ครั้งที่แต่งงานกัน ท่านก็ไม่ยอมร่วมหอ ยั่วยวนเท่าใด ก็ไม่เคยได้ผล เผยโฉมต่อหน้า ท่านก็ไม่เคยยล ข้าอดทนเนิ่นนาน ให้ท่านเหลียวแล แล้วเหตุใดจู่ๆ ท่านจึงกลายเป็นปีศาจราคะ จับข้ากดไม่ยอมปล่อยเล่า!
View Moreคำโปรย
ครั้งที่แต่งงานกัน ท่านก็ไม่ยอมร่วมหอ
ยั่วยวนเท่าใด ก็ไม่เคยได้ผล
เผยโฉมต่อหน้า ท่านก็ไม่เคยยล
ข้าอดทนเนิ่นนาน ให้ท่านเหลียวแล
แล้วเหตุใดจู่ๆ
ท่านจึงกลายเป็นปีศาจราคะ จับข้ากดไม่ยอมปล่อยเล่า!
******
บทนำ
ดินแดนสามภพทุกสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นภพสวรรค์ ภพมนุษย์ ภพปรโลก มีตำนานเล่าขานมากมาย ทั้งเรื่องปีศาจและเทพเซียน ล้วนเล่าขานได้น่าอัศจรรย์ใจ
ทว่ากลับไม่มีใครพบเห็นเทพและปีศาจจริงๆ จึงมิรู้ได้ว่าตำนานเหล่านั้นจริงเท็จเท่าใด สวรรค์นรกมีจริงไหม
ใดๆ ล้วนเหนือความคาดหมาย ในความไม่รู้นั้นกลับมีสรรพสิ่งเหนือสามัญมากมายนับไม่ถ้วน
หนึ่งในนั้นมีเรื่องหนึ่งที่เป็นความรักลึกซึ้งตราตรึงใจ ของผู้ที่ถูกเรียกว่า เทพปีศาจ (โม๋กุ่ยเสิน)[1]
[1]魔鬼神 Móguǐ shén เทพปีศาจ
*********
อารัมภบท
นางมีนามว่าโม๋เอ๋อร์ แซ่เฉิน เกิดและเติบโตในป่าใหญ่อันลึกลับได้สิบสองปี กระทั่งมีระดู เข้าสู่วัยสมสู่สืบพันธุ์ นางจึงตัดสินใจออกจากป่าที่มีแต่สัตว์ร้าย เป้าหมายคือมนุษย์บุรุษเพศเท่านั้น เพราะถึงแม้นางจะมีเชื้อสายเทพปีศาจ หากแต่อีกครึ่งในตัวนางก็เป็นมนุษย์ หาใช่สัตว์ชนิดใด การสืบทายาทจึงต้องกระทำกับมนุษย์เพศชายเท่านั้น นี่คือปณิธานอันยิ่งใหญ่ของนาง
หลังจากออกจากป่าก็ได้เจอกับสองแม่ลูกเปี่ยมเมตตา พวกเขาดูแลนางทุกอย่าง สอนจริตมารยาในการเป็นภรรยาที่ดี แน่นอนว่าโม๋เอ๋อร์ย่อมเชื่อฟังและปฏิบัติตาม
ต่อมายังได้แต่งงานกับชายผู้หนึ่ง เขารูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลา สัดส่วนสมบูรณ์แบบ เหมาะแก่การสมสู่
ทว่าเขากลับเย็นชาเหลือเกิน ทำตัวห่างเหินไม่ไยดี
คืนแต่งงานของเราสอง เขายังไปนอนกับอนุของเขา ไม่ยอมมาร่วมหอกับนาง
เห็นได้ชัดว่า เขาโปรดปราณบรรดาภรรยาของเขามากกว่านาง
ฉะนั้นแล้ว นางจะดูแลภรรยาทั้งหลายของเขาให้ดี ทั้งยังไม่ลืมที่จะยั่วยวนเขา เพื่อเป้าหมายแห่งการสมสู่คู่ยวนยาง...
จนสุดท้ายเฉินหย่งจื้อจึงใช้วิธีต่ำช้า แผนนารีพิฆาตที่มีมาสมัยบรรพบุรุษถูกเลือกใช้อย่างเลือดเย็นเยวี่ยเหรินมีใบหน้างดงามพิลาศล้ำปานล่มบ้านล่มเมืองนางมีกิริยาอ่อนโยน นิสัยอ่อนหวาน กิริยาวาจาล้วนสมเกียรติสูงส่ง ใบหน้าพิสุทธิ์ซื่อสัตย์ มีดวงเนตรงามดั่งวารีทั้งใสกระจ่าง ทั้งเปี่ยมเสน่ห์แห่งสตรีเพศมากล้นนางคือคุณหนูในห้องหอที่เพียบพร้อมทุกสิ่ง คือสตรีของเฉินหย่งจื้อที่ยังไม่ถูกเรียกตัวเข้าวัง มีเดิมพันเป็นตำแหน่งฮองเฮาและคนทั้งตระกูลเยวี่ยเหรินเข้าหาเฉินเหอไท่ที่ยามนั้นเขายังพำนักอยู่ที่วังเจี้ยนอ๋องไม่ไกลจากวังหลวงของเฉินหย่งจื้อเวลาเนิ่นนานทีเดียวที่หญิงสาวใช้เสน่ห์มนต์มารทุกแขนงจนสำเร็จได้ด้วยดี กระทั่งกลายเป็นคนรักของเฉินเหอไท่ อย่างเต็มตัว รอเพียงแต่งงานอย่างเอิกเกริกยิ่งใหญ่ทว่าเมื่อสบโอกาสหลอกล่อเขาออกจากวังเจี้ยนอ๋องได้สำเร็จ เยวี่ยเหรินไม่อาจปล่อยผ่านรอให้เนิ่นนานจนตำแหน่งฮองเฮาหลุดมือใจกลางหุบเขาไค่กู่จึงเหมาะสมที่จะกลายเป็นสุสานของเฉินเหอไท่ ที่นั่นมีทหารนับพันพร้อมอาวุธครบมือซุ่มรออยู่ ในขณะที่เฉินเหอไท่เดินทางพร้อมราชองครักษ์ไม่มากทุกสิ่งล้วนเกินคาดการณ์ตามแผนสังหารที่
บ่าวรับใช้ทั้งชายและหญิงที่หน้าประตูห้องต่างพากันลอบมองสบตากันไปมา ก่อนจะแอบชำเลืองไปทางเฉินเหอไท่ด้วยความระมัดระวัง สายตาของพวกเขาล้วนแสดงความยำเกรงต่อเขา บางคนถึงกับตัวสั่นเทิ้มอย่างไม่อาจควบคุมได้ชายผู้นี้นับว่าโหดเหี้ยมอำมหิต ฆ่าคนไม่กะพริบตา หรือต่อให้ไม่ฆ่าใครก็ยังมีวิธีสยบได้อย่างน่าสะพรึงเป็นที่สุดดูอย่างสตรีที่ถูกส่งตัวไปเมื่อครู่นี่ปะไรร่วมรักจนหนำใจ ยังทิ้งคราบหลังเสร็จกิจเอาไว้ แล้วส่งให้คนรักของนางได้ดูชมไม่ต้องคาดเดาก็รู้ได้ว่า ชายคนรักของนางจะมีสีหน้าอย่างไรและข่าวนั้นก็ไวปานไฟไหม้บนหญ้าฟางเมื่อเยวี่ยเหรินถูกส่งตัวไปปรากฏต่อหน้าพระพักตร์ของเฉินหย่งจื้อฮ่องเต้ พระองค์ทรงกริ้วจนเลือดขึ้นตา คว้ากระบี่สังหารเยวี่ยเหรินต่อธารกำนัลในทันทีทุกคนที่ได้เห็นและได้รับรู้ข่าวนี้ ล้วนรู้สึกพรั่นพรึงหวาดผวาต่อการกระทำของบุรุษทั้งสองคนที่ฝ่ายหนึ่งคือชายคนรักและอีกฝ่ายคือชายชู้ และสมเพชเวทนาต่อสตรีนามว่าเยวี่ยเหรินเหลือจะกล่าวข่าวนั้นถูกส่งให้เฉินเหอไท่ด้วยความรวดเร็วเช่นกันชายหนุ่มเพียงแสยะยิ้มสาแก่ใจ ความโหดเหี้ยมเลือดเย็นของเขาฉาบทับบนใบหน้าหล่อเหลาที่แสนจะเย็นชา สายตามีเพีย
คฤหาสน์แห่งหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนพื้นดินอันเป็นชายแดนที่แสนจะทุรกันดารของแคว้นต้าซ่งภายในห้องนอนกว้างขวาง บนเตียงบุนวมขนาดใหญ่ กำลังมีกิจกรรมเคาะจังหวะผสานเสียงหอบครางดังระงมชายหนุ่มร่างใหญ่กำลังคร่อมหญิงสาวร่างเล็กตามอารมณ์กระสัน สองมือหนากอบกุมเอวบางเพื่อสอดใส่กลางลำตัวนาง แล้วกระแทกกระทั้นอย่างแรง ปราศจากความปรานีฝ่ายบุรุษคือเฉินเหอไท่ เจ้าของเรือนกายกร้าวแกร่งทรงพลังเปี่ยมเสน่ห์มากล้น กระทั่งตรึงโสตประสาทของฝ่ายสตรีเอาไว้อย่างหมดจด ทำเอานางสมองขาวโพลนไปหมด ฝ่ามือน้อยๆ กำปิ่นปักผมเอาไว้แน่น หาทางแทงอีกฝ่ายมิได้เสียทีสตรีใต้ร่างของเฉินเหอไท่มีนามว่าเยวี่ยเหริน ในมือนางมีมีดสั้นลักษณะพิเศษทำเลียนแบบปิ่นปักผมได้อย่างแนบเนียนเฉินเหอไท่หาได้สนใจปิ่นปักผมที่มีลักษณะปลายแบนบางเฉียบสาดประกายคมกริบในมือนาง เขายังคงควบจังหวะบนร่างนางอย่างโหดร้าย แววตาคมปลาบเผยเพียงความร้อนแรงแห่งเพลิงอารมณ์อึดใจเยวี่ยเหรินพลันสบโอกาสแทงปิ่นในมือปักฉึกที่หน้าอกด้านซ้ายของเฉินเหอไท่ ลึกเข้าไปยังตำแหน่งหัวใจที่กำลังเต้นแรง เลือดลมกำลังสูบฉีดอย่างบ้าคลั่ง ชั่วพริบตานั้นชายหนุ่มจึงได้สติกลับคืน แววตาคมกริบ
เสียงเหล่านี้ดังมากจนกลบเสียงฮึกเหิมของเหล่าทหารหลายร้อย กลบกระทั่งเสียงอาวุธกระทบกันและเสียงเกือกม้าย่ำพื้นดินเพื่อรุมระห่ำมาทางเฉินเหอไท่ทุกผู้คนรู้สึกได้ถึงแรงสะเทือนที่ปลายเท้า ลำตัวของพวกเขาล้วนสั่นไหว ต่อมายังสั่นเทิ้มจนไม่อาจควบคุมได้ทหารทุกคนพากันชะงักนิ่งตะลึงลาน ทันใดนั้นแผ่นดินรอบด้านของพวกมันพลันปริแตกแล้วแยกออกจากกัน“อะ...อะไร?” ทหารหลายคนเริ่มส่งเสียงเซ็งแซ่“อ๊าก!” เริ่มมีเสียงร้องโหยหวนชวนผวา เมื่อจู่ๆ พื้นธรณีใต้ฝ่าเท้าของพวกมันเคลื่อนที่แยกตัวออกจนเป็นวงกว้าง แล้วดูดกลืนทั้งม้าทั้งร่างของทหารทุกคนให้ตกลงไป ไม่ใช่แค่ทีละคน แต่พวกมันตกลงไปทีเดียวทั้งหมด ซากศพกองเท่าภูเขาขนาดย่อมล้วนตกตามกันไปราวกับห้วงมหาสมุทรดูดกลืนทุกสรรพสิ่งไม่ต่างจากวังน้ำวน“ย๊า!”พวกทหารแหกปากผสานเสียงกันทันตาจนดังระงมกึกก้องไปทั่วน่านฟ้า เมื่อจู่ๆ พวกมันก็ถูกพื้นพสุธาทั้งผืนกลืนกินจนร่วงหล่นลงไปยังใต้พิภพพื้นดินแยกตัวออกจนเกิดหลุมขนาดใหญ่ดำลึกกว้างขวางกินพื้นที่ไกลมาก ทหารหลายร้อยคนก็คล้ายถูกสูบลงไปในนั้นจนสิ้นพวกมันทำได้เพียงร่ำร้องโหยหวนไม่เป็นภาษา สองมือแหวกว่ายอากาศอย่างน่าเวทนา นรกกำ
“เหล่าพี่น้องทั้งหลาย เบื้องหน้าเราคือกบฏเฉินเหอไท่! จงจับตายสถานเดียว นำหัวของมันไปเสียบประจานหน้าประตูเมืองต้าซ่งถวายแด่องค์จักรพรรดิเฉิน!”ฉับพลันนั้นฟ้าสลัวรางที่มีแสงจันทรานวลเนียนสาดส่องลงมา ราวกับมีเมฆดำทะมึนของห่าฝนกระหน่ำโครมดั่งฟ้ารั่วครอบคลุมเหนือศีรษะของเฉินเหอไท่ เมื่อเหล่าอาชาไนยต่างพากันควบตะบึงยกดาบขึ้นเหนือหัวพุ่งตัวชายหนุ่มแค่นเสียงในลำคอคราหนึ่ง ถ่มโลหิตในปากออกไปอย่างไม่ไยดี ก่อนจะลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูง รอรับการปะทะอย่างยินดี ไร้ท่าทีหวาดหวั่นแม้แต่น้อยบนกองศพหลายร้อยประหนึ่งภูเขาลูกเล็ก กีบม้าศึกหลายร้อยตัวเริ่มขยับเมื่อถูกเจ้าของรองเท้าหนังหนาหนักตะปบสีข้างเหล่าทหารบนหลังม้ากระชับอาวุธในมือพร้อมพุ่งทะยานไปทางเจี้ยนอ๋อง หมายเผด็จศึกอันน่าพรั่นพรึงที่กินเวลาข้ามวันข้ามคืนนี้ให้จงได้ไม่มีการต่อสู้แบบยุติธรรมหนึ่งต่อหนึ่ง หากแต่เป็นการสังหารโหดแบบต่ำช้าที่เรียกว่าหมาหมู่รุมกินโต๊ะเสียงครืนครืนของม้าศึกที่ควบตะบึงอย่างพร้อมเพรียง ผสานเสียงกับการขู่คำรามของทหารหลายร้อยดังกึกก้องไปทั่วธรณี ยังมีเสียงโลหะกระทบกันหมายข่มขวัญยามประจัญบานทว่าการณ์กลับพลิกผัน หมาหมู่พ
พื้นพิภพที่อยู่ระหว่างสวรรค์กับนรก อันเป็นที่อยู่อาศัยของภพมนุษย์พวกเขาบูชาเทพทุกองค์ สักการะฟ้าดินมาอย่างยาวนาน แม้จะมีจิตใจยึดเหนี่ยวในสิ่งเดียวกัน ปฏิบัติตามจารีตประเพณีแบบเดียวกันเสมอมา แต่ทว่ากลับชอบแข่งขันแย่งชิงกันเองอย่างโหดร้ายมาโดยตลอดรัชศกผู่เฮ่าปีที่เจ็ดเดือนสิบวันที่ห้าคืนเดือนเพ็ญภายในหุบเขาไค่กู่ ใจกลางมีพื้นที่ราบลุ่มอันกว้างใหญ่ไพศาล ลักษณะเป็นทุ่งหญ้าโล่งกว้างสุดลูกหูลูกตาอันเป็นสมรภูมิรบที่กำลังปะทุดุเดือดร้อนระอุชวนเลือดลมพลุ่งพล่านในยามนี้ รอบด้านมีแต่ซากศพคนตาย รอบทิศเต็มไปด้วยเศษร่างที่กระจัดกระจายของเนื้อหนังมนุษย์นับร้อยอาณาบริเวณแปดทิศมียอดหญ้าที่ควรเขียวขจีชุ่มโชกไปด้วยธารโลหิตสีแดงฉานที่สาดกระเซ็นไหลเป็นทางจนเจิ่งนองพื้นดิน โชยกลิ่นคาวคละคลุ้งตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ ชวนสะอิดสะเอียดเหลือจะกล่าวกลิ่นสาบสางชวนคลื่นเหียนเหล่านี้กำลังลอยวนในอากาศ อยู่รอบกายแกร่งทรงพลังของบุรุษผู้หนึ่ง เขาอยู่ในชุดเกราะสีดำสนิทเรือนกายหนาแน่นกำยำที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของเขา เผยให้เห็นเลือดสีแดงสดไหลทะลัก ตามแนวชุดเกราะที่ปริแตก ตามรอยแยกนั้นมีบาดแผลฉกรรจ์มากมายหลายสายใบหน้าหล
Comments