เมื่อฟูมิโกะและเก็นได้รับคำภารกิจให้มาจัดการกับพวกเงาปีศาจที่หลุดออกมาจากหีบที่โรงพยาบาลร้างแห่งหนึ่ง....งานนี้พวกเขาจะเอาชีวิตรอดไปได้หรือไม่?
더 보기ฟูมิโกะกำมือเก็นแน่นจนรู้สึกได้ถึงเหงื่อซึมที่ฝ่ามือ ก่อนที่ร่างของทั้งคู่จะก้าวผ่านขอบประตูที่เรืองแสงสีครามออกมา เสียงก้องของประตูที่ปิดลงด้านหลังสะท้อนไปมาในความเงียบงันชวนขนลุก
ทันทีที่เท้าสัมผัสพื้น พวกเขาก็พบว่าตัวเองยืนอยู่กลางโถงทางเดินแคบๆ ที่คุ้นตา แต่ไม่ใช่ในแบบที่พวกเขาเคยเห็นบนภาพถ่ายเก่าๆ ของโรงพยาบาลร้างแห่งนี้ แสงอาทิตย์ที่ควรจะส่องลอดหน้าต่างเข้ามา กลับถูกแทนที่ด้วยแสงสลัวๆ สีเทาจากแหล่งกำเนิดที่ไม่รู้จัก ผนังที่เคยขาวสะอาด บัดนี้เต็มไปด้วยคราบดำทะมึนคล้ายราขึ้นเป็นหย่อมๆ และมีรอยขีดข่วนยาวเฟื้อยที่ดูเหมือนถูกของมีคมกรีดลึก ราวกับเป็นรอยกรงเล็บขนาดใหญ่ “น่ากลัวจัง…” ฟูมิโกะพึมพำ เสียงของเธอสั่นเครือจนเก็นแทบจะไม่ได้ยิน เธอสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกที่แผ่ซ่านมาจากทุกทิศทาง ไม่ใช่ความเย็นจากอากาศ แต่เป็นความเย็นที่กัดกินเข้าถึงกระดูก ความรู้สึกกดดันที่ทำให้ทุกอณูของร่างกายหวาดหวั่น เก็นกระชับมือของฟูมิโกะตอบ พลางขยับตัวมายืนบังเธอไว้เล็กน้อย บ่ากว้างของเขาดูแข็งแกร่งและน่าพึ่งพากว่าที่เคย “ไม่ต้องกลัว ฟูมิโกะ อยู่ด้านหลังฉันไว้” เสียงของเขาหนักแน่นและจริงจัง ดวงตาคมกวาดมองไปรอบๆ อย่างระแวดระวัง ใบหน้าของเขาฉายแววจดจ่ออย่างไม่เคยเป็นมาก่อน พวกเขาเริ่มก้าวเดินไปตามโถงทางเดินที่ทอดยาวราวกับไม่มีที่สิ้นสุด เสียงฝีเท้าของพวกเขาก้องกังวานในความเงียบ วินาทีแล้ววินาทีเล่าที่ผ่านไป ความหวาดระแวงก็เกาะกุมแน่นขึ้นเรื่อยๆ กลิ่นอับชื้นและกลิ่นคาวจางๆ ลอยมาปะทะจมูกเป็นระยะ บางครั้งฟูมิโกะรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังจ้องมองจากเงามืดที่ซ่อนอยู่ตามซอกหลืบ แต่เมื่อเธอหันไปมอง ก็ไม่พบสิ่งใดนอกจากความว่างเปล่า “เก็น…” ฟูมิโกะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง เสียงเบากว่าเดิม “นายรู้สึกไหม…เหมือนมีบางอย่างอยู่กับเราตลอดเวลา” เก็นไม่ตอบด้วยคำพูด แต่เขาพยักหน้าน้อยๆ ดวงตาของเขายังคงกวาดมองไปรอบๆ อย่างไม่หยุดนิ่ง ทันใดนั้น! เงาดำทะมึนขนาดใหญ่กระโดดผ่านหน้าพวกเขาไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบ มันพุ่งตรงไปยังทางเดินด้านซ้ายที่มืดมิดกว่าเดิม แล้วหายลับไปในซอกหลืบของความมืด “นั่นมัน! นั่นมันอยู่นั่น!” เก็นเอ่ยขึ้นเสียงดัง กระชับมือฟูมิโกะแน่น ก่อนจะจูงมือเธอให้วิ่งตามไป “ไปฟูมิโกะ!” ขาของทั้งคู่พาพวกเขาออกวิ่งไปตามทางเดินที่เงาดำเพิ่งหายไป ฟูมิโกะรู้สึกเหมือนหัวใจจะหลุดออกมาจากอกด้วยความตื่นเต้นและหวาดกลัว แต่เธอก็ยังคงวิ่งตามเก็นไปอย่างไม่ลังเล เสียงฝีเท้าที่ก้องกังวานในทางเดินที่มืดมิดกลายเป็นจังหวะเดียวกับเสียงหัวใจของเธอ “เร็วเข้าฟูมิโกะ!” เก็นเร่งอีกครั้ง เขาวิ่งเร็วและแข็งแกร่งกว่าเธอมาก แต่ก็ยังคงจูงมือเธอไว้ไม่ปล่อย เพื่อให้แน่ใจว่าเธอจะไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ทางเดินดูเหมือนจะยาวขึ้นเรื่อยๆ ราวกับเขาวงกตที่ไม่มีที่สิ้นสุด ห้องต่างๆ ที่เรียงรายอยู่สองข้างทางดูคล้ายกันไปหมด ประตูบางบานเปิดอ้าออกเผยให้เห็นความมืดมิดภายใน บางบานปิดสนิทแต่มีรอยขีดข่วนน่าขนลุกปรากฏอยู่ ผนังที่เคยขาวซีดกลายเป็นสีดำสนิทในบางช่วง และมีหยดอะไรบางอย่างคล้ายของเหลวสีดำไหลเยิ้มลงมา “มัน…มันวิ่งเร็วมากเลยนะเก็น!” ฟูมิโกะหอบ เธอเริ่มรู้สึกถึงความเหนื่อยล้าที่แล่นไปทั่วขา แต่แรงกระชับที่มือของเก็นยังคงเป็นกำลังใจให้เธอวิ่งต่อไป “ไม่ว่าเราจะวิ่งกันไปสักแค่ไหนก็ตามเงานั้นไม่ทัน” เก็นหอบเช่นกัน ใบหน้าของเขาเริ่มมีเหงื่อซึม แต่ดวงตายังคงแน่วแน่ เขารู้สึกได้ว่าเงามืดนั้นกำลัง “ล่อ” พวกเขาให้ลึกเข้าไปในโรงพยาบาลแห่งนี้ มันไม่ใช่การวิ่งหนี แต่เป็นการวิ่งนำทาง ทันใดนั้น พวกเขาก็มาถึงทางแยกที่กว้างกว่าเดิม ทางซ้ายมือเป็นบันไดที่ทอดยาวขึ้นไปสู่ชั้นบนที่มืดมิด ส่วนทางขวาเป็นประตูคู่บานใหญ่ที่ปิดสนิท บรรยากาศรอบๆ ตัวดูหนาวเย็นและกดดันยิ่งกว่าเดิม ฟูมิโกะหยุดชะงัก เธอหายใจหอบถี่ และร่างกายของเธอเริ่มสั่นสะท้านด้วยความรู้สึกที่มากขึ้นกว่าเดิม “เก็น… ฉัน… ฉันรู้สึกว่ามันอยู่ใกล้เรามากขึ้นแล้ว” ฟูมิโกะเอ่ยเสียงแผ่ว พลางชี้ไปที่มุมหนึ่งของทางเดินที่มืดสนิทตรงหน้า มีบางอย่างที่มองไม่เห็นกำลังแผ่พลังงานบางอย่างที่เธอรู้สึกได้ออกมา เก็นมองตามทิศทางที่ฟูมิโกะชี้ไป เขามองไม่เห็นอะไรนอกจากความมืด แต่เขารู้ว่าฟูมิโกะมีความสามารถพิเศษในการรับรู้ถึงสิ่งเหล่านี้ได้ เขาเชื่อเธอ “มันอาจจะไม่ได้ต้องการให้เราตามมันไปจริงๆ แต่มันต้องการให้เราไป ‘ที่นั่น’” เก็นพึมพำกับตัวเอง เขากวาดสายตามองรอบๆ ทางแยกอีกครั้ง พยายามหาเบาะแส “ที่นั่น… ที่ไหน?” ฟูมิโกะถามเสียงสั่น เก็นไม่ตอบ แต่เขามองไปที่ประตูคู่บานใหญ่ทางขวามือ ประตูที่ดูเก่าแก่กว่าบานอื่นๆ มีตราสัญลักษณ์บางอย่างที่เลือนลางประทับอยู่บนบานประตู พร้อมกับรอยขีดข่วนขนาดใหญ่หลายรอยที่ดูเหมือนพยายามจะ “แกะ” หรือ “ทำลาย” สัญลักษณ์นั้น “ฟูมิโกะ ประตูบานนั้น…” เก็นเอ่ย “ฉันรู้สึกว่ามันกำลัง ‘เรียก’ เรา” ฟูมิโกะมองตามสายตาของเก็นไปที่ประตูบานนั้น เธอรู้สึกถึงพลังงานที่รุนแรงและมืดมิดแผ่ออกมาจากบานประตู พลังงานที่ทำให้ขนของเธอลุกชันไปทั่วทั้งตัว “ไม่นะเก็น… ฉัน… ฉันไม่แน่ใจว่าเราควรเข้าไปในนั้น มันรู้สึก… แย่มาก” เธอพยายามดึงมือออกจากเก็น แต่เขายิ่งจับแน่นขึ้น เก็นหันมาสบตาฟูมิโกะ ดวงตาของเขาฉายแววความมุ่งมั่นที่ไม่เคยเห็นมาก่อน “ฟูมิโกะ เรามาที่นี่เพื่อกำจัดวิญญาณปีศาจไม่ใช่เหรอ? ถ้าเราไม่เข้าไปในที่ที่มันต้องการให้เราไป เราก็ไม่มีทางเจอแก่นแท้ของมันหรอก” “แต่… แต่มันอาจจะเป็นกับดัก!” ฟูมิโกะค้าน เธอไม่เคยกลัวอะไรขนาดนี้มาก่อน “ฉันรู้” เก็นตอบเสียงเรียบ “แต่เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ฟูมิโกะ เธอเชื่อฉันได้ไหม?” ฟูมิโกะมองเข้าไปในดวงตาของเก็น เธอมองเห็นความมุ่งมั่นและเชื่อมั่นในตัวเองที่ส่องประกายอยู่ในนั้น มันทำให้ความกลัวในใจของเธอเบาบางลงไปบ้าง “ตกลง… ฉันเชื่อ” เธอตอบเสียงเบา เก็นพยักหน้าเล็กน้อย เขากระชับมือฟูมิโกะอีกครั้ง แล้วค่อยๆ ก้าวเดินตรงไปยังประตูคู่บานใหญ่ที่ปิดสนิทนั้น ช้าๆ แต่มั่นคง ราวกับกำลังจะก้าวเข้าไปสู่ใจกลางของความมืดมิดที่รอคอยอยู่ภายในแสงแรกของรุ่งอรุณสาดส่องผ่านหน้าต่างที่พังทลายของห้องผ่าตัด สาดไล่ความมืดมิดที่เคยปกคลุมโรงพยาบาลแห่งนี้มานานหลายทศวรรษให้จางหายไป ความเหนื่อยล้าถาโถมเข้าใส่ฟูมิโกะและเก็นอย่างหนัก ทั้งคู่ล้มตัวลงนอนแผ่กับพื้นคอนกรีตเย็นเฉียบ หอบหายใจอย่างหนักหน่วง ราวกับเพิ่งผ่านการวิ่งมาราธอนอันยาวนาน แต่ในดวงตาของพวกเขากลับเต็มไปด้วยความโล่งอกและความสุขที่ไม่สามารถบรรยายได้ฟูมิโกะหันไปมองเก็น ใบหน้าของเธอเปื้อนฝุ่นและมีรอยขีดข่วนเล็กน้อย แต่รอยยิ้มที่ปรากฏบนริมฝีปากกลับเปล่งประกายสดใส เก็นเองก็ยิ้มตอบ ดวงตาของเขายังคงฉายแววอ่อนเพลีย แต่ก็เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจในสิ่งที่พวกเขาทำสำเร็จ“เราทำได้จริงๆ ด้วยนะเก็น…” ฟูมิโกะพึมพำ เสียงของเธอแหบพร่าด้วยความเหนื่อยล้า แต่ก็เต็มไปด้วยความตื้นตันใจ“ใช่ฟูมิโกะ… เราทำได้แล้ว” เก็นตอบ เสียงของเขาเองก็หอบไม่แพ้กัน “มันเป็นการต่อสู้ที่หนักหนาสาหัสที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลย”ฟูมิโกะค่อยๆ หยิบ ขวดกักเก็บวิญญาณ ที่มีแสงสีเหลืองอำพันเรืองรองอยู่ภายในขึ้นมาดูด้วยรอยยิ้ม แสงนั้นอบอุ่นและบริสุทธิ์ ไม่ใช่แสงสีดำที่น่าขนลุกเหมือนตอนแรกอีกต่อไป“ในที่สุด… เหล่าวิญญาณก็ไ
เสียงทุบประตูห้องผ่าตัดยังคงดังกึกก้องไม่หยุดหย่อน ผนังห้องสั่นสะเทือนราวกับจะพังทลายลงมาได้ทุกเมื่อ เก็นและฟูมิโกะนั่งพิงกำแพง หอบหายใจอย่างหนัก ร่างกายของพวกเขาเหนื่อยล้าเต็มทีจากบาดแผลและจากการต่อสู้ที่ไม่รู้จบกับ "นายใหญ่" ที่ยังคงกราดเกรี้ยวอยู่ภายนอก“เราจะทำยังไงดีเก็น?” ฟูมิโกะถาม เสียงของเธอเต็มไปด้วยความกังวล เธอพลิกหน้าหนังสืออาคมอย่างรวดเร็ว ดวงตากวาดไปตามตัวอักษรโบราณพยายามหาวิธีที่จะเอาชนะนายใหญ่ได้เสียทีเก็นมองไปที่ประตูห้องผ่าตัด ผ้ายันต์ผืนที่สองที่แปะอยู่เริ่มเรืองแสงริบหรี่ลงแล้ว แสดงว่าพลังป้องกันของมันกำลังจะหมดลงในไม่ช้า “เราต้องหาทางหยุดมันให้ได้ก่อนที่มันจะบุกเข้ามา ฟูมิโกะ!”ตูม!ประตูห้องผ่าตัดถูกกระแทกอย่างรุนแรงจนบานประตูเริ่มปริแตกออก เศษไม้กระเด็นเข้ามาในห้อง“มันใกล้จะพังแล้ว!” ฟูมิโกะอุทาน เธอกัดฟันแน่น พยายามรวบรวมสมาธิทั้งหมดที่มี เพื่ออ่านหนังสืออาคมให้เร็วที่สุดทันใดนั้น!ดวงตาของฟูมิโกะก็หยุดอยู่ที่หน้ากระดาษหน้าหนึ่ง! เธอจำได้ว่าเคยเห็นคาถานี้มาก่อน! มันเป็นคาถาที่ดูเหมือนจะไม่รุนแรงมาก แต่กลับมีคุณสมบัติที่น่าสนใจ!“เก็น! ฉันเจอแล้ว!” ฟูมิโกะตะ
กลิ่นยาฆ่าเชื้อที่ผสมปนเปกับความชื้นและกลิ่นคาวเลือดจางๆ ยังคงคละคลุ้งอยู่ในห้องแล็บที่มืดมิด ฟูมิโกะกับเก็นนั่งอยู่บนพื้นคอนกรีตเย็นเฉียบ หอบหายใจด้วยความเหนื่อยล้าจากการต่อสู้กับ "นายใหญ่" บนดาดฟ้า ผ้ายันต์ผืนที่สองที่แปะอยู่บนประตูกำลังเรืองแสงจางๆ เป็นเกราะป้องกันที่เปราะบาง แต่ก็เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้พวกเขารู้สึกปลอดภัยได้ในตอนนี้“เราต้องหาผ้ายันต์อีกสองผืนให้เจอ” ฟูมิโกะบอก เสียงของเธอแหบพร่าเล็กน้อย เธอเปิดหนังสืออาคมเล่มหนาออกอีกครั้ง พยายามกวาดสายตาหาเบาะแสเก็นพยักหน้า เขายังคงกุมแขนที่บาดเจ็บจากกรงเล็บของนายใหญ่ “ใช่… ยิ่งเราได้ผ้ายันต์ครบเร็วเท่าไหร่ เราก็ยิ่งมีโอกาสโค่นมันได้มากเท่านั้น”“แต่ผ้ายันต์ผืนสุดท้ายที่ฉันสัมผัสบนดาดฟ้า… มันหายไป” ฟูมิโกะพึมพำ “ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร หรือว่ามันทำงานยังไง”“อย่าเพิ่งคิดมากเรื่องนั้นเลยฟูมิโกะ” เก็นบอก “ตอนนี้เราต้องหาอีกสองผืนที่เหลือให้เจอ” เขามองไปที่นาฬิกาข้อมืออาคมของฟูมิโกะที่วางอยู่ข้างๆฟูมิโกะเห็นแล้ว ดวงตาของเธอเบิกกว้าง “จุดสีแดง! มันอยู่ที่ด้านหลังโรงพยาบาล! ทั้งสองจุดเลย!” เธอกรีดร้องด้วยความดีใจ“ด้านหลังโรงพยาบาลเหร
แสงจันทร์ส่องสลัวๆ ลงมาบนดาดฟ้าที่ทรุดโทรมของโรงพยาบาลร้าง เสียงลมยามค่ำคืนพัดหวีดหวิวราวกับเสียงกระซิบของเหล่าวิญญาณที่ถูกจองจำ เก็นและฟูมิโกะยืนเผชิญหน้ากับ “นายใหญ่” ร่างกายของมันสูงใหญ่กำยำ บิดเบี้ยวผิดรูป เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งราวกับหินผา ดวงตาสีแดงฉานคู่นั้นจ้องมองมาที่พวกเขาอย่างอำมหิต พลังงานมืดมิดแผ่ออกมาจากร่างของมันอย่างมหาศาล จนอากาศรอบตัวรู้สึกหนักอึ้ง“เจ้า… จะต้องชดใช้… สำหรับสิ่งที่เจ้าทำ!” เสียงของนายใหญ่ดังก้องในหัวของฟูมิโกะและเก็น มันไม่ใช่เสียงพูดที่ออกมาจากลำคอ แต่เป็นเสียงที่ส่งตรงจากจิตใจ เต็มไปด้วยความโกรธแค้นที่รุนแรงจนน่าสะพรึงกลัวเก็นก้าวไปข้างหน้าเล็กน้อย มือหนึ่งกำมีดลงอาคมแน่น อีกมือหนึ่งถือผ้ายันต์แห่งสายฟ้าที่ยังคงเรืองแสงสีม่วงเข้ม “เรามาที่นี่เพื่อยุติความทุกข์ทรมานของวิญญาณทุกดวงในโรงพยาบาลแห่งนี้! และเราจะไม่มีวันยอมให้เจ้าทำร้ายใครได้อีก!”“หึหึ… ไร้สาระ!” นายใหญ่หัวเราะเยาะ เสียงหัวเราะของมันแหบพร่าและน่าขนลุก “เจ้าคิดว่า… เจ้าจะทำอะไรข้าได้งั้นหรือ? ข้าคือ… ผู้ที่ควบคุมทุกสิ่งในสถานที่แห่งนี้! ข้าคือ… ผู้ที่สร้างพวกมันขึ้นมา!” มันยกแข
แสงจันทร์ส่องสลัวๆ ลงมาบนดาดฟ้าที่ทรุดโทรมของโรงพยาบาลร้าง เสียงลมยามค่ำคืนพัดหวีดหวิวราวกับเสียงกระซิบของเหล่าวิญญาณที่ถูกจองจำ เก็นและฟูมิโกะยืนเผชิญหน้ากับ “นายใหญ่” ร่างกายของมันสูงใหญ่กำยำ บิดเบี้ยวผิดรูป เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งราวกับหินผา ดวงตาสีแดงฉานคู่นั้นจ้องมองมาที่พวกเขาอย่างอำมหิต พลังงานมืดมิดแผ่ออกมาจากร่างของมันอย่างมหาศาล จนอากาศรอบตัวรู้สึกหนักอึ้ง“เจ้า… จะต้องชดใช้… สำหรับสิ่งที่เจ้าทำ!” เสียงของนายใหญ่ดังก้องในหัวของฟูมิโกะและเก็น มันไม่ใช่เสียงพูดที่ออกมาจากลำคอ แต่เป็นเสียงที่ส่งตรงจากจิตใจ เต็มไปด้วยความโกรธแค้นที่รุนแรงจนน่าสะพรึงกลัวเก็นก้าวไปข้างหน้าเล็กน้อย มือหนึ่งกำมีดลงอาคมแน่น อีกมือหนึ่งถือผ้ายันต์แห่งสายฟ้าที่ยังคงเรืองแสงสีม่วงเข้ม “เรามาที่นี่เพื่อยุติความทุกข์ทรมานของวิญญาณทุกดวงในโรงพยาบาลแห่งนี้! และเราจะไม่มีวันยอมให้เจ้าทำร้ายใครได้อีก!”“หึหึ… ไร้สาระ!” นายใหญ่หัวเราะเยาะ เสียงหัวเราะของมันแหบพร่าและน่าขนลุก “เจ้าคิดว่า… เจ้าจะทำอะไรข้าได้งั้นหรือ? ข้าคือ… ผู้ที่ควบคุมทุกสิ่งในสถานที่แห่งนี้! ข้าคือ… ผู้ที่สร้างพวกมันขึ้นมา!” มันยกแข
เสียงการต่อสู้ที่ดุเดือดดังมาจากชั้นล่างของโรงพยาบาลร้าง คลอไปกับเสียงฝีเท้าหนักอึ้งของ "นายใหญ่" ที่กำลังไล่ตามฟูมิโกะมาติดๆ บนดาดฟ้า ลมยามค่ำคืนพัดกรรโชกแรงจนเส้นผมของฟูมิโกะปลิวไสวไปตามแรงลม เธอยืนอยู่หน้า เสาล่อฟ้าขนาดใหญ่ ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางดาดฟ้า ผ้ายันต์ผืนที่หกเรืองแสงสีม่วงเข้มพร้อมกับสายฟ้าเล็กๆ ที่แลบแปลบปลาบอยู่รอบๆ ราวกับมันกำลังมีชีวิต"ผ้ายันต์ผืนนั้น… มันคงเป็นผ้ายันต์แห่งสายฟ้าแน่ๆ" ฟูมิโกะพึมพำกับตัวเอง เธอสัมผัสได้ถึงพลังงานที่มหาศาลจากผ้ายันต์ผืนนั้น พลังงานที่แตกต่างจากผ้ายันต์อื่นๆ ที่เธอเคยสัมผัสมาทั้งหมดตุบ! ตุบ! ตุบ!เสียงฝีเท้าหนักๆ ของ "นายใหญ่" ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ มันกำลังปีนขึ้นมาบนบันไดที่นำไปสู่ดาดฟ้า"ไม่นะ… มันกำลังมาแล้ว!" ฟูมิโกะอุทานด้วยความตกใจ เธอรู้ว่าไม่มีเวลาลังเลอีกต่อไปแล้วทันใดนั้น!ร่างของเก็นก็พุ่งพรวดขึ้นมาบนดาดฟ้า! ใบหน้าของเขาซีดเซียวเล็กน้อย มีรอยเปื้อนฝุ่นและรอยขีดข่วนอยู่หลายแห่ง แต่แววตาของเขากลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งกว่าเดิม เขากำมีดลงอาคมแน่นในมือ“ฟูมิโกะ! เธอไม่เป็นไรนะ?!” เก็นตะโกนถาม เสียงของเขาหอบเล็กน้อยจ
댓글