로그인
ช่วงวาเลนไทน์เด็กชายวัย14รูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์ผิวขาวเนื้อตัวนุ่มนิ่ม ดวงตากลมโตขนตาแพรสวยรูปปากกระจับและยังมีสันจมูกที่ชัดได้รูป แต่ใบหน้าล้วนเต็มไปด้วยรอยแดงและตุ่มสิวจนแทบไม่หลงเหลือพื้นที่ให้เห็นผิวเนื้อ ตามช่วงวัยฮอร์โมนที่พลุ่งพล่าน เขาเดินอย่างเคอะเขินในมือถือกล่องช็อกแลตสี่เหลี่ยมขนาดเท่ากระดาษA4ไปยังห้องเรียนที่มีเพื่อนๆวัยเดียวกันกำลังแปะสติ๊กเกอร์หัวใจให้กันอย่างสนุกสนาน บางคนก็มอบช่อดอกไม้ บ้างก็กำลังเซลฟี่กันครึกครื้น
"ร..เราชอบนาย" เด็กหนุ่มตะโกนออกไปสองมืออวบยื่นกล่องช็อกแลตในมือให้กับอีกฝ่ายที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นรูปร่างหน้าตาดีคิ้วเข้มในตาสีน้ำตาลอ่อนจมูกโด่งผิวสีน้ำผึ้งดูสุขภาพดีมีใฝเล็กๆใต้ตาซ้ายแถมยังฮอตในหมู่หนุ่มๆสาวๆในโรงเรียนอีกด้วย
"หัดดูหนังหน้าตัวเองซะบ้าง ไอ่อ้วน" ช็อกแลตในมือถูกปัดตกกระจัดกระจายไปทั่วพื้นห้องตามมาด้วยเสียงซุบซิบนินทา
"อุ้ย!!มั่นหน้าเนอะ"
"อุบฮ่าๆๆๆ"
"คริๆ อย่าว่าเพื่อนสิเขามีความกล้ามากนะ"
.
.
.
เฮือกก!!
ผมสะดุ้งตื่นจากฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนในช่วงวัยเด็กอีกครั้งนับเป็นเวลา4ปีที่ไม่ยอมส่องกระจกไม่ค่อยกินข้าวและเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องเพราะสูญเสียความเป็นตัวเองไปหลังเหตุการณ์ครั้งนั้น
ปิดเทอมนี้ก็เช่นกันผมเอาแต่นอนเล่นเกมส์ดูหนังดูซีรี่ย์ข้าวแทบไม่แตะตอนนี้เสื้อตัวเดิมไซส์2XLก็กลายเป็นโอเวอร์ไซต์ไปแล้วใส่ทีไรหลวมโทงเทงทุกที
ทุกๆเย็นผมจะพาเจ้าตูบออกไปวิ่ง มันคือหมาที่เก็บมาเลี้ยงจากข้างถนนตอนนั้นมันนอนหายใจโรยรินไม่มีใครสนใจ อาจเป็นเพราะผมเห็นตัวเองสะท้อนดวงตาคู่นั้นเลยเกิดสงสารขึ้นมาจึงเก็บมาเลี้ยง
บ้านที่ผมอยู่เป็นบ้านเช่าที่ป๊ากับม้าเช่าให้เพราะผมขอย้ายมาเรียนในตัวเมืองตั้งแต่ช่วงม.4ตอนนี้ผมเลยอยู่คนเดียวกับเจ้าตูบอีก1ตัว
ปีนี้อายุครบ18กำลังจะมัธยปลายปี6หรือก็คือม.6ที่ทุกคนเรียกกันนั่นแหละช่วงม.ปลายก็ไม่ต่างจากช่วงม.ต้นนักหรอกมีทั้งการบูลลี่ดูถูกและกลั่นแกล้งผมขอแค่เรียนให้มันจบๆผ่านพ้นไปก็พอ
หน้ากากอนามัยและแว่นตาหนาเตอะถูกสวมลงบนหน้าทุกครั้งหลังออกจากห้องเพื่อไปโรงเรียน วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกหวังว่าทุกอย่างคงจะดีขึ้นหรือไม่ก็ขออย่าให้มีใครสนใจเหมือนอย่างที่ผ่านมาก็เพียงพอแล้ว
.
.
.
ซุบซิบๆ เสียงซุบซิบและสายตาที่มองมาอย่างอยากใคร่รู้ตลอดทางเข้าโรงเรียน ถึงจะเห็นทุกวันเป็นเวลา3ปีแต่ยังไงก็อึดอัดและไม่ชินสักที
พอมาถึงในห้องสายตาผมมองไปยังหน้ากระดานขาวที่เขียนถึงการจัดลำดับโต๊ะตามเลขที่ของแต่ละคน
โต๊ะจะเรียงกันแถวละ10ตัว5แถวเพราะห้องนี้มีจำนวนนักเรียน48คนเลยจะมีโต๊ะว่าง2โต๊ะ ผมเลขที่30โชคดีที่ได้อยู่โต๊ะริมหน้าต่างส่วนเลขที่29เป็นที่ว่างข้างๆและ40เป็นที่ว่างข้างหลังผม เพราะไม่มีใครอยากนั่งด้วย
ในห้องทุกคนกำลังนั่งจับเข่าเม้าท์มอยกันเป็นกลุ่มๆ ดีที่ไม่มีใครสนใจผมเพราะอาจจะชินแล้วก็ได้ตอนแรกทุกคนเอาแต่มาเซ้าซี้ให้เปิดผ้าแมสออกทุกวันแต่เป็นตัวผมเองที่ปิดกลั้นบอกว่าตัวเองเป็นวัณโรคถ้าเปิดออกปุ้บทุกคนจะติดโรคปั้บ เพราะงั้นเลยพากันถอยห่างอย่างเร็ว
ผมกลัว.......กลัวว่าถ้าเปิดออกสายตาและการถูกซุบซิบนินทาเพียงเพราะผมหน้าตาไม่ดีจะเกิดขึ้นซ้ำรอยเดิมเหมือนช่วงม.ต้นที่ครั้ง
ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าที่รู้ว่าใครกำลังจะมาทำให้การพูดคุยในห้องหยุดลงทุกคนต่างรู้และพากันนั่งประจำที่
"เห้ยๆๆ มึงๆไปนั่งที่จารย์มาๆ"
ในเวลาไม่ถึง5วิ ก่อนที่อาจารย์จะเข้าห้องเรียนในห้องต่างนั่งเรียบร้อยเหมือนการจับเข่าคุยกันเสียงเจี๊ยวจ๊าวเมื่อครู่ไม่เคยเกิดขึ้น
"เอาล่ะนักเรียน วันนี้มีเพื่อนย้ายมาใหม่2คนเดี๋ยวครูจะแนะนำให้รู้จักนะ"
"ครูคะผู้ชายหรือผู้หญิง" แจม หนึ่งในนักเรียนหญิงของห้องเอ่ยถาม
"นักเรียนชายจ่ะ"
พอได้ยินคุณครูบอกเท่านั้นแหละนักเรียนหญิงในห้องก็ต่างพากันซุบซิบส่วนนักเรียนชายก็ถอนหายใจยกใหญ่
"มึงๆ เรารอลุ้นกัน" พิงค์นักเรียนหญิงหนึ่งในห้องเรียนสะกิดเพื่อนด้านหน้าคือกี้และแจมกลุ่มนี้เป็นสามสาวตัวจี๊ดในห้องเพราะชอบหวีดผู้ชายถึงขั้นสร้างเพจ'หนุ่มสุดฮอต' ในโรงเรียนกันเลยทีเดียว
"สาธุ ขอให้ได้คนหล่อๆโอมเทพสามตามาดลใจ" กี้ยกมือไหว้ขอพรก่อนจะใช้มือลูบหัว สีหน้าท่าทางดูตื่นเต้น
"อาหารตาจงมาทีเถิด เพี้ยงๆ"แจมเองก็ไม่ต่างกัน
"พวกมึงหยุด ถ้าหล่อกูจอง" พอร์ช หนึ่งในนักเรียนชายในห้องที่เปิดเผยรสนิยมอย่างโจ่งแจ้งว่าตัวเองรักเพศเดียวกัน
"เขาจะเอามึงไหมเพื่อน" กวินเพื่อนพอร์ชทำหน้าเหนื่อยใจก่อนจะถอนหายใจอย่างห้ามไม่ได้
ก๊อกๆ คุณครูเคาะกระดาษเบาๆเป็นสัญญาณให้นักเรียนเงียบๆก่อนจะส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ "ใจเย็นๆกันก่อน อย่าทำให้เพื่อนใหม่กลัว"
ผมที่คอยสังเหตุสถานการณ์ทั้งหมดแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะยังไงก็คงไม่มีใครเข้าใกล้หรืออยากพูดคุยกับคนที่บอกว่าตัวเองเป็นวัณโรคอยู่ดี
"เอาล่ะๆ นักเรียนเข้ามาเลยจ่ะ" เมื่อเสียงคุณครูเรียกให้เพื่อนใหม่เข้ามาทุกคนจดจ้องไปที่หน้าประตูห้องเรียนเป็นสายตาเดียวกัน
ตึก ตึก ตึก ทุกอย่างเงียบกริบได้ยินเพียงเสียงเท้าของคนที่กำลังจะก้าวเข้ามา
"หวัดดี เรานทีฝากตัวด้วยนะ" หนุ่มคนแรกแนะนำตัวอย่างสดใสพร้อมรอยยิ้ม เขามีดวงตาสีน้ำตาลอ่อนผิวสีน้ำผึ้งและใฝใต้ตาซ้าย...หน้าตาที่หล่อเหลาก็เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆในห้องได้ไม่น้อย
"กรี๊ดดดดด"
"อร้ายยย พระเจ้าส่งเทพบุตรลงมาเกิด"
"นที จงเจริญ อร้ายยยย><"
ทุกคนต้างหวีดในความหล่อแต่ผมกลับเหงื่อเปียกโชกไปทั้งตัวเพราะเขาคือจุดเปลี่ยนในชีวิตที่ทำให้ผมต้องเป็นแบบนี้ นที หนุ่มที่ปฏิเสธผมวันวาเลนไทน์ม.ต้น
ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่าแต่สายตาเขาจ้องมองมาทางนี้ไม่ห่างเลย
'อย่านะ อย่ามองฉัน หันหน้าไปไกลๆเลยป้ายยย' เสียงในใจหวีดร้องอย่างโหยหวน
"เอาล่ะๆ หยุดกันได้แล้วให้เพื่อนไปนั่งที่" คุณครูส่ายหัวเป็นพัลวันกับเสียงเจี๊ยวจ๊าวที่ดังขึ้นจากสาวๆในห้อง
"นักเรียนไปนั่งโต๊ะว่างตรงนู้นได้เลยนะ"คุณครูบอกกับนที
นทีจ้องมองมาทางนี้ก่อนจะก้าวเข้ามาเรื่อยๆ ทุกย่างก้าวที่เขาใกล้เข้ามาทำหัวใจผมเต้นตุบๆตับๆอย่างลุ้นระทึก อึก...น้ำลายอึกใหญ่ถูกกลืนลงคอเหมือนว่าคอจะแห้งผากขึ้นมาทันทีทันใด
อย่าทักนะ ขอล่ะอย่าสนใจช่วยผ่านๆไปสักทีๆผมหลับตาภาวนาในใจเงียบๆทั้งยังเบือนหน้ามองไปยังนอกหน้าต่างอย่างธรรมชาติ
"หวัดดี" แต่เหมือนสวรรค์จะไม่เป็นใจ ดันเลือกมานั่งที่ว่างข้างๆผมสะงั้น ป๊าม้าช่วยผมด้วยยย
ไทม์เอื้อมมือไปข้างหน้าแต่ก็ต้องหยุดชะงัก ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัว เจ้าตัวยังไม่อนุญาตอย่าพึ่งเลยดีกว่า ถ้าเขารู้คงโกรธมาก ถ้าสนิทกันมากพอคงได้เห็นเอง คิดได้ดังนั้นก็ชักมือตัวเองกลับมาก่อนจะเดินออกจากห้องไปเงียบๆกลับถึงบ้านเสียงหัวใจเริ่มเต้นตึกตักๆ ภาพในหัวคิดถึงแต่ร่างกายที่ขาวเหมือนหยกกับสัมผัสที่นุ่มนิ่มไทม์สะบัดภาพในหัวไม่ออกและคิดว่าตัวเองคงเป็นบ้าไปแล้วหรือไม่ก็โรคจิต...กริ๊งงงง กริ๊งงงง เสียงนาฬิกาปลุกแจ้งเตือนว่าเช้าแล้ว"เฮือก..." ผมตื่นขึ้นมาในสภาพเปลือยท่อนบนก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้ ภาพเหตุการณ์เมื่อวานเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ "ให้ตายสิ บ้าบอชะมัดสาบานว่าจะไม่ดื่มอีกแล้ว"สายตาเหลือบไปมองนาฬิกาที่แควนห้อยอยู่บนกำแพงบอกเวลาเกือบ7.30แล้วโถ่เว้ยสายแล้วๆๆๆ ผมรีบวิ่งแจ้นไปอาบน้ำแปรงฟันก่อนจะแต่งตัวสวมแว่นปิดแมสแล้วรีบเปิดประตูเรียกรถแกร็บให้มารับทันทีไม่กี่นาทีต่อมาก็มาถึงหน้าโรงเรียน...และก็เห็นว่าประตูรั้วกำลังจะปิดเท่านั้นแหละผมใส่เกียร์หมาวิ่งสุดชีวิตเลยทั้งยังตะโกนลั่น"อย่าพึ่งงง" โอ้วว แม่เจ้าโว้ยไม่ทันแล้ววว"กันต์ๆ มานี่ๆ" เสียงพุ่มไม้ด้านข้างเรียกกระซิบเบาๆ ผมได้
"ไม่ได้!!!" กันต์เผลอพูดเสียงดังจนทำให้เพื่อนที่อยู่ในห้องต่างพากันเหลียวมองแต่เจ้าตัวยังคงไม่รู้เพราะสายตาฝ้าฟางเพียงรู้สึกถึงความผิดปกติที่เสียงเจี๊ยวจ๊าวเมื่อครู่กลับเงียบลง"เอ่ออ ขอโทษที่เซ้าซี้นะ" หลังขอโทษเสร็จนทียื่นแว่นมาให้ ผมรีบสวมมันก่อนจะเห็นสายตามองเหยียดที่ทุกคนมองมา ตึกตัก ตึกตัก หัวใจผมเต้นรัวๆนาทีนั้นความทรงจำอันแสนเลวร้ายที่ตามหลอกหลอนผมมาตลอดผุดขึ้นมา ผมวิ่งออกมาจากห้องอย่างตื่นตะหนกปัก!!! และชนเข้ากับอกหนาของใครบางคนเข้า"โทษครับ" ก่อนจะก้มหัวข้อโทษและวิ่งต่อไปโดยไม่สนใจอะไรทั้งๆที่ผ่านมันมาได้ตลอดแต่ทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วย อีกแค่ปีเดียวก็จะจบแล้วแท้ๆ ต้องอดทนให้ได้แต่นี่พึ่งเปิดเทอมวันแรกเอง สายตาแบบนั้นมันคืออะไรกัน น่ากลัว"แหกๆๆ อึก" ผมวิ่งมาจนถึงตึกล้างที่ประจำความรู้สึกแน่นหน้าอกจนหายใจไม่ออกกลับเข้ามาอีกครั้งในรอบหลายปี ทุกอย่างรอบตัวเปลี่ยนไปมันดูมืดและน่ากลัว.....กลัว....น่ากลัว เวียนหัว หายใจไม่ออกกันต์กำลังตัวสั่นเทาและเหมือนจะเป็นลมให้ได้ทำให้เขาล้มลงไปนอนกองกับพื้นในสภาพที่เกือบหมดสติปากพูดพึมพำเบาๆ"ไม่ชอบเลย หยุดมอง หยุดมองได้แล้ว"ทุกการกระทำอยู
เวลาพักกลางวันที่ทุกคนมักไปทานข้าวโรงอาหารหรือตามศาลาและพูดคุยกัน แต่ไม่ใช่กับผม ผมมักจะหลบเลี่ยงไม่ให้เข้าใกล้ใครและทานข้าวคนเดียวในที่ๆไม่มีคนเห็นนั่นก็คือหลังโรงเรียน จะมีตึกทิ้งล้างอยู่บางทีก็สังเวชตัวเองเหมือนกันที่ต้องมาในที่แบบนี้แต่ตอนนี้ชินแล้วชีวิตดีกว่าช่วงม.ต้นเยอะแซนวิชแฮมไข่กับนมจืดเป็นอาหารช่วงเที่ยงที่สะดวกและรวดเร็ว ผมจึงกินมันประจำผมหันซ้ายขวาเมื่อไม่เห็นมีใครแล้วก็ดึงแมสลงเตรียมหม่ำแซมวิชตรงหน้า"ง่ำๆ อร่อยจัง""อร่อยไหม" เสียงใครบางคนดังมาจากด้านหลังทำแซนวิชแทบพุ่งออกปาก"แค่กๆๆ" ผมรีบดึงแมสขึ้นและหันกลับไปมอง"ไทม์? มาทำอะไรที่นี่" "นายล่ะมาทำอะไรที่นี่""ฉ...ฉันมา" ถ้าบอกว่ามากินข้าวจะแปลกไหมหรือควรเลี่ยงไม่ตอบอะไรดี เขาจะเห็นหน้าผมหรือยังแล้วถ้าเห็นจะรังเกียจผมไหม ผมไม่มั่นใจเลย"มา?" เขาถามย้ำ"มาชมวิว ฮ่าๆที่นี่สวยดี" คิดว่าเขาคงเชื่อแหละเพราะพูดออกไปแบบเป็นธรรมชาติที่สุด(คิดเองทั้งนั้น)"อ๋อ ชอบวิวแบบหลอนๆว่างั้น""อ..อือ""กินแซนวิชเหรอ""อ่ะ อืม""ปิดแมส?""อ๋อ อิ่มแล้ว""ที่พูดหมายถึงทำไมถึงปิดแมส""เอ่อ...คือ"เป็นคำถามที่เจอบ่อยแต่ทำไมวันนี้ผมถึงไม่กล
"..." เหมือนการที่ผมไม่หันไปมองทำเป็นเหมือนว่าไม่ได้ยินเลยทำให้นทียิ่งสนใจกว่าเดิมนทีขยับเก้าอี้เข้าไปใกล้ๆเขาเอื้อมมือเพื่อจะสะกิดไหล่คนข้างๆ"หวัดดีนที" แต่เหมือนแจมหนึ่งในแก๊งสามสาวจะเข้ามาทักก่อนผมถอนหายใจด้วยความโล่ง ขอบคุณนะแจมเธอคือนางฟ้ามาโปรด"หวัดดี เธอคือ.." นทีหันไปสนใจเพื่อนใหม่ที่มาทัก"เราชื่อแจม ฝากตัวด้วยนะ""ยินดีที่ได้รู้จัก" นทีส่งยิ้มให้กับแจมทำให้แจมตกอยู่ในภวังค์แห่งความเคลิ้มกับใบหน้าพระเจ้าสร้างของเขา"ฉันพิงค์นะ ขอไลน์หน่อยดิ" พิงค์มาแรงแซงทางโค้งไม่พูดมากรุกเลยแจมและกี้ที่ได้ยินดังนั้นหันขวับมาหาพิงค์ที่อยู่ตรงกลางอย่างไม่เชื่อสายตา"ฉันขอด้วย" แจมพูดขึ้น"ฉันกี้นะ ขอด้วยดิ""อะไรของพวกแกวะ ฉันขอก่อนนะโว้ยย" พิงค์หัวเสียที่เห็นเพื่อนขอตาม"เอ่อ ใจเย็นๆก่อนนะเดี๋ยวเราให้" แหมพ่อคุณ หล่อเลือกได้จริงๆ ผมที่เห็นดังนั้นก็ได้แต่แอบเหน็บแนมในใจ นทีหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อที่จะให้สาวได้แอดไลน์แต่เผอิญว่าครูดันเคาะกระดานเสียก่อนก๊อกๆ "นักเรียน ครูยังแนะนำไม่เสร็จมีเพื่อนมาใหม่อีกคนกำลังมาถึงพอดีเลย"ทุกคนต่างดูไม่สนใจเพราะตอนนี้กำลังให้ความสนใจกับนทีนักเรียนหน้าใ
ช่วงวาเลนไทน์เด็กชายวัย14รูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์ผิวขาวเนื้อตัวนุ่มนิ่ม ดวงตากลมโตขนตาแพรสวยรูปปากกระจับและยังมีสันจมูกที่ชัดได้รูป แต่ใบหน้าล้วนเต็มไปด้วยรอยแดงและตุ่มสิวจนแทบไม่หลงเหลือพื้นที่ให้เห็นผิวเนื้อ ตามช่วงวัยฮอร์โมนที่พลุ่งพล่าน เขาเดินอย่างเคอะเขินในมือถือกล่องช็อกแลตสี่เหลี่ยมขนาดเท่ากระดาษA4ไปยังห้องเรียนที่มีเพื่อนๆวัยเดียวกันกำลังแปะสติ๊กเกอร์หัวใจให้กันอย่างสนุกสนาน บางคนก็มอบช่อดอกไม้ บ้างก็กำลังเซลฟี่กันครึกครื้น"ร..เราชอบนาย" เด็กหนุ่มตะโกนออกไปสองมืออวบยื่นกล่องช็อกแลตในมือให้กับอีกฝ่ายที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นรูปร่างหน้าตาดีคิ้วเข้มในตาสีน้ำตาลอ่อนจมูกโด่งผิวสีน้ำผึ้งดูสุขภาพดีมีใฝเล็กๆใต้ตาซ้ายแถมยังฮอตในหมู่หนุ่มๆสาวๆในโรงเรียนอีกด้วย"หัดดูหนังหน้าตัวเองซะบ้าง ไอ่อ้วน" ช็อกแลตในมือถูกปัดตกกระจัดกระจายไปทั่วพื้นห้องตามมาด้วยเสียงซุบซิบนินทา"อุ้ย!!มั่นหน้าเนอะ""อุบฮ่าๆๆๆ""คริๆ อย่าว่าเพื่อนสิเขามีความกล้ามากนะ"...เฮือกก!!ผมสะดุ้งตื่นจากฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนในช่วงวัยเด็กอีกครั้งนับเป็นเวลา4ปีที่ไม่ยอมส่องกระจกไม่ค่อยกินข้าวและเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องเพราะสูญเสี







