เกิดใหม่เป็นมารดาใจร้าย

เกิดใหม่เป็นมารดาใจร้าย

last updateLast Updated : 2025-10-13
By:  ฉินหลานฮุยUpdated just now
Language: Thai
goodnovel18goodnovel
Not enough ratings
21Chapters
15views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อทหารหน่วยรบพิเศษมาดแมนขวัญใจสาว ตายระหว่างปฏิบัติหน้าที่ทำให้วิญญาณย้อนไปอยู่ในยุคจีนโบราณ ตื่นมาในต่างยุคแบบงงแถมยังมีสามและลูกชายอีกสี่คน

View More

Chapter 1

บทนำ ตื่นมาจากความตายก็มีสามีและลูกเลย

ณ ชายแดนของประเทศเวนราเนียที่ติดกับประเทศอาคาเดีย มีหน่วยรบพิเศษของกองกำลังนานาชาตินำทีมโดย เรือเอกนายแพทย์ภัสกร นพวรรณ ที่ทุกคนในหน่วยและค่ายอาสาเรียกว่า ผู้กองหมอกร นำทีมออกลาดตระเวนเนื่องจากได้รับรายงานจากศูนย์บัญชาการใหญ่ ณ วูโรวา เมืองหลวงของประเทศเวนราเนีย ส่งข่าวมาบอกว่าจะมีการลักลอบซื้อขายอาวุธสงครามกันที่ชายแดน จึงให้หน่วยรบพิเศษซีอาโนที่นำโดยภัสกรออกตรวจตราอย่างเข้มงวด

ประเทศเวนราเนียกับประเทศอาคาเดียทั้งสองประเทศเคยถูกกลุ่มก่อการร้ายยึดครองมาก่อน กลุ่มบีลามาเป็นกลุ่มที่ก่อเหตุไปทั่วโลก เมื่อ 5 ปีก่อนกลุ่มบีลามาอาศัยช่วงจังหวะที่ทั้งสองประเทศกำลังมีข้อพิพาทสู้รบกัน เข้ามายึดครองทั้งสองประเทศไว้และสังหารผู้นำของทั้งสองประเทศ จึงให้ประเทศเวนราเนียกับประเทศอาคาเดียตกอยู่สภาวะอันตรายเนื่องจากไร้ผู้นำ

จึงทำให้สหประชาชาติจัดตั้งองค์กร WN ที่รวบรวมเหล่านักรบสุดแกร่งของแต่ละประเทศมารวมกัน แล้วเข้าตีเอาประเวนราเนียคืนมาได้ ส่วนประเทศอาคาเดียนั้นเป็นศูนย์บัญชาการใหญ่ของกลุ่มบีลามา ไม่สามารถยึดคืนมาได้เนื่องจากประชากรของประเทศตกอยู่ในการควบคุมของกลุ่มบีลามาหมด หากทางองค์กร WN ยื่นมือเข้าไปช่วย ทางกลุ่มผู้ก่อการร้ายจะสังหารตัวประกันทันที

แน่นอนว่าทางองค์กร WN ก็ไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสียจำนวนมากเพิ่มขึ้นอีก จึงได้เพียงจัดตั้งกลุ่มทหารอาสาคอยดูแลเขตชายแดนเท่านั้น

"ทุกคนระวังตัวด้วย อาจมีการดักซุ่มจากฝ่ายตรงข้าม แก๊ก ตู๊ม" ภัสกร

ประโยคสุดท้ายของภัสกรที่พูดกับลูกน้องในหน่วยรบพิเศษซีอาโน ก่อนร่างของเขาจะกระจายด้วยแรงระเบิดที่ฝ่ายศัตรูวางไว้เป็นกับดัก ด้วยความมืดทำให้ภัสกรมองไม่เห็นหลุมระเบิดที่กลุ่มบีลามาวางไว้จึงได้เหยียบระเบิดเข้าไปเต็ม ๆ

เรือเอกนายแพทย์ภัสกร นพวรรณ อายุ 35 ปี ได้เสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ สละชีพเพื่อมวลมนุษยชาติเหลือไว้เพียงคุณงามความดีที่ฝากไว้ ณ แผ่นดินประเทศเวนราเนีย

ทำไมมันเจ็บแบบนี้ผมตายไปแล้วนะ แต่ทำไมร่างกายถึงยังมีความรู้สึกอยู่ แล้วจู่ ๆ ก็มีเสียงดังขึ้น จางไป๋หลินข้าขอฝากเจ้าดูแลท่านพี่กับลูก ๆ ข้าด้วยนะ เจ้าช่วยนะทำหน้าที่แม่แทนข้าด้วย ข้าต้องไปแล้วฝากเจ้าด้วยนะ

พอจางไป๋หลินคนเดิมฝากฝังคำขอเสร็จ ภาพความทรงจำในร่างเดิมก็ถ่ายทอดเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้ภัสกรได้เห็น จึงได้รู้ว่าตนเองนั้นมาเกิดใหม่ในร่างของจางไป๋หลิน อายุ 21 ปี มีสามีชื่อถานหลัวฟางอายุ 24 ปี ลูกชายคนที่หกคนสุดท้องของบ้านตระกูลถาน มีอาชีพเป็นนายช่างสร้างบ้านที่ทำร่วมกับครอบครัว มีอาชีพเสริมเป็นช่างไม้ทำงานไม้ส่งให้ร้านในตัวเมือง ไป๋หลินกับหลัวฟางมีลูกด้วยกัน 4 คน ลูกชายแฝดคู่พี่วัย 5 ขวบ และลูกชายแฝดคู่น้องวัย 4 ขวบ เกอผู้นี้มีแต่เรื่องราวฉาวโฉ่ไม่เว้นในแต่ละวันที่สำคัญเกอคนนี้ที่ภัสกรเข้ามาอยู่ในร่างนี้เป็นคนที่ขี้เกียจตัวเป็นขนติดการพนัน ชอบใช้แรงงานลูกชายทั้งสี่แต่ก็ไม่ถึงทุบตีลูกเหมือนบ้านอื่น เวลาเล่นพนันเสียหรือลูก ๆ ทำงานไม่ได้ดั่งใจก็มักจะให้อดอาหารเป็นการลงโทษ

ถ้าถามว่าไม่รักลูกแล้วจะอยู่ทำไมไม่หย่าขาดออกไปเลย เหตุผลที่ไป๋หลินไม่ยอมหย่า เพราะเขายังไม่มีที่ไปที่ดีกว่านี้ ถ้าให้กลับไปบ้านเดิมก็เกรงใจพ่อแม่และยังอยากให้พ่อของเด็กพวกนี้หาเงินให้เขาใช้ จึงทนอยู่ถึงแม้ว่าสามีจะไม่รักเขาเลยก็ตาม เหตุผลที่ไป๋หลินผู้นี้ได้แต่งงานกับถานหลัวฟางเพราะไป๋หลินนั้นมีความรู้ด้านสมุนไพรแต่กลับเอามาใช้ในทางที่ผิด ไป๋หลินได้วางยาปลุกกำหนัดกับคนที่แอบชอบก็คือลี่เว่ยชุนเพื่อนสนิทของถานหลัวฟาง แต่แผนดันผิดพลาดคนดื่มยาปลุกกำหนัดกลับเป็นถานหลัวฟางแทน เขาจนได้เสียกับถานหลัวฟางเป็นสามีภรรยากัน

ที่จริงแล้วหลัวฟางนั้นไม่ได้มีคนที่หมายปองหรือถูกตาต้องใจใครไว้หรอก แต่เขาก็ไม่ได้คิดที่จะแต่งงานเร็วขนาดนี้ เมื่อเหตุมันเกิดขึ้นหลัวฟางในฐานะลูกผู้ชายก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไป ถึงจะไม่รักแต่ก็ต้องรักษาเกียรติให้กับอีกฝ่าย หลังแต่งงานได้ไม่นานไป๋หลินก็ตั้งท้องและคลอดลูกชายแฝดออกมาให้หลัวฟาง ปีต่อมาเข้าก็ได้ตั้งท้องลูกแฝดอีกครั้งและเป็นลูกชายทั้งคู่ ทำให้พ่อแม่สามีและพ่อแม่ของไป๋หลินดีใจมากคลอดลูกเพียงสองครั้งได้หลานชายถึงสี่คน

ใคร ๆ ในหมู่บ้านต่างก็อิจฉาไป๋หลิน แต่พอนึกถึงเรื่องที่สามีไม่รักแถมยังพลาดจากคนที่แอบรักอีกก็ยังแอบสมน้ำหน้าไป๋หลินและสะใจที่ไม่สมหวังในความรัก พอคลอดลูกไป๋หลินก็ไม่ได้ใส่ใจหรือดูแลลูก ๆ เหมือนแม่ทั่วไป เขากับเมินเฉยไม่สนใจคิดแค่เพียงว่าลูก ๆ เป็นเครื่องมือใช้หาเงินเท่านั้น เขาเห็นว่าช่วงที่ท้องสามีมักจะให้เงินใช้ไม่ขาดมือ หรือเป็นเพราะท้องอยู่จึงไม่กล้าขัดใจคนท้อง เพราะจะส่งผลเสียต่อเด็กในครรภ์ แต่พอคลอดลูกออกมาสามีกลับหันไปสนใจลูกมากกว่า พอแฝดคู่พี่ได้ 1 ขวบ ไป๋หลินก็คิดแผนเรียกร้องความสนใจเพื่อเอาเงินจากหลัวฟาง เขาจึงใช้แผนเดิมวางยาสามีจนทำให้ท้องลูกชายแฝดคู่น้องอีกคู่ แต่ทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนเดิมสามีก็สนใจเพียงแค่ลูก พอคลอดลูกสามีก็เมินเฉยต่อเขาเหมือนเดิมเงินก็ให้ใช้น้อยลง

"ท่านพ่อ ท่านแม่จะฟื้นขึ้นมาไหมขอรับ" ลู่เซียน

"ถ้าท่านแม่ฟื้นขึ้นมาจะดุด่าพวกข้าอีกไหม" ลู่ตง

"ข้ากลัวท่านพ่อ แต่ข้าก็อยากให้ทันแม่ฟื้นขึ้นมานะ" ลู่ฉิน

"ท่านพ่อข้าอยากเข้าไปดูท่านแม่" ลู่ถิง

เสียงเด็กน้อยที่เอ่ยออกมาด้วยความเป็นห่วงแม่ ทำให้ภัสกรในร่างของไป๋หลินตื่นจากภวังค์ความคิด ถึงแม่จะร้ายกาจดุด่าพวกเขาเพียงใด เด็กก็คือเด็กยังรักและห่วงใยมารดาของตัวเองเสมอ คิดมาแล้วอยากจิกหัวตบกระบาลไอ้เกอผีไป๋หลินคนเก่าเสียจริง ๆ เห็นแก่เงินเหลือเกิน

"อืม ลองเขาไปดูสิเผื่อเข้าฟื้นแล้ว แต่อย่าไปกวนแม่พวกเจ้ามากนะ ให้เขาได้พักผ่อน" หลัวฟาง

ในความทรงจำสามีของเขาเองก็แสนดีจริง ๆ หาเงินมาได้เท่าไหร่ก็ให้เมียใช้ตลอดไม่ขาดมือ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องความรักนั้นบอกตรง ๆ นึกสงสารไป๋หลินในเรื่องนี้อยู่นะ อยากได้อีกคนเป็นสามีแต่กลับได้เพื่อนเขามาแทน ถึงจะมีเงินมากมายให้ใช้จ่ายไม่ขาดมือแต่ไป๋หลินยังต้องการความรักจากสามีอยู่ดี กับคนที่แอบรักก็ไม่เคยได้เช่นกัน

เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมาถึงจะมีลูกด้วยกันสี่คน ทั้งสองไม่เคยแสดงความรักต่อกันเลย แถมไป๋หลินยังชอบแอบไปดูเว่ยชุนที่บ้านลี่บ่อย ๆ จนคนบ้านลี่รำคาญ เนื่องจากลี่เว่ยชุนก็ได้แต่งงานย้ายไปอยู่บ้านภรรยาแล้ว แต่ไป๋หลินก็ยังมักจะไปคอยเฝ้าเว่ยชุนเกือบทุกวันเผื่อว่าเว่ยชุนกลับมาเยี่ยมพ่อแม่ จนพ่อของเว่ยชุนจึงฝากหลัวฟางตักเตือนไป๋หลินหลายครั้ง แต่พอเตือนทีไรก็ทะเลาะกันทุกที ไป๋หลินก็ไม่ยอมเลิกพฤติกรรมบ้า ๆ นั้นสักที หากสามีเตือนอีกก็ขู่ว่าจะพาลูกหนีให้หลัวฟางตามหาไม่เจอ

ถึงบ้านเดิมของไป๋หลินจะรักและตามใจไป๋หลินมากแค่ไหน แต่ถ้าทำผิดพวกเขาก็ตักเตือน ไป๋หลินก็รับปากบอกว่าจะปรับปรุงตัวไม่ทำอีก แต่ไม่ก็ยอมทำสักทีเอาแต่ไปเฝ้าคนบ้านลี่เหมือนเดิม

ท่านแม่จางก็สงสารหลานชายทั้งสี่ที่มารดาไม่ใส่ใจ แต่ก็ได้แค่คอยให้ลูกชายคนโตแอบเอาขนมเอาอาหารไปให้หลาน ๆ ในวันที่ไป๋หลินไม่อยู่บ้านเท่านั้น ทางแม่สามีอย่างท่านแม่ถานเองก็สงสารหลาน ๆ จับใจแต่ก็ไม่สามารถเอาหลาน ๆ มาเลี้ยงเองได้ เพราะสะใภ้เล็กอย่างไป๋หลินขู่เอาไว้ว่าจะพาหลานทั้งสี่หนี แน่ละก็เครื่องมือหาเงินชั้นดีมีหรือไป๋หลินจะยอมให้แม่สามีเอาไปเลี้ยง

เมื่อหลายวันก่อนหลัวฟางได้เข้าเมืองไปส่งสินค้างานไม้ที่ลูกค้าสั่งทำ แต่พอขากลับเกิดพายุฝนตกหนักทำให้หลัวฟางตากฝนจนป่วยหนักติดเตียง จนไม่สามารถลุกออกไปทำงานหรือออกล่าสัตว์ก็ไม่ได้ ทำให้ที่บ้านขาดแคลนอาหารและเงิน ส่วนเงินก้อนสุดท้ายได้จากการขายงานไม้ให้ร้านในเมือง กะไว้ว่าจะเอาให้พี่ชายไปจ้างหมอจากเมืองหลวงมารักษาก็ถูกไป๋หลินขโมยไปซื้อของสดมาทำอาหารไปฝากบ้านลี่และเอาไปเล่นการพนันจนหมด จึงทำไม่มีเงินรักษาทำได้แค่อาศัยยาสมุนไพรพื้นบ้านจากท่านแม่ต้มกินบรรเทาอาการไปก่อน

ที่จริงทางบ้านเดินของภรรยารู้เรื่องก็ออกปากช่วยแต่ด้วยความเกรงใจจึงได้ปฏิเสธไป แต่ท่านแม่ยายก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี จึงทำได้เพียงคอยหาอาหารหาสมุนไพรมาช่วยลูกเขยเท่านั้น

เหตุผลที่ไป๋หลินคนเก่าตายก็มาจากที่เขาเข้าเมืองไปบ่อนการพนัน ก่อนเข้าเมืองเขาได้ข่าวว่าเว่ยชุนกลับมาเยี่ยมบ้านไป๋หลินจึงรีบทำน้ำแกงไปฝากและเพื่อหวังจะได้พูดคุยกับเว่ยชุน แต่พอเจอเว่ยชุนจูงมือภรรยาเข้าบ้าน ไป๋หลินถึงกับร้องไห้เสียใจจึงไปบ่อนการพนันเพื่อคล้ายความเศร้า แต่เล่นแล้วเสียเงินไปมากจึงโมโหระหว่างทางเดินกลับบ้านดันหน้ามืดเดินสะดุดล้มหัวฟาดเข้ากับก้อนหินสลบไปหลายชั่วยามก่อนที่จะมีคนมาพบ นำตัวกลับที่บ้านก็สายไปแล้วไป๋หลินได้จากโลกนี้ไปแล้ว

พอทางฝั่งบ้านเดิมทราบข่าวก็รีบพาหมอรักษาให้ยาตามอาการแล้วก็กลับไป แต่มันก็ไม่ทันการณ์เสียแล้วเพราะจางไป๋หลินได้จากโลกนี้ไปแล้ว มีเพียงภัสกรมาอยู่ในร่างนี้แทน

"ท ท่านแม่ฟื้นแล้ว ย ยังเจ็บอยู่ไหมขอรับ" ลู่เซียน

ลู่เซียนพี่คนโตของแฝดคู่พี่เอ่ยถามผู้เป็นมารดาด้วยควากล้า ๆ กลัว ๆ เพราะกลัวว่าไปจะทำให้ท่านแม่อารมณ์เสีย แล้วลุกขึ้นมาดุด่าตนกับน้องอีกสามคน

"ม แม่ขอน้ำหน่อยได้ไหม" ไป๋หลิน

เด็กน้อยทั้งสี่ถึงกับตกใจเมื่อไป๋หลินแทนตัวเองว่าแม่ เพราะปกติไป๋หลินจะแทนตัวเองว่าข้ากับลูกตลอด ที่สำคัญพี่ใหญ่ถามท่านแม่อีกครั้งก็ไม่โดนดุด่าแถมยังพูดดีด้วยอีกทำให้เด็ก ๆ ตื่นเต้นมากจึงอยากลองคุยกับท่านแม่อีก

"ด เดี๋ยวข้าไปเอามาให้เอง" ลู่ตง

ลู่ตงแฝดพี่คนรองอาสาไปเอาน้ำมาให้แม่ แต่มาถึงเขากลับทำน้ำหกเพราะสั่นกลัวจึงให้ถ้วยน้ำในมือหล่นหกใส่ที่นอนของแม่ ลู่ตงเอ่ยขอโทษด้วยความตื่นกลัวพร้อมหลับตาเตรียมรับฝ่ามือเพราะคิดว่าแม่ต้องตีเขาแน่ แต่เปล่าเลยมือท่านแม่ยกขึ้นมาลูบหัวเขาแล้วเอ่ยปลอบว่าไม่เป็นไร เขาจึงรีบเอาน้ำมาให้ท่านแม่ใหม่

"ท่านแม่หายดีแล้วเหรอขอรับ" ลู่ฉิน

ลู่ฉินลูกชายคนที่สามแฝดพี่ของลู่ถิงที่เห็นเหตุการณ์ต่อหน้า ตอนแรกก็ตื่นกลัวว่าพี่รองจะถูกท่านแม่ตี แต่พอเห็นว่าพี่รองไม่โดนตีแถมท่านแม่ยังลูบหัวอีกด้วย เขาจึงกล้าที่จะถามและเข้าหา

"ดีขึ้นแล้วละ แล้วนี่ยามไหนกันแล้ว กินข้าวกันหรือยังเด็ก ๆ " ไป๋หลิน

"กินแล้วขอรับ ท่านย่าเอามาให้" ลู่ถิง

ลู่ถิงน้องเล็กสุดของบ้านเอ่ยตอบท่านแม่ด้วยท่าทางน่ารัก จนไป๋หลินอดใจไม่ไหวเอื้อมไปลูบหัวเบา ๆ ตอนแรกลู่ถิงก็ตกใจนึกว่าแม่จะตีจึงหลับตาลง แต่พอรู้ว่าแม่ไม่ได้ตีจึงขยับเข้าไปใกล้ ๆ ให้ท่านแม่ลูบหัว

"เด็ก ๆ แม่คิดถึงจัง มาให้แม่กอดหน่อยได้ไหม" ไป๋หลิน

เมื่อได้ยินคำว่าคิดถึงออกจากปากแม่เด็กก็ไม่รอช้ารีบเข้าไปหาให้แม่กอดพร้อมร้องไห้น้ำตาไหล นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านแม่บอกคิดถึงพวกเขาและกอดพวกเขาสี่พี่น้อง ปกติท่านแม่ไม่เคยพูดดีด้วย ไม่เคยบอกคิดถึง ไม่เคยกอดพวกเขาเลย สี่พี่น้องเคยขอกอดท่านแม่นะแต่กลับโดนดุต่อว่าทำตัวน่าอึดอัด ขอบคุณสวรรค์ที่รับฟังคำอธิษฐานของพวกเขาสี่พี่น้องที่เคยขอไว้ อยากให้ท่านแม่ใจดีแล้วหันมารักพวกเขาบ้างเท่านั้น

"ไม่ร้องนะเด็กดี แม่ขอโทษนะ ต่อไปแม่จะไม่ด่าไม่ดุด่าพวกเจ้าอีกแล้ว ให้อภัยแม่ด้วยนะ ต่อไปเรามาเริ่มต้นกันใหม่นะ" ไป๋หลิน

แม่ลูกทั้งห้าก็กอดกันร้องไห้จนผู้เป็นพ่อถึงกับน้ำตาซึม ถึงเขาจะไม่ได้รักไป๋หลินแต่ก็ไม่ได้เกลียดจนถึงขั้นอยู่ร่วมกันไม่ได้ พอได้ยินที่ไป๋หลินพูดกับลูกเขาเองก็ตกใจและดีใจกับลูก ๆ แต่อย่างไรก็ต้องคอยดูต่อไปว่าไป๋หลินจะทำตัวเป็นแม่ที่ดีได้กี่วัน

ไป่หลินคนใหม่เองก็ได้แต่ก่นด่าร่างเดิมในใจ มีลูกชายน่ารัก ๆ ถึงสี่คนทำไมไม่ใส่ใจบ้างนะ มันน่าตามไปตบกระบาลถึงโลกวิญญาณจริง ๆ

ระหว่างที่ทานข้าวอยู่เขานึกได้ว่าไป๋หลินคนเดิมมีความรู้เรื่องสมุนไพรพื้นฐานอยู่บ้าง ก็น่าจะพอให้ขึ้นเขาไปหาสมุนไพรมาขายหาเงินเข้าบ้านได้อยู่แล้ว ส่วนอาการของสามีทานข้าวเสร็จค่อยเข้าไปตรวจดูสักหน่อยถ้ารักษาได้เข้าจะรักษาให้เอง

ยังไงก่อนจะตายมาอยู่โลกนี้เขาคือ เรือเอกนายแพทย์ภัสกร นพวรรณ อายุ 35 ปี เป็นแพทย์มือหนึ่งของกรมทหารเรือเลยทีเดียว อีกทั้งยังได้มีโอกาสได้ทุนศึกษาต่อด้านแพทย์แผนจีนอีกด้วย ถึงแม้จบมาจะไม่ค่อยได้ใช้รักษาใครเท่าไหร่ แต่เขาก็ยังศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมให้ตัวเองเสมอและเคยมีประสบการณ์ฝังเข็มให้ลูกน้องในหน่วยอยู่บ้าง เวลาปวดเมื่อยตามร่างกายพี่น้องในหน่วยมักมาให้เขาช่วยฝังเข็มคลายกล้ามเนื้ออยู่บ่อย ๆ ส่วนเรื่องรักษาอาการป่วยของสามีแค่นี้สบายมาก

เมื่อทานข้าวเสร็จเขาก็เข้าไปดูอาการสามีทันที เขาจับชีพจรต่าง ๆ และสอบถามอาการดูก็พบว่าสามีป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ จึงทำให้ร่างกายปวดไปทั้งตัวจนไม่สามารถลุกไปทำงานได้ เขาจึงจะขึ้นเขาไปหาสมุนไพรมารักษาและจะนำบางส่วนไปขายหาเงินเข้าบ้าน เงินบางส่วนก็จะนำไปหาซื้อเข็มมาใช้ในการรักษาอาการป่วยให้สามี ร้านยาในเมืองจะมีขายไหมนะ ถ้ารักษาสามีหายแล้วจะสงสัยหรือเปล่าว่าเขาไม่ใช่ไป๋หลินคนเดิม คิดมาแล้วก็กลุ้มใจว่าจะหาข้ออ้างยังไงดี ตัวเขาเองก็ตัดสินใจแล้วว่าจะใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ ก็คงต้องปรับตัวให้เข้ากับโลกนี้ให้ได้ ไม่ต้องห่วงนะจางไป๋หลินฉันจะทำหน้าที่ภรรยาและมารดาที่ดีแทนนายเอง นายจะได้หมดห่วงไปสู่ภพภูมิที่ดีนะ

"เด็ก ๆ แม่ว่าจะขึ้นเขาสักหน่อย พวกลูกก็อยู่กับพ่อไปก่อนนะ แม่ไปไม่นานก็กลับมา เดี๋ยวแม่หาผลไม้ป่ามาฝาก ถ้าโชคดีได้สัตว์ป่าวันนี้แม่จะทำอาหารจานเนื้อให้กินดีไหม" ไป๋หลิน

"ขอรับ/ขอรับ/ขอรับ/ขอรับ"

หลัวฟางได้ยินแบบนั้นก็ถึงกลับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ที่จริงก็สงสัยตั้งแต่ไป๋หลินฟื้นขึ้นมาก็เปลี่ยนไปราวกับไม่ใช่ไป๋หลินคนเดิม หรือเพราะหัวฟาดก้อนหินจนสมองกลับไม่ก็มีแผนอะไรบางอย่าง หรือหลอกให้ตายใจแล้วกลับไปตามตื๊อเว่ยชุนอีก

"เจ้าดีขึ้นแล้วรึถึงจะขึ้นเขา อีกอย่างเจ้าไม่ไปเฝ้าเว่ยชุนแล้วรึ" หลัวฟาง

"เอาเป็นว่าข้ารู้แล้วกัน เดี๋ยวขึ้นเขาเสร็จกลับมาข้ามีเรื่องจะเล่าพูดคุยกับเจ้าและลูกด้วย ข้าไปก่อนนะฝากดูลูก ๆ ด้วย อ้อ อีกอย่างข้าไม่ไปตามเฝ้าคนที่มีลูกมีเมียหรอกเสียเวลาทำมาหากิน" ไป๋หลิน

"หึ ทำมาเป็นพูดดีเจ้าจะทำได้กี่วัน ไม่ใช่คืนนี้พอข้าหลับก็แอบออกจากบ้านไปเฝ้าบ้านลี่อีกละ ส่วนเจ้าไม่ฝากก็ดูแลเองอยู่แล้วประจำ" หลัวฟาง

เชอะไอ้ผัวคนนี้วาจาร้ายกาจน่าตบกระบาลเสียจริง แต่ช่างเถอะข้าขี้เกียจเถียงด้วยแล้วเตรียมของขึ้นเขาดีกว่า

โลกที่อยู่ตอนนี้อากาศไม่ค่อยร้อนเหมือนโลกเดิมเลย ขนาดเดินขึ้นเขามาหลายกิโลยังไม่รู้สึกร้อนเลย บรรยากาศดีอากาศเย็นสบายธรรมชาติก็ร่มรื่นเหมือนได้ชาร์จแบตให้ร่างกายเลย ถึงว่าตอนที่อยู่โลกก่อนสงสัยทำไมคนในเมืองจึงชอบไปเที่ยวต่างจังหวัดที่มีธรรมชาติต้นไม้ป่าเขาเพราะได้เติมความสดชื่นให้กับร่างกายแบบนี้นี่เอง

ตอนเริ่มเดินเข้ามาในป่าชั้นนอกไป๋หลินก็ได้สมุนไพรไปหลายอย่างเลย ยังมีพืชที่กินได้อย่างพวกหัวมันหัวเผือก ได้ผลไม้ป่าพวกเฉาเหมยป่า โปหลัว โชคดีที่เจอต้นผิงกั่วด้วย ไป๋หลินจึงเก็บผลไม้ป่าที่เจอใส่ตะกร้าใบใหญ่ที่สะพายอยู่ด้านหลัง

เหมือนสวรรค์จะเข้าข้างไป๋หลิน ให้ได้เจอกับโสมป่าห้าราก รากใหญ่สามรากอายุราวพันปี รากเล็กอีกสองราก อายุราว 400 ปี จากความจำร่างเดิมถ้าเอาไปขายจะได้อยู่ที่ราว 300 ถึง 1000 ตำลึงทองเลยทีเดียว แต่เขาคิดไว้ว่าจะไม่เอาไปขายหมดหรอกเก็บไว้ทำยาบำรุงให้สามีด้วยดีกว่า

พอได้โชคก้อนใหญ่แล้วไป๋หลินก็สำรวจป่าไปเรื่อย ๆ จนสามารถล่าไก่ป่าได้ตัวหนึ่งด้วยพร้อมกระต่ายอีกสองตัว ที่จริงบ้านเขาก็ไม่ขาดแคลนอาหารอะไรหรอกนะ เพราะถึงจะสามีป่วยแต่แม่สามีและแม่จางก็เอาของสดที่ซื้อหรือคนในบ้านล่ามาได้ แบ่งมาให้บ้านเขาบ่อยครั้ง กลัวหลาน ๆ จะหิว เผื่อไป๋หลินได้ทำอาหารให้ลูก ๆ ทาน บางครั้งก็ทำกับข้าวใส่ปิ่นโตมาให้ แต่ก็โดนเกอตัวร้ายอย่างไป๋หลินแย่งกินเกือบหมด ส่วนของสดพวกเนื้อสัตว์ก็จะแอบเอาไปขายแลกเงินเพื่อไปเล่นพนัน ไม่ก็แอบเอามาทำอาหารไปฝากบ้านลี่แต่ไม่ทำให้ลูกกับสามีกิน พักหลัง ๆ มาบ้านเดิมและบ้านใหญ่จึงไม่ค่อยเอาของสดมาแบ่งให้ แต่ทำเป็นกับข้าวใส่ปิ่นโตมาให้แทน

ภัสกรในร่างของไป๋หลินได้แต่คิดว่าลี่เว่ยชุนนั้นมีอะไรดี ทำไมไป๋หลินคนเดินถึงหลงได้จนโงหัวไม่ขึ้นแบบนี้ ผู้ชายเขาแต่งงานมีเมียไปแล้ว ส่วนตัวเองก็มีลูกมีผัวแล้วยังจะตามตื๊ออีกเอาสมองส่วนไหนคิดเนี่ยว่าเว่ยชุนจะหันมาสนใจ สู้ทำตัวดี ๆ ดูแลลูกที่น่ารักทั้งสี่ดีกว่า และคอยเอาใจสามีเผื่อวันหนึ่งเขาจะหันมารักยังมีความหวังกว่าอีก

"คิดมาแล้วอยากหยุมหัวไป๋หลินจริง ๆ หลงผู้ชายจนไม่สนใจลูก สี่แฝดออกจะน่ารักขนาดนี้ คอยดูนะข้าเนี่ยแหละจะเลี้ยงลูกให้ดี ขุนให้ทั้งสี่จนแก้มป่อง ส่วนหลัวฟางข้าก็จะรักษาให้หาย เผื่อสามีปากร้ายบ้านั้นจะหันมารักข้าบ้าง" ไป๋หลิน

เมื่อหาสมุนไพรที่อยากได้ครบไป๋หลินจึงเดินลงเขาเพื่อกลับบ้านระหว่างเขาก็แวะพักที่ลำธารตีนเขาเพื่อล้างหน้าสักหน่อย แต่พอชะโงกลงไปในแม่น้ำเขาก็ต้องตะลึงกับใบหน้าของตัวเองในน้ำ เพราะไป๋หลินมีใบหน้าที่สวยปนน่ารักแต่มีความเจ้าเล่ห์แบบนางร้ายสวย ๆ ในละคร ถ้าเปรียบก็เหมือนกับปีศาจจิ้งจอกที่แปลงกายมาหลอกล่อชายหนุ่มมนุษย์เหมือนในภาพยนตร์จีนหลาย ๆ เรื่องนั่นแหละ ไม่น่าละทำไมพี่ชายทั้งสามบ้านจางกับท่านพ่อจางถึงหวงและตามใจทุกอย่าง

พอพักจนพอใจไป๋หลินก็แบกตะกร้าผลไม้กับตะกร้าสมุนไพรกลับบ้าน ในหัวก็คิดหาขนมที่พอจะทำได้ให้ลูก ๆ ทานดีกว่า จากความทรงจำไป๋หลินไม่เคยทำขนมหรือแม้แต่อาหารก็ยังไม่เคยทำให้ลูกทานเลย ขนาดงานบ้านง่าย ๆ ยังไม่ทำเลย ได้แต่บังคับลูกทั้งสี่ทำแทน ส่วนอาหารเขาก็ทำกินเองคนเดียวไม่เผื่อลูก แต่กลับทำไปให้บ้านลี่แทนยิ่งตอนที่เว่ยชุนยังไม่แต่งงานทำไปฝากเกือบทุกวัน เพราะคิดว่ายังไงสามีก็กลับมาหาให้ลูกกินอยู่ดี เขาจึงไม่สนใจว่าระหว่างรอพ่อกลับมาสี่พี่น้องจะหิวแค่ไหน สมกับเป็นจางไป๋หลินเกอร้ายกาจจอมขี้เกียจและบ้าผู้ชายแห่งหมู่บ้านถงหยางจริง ๆ

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
21 Chapters
บทนำ ตื่นมาจากความตายก็มีสามีและลูกเลย
ณ ชายแดนของประเทศเวนราเนียที่ติดกับประเทศอาคาเดีย มีหน่วยรบพิเศษของกองกำลังนานาชาตินำทีมโดย เรือเอกนายแพทย์ภัสกร นพวรรณ ที่ทุกคนในหน่วยและค่ายอาสาเรียกว่า ผู้กองหมอกร นำทีมออกลาดตระเวนเนื่องจากได้รับรายงานจากศูนย์บัญชาการใหญ่ ณ วูโรวา เมืองหลวงของประเทศเวนราเนีย ส่งข่าวมาบอกว่าจะมีการลักลอบซื้อขายอาวุธสงครามกันที่ชายแดน จึงให้หน่วยรบพิเศษซีอาโนที่นำโดยภัสกรออกตรวจตราอย่างเข้มงวดประเทศเวนราเนียกับประเทศอาคาเดียทั้งสองประเทศเคยถูกกลุ่มก่อการร้ายยึดครองมาก่อน กลุ่มบีลามาเป็นกลุ่มที่ก่อเหตุไปทั่วโลก เมื่อ 5 ปีก่อนกลุ่มบีลามาอาศัยช่วงจังหวะที่ทั้งสองประเทศกำลังมีข้อพิพาทสู้รบกัน เข้ามายึดครองทั้งสองประเทศไว้และสังหารผู้นำของทั้งสองประเทศ จึงให้ประเทศเวนราเนียกับประเทศอาคาเดียตกอยู่สภาวะอันตรายเนื่องจากไร้ผู้นำจึงทำให้สหประชาชาติจัดตั้งองค์กร WN ที่รวบรวมเหล่านักรบสุดแกร่งของแต่ละประเทศมารวมกัน แล้วเข้าตีเอาประเวนราเนียคืนมาได้ ส่วนประเทศอาคาเดียนั้นเป็นศูนย์บัญชาการใหญ่ของกลุ่มบีลามา ไม่สามารถยึดคืนมาได้เนื่องจากประชากรของประเทศตกอยู่ในการควบคุมของกลุ่มบีลามาหมด หากทางองค์กร WN ยื่นมือเข
last updateLast Updated : 2025-10-12
Read more
บทที่ 1 รักษาสามีและบอกเหตุผลที่เปลี่ยนไป
ไป๋หลินนั้นขึ้นเขาไปตอนยามซื่อพอลงก็ยามอุ้ยแล้ว จึงทำให้ไม่ทันเกวียนประจำหมู่บ้าน สงสัยต้องไปยืมเกวียนที่บ้านเดิมเพื่อไปขายสมุนไพรในเมืองแล้วละระหว่างทางที่เดินกลับบ้านไป๋หลินก็ได้เจอกับสายตาแปลกจากชาวบ้านถงหยาง ที่มองเขาด้วยสายตกตะลึง บางคนมองแล้วก็หันไปซุบซิบนินทา บางคนก็เอ่ยทักทายปกติตามประสาคนรู้จัก"ข้าว่านะสะใภ้เหยียน วันนี้หิมะคงตกหลงฤดูแน่ ๆ เลย" สะใภ้เวิน"ทำไมละสะใภ้เวิน" สะใภ้เหยียน"ก็จู่ ๆ คนเกียจคร้าน แบบสะใภ้เล็กบ้านถานขึ้นหาของป่า แบบนี้มันผิดวิสัยนะ ปกติจะต้องคอยไปเฝ้าหน้าประตูบ้านลี่ เหมือนสุนัขที่ถูกเจ้าของทิ้งไม่ให้เข้าบ้าน ฮ่า ฮ่า " สะใภ้เหยียน"ฮ่า ฮ่า จริงด้วย ผู้ชายเขาไม่เอาก็ยังไปตามเฝ้าหน้าไม่อายว่าไหมสะใภ้เหยียน ดูสิพูดให้ขนาดนี้ยังเมินเฉยได้อีก" สะใภ้เวินเกอกับสตรีที่พูดจาถากถางไป๋หลิน คือสะใภ้รองบ้านเวิน เวินซิงเยียน กับเกอสะใภ้สี่บ้านเหยียน เหยียนเฟยเจิน ทั้งสองนี้เป็นอริกับไป๋หลิน จึงไม่แปลกที่สองคนนี้ที่มักจะพูดแซะบ่อย ๆแต่ด้วยไป๋หลินคนเดิมไม่ค่อยสู้คนนัก เพราะสองคนนี้มักใช้วิธีสองรุมหนึ่ง จึงทำให้ไป๋หลินหลีกเลี่ยงที่จะปะทะด้วย แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะเล
last updateLast Updated : 2025-10-12
Read more
บทที่ 2 ขึ้นเขาเจอทั้งโชคและคนโชกเลือด
บ้านถานใหญ่มีคนอยู่กันหลายคน มีท่านพ่อสามี ถานหลัวจง อายุ 44 ปี แม่สามีเป็นเกอ ถานซิ่วอิง (แซ่เดิมหลี่) อายุ 43 ปี ถึงอายุท่านทั้งสองเข้าหลักสี่สิบกันแล้วแต่ยังดูหนุ่มกันอยู่เลยเหมือนคนอายุสามสิบกว่า ๆ เองโดยเฉพาะ แม่สามีที่ยังงดงามอยู่เลยจึงไม่แปลกใจว่าทำไมลูกหลานบ้านถานหน้าตางดงามกันทุกคน เพราะมีต้นแบบความหล่อสวยมาจากท่านทั้งสองนี้เอง นอกจากท่านพ่อถานและท่านแม่ถานแล้วบ้านถานใหญ่ยังมีสมาชิกที่อยู่รวมกันอีกหลายครอบครัวครอบครัวพี่ใหญ่ลูกชายคนโต ถานหลัวเฟย อายุ 28 ปี พี่สะใภ้ใหญ่ ถานฟางจิน (แซ่เดิมเฉา) เป็นเกออายุ 27 ปี มีลูกด้วยกันสามคน ลูกเกอแฝดผู้พี่เฟยหย่า แฝดน้องเฟยฮุ่ย ทั้งคู่อายุ 10 ขวบ และลูกชายคนเล็ก เฟยหยาง 8 ขวบ ลูกเกอแฝดของพี่ใหญ่หลัวเฟยฉายแววความงดงามเหมือนผู้เป็นแม่ ถือว่าได้แม่มาเต็ม ๆ ถ้าเลยช่วงปักปิ่นต้องงามขึ้นมากไปอีกแน่ ๆ ส่วนลูกชายก็มีหล่อคล้ายผู้เป็นพ่อมาก แต่นิสัยมีความขี้เล่นและฉลาดมากครอบครัวพี่รอง ถานหลัวถ่ง อายุ 27 ปี พี่สะใภ้รอง ถานเจียหมิง (แซ่เดิมหยุน) เป็นเกออายุ 26 ปี ลูกสาวคนโต ถ่งลี่ 11 ขวบ ลูกเกอคนรอง ถ่งหมิง 9 ขวบ และลูกชายคนเล็ก ถ่งกุ้ย 7 ขวบ สาวน้
last updateLast Updated : 2025-10-12
Read more
บทที่ 3 ผู้ป่วยนิรนาม
หลังจากไป๋หลินพาคนเจ็บมาถึงบ้าน สมาชิกในบ้านทุกคนรวมถึงแม่สามีและแม่จาง ก็ถึงกับตกใจมากที่จู่ ๆ ไป๋หลินก็พาคนแปลกเข้าบ้านแถมยังเลือดเต็มตัวแบบนี้ แต่เขาไม่มีเวลาอธิบายอะไรมากเขาบอกให้ทุกคนเตรียมสถานที่เพื่อช่วยชีวิตชายปริศนาผู้นี้ก่อน ดูจากอาการน่าจะเสียเลือดไปเยอะต้องรีบฝังเข็มห้ามเลือดก่อน ทุกคนที่อยู่ในบ้านถานรองตอนนี้ก็ช่วยกันเตรียมของต่าง ๆ ตามที่ไป๋หลินบอกทันที แม้แต่เด็ก ๆ อะไรที่ช่วยท่านแม่ก็รีบช่วยไม่อิดออด ท่านแม่ทั้งสองช่วยกันถอดชุดด้านบนของชายคนนั้นออกแล้วใช้น้ำสะอาดชำระกายจึงทำให้คราบออกไปจนหมดเหลือเพียงแผลและจุดที่เลือดยังไหลไม่หยุด ไป๋หลินไม่รอช้ารีบฝังเข็มห้ามเลือดทันทีไป๋หลินทำการรักษาไปสักพักก็ห้ามเลือดได้สำเร็จ ส่วนแผลที่ถูกของมีคมฟันก็ทำการปิดปากแผลเรียบร้อย เขาเสียดายที่ไม่มีไหมสำหรับเย็บแผล ถ้ามีเวลาว่างค่อยทำเองก็แล้วกัน เพราะมันพอที่จะทำได้วัสดุที่ใช้ก็มาจากธรรมชาติ ส่วนวิธีทำนั้นภัสกรเคยไปศึกษาดูงานแหล่งผลิตมาแล้วตอนอยู่โลกเดิม ถึงไม่มีเครื่องจักรที่ทันสมัยแต่ก่อนจากมาเป็นไหมเย็บแผลที่ใช้ในวงการแพทย์ก็ใช้วิธีการทำมือมาก่อนเขาพอจำวิธีได้ทำไว้เยอะ ๆ ยิ่งดีหากถึ
last updateLast Updated : 2025-10-12
Read more
บทที่ 4 เตรียมตัวเข้าเมืองหลวง
บ้านหลังขนาดพอดีสามารถอยู่รวมกันเป็นครอบครัวใหญ่มีรั้วรอบขอบชิดอยู่เกือบท้ายหมู่บ้าน ห่างจากบ้านของไป๋หลินเพียงแค่เดินไปหนึ่งเค่อก็ถึงแล้ว เป็นบ้านของตระกูลสวีที่พี่สามของหลัวฟางแต่งเข้ามาเป็นสะใภ้ หลัวหนิงเป็นสะใภ้ใหญ่ของตระกูลสวีเพราะบ้านสวีมีพี่ฉางฝูเป็นลูกชายคนโตและฉางซูบุตรเกอคนเล็กที่ออกเรือนไปกับคนหมู่บ้านข้าง ๆ ถ้าเทียบฐานะกับตระกูลอื่นในหมู่บ้านถงหยาง ตระกูลสวีเองก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรแต่ด้วยความขยันจึงทำให้ไม่ลำบาก บ้านสวีทุกคนในบ้านล้วนแต่มีจิตใจที่ดีไม่ขี้อิจฉามีน้ำใจและซื่อสัตย์ช่วยเหลือคนอื่นเสมอ จึงมักมีคนชอบมาจ้างไปทำงานบ่อย ๆถัดไปอีกไม่ไกลกันมากเพียงประมาณหนึ่งหลี่ก็มีบ้านขนาดหลังเท่ากัน บ้านของตระกูลอู๋ที่พี่สี่หลัวเหมยแต่งเข้ามาเป็นสะใภ้เล็ก บ้านอู๋มีลูกชายคนโตอย่างอู๋อี้หลงพ่อหม้ายลูกติด ส่วนลูกคนรองเป็นเกออู๋อี้ผิงแต่งงานออกเรือนไปแล้ว คนสุดท้ายคือพี่เขยอย่างอู๋อี้ฟาน ฐานะทางบ้านก็ไม่ต่างอะไรจากบ้านสวี แต่จิตใจดีขยันทำมาหากินจึงไม่ลำบากบ้านอีกหลังที่อยู่ใกล้กับบ้านตระกูลอู๋เป็นบ้านตระกูลจู บ้านหลังสุดท้ายของหมู่บ้านถงหยางขนาดบ้านจะเล็กลงมาสักหน่อยแต่ก็อบอุ่นเต็มไปด้
last updateLast Updated : 2025-10-12
Read more
บทที่ 5 ผู้ป่วยนิรนามคนนั้น
ผ่านไปหนึ่งวันกับหนึ่งคืนไป๋หลินกับทุกคนก็เดินทางถึงเมืองหลวงเว่ยโจวในยามเหม่า พอถึงบ้านเดิมพี่สะใภ้ใหญ่ไป๋หลินก็ถึงกับตะลึง เพราะบ้านเดิมของพี่สะใภ้ใหญ่ดูจากขนาดบ้านแล้วต้องรวยมากแน่ ๆ มีทั้งบ่าวรับใช้มาเปิดประตูให้ด้วย แต่ลองพินิจดูแล้วมันไม่ใช่บ้านแต่เป็นจวนขุนนางมากกว่า ทำไมไป๋หลินไม่รู้มาก่อนเลยว่าบ้านเดิมพี่สะใภ้ใหญ่จะรวยขนาดนี้ แล้วท่านพ่อท่านแม่ของพี่หลิงฉีทำไมถึงยอมให้แต่งงานกับพี่ใหญ่ที่เป็นชาวบ้านธรรมดาละ ในหัวตอนนี้มันมีคำถามเต็มไปหมดส่วนพี่รองกับครอบครัวก็ขอแยกตัวไปบ้านเดิมของพี่สะใภ้รองที่ห่างจากบ้านพี่หลิงฉีไม่ไกลมากนัก ทุกคนนัดรวมตัวกันที่บ้านพี่หลิงฉียามซื่อ เพราะจะได้พากันออกไปเดินชมเมืองชมตลาดก่อน พรุ่งนี้ถึงจะได้ไปดูโรงหมอตระกูลหวงโดยจะให้พี่ใหญ่ของพี่หลิงฉีพาเข้าไปดูเมื่อถึงยามยามซื่อตามที่นัดกันไว้ทุกคนก็พากันออกไปเดินชมเมืองหลวง คนที่ตื่นเต้นที่สุดก็คงไม่พ้นไป๋หลินกับลูกแฝด ทั้งห้าคนยังไม่เคยมาเมืองหลวงเลยสักครั้ง หลัวฟางนั้นเคยมาหลายครั้งแล้วเพราะของที่ใช้สร้างบ้านบางชิ้นไม่มีขายในหมิงโจวหลัวฟางกับท่านพ่อก็ต้องเดินทางมาสั่งเอง แต่จะเดินทางด้วยม้าเช่าจะเร็วและ
last updateLast Updated : 2025-10-12
Read more
บทที่ 6 ความลับคนในบ้านจาง
เมื่อสิ่งที่ไป๋หลินสงสัยได้คลายข้อสงสัยไปแล้วหนึ่งข้อ ว่าพระชายาเหนียนฉีเคยเจอเขาได้อย่างไร ก็คือเจอตอนงานแต่งพี่ใหญ่นั้นเอง ตอนนั้นเขาเพียงอายุประมาณสิบขวบอาจจะจำไม่ได้จริง ๆ นั่นแหละ ส่วนพี่สะใภ้ใหญ่หลิงฉีก็เป็นน้องชายของพระชายาเหนียนฉีหน้าจึงคล้ายกันมาก แต่ข้อสงสัยที่ว่าพี่หลิงฉีมาแต่งงานกับพี่ใหญ่เขาได้อย่างไรนั้น คงต้องถามให้กระจ่างวันนี้แหละ ตอนเย็นทานอาหารเสร็จทุกคนจะดื่มฉลองกันถึงตอนนั้นไป๋หลินจะถามพี่ใหญ่ให้รู้เรื่อง ถามพี่รองกับพี่สะใภ้รองด้วย ไหนจะท่าทางที่พี่ใหญ่พี่รองข้าสนิทสนมกับจวินอ๋องที่เป็นพี่ชายบุญธรรมของเขาอีก ยังไม่ทันข้ามวันในหัวของข้าก็มีคำถามเต็มไปหมด แต่ตอนนี้ต้องเก็บความสงสัยไว้ก่อน เพราะดูแล้วน่าจะยามเซินไป๋หลินจึงชวนพี่สะใภ้ใหญ่พี่สะใภ้รองไปช่วยในครัว และแน่นอนระหว่างทางไป๋หลินก็แวะไปที่ต้นไม้ใหญ่ที่ผลสีเขียวเต็มต้น คนที่นี่เรียกว่าหมางกั่วมันก็คือมะม่วงนั้นเอง ไป๋หลินทำการหาไม้ยาว ๆ มาสอยมะม่วงไปด้วย พระชายาเหนียนฉีเห็นแบบนั้นจึงให้เหล่าขันทีมาช่วยสอยมะม่วงอีกแรงไป๋หลินจัดการทำน้ำปลาหวานก่อนเลย เขาใส่น้ำตาลลงไปในกระทะแล้วคุมไฟให้อยู่ในระดับไฟกลาง ใส่น้ำเป
last updateLast Updated : 2025-10-13
Read more
บทที่ 7 โรงหมอตระกูลหวง
เช้าวันนี้ในจวนของจวินอ๋องไป๋หลินยังคงตื่นแต่เช้าเหมือนตอนอยู่ที่บ้าน เพราะไป๋หลินจะเป็นคนทำอาหารเช้าให้ทุกคนในจวนทาน โดยที่มีอี้กงกงและนางกำนัลคอยช่วยอีกแรง ทั้งยังให้อี้กงกง นางกำนัล และพ่อครัวแม่ครัวมาดูวิธีทำใกล้ ๆ พร้อมกับให้จดสูตรไว้อีกด้วย เพื่อจะได้ทำให้จวินอ๋อง พระชายาและองค์ชายแฝดได้ดื่มบำรุงร่างกายทุกเช้า เขาเริ่มจากการทำน้ำเต้าหู้ก่อนแต่ที่แตกต่างออกไปวันนี้มีคนมาช่วยไป๋หลินบดถั่วเหลือง จึงทำให้ขั้นตอนนี้ไวขึ้นและได้ถั่วเหลืองบดเป็นจำนวนมาก ไป๋หลินตั้งใจว่าจะต้มให้ดื่มกันทั้งจวนเลย ที่สำคัญสูตรน้ำเต้าหู้วันนี้แตกต่างจากที่เคยทำทุกวัน ตรงที่นอกจากจะมีน้ำเต้าหู้สูตรธรรมดาที่เคยทำแล้ว ไป๋หลินยังทำน้ำเต้าหู้สูตรงาดำและน้ำเต้าหู้สูตรใบเตยอีกด้วย โชคดีที่มีโม่หินตั้งสี่อันไม่เช่นนั้นไม่ทันกินแน่พอเตรียมน้ำเต้าหู้เสร็จก็มีขันทีมาแจ้งข่าวว่าจวินอ๋อง พระชายาและแขกทุกท่านเริ่มตื่นกันแล้ว ไป๋หลินจึงให้อี้กงกงกับนางกำนัลนำน้ำเต้าหู้ไปถวายจวินอ๋องกับพระชายาก่อน แล้วค่อยทยอยนำไปให้คนอื่นในจวนได้ดื่ม จากนั้นไป๋หลินก็เริ่มทำเมนูอาหารเช้าง่าย ๆ อย่างไข่ดาวทรงเครื่องที่มีหมูสับแครอทและต้นห
last updateLast Updated : 2025-10-13
Read more
บทที่ 8 ปริศนาผีน้ำ
ทุกคนมาถึงศาลต้าเว่ยเจ้าหน้าที่ของศาลก็พาทั้งสี่คนไปที่ห้องเก็บศพทันที พอไปถึงก็พบร่างผู้เสียชีวิตทั้งห้าร่างมีร่างผู้ชายสามร่างเป็นผู้หญิงอีกสองร่าง เจ้าหน้าที่ศาลได้รายงานจวินอ๋องบอกว่าทั้งสามเป็นคนจากหมู่บ้านเดียวกันหมด ถูกพบร่างพร้อมกันเมื่อวานยามไฮ่ คนที่พบเป็นชายชาวบ้านที่ออกมาหาปลาตอนกลางคืน นอกจากจะพบศพแล้วเขายังพบเห็นผีน้ำอีกด้วย อยู่ใกล้กับบริเวณที่พบศพทั้งห้าร่าง ชายคนนั้นกลัวมากจึงรีบหนีกลับบ้านก่อน ตอนเช้าเขาจึงไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ไปดูศพ ก็พบว่าศพก็ยังอยู่ที่ท่าน้ำเหมือนเดิมจึงได้รีบพากันแจ้งศาลต้าเว่ยไป๋หลินกับเหลียนฉีรีบตรวจดูตามร่างกายของศพทันที หากดูผิวเผินจะเห็นว่าศพไม่มีร่องรอยถูกทำร้ายใด ๆ แต่ถ้าตรวจอย่างละเอียดจะพบว่าที่ซอกคอของศพนั้นมีรอยเข็มอยู่ประมาณสองถึงสามจุด บางศพก็มีเข็มปักคาไว้อยู่ การตายจึงไม่ได้เกิดจากการจมน้ำแต่ถูกพิษอะไรสักอย่าง ไป๋หลินกับเหลียนฉีลงความเห็นกันว่าผู้ตายน่าจะได้ยาพิษก่อนตาย โดยการถูกฝังเข็มที่อาบยาพิษปักเข้าที่คอ พอเหยื่อหยุดหายใจจึงนำร่างไปทิ้งที่แม่น้ำทำให้ดูเหมือนว่าตายเพราะจมน้ำ เพื่อความแน่จึงอนุญาตจวินอ๋องเจาะเอาเลือดของคนตายไปพิ
last updateLast Updated : 2025-10-13
Read more
บทที่ 9 ปริศนาจวนรุ่ยอ๋อง
วันรุ่งขึ้น จวินอ๋อง หมอใหญ่เหลียนฉี หลัวฟางและไป๋หลินทั้งสามคนเดินทางไปที่จวนของรุ่ยอ๋องเพื่อไปช่วยสืบคดีของนางกำนัลที่ตายอย่างปริศนา พอได้รู้ประวัติคร่าวๆ ของรุ่ยอ๋องหรือองค์ชายสามเฟิงเห่อเป็นโอรสลำดับที่สามของอดีตฮ่องเต้ฉางหลง ช่วยดูแลงานด้านการค้าในเมืองหลวงและทั่วแคว้น รุ่ยอ๋องเองก็งัดข้อกับหมอใหญ่อยู่บ่อย ๆ เพราะรุ่ยอ๋องกับเจ้าเมืองหมิงโจวเป็นเพื่อนรักกันแล้วพี่สาวของท่านเจ้าเมืองยังเป็นพระสนมของฮ่องเต้อีกด้วย แต่น่าเสียดายพระสนมทรงอายุสั้นถูกลอบปลงพระชนม์ด้วยยาพิษเมื่อปีก่อนตอนคลอดพระธิดา หากแต่จับมือใครดมไม่ได้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง เพราะนางกำนัลและหมอที่ทำคลอดในวันนั้นถูกฆ่าตายหมด หมัวมัวคนสนิทของพระสนมก็ถูกพิษไปด้วยแต่โชคดีวันนั้นหมัวมัวอดทนอุ้มพระธิดาองค์น้อยไปหาพระสนมเอกจึงรอดมาได้ แต่ทุกคนสงสัยตระกูลสุ่ยและหมอหลวงใหญ่มากแต่ไม่มีหลักฐาน จากนั้นมาเจ้าเมืองหมิงโจวกับรุ่ยอ๋องก็พยายามช่วยกันสืบเบื้องหลังคดีทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับหมอหลวงใหญ่เพื่อช่วยหาเบาะแสให้ศาลต้าเว่ยอีกแรง พอฟังจบไป๋หลินก็คิดว่าหมอหลวงใหญ่คนนี้มันโรคจิตหรือเปล่ามีเรื่องขัดแย้งกับคนอื่นไปทั่วไป เผลอพระสนมสุ่ยก
last updateLast Updated : 2025-10-13
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status