ชื่ออื่น ๆ (แพทย์ยอดพธูแห่งใต้หล้า) (หมอยิ้มงามล่มเมือง) หมออัจฉริยะแห่งวงการแพทย์ผู้ทะลุเวลามากลายเป็นพระชายาที่ถูกทอดทิ้งของอ๋องฉู่ เพิ่งจะมาถึงก็พบกับคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เธอยึดมั่นในจรรยาบรรณของหมอในการเข้าช่วยรักษา จนเกือบจะทำให้ตัวเองเกือบเข้าคุกจักรพรรดิ์ประชวรหนัก เธอพยายามหาทางรักษา แต่ถูกเข้าใจผิด และถูกตำหนิจากตู๋อ๋องผู้น่ารังเกียจ การทำความดีทำได้ยากขนาดนั้นเลยเหรอ?ผู้ชายคนนี้สร้างปัญหาให้เธอตลอด ไม่เป็นไร เธอทนได้ แต่ที่ทนไม่ได้ที่สุดคือ เขายังแต่งอนุเข้ามาเย้ยหยันเธอนี่สิ!“เจ้าคิดว่าเจ้าทำให้ข้าเกลียดเจ้าเช่นนั้นรึ ข้าเกลียดเจ้า เพราะเจ้ามันน่ารังเกียจตั้งแต่แรกพบด้วยซ้ำ” ตู๋อ๋องพูดวาจาทิ่มแทงอย่างไร้เยื่อใย หยวนชิงหลิงคลี่ยิ้มออกมา“ท่านไม่คิดรึว่าข้าเองก็ไม่ได้ชอบท่านเช่นกัน เพียงแต่ทุกคนที่นี่ล้วนมีการศึกษา และข้าเองก็ไม่อยากทำให้ท่านต้องขายหน้าหรอกนะเพคะ”
ดูเพิ่มเติมมหาเสนาบดีฉู่จึงกล่าวว่า “ข้าติดหนี้บุญคุณจวนอ๋องฉู่ถึงสองครั้ง ถ้าเรื่องนี้ข้าสามารถเป็นกำลังช่วยเหลือได้ ข้าก็ยินดี”นางข้าหลวงสี่ถอนหายใจออกมา และเอ่ยถาม “ท่านติดหนี้บุญคุณจวนอ๋องฉู่เรื่องอันใดถึงสองครั้ง ? ”มหาเสนาบดีฉู่กินข้าว และพูดอย่างคลุมเครือว่า “พระชายาฉู่ช่วยเจ้าไว้ตั้งสองครั้งมิใช่หรือ?”นางข้าหลวงสี่นิ่งอึ้งมองตรงไปยังเขา น้ำตาเอ่อล้นคลอเบ้าไปหมด นางยกมือเช็ดน้ำตา และพูดกลบเกลื่อน “กินข้าวกันเถอะ”มหาเสนาบดีฉู่ลอบมองนาง และไม่รู้ว่าไปหยิบผ้าเช็ดหน้าจากไหนมามอบให้นาง “เอาไว้เช็ดน้ำตาเถิด วันหลังอย่าได้ร้องไห้ง่ายดายเช่นนี้ เจ็บตาเสียเปล่า ต้องดูแลตัวเองให้ดี แม้แต่เส้นผมเส้นเดียวก็ไม่อาจละเลยได้ ชีวิตนี้ไม่รู้จะเหลืออีกนานเท่าไหร่แล้ว”นางรับผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตา “ผ้าเช็ดหน้าจากไหนกัน? ตาเฒ่าอย่างท่านทำไมถึงพกผ้าเช็ดหน้าปักลายงดงามเช่นนี้ได้?”“ข้าเอารองเท้าหัวเสือมามอบให้พระชายา และใช้ผ้านี่ห่อรองเท้าหัวเสือไว้” มหาเสนาบดีฉู่ตอบนางนางข้าหลวงสี่อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ “ท่านสั่งคนทำรองเท้าหัวเสือ? ท่านเพิ่งเคยมอบของขวัญให้พระชายาเป็นครั้งแรก”“ก็ต้องพกมาให้บ้าง คนเร
อีกด้าน ทางด้านนางข้าหลวงสี่ได้ยินคนมารายงานว่ามหาเสนาบดีฉู่ได้มาถึงแล้ว จึงได้เตรียมน้ำชาด้วยตนเอง และยังสั่งให้หูหมิงบอกห้องครัวเตรียมอาหารอีกสองอย่างเป็นพิเศษ ส่วนใหญ่ตอนเขามาก็ไม่เคยกินข้าวที่นี่มหาเสนาบดีฉู่มาถึงแล้วก็นั่งดื่มชากับนางอยู่ครู่หนึ่ง อาหารก็ยกมาเสิร์ฟพอดีมหาเสนาบดีฉู่มาที่นี่หลายครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้อยู่กินอาหารที่นี่หูหมิงที่เข้ามารับใช้ เขาก็ได้ตบรางวัลให้หูหมิงเป็นเงินก้องหนึ่ง หูหมิงตกใจซะจนไม่กล้ายื่นมือออกมารับนางข้าหลวงสี่หัวเราะเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “ยังไม่ขอบคุณท่านใต้เท้าอีก?”หูหมิงรีบกล่าวขอบคุณ มหาเสนาบดีฉู่มองเขาออกไปแล้วก็นั่งยืดตัวตรงกินข้าวกับผู้หญิงที่ชอบครั้งแรก ต้องให้รางวัลให้มาก นี่มันเป็นหน้าตาของผู้ชาย ต้องให้ความสำคัญเสียหน่อยนางข้าหลวงสี่ยิ้ม และกล่าวว่า “อาหารพวกนี้ข้าไม่ได้ลงมือทำ ถ้ารู้ว่าท่านจะมาแล้วล่ะก็ ข้าคงเข้าครัวทำอาหารให้ท่านด้วยตัวเองสักสองอย่าง”“วันหลังยังมีโอกาสอีกมากนัก” มหาเสนาบดีฉู่มองนาง แม้ยิ้มไม่เก่งเหมือนในอดีต แต่แววตานั้นอ่อนโยนขึ้นมาก“ได้สิ!” นางข้าหลวงสี่ยิ้มและกล่าวว่า “เช่นนั้นมากินข้าวเถอ
“ข้าก็ยังปวดใจอยู่ดี” หยวนชิงหลิงที่ซบลงบนหน้าอกเขา พูดไปพลาง สะอื้นไปพลางพวกเขาอยู่ด้วยกันจนมาถึงตอนนี้ ก็ประมาณครึ่งปีได้แล้ว นับตั้งแต่ถูกลอบสังหารจนมาถึงตอนนี้ ถูกโบยได้รับบาดเจ็บมาไม่รู้กี่ครั้งกี่ครา?ตอนนี้สภาพร่างกายเขาก็ไม่เอื้ออำนวยสักเท่าไหร่นักอวี่เหวินห่าวที่ทำได้เพียงแค่ลูบผมปลอบโยนนาง “เจ้าพูดเช่นนี้ ข้าลำบากมากกว่านี้อีกสักหน่อย หรือโดนโบยมากกว่านี้ ก็ไม่รู้สึกเสียใจอะไรเลยสักนิด”เขายื่นมือไปประคองนางให้นอนลง “อย่าพิงแบบนี้เลย ระวังจะโดนท้องเอาได้”เขาวางมือลงบนท้องน้อยของนาง และกอดนางจากด้านข้าง จูบนางและพูดอย่างอ่อนโยนว่า “นอนเถอะ อย่าคิดอะไรเหลวไหลเลยนะ เรื่องใหญ่แค่ไหน ย่อมมีทางออกเสมอ”หยวนชิงหลิงมองหน้าเขา และคิดถึงสถานการณ์ของสองพี่น้องที่แตกต่างกัน ลึก ๆ ภายในใจนั้นยังรู้สึกเป็นห่วงและกังวล แต่อย่างไรเสีย ตอนนี้อ๋องฉีเองก็ช่างน่าสงสาร เรื่องนี้นั้นจะโทษอ๋องฉีก็ไม่ได้นางหวังว่าเรื่องหย่างร้างนี้จะเป็นไปอย่างราบรื่น ชีวิตในภาคหน้าอย่าได้ถูกคนผู้นี้ก่อกวนอีกวันรุ่งขึ้น หลังจากเจ้าห้าไปทำงานแล้ว นางก็ไปหานางข้าหลวงสี่ และพูดคุยกับนางเกี่ยวกับเรื่องนี้
ถังหยางกับหยวนชิงหลิงหันมามองทางเขา พร้อมกันอย่างตกใจกับสิ่งที่ได้ยินหยวนชิงหลิงรีบพูดว่า “ยังมีเหลืออีกยี่สิบไม้? เสด็จพ่อให้ท่านแก้ปัญหาอันใดอีก?”อวี่เหวินห่าวจึงเล่าต่อ “เสด็จพ่อบอกว่า ต้องรีบคิดแผนการให้เจ้าเจ็ดหย่ากับฉู่หมิงชุ่ยให้เรียบร้อย และไม่ทำร้ายหน้าของมหาเสนาบดีฉู่อีกด้วย”ถังหยางส่ายหน้า “เกรงว่าคงไม่อาจที่จะไม่ทำร้ายหน้าของมหาเสนาบดีฉู่ได้นี่สิขอรับ มีแม่หม้ายแบบนี้ จะเหลือหน้าอะไรได้อีก ใครจะไปสนว่าหย่าร้างหรือเลิกร้างกัน?”อวี่เหวินห่าวนอนเกยคางกับหมอน คิ้วได้รูปของเขาขมวดแน่นด้วยความเคร่งเครียด “มีหรือข้าจะไม่รู้? แต่เสด็จพ่อทรงมีพระบัญชาลงมาเช่นนี้”หยวนชิงหลิงรู้สึกกลัดกลุ้มใจขึ้นมา “เรื่องหย่าร้างเดิมทีก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องหน้าตาชื่อเสียง แค่คนสองคนไม่อาจร่วมทางต่อไปด้วยกันได้ แม้ไปต่อไม่ได้ก็คงเกิดความขุ่นเคืองต่อกัน เรื่องความขุ่นเคืองใจนี่มันก็ส่งผลต่อชื่อเสียง จัดการไม่ง่ายเลยจริง ๆ”ถังหยางก็กล่าวเสริมว่า “ครั้งนี้ซวยแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวเลย คู่สามีภรรยาอ๋องฉีหย่ากัน แต่ผู้คนในจวนอ๋องฉู่ต้องมาลำบากไปด้วยเช่นนี้”หยวนชิงหลิงเองก็รู้สึกไม่ยุติธรรมอย่างยิ
สามีภรรยาบ้านอื่นจะหย่า แล้วมันมาเกี่ยวอะไรกับเจ้าห้ากัน? ลำเอียง เรียกเขาเข้าวังไปโบยกลางดึก นี่มันจะรังแกกันเกินไปแล้วจริง ๆซูยี่ประคองอวี่เหวินห่าวไปถึงเตียงนอน อวี่เหวินห่าวค่อย ๆ หย่อนตัวลงมากับเตียง ซูยี่เลิกเสื้อของท่านอ๋องขึ้นและถอดกางเกงออก อาซื่อและลวี่หยารีบหันหน้าหนี และออกไปอย่างรวดเร็วอวี่เหวินห่าวรู้สึกท่อนล่างมันเย็นโหว่งแปลก ๆ จึงหันกลับไปด้วยความตกใจและเจ็บแผล เขากัดฟันพูด “ซูยี่ ไสหัวไปให้พ้น”ซูยี่ตกใจจนชะงักไป “ไม่รักษาแผลหรือขอรับ?”หยวนชิงหลิงไม่รู้จะขำหรือร้องไห้ดี จึงโบยมือให้ซูยี่ “ซูยี่ เจ้าออกไปก่อน ไปยกน้ำร้อนมา”ซูยี่ขานรับคำสั่ง มองไปทางสีหน้าของท่านอ๋องที่อยากจะกินคนด้วยความสงสัย รู้สึกว่านับวันท่านอ๋องยิ่งรับใช้ยากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากซูยี่ออกไปแล้ว อวี่เหวินห่าวก็บ่นออกมาอย่างหงุดหงิดใจ “ซูยี่เก็บไว้ข้างกายข้าไม่ได้แล้ว”หยวนชิงหลิงมองรอยแดงช้ำเป็นวงบนขาของเขา แม้ว่าจะไม่ได้เหมือนครั้งก่อนที่ถูกโบยจนเนื้อแตก แต่ก็ถูกโบยจนเนื้อช้ำบวมเป็นสีดำเป็นวงกว้างขนาดนี้ ใต้ผิวหนังก็มีการช้ำเลือด แถมผิวที่ปริออกก็มีเลือดออกซิบออกมานางเปิดกล่องยา หยิบยาฆ่
คำถามนี้ทำให้อวี่เหวินห่าวชะงักไปครู่หนึ่งเพราะตัวเขาเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนเหมือนกันและแน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องคิด ตั้งแต่เหล่าหยวนตั้งครรภ์ เขาก็รักจนไม่อาจเสแสร้งเป็นอื่นได้อีกตอนนี้อ๋องฉีถามขึ้นมา เขาก็นึกอึ้งไปชั่วขณะหนึ่ง รู้สึกว่ามันไม่มีเหตุผลอะไร? ปล่อยวางได้ก็คือปล่อยวางได้ “พี่ห้า” อ๋องฉีเห็นว่าเขาลังเลไม่พูดไม่จา จึงดันตัวเองลุกขึ้นมาเล็กน้อย และมองเขาด้วยความตกใจ “นี่อย่าบอกนะว่าท่านยังคงชอบนางอยู่?”อวี่เหวินห่าวเหลือบตามองไปทางเขา “อย่าได้พูดจาเหลวไหล พี่สะใภ้ห้าของเจ้ายิ่งขี้งอนอยู่”“แล้วท่านยังชอบอยู่หรือไม่?” อ๋องฉีเอ่ยถามอวี่เหวินห่าวส่ายหน้า “ไม่ได้ชอบ”“แล้วท่านทำอย่างไร? ถึงได้ลืมนางได้รวดเร็วเช่นนี้”อวี่เหวินห่าวคิดแล้วคิดอีก เขาทำอย่างไร? เขาไม่ได้ทำอะไรเลยผ่านไปสักพักเขาก็เงยหน้าขึ้น เหมือนนึกอะไรดี ๆ ออก “เพราะว่ามีพี่สะใภ้ห้าของเจ้าไงล่ะ”“จะบอกว่ามีคนอื่น ก็จะลืมอีกคนได้งั้นหรือ? ถ้าใช้วิธีนี้ก็ต้องหาผู้หญิงอื่นมาสักคนใช่ไหม?” ท่าทางอ๋องฉีเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่อวี่เหวินห่าวได้แต่บ่นพึมพำในใจ เขาเองก็ไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนเหมือนกัน แต
เขากึ่งนั่ง อ๋องฉีกึ่งนอน สองคนเหมือนดั่งคำกล่าวที่ว่า ชะตาลิขิตให้ผูกพันกัน"พี่ห้า เสด็จพ่อเรียกให้ท่านช่วยข้าหย่าจริงหรือ?” อ๋องฉีรู้สึกไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย ตอนนั้นที่ไปคุยกับเสด็จพ่อ เสด็จพ่อยังไล่เขาให้ไสหัวไปอยู่เลย“ใช่แล้ว พระองค์รับสั่งว่า ไม่อาจทำร้ายหน้าของมหาสนาบดีฉู่ได้” อวี่เหวินห่าวลำบากใจเหลือเกิน ไม่ว่าจะหย่าหรือเลิกราไป อย่างไรเสียก็มีแม่หม้าย แบบนี้จะไม่ทำร้ายหน้าตระกูลฉู่ได้อย่างไรกัน?“เสด็จพ่อเรียกท่านจัดการอย่างไร? พระองค์น่าจะคิดหนทางจัดการได้มิใช่หรือ? เสด็จพ่อหัวดีกว่าพวกเราเสียอีก”หลังของอวี่เหวินห่าวสะดุ้งโหยงขึ้นจากที่นั่งเล็กน้อย ให้ความเจ็บปวดบรรเทาลงบ้าง และร้องโอดโอยออกมาเบา ๆ ด้วยความเจ็บ “ถ้าเสด็จพ่อคิดหาหนทางที่ไม่ทำร้ายหน้าของมหาเสนาบดีฉู่ได้ คืนนี้พี่ชายของเจ้าอย่างข้าคนนี้ก็ไม่ต้องรับโทษแบบนี้หรอก เสด็จพ่อทำอะไรไม่ได้ และยิ่งไม่สามารถออกราชโองการมาได้อีก มิฉะนั้นแล้ว หน้าของมหาเสนาบดีฉู่จะเอาไปไว้ที่ไหน?”“เช่นั้นท่านคิดวิธีออกหรือไม่?” อ๋องฉีเอ่ยถาม“เจ้าคิดดีแล้ว?” อวี่เหวินห่าวหันไปถามอ๋องฉีอ๋องฉีหันกลับมามองเขาอย่างนิ่ง ๆ "ยังมีทางอ
อวี่เหวินห่าวตกใจจนอ้าปากค้าง “ท่าน...”นี่เป็นเรื่องแปลกจริง ๆ เสด็จพ่อเห็นด้วยกับการหย่าหรือ? ยิ่งไปกว่านั้นน้ำเสียงที่เสด็จพ่อใช้ช่างน่ารักเกียจนัก“ทำตามซะ” จักรพรรดิหมิงหยวนพูดอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ซะเท่าไหร่ตั้งแต่นางแต่งเข้ามาก็ก่อเรื่องวุ่นวายมิได้หยุดหย่อน เรื่องเล็กก็ยังพอเห็นแก่หน้ามหาเสนาบดีฉู่ได้ จึงทำเป็นเมินเฉย แต่ผลที่ตามมาจะยิ่งเหลิงยิ่งได้ใจ ราชวงศ์เสียหน้าก็ไม่สำคัญ แต่นางกลับยุแยงให้ชินอ๋องแตกคอกันเช่นนี้ ดังนั้นจึงไม่ควรเก็บนางไว้อีกต่อไปตั้งแต่แรก ชื่อเสียงนางไม่ใช่แบบนี้ ข้างนอกต่างพูดว่านางทั้งอ่อนโยนและมีคุณธรรม เรียกได้ว่าเป็นที่เลื่องลือของทุกคนได้ยินคำพูดของฮูหยินเฒ่าตระกูลฉู่ในวันนี้ เขานั้นโกรธมาก ตระกูลฉู่จะบังอาจเกินไปแล้ว“เสด็จพ่อ” อวี่เหวินห่าวรีบปรับสีหน้า และกล่าวต่อไปว่า “ความหมายของท่านคือ ตกลงยอมรับคำขอของเจ้าเจ็ดใช่ไหม พ่ะย่ะค่ะ?”“ไม่ยอมได้รึ? เช่นนั้นก็ต้องใช้กำลังเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย" จักรพรรดิหมิงหยวนแสดงความพยายามในฐานะบิดา “หลังจากหย่าแล้ว ต่างคนก็ต่างไปแต่งงานใหม่ สำหรับว่าทั้งสองฝ่ายก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีแล้ว”อวี่เหวินห่าวรู้
Welcome to Goodnovel world of fiction. If you like this novel, or you are an idealist hoping to explore a perfect world, and also want to become an original novel author online to increase income, you can join our family to read or create various types of books, such as romance novel, epic reading, werewolf novel, fantasy novel, history novel and so on. If you are a reader, high quality novels can be selected here. If you are an author, you can obtain more inspiration from others to create more brilliant works, what's more, your works on our platform will catch more attention and win more adimiration from readers.