุดิบไม่ได้คงเป็นเรื่องใหญ่แน่"ฮูหยินเจ้าเมืองพูดด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล ญาติผู้พี่ของนางซึ่งเป็นเจ้าของร้านผ้าจึงกล่าวว่า"น้องหญิงอย่าเพิ่งร้อนใจไปเลย เดี๋ยวข้าจะช่วยอีกแรงหนึ่ง ว่าแต่วัตถุดิบที่เจ้าหามีอะไรบ้างหรือ"ภรรยาเจ้าเมืองจึงยื่นรายการให้สหายดู ในรายการเขียนว่า ปลาสดขนาดใหญ่ 50 ตัว เนื้อวัว 100 จิน เนื้อหมู 80 จิน เป็ด 100 ตัว ผักสดและผลไม้อีกจำนวนมาก"ถึงเนื้อหมูกับเป็ดพอจะหาได้ แต่ปริมาณก็ไม่เพียงพอที่ต้องใช้" เจ้าของร้านผ้าพูดอย่างหนักใจหลี่เหมยได้ยินแบบนั้นก็หูผึ่ง หากนางสามารถนำของเหล่านี้ออกมาขายได้ นางก็คงมีเงินเก็บซ่อมแซมบ้าน หรือไม่ก็ซื้อบ้านหลังใหม่ ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเด็ก ๆ ดีขึ้นได้ในเร็ววันขณะเดียวกันคน
last updateDernière mise à jour : 2025-08-30
Read More
บ้านหลี่
ทางด้านสามพี่น้องหลี่ซาน หลี่หลง และหลี่ซุน เดินขึ้นสู่ภูเขาอีกครั้งด้วยความตั้งใจ พวกเขาเดินไปตามเส้นทางที่คุ้นเคย มุ่งหน้าสู่ป่าไผ่ที่อยู่ลึกเข้าไปบนเขาของหมู่บ้านชิงเหอ"ไปถึงแล้ว ข้าจะสับหน่อไผ่ให้ได้เยอะ ๆ เลยขอรับ" หลี่ซุนพูดด้วยน้ำเสียงที่ฮึกเหิม"ข้าก็จะช่วยเจ้าด้วย"หลี่หลงพูดเสริม พลางมองซ้ายมองขวาอย่างระมัดระวัง แม้จะโดนตีจนหลังลายไปแล้ว แต่ใจของเขาก็ยังคงตื่นเต้นกับภารกิจที่ได้รับมอบหมายเมื่อเดินทางมาถึงป่าไผ่ หลี่ซานเป็นคนแรกที่ใช้มีดเล่มใหญ่ที่พกมาด้วยเริ่มสับหน่อไผ่ที่โผล่พ้นดิน หลี่ซุนใช้จอบมือขุดดินรอบ ๆ โคนหน่อไผ่เพื่อให้หลี่ซานสับได้ง่ายขึ้น ส่วนหลี่หลงผู้ซึ่งไม่เคยทำงานหนักเช่นนี้มาก่อน ก็ใช้ไม้เท้าที่พกมาช่วยเขี่ยหน่อไผ่ที่สับเสร็จแล้วใส่ตะกร้า"นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ทำงานแบบนี้"หลี่หลงพึมพำกับตัวเอง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อแต่แววตากลับสุกใสอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน"..." "...""ตอนแรกข้าคิดว่ามันจะน่าเบื่อ แต่พอได้ทำแล้ว...มันก็สนุกดีเหมือนกัน"หลี่ซานยิ้มอย่างอบอุ่น เขาหันไปมองน้องชายด้วยความรู้สึกดีใจ"เจ้าเปลี่ยนไปมากแล้วนะน้องรอง""ก็ท่านแม่เปลี่ยนไปก่
last updateDernière mise à jour : 2025-08-31
Read More
ปล้นทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย
แสงแรกของวันสาดส่องลงมายังถนนในเมืองเทียนฉางที่เพิ่งจะตื่น หลี่เหมยกับลูกชายคนที่สามออกจากบ้านมาตั้งแต่เช้ามืด พวกเขาเข็นรถเข็นที่มีกระสอบงูอยู่ด้านบนมุ่งหน้าเข้าสู่เมือง ขณะที่ลูกชายคนโตและคนรองอาสาจะขึ้นเขาไปเก็บหน่อไผ่กับลูกหนามอีกครั้ง เหลือเพียงหลี่หลินที่อยู่เป็นเพื่อนเสี่ยวม่ายกับเด็ก ๆเมื่อมาถึงหน้าร้านขายยาที่เคยขายงูให้เถ้าแก่เมื่อวาน ก็พบว่าประตูร้านยังปิดอยู่ ทว่าก็ใกล้ถึงเวลาที่นางต้องนำของไปส่งที่จวนเจ้าเมืองแล้ว"อาซุน ลูกรอขายงูอยู่ที่นี่นะ แม่ยังมีธุระที่ต้องไปอีก เสร็จแล้วแม่จะรีบกลับมาหาเจ้าที่นี่ ส่วนเงินนี่ ถ้าหิวก็ไปซื้อซาลาเปาหรือบะหมี่กินรอแม่ได้เลย" หลี่เหมยยื่นเงินจำนวนหนึ่งให้ลูกชาย"ขอรับท่านแม่" หลี่ซุนรับคำอย่างเชื่อฟังนางรีบเดินไปหามุมลับตาคนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดที่เกวียนวัวจอดเรียงราย นางนำสิ่งของทั้งหมดที่ฮูหยินเจ้าเมืองสั่งออกมาจากมิติอย่างรวดเร็ว ปลาสดขนาดใหญ่ 50 ตัว เนื้อวัว 100 จิน เนื้อหมู 80 จิน เป็ด 100 ตัว และยังมี ผักสดนานาชนิด ที่นางคัดเลือกอย่างดีจากมิติ ซึ่งในนั้นมีทั้งผักกาดขาว ผักกวางตุ้ง และพืชผักอื่น ๆ ที่หายากในยามนี้ รวมถึง ผลไม้ส
last updateDernière mise à jour : 2025-08-31
Read More
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status