"พวกแกเป็นใคร? แล้วตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหน??" "ทำไมต้องตื่นมาตอนนี้ด้วยวะ จัดการให้มันหลับอีกสิ" "เราไม่ได้เตรียมยามาด้วยครับ" "ตุ๊ยท้องแม่งเลย" "อย่านะ! พวกแกรู้ไหมว่าทำแบบนี้มันผิดกฎหมาย" "ไว้มีชีวิตรอดกลับไปก่อนค่อยพูดเรื่องกฎหมายกับกู" "ตกลงแกสองคนเป็นใคร เมื่อกี้ฉันยังอยู่บ้านของเสี่ยภูริอยู่เลย" "เสี่ยภูริ ฮ่าาาาๆๆ แก่หงำเหงือกขนาดนั้นยังจะเอาทำผัวลงอยู่เหรอ" "มันเรื่องของฉัน ถ้าเสี่ยรู้ว่าฉันถูกลักพาตัวมาพวกคุณไม่ตายดีแน่" "มีอะไรยัดปากมันหน่อยไหม"
더 보기"พวกแกเป็นใคร? แล้วตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหน??" เพิ่งตื่นจากอาการหลับใหลไม่รู้ว่าเธอหลับไปได้ยังไง เพราะก่อนหน้านี้เธอยังอยู่ในบ้านของว่าที่สามีอยู่เลย
"ทำไมต้องตื่นมาตอนนี้ด้วยวะ จัดการให้มันหลับอีกสิ"
"เราไม่ได้เตรียมยามาด้วยครับ"
"ตุ๊ยท้องแม่งเลย"
"อย่านะ! พวกแกรู้ไหมว่าทำแบบนี้มันผิดกฎหมาย"
"ไว้มีชีวิตรอดกลับไปก่อนค่อยพูดเรื่องกฎหมายกับกู"
"ตกลงแกสองคนเป็นใคร เมื่อกี้ฉันยังอยู่บ้านของเสี่ยภูริอยู่เลย" เธอจำได้ว่าดื่มน้ำจากแม่บ้านของเสี่ยมารู้ตัวอีกทีก็อยู่บนรถตู้นี้แล้ว
"เสี่ยภูริ ฮ่าาาาๆๆ แก่หงำเหงือกขนาดนั้นยังจะเอาทำผัวลงอยู่เหรอ"
"มันเรื่องของฉัน ถ้าเสี่ยรู้ว่าฉันถูกลักพาตัวมาพวกคุณไม่ตายดีแน่"
"มีอะไรยัดปากมันหน่อยไหม" ผู้ชายคนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าหันไปสั่งลูกน้อง
"ไม่นะ! กรี๊ดดด" หญิงสาวรีบเอามือปิดปากไว้เพราะลูกน้องคนนั้นถอดเสื้อ คิดว่าจะเอาเสื้อมายัดปากเธอแน่เลย
จากนั้นเธอก็นั่งสงบเสงี่ยมมาตลอดทาง แต่สายตาพยายามมองข้างทางว่าพวกมันจะพาเธอไปไหนเผื่อมีทางหนีทีไล่
แต่ทำไมมันถึงมีแต่ป่าไม้ภูเขาเต็มไปหมดเลย ตกลงเรายังอยู่ในประเทศไทยหรือเปล่าเนี่ย แล้วนี่เราหลับไปนานแค่ไหนหวังว่าคงไม่ใช่ฝีมือเสี่ยหรอกนะ
[ปางไม้ภูเบศ] มันคือป้ายที่ติดอยู่ทางเข้า และตอนนี้เธอก็เห็นแล้ว
"เอาไงครับนายหัว" ลูกน้อง 2-3 คนที่ยืนรอรับอยู่เดินมาเปิดประตูรถ
"เอาไปไว้ห้องเก็บไม้ก่อน"
"ไม่นะ ฉันไม่ไป" หญิงสาวไม่ยอมลงจากรถแถมยังกระโจนเข้าไปหาเขาที่นั่งอยู่อีกเบาะหนึ่ง
"ขึ้นมาเอาตัวมันไปสิวะ!" ชายหนุ่มมองต่ำลงไปดูผู้หญิงที่นั่งทับตัวเขาแถมมือยังกอดคอเขาไว้แน่น
"ฉันไม่รู้ว่าพวกคุณเป็นใครอย่าทำแบบนี้เลยนะ ฉันอยากกลับบ้าน" ยิ่งคนของเขาเข้ามาจะลากตัวเธอลงไปเธอก็ยิ่งกอดเขาไว้แน่น จนใบหน้างามซุกเข้ากับซอกคอ
ลูกน้องที่ขึ้นมาจะพาตัวฝ่ายหญิงลงไปมองเห็นภาพนี้แล้วไม่กล้า
"เอาตัวไป"
"ครับ"
"ไม่นะ! กรี๊ดดด!" แรงเธอหรือจะสู้แรงผู้ชายได้คนของเขากระชากตัวเธอจนมือที่กอดคออยู่หลุด และจังหวะนั้นปลายเล็บก็ข่วนเข้าที่คอของเขาจนเป็นรอยยาว
"ปล่อยฉันไปเถอะค่ะ อย่าทำอะไรฉันเลยนะ" ตอนที่ถูกลากตัวลงจากรถเธอยังคงตะเกียกตะกายขอร้องอ้อนวอน แต่ก็ไม่มีความปราณีใดๆ จากคนที่ลักพาตัวเธอมาเลย
"นายหัวจะค้างที่นี่ไหมครับ" หลังจากที่เธอคนนั้นถูกอุ้มไปแล้ววัลลภคนสนิทที่อยู่ข้างกายเขาก็ได้เอ่ยถาม
"ไม่หรอกกูต้องบินกลับคืนนี้"
"ก็ในเมื่องานแต่งไม่มีแล้วทำไมเจ้านายถึงจะกลับอยู่อีกล่ะครับ"
"ถ้ากูไม่กลับก็ต้องมีคนสงสัยน่ะสิ"
"ทำไมนายหัวต้องทำให้มันซับซ้อนขนาดนี้ด้วยล่ะครับ แค่เอาไปทำปุ๋ยก็ไม่มีใครรู้แล้ว"
"แบบนั้นมันจะไปสนุกอะไร กูจะเข้าเมืองสัก 2-3 วันพวกมึงดูให้ดีหน่อยแล้วกันอย่าให้มันหนีออกไปได้"
"ครับนายหัว"
เขามีนามว่าภูเบศเป็นนายหัวทางภาคใต้ของประเทศ แต่เขาไม่ได้ทำธุรกิจแค่นั้นยังมีธุรกิจปางไม้ทางภาคเหนือของประเทศด้วย
ภูเบศใช้เครื่องบินส่วนตัวบินกลับมารอร่วมงานแต่งของเสี่ยภูริผู้เป็นบิดา แต่พอกลับมาถึงบ้านก็เห็นว่าคนในบ้านกำลังวุ่นวายกัน
"มีอะไรกันครับครึกครื้นกันใหญ่เลย"
"แกมาจากไหน"
"พ่อก็รู้ว่าผมทำธุรกิจอยู่ที่ไหน ยังจะถามอีก"
"แกเพิ่งกลับมาใช่ไหม"
"หึหึ ทำไมพ่อถามแบบนั้นล่ะครับ ผมลูกชายแท้ๆ ของพ่อนะ ไม่ใช่ลูกกาฝาก" ตอนที่พูดสายตาดุดันของภูเบศมองไปที่ผู้ชายอีกคน
"แล้วนั่นไปทำอะไรมา" คนเป็นพ่อมองเห็นรอยข่วนที่ต้นคอ
ภูเบศเลยเอามือลูบตรงนั้นดู เขาลืมเลยตอนนั้นถูกเล็บของเธอข่วนเข้า "อยากรู้จริงหรือครับ เรื่องมันเสียวนะ"
"ฉันไม่อยากรู้เรื่องของแกแล้ว ขึ้นไปพักผ่อนเถอะ"
"แต่พ่อยังไม่ได้บอกเลยนะครับว่ามันเกิดอะไรขึ้น" เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่เขาอยากจะได้ยินเลยต้องถามย้ำ
"ไม่มีอะไรหรอก แกขึ้นบ้านไปพักผ่อนเถอะ" แต่ก่อนจะออกไปภูริผู้เป็นพ่อก็หันไปบอกลูกชายอีกคนให้ตามออกมาข้างนอก
"ครับ" ภูผาก็คือบุตรชายที่ท่านรับมาเลี้ยง แต่ภูเบศคิดว่าต้องเป็นลูกแท้ๆ ของท่านแน่ และเขาคิดมาโดยตลอดว่าพ่อสวมเขาให้แม่ตั้งแต่ตอนที่เขายังแบเบาะ เพราะอายุของทั้งสองห่างกันไม่มาก และแม่ของเขาก็ทนทุกข์ทรมานกับพฤติกรรมของพ่อจนวาระสุดท้ายของชีวิต ภูเบศเลยสาบานไว้ว่าจะไม่ปล่อยให้พ่อมีความสุข และนี่แหละมันถึงเป็นจุดเริ่มต้นที่เขาลักพาตัวผู้หญิงที่พ่อจะแต่งงานด้วย
เขียนโดยชะนีติดมันส์
"เจอไหม" จากที่เมาๆ อยู่พอกลับบ้านมาไม่เห็นเมียตอนนี้รู้สึกสร่างเมาเลย"ไม่เจอเลยครับผมกำลังให้คนเช็คกล้องวงจรปิดอยู่ครับ" พูดจบคนที่เช็คกล้องวงจรปิดก็รีบวิ่งมาหา "เป็นยังไงบ้าง""นายหญิงออกไปตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้วครับ""ไปไหน""กล้องจับภาพได้แค่ตอนเดินออกไปแต่ไม่รู้ว่าไปกับใครไปที่ไหน" แล้วลูกน้องคนนั้นก็ยื่นคลิปกล้องวงจรปิดให้ดู เหมือนรถคันที่มารับเธอจะรู้มุมกล้องวงจรปิดดี..จะไม่รู้ได้ยังไงก็คนในบ้านเป็นไส้ศึกเสียเอง"ให้คนไปดูที่สถานีรถ" เขาคิดว่าเธอต้องหนีกลับแน่เลย เพราะเธอเคยหนีแบบนี้มาแล้วหลายครั้งและคนของเหมืองก็รีบไปเช็คที่สถานีรถทั้งรถไฟและรถทัวร์ ส่วนสนามบินอยู่ไกลมากคิดว่าเธอคงไม่ไปหรอก แต่เพื่อความชัวร์เขาให้อีกชุดหนึ่งไปดูที่สนามบินจนถึงตอนเช้าก็ยังไม่ได้ข่าว ไม่ใช่ไม่ได้ข่าวจากลูกน้องหรอกไม่ได้ข่าวของเธอนี่แหละ เพราะลูกน้องก็ส่งข่าวมาอยู่ว่าหาไม่เจอไม่เห็นร่องรอยของเธอเลยเรื่องมันชักจะไม่เข้าท่าแล้วเขาเลยต้องไปที่สถานีตำรวจ ให้ตำรวจช่วยอีกแรง เพราะอยากยืมมือตำรวจประสานงานไปที่สน.อื่นด้วยที่จริงถ้ายังหายไปไม่ครบ 24 ชั่วโมงตำรวจจะยังไม่รับแจ้งความ แต่นี่นายหัวภูเบศมา
ข้าวสวยและจินดาไม่ได้พูดคุยอะไรกันหรอก หลังจากเหตุการณ์นั้นข้าวสวยก็เดินกลับมา"ไปไหนมา" เขากลับมาไม่เห็นเธอกำลังจะใช้คนให้ไปตามหาอยู่พอดีเลยแต่เห็นเธอเดินกลับมาก่อน"ไปเดินเล่น" ข้าวสวยพูดแค่นี้แล้วก็เดินผ่านหน้าของเขาไป"เรื่องห่อหมกเดี๋ยวพรุ่งนี้จะให้ป้าซื้อจากตลาดมาให้ใหม่""ฉันไม่อยากกินแล้ว""ยังโกรธอยู่เหรอ""ทำไมฉันต้องโกรธด้วย""ก็บอกจะซื้อมาให้ใหม่ไง""ฉันอยากจะกลับแล้ว" เธอไม่อยากพูดเรื่องห่อหมกอะไรนั่นแล้ว และขณะที่เธอกำลังยืนคุยกับภูเบศอยู่ จินดาก็เดินกลับมาพอดี สายตาของข้าวสวยมองไปและเป็นจังหวะเดียวกับที่จินดามองมาทั้งสองสบตากัน จินดาเริ่มพะวงแล้วกลัวว่าข้าวสวยจะเอาเรื่องนั้นมาพูดกับนายหัว"แม่ แม่ไปไหนมาหนูนุ้ยหาแม่ไม่เจอ" หนูนุ้ยเห็นแม่มาก็รีบวิ่งเข้าไปกอด"แม่ไปเดินเล่นมา""นายผู้หญิงทานอะไรหรือยัง" เขามองตามหลังเธอที่เดินขึ้นบ้านแล้วหันไปถามจินดาว่าเธอทานข้าวหรือยัง"ทานแล้วค่ะ" จินดาไม่รู้หรอกว่าทานหรือไม่ทาน เพราะตัวเองออกไปก่อนแถมยังกลับเข้ามาทีหลังภูเบศได้ยินว่าเธอทานแล้วเขาเลยบอกให้จินดาเตรียมอาหารมาให้ ทีแรกว่าจะกลับมาทานพร้อมเธอนั่นแหละ แต่ถ้าเธอทานแล้วเขาก็
ดึกๆ คืนนั้น..เธอรู้สึกตัวตื่นเพราะมีคนนอนลงข้างๆ แต่พอนอนลงเขาก็ตะแคงหันหลังให้เขามาตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย ..ข้าวสวยเห็นว่าเขาไม่สนใจเธอเลยแกล้งลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำ ที่จริงก็ไม่ได้แกล้งหรอกปวดจริงๆ นี่แหละออกมาจากห้องน้ำก็เห็นเขามองมาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ข้าวสวยเลยเดินไปนอนที่เดิมของเธอ"คุณยังคิดเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่าคะ""คิดเหมือนเดิมหมายความว่ายังไง""คิดว่าฉันทำลูกสาวคุณหัวโนไง""เราจะไม่พูดเรื่องนั้นอีก""ฉันต้องพูดค่ะเพราะมันไม่ใช่ฝีมือของฉัน""ผมเชื่อก็ได้""เชื่อก็ได้หมายความว่ายังไง""จะมาชวนทะเลาะอะไรอีก คนเพิ่งกลับมามันเหนื่อยนะเว้ย""ไหนๆ ก็ได้ทะเลาะแล้วให้ฉันพูดตามสิ่งที่ฉันคิดเถอะ""คิดอะไรอีกล่ะ""แม่ลูกคู่นั้นไม่ธรรมดาเลยนะ คุณแน่ใจเหรอว่าผู้หญิงคนนั้นถูกขืนใจจนตั้งท้อง""ข้าวสวย!!" ภูเบศตะเบ็งเสียงออกมาดังมากจนเธอสะดุ้ง ข้าวสวยที่เพิ่งขึ้นไปที่นอนต้องรีบลุกขึ้นมา ถ้าเขาต่อยเธอได้คงจะต่อยไปแล้ว"คุณคิดว่าฉันอกุศลใช่ไหมล่ะ ถ้าคุณมีตามองสักนิดคุณจะเห็นว่าฉันไม่ได้ทำเด็กคนนั้นหกล้ม""เรื่องนั้นมันจบไปแล้วจะพูดหาพระแสงทำไมอีก""เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของฉันฉันจำเป็นต้องพูด
วันต่อมาภูเบศต้องให้เธออยู่ที่บ้านกับคนรับใช้ ส่วนเขาก็ออกไปจัดการงานที่เหมือง"สวัสดีจ้ะหนูนุ้ย" ข้าวสวยลงมาก็เห็นเด็กกำลังนั่งเล่นของเล่นอยู่ "ทำอะไรอยู่จ๊ะ""มองไม่เห็นหรือไง""?" ทำไมเด็กถึงได้ก้าวร้าวขนาดนี้ ..ได้ยินที่เด็กตอบเมื่อสักครู่ข้าวสวยก็หันไปมองดูแม่ของเด็กที่ทำงานบ้านอยู่แถวนั้น จะว่าแม่ไม่ได้ยินก็คงไม่ใช่แต่ทำไมถึงไม่สั่งสอนลูกหน่อยว่าไม่ให้พูดกับผู้ใหญ่แบบนี้ "เมื่อกี้ฉันฟังไม่ชัดหนูพูดว่าอะไรนะ" ในเมื่อแม่ไม่สั่งสอนเดี๋ยวฉันจะสั่งสอนเอง"หูหนวกเหรอถึงไม่ได้ยินคนพูด""ฉันเป็นภรรยาของผู้ชายที่หนูเรียกว่าพ่อ ถ้างั้นหนูก็ต้องเรียกฉันว่าแม่อีกคน ไหนลองเรียกแม่ซิ""ฉันมีแม่คนเดียว อย่าคิดว่าจะเข้ามาแทนที่แม่ของฉันได้""แทนที่แม่หนูเข้าใจผิดแล้วมั้ง เพราะแม่หนูไม่ได้เป็นอะไรกับสามีฉันสักหน่อย""แม่" หนูนุ้ยหันไปมองหน้าแม่และมีสีหน้าเหมือนจะร้องไห้"ทำไมคุณต้องว่าให้เด็กแบบนี้ด้วยไม่นึกถึงจิตใจของเด็กบ้างหรือคะ""ฉันแค่พูดให้เด็กเข้าใจ""แกยังเด็กโตขึ้นเดี๋ยวแกก็รู้เองค่ะว่าอะไรคืออะไร""ทำไมต้องรอให้โตด้วยล่ะ เราบอกตอนนี้ให้เด็กเข้าใจก็ได้นี่""แม่คะ ผู้หญิงคนนี้จะมาแย่งพ
แปะ! อุตส่าห์ขี้คุยไว้ว่ายุงคงไม่มากวนแค่กระแทกไปได้ไม่กี่ทีก็ถูกยุงกัดก้นแล้ว"อาาา" แต่ภูเบศก็ไม่ย่อท้อเขายังคงซอยถี่ไปตามความปรารถนาแปะ!"อือ.. พอก่อนดีกว่าค่ะกางมุ้งก่อน""ซี๊ดดด มาถึงขนาดนี้แล้วจะพอได้ยังไง""แต่ยุงกัดน่ะสิคะ" มันไม่ได้กัดแค่เขาหรอกมันกัดเธอด้วยภูเบศเลยต้องถอดสิ่งที่มันเชื่อมกันอยู่เมื่อสักครู่ออกแล้วลุกขึ้นดึงหูมุ้งจะเอามามัด"เบาๆ หน่อยสิคะเดี๋ยวมันก็ขาดหรอก""พรุ่งนี้ผมจะให้คนมาทำห้องนะ" ชักจะอารมณ์เสียแล้ว ไม่ให้ดัดแปลงอย่างอื่นพอทนถ้าไม่ให้ทำห้องพอเลยเห็นว่าเขาดูจะอารมณ์เสียเธอเลยไม่พูดอะไรต่อช่วยเขากางมุ้งจนเสร็จ แล้วก็เอาพัดลมเข้ามาเปิดในมุ้งแต่พอจะเริ่มต่ออารมณ์มันก็หมดไปแล้ว เธอเลยกำลังจะนอน..แต่พอเขามุดเข้ามาในมุ้งก็จับเธอหงายขึ้นไอ้เราก็คิดว่าจะไม่ต่อแล้ว แต่พอเขาจะทำต่อเธอก็ไม่ได้ว่าอะไรภูเบศใช้มือตัวเองชักรูดเพื่อให้มันแข็งอีกที แต่มันก็ขึ้นยากมากเขาเลยเอื้อมไปจับมือของเธอมาช่วยชัก"ซี๊ดดด" ให้เธอช่วยชักไปอีกหน่อยก็นึกอยากลองยัดมันเข้าไปในปากเธอดู เขาเลยเอาช่วงยอดปลายถูกับริมฝีปากของเธอว่าจะยอมให้มันเข้าไปข้างในไหมทีแรกเธอก็เม้มริมฝีปากไว้แต่พ
พันธะ(รัก)เมียบำเรอ บทที่ 55และก็มาถึงวันเผา วันนี้นนท์ออกมาไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือขอให้เจ้าหน้าที่ช่วย Video Call เพื่อให้นนท์ได้ร่วมส่งยายขึ้นสู่สวรรค์เขาขอให้เธออย่าร้องไห้แต่วันนี้เธออดกลั้นไม่ได้จริงๆ ทำไมเธอถึงมีความผูกพันกับคุณยายมากขนาดนี้ เหมือนว่าเธอกำลังเสียญาติผู้ใหญ่ไป ยิ่งตอนเห็นนนท์ร่ำไห้อยู่ในห้องขังมันก็ยิ่งสะเทือนใจเธอหนักมาก"คุณข้าวสวยคะ ยายไปสบายแล้ว" อยู่จังหวัดเดียวกันก็จริง แต่แก้วไม่เคยรู้จักกันกับยายเลย จะมารู้จักก็ตอนที่ยายจากไป และก็รู้จักผ่านข้าวสวยนี่แหละ เด็กคนนี้มีจิตใจโอบอ้อมอารีมาก คิดว่าตัวเองได้มาพบเจอและรู้จักเป็นวาสนาที่ดีมากเลย"ขอบคุณพี่แก้วกับพี่ศักดิ์มากเลยนะคะที่มาช่วยงาน""ไม่ต้องขอบคุณพี่หรอกค่ะ พวกพี่เองต่างหากที่ต้องขอบคุณหนู ที่ช่วยคนในจังหวัดของเรา"งานศพเสร็จทุกคนก็แยกย้ายส่วนเรื่องเก็บงานภูเบศก็มอบหมายให้ลูกน้อง อัฐิของยายเขาเก็บไว้ที่วัดนี้ เผื่อสักวันหลานของยายออกมาจะได้มาไหว้"หลายวันแล้วนะยังจะเศร้าอยู่อีกเหรอ""ไม่ได้เศร้าสักหน่อย" ทำไมจิตใจเธออ่อนไหวแบบนี้เนี่ย หรือเป็นเพราะฮอร์โมนไม่ปกติ เสร็จงานศพยายแล้วเธอยังคงคิดถึง ทั้งๆ ท
댓글