My wife  เมื่อหมดรัก

My wife เมื่อหมดรัก

last updateDernière mise à jour : 2025-09-26
Par:  SithaMis à jour à l'instant
Langue: Thai
goodnovel16goodnovel
Notes insuffisantes
82Chapitres
130Vues
Lire
Ajouter dans ma bibliothèque

Share:  

Report
Overview
Catalog
Scanner le code pour lire sur l'application

จริงหรือไม่ว่านานไปความรักย่อมจืดจาง แต่ชีวิตคู่ยังอยู่ต่อไปได้เพราะยังคงเหลือความผูกพัน แต่ถ้าไม่เหลือทั้งรักและผูกพันชีวิตคู่ของเขาและเธอจะเป็นเช่นไร สกนธี สถาปนิกหนุ่มวัย 35 ผู้รักชีวิตสนุกสนานถึงแม้ว่าจะแต่งงานแล้ว อิสริยา เจ้าของร้านมินิมาร์ทผู้เป็นภรรยา หญิงสาววัย 30 ปีที่ถึงแม้จะแต่งงานแล้วแต่เธอและเขาก็ใช้เงินคนละกระเป๋า ต่างคนต่างมีงานตัวเอง ทั้งสองใช้ชีวิตแต่งงานมาจนถึงปีที่เจ็ด ด้วยความที่ต้องดิ้นรนกับสภาวะเศรษฐกิจจนทำให้ความหวือหวาหมดไป สองสามีภรรยาที่ดูเหมือนว่าจะมีชีวิตที่สวนทางกัน วันหยุดของเขาคือวันที่ขายดีของเธอเป็นแบบนี้มาหลายปีดีดักจนสองคนห่างกันไปเรื่อยๆ และดูเหมือนว่าจิตใจก็จะห่างไปด้วยเช่นกัน เมื่อเธอเห็นว่าในปกเสื้อเขามีรอยลิปสติกและกลิ่นน้ำหอมที่แปลกไป ปีที่เจ็ด จะเป็นปีที่เจ็บหรือเปล่า ลองติดตามดูค่ะ

Voir plus

Chapitre 1

บทที่ 1  ไล่เมียออกจากบ้าน

“น้องเพียงรีบกินข้าวลูก  วันนี้แม่ต้องไปซื้อของเข้าร้านค่ะ” 

เสียงนั้นทำให้เด็กหญิงวัยห้าขวบรีบทานเร็วขึ้น  วันนี้เป็นวันหยุดเด็กหญิงสุพิชชาจะไปที่ร้านกับมารดา 

ร้านที่ว่าคือมินิมาร์ทที่แม่ของเธอเป็นเจ้าของ   อิสริยาเปิดร้านนี้ตั้งแต่แต่งงานปีแรก เดิมทีก่อนหน้านั้นหญิงสาวทำงานประจำ แต่เมื่อแต่งงานแล้วสกนธีขอให้เธอออกจากงานมาเป็นแม่บ้าน แต่เมื่อเธอยอมทำตามที่เขาขอกลับพบว่าสกนธีไม่สามารถซัปพอร์ตเธอได้เท่าที่ควร  และอิสริยาเองก็ไม่อยากขอเงินสามีใช้  เธอจึงตัดสินใจเอาเงินเก็บที่มีมาเปิดร้านมินิมาร์ทที่ตึกเก่าของครอบครัวซึ่งอยู่ในย่านการค้า

“คุณพ่อล่ะคะแม่” เด็กหญิงถามเมื่อนึกขึ้นได้

“คุณพ่อนอนดึกลูกเลยยังไม่ตื่น  เราออกไปกันก่อนก็ได้ค่ะ”  หญิงสาวตอบเด็กน้อยที่ฉลาดขึ้นทุกวัน

“คุณพ่อทำงานดึกหาเงินมาเลี้ยงหนูกับคุณแม่ใช่ไหมคะ”  

เด็กหญิงพูดต่อ  คนเป็นแม่เงียบกริบเธอไม่อยากทำลายภาพพ่อที่ดีในสายตาของลูก  จึงไม่ได้แย้งว่าความจริงแล้วสกนธีมีหน้าที่ในบ้านเพียงแค่จ่ายค่าเทอมลูกเท่านั้น  นอกนั้นกินอยู่ ค่าเสื้อผ้าค่าน้ำไฟ ค่าของใช้ แม้แต่ค่ากับข้าวเธอก็ต้องออกเองหมด

สกนธีเดินลงมาจากชั้นบน   ชายหนุ่มมีนัดตอนเช้ากับหุ้นส่วนเรื่องโพรเจกต์ใหม่

“วันนี้พี่ต้องไปคุยงานกับนนท์อาจจะกลับดึก  เอ๋ไม่ต้องทำกับข้าวเผื่อนะ”  เขาหยิบเอกสารที่โต๊ะทำงานเตรียมออกไปข้างนอก

“คุณพ่อขา  หนูอยากไปเที่ยวค่ะ” 

เด็กหญิงรีบลงจากเก้าอี้ไปหาบิดา  สกนธีก้มลงหอมแก้มลูกสาวหนึ่งฟอดก่อนจะตอบว่า

“วันนี้คุณพ่อไม่ว่างเลยค่ะ  น้องเพียงไปกับคุณแม่ก่อนได้ไหมคะ” 

เด็กหญิงหน้ามุ่ยแต่ก็ยอมเข้าใจ  “งั้นคราวหน้าคุณพ่อต้องไปกับหนูนะ” 

“จ้ะ พ่อไปนะคะ”  สกนธีอุ้มลูกสาวพากลับมาส่งที่โต๊ะทานอาหารและหยิบกุญแจรถออกไป  สักพักเสียงรถยนต์ของเขาออกจากบ้านไปอิสริยาจึงขยับตัว

“ไปกันรึยังคะลูก” 

เช้าวันต่อมาอิสริยาเก็บเสื้อผ้าของสกนธีเตรียมแยกใส่เครื่องซักผ้า  ปกติวันอาทิตย์เธอจะอยู่บ้านครึ่งวันเช้าทำงานบ้านและเข้าร้านในช่วงบ่าย  เธอขมวดคิ้วเมื่อเห็นรอยลิปสติกบนปกเสื้อและกลิ่นน้ำหอมที่ไม่ใช่ของเขา

เธอตัดสินใจโทรศัพท์ไปหาชานนท์ เพื่อนรุ่นน้องของสามีและเป็นหุ้นส่วนทำบริษัทเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมด้วยกัน

“พี่นนท์เหรอ เอ๋เองนะคะ”   เธอบอกเมื่อปลายทางรับสาย

“สวัสดีครับเอ๋”  ชานนท์ตอบกลับมา

“เอ๋อยากถามว่าเมื่อคืนพี่เก่งเขาไปคุยงานกับพี่นนท์ใช่ไหมคะ”  

“ครับ เมื่อคืนไปคุยกันที่ร้านเฮียหมิง แต่ไม่ดึกนะครับแค่สามทุ่มก็แยกย้าย”  ชานนท์ตอบตามตรง

“ขอบคุณค่ะพี่นนท์ ไม่รบกวนแล้วสวัสดีค่ะ” 

อิสริยาวางสายเธอรู้สึกหมดแรง  ชานนท์บอกว่าแค่สามทุ่มก็แยกย้าย แต่สกนธีกลับมาถึงบ้านตอนตีสอง  ที่ผ่านมาเธอปิดหูปิดตามาตลอดจนถึงวันนี้ที่รู้สึกว่าไม่อยากอดทนอีกแล้ว

           วันนั้นสกนธีตื่นในตอนเกือบสิบนาฬิกา  ตอนนั้นอิสริยากำลังเก็บผ้าที่เริ่มแห้งส่งร้านซักรีด 

“อ้าวทำไมเสื้อตัวนี้ไม่เอาไปซักด้วยล่ะเอ๋”  ชายหนุ่มถามเมื่อเห็นเสื้อเชิ้ตเมื่อคืนยังอยู่ในถังผ้า

“เมื่อคืนพี่เก่งไปไหนมาคะ”  อิสริยาถามโดยไม่หันมามองเขา

“อ้าวพี่บอกแล้วไงว่าไปคุยงานกับไอ้นนท์”  สกนธีตอบ เขาขมวดคิ้วเมื่ออิสริยาเดินมาหยิบเสื้อตัวนั้นขึ้นมาแล้วคลี่ให้เห็นปกเสื้อ

“แล้วนี่อะไรคะ” 

สกนธีอึ้งเขาไม่รู้ตัวว่าเด็กเมื่อคืนจะทิ้งหลักฐานไว้ 

“ในร้านแบบนี้ก็มีเด็กดริงก์นั่งคุยเป็นปกติ มันจะอะไรนักหนาล่ะ พี่ไม่ได้ไปทำอะไรไม่ดีสักหน่อย”

“อ้อ แล้วเลิกคุยสามทุ่มพี่ไปไหนต่อถึงกลับบ้านตีสอง” 

หญิงสาวตัดสินใจถามตรงๆ 

“นี่เธอโทรไปถามเพื่อนพี่เหรอ  ไอ้นนท์มันจะคิดว่าพี่เป็นยังไงเมียถึงโทรเช็กแบบนี้  ก่อนจะโทษคนอื่นดูตัวเองก่อนนะว่าหน้าตาดูได้ไหมโทรมขนาดนี้ใครจะไปอยากอยู่ใกล้  ไม่ขอเลิกก็ดีเท่าไหร่แล้ว” 

สกนธีเอาเสียงดังเข้าข่ม เขารู้ว่าจุดอ่อนเธอคือเรื่องที่อิสริยาจะไม่ยอมให้ลูกขาดพ่อเด็ดขาด  ไม่ว่าจะทะเลาะกันกี่ครั้งที่ผ่านมาพอเขาพูดเรื่องเลิกเธอจะเงียบและเป็นฝ่ายยอมเขามาตลอด

แต่วันนี้เธอเองก็ไม่อยากทนแล้ว  ที่โทรมที่ไม่สวยเหมือนเดิมก็ไม่ใช่เพราะเขาก็มีส่วนหรอกหรือ

“ถ้ามันแย่ขนาดนั้นก็ไม่ต้องอยู่ค่ะ  เราเลิกกันเลยก็ได้”  อิสริยาพูดเสียงเรียบ เธอทนข่มความรู้สึกจนกลายเป็นความเก็บกดมาหลายปี 

สกนธีโมโหขึ้นมาทั้งที่เขาเป็นฝ่ายผิด  “งั้นก็ออกไปเลยเก็บของออกไปทั้งแม่ทั้งลูกบ้านนี้เป็นของพี่เพราะพี่เป็นคนซื้อ  ถ้าคิดว่าที่อื่นอยู่ได้ก็ออกไปพาลูกเธอไปด้วย  มีปัญญาเลี้ยงลูกเองก็ไปเลย”

เสียงเด็กหญิงสุพิชชาร้องไห้จ้าเมื่อได้ยินพ่อไล่เธอและแม่  อิสริยาตรงไปกอดลูกส่วนสกนธีเดินกระแทกเท้าปังๆ ออกไปจากบ้าน

อิสริยากอดปลอบลูกสักพักจนเด็กหญิงเงียบ  และร้องไห้จนหลับไปเอง   หญิงสาวปล่อยลูกให้นอนหลับและเมื่อเห็นว่าเด็กหญิงหลับสนิทดีแล้วหลังจากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์มาโทรหาน้องสาว

“แบมเหรอมาช่วยพี่เก็บของหน่อย เอารถที่บ้านมาด้วย”  เมื่ออีกฝ่ายรับสายเธอก็แจ้งถึงสิ่งที่ต้องการให้ช่วยทันทีจนน้องสาวงง

“อ้าวพี่เกิดอะไรขึ้น”  เสียงน้องสาวถามมาอย่างแปลกใจอิสริยาจึงเล่าเรื่องคร่าวๆ ให้น้องฟังและกำชับว่า 

“มาเร็วๆ นะ เดี๋ยวค่อยมาคุยกัน” 

“ได้เลยพี่เอ๋  เดี๋ยวจะเอาลูกน้องไปช่วยขนด้วยมันไล่แล้วจะไปอยู่ทำไม” 

ฝ่ายนั้นรับคำอย่างโมโห  ก่อนสายจะตัดไปอิสริยาได้ยินเสียงน้องสาวเรียกหาลูกน้องเสียงดังไปหมด

ต่อจากนั้นหญิงสาวโทรไปที่ร้านมินิมาร์ทที่ตัวเองเป็นเจ้าของ  สั่งให้แม่บ้านที่ร้านทำความสะอาดห้องพักด้านบนที่เธอตกแต่งเป็นห้องนอนไว้ก่อนหน้าเหมือนจะรู้ว่าจะมีวันนี้   เพราะอิสริยาเพิ่งรีโนเวตชั้นบนเป็นที่พักและตกแต่งเสร็จเมื่อสองเดือนที่แล้วเอง

เธอรอเพียงไม่นานอันธิกาก็มาถึงพร้อมกับลูกน้องที่บ้าน  และเพราะว่าครอบครัวเดิมของเธอทำธุรกิจค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค  จึงมีโกดังของตัวเองและมีลูกน้องมากมายที่พร้อมมาช่วยขนของแม้ว่าจะกะทันหันก็ตาม  น้องสาวของเธอขับรถส่วนตัวมาและมีหัวหน้าคนงานขับรถหกล้อมาอีกหนึ่งคัน 

อิสริยามีหน้าที่เพียงชี้สั่งว่าเธอจะเอาอะไรไปบ้าง  จากนั้นทุกสิ่งก็ถูกขนขึ้นรถในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง

อันธิกาเข้ามาช่วยพี่สาวเก็บเสื้อผ้าของส่วนตัวและดูแลหลานสาวในห้องนอน

“พวกเอกสารสำคัญเอาไปหมดรึยังพี่”  น้องสาวเตือน

“หมดแล้ว” 

อิสริยาตอบสั้นๆ เธอไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับสกนธี  เขาทำเพียงจดทะเบียนรับรองบุตรในตอนที่น้องเพียงเกิดมาจึงไม่มีเอกสารอะไรที่ยุ่งยาก 

บ้านโล่งขึ้นมากกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์เมื่อเธอให้คนงานขนของส่วนที่เป็นของเธอออก

“แล้วนี่ล่ะพี่ ชุดรับแขกนี่เงินพี่นะชุดละเกือบแสนไม่เอาไปเหรอ  โต๊ะกินข้าวอีกไม้สักทองที่ป๊ายกให้ตอนแต่งงานก็ด้วย” 

Déplier
Chapitre suivant
Télécharger

Latest chapter

Plus de chapitres

Commentaires

Pas de commentaire
82
บทที่ 1  ไล่เมียออกจากบ้าน
“น้องเพียงรีบกินข้าวลูก วันนี้แม่ต้องไปซื้อของเข้าร้านค่ะ” เสียงนั้นทำให้เด็กหญิงวัยห้าขวบรีบทานเร็วขึ้น วันนี้เป็นวันหยุดเด็กหญิงสุพิชชาจะไปที่ร้านกับมารดา ร้านที่ว่าคือมินิมาร์ทที่แม่ของเธอเป็นเจ้าของ อิสริยาเปิดร้านนี้ตั้งแต่แต่งงานปีแรก เดิมทีก่อนหน้านั้นหญิงสาวทำงานประจำ แต่เมื่อแต่งงานแล้วสกนธีขอให้เธอออกจากงานมาเป็นแม่บ้าน แต่เมื่อเธอยอมทำตามที่เขาขอกลับพบว่าสกนธีไม่สามารถซัปพอร์ตเธอได้เท่าที่ควร และอิสริยาเองก็ไม่อยากขอเงินสามีใช้ เธอจึงตัดสินใจเอาเงินเก็บที่มีมาเปิดร้านมินิมาร์ทที่ตึกเก่าของครอบครัวซึ่งอยู่ในย่านการค้า“คุณพ่อล่ะคะแม่” เด็กหญิงถามเมื่อนึกขึ้นได้“คุณพ่อนอนดึกลูกเลยยังไม่ตื่น เราออกไปกันก่อนก็ได้ค่ะ” หญิงสาวตอบเด็กน้อยที่ฉลาดขึ้นทุกวัน“คุณพ่อทำงานดึกหาเงินมาเลี้ยงหนูกับคุณแม่ใช่ไหมคะ” เด็กหญิงพูดต่อ คนเป็นแม่เงียบกริบเธอไม่อยากทำลายภาพพ่อที่ดีในสายตาของลูก จึงไม่ได้แย้งว่าความจริงแล้วสกนธีมีหน้าที่ในบ้านเพียงแค่จ่ายค่าเทอมลูกเท่านั้น นอกนั้นกินอยู่ ค่าเสื้อผ้าค่าน้ำไฟ ค่าของใช้ แม้แต่ค่ากับข้าวเธอก็ต้องออกเองหมดสกนธีเดินลงมาจากชั้นบน ชายหนุ่
last updateDernière mise à jour : 2025-08-14
Read More
บทที่ 2 ลูกเมียหาย
อันธิกาท้วงเธอสั่งคนงานให้ยกกลับให้หมด และพูดต่อว่าถ้ารถหกล้อคันเดียวขนไม่หมดให้เรียกรถมาเพิ่มอีกคัน อิสริยาจึงไม่ได้ว่าอะไรตอนแรกเธอเห็นว่าเป็นของชิ้นใหญ่ นึกเกรงใจคนงานเลยไม่สั่งให้ขนไปด้วย แต่ถ้าอันธิกาจัดการได้เธอก็ไม่มีปัญหาท้ายสุดอิสริยาเปิดเซฟ หญิงสาวเลือกเอาไปเฉพาะของของเธอกับลูก ส่วนอะไรที่เป็นของสกนธีเธอไม่แตะต้อง จากนั้นจึงไปอุ้มลูกสาวขึ้นมาเด็กหญิงงัวเงียเมื่อมารดาอุ้มออกมานอนต่อบนรถยนต์เพื่อเตรียมตัวเดินทาง“นอนต่อนะคะลูก” เธอลูบผมลูกสาวเบาๆ จากนั้นน้องเพียงก็หลับต่อ อิสริยาถอนใจเมื่อลูกไม่งอแงในช่วงเวลานี้“เดี๋ยวแบมให้คนงานเอาของไปไว้ที่ร้านพี่เลยนะ ชั้นสองใช่ไหมพี่เห็นพี่ตกแต่งแล้วนี่” อันธิกาเดินมาบอกเมื่อคนงานปิดท้ายรถเรียบร้อย“ขอบใจนะแบม” เธอตื้อในอกไม่รู้จะพูดอะไร“ไม่เป็นไรพี่ เดี๋ยวช่วงนี้แบมให้จี๊ดไปอยู่กับพี่นะ จะได้ช่วยดูแลน้องเพียงด้วย เย็นนี้ไปกินข้าวที่บ้านไหมป๊ากับม้าก็ห่วงพี่นะ” อันธิกาพูดถึงแม่บ้านที่อยู่กันมานาน จี๊ดเองก็คุ้นเคยสนิทสนมกับอิสริยาและลูกดี ประโยคนั้นทำให้พี่สาวน้ำตาร่วง เธอไม่อยากเอาปัญหาส่วนตัวไปบอกที่บ้านเพราะไม่อยาก
last updateDernière mise à jour : 2025-08-14
Read More
บทที่ 3  “พ่อไล่หนู” 
อิสริยาไปส่งลูกสาวที่โรงเรียน เด็กหญิงเรียนชั้นอนุบาลสองของโรงเรียนเอกชนเล็กๆ แห่งหนึ่ง มีจำนวนนักเรียนต่อห้องไม่มากแต่ครูใส่ใจดูแลเด็กๆ ดี “เย็นนี้แม่มารับค่ะ เดี๋ยวเจอกันนะคะ” เธอหอมแก้มลูกปลดล็อกประตูรถ ครูประจำชั้นรีบมารับเด็กหญิงทันที “บ๊ายบายค่ะแม่” เด็กหญิงลงจากรถไปกับคุณครู หญิงสาวมองจนลูกเข้าไปในโรงเรียนเรียบร้อยแล้วจึงกลับไปที่ร้านปกติแล้วในครึ่งวันเช้าอิสริยาจะเป็นคนดูแลร้านเองจนถึงสิบเอ็ดนาฬิกา จากนั้นผู้จัดการร้านจะมารับช่วงต่อจนถึงเวลาปิดร้านในเวลาหนึ่งทุ่ม ตอนบ่ายหากไม่มีธุระไปไหนเธอจะเคลียร์บัญชีและทำงานเอกสาร เซ็นเช็คและวางบิลต่างๆ ก่อนหน้านี้บ่ายสามเธอจะต้องออกจากร้านไปรับเด็กหญิงสุพิชชาที่โรงเรียน จากนั้นไปตลาดหรือซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้อของสด ของใช้ในบ้านเตรียมทำอาหารเย็นให้สองพ่อลูก เมื่อกลับถึงบ้านก็มีงานบ้านรออยู่ เธอต้องล้างจานชามที่ใช้ในมื้อเช้า ทำอาหารเย็น ปัดกวาดเช็ดถูบ้านสารพัดงานบ้านที่ไม่จบสิ้น สอนการบ้านลูก พาลูกทานข้าวอาบน้ำจนถึงพาเข้านอนเธอจึงไม่เคยมีเวลาดูแลตัวเอง นานๆ ครั้งจะได้เข้าร้านเสริมสวย หญิงสาวรู้ตัวดีว่าเธอไม่ได้สวยงามแบ
last updateDernière mise à jour : 2025-08-14
Read More
บทที่ 4 เริ่มดึงสติได้
คืนนั้นอิสริยาส่งลูกเข้านอนแล้วเธอออกมายืนใช้ความคิดที่ระเบียง เธอไม่อยากให้ลูกฝังใจกับคำพูดไม่ดีของสกนธี เขาคงไม่รู้ว่าเด็กวัยนี้กำลังจำและจำได้แม่นยำมาก เธอกะพริบตาถี่ๆ มองฝ่าความมืดลงไปด้านล่างเมื่อเห็นรถยนต์คุ้นตาจอดอยู่เยื้องกับหน้าร้าน นั่นรถยนต์ของสกนธีเขามาทำอะไรที่นี่ฝ่ายสกนธีเขาไม่รู้จะไปไหน ตั้งแต่อิสริยาออกจากบ้านไปพร้อมลูกเขาไม่ได้ไปสังสรรค์ ไม่มีเรื่องต้องไปพบลูกค้าหรือคุยงานในช่วงค่ำอีกเลย ในวันแรกๆ เขาเลือกที่จะไปดื่มแต่เขาก็นั่งได้เพียงชั่วครู่ก็ต้องรีบกลับบ้านเขายังหวังว่าเมื่อนานไปอิสริยาอาจจะหายโกรธ และเธอจะกลับมาเองแต่สิ่งที่เห็นในวันนี้มันตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาคิด อิสริยามีความสุขดี สวยขึ้น หน้าตาดูสดชื่นมีความสุข ผมยาวที่เคยรวบง่ายๆ ได้รับการจัดทรงดูแลอย่างดี เธอแต่งหน้าอ่อนๆ ไม่ใช่แม่บ้านที่ยุ่งกับงานครัวกับลูกจนหน้ามันแบบตอนที่อยู่กับเขาและเพราะว่าเขาไม่รู้จะไปไหน จึงเลือกมาจอดรถที่หน้าร้านของเธอ เขารู้ว่าเธอย้ายมาอยู่ที่นี่แต่ไม่กล้าเข้าไปหาอิสริยาหมุนตัวกลับเข้าไปในห้อง จากนั้นโทรศัพท์ของเธอมีสายเรียกเข้าจากสกนธี ชายหนุ่มทันเงยหน้าเห็นเธอที่ระ
last updateDernière mise à jour : 2025-08-14
Read More
บทที่ 5 คุณพ่อน้องเพียงมาค่ะ
“พี่เอ๋คะคุณพ่อน้องเพียงมาค่ะ” อิสริยาเงยหน้าจากกองเอกสารบัญชีเมื่อลูกน้องเดินมาบอกในห้องทำงาน เธอยังไม่ทันตอบอะไรสกนธีก็เข้ามาในห้อง หญิงสาวจึงโบกมือให้พนักงานออกไปเธอมองเขานิ่งเมื่อชายหนุ่มมานั่งตรงหน้าโต๊ะทำงาน “เมื่อไหร่เอ๋จะพาลูกกลับบ้าน” สกนธีไม่อารัมภบทนาน“บ้านฉันอยู่ที่นี่ค่ะ” อิสริยาตอบเสียงเรียบ เธอทำงานตรงหน้าต่อเหมือนว่าเขาเป็นอะไรสักอย่างที่ไม่น่าสนใจ“เอ๋.. พี่ขอโทษ ยกโทษให้พี่ได้ไหม” เขายอมเอ่ยคำว่าขอโทษเมื่อรู้ว่าถูกเมินจริงๆอิสริยาเงยหน้ามองเขา “ขอโทษเรื่องอะไรคะ เรื่องที่คุณไล่ฉันกับลูกออกจากบ้าน เรื่องที่ไม่สนใจลูกเมีย เรื่องที่ไปเที่ยวแล้วไปไหนต่อไหนกับใคร หรือว่าเรื่องที่..เราหมดรักกันแล้ว” “ไม่ใช่นะเอ๋ พี่รักเอ๋กับลูกส่วนเรื่องคืนนั้นพี่อธิบายได้” สกนธีรีบพูด“แต่ฉันไม่อยากรู้แล้วค่ะว่าคืนนั้นคุณไปไหนมา ไปกับใคร ส่วนเรื่องหมดรัก คุณจะคิดยังไงฉันไม่รู้แต่ฉันหมดแล้ว ฉันเหนื่อย เหนื่อยมากกับการเป็นเมียเป็นคนใช้เป็นสารพัดอย่างแต่ไม่เคยมีความหมาย ไม่มีตัวตน” อิสริยาระเบิดออกมาอย่างเหลืออด เธอเห็นแววตาตื่นตะลึงของสกนธีมันยิ่งทำให้คำพูดหลั่งไหลไม่หยุ
last updateDernière mise à jour : 2025-08-16
Read More
บทที่ 6 เมื่อไหร่จะกลับบ้าน
อิสริยาเดินนำเขาไปที่ห้องทำงาน ชายหนุ่มรีบตามเธอเข้าไปในนั้น เธอนั่งที่หลังโต๊ะทำงานเหมือนกำลังจะเจรจาธุรกิจไม่ใช่คุยกับสามี“เชิญนั่งค่ะ ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรคะ” “เอ๋ ทำไมทำเหมือนเราไม่ใช่ผัวเมียกันล่ะ” “เหรอคะ คุณเพิ่งรู้สึกเหรอฉันรู้สึกมาตั้งนานแล้ว รู้สึกมาเป็นปีแล้วทำไมคุณความรู้สึกช้าจัง” เธอตอบตามที่คิดทำให้สกนธีหน้าสลดลง“เอ๋พี่ขอโทษ ขอโทษที่ละเลยเอ๋กับน้องเพียง ขอโทษที่ไม่ทำตามสัญญาแต่ให้โอกาสพี่อีกครั้งได้ไหม กลับบ้านเรากันเถอะนะ” “คุณพูดว่านั่นเป็นบ้านคุณ จะมาบ้านเราอะไรตอนนี้” อิสริยากระชากเสียงนั่นเป็นเธอในมุมที่สกนธีแทบไม่เคยเห็น “ฉันยอมให้คุณทำหน้าที่พ่อให้น้องเพียงได้แค่นั้น แล้วถ้าวันไหนลูกรู้สึกแย่ๆ เพราะคุณอีกความเป็นพ่อก็จะไม่มีเหลือเหมือนกัน” “งั้น..พี่ขอพาลูกไปเรียนดนตรีได้ไหมวันเสาร์ ลูกอยากไป” สกนธีต่อรองแต่อิสริยายิ้มมุมปาก“คุณถามตัวเองก่อนเถอะว่าจะมีเวลาให้ลูกได้ทุกวันเสาร์ไหม ไม่ใช่มาแค่ไม่กี่วันแล้วคุณก็หายไปเท่าที่จำได้เมื่อก่อนจะวันไหนๆ คุณก็ไม่เคยมีเวลาให้น้องเพียงเลยนะ ลูกชวนคุณไปสวนสัตว์แล้วคุณก็รับปากส่งๆ จนตอนนี้เขาดินปิดไปแล้วเคยจ
last updateDernière mise à jour : 2025-08-16
Read More
บทที่ 7 เรียนดนตรี
ไปเรียนดนตรีสกนธีพาน้องเพียงมาถึงโรงเรียนสอนดนตรีก่อนเวลาเข้าเรียนเล็กน้อย พอมีเวลาได้คุยกับครูเรื่องรายละเอียดจนเป็นที่พอใจ ในคอร์สนั้นมีนักเรียนวัยเดียวกันกับน้องเพียงสองถึงสามคนความจริงแล้วทางโรงเรียนแนะนำว่าเด็กหญิงควรเรียนเปียโนก่อนเพื่อให้มีพื้นฐานดนตรี และครูเกรงว่าน้องเพียงที่อายุห้าขวบนิ้วอาจจะไม่มีแรงพอที่จะกดคอร์ดได้ แต่สกนธีไม่อยากให้ลูกผิดหวัง เขาจึงตั้งใจพามาเรียนก่อนสักครั้งสองครั้งแล้วถ้าเด็กหญิงอยากเรียนต่อเขาจะตามใจ แต่ถ้ายังเรียนไม่ได้จริงเขาจะคุยกับน้องเพียงว่าครูขอให้เปลี่ยนไปเรียนเปียโนก่อนชายหนุ่มมาส่งลูกที่หน้าห้องเรียน“พ่อจะรอหนูที่หน้าห้องนะคะลูก” “ค่ะคุณพ่อ หนูไปแล้วนะคะ” เด็กหญิงยกมือขึ้นบ๊ายบายกับคุณพ่อ หน้าห้องเรียนมีชุดโต๊ะเก้าอี้ว่างๆ สกนธีจึงใช้เวลาในตอนนั้นดูงานเอกสารที่ค้างอยู่ ประชุมออนไลน์กับทีมงานและสั่งงานลูกน้องที่บริษัท เวลาผ่านไปสองชั่วโมงอย่างรวดเร็ว เด็กหญิงสุพิชชาวิ่งมาหาคุณพ่ออย่างร่าเริง“คุณพ่อขา หนูมาแล้ว” “เป็นไงคะลูก เรียนสนุกไหม หนูชอบไหม” สกนธีปิดแล็ปท็อป เขาเงยหน้ายิ้มให้เด็กหญิงที่กำลังอารมณ์ดี“สนุกมากค่ะคุณพ่อ
last updateDernière mise à jour : 2025-08-16
Read More
บทที่ 8 ที่ดินสินสอด
สามชั่วโมงต่อมา พวกเขาทั้งหมดมาถึงสวนสัตว์เปิดเขาเขียวจนได้ อิสริยานั่งเบาะหลังปล่อยให้เด็กหญิงสุพิชชานั่งคู่บิดา เธอฟังเสียงพ่อลูกคุยกันด้วยความรู้สึกไม่คุ้นชิน ไม่ชินทั้งการที่สกนธีมีเวลามาใส่ใจลูกสาว หรือไม่ชินกับการที่เธอได้ขึ้นมานั่งในรถยนต์ของเขาอีกครั้ง ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่เธอกับสกนธีใช้ชีวิตต่างคนต่างไป ต่างคนต่างอยู่ ช่องว่างที่มีในครอบครัวกลายเป็นเรื่องปกติจนเธอชินชาหลังจากที่สกนธีจัดการเรื่องตั๋วเข้าชมสวนสัตว์แล้ว พวกเธอก็ได้ขึ้นรถรางนำชมส่วนการแสดงต่างๆ ตลอดระยะเวลานั้นอิสริยาแทบจะไม่ได้พูดอะไร นอกจากเออออเวลาที่ลูกสาวหันมาคุยด้วย นอกนั้นเธอเป็นฝ่ายเงียบปล่อยให้หน้าที่การดูแลเด็กหญิงสุพิชชาเป็นของพ่อเต็มที่“เอ๋ดูอะไรเหรอ พี่เห็นก้มหน้าก้มตามองดูแต่มือถือมาตลอดทั้งวันเลยนะ” สกนธีอดรนทนไม่ไหวจนต้องถามในขณะที่รอเด็กหญิงสุพิชชาเลือกไอศกรีม เขาเห็นอิสริยาสนใจแต่อุปกรณ์สื่อสารในมือแทบจะตลอดเวลา“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ” เธอเงยหน้าตอบมองเขาด้วยดวงตาว่างเปล่า เธอกำลังคุยกับครอบครัวผ่านโปรแกรมแชตเรื่องที่ดินที่พุฒิเมธเสนอมา แต่ดูเหมือนว่าจะมีปัญหาจุกจิกทั้งสองผืน คง
last updateDernière mise à jour : 2025-08-16
Read More
บทที่ 9 น้ำหยดลงหิน หินบอกว่ารำคาญ
อิสริยากลับบ้านด้วยความหนักใจ และมีความตึงเครียดมากขึ้นเมื่อรู้ว่าพุฒิเมธมารอที่ร้าน“พี่เมธมานานหรือยังคะ เอ๋ไม่รู้ว่าพี่จะมาเลยเข้าร้านช้า” เธอออกตัวเป็นเชิงบอกว่าเขาไม่ได้นัดไว้“ครับ ไม่เป็นไรพี่รู้ว่าพี่ไม่ได้นัดเอ๋ไว้ วันนี้พี่มีที่อีกผืนอยากให้เอ๋ไปดูนะครับ รับรองว่าจะต้องชอบ” “ที่ไหนคะ” อิสริยาสนใจเผื่อว่าที่ผืนใหม่ที่นายหน้าหนุ่มแนะนำจะดีกว่าที่ดินของสกนธี “นี่ครับ ที่สวยเนื้อที่ประมาณยี่สิบห้าหรือสามสิบไร่อยู่ในย่านเศรษฐกิจด้วยตรงตามเงื่อนไขน้องเอ๋ทุกอย่าง” ชายหนุ่มส่งภาพของที่ดินผืนที่ว่าให้เจ้าของร้านสาวดูอิสริยารับมาแล้วต้องขมวดคิ้ว นี่มันที่ของสกนธีนี่นา “ที่ผืนนี้เจ้าของเขาขายเหรอคะ” “ครับ ถ้าน้องเอ๋สนใจพี่ดำเนินการให้ได้เลย” “แน่ใจนะคะพี่เมธ จริงๆ เอ๋ไม่คิดว่าเจ้าของที่เขาจะขายเลยนะคะ” เธอย้ำ“ขายครับ ซื้อได้แน่นอนถ้างบไปถึงถ้าน้องเอ๋กับที่บ้านยอมทุ่มสักห้าหกร้อยล้าน” พุฒิเมธยิ้มพุฒิเมธขอตัวกลับไปแล้วแต่อิสริยายังนั่งนิ่งที่เดิม หญิงสาวพยายามคิดว่าเพื่อนรุ่นพี่ไปเอาเรื่องที่ดินผืนนี้มาได้อย่างไรว่าสกนธีจะขายเที่ยงวันนั้นสกนธีมาหาที่ร้านหญิงสาวจึงถ
last updateDernière mise à jour : 2025-08-16
Read More
บทที่ 10 ที่ดินเจ้าปัญหา
“เรื่องที่ผืนนั้นตกลงเจ้าของเขาจะขายเท่าไหร่ครับคุณมิ” พุฒิเมธถามเพื่อนร่วมอาชีพสาวสวยคนหนึ่งที่ทำงานร่วมกันกับเขามาหลายครั้งแล้ว“เขายังไม่ให้ราคาแน่นอนมาเลยค่ะ เดี๋ยวฉันจะถามเขาใหม่อีกที คุณรออีกสักวันสองวันนะไม่อยากไปตามง้อมาก” มิลินตอบ“เขาขายแน่ใช่ไหม ผมเปิดขายไปแล้วลูกค้าก็ทำท่าสนใจด้วย ถ้าคุณเจรจากับเจ้าของที่ไม่ได้ลองให้ผมไปคุยเองไหม”มิลินปรายตามองพุฒิเมธแล้วเมิน“ฉันจัดการเอง เชื่อมือสิ” หญิงสาวคิดไปถึงชายหนุ่มเจ้าของที่รูปหล่อที่พบจากการแนะนำของชานนท์ เนื่องจากว่าสกนธีเป็นหุ้นส่วนของญาติเธอเอง‘สงสัยเราจะต้องไปดื่มที่ร้านคุณสมิติอีกครั้งแล้ว’ เธอนิ่วหน้าเมื่อคิดถึงตรงนี้ เพราะว่าเธอไม่เคยเจอสกนธีที่อื่นเลยนอกจากที่นั่น หญิงสาวรู้ว่าเขาเป็นเจ้าของที่ดินผืนนั้นเพราะว่าชานนท์เป็นคนบอก ในฐานะนายหน้าตามนิสัยเธอจึงมองหาที่ผืนใหม่ๆ เพื่อบอกขายเสมอ และเธอได้รู้ว่าที่ดินเปล่าในทำเลดีที่หมายตามานานเป็นของเพื่อนชานนท์โดยบังเอิญ จึงพยายามเลียบๆ เคียงๆ ถามมาตลอด แน่ใจว่าเจ้าของไม่มีโครงการจะทำอะไรจึงพยายามหาคอนแท็กต์ของสกนธีจนญาติหนุ่มยอมให้ในที่สุดค่ำวันนั้นเธอไปที่โรง
last updateDernière mise à jour : 2025-08-16
Read More
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status