เธอขอให้ตนเองได้มีชีวิตครอบครัวที่แสนอบอุ่นสักครั้ง หากในชาติภพนี้ไม่สมหวัง ในชาติภพหน้าจะมีหวังไหมนะ คำขอพรสุดท้ายพร้อมกับลมหายใจที่หมดลง ' ซันนี่ 'สาวน้อยเสียโลกปัจจุบันชีวิตเพราะลูกชิ้นติดคอ แต่ว่านะขอบ่นหน่อยเถอะจะตายทั้งที จะตายดีๆ สวยๆ หน่อยก็ไม่ได้ ดันมาตายเพราะลูกชิ้นติดคอ แถมที่น่าหดหู่ที่สุดก็คือการยังไม่มีแฟนนี้ล่ะ บัดซบซะจริง แต่เดี๋ยวนะ ที่นี้ที่ไหน ตื่นมาทำไมมีผัวเลยล่ะ ข้ามขั้นไปนะพี่สาวเมิ่ง
ดูเพิ่มเติมซันนี่ หรือ หยุนชิง สาวลูกครึ่ง ไทย-ฮ่องกง ผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยวและการกินเป็นชีวิตจิตใจ หลังจากที่สูญเสียครอบครัวไปเมื่อสามปีก่อน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ซันนี่ก็ตัดสินใจลาออกจากงานและหันมาเริ่มทำตามความฝันของตัวเอง นั่นคือการได้ท่องเที่ยว ได้กินอาหารอร่อย ๆ ได้ทำสิ่งที่อยากจะทำอย่างอิสระ ลองอะไรใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน
และอีกหนึ่งสิ่งที่ซันนี่อยากทำคือ การมีแฟนมีความรักสักครั้ง จนตอนนี้เธอก็อายุ 25 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยคบใครสักคน ไม่ใช่ว่าไม่มีใครมาจีบหรือมาคุยด้วย แต่เป็นเพราะช่วงนั้นเธออยากจะตั้งใจเรียน ตั้งใจทำงาน จนทำให้คนที่เข้ามาต่างก็หายหน้าหายตากันไปทีละคน รู้ตัวอีกทีก็โสดจนเพื่อน ๆ ในกลุ่มแต่งงานมีครอบครัวกันหมดทุกคนแล้วนั่นล่ะ หญิงสาวถึงได้รู้ว่า การอยู่คนเดียวมันรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปสักอย่างนั้นเอง
จนในตอนนี้เพจของเธอ ที่มีชื่อว่า 'ซันนี่พากินทั่วโลก' ก็มีผู้ติดตามถึงหนึ่งล้านคนแล้ว โดยแต่ละที่ ที่ซันนี่ไปหญิงสาวก็มักจะถ่ายรูปและพร้อมอธิบายถึงบรรยากาศรอบ ๆ และรสชาติของอาหารที่ได้ทานเพื่อให้ผู้ชมทั้งหลายได้จินตนาการถึงรสชาติของอาหารตามเธอด้วย อีกเรื่องที่ทำให้เพจของเธอมีผู้ติดตามเยอะ ก็เพราะซันนี่ชอบลงคลิปตลกฮา ๆ ของตัวเอง ด้วยความที่เป็นคนตลกเฮฮา ทำให้ซันนี่เป็นที่รู้จักในโลกโซเชียลเป็นอย่างมาก
และวันนี้ที่ ที่ซันนี่จะพาไปก็คือ เมืองเฉิงตูซึ่งถือเป็นเมืองเอกในมณฑลเสฉวนของประเทศจีน สิ่งที่หญิงสาวจะพาไปรีวิวก็คือ อาหารสตรีทฟูดขึ้นชื่อของเฉิงตู เช่น ปลาหมึกราดซอส วุ้นหิมะ บะหมี่เสฉวน และเมนูที่ตั้งใจไปกินสุด ๆ ก็คือหม่าล่าที่เธอชื่นชอบ เมื่อเตรียมตัวพร้อมซันนี่จึงได้ออกจากโรงแรมที่พักทันที มุ่งหน้าสู่สถานที่แหล่งรวมของกินมากมาย
หลังจากเตรียมกล้องและอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็เริ่มถ่ายภาพบรรยากาศของสองข้างทาง บนท้องถนนมีของกินหลากหลาย ของกินของใช้แปลกตา ผู้คนมากมายต่างจับจ่ายใช้สอย เลือกซื้อสิ่งที่ตนเองต้องการด้วยใบหน้ามีความสุข ร้านแรกที่ซันนี่เลือกไปคือร้านบะหมี่เสฉวน
“ไฮ ทุกคน คิดถึง ซันนี่พากินทั่วโลกกันไหมคะ วันนี้เราจะพามากินบะหมี่เสฉวน กันค่ะ”
เมื่อต่อคิวได้อาหารเรียบร้อย หญิงสาวก็นำอาหารมารีวิว ให้กับลูกเพจที่น่ารักของเธอทันที เสียงสูดเส้นบะหมี่เข้าปากดัง ๆ ยิ่งทำให้รู้ว่าอาหารถ้วยนี้อร่อยมากแค่ไหน เธอเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ตั้งอกตั้งใจกิน เอ๊ย รีวิวให้กับลูกเพจดูอย่างตั้งอกตั้งใจ จนมีผู้คนเข้ามาคอมเมนต์กันล้นหลาม
‘ตั้งอกตั้งใจกินมากเลยค่ะ’
‘หิวใช่ไหมล่ะเราดูออกนะซันนี่’
‘เบาได้เบานะซดน้ำดังไป’
‘มาแล้วซันนี่ผู้โหยหิวทุกเวลา’
‘แบบนี้ต้องไปให้ได้สักครั้งแล้วล่ะน่ากิน คนกินก็น่ารัก’
เมื่อหญิงสาวได้อ่านคอมเมนต์ก็ถึงกับหัวเราะเสียงดังเพราะสิ่งที่ทุกคนคอมเมนต์มา เธอเป็นแบบนั้นจริง ๆ ในขณะที่ซันนี่กำลังอ่านความคิดเห็น และกินลูกชิ้นเนื้อราดซอสแสนอร่อยไปด้วยนั้น ได้มีชายคนหนึ่ง ชนเธอเข้าเต็มเปาจนทำให้ลูกชิ้นลูกโตที่กำลังกินเผลอกลืนลงไปทั้งลูก
“อ๊อก ละ ลูก ชิ้น ตะ ติดคอ ช่วยด้วย หะ หายใจไม่ออก”
“อาชิงขนมถั่วกวนนี้รสชาติดีมากหวานมัน พอได้คู่กับน้ำชายิ่งเข้ากันไปใหญ่” ท่านป้าอู่ชมไม่ขาดปาก“เช่นนั้นท่านป้าก็ห่อกลับบ้านไปให้ท่านลุงอู่ทานด้วยนะเจ้าคะ”“ขอบใจเจ้ามากนะตาแก่นั่นคงชอบมากแน่ ๆ” ป้าอู่ยิ้มอย่างดีใจที่หยุนชิงให้ห่อกลับไปกินที่บ้านได้ สามีนางจะได้กินขนมอร่อย ๆ บ้าง“อาลี่ อาเล่อ นำขนมพวกนี้ไปให้คนอื่น ๆ ด้วยนะ คนในไร่กับที่โรงงานน้ำผึ้งด้วย” หยุนชิงหันไปบอกสาวใช้ในครัวให้นำขนมไปแจกจ่ายให้คนอื่น ๆ กินด้วย“เจ้าค่ะนายหญิง”อาลี่กับอาเล่อดีใจกันไม่น้อย การได้เป็นบ่าวบ้านนี้ดีกว่าบ้านอื่น ๆ มากนัก เดิมทีพวกนางเป็นสาวใช้ของเถ้าแก่เกา แต่ด้วยความเอ็นดูนายหญิงกับนายท่าน อีกทั้งเถ้าแก่เกามีลูกชายเพียงคนเดียวที่ทำการค้าอยู่ต่างแคว้น นานทีจึงจะได้พบกันเมื่อเห็นนายหญิงกับนายท่านจึงได้เอ็นดูนับเป็นลูกเป็นหลานคนหนึ่ง ตอนแรกพวกนางไม่ค่อยจะเต็มใจมานัก หากแต่มีงานทำก็ยังดี ที่ไหนได้พอได้มาอยู่ที่นี่พวกนางกลับได้อยู่ดีกินดีกว่าที่เก่ามาก นายท่านกับนายหญิงก็ใจดีมิเคยดุด่า ค่าแรงยังให้เพิ่มจากเดิมที่เคยได้รับ จนตอนนี้ครอบครัวของพวกตนไม่ได้ลำบากเหมือนแต่ก่อนด้านอาจูน้อยมิได้พูดจาอีกตั้งแ
หยุนชิงนั่งเท้าคางอย่างเบื่อหน่ายอยู่ในห้องนอนเพียงลำพัง ช่วงนี้ตัวนางว่างมากตั้งแต่วันนั้นหวังอี้หลินไม่ยอมให้นางหยิบจับสิ่งใด เขาบอกเพียงว่าแค่ยามค่ำคืนนางก็เหนื่อยมากพอแล้ว เหอะสามีหน้าเหม็นไม่เคยให้นางได้พักเลยสัก คืนไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยบ้างหรืออย่างไรงานภายในไร่หวังอี้หลินก็เป็นคนจัดการแทนนางทั้งหมด พอนางจะไปที่โรงงานทำน้ำผึ้ง งานทุกอย่างกลับถูกจัดสรรเรียบร้อยด้วยฝีมือของสามี จนตอนนี้นางถึงได้มานั่งเบื่อหน่ายไม่รู้จะทำสิ่งใดแก้เบื่อพอนั่งคิดว่าจะทำอะไรดี หยุนชิงถึงได้นึกออกว่าเมื่อสองวันก่อน เถ้าแก่เกาให้คนนำเงินส่วนแบ่งประจำเดือนมาให้ และยังนำลูกมะพร้าวมาให้ห้าลูกบ่าวที่นำมาบอกว่าเถ้าแก่ได้มาจากเรือขนส่งสินค้าจากต่างแคว้น เช่นนั้นนางลองไปทำขนมถั่วกวนกินดีกว่าเมื่อเดินออกมาจากห้องหญิงสาวก็ได้สอดส่ายสายตามองหาอาจูน้อย นางคิดว่าจะชวนบุตรสาวไปทำขนมกัน เด็กน้อยคงน่าจะชอบ เพราะอาจูน้อยของนางช่างกินเก่งนัก จนตัวอ้วนกลมโดนพี่ป้าน้าอาที่มาทำงานโรงงาน ต่างแซวเด็กน้อยว่าลูกหมูน้อยอาจู แต่ถึงกระนั้นเจ้าตัวกลับหัวเราะคิกคักชอบอกชอบใจเสียมากมายหญิงสาวเดินหาบุตรสาวอยู่สักพัก จึงได้ไปเจออา
“ขอโทษทีที่ให้รอนาน ข้ามัวแต่ไปดูสุราหมักน่ะ”“ไม่เป็นไรพวกข้าเพิ่งจะมาถึง”“อาชิง ซือซือบอกข้าว่าเจ้าจะจ้างพวกเราทำงานจริงหรือ ข้าทำได้ทุกอย่างตัดไม้ รดน้ำผักหรือทำความสะอาดบ้าน ข้าก็ทำได้” ตอนที่ภรรยาเขาบอกเรื่องหยุนชิงจะจ้างงานเขาดีใจมาก เพราะตอนที่ผู้นำหมู่บ้านประกาศให้ไปลงชื่อคนที่จะไปทำงาน ที่บ้านตระกูลหวังเขาก็ไปลงชื่อไม่ทัน ออกไปหาของป่าช่วงนี้ก็หายาก จะเข้าไปหางานในเมืองก็เป็นห่วงภรรยาอยู่บ้านคนเดียว“ข้าจะเปิดร้านสุราหมักในอีกไม่กี่เดือน ข้าจะให้พวกเจ้าดูแลร้านให้ ค่าจ้างข้าจะให้คนละสองตำลึงต่อเดือน และหากขายดีข้าจะเพิ่มค่าจ้างให้พวกเจ้าด้วย”ไป๋ถังกับซือซือถึงกับมองหน้ากันตาโต เดือนละสองตำลึงสองคนก็สี่ตำลึง สี่ตำลึงเชียวนะเงินขนาดนี้เขาต้องหาเป็นปีถึงจะได้มันมากไปหรือไม่“ข้าว่าค่าจ้างมันดูมากไปหรือไม่ ให้พวกเราแค่เดือนละหนึ่งร้อยอีแปะก็พอ” ซือซือที่เห็นว่าจำนวนเงินค่าจ้างที่สหายให้มากเกินไป นางรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา ไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็นแก่ความเป็นสหายเก่าก่อน ต้องมาเสียตำลึงมากกับพวกตน“ใช่ ๆ พี่ว่าเจ้าให้พวกเราแค่ร้อยอีแปะก็พอ อีกอย่างครานั้นเงินหนึ่งตำลึงที่เจ้าให้พี่หยิ
ผ่านไปห้าวันหลังจากที่ทำการหมักสุรา วันนี้ก็ถึงกำหนดจะต้องมาลองชิมดูว่าจะหวานได้ที่หรือไม่ เมื่อชิมแล้วรสสุราได้ตามที่หญิงสาวต้องการ นางจึงนำน้ำที่ต้มสุกปล่อยทิ้งไว้ให้เย็นแล้วเทลงในไหสุราหมัก โดยระมัดระวังมิให้ก้อนข้าวแตกแล้วจึงปิดฝาให้แน่นหนาเช่นเคย หลังจากนี้อีกหนึ่งเดือนเป็นอันว่าสามารถนำมาดื่มได้และวันนี้ก็เป็นวันที่นางนัดพบกับซือซือ เพื่อคุยเรื่องที่จะให้สหายมาช่วยงาน หยุนชิงได้คุยกับหวังอี้หลินแล้วว่าหากนางหมักสุราสำเร็จจะเปิดร้านขายสุรา จะหาซื้อร้านสักร้านในเมืองเพื่อมาเปิดร้าน โดยจะให้ไป๋ถังกับซือซือดูแลร้านสุราแทนตอนนี้บ้านนางก็ถือว่าพอจะมีเงินลงทุนทำการค้าได้อย่างไม่ลำบากมากนัก ด้วยรายได้ที่ขายน้ำผึ้งกับเถ้าแก่เกาก็ถือว่าดีไม่น้อยเพื่อเจ้าก้อนแป้งน้อยในอนาคต นางจะสร้างรากฐานที่ดีและมั่นคงไว้ให้กับลูก ๆ ของนางกับสามีอีกทั้งอาจูน้อยนับวันก็ยิ่งโต มีแววว่าจะเป็นสาวงาม ผิวพรรณของเด็กน้อยที่ดูเนียนขาวรามน้ำนม ซึ่งแตกต่างจากลูกสาวชาวบ้านธรรมดา หากพ่อแม่ที่แท้จริงของอาจูน้อยไม่ตามหา หยุนชิงก็จะถือว่าเด็กคนนี้เป็นลูกสาวนางอย่างเต็มตัวแต่ถ้าหากว่าถึงวันที่อาจูพอเจอครอบครัวตัวเอง
ทั้งสองเดินเข้ามาถึงโรงครัวก็เห็นวัตถุดิบต่าง ๆ ถูกวางเตรียมไว้ให้เป็นอย่างดี หยุนชิงจึงเริ่มจากนำข้าวสารข้าวเหนียวที่แช่น้ำไว้แล้วตั้งแต่เมื่อคืน มาทำการล้างด้วยน้ำสะอาดสองถึงสามรอบ จนน้ำไม่มีสีขุ่นล้างจนข้าวสะอาดเรียบร้อยแล้ว ก็นำข้าวลงนึ่งในระหว่างรอข้าวสุกทั้งสองก็ได้นำลูกแป้ง ที่หยุนชิงได้ลองทำไว้เมื่อหลายวันก่อน มาบดให้ละเอียดในผ้าขาวบาง พอข้าวสุกคดข้าวให้คลายร้อนสักพัก นำข้าวนึ่งที่เตรียมไว้มาใส่ถังไม้ขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็ก พร้อมกับโรยผงลูกแป้งตามลงไป แล้วใช้มือคลุกเคล้าให้เข้ากัน โดยขณะทำการคลุกข้าวกับผงลูกแป้ง นางก็ให้ซือซือเป็นคนเทน้ำอุ่นตามลงไปด้วย ตามสัดส่วนที่นางบอกหลังจากที่คลุกผงลูกแป้งกับข้าวเหนียวนึ่ง ก็นำข้าวเทใส่ไหดินเผาที่เตรียมไว้ หยุนชิงทำไม่เยอะนางลองทำดูเพียงสามไหเท่านั้นหากกินได้รสชาติดีค่อยทำเพิ่มอีก เมื่อนำใส่ไหเรียบร้อยก็ได้จัดการปิดฝาอย่างแน่นหนา และนำไปเก็บไว้ประมาณห้าวันถึงจะนำมาเปิดชิมรสชาติดูแล้วค่อยทำการหมักต่อ“เรียบร้อยที่เหลือเราก็รออีกห้าวัน เราค่อยมาชิมดูว่าได้รสชาติดีหรือไม่ จากนั้นอีกหนึ่งเดือนก็เป็นอันหมักได้ที่” หยุนชิงบอกกับสหายด้วยใบหน้าเปื้อ
ยามซื่อ (09.00-10.59 น.) ร่างบางที่นอนหลับใหล เพราะความอ่อนล้าเริ่มขยับตัวใต้ผ้าห่มเล็กน้อย ก่อนจะลืมตาขึ้นมาหญิงสาวขยับตัวลุกนั่งอย่างทุลักทุเล เพราะความเจ็บปวดเมื่อยกายจนไม่สามารถขยับตัวได้ถนัด รู้สึกเจ็บแปลบตรงกลางกายมากกว่าส่วนอื่น“โอ๊ย เอวข้าไม่ใช่ว่าพังหมดแล้วนะเจ็บขนาดนี้” หยุนชิงบ่นด้วยเสียงแหบแห้ง หญิงสาวสอดส่ายสายตามองหาใครบางคนไปจนทั่วทั้งห้องแต่ก็ไม่พบใคร ก่อนจะขยับก้าวขาลงจากเตียงเพื่อจะไปอาบน้ำชำระร่างกาย แต่ร่างบอบบางยังไม่ทันจะยืนได้มั่นคงกลับถูกใครบางคนอุ้มขึ้นจนตัวลอยตกอยู่ในอ้อมแขนนั้น“เหตุใดไม่เรียกใครเข้ามาช่วยพาไปอาบน้ำ หากเจ้าล้มบาดเจ็บขึ้นมาจะทำเช่นไร” หวังอี้หลินที่เปิดประตูห้องเข้ามาเห็นภรรยากำลังซวนเซจะล้มพอดี จึงปราดเข้ามารับตัวนางไว้ได้ทัน“ท่านดูสภาพข้าสิเจ้าคะ จะกล้าเรียกได้อย่างไรอายคนอื่นเขาแย่” ยิ่งนึกถึงเรื่องเมื่อวานนางกับเขาเร่าร้อนกันแค่ไหนใบหน้าเล็กเห่อร้อนขึ้นมาทันที พร้อมกลับซุกหน้าเข้ากับอกกว้างเพื่อหนีความอายร่างหนาหัวเราะร่วนอย่างชอบอกชอบใจ ยิ่งได้เห็นท่าทีเขินอายของภรรยาแล้ว ชวนให้เขาเบิกบานใจยิ่งยามปกตินางดุราวกับแม่เสือ ดูยามนี้สิราวกั
ความคิดเห็น