Short
เมฆาไร้ใจ วาโยจุดประกายรัก

เมฆาไร้ใจ วาโยจุดประกายรัก

By:  กิ่งไม้แปลวเพลิงKumpleto
Language: Thai
goodnovel4goodnovel
20Mga Kabanata
5.9Kviews
Basahin
Idagdag sa library

Share:  

Iulat
Buod
katalogo
I-scan ang code para mabasa sa App

ปีที่ 8 ของการคบหาดูใจกับฟู่จิ่ง หลินเหยียนกลับต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะอาการป่วย วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาล หลินเหยียนบังเอิญได้ยินบทสนทนาระหว่างฟู่จิ่งกับพี่สาวของเธอขณะเดินอยู่ตรงทางเดิน "ฟู่จิ่ง นายบ้าไปแล้วหรือไง? นายแอบเอากระดูกสันหลังของหลินเหยียนไปให้ฉีชูหร่านจริงๆ เหรอ?" "ทั้งๆ ที่นายก็รู้ว่าหลินเหยียนร่างกายไม่แข็งแรง แต่ยังโกหกเธอว่าเป็นแค่โรคกระเพาะแล้วให้เธอเสี่ยงอันตรายทั้งอย่างนั้น?" ฉีชูหร่านเป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่เด็กของฟู่จิ่งที่เขาแอบรักมานานหลายปี หลินเหยียนไม่ได้ร้องไห้หรือโวยวาย เพัยงยกโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาพ่อกับแม่ที่อยู่ต่างประเทศ และตอบตกลงเรื่องการแต่งงานทางธุรกิจกับตระกูลลู่ทันที...

view more

Kabanata 1

บทที่ 1

"ฟู่จิ่ง! นายบ้าไปแล้วหรือไง? นายแอบเอาไขกระดูกของหลินเหยียนไปให้ฉีชูหร่านจริงๆ เหรอ!"

ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในเมืองหลิน ฟู่ฉินพี่สาวของฟู่จิ่งบุกเข้ามาในห้องพักผู้ป่วยด้วยสีหน้าโมโห เธอชี้หน้าฟู่จิ่งซึ่งกำลังนั่งอยู่บนโซฟา แล้วตวาดเสียงดัง

ฟู่จิ่งเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความเหนื่อยหน่าย เสียงทุ้มต่ำเอ่ยออกมาอย่างเหลืออด

"พี่ครับ มีแค่เหยียนเหยียนกับชูหร่านเท่านั้นที่ไขกระดูกเข้ากันได้ ผมไม่มีทางเลือก"

ฟู่ฉินคว้ารายงานการรักษาที่วางอยู่บนโต๊ะ รายงานที่บอกว่าหลินเหยียนต้องนอนโรงพยาบาลหลายเดือนเพราะติดเชื้อ เธอกวาดตามองอย่างรวดเร็ว ความโกรธพุ่งพล่านจนแทบควบคุมไม่อยู่

"ไม่มีทางเลือกงั้นเหรอ? นายก็รู้ว่าเหยียนเหยียนสุขภาพไม่ดีอยู่แล้ว แต่ยังหลอกเธอว่าเป็นแค่โรคกระเพาะ แล้วให้เธอเสี่ยงขนาดนี้เนี่ยนะ?"

"ฉันชักสงสัยแล้วสิ ว่าฉีชูหร่านทำของใส่นายหรือเปล่า? เมื่อก่อนก็เคยขับรถแข่งหวังเอาใจเธอ สุดท้ายกลายเป็นอัมพาตห้าปี ตลอดห้าปีนั้น มีแต่เหยียนเหยียนที่คอยดูแลนายไม่ห่าง"

"แล้วตอนนี้พอนายหายดี ชูหร่านป่วยจนถูกส่งกลับจากต่างประเทศ แล้วนายก็แอบเอาไขกระดูกของหลินเหยียนไปให้เธออีก ตอนนี้พอฉีชูหร่านหายดี นายก็เอาแต่ตามใจเธอพากันไปทำเด็กหลอดแก้วอีก!"

หน้าห้องพักผู้ป่วย หลินเหยียนเพิ่งจัดการเอกสารออกจากโรงพยาบาลเสร็จ ก็ได้ยินบทสนทนาอันดุเดือดจากฟู่ฉินพอดี

มือของเธอที่เกาะผนังไว้กำแน่นขึ้นเรื่อยๆ รอยยิ้มบนใบหน้าค่อยๆ ตัวชาไปทั่วทั้งร่าง

เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน หมอเพิ่งแจ้งว่าอาการติดเชื้อหลังผ่าตัดกระเพาะของเธอฟื้นตัวแล้ว และสามารถออกจากโรงพยาบาลได้

ฟู่จิ่งขอแต่งงานกับเธอทันทีในห้องพัก เธอทั้งซึ้ง ทั้งดีใจจนร้องไห้ออกมา แล้วโพสต์ลงโซเชียลว่า วันนี้เป็นวันที่มีความสุขที่สุดในชีวิต

ในห้องพัก ฟู่จิ่งก้มหน้าอยู่ เส้นผมสีดำตกลงมาปิดดวงตาสีดำขลับ ทำให้มองไม่เห็นสีหน้าเขา

"พี่ครับ ช่วยเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ อย่าให้เหยียนเหยียนรู้เลยนะ คุณยายของชูหร่านอาการไม่ดีแล้ว สิ่งเดียวที่ท่านหวังไว้ก่อนตาย คือได้อุ้มหลานสักครั้ง ผมไม่อยากให้ท่านตายไปพร้อมกับความเสียใจ"

ฟู่ฉินเบิกตากว้าง ใบหน้าสวยหวานแสดงออกถึงความโกรธแบบแทบระเบิด

"แล้วเหยียนเหยียนล่ะ? คนทั้งโลกก็รู้ว่าเธอรักนายมานานตั้งแปดปี!"

"ฉันจำได้แม่นเลยนะ ว่าเมื่อแปดปีก่อน ฉีชูหร่านสารภาพรักกับลูกชายคนรองตระกูลสวี่แล้วโดนปฏิเสธ นายก็เลยไปแกล้งจีบเหยียนเหยียน เพื่อให้คนที่ชอบเธออย่างลูกชายคนรองตระกูลสวี่นั้นเจ็บใจ"

"ตอนนี้ฉีชูหร่านท้องแล้ว แล้วคนที่อยู่กับนายมาแปดปีอย่างเหยียนเหยียนล่ะ นายจะให้เธอทำยังไง?"

ฟู่จิ่งก้มหน้าเงียบไปนาน ก่อนจะตอบด้วยเสียงแหบพร่า

"ผมจัดการทุกอย่างไว้แล้ว หลินเหยียนจะไม่มีวันรู้เรื่องที่ชูหร่านท้องเด็ดขาด สำหรับอนาคต ผมคงชินกับการมีเหยียนเหยียนอยู่ข้างๆ แล้ว ผมจะแต่งงานกับเธอ..."

คำพูดหลังจากนั้น หลินเหยียนไม่ได้ฟังอีก

พยาบาลเดินสวนเข้ามาพอดี หลินเหยียนก้มหน้าลงแกล้งทำเป็นเพิ่งกลับมา

คนสองคนในห้องหันมามองกัน ก่อนที่ฟู่ฉินจะรีบลากฟู่จิ่งออกจากห้องไป

ระหว่างทางกลับ ฟู่จิ่งพูดถึงรายละเอียดงานแต่ง แต่หลินเหยียนไม่ได้ฟังอะไรเลย

เธอจ้องมองตึกสูงภายนอกที่ค่อยๆ ลับตาไป รู้สึกเหมือนความหนาวเย็นแทรกซึมเข้าสู่กระดูก

เธอได้รู้จักกับฟุ่จิ่งครั้งแรก ตอนอายุสิบห้าปี ในงานเลี้ยงระหว่างพ่อแม่กับหุ้นส่วนทางธุรกิจ

แค่แรกเห็นในวันนั้น เด็กหนุ่มผู้เปี่ยมด้วยความสง่างามและเย็นชาก็ตราตรึงอยู่ในใจเธอไม่จางหาย

ตอนอายุสิบหก เธอใช้ชื่อในวงการว่า ‘อู๋อิน’ เข้าแข่งรถและช่วยชีวิตฟู่จิ่งไว้หนึ่งครั้ง นั่นคือจุดเริ่มต้นของความรักข้างเดียวอันยาวนาน

ตอนอายุยี่สิบ สวี่ฉงหยางเริ่มตามจีบเธอ และในปีเดียวกันนั้น ฟู่จิ่งก็ไปงานเลี้ยงของเพื่อนเธอ และคืนนั้นเขาเป็นฝ่ายขอวีแชทของเธอเอง

คืนนั้น เธอมีความสุขตลอดทั้งคืน

ในปีเดียวกันนั้น เธอได้รู้ว่าฟู่จิ่งมีเพื่อนสมัยเด็กชื่อฉีชูหร่าน แต่ฉีชูหร่านเป็นคนรักอิสระ เปลี่ยนแฟนมาแล้วนับสิบคน มีเพียงฟู่จิ่งคนเดียวที่เธอไม่เคยชอบ

อายุยี่สิบเอ็ด ฟู่จิ่งสารภาพรักกับเธอ และเธอก็ตกลงคบกับเขา

ตอนอายุยี่สิบสอง ฟุ่จิ่งประสบอุบัติเหตุจากการแข่งรถ ถูกส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉิน และวันถัดมาหมอก็แจ้งว่าเขาพิการ

ในปีนั้น ฟู่จิ่งที่กลายเป็นคนพิการเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน อารมณ์มืดหม่นและโมโหง่าย ด้วยความรักที่มีต่อเขา เธอจึงปฏิเสธที่จะย้ายไปอยู่ต่างประเทศกับพ่อแม่ และเลือกอยู่ในประเทศเพื่อดูแลเขา

ตอนอายุยี่สิบเจ็ด เมื่อขาของฟู่จิ่งหายดี คุณท่านฟู่ก็ออกมาประกาศว่าฝากให้เขาเป็นผู้บริหารตระกูลฟู่ เด็กหนุ่มผู้เคยสิ้นหวังก็กลับมาภูมิใจในตัวเองอีกครั้ง

ในปีเดียวกันนั้น จู่ๆ เธอก็หมดสติในบ้าน เมื่อตื่นขึ้น หมอก็แจ้งว่าเธอเป็นโรคกระเพาะและต้องผ่าตัด...

ตอนนี้เมื่อลองคิดให้ดี เธอที่เคยเชื่อว่าเป็นรักแท้จากสวรรค์ ก็พบว่าความสัมพันธ์นี้ล้วนเต็มไปด้วยคำโกหกมาตั้งแต่แรก!

เมื่อประมาณครึ่งปีก่อน เธอถูกเจาะเลือดไปมากมายขณะอยู่ที่โรงพยาบาล ฟู่จิ่งบอกว่าแค่ทำการตรวจร่างกาย ที่แท้ก็แค่หลอกเธอให้บริจาคไขกระดูกให้ฉีชูหร่าน!

รถเบนท์ลีย์คันหรูแล่นเข้าสู่เขตหมู่บ้านหรูอย่างช้าๆ

เที่ยงคืนตรง โทรศัพท์ของฟู่จิ่งก็ดังขึ้น

หลินเหยียนเหลือบตามองที่หน้าจอสายเรียกเข้า หร่านหร่านคนมุ้งมิ้ง

ฟู่จิ่งปัดหน้าจอเบาๆ เพื่อวางสาย นิ้วเรียวยาวของเขาแตะหน้าจออย่างแผ่วเบา ไม่นานก็ลุกขึ้นแล้วรีบลุกออกไปอย่างเร่งรีบ

หลินเหยียนเดินไปที่ข้างหน้าต่าง

ในค่ำคืนอันมืดมิด รถเบนท์ลีย์คันนั้นก็ค่อยๆ แล่นห่างออกไป

หลินเหยียนกดโทรหาแม่ของเธอ

"แม่คะ หนูคิดดีแล้วค่ะ หนูยอมแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลลู่ อีกเจ็ดวัน พอเครื่องลงสนามบิน หนูจะไปจดทะเบียนกับเขาทันทีค่ะ"

แม่ของหลินเหยียนพอจะเดาได้คร่าวๆ ว่าลูกสาวต้องเจออะไรมาบ้าง เธอจึงปลอบใจเล็กน้อย และค่อยๆ วิเคราะห์กับลูกอย่างอดทน

"คิดดีแล้วเหรอ? เหยียนเหยียน ตอนนี้ตระกูลหลินของเราไม่ได้รุ่งเรืองเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ การแต่งงานครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ถึงตระกูลลู่กับตระกูลฟู่จะอยู่ไกลกันมาก แต่พวกเขาเป็นศัตรูกันมาแต่บรรพบุรุษ น้ำกับไฟไม่มีวันอยู่ร่วมกันได้หรอก"

"ถ้าลูกแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลลู่ คนในตระกูลลู่อาจจะขอให้ลูกตัดขาดจากตระกูลฟู่อย่างเด็ดขาด"

อีกฝั่งสายโทรศัพท์ หลินเหยียนก้มตาลงเล็กน้อย

เมื่อหกปีก่อน ตระกูลหลินย้ายบริษัทไปต่างประเทศเพราะกิจการขยายใหญ่ และนับแต่นั้นก็ไปตั้งรกรากอยู่ต่างแดน

แต่หลังจากย้ายไปต่างประเทศได้ไม่นาน ตระกูลหลินก็ประสบปัญหาเศรษฐกิจ ส่วนตระกูลลู่ที่อยู่ต่างประเทศเหมือนกันก็พยายามเสนอเรื่องแต่งงานเชื่อมตระกูลหลายครั้ง

แต่พ่อแม่ของเธอรู้ดีว่าเธอรักฟู่จิ่ง จึงไม่เคยคิดจะเอาการแต่งงานของเธอมาแลกเพื่อพยุงบริษัท

แต่ตอนนี้ เธอไม่ต้องการมีความเกี่ยวข้องใดๆ กับฟู่จิ่งอีกต่อไป การแต่งงานกับตระกูลลู่คือทางเลือกที่ดีที่สุด

"แม่คะ หนูคิดดีแล้ว ชาตินี้หนูไม่อยากเห็นหน้าฟู่จิ่งอีก!"
Palawakin
Susunod na Kabanata
I-download

Pinakabagong kabanata

Higit pang Kabanata

Mga Comments

default avatar
ปรัศณีญาพร
จบดีมาก คุณลู่น่ารักจะไปทำหมันด้วยกลัวเมียเจ็บ555
2025-10-21 16:05:08
0
user avatar
Kanjanat Puwakritchalermchai
สนุก น่าติดตาม
2025-10-17 10:04:49
0
default avatar
De Sign
มีตอนต่อมั้ยคะ กรี๊ด
2025-10-15 18:22:52
0
20 Kabanata
บทที่ 1
"ฟู่จิ่ง! นายบ้าไปแล้วหรือไง? นายแอบเอาไขกระดูกของหลินเหยียนไปให้ฉีชูหร่านจริงๆ เหรอ!"ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในเมืองหลิน ฟู่ฉินพี่สาวของฟู่จิ่งบุกเข้ามาในห้องพักผู้ป่วยด้วยสีหน้าโมโห เธอชี้หน้าฟู่จิ่งซึ่งกำลังนั่งอยู่บนโซฟา แล้วตวาดเสียงดังฟู่จิ่งเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความเหนื่อยหน่าย เสียงทุ้มต่ำเอ่ยออกมาอย่างเหลืออด"พี่ครับ มีแค่เหยียนเหยียนกับชูหร่านเท่านั้นที่ไขกระดูกเข้ากันได้ ผมไม่มีทางเลือก"ฟู่ฉินคว้ารายงานการรักษาที่วางอยู่บนโต๊ะ รายงานที่บอกว่าหลินเหยียนต้องนอนโรงพยาบาลหลายเดือนเพราะติดเชื้อ เธอกวาดตามองอย่างรวดเร็ว ความโกรธพุ่งพล่านจนแทบควบคุมไม่อยู่"ไม่มีทางเลือกงั้นเหรอ? นายก็รู้ว่าเหยียนเหยียนสุขภาพไม่ดีอยู่แล้ว แต่ยังหลอกเธอว่าเป็นแค่โรคกระเพาะ แล้วให้เธอเสี่ยงขนาดนี้เนี่ยนะ?""ฉันชักสงสัยแล้วสิ ว่าฉีชูหร่านทำของใส่นายหรือเปล่า? เมื่อก่อนก็เคยขับรถแข่งหวังเอาใจเธอ สุดท้ายกลายเป็นอัมพาตห้าปี ตลอดห้าปีนั้น มีแต่เหยียนเหยียนที่คอยดูแลนายไม่ห่าง""แล้วตอนนี้พอนายหายดี ชูหร่านป่วยจนถูกส่งกลับจากต่างประเทศ แล้วนายก็แอบเอาไขกระดูกของหลินเหยีย
Magbasa pa
บทที่ 2
อีกฝั่งของโทรศัพท์ แม่ของหลินเหยียนเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า"ตกลง พรุ่งนี้แม่กับพ่อจะไปที่บ้านตระกูลลู่เพื่อคุยเรื่องการแต่งงาน"ตลอดทั้งคืน หลินเหยียนไม่ได้นอนเลยเช้าวันถัดมา ฟู่จิ่งยังไม่กลับมา มีเพียงข้อความเดียวที่ส่งมา"เหยียนเหยียน บริษัทมีปัญหานิดหน่อย ฉันต้องไปทำงานต่างจังหวัดสามวัน"หลินเหยียนไม่ได้ตอบเขา เธอจองตั๋วเครื่องบินไปประเทศ A ในอีกเจ็ดวันทันทีเธอเริ่มเก็บข้าวของของตัวเอง ตลอดหลายปีที่ผ่านมาที่เธออยู่กับฟู่จิ่ง ของของเธอจึงมีมากพอสมควรตอนนี้สถานการณ์ทางการเงินของตระกูลหลินไม่สู้ดีนัก สิ่งของที่ขายได้ เธอก็โพสต์ขายทางออนไลน์ตอนเย็น แอปโซเชียลเด้งแจ้งเตือนข้อความจากคนแปลกหน้า"สวัสดี~ หลินเหยียน~"หลินเหยียนกดเปิดดู รูปโปรไฟล์ของเธอคือใบรายงานการตั้งครรภ์ที่เพิ่งตรวจพบ และชื่อเล่นคือ ‘หร่านหร่านผู้มีความสุข’บัญชีนี้ของฉีชูหร่านเป็นบัญชีลับที่เพิ่งสร้างขึ้นใหม่เรื่องการตั้งครรภ์เธอไม่กล้าประกาศหรือเปิดเผยออกไปเลย ผู้ติดตามก็มีแค่หลินเหยียนคนเดียวหนึ่งนาทีต่อมา ฉีชูหร่านแชร์วิดีโอทิกทอกที่เพิ่งโพสต์ไป เป็นภาพถ่ายตอนฟุ่จิ่งพาเธอไปตรวจครรภ์พร้อมข้อ
Magbasa pa
บทที่ 3
หลินเหยียนมองตามแผ่นหลังของทั้งสองที่เดินจากไปเธอเงยหน้าขึ้นเพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมา ฝืนความเจ็บปวดผลักประตูรถออก เดินโซเซไปยังประตูโรงพยาบาลท่ามกลางฝนตกหนักในตอนเย็น หลินเหยียนไม่แม้แต่จะยกมือขึ้นกันฝน ปล่อยให้หยาดฝนตกลงบนแผลของเธอจนเปียกชุ่มพยาบาลที่โต๊ะคัดกรองร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อเห็นหลินเหยียน จึงรีบทำแผลให้เธอ แล้วพาไปตรวจร่างกายหนึ่งชั่วโมงต่อมา หลินเหยียนตรวจร่างกายเสร็จด้วยร่างกายอ่อนแรง จึงมีเวลาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบนหน้าจอแสดงสายที่ไม่ได้รับกว่าสิบสายล้วนเป็นสายจากฟู่จิ่งเธอปิดเครื่องทันทีอย่างไม่ลังเลพอนึกว่าจะต้องให้น้ำเกลือจนถึงดึก หลินเหยียนจึงให้พยาบาลเปิดห้องพักให้ในความสับสนที่เกิดขึ้น เธอเริ่มนึกถึงเรื่องราวในอดีตตั้งแต่ฟู่จิ่งพิการ หลายครั้งที่เธอต้องไปงานเลี้ยงธุรกิจแทนเขาในงานเลี้ยงครั้งหนึ่ง ซีอีโอสองคนบาดหมางกันจนคว่ำโต๊ะในงานเลี้ยงทันที จานทั้งโต๊ะตกลงพื้น ทำให้เศษเซรามิกกระเด็นโดนข้อมือเธอพอฟู่จิ่งรู้เรื่อง เขารีบมาทันที สั่งให้ผู้ช่วยยุติการทำธุรกิจกับทั้งสองบริษัท แล้วรีบพาเธอไปโรงพยาบาลเพื่อทำแผลเธอรู้สึกว่านี่มันเกินไป แต่ฟู่จิ่งกล
Magbasa pa
บทที่ 4
"ฉันไม่ได้ไม่เชื่อเธอ แต่ฉันรู้จักหร่านหร่านมาสิบหกปีเจ็ดเดือน เธอไม่เคยโกหกใคร"ฟู่จิ่งนิ่งไปครู่หนึ่ง ขมวดคิ้วแน่น ตั้งใจจะจบเรื่องนี้"หลินเหยียน เธอทำให้หร่านหร่านร้องไห้ เธอต้องรับผิดชอบปลอบเธอให้หาย"ขณะนั้น ฉีชูหร่านที่สะอื้นอยู่ตลอดโยนแหวนในมือลงสระน้ำ แล้วร้องเสียงหลง"พี่จิ่ง แหวนที่พี่ให้ฉัน ฉันเผลอทำหล่นลงสระน้ำไปแล้ว"ดจบ ฉีชูหรานก็หันไปมองหลินเหยียน ริมฝีปากแดงยกขึ้นอย่างเย้ยหยัน แล้วพูดอย่างยั่วยุ"งั้นก็ไม่ต้องปลอบฉันแล้ว เธอไปเก็บแหวนวงนั้นขึ้นมา แล้วฉันจะยกโทษให้สำหรับทุกเรื่องที่เธอทำร้ายฉัน"ตอนนี้เพิ่งเข้าสู่ฤดูหนาว น้ำในสระจึงเย็นจัดจนถึงกระดูกแผลบนศีรษะของหลินเหยียนยังไม่หาย เธอก้มหน้ามองฟู่จิ่งที่นั่งอยู่ชายหนุ่มก้มหน้าขมวดคิ้ว จึงมองไม่เห็นแววตาของเขานิ้วเรียวยาวของเขาเคาะโต๊ะเบา ๆ ศีรษะที่เย็นชาไม่ยอมเงยขึ้น ไม่แม้แต่จะมองเธอสักครั้งขณะนั้น หลินเหยียนรู้สึกเหมือนหัวใจถูกแทงด้วยอะไรบางอย่าง จนเกิดความเจ็บปวดถี่ๆ จนแทบหายใจไม่ออกจู่ๆ เธอก็นึกถึงช่วงครึ่งปีหลังจากที่ฟู่จิ่งได้รับการวินิจฉัยว่าพิการคุณท่านฟู่มาเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล พอรู้ว่าโอกาส
Magbasa pa
บทที่ 5
เมื่อหลินเหยียนฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง เธอก็สบตากับดวงตาสีดำที่เต็มไปด้วยความกังวลฟู่จิ่งเมื่อเห็นเธอฟื้นก็รีบไปเรียกหมอทันที พอแน่ใจว่าเธอไม่เป็นอะไร เขาถึงได้ถอนหายใจโล่งอกหลินเหยียนสายตาไว สังเกตเห็นว่าข้อมือซ้ายของเธอมีลูกประคำเพิ่มขึ้นมาดูเหมือนจะเป็นเส้นที่ฟู่จิ่งใส่ติดตัวอยู่เสมอผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า"คุณผู้หญิง คุณหลับไปนานเหลือเกิน คุณฟู่เลยเป็นห่วงจนเอาลูกประคำที่ใส่มาสิบกว่าปีให้คุณ แล้วยังไปสาบานต่อหน้าพระพุทธว่า ถ้าคุณผู้หญิงฟื้นขึ้นมาอย่างปลอดภัย เขาจะกินเจตลอดชีวิต ไม่แตะเนื้อสัตว์ ไม่แตะบุหรี่เหล้าอีกเลยด้วย"หลินเหยียนขมวดคิ้ว ถอดลูกประคำออกจากข้อมือด้วยท่าทีรังเกียจเล็กน้อย แล้วยื่นคืนให้ฟู่จิ่ง"ไม่ต้องเปลี่ยนนิสัยตัวเองเพราะฉันหรอก"ฟู่จิ่งไม่รับคืน เขาใส่ลูกประคำกลับไปที่ข้อมือเธอ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"เหยียนเหยียน ตอนที่ฉันพิการ เธอก็เคยสาบานอะไรแบบนี้เหมือนกันไม่ใช่เหรอ?"หัวใจของหลินเหยียนสั่นไหวเล็กน้อยปีที่สองหลังฟู่จิ่งพิการ เธอได้ยินว่าวัดหลิงเสวียนในเมืองหลินศักดิ์สิทธิ์มาก จึงพาเขาไปขอพรทันทีในคืนนั้นวันนั้น เธอขอพรต่อหน
Magbasa pa
บทที่ 6
หลินเหยียนยังไม่ทันได้คิดอะไรให้ถี่ถ้วน ผู้คนรอบตัวก็พากันวิเคราะห์สถานการณ์เสร็จสรรพ แล้วถือแก้วไวน์เดินไปหาฉีชูหร่าน พร้อมคำชมมากมาย"ชูหร่าน พี่จิ่งนี่ดีกับเธอจริงๆ เลยนะ รถซูเปอร์คาร์ราคาแพงขนาดนี้เอาให้เธอง่ายๆ เลยนะ""ชุดเดรสสีขาวของเธอสวยมากเลย ดูแล้วเหมือนเจ้าหญิงตัวจริงเลยนะ""ได้ข่าวว่าเธอแข่งรถเก่งมากเลย ทั้งหวานทั้งเท่ แบบนี้ดูเข้ากับพี่จิ่งสุดๆ ไปเลย!"คนหลายคนยิ่งพากันไปชมฉีชูหร่านอยู่เรื่อยๆ จนลืมไปว่าวันนี้เจ้าของงานคือหลินเหยียนจนกระทั่งผ่านไปหนึ่งชั่วโมง บรรยากาศก็เริ่มคึกคักขึ้น ทุกคนต่างร้องเพลง เล่นเกมกันสนุกสนานฟู่จิ่งนั่งติดกับฉีชูหร่านตลอดเวลา สายตาเขาไม่เคยละไปจากเธอเลยฉีชูหร่านอยากกินปู ฟู่จิ่งก็อดทน พูดปลอบเธอด้วยเสียงต่ำอย่างตั้งใจ"เด็กดี เธอกำลังตั้งครรภ์อยู่นะ ยังกินไม่ได้ รอให้คลอดก่อน เดี๋ยวพี่ซื้อให้ใหม่"ฉีชูหร่านทำท่าจะงอแง ดวงตาแดงเรื่อ ฟู่จิ่งถอนหายใจ ก่อนจะหยิบบัตรเครดิตสีดำแบบไม่จำกัดวงเงินจากกระเป๋าสตางค์แล้วยื่นให้เธอบัตรเครดิตใบนี้สร้างความฮือฮาไม่น้อยภายในงานทันที"อย่าบอกนะว่าพี่จิ่งยังลืมฉีชูหร่านไม่ได้?""เฮ้อ... เขาว่าคนรั
Magbasa pa
บทที่ 7
เช้าวันถัดมา หลินเหยียนที่เพิ่งตื่น ก็ได้ยินเสียงหัวเราะหวานๆ ดังมาจากชั้นสองเธอลุกจากเตียงเดินออกไป พอมองจากระยะไกลก็เห็นฟู่จิ่งกำลังสอนฉีชูหร่านจัดดอกไม้อยู่ที่โถงชั้นสองทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมาก ฟู่จิ่งแนะนำวิธีตัดแต่งดอกไม้แต่ละชนิดให้ฉีชูหร่านอย่างอ่อนโยนเมื่อเห็นภาพอบอุ่นของทั้งคู่ หลินเหยียนก็ใจลอยไปครู่หนึ่งตอนที่ฟู่จิ่งยังพิการ เธอกลัวว่าเขาจะเบื่อ จึงเคยสอนเขาจัดดอกไม้ด้วยตัวเองอยู่ช่วงหนึ่งผู้ชายคนนั้นความจำดีมาก เธอสอนแค่ครั้งเดียว เขาก็ทำได้ทันทีหลังจากนั้น เขาจึงสั่งให้ผู้ช่วยจัดดอกไม้ และทุกเช้าเมื่อเขาตื่น สิ่งแรกที่ทำคือจัดช่อดอกไม้ไว้ข้างเตียงเธอแต่ตั้งแต่ฉีชูหร่านกลับประเทศ เขาก็เหมือนไม่เคยทำแบบนั้นอีกเลย...หลินเหยียนหลุบตาลงเล็กน้อย เพื่อซ่อนความเหงาในดวงตาเอาไว้เธอเดินลงบันไดช้าๆ เพื่อเตรียมจะไปกินอาหารเช้าแต่ยังไม่ทันเดินไปได้เท่าไหร่ ก็ถูกแจกันหนักๆ กระแทกจนล้มลงกับพื้นจนเกิดเสียงดังขึ้นกะโหลกของเธอแตกทันที เลือดสดๆ ไหลลงมาจากศีรษะ ความเจ็บปวดทำให้เธอขดตัวอยู่บนพื้นในความพร่าเลือน เธอเห็นฉีชูหร่านเดินลงมาจากชั้นสองอย่างช้าๆ พร้อมรอยยิ้มเต
Magbasa pa
บทที่ 8
วันถัดมา ฟู่จิ่งอยู่แต่ในห้องพักผู้ป่วยของฉีชูหร่านคอยปลอบให้เธอยอมตรวจร่างกาย คอยปลอบให้เธอกินยาแม้ว่าห้องของหลินเหยียนจะอยู่แค่ชั้นล่าง เขาก็ไม่แม้แต่จะไปดูเธอเลยสักครั้งตกเย็น ฉีชูหร่านงอแงอยากออกจากโรงพยาบาลฟู่จิ่งจึงพาเธอกลับไปที่บ้าน แล้วอดทนปลอบเธอจนหลับเมื่อพ่อบ้านเห็นเขาลงมาข้างล่าง ก็ยื่นกล่องกำมะหยี่สีเทาให้ พร้อมพูดอ้อมๆ"คุณผู้หญิงกลับมาเมื่อวาน เธอฝากให้ผมเอาของสิ่งนี้ให้คุณผู้ชายครับ"ฟู่จิ่งรับกล่องมา ด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก"เธอออกจากโรงพยาบาลแล้วเหรอ? ฉันบอกให้เธอพักฟื้นอยู่ที่นั่นไม่ใช่เหรอ จะกลับบ้านทำไม?""อย่าบอกนะว่าเธอจะก่อเรื่องอีก ฉันก็บอกเธอไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ฉันกับหร่านหร่านไม่มีอะไร ฉันเห็นเธอเป็นแค่น้องสาว..."กล่องกำมะหยี่สีเทาถูกเปิดออก แหวนหมั้นที่ปรากฏตรงหน้า ทำให้ฟู่จิ่งชะงักไปเล็กน้อยพ่อบ้านที่ยืนอยู่ข้างๆ เตือนเบาๆ"คุณผู้หญิงบอกว่า เธอเขียนจดหมายไว้ให้คุณที่ห้องหนังสือชั้นสองครับ"ฟู่จิ่งดึงเนกไทเบาๆ ความหงุดหงิดแปลกๆ ก่อตัวในใจ เขารีบเดินขึ้นไปยังห้องหนังสือทันทีบนโต๊ะมีจดหมายฉบับนึงอยู่จริงๆเมื่อคำว่า "จดหมายลาตลอดชีวิต" ปรากฏ
Magbasa pa
บทที่ 9
"ฉีชูหร่าน เธอหลอกฉันจนสูญเสียทุกอย่าง!"เมื่อหลายปีก่อน ในสนามแข่งรถ อู๋อินแข่งอยู่ในทีมเดียวกับเขาวันนั้น รถแข่งของเขาถูกศัตรูแอบวางแผนให้เกิดไฟไหม้ อู๋อินที่กำลังจะเข้าเส้นชัยเป็นอันดับหนึ่ง ยอมสละเงินรางวัลหลักล้าน หันรถกลับมาเสี่ยงชีวิตช่วยเขาหลังจากช่วยเขาออกมาได้ อู๋อินก็เชยคางเขาให้เงยขึ้น"เฮ้ ฉันช่วยชีวิตนายเอาไว้ อย่าลืมตอบแทนด้วยล่ะ!"คำว่าตอบแทนนั้น เขาจำฝังใจมาถึงสิบสองปี!แต่ใครจะคิด ว่าเขาดันตอบแทนผิดคน!เมื่อนึกขึ้นได้ ฟู่จิ่งก็ผลักฉีชูหร่านที่กำลังสะอื้นออกไป พร้อมออกคำสั่งไล่เธอด้วยน้ำเสียงเย็นชา"ฉีชูหร่าน ฉันขอสั่งให้กลับไปที่บ้านตระกุลฟู่ซะ เดี๋ยวนี้!"ฟู่จิ่งไม่สนคำอ้อนวอนของเธออีก แล้วสั่งให้พ่อบ้านไล่เธอออกไปจากนั้น เขาโทรหาผู้ช่วยด้วยใบหน้าเคร่งเครียด น้ำเสียงเย็นเฉียบ"ตรวจสอบเรื่องที่ฉีชูหร่านถูกลักพาตัว แล้วก็งานเลี้ยงวันนั้นด้วย..."เมื่อเครื่องบินลงจอด หลินเหยียนหยิบหมวกขึ้นมาสวม เพื่อปิดผ้าพันแผลบนศีรษะเอาไว้ที่ทางออก พ่อแม่ของหลินเหยียนมายืนรออยู่ตั้งแต่เนิ่นๆข้างๆ พวกเขามีชายแปลกหน้าคนหนึ่งในชุดสูทสีเทา หน้าตาดูหล่อเหลาโดดเด่นแม่ขอ
Magbasa pa
บทที่ 10
ในตอนนั้น หลินเหยียนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูลู่เหวินอี้ส่งที่อยู่ของบ้านและรหัสเปิดประตูมาให้เธอเรียบร้อยตามคาดผู้ชายคนนี้เอาใจใส่มากกว่าที่เธอคิดไว้เสียอีกแม้แต่เรื่องให้เธอกลับไปพักที่บ้านพ่อแม่ก่อน เขาก็คิดไว้แล้วหลินเหยียนมองชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาเบื้องหน้าเป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกว่าการแต่งงานอย่างเร่งรีบครั้งนี้ อาจจะเป็นการตัดสินใจที่ไม่เลวเลยทั้งสองครอบครัวร่วมรับประทานอาหารกลางวันด้วยกัน บรรยากาศดูอบอุ่นเป็นพิเศษ จนกระทั่งช่วงบ่ายจึงแยกย้ายกันกลับพอตกเย็น พ่อกับแม่ของหลินเหยียนช่วยกันทำอาหารจนเต็มโต๊ะหลังจากเวลาผ่านไปนาน ในที่สุดทั้งสามคนก็ได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้งคืนนี้พ่อของหลินเหยียนดีใจเป้นอย่างมาก และได้ดื่มไปไม่น้อย และพูดมากเป็นพิเศษ"จะว่าไปครอบครัวเรากับตระกูลลู่ก็มีวาสนาเหมือนกันนะ ตอนแรกเราไม่ค่อยสนิทกัน แต่ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตระกูลลู่ช่วยเราไว้ไม่น้อย ถ้าไม่ได้พวกเขาเข้ามาช่วย ครอบครัวเราคงไม่รอดแล้ว"หลินเหยียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยตระกูลลู่ช่วยเหลือครอบครัวเธอมาตลอดหลายปีเลยเหรอ?ช่วงเวลาสามวันที่ผ่านมาช่างแสนสั้น บ่ายวันที่สี่ ลู่
Magbasa pa
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status