ลู่มู่เฉินจ่อถุงหอมที่จมูกของหลี่เฟิ่งเซียน รอสักครู่นางก็ค่อยๆ ลืมตา
"เจ้าฟื้นแล้ว ทำได้ดีมาก" เขาชื่นชมภรรยาออกหน้า หลี่เฟิ่งเซียนรีบจับตัวเขาพลิกไปมา สำรวจดูว่าเขาได้รับบาดเจ็บหรือไม่
"ข้าไม่เป็นไร จ้าวเหลียงมาช่วยเราแล้ว" เขาบอกภรรยาพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ ผายมือไปทางจ้าวเหลียงที่กำลังจับหลงอี้มัด
"เจ้า! เจ้า..เจ้าทำอะไรกับข้าาาา!!!" หลงอี้ตะโกนออกมาด้วยเสียงแหบพร่า ตัวสั่นตาแดง เริ่มมีน้ำลายไหลออกจากปากอย่างที่ไม่อาจควบคุมได้
จ้าวเหลียงต่อยเขาไปสองสามทีเพื่อให้เขาอยู่นิ่งๆ จะได้มัดสะดวก แต่หลงอี้ก็ยังคงตัวสั่นอย่างรุนแรง มือเท้าเริ่มเกร็งจนอยู่ในท่าปกติไม่ได้
"ข้าบอกแล้วว่าเจ้าถูกพิษปลุกกำหนัด เพียงแต่ข้าเชี่ยวชาญกว่าคนของเจ้า" ลู่มู่เฉินพูดเสียงต่ำอย่างที่หลงอี้เคยชื่นชมว่าไพเราะยิ่ง
"สรุปก็คือเจ้าจะมีอาการอยากสอดใส่จนทนไม่ไหว เลือดในกายไหลเวียนไปทั่วร่างมากกว่าปกติ ทำให้ร่างกายต้องการขยับตลอดเวลา โดยทั่วไปแล้วหากเป็นคนที่ยังมีองคชาตอยู่ องคชาตจะแข็งตัวและขยายใหญ่ขึ้นจนมันเจ็บปวดไปทั้งร่าง แต่เจ้าไม่มี ข้าเองก็อยากรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น" ลู่มู่เฉินเดินมามองหลงอี้ที่กำลังทุรนทุราย
"เจ้า!! เจ้ามันสารเลว" หลงอี้ก่นด่า เห็นสายตาที่มองต่ำลงมาอย่างเย็นชาของลู่มู่เฉิน
"อืม ยังมีเรี่ยวแรงพูด แต่เสียงสั่นจนควบคุมไม่ได้ บางทีเจ้าอาจกำลังรู้สึกว่ามีไฟเผาไปทั่วร่าง แต่ถูกตัดไปแล้วจึงแข็งไม่ได้หลั่งไม่ได้..." มู่เฉินยังคงพูดต่อไปเรื่อยๆ ทำท่าทางราวกับท่านหมอที่กำลังวิเคราะห์ตรวจโรคให้คนไข้
หลี่เฟิ่งเซียนและจ้าวเหลียงต่างตัดสินใจว่าไม่ควรเป็นศัตรูกับเขา
ไม่นานจากนั้นลู่มู่เฉินดึงกระดาษแผ่นเล็กที่เขียนความผิดของหลงอี้เอาไว้แล้วออกมา เขาบอกให้จ้าวเหลียงบังคับให้หลงอี้ประทับลายนิ้วมือให้ได้
จ้าวเหลียงจัดการมัดหลงอี้และบังคับประทับลายนิ้วมือ เสร็จแล้วพวกเขาทั้งสามคนก็ออกจากห้องนั้น โดยจ้าวเหลียงเป็นผู้แบกหลงอี้ออกมา
ระหว่างเดินออกจากห้องลับนั้น จ้าวเหลียงบอกว่าเขามาที่นี่เพราะตามคนมา ช่วงที่กำลังตามล่าคนน่าสงสัยผู้หนึ่ง เขาตามมาเรื่อยๆ ก็มาถึงที่นี่ มีคนเฝ้าอยู่ไม่กี่คน เขาจึงแอบเข้ามา
แต่พอได้ยินเสียงคุณหนูใหญ่ร้อง เขาได้แต่ต้องรีบจัดการทหารเฝ้าหน้าห้อง ระหว่างที่กำลังหาทางเข้าไปในห้อง จู่ๆ ประตูกลไกก็เปิดออก อาจเพราะหลงอี้เรียกคนให้เข้าไปช่วยจึงปลดกลไก เขาจึงเข้ามาช่วยทั้งสองคนได้
ลู่มู่เฉินถึงได้รู้ว่าที่แท้หลงอี้ทำลายทางรอดของเขาไปแล้วจริงๆ หลงอี้คงรู้แต่แรกว่าเขาไม่ได้สลบ เพราะเอะใจตั้งแต่ตอนจับตัวหลี่เฟิ่งเซียนแล้ว ยังดีที่จ้าวเหลียงมาถึงที่นี่โดยบังเอิญ
"เช่นนั้น เจ้าไม่ได้พบท่านพ่อบ้าน และไม่ได้ส่งคนตามดูหยวนหยวนไว้สินะ" ลู่มู่เฉินถาม จ้าวเหลียงส่ายหน้า หลี่เฟิ่งเซียนกัดฟันแน่น ยังไม่อาจยอมรับเรื่องที่ยู่ยี่หักหลังตัวเองได้
"นางคงหนีไปแล้ว หรือไม่ก็คงปากมากพูดเรื่องที่คุณหนูใหญ่ถูกจับตัวไป เช่นนี้จะยิ่งแย่ พวกเราต้องรีบกลับไป" มู่เฉินบอก
หลี่เฟิ่งเซียนเองครั้งนึกถึงสิ่งที่ยู่ยี่ทำ นางยังคงเจ็บปวดและเศร้าใจ แต่นางเป็นห่วงอาหงกับท่านพ่อของนางด้วย ไม่มีเวลามานั่งเสียใจอีก
พวกเขารีบออกมาด้านนอกถึงได้รู้ว่าที่นี่เป็นพื้นที่ส่วนตัวของหลงอี้ ยังมีองครักษ์อีกหลายสิบคอยเฝ้ายาม ทั้งหลี่เฟิ่งเซียนและลู่มู่เฉินต่างปีนป่ายกำแพงเช่นจ้าวเหลียงไม่ได้ หากจะออกไปโดยพาตัวหลงอี้ไปด้วย อย่างไรก็ต้องฝ่าออกไปเท่านั้น
ตั้งแต่เช้าที่ถูกจับตัวมา จนตอนนี้ฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว หลี่เฟิ่งเซียนเก็บกิ่งไม้แถวนั้นมาจับไว้ให้มั่น ไม่ว่าอย่างไร พวกเขาต้องออกไปให้ได้!!
ลู่มู่เฉินมองภรรยาของเขาด้วยสายตาชื่นชมเอ็นดู เขาเดินไปยืนข้างๆ นาง หยิบกิ่งไม้ในมือนางออก และใส่กระบี่เล่มเล็กไว้แทน
"ข้าหยิบติดมือมาจากด้านใน คิดว่าเหมาะกับเจ้ามาก" เขาบอกนางว่าขโมยมาจากบ้านผู้อื่น และยังบอกว่าเหมาะกับนาง หลี่เฟิ่งเซียนมองสามีตาปริบๆ แต่นางไม่มีเวลาใส่ใจมาก รีบหันกลับไปตั้งท่าพร้อมรบ จดจ่อกับการฝ่าวงล้อมอีกครั้ง แม้จะใช้กระบี่ที่ขโมยมา นางก็ไม่เกี่ยง…
พ่อบ้านเดินไปมาอยู่หน้าประตูจวนแม่ทัพหลี่ แม้ประตูจะปิดอยู่ แต่เขาก็เดินไปมาตลอดเวลาด้วยความกังวล คล้ายกำลังรอใครอยู่ เขาเป็นเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ฮูหยินรองบอกให้เขาไปพักแต่เขาก็ทำไม่ได้
ยามนี้เวลาล่วงเลยจนใกล้ยามเหม่าแล้ว แต่ยังไม่มีผู้ใดกลับมา เขาสั่งคนออกตามหาทั้งจ้าวเหลียง คุณหนูใหญ่และท่านเขย แต่ไม่พบผู้ใดเลย เขากลัวว่าอาจเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น แต่เขาไม่กล้าทิ้งจวนแม่ทัพออกไปตามหาด้วยตัวเอง กลัวว่าอาจเกิดเรื่องที่จวนแม่ทัพได้อีกทางหนึ่ง
ท้องฟ้าเริ่มกลายเป็นสีเทา ในที่สุดก็มีสาวใช้วิ่งมาหาพ่อบ้าน บอกเขาว่าคุณหนูใหญ่กลับมาแล้ว พร้อมท่านเขยและจ้าวเหลียง พ่อบ้านวิ่งไปดูประตูหลัง พวกเขากลับมาแล้ว สภาพของแต่ละคนช่างน่าอนาจยิ่ง โดยเฉพาะคุณหนูใหญ่ที่เลือดท่วมตัว เห็นว่าพวกเขาทั้งสามคนปลอดภัย ยังลากบางสิ่งหรือบางคนที่กำลังสั่นจนน่ากลัวกลับมาด้วย
"คุณ..คุณหนูใหญ่" พ่อบ้านพูดออกมาได้เพียงเท่านั้น
"ท่านเขยถูกพิษ รีบพาเขาไปห้องยา" จ้าวเหลียงบอก พ่อบ้านจึงได้หันไปสังเกตดีๆ ลู่มู่เฉินหน้าซีด เหงื่อออกเต็มตัว แม้เขาจะยังยืนอยู่ได้อย่างปกติ
"รีบพาท่านเขยไปห้องยา" พ่อบ้านหันไปสั่งบ่าวชายคนหนึ่งแถวนั้น
"หยวนหยวนล่ะ" มู่เฉินถาม
"ข้า..ข้าไม่ได้พบกับหัวหน้าจ้าว แต่ยังดีที่ฮูหยินรองเห็นหยวนหยวนทำตัวแปลกๆ จึงจับตัวนางไว้ พอข้ากลับมาถึงจวนจึงเอานางไปขังไว้ในคุกใต้ดินแล้วขอรับ" พ่อบ้านรายงาน ลู่มู่เฉินถอนหายใจพยักหน้ารับรู้ แต่ใบหน้าของหลี่เฟิ่งเซียนเรียบเฉย
ฮูหยินรองรับรู้ว่าเขากำลังเล่นสนุกกับร่องชมพูของนาง แต่นางขยับตัวไม่ไหว ได้แต่อ้าปากร้อง อ้ะอ้ะ ตามปลายนิ้วมือของเขา เมื่อนางตัวสั่นใกล้จะแตกดับอีกครั้งเขาก็สอดใส่มังกรตัวเขื่อนเข้ามา กระแทกกระทั้นไม่กี่ทีนางก็สูดปากด้วยความเสียวสั่นสะท้านเขารู้ว่านางไปถึงฝั่งแล้ว จึงกระแทกรัวๆไม่ยั้งเพื่อพาตัวเองไปยังจุดที่นางพานพบบ้าง เขาจับสะโพกของนางไว้แน่น ปรนเปรอภรรยาเด็กด้วยแรงทั้งหมดของแม่ทัพใหญ่ เสียวซ่านจนไม่มีเวลาคิดว่านางจะรับความรุนแรงนี้ไหวหรือไม่เมื่อพายุความหฤหรรษ์หยุดลง สองสามีภรรยาต่างเหน็ดเหนื่อยแทบสิ้นใจ เขาก้มลงจูบปลอบประโลมภรรยาอย่างอ่อนโยน แต่ก็ขบคอระหงของนางจนเป็นรอยด้วย นางร้องเบาๆแต่เขาไม่ใส่ใจ อาจเพราะเขาไม่ได้เข้าหอมานานจึงมีความต้องการสูงมาก เขาพลิกตัวฮูหยินรองและขึ้นไปขย่มนางบนเตียงต่อไป“ข้าไม่อยากรักท่าน” เสียงอ่อนแรงของเซี่ยอิงเอ่ยขึ้นระหว่างที่เขากำลังกอดกกนางอย่างหลงใหล“เพราะเหตุใด” เขาถามเสียงกระเส่า ไม่ได้ใส่ใจมาก“เพราะข้าไม่อาจแย่งชิงท่านกับท่านหญิงเจียงที่แม่น้ำไน่เหอ นางจะโดดเดี่ยว นางรอท่านมานานมาก” หญิงสาวพูดถึงชีวิตหลังความตายที่คู่รักจะรอกันและกันเพื่อข
ปัง! แม่ทัพหลี่ตบลงไปบนโต๊ะอย่างแรง ฮูหยินรองสะดุ้งหลับตาแน่น แต่ไม่ขยับหนีไปไหน และทำแค่ก้มหน้ามากกว่าเดิม เขาหงุดหงิดอยู่สักครู่ คิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น “ต่อไปข้าจะเรียกเจ้าว่าอิงเอ๋อร์ เจ้าก็ควรเรียกข้าว่าท่านพี่ได้แล้ว อย่างไรข้าก็แต่งตั้งเจ้าเป็นฮูหยินของข้าแล้ว ไม่ใช่อนุ” เขาเสียงเบาลง“เจ้าค่ะ ..ท่านพี่” นางยังถือเสื้อในมือก้มหน้าอยู่ข้างเขาเช่นเดิม แต่หายดื้อแล้ว หลี่เหยาพอใจ จึงลุกขึ้นยืน กางแขนออกให้นางใส่เสื้อให้แต่เพราะนางตัวเล็กถึงจะพยายามเอื้อมมือเพื่อใส่เสื้อให้เขา ท่วงท่าในตอนนี้จึงคล้ายนางกอดเอวเขาอยู่ และเขารู้สึกว่ายังคงอยากกระแทกใส่นางอยู่ จึงโอบกอดนางไว้ในอ้อมแขน“ข้าจะเข้าหอกับเจ้า ให้บุตรแก่เจ้าสักคน เอาไว้วันหน้าหากข้าตาย เจ้าจะได้ไม่โดดเดี่ยว แม้เฟิ่งเซียนของข้าจะไม่ใจดำกระทั่งปล่อยให้เจ้าโดดเดี่ยว แต่อย่างไร หากเจ้ามีบุตรของเจ้าเองย่อมดีกว่า” เขาตัดสินใจ“ไม่เจ้าค่ะ!” นางปฏิเสธทันที เงยหน้ามองเขา ส่งสายตาแน่วแน่ว่านางไม่ต้องการจริงๆ “เพราะอะไร!” หลี่เหยาโกรธจนเส้นเลือดข้างหัวเต้นตุบๆ นี่เขาถึงขั้นเอ่ยปากจะเข้าหอ แต่นางกลับปฏิเสธแทบจะทันทีไม่ต้องคิดด้วยซ้
พอนางไม่หนีและหอบหายใจถี่ให้เขาพึงพอใจ เขาก็เริ่มเบามือและปรนเปรอความเสียวซ่านให้นางด้วยสองมือ หญิงสาวบิดตัวไปมาตามแรงบดขยี้ของฝ่ามือแกร่ง เขาขยับฝ่ามือให้เร็วขึ้นนางก็สั่นตามแรงขยับนั้น จนนางเริ่มทนความสุขสมที่เขาปรนเปรอไม่ไหว จึงเริ่มดิ้นไปมา อ้าปากส่ายหัวอย่างน่ารักน่าเวทนา แต่เขาก็ทำเพียงกอดนางแน่นขึ้น และเร่งให้นางไปสู่ยอดเขาแห่งความสุขสมเร็วขึ้นด้วยการขยี้สะบัดปลายนิ้วไปมาแรงขึ้น“อา อา ซี๊ดดดด...ฮะ...ฮา..” นางกระตุกและสุดปากอย่างควบคุมไม่ได้ หมดแรงอยู่ตรงหน้าอกของเขาหลี่เหยารู้สึกร้อนลวกตรงแท่งหยกที่ใกล้ปริแตกของตัวเอง เพราะมันแนบอยู่กับผิวลื่นๆของนาง แต่เขาไม่ใส่ใจ ทำเพียงจ้องมองร่างที่สั่นเทาอยู่บนอกด้วยความพึงพอใจ เขาเห็นแล้วว่านางสุขสมจนแทบไม่มีแรงขยับ ใบหน้าแดงก่ำ หายใจหอบเหนื่อย แต่เขาอยากกลั่นแกล้งนางให้มากขึ้นจึงเอ่ยออกไป“ลุกขึ้น อย่ามานอนอยู่บนตัวข้า”ร่างของฮูหยินรองลืมตามองเขาอย่างไม่เข้าใจว่าเขายังต้องการอะไรอีก เป็นเขาที่ดึงนางให้แนบกับอกแม้นางจะพยายามหนี ยามนี้กลับทำเป็นรังเกียจที่นางนอนบนอกนี่หรือแม้นางไม่พอใจ แต่ฮูหยินรองกลับกัดฟันจับขอบถังและพยุงขาสั่นๆให้ลุ
ระหว่างเดินทาง ท่านแม่ทัพไม่ได้จับแท่งเนื้อยัดใส่ปากนางอีก แต่ก็กอดนางนอนทุกคืน ก่อนจะนอนมักจะถอดเสื้อผ้าของนาง เล่นกับหน้าอกนุ่มนิ่มและยอดชมพูของนาง ทำจนนางตัวสั่นไปหมดเขาถึงจะพอใจ แรกๆฮูหยินรองรู้สึกอายมาก เพราะเขาจะทำเช่นนั้นและมองนางทุรนทุรายทรมานอย่างพึงพอใจ แต่หลังๆนางชักจะโมโหที่ถูกกลั่นแกล้งเสมอ จึงเริ่มไม่ยอมให้เขาจับหน้าอกเล่นแล้ว นางค้นพบว่าหากแกล้งบีบน้ำตาเขาจะเบามือขึ้น หรือไม่ก็ไม่รังแกนางอีกแต่ถึงอย่างไร แม่ทัพหลี่ก็ยังคงเป็นแม่ทัพหลี่ เขาไม่ปรานีฮูหยินรอง ไม่จับหน้าอก ไม่เขี่ยยอดถันของนางเล่น แต่กลับจับก้นสะโพกและเขี่ยกลีบดอกไม้ตรงหว่างขาของนางเล่นแทน ทำจนนางร้องไห้เอ่ยปากบอกว่าทนไม่ไหวแล้วเขาถึงจะหยุดมือ เขาบอกว่าเป็นการทำโทษที่นางไม่รู้จักปรนนิบัติสามีมาหลายปีฮูหยินรองแม้จะร้องในใจว่าเป็นเขาที่ไม่ยอมมองนาง ทำตัวเป็นน้ำบ่อไม่ยุ่งน้ำคลอง แต่ใครจะกล้าพูดออกไปกัน แค่เขามองด้วยสายตาไม่พอใจ นางก็ต้องยินยอมให้เขาทุกอย่างแล้วกระทั่งไปถึงชายแดน มีพื้นที่สะดวกมากขึ้น นางนอนอีกห้อง แม่ทัพหลี่นอนอีกห้อง ฮูหยินรองถึงได้หายใจหายคอนอนหลับได้บ้าง แต่เพียงผ่านไปไม่กี่คืน หลังจากท
เวลาท่านแม่ทัพโมโห บางครั้งน่ากลัวราวกับเทพอสนีบาตก็ไม่ปาน บางคราวเย็นยะเยือกจนไม่มีผู้ใดกล้าขยับ มีแต่ฮูหยินรองที่ต้องรองรับอารมณ์ร้ายของท่านแม่ทัพฮูหยินรองไม่อยากอยู่ใกล้ท่านแม่ทัพนัก แต่จนใจเพราะท่านแม่ก็ป่วยและชรา ส่วนคุณหนูใหญ่ ถูกท่านเขยขังตัวอยู่ในห้องหอตลอดเช้าค่ำ อย่างไรก็ต้องเป็นนางที่ได้ดูแลเขาเสมอ ก่อนหน้านั้นที่นางได้รับอนุญาตให้ดูแลท่านแม่ทัพ นางดีใจอย่างโง่งมที่ได้รับความไว้วางใจจากคุณหนูใหญ่แล้ว แต่ยามนี้นางเริ่มรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องน่ายินดีอันใด ท่านแม่ทัพน่ากลัวยิ่งฮูหยินรองเฝ้ารอให้ถึงเวลาที่ท่านแม่ทัพจะกลับไปยังชายแดน เฝ้ารอให้ช่วงเวลาอันแสนสงบของนางกลับมาอีกครั้ง แต่เมื่อใกล้ถึงเวลานั้นจริง ท่านแม่กลับจะให้นางไปอยู่ชายแดนกับท่านแม่ทัพ และดูคล้ายว่าท่านแม่ทัพจะยินยอมด้วย ส่วนคุณหนูใหญ่ที่เคยขัดขวางนางกับท่านแม่ทัพเสมอถึงขั้นเห็นดีเห็นงาม ขอร้องให้ท่านแม่ทัพมาพูดดีกับนางด้วยฮูหยินรองยังจำได้ดี เรื่องของคืนนั้น เมื่อคุณหนูใหญ่อุตส่าห์ขอร้องท่านแม่ทัพให้พูด ‘คำพูดดีๆ’ กับนาง เมื่อนางเข้ามาในห้อง เขาไม่พูดสักคำ เอาแต่จ้องนางสายตาว่างเปล่า คราแรกฮูหยินรองยังนึกว่าเขา
หลังจากแม่ทัพหลี่และหลี่เฟิ่งเซียนออกมาจากวังหลวง เดินเข้าประตูจวนเข้ามาแล้ว แม่ทัพหลี่ถึงจะยอมแสดงความอ่อนแอออกมา เขามีทั้งแผลโดนแทงและแผลถูกเกาทัณฑ์ยิง สาหัสชนิดที่ถ้าเป็นผู้อื่นคงยืนอยู่ไม่ไหว แต่เขายังเสแสร้งว่าแข็งแกร่งยืนค้ำฟ้าในท้องพระโรงได้อยู่นานสองนานหลังจากมู่เฉินรักษาบาดแผลให้ท่านแม่ทัพแล้วก็กำชับฮูหยินรองว่าท่านแม่ทัพอาการสาหัสยิ่ง บาดแผลไม่ลึกถึงขั้นเอาชีวิตได้ แต่ท่านแม่ทัพคงหนีตายพร้อมแผลพวกนั้นมาหลายวัน ไม่มีเวลาดูแลรักษาให้ดี ตอนนี้แผลได้ติดเชื้อลุกลามไปมากแล้ว จำเป็นต้องมีคนดูแลใกล้ชิดคอยทำความสะอาดแผลให้ทุกครึ่งชั่วยามท่านแม่ทัพนอนหลับไปเพราะพิษบาดแผลและฤทธิ์ยาที่มู่เฉินจัดให้ ก่อนหลับไปท่านแม่ทัพรู้สึกชื่นชมเขยคนนี้มาก และชื่นชมตัวเองที่ตัดสินใจไม่ผิด จากนี้ถึงเขาจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่ต้องห่วงลูกสาวแล้วกลางดึก แม่ทัพหลี่ได้ยินเสียงคนกระซิบกระซาบบางอย่าง ปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมาท่ามกลางความวิงเวียนและรู้สึกอยากอาเจียน“เจ้าเบาเสียงลงอีก นายท่านเป็นทหารที่หูดีมาก เขาต้องคอยระวังตัวตลอดเวลาจึงทำให้หลับไม่สนิท ถึงเขาจะป่วยอยู่ แต่เจ้าอาจทำให้เขาตื่นได้” “ได้เจ้าค่ะ ..ท่