Home / วาย / เขื่อนขุนเขา / เขื่อนขุนเขา 1

Share

เขื่อนขุนเขา
เขื่อนขุนเขา
Author: Meithimm

เขื่อนขุนเขา 1

Author: Meithimm
last update Last Updated: 2025-04-25 20:08:48

ในพื้นที่ตอนใต้ของประเทศ ที่ซึ่งท้องทะเลเป็นสีครามลึกและเสียงคลื่นกระทบฝั่งดังก้องสะท้อนกับผาหิน — นั่นคือที่ตั้งของอาณาจักร “สัมปทานรังนก” ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และชายผู้ควบคุมทุกเกาะ ทุกนก และทุกเส้นทางการค้าคือ เขื่อน สหัสวรรษ บดินทร์ขุนทศ ชายหนุ่มวัยสามสิบกลางๆ เจ้าของสัมปทานรังนกทั้งหมดสามเกาะใหญ่ และยังเป็นเจ้าของรีสอร์ตบนเกาะเล็กเกาะน้อยที่ถูกเนรมิตให้กลายเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยว

เขื่อนสูงถึง 190 เซนติเมตร ผิวแทนเข้มจากการใช้ชีวิตกลางแดด ใบหน้าคมเข้มดุดันจนบางคนไม่กล้าสบตา กล้ามเนื้อแน่นตึงบ่งบอกถึงความแข็งแรงและวินัยในการดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง แม้จะเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ แต่เขาก็ไม่เคยทอดทิ้งความผูกพันกับธรรมชาติ โดยเฉพาะ “แมว” ที่เขาเลี้ยงไว้ถึงสองตัวบนเกาะเล็กๆ ที่ชื่อว่า “เกาะปันรัก” แห่งนี้ เกาะซึ่งแม่ของเขาทิ้งไว้ก่อนจะเสียชีวิตจากโรคร้ายเมื่อหลายปีก่อน

เมื่อครั้งยังวัยรุ่น เขื่อนใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวง เรียนหนังสือและทำงานในบริษัทของพ่อ ตนทำทุกวิธีเพื่อรักษาแม่ แต่สุดท้ายเมื่อแม่จากไป เขาก็เลือกกลับมายังบ้านเกิด สานต่อกิจการและดูแลเกาะที่แม่รักที่สุด

สายลมยามบ่ายโบกใบมะพร้าวพลิ้วไหว เสียงคลื่นซัดเข้าหาดทรายอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เขื่อนยืนอยู่ริมชายหาดบนเกาะปันรัก มองออกไปยังเส้นขอบฟ้าที่ไกลสุดตา ก่อนที่เสียงของ “หนึ่ง” ลูกน้องคนสนิทจะดังขึ้นจากด้านหลัง

“นายหัวครับ ผมไปดูนกมาช่วงนี้ไม่ค่อยมีนกมาทำรังเลยครับ”

เขื่อนหันหน้ากลับมามองด้วยสายตานิ่งสนิท

“ไปตรวจเช็คให้ดี และดูพยากรณ์ด้วยล่ะ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงที่เรียบแต่หนักแน่น ก่อนจะเอ่ยต่อพลางปรายตาไปทางเรือสปีดโบ๊ทสีขาวที่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้เกาะ

“กูจะไปหาเพื่อนบนบก”

หนึ่งพยักหน้าเป็นอันเข้าใจดีว่าหมายถึงอะไร — และใครกันที่เป็น “เพื่อน” ของนายหัวในที่ราบฟากฝั่งนั้น

ไม่นาน ชายอีกคนชื่อชัยก็เข้ามาเทียบเรือใกล้ชายฝั่ง วันนี้เขารับหน้าที่เป็นสารถีพาเขื่อนขึ้นบกตามคำสั่ง

เขื่อนเดินขึ้นเรือโดยไม่พูดอะไร ใบหน้ายังคงสงบนิ่ง ขณะที่สายตาเหม่อมองไปยังขอบฟ้าไกลลิบ

หลังจากใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 30 นาทีจากเกาะปันรักมาถึงฝั่งที่ผู้คนพลุกพล่าน เขื่อน ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ในเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงขายาวสีน้ำตาล แว่นเรย์แบนสีดำ และรองเท้าคอมแบทเงาวับ—เดินตรงมาตามทางเท้า สายตาคมมองไปยังรถสปอร์ตสีแดงสดที่จอดรออยู่ริมฟุตบาท

ประตูฝั่งคนขับเปิดออก เผยให้เห็นชายหนุ่มอีกคน สูง 187 เซนติเมตร ใบหน้าคมสันในเสื้อเชิ้ตสีขาวเหมือนกัน แต่กระดุมเสื้อปลดจนเผยผิวอก รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ฉาบบนใบหน้าขณะส่งสายตาหว่านเสน่ห์ใส่สาว ๆ ที่เดินผ่าน ก่อนจะหันมามองเพื่อนรักอย่างเขื่อน

ชายคนนั้นชื่อ “ทิวากร” หรือ “ทิวา” เพื่อนสนิทของเขื่อนตั้งแต่มัธยมปลาย เขื่อนเดินมาเปิดประตูขึ้นรถโดยไม่พูดอะไร ทิวายิ้มเก้อเมื่อเห็นเพื่อนเงียบขรึม ไม่เอ่ยแม้แต่คำทักทาย เสียงคาดเข็มขัดนิรภัยดังขึ้นสองครั้ง

“กูจะพาไปร้านเหล้าเสี่ยเฮ็ง สาขาสอง” ทิวาเอ่ยขึ้น หัวเราะเบา ๆ รู้ดีว่าเพื่อนคนนี้ถ้าวันนี้ไม่ใช่วันเกิดของเพื่อนสนิท คงไม่มีทางยอมออกจากถ้ำง่าย ๆ แบบนี้

“บอกเลย เด็กเชียร์น่ารักจัด มึงไปก็ช่วยให้ทุนการศึกษาน้องเขาหน่อย” เขาพูดต่ออย่างอารมณ์ดี

“ไร้สาระ” เขื่อนตอบสั้น ๆ เย็นชา

ทิวาถึงกับอ้าปากค้าง “หน็อย… ปากบอกไร้สาระ ถ้ากูเห็นมึงหนีไปนัวสาวนะ กูนี่แหละจะด่ามึงเอง!

ไม่นาน รถสปอร์ตคันหรูก็เลี้ยวเข้าจอดในช่อง VIP ของคลับชื่อดัง ตอนนี้เวลาเพิ่งหกโมงเย็น—ถ้าใครถามว่าทำไมมาถึงเร็ว ก็เพราะทิวากำลัง “หิวเหล้า” หนักมาก

ทั้งสองก้าวลงจากรถ เดินเข้าไปภายในอาคารที่ยังเงียบสงบ มีเพียงชั้นสามที่เริ่มมีผู้คน พวกเขาขึ้นลิฟต์และมุ่งหน้าไปยังห้อง VIP ที่จองไว้

พรมแดงสดทอดยาวบนพื้นแสบตาราวกับอยากเป็นจุดเด่น ประตูห้องถูกเปิดออก เผยให้เห็นเพื่อนร่วมวงอีกสามคน

ชายคนแรกนั่งฝั่งซ้าย ผมบลอนด์ เสื้อเชิ้ตสีดำ ชื่อศักดิ์

คนตรงกลาง—แม็กซ์—ไว้ผมสีน้ำตาล สวมเสื้อยืดสีดำกับกางเกงสแลค

คนสุดท้ายคือเจริญชัย ที่กำลังมุดหัวอยู่กับสาว PR ข้างตัว

ทิวาส่ายหัวกับสภาพเพื่อน ก่อนจะเดินไปนั่งใกล้ศักดิ์ เหล้าเบียร์บนโต๊ะพร่องไปเล็กน้อย แสดงว่าพวกเขาคงมาถึงไม่นาน

เขื่อนนั่งลงเงียบ ๆ ที่เก้าอี้ว่าง รินเหล้าให้ตัวเองและจิบเบา ๆ

“เป็นไงบ้างวะช่วงนี้” เจริญชัยเงยหน้าขึ้นมาทัก

“เรื่อย ๆ ว่ะ ปีนี้เก็บเกี่ยวองุ่นละ กำไรน่าจะมากกว่าปีก่อน” ทิวาพูดพร้อมไกว่ห้าง สายตาแว้บไปมองสาวข้างเจริญชัย พร้อมส่งสายตาเจ้าเล่ห์ใส่

“พ่อมึงล่ะ” เจริญชัยหันไปถามเขื่อน ใช้สรรพนามล้อเพราะเขื่อนมักทำตัวแก่กว่าเพื่อน

“ก็ดีมั้ง รวยสุดละพ่อกู ไม่ต้องทำงานก็อยู่ได้” ศักดิ์พูดแทรกพร้อมหัวเราะ

พวกเขาคุยกันเฮฮาไปจนถึงเที่ยงคืน ก่อนที่เขื่อนจะลุกขึ้น หยิบกุญแจรถจากทิวาและบอกให้เพื่อนกลับกับเจริญชัยโดยไม่รอคำตอบ

เขื่อนเดินลำพังไปยังโรงจอดรถ VIP ขณะเดินผ่านทางด้านหลังของคลับ เสียงร้องไห้และเสียงอ้อนวอนของใครบางคนก็ดังขึ้น เขาเมินเฉยและเดินต่อไป แต่เสียงขวดเบียร์แตกก็ดังขึ้นทันที พร้อมแรงกระแทกจากใครบางคนที่วิ่งชนเขาอย่างแรง

เขื่อนก้มลงมอง คนที่ล้มอยู่ตรงหน้าคือชายรูปร่างเล็ก สูงราว 160-170 ซม. ผมเผ้ารุงรัง เสื้อผ้าขาดวิ่น

“พ…พี่ ช่วยด้วย ช่วยหนูด้วย…” เสียงสั่นเครือเอ่ยขึ้น ร่างเล็กกอดขาเขาแน่น

ก่อนเขื่อนจะทันได้คิดอะไร มือปริศนาก็พุ่งเข้ามาลากร่างบางออกไป ร่างทุ้มพยายามฉุดอีกฝ่ายไปกับพื้นถนน แต่เขื่อนจับข้อมือไว้แน่น

“บ้านเมืองมีขื่อมีแป” เขื่อนพูดเสียงเย็น บีบข้อมืออีกฝ่ายจนเจ้าตัวหน้าเสียและปล่อยมือ

“ฝากไว้ก่อนเถอะมึง ถ้ากูเจอตัวเมื่อไหร่ มึงตายแน่” ชายร่างทุ้มขู่เสียงกร้าวก่อนจะรีบกึ่งวิ่งกึ่งเดินหนีไป

เขื่อนก้มมองร่างเล็กบนพื้นอีกครั้ง ส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ พยายามปลุกแต่อีกฝ่ายไม่ตอบรับ

เขาตัดสินใจอุ้มอีกฝ่ายแนบอก พาไปที่รถ เปิดประตูข้างคนขับวางตัวเขาอย่างเบามือ ก่อนจะรีบขับรถออกไปจากคลับในค่ำคืนที่เงียบงัน…

เสียงเครื่องยนต์หรูคำรามเบาๆ ขณะเร่งเครื่องออกตัวจากคลับและมุ่งหน้าสู่ถนนใหญ่ยามค่ำคืน เสียงโทรศัพท์ถูกใช้งานเมื่อเขื่อนจอดรถติดไฟแดง เขากดโทรออกก่อนจะพูดเสียงนิ่งแต่หนักแน่น

“พี่อร ผมขอหมอมาที่โรงแรมด่วนที่สุด”

ปลายสายตอบรับอย่างรวดเร็ว ก่อนจะจัดการทุกอย่างตามคำสั่งของเจ้านายอย่างเคร่งครัด

“อื้อ… อย่าทำเขา… อย่าจับเขา…”

เสียงแผ่วเบาและสะอื้นของคนข้างๆ ดังขึ้น ทำเอาเขื่อนละสายตาจากถนน มองใบหน้าของร่างเล็กที่ซบอยู่ข้างเบาะคนขับ

ผิวขาวอมชมพูซีดเซียว ผมสีน้ำตาลยุ่งเหยิง ขนตายาวงอนแม้จะอยู่ในสภาพหมดแรง ร่างบางมีแผลฟกช้ำตามแขนขา และรอยถลอกจากการถูกลากบนพื้นคอนกรีต

หากเขาไม่เจอเด็กคนนี้ในคืนนี้—บางทีอาจไม่มีโอกาสได้มีชีวิตต่อแล้ว

เขื่อนสูดลมหายใจลึก ก่อนจะจดจ่อกับถนนอีกครั้งจนกระทั่งถึงหน้าโรงแรมหรูระดับห้าดาว พนักงานออกมาต้อนรับทันที เขาเปิดประตูลงจากรถ สะบัดกุญแจให้พนักงานรับไป แล้วอ้อมไปเปิดประตูอีกฝั่ง

เขาอุ้มร่างบางแนบอกแน่น และเดินตามพนักงานขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 27 ห้องชุดหรูที่เขาเป็นเจ้าของมานานหลายปี

ติ้ง เสียงลิฟต์ดังขึ้นก่อนประตูเปิดออก พนักงานใช้คีย์การ์ดเปิดห้องให้ และโค้งศีรษะเล็กน้อยก่อนเดินออก

เขื่อนพาร่างบางวางลงบนเตียงนุ่มสีขาว แล้วผละไปจัดการธุระของตัวเอง

สิบห้านาทีต่อมา เขากลับออกมาด้วยเสื้อยืดสีขาวเรียบและกางเกงขายาวสีเทา สะอาดและดูสบาย ร่างหนาพิงกรอบประตูมองการทำงานของหมอ และเลขาสาวที่ยืนรออยู่

“คุณหมอบอกว่าร่างกายอ่อนเพลียมาก ขาดสารอาหารมา 2-3 วัน มีรอยฟกช้ำ และแผลถลอกเล็กน้อยค่ะ”

อร รายงานโดยไม่ละสายตาจากชายร่างเล็กบนเตียง

“เขาเป็นใครหรอคะ?” เธอถาม เพราะรู้ว่านายของเธอไม่เคยเก็บใครไว้โดยไม่มีเหตุผล

“ไม่รู้” เขื่อนตอบเรียบๆ แล้วเดินเข้าไปใกล้เตียง

อรเบิกตากว้างอย่างตกใจ นายของเธอ… “เก็บ” คนแปลกหน้าโดยไม่มีข้อมูลเลย?

“ตามสืบเรื่องของคนนี้ ส่งมาให้ผม” เขื่อนพูดโดยไม่หันมามอง

เมื่อตอนจอดติดไฟแดงเขาได้พยายามหาบัตรหรือของมีค่าที่พอจะบอกตัวตนของอีกฝ่าย แต่กลับไม่เจออะไรเลย

หลังจากหมอให้ยาและคำแนะนำการดูแลเสร็จสิ้น อรก็โค้งเล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากห้องไปพร้อมคุณหมอ

เขื่อนปิดไฟหลัก เปิดเพียงไฟหัวเตียงอุ่นสบาย เขาเอนกายนอนลงที่อีกฝั่งของเตียง

คืนนี้เขาไม่รู้ว่าคนแปลกหน้าข้างกายเป็นใคร

แต่หวังเพียงอย่างเดียว—

ว่าตื่นมาพรุ่งนี้ อีกฝ่ายจะไม่ตื่นมาด้วยเสียงโวยวาย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 25

    โรงพยาบาล – ห้องพักผู้ป่วยพิเศษ ข้างห้อง ICU, เวลา 10:15 น. เสียงสายลมเบาๆ พัดผ่านม่านสีขาวสะอาด ขุนเขานั่งอยู่บนโซฟานุ่มริมหน้าต่าง แสงแดดยามสายตกต้องบนใบหน้าที่ซีดเซียวแต่ยังคงความอ่อนโยน ร่างเล็กที่พึ่งผ่านการคลอดไม่กี่วัน อุ้มลูกน้อยไว้ในอ้อมแขนแนบอก เด็กชายหน้าตาจิ้มลิ้มผิวขาวอมชมพูจ้องตาแม่ไม่กระพริบ ริมฝีปากเล็กๆ ขยับเบาเหมือนจะพยายามพูดอะไรสักอย่าง “หนูดูพ่อสิลูก ขี้เซามาก ไม่ยอมตื่นมาเล่นกับเราเลย…” เสียงอ่อนโยนของขุนเขาเอ่ยขึ้นเบาๆ ก่อนจะหยุดพูดไปเมื่อได้ยินเสียงเด็กน้อยเปล่งออกมาเป็นเสียงอ้อแอ้ “แอ๊ะ… แอ๊ะ…” ขุนเขาหัวเราะเบาๆ ทั้งน้ำตาคลอหน่วย เอียงหน้ามาแตะหน้าผากลูกอย่างแผ่วเบา “ไว้พ่อฟื้น แม่จะพาหนูมาใหม่นะครับ ไม่ร้องนะคนเก่ง…” เขายกมือขึ้นลูบผมนิ่มๆ ของลูก แล้วเงยหน้ามองเตียงคนไข้เบื้องหน้า… เขื่อน นอนนิ่งอยู่บนเตียง เครื่องช่วยหายใจยังคงทำงานช้าๆ สม่ำเสมอ สายรัดและอุปกรณ์ทางการแพทย์ยังพันเต็มร่างกาย สีหน้าของเขาดูสงบ แต่ก็ยังไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย ขุนเขากัดปากแน่น พยายามกลั้นน้ำตา แต่ก็ไม่อาจต้านทานได้ “ด…เดี๋ยวพ่อก็ฟื้น… พ่อจะต้องฟื้น…” เสียงสั่นเค

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 24

    เสียงไซเรนของรถพยาบาลและรถตำรวจดังแหวกอากาศมาแต่ไกลแสงไฟวูบวาบตัดกับท้องฟ้ายามบ่ายแก่ที่เริ่มขมุกขมัว ผู้คนมุงดูอยู่ริมถนนสายหลักที่ทอดผ่านเขตชานเมือง ตรงบริเวณโค้งลงเขาซึ่งขึ้นชื่อว่าอันตรายมากที่สุดแห่งหนึ่งรถ SUV สีดำขลับ พังยับเยินจนเกือบจำเค้าเดิมไม่ได้ ฝากระโปรงยุบย่นกระแทกเข้าไปถึงที่นั่งคนขับ กระจกหน้าแตกละเอียดกระจายเต็มพื้นถนน ล้อหน้าข้างหนึ่งหลุดกลิ้งออกไปไกลจากจุดเกิดเหตุ กลิ่นน้ำมันและเขม่าควันโชยตลบอบอวลเสียงหวอของเจ้าหน้าที่กู้ภัยประสานกับเสียงวิทยุสื่อสารตลอดเวลา“เราพบผู้บาดเจ็บติดอยู่ในรถคนเดียวครับ เป็นชาย… อายุประมาณสามสิบต้นๆ หมดสติ มีเลือดออกจากศีรษะและอกด้านซ้ายอย่างรุนแรง!”เจ้าหน้าที่รีบใช้เครื่องตัดถ่างแงะประตูด้านคนขับที่บิดเบี้ยวอย่างหนัก เสียงเหล็กเสียดสีกันแหลมคมสะท้านเข้าไปถึงหัวใจภาพของเขื่อน—ร่างกายแน่นิ่งคาอยู่กับพวงมาลัย ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดและเศษกระจกเสื้อเชิ้ตสีขาวมีเลือดเปรอะเปื้อน ส่วนอกด้านซ้ายบุบยุบจนน่ากลัว กระจกแตกทิ่มเข้าเนื้อและแขนจนเห็นเนื้อแดงฉาน“ได้ตัวแล้วครับ! เตรียมเปลนิ่มเร็ว!”เสียงตะโกนของเจ้าหน้าที่ดังแทรก“ชีพจรยังมี แต่อ่อ

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 23

    ย้อนกลับไปในค่ำคืนนั้นที่งานเปิดตัวโรงแรมของเครือขุนเขาเป็นไปด้วยความหรูหรา แขกมากหน้าหลายตาเข้าร่วมงาน ทั้งนักลงทุน พันธมิตรทางธุรกิจ และบุคคลสำคัญในวงการต่าง ๆท่ามกลางเสียงพูดคุย เสียงดนตรี และแสงแฟลชจากกล้องมากมายขุนเขาในชุดเรียบหรูแบบคนมีฐานะ แต่ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใคร เพราะเขื่อนเองก็ไม่ได้แนะนำออกไมโครโฟนอย่างเป็นทางการทว่าทุกคนกลับรู้สึกได้ว่า คนคนนี้พิเศษกับเขื่อน มากและนั่น… คือสิ่งที่สายตาหนึ่งจับจ้องอย่างสนใจจากชั้นสองของโถงจัดงาน มีชายคนหนึ่งในชุดสูทสีเข้ม ยืนพิงราวบันไดมองลงมาด้านล่าง ดวงตาคมเฉียบเต็มไปด้วยแววรังสีที่คล้ายกับงูเห่าเมื่อจับเหยื่อไว้ในสายตา“หึ…หน้าคุ้นแปลก ๆ นะ…”“หน้าตาแบบนี้…เหมือนใครบางคนที่กูเคยเห็น…”เขาหยิบมือถือขึ้นมา แอบถ่ายภาพของขุนเขาอย่างแนบเนียน ก่อนจะส่งไปยังเครือข่ายของตนให้สืบข้อมูลทันทีชายคนนั้น หรือที่ผู้คนในวงการใต้ดินรู้จักในนาม “อาคิระ”ชายสัญชาติญี่ปุ่น หนึ่งในศัตรูเก่าแก่ที่มีคดีขัดผลประโยชน์กับขุนแผนมานานหลายปี เปิดแฟ้มข้อมูลที่เพิ่งได้รับจากสายข่าวภาพใบหน้าของขุนเขาปรากฏชัดเจน พร้อมชื่อเดิม สถานที่เคยอยู่ และ…“…ลูกของไอชา

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 22

    ยามค่ำคืนในเพ้นต์เฮ้าส์เงียบสงบ แสงไฟสีอุ่นจากโคมตั้งพื้นทาบทาลงบนโซฟาและพื้นไม้ ขุนเขานั่งพิงอกเขื่อนอยู่บนเตียงกว้าง กลิ่นสบู่จาง ๆ จากร่างกายสะอาดของกันและกันยังลอยอ้อยอิ่งในอากาศ พวกเขานอนคุยกันเรื่อยเปื่อย หัวเราะบ้าง ล้อเล่นกันบ้าง ก่อนที่ความเงียบจะค่อย ๆ ปกคลุมลงทีละน้อย เสียงของเขื่อนดังขึ้นเบา ๆ ราวกลัวจะรบกวนช่วงเวลาสงบตรงหน้า “ขุนเขา… ถ้าวันหนึ่งเราลืมกันไป… ขุนเขาจะยังจำความรู้สึกนี้ได้ไหมครับ” ขุนเขาขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาเขื่อน ยิ้มอ่อน ๆ ที่มุมปาก ราวกับว่าคำตอบนั้นชัดเจนอยู่แล้ว “จำได้สิครับ… มันดีมากเลยนะในตอนนี้” เสียงของขุนเขานุ่มนวลแต่หนักแน่น แฝงความมั่นคงอย่างไม่ต้องอธิบาย พูดจบ ขุนเขาก็ขยับตัวเข้าไปใกล้ ใช้สองแขนโอบกอดเขื่อนเอาไว้แน่นอย่างที่ใจต้องการ หน้าแนบอกอีกฝ่าย ฟังเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะมั่นคง เขื่อนเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มองคนในอ้อมแขน ก่อนจะโน้มตัวลงจูบเบา ๆ บนหน้าผาก สัมผัสนั้นอ่อนโยนนัก เหมือนสัญญา เขื่อนกระซิบเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “ถ้าไม่เป็นการรบกวน… ถ้าพี่อยากจะขอดูแลขุนเขานับต่อจากนี้… ขุนเขาจะว่าอะไรไหมครับ” ขุนเขาส่

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 21

    เช้าวันต่อมา แสงแดดอุ่นยามเช้าส่องลอดผ้าม่านเข้ามาในห้องอย่างนุ่มนวล ขุนเขาค่อยๆ ลืมตาขึ้นก่อนจะหันไปมองข้างกาย ที่ตรงนั้น… เขื่อนยังนอนอยู่บนฟูกที่ปูไว้ข้างเตียง ใบหน้าหล่อดูสงบและผ่อนคลายเหมือนเด็กชายในยามหลับ ขุนเขามองนิ่งอยู่สักพัก ก่อนจะอมยิ้มอย่างไม่รู้ตัว หลังจากลุกขึ้นล้างหน้าแปรงฟันและเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย ขุนเขาก็เดินออกมาที่ห้องนั่งเล่น และพบว่าเขื่อนตื่นแล้ว แถมยังเตรียมอาหารเช้าไว้บนโต๊ะอย่างเรียบร้อย “ตื่นแล้วเหรอครับ” ขุนเขาทักเสียงเบา “ครับ วันนี้หน้าคุณดูสดใสดีนะ” เขื่อนยิ้มพลางยื่นขนมปังปิ้งให้ “รับรองว่าไม่ไหม้แน่ครับ เพราะผมตั้งใจเฝ้าเตาอย่างดี” ขุนเขาหัวเราะเบาๆ รับขนมปังมาถือไว้ “ขอบคุณนะครับ” หลังจากนั่งกินข้าวกันอยู่สักพัก ในจังหวะที่บรรยากาศเงียบสงบ เขื่อนก็เอ่ยขึ้นเบาๆ “คุณขุนเขาครับ…” “ครับ?” “ไปเที่ยวทะเลกับผมไหมครับ?” ขุนเขาชะงักนิดหน่อย มองเขื่อนนิ่งด้วยแววตาแปลกใจ “ผมหมายถึง…แค่สองวันหนึ่งคืนก็ได้ครับ ผมเห็นคุณอยู่แต่ในบ้านกับโรงพยาบาล คงเบื่อแย่ อยากให้คุณได้ออกไปเจอลม เจอคลื่น เจอท้องฟ้า…ก่อนที่คุณจะรู้สึกว่ามันไม่สะดวก” ขุนเขานิ่งคิด แต

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 20

    หลังจากที่ทั้งคู่ เขื่อนและขุนเขาไปมาหาสู่กันก็เข้าสัปดาห์ที่3ที่ในชีวิตของขุนเขามีเขื่อนอยู่ด้วย เขาเคยแกล้งถามว่ามาหาตนทุกวันอย่างนี้แล้วงานล่ะใครจะทำ เขื่อนก็ได้แต่ยิ้มแล้วก็บอกว่ามีคนดูอยู่ ขุนเขาเลยไม่ตื้อไม่อะไร และเดือนนี้ก็เข้าสู่ช่วงปลายเดือนที่6ของการตั้งครรภ์แล้ว ขุนเขาเริ่มจะทำอะไรไม่สะดวก ไม่ค่อยออกไปไหนเพราะกลัวจะลำบากและรบกวนขุนแผน ภายในบ้านยามบ่าย แดดลอดผ่านผ้าม่านบางเบา ขุนเขานั่งพิงหมอนใบใหญ่บนโซฟา มือหนึ่งลูบท้องกลมเบาๆ อีกข้างถือโทรศัพท์เลื่อนดูรูปอาหารที่อยากกิน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นทันทีเมื่อเสียงกริ่งประตูดัง “มาอีกแล้วเหรอครับ” เสียงพูดเหมือนจะบ่น แต่รอยยิ้มกลับแต้มขึ้นบนใบหน้าทันทีที่เห็นว่าเป็นเขื่อน “ก็คิดถึงนี่ครับ” เขื่อนพูดหยอกล้อและยกถุงขนมและของโปรดของขุนเขาเข้ามา พร้อมกับน้ำผลไม้เย็นจัดในมือ “วันนี้ไม่ต้องมาก็ได้ครับ ผมไม่เป็นไร” ขุนเขาวางโทรศัพท์ลง “ไม่มาไม่ได้ครับ เดี๋ยวลูกงอน” เขื่อนพูดขำๆ แล้วค่อยๆ นั่งลงข้างๆ อย่างไม่เร่งรัด “จะลูกใครก็ยังไม่รู้เลยนะครับ” ขุนเขาว่าทั้งที่ไม่ได้โกรธ สีหน้ายังมีรอยยิ้มเจือจางอยู่ “ผมไม่ซีเรียสครับ ไม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status