สวรรค์! ใครขอให้ท่านส่งข้ากลับมากันเล่า ข้าไม่อยากเห็นตนเองถูกฆ่าอีกครั้งเข้าใจหรือไม่ สู้อุตส่าห์ยอมรับโทษทัณฑ์ในนรกไปแล้ว เหตุใดนางยังต้องย้อนกลับมาอีกเล่า ข้าก็แค่ทำดีเพื่อหวังให้พี่ชายต่างมารดาเช่นท่านลดความโกรธแค้นที่มีต่อข้าลง แต่เหตุใดนางถึงได้กลับกลายเป็นคนสำคัญของเขาแทนเสีย นี่มันต้องมีอันใดผิดพลาดแน่ ๆ พี่ชายของข้าไม่ได้เจ้าเล่ห์เช่นท่าน ....................
View Moreบทนำ
“เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อหรือ ว่าแมลงกัดคอเจ้าจนเป็นรอยแดงเช่นนั้น” เขากล่าวก่อนจะรวบสองมือที่ทุบตีเขาเมื่อครู่ขึ้นเหนือหัว ใบหน้าของบุรุษรูปงามเลื่อนเข้าไปใกล้ก่อนจะเอ่ยวาจา ลมหายใจที่เป่ารดดวงหน้าหวานทำให้หัวใจนางเต้นระรัว
“ท่านปล่อยข้าก่อนได้หรือไม่เจ้าคะ”
“สตรีร้ายกาจเช่นเจ้า สนทนาเช่นนี้น่ะดีแล้ว” หากไม่ร้ายกาจจริง คงไม่ทำให้เขาเกิดโทสะอยู่บ่อยครั้ง
“ข้าว่าคนที่ร้ายกาจคือท่านมากกว่า” นางโต้เถียงอย่างไม่เต็มเสียงมากนัก
“ในเมื่อเจ้าก็ได้ยินชัดเจนแล้วว่าเราสองคนหาได้มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดไม่ เจ้าจะยอมรับได้หรือยัง ว่าวันนั้นคนที่ช่วยข้าให้หลุดพ้นจากฤทธิ์ของยาปลุกกำหนัดคือเจ้า”
“ท่านเอ่ยวาจายาวเหยียดเช่นนี้ได้ด้วยหรือเจ้าคะ”
เขาเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ก่อนจะกระแทกหน้าผากของตนลงบนหน้าผากนางเบา ๆ
“อย่าเปลี่ยนเรื่อง ตอบข้ามา”
“ข้าเจ็บนะเจ้าคะ ในเมื่อท่านมั่นใจไปแล้ว จะถามข้าให้ได้อันใดอีก” นางบ่นพลางทำหน้ามุ่ย
“การร่วมรักกันต้องเกิดจากคนสองคน ดังนั้นข้ายืนยันคนเดียวไม่ได้ ต้องให้เจ้าเป็นคนยืนยันด้วย”
“ในเมื่อมันเกิดจากฤทธิ์ยา ท่านก็ลืม ๆ ไปเถิดเจ้าค่ะ ข้าหาได้ถือสาไม่”
“หากเจ้าไม่ถือสาเช่นนั้นเรามาลองรำลึกความหลังกันดีหรือไม่”
“ไม่เจ้าค่ะ ที่ข้าบอกไม่ถือสาคือ บุรุษที่ข้าหมายปองเขาไม่ถือสาเรื่องนี้ เขาไม่สนใจหรอกเจ้าค่ะว่าข้าจะเป็นสตรีพรหมจรรย์หรือไม่”
“บุรุษที่เจ้าหมายปองหรือ ชายผู้นั้นคือใคร ใช่คังอ๋องหรือไม่”
“ไม่ใช่คังอ๋องแน่นอนเจ้าค่ะ”
“เช่นนั้นแล้วบุรุษที่เจ้าหมายปองคือใครกันแน่”
“ท่านปล่อยข้าก่อนเจ้าค่ะแล้วข้าจะบอก” สิ้นเสียงเอ่ยของนาง เขายอมลงไปจากตัวนางแต่โดยดี
หมิงเจียวซือรีบปีนลงจากเตียงด้วยหัวใจที่เต้นระรัว มือเรียวจัดอาภรณ์ของตนให้เรียบร้อย
“ข้าไม่บอกท่านหรอกเจ้าค่ะ แต่ท่านจงมั่นใจว่าบุรุษที่ข้าเล็งไว้ไม่ใช่ท่านหรอกเจ้าค่ะพี่ชาย” กล่าวจบนางก็รีบวิ่งหนีออกไปจากห้องของเขาอย่างรวดเร็ว
“หนีเร็วเช่นนี้ คิดว่าข้าจะเชื่อเจ้าหรือ สตรีร้ายกาจ” ล่อลวงเขาแล้วคิดจะชิ่งหนี มันไม่ง่ายเช่นนั้นหรอก...
นัยน์ตาคมที่ฉายแววเย็นชาอยู่บ่อยครั้งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างพลางคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ เขาแค่อยากปัดมือนางที่กำลังจะแตะลงบนหน้าผากให้ออกห่างโดยไม่ได้ทันออมแรงกลายเป็นใช้พลังยุทธ์ผลักนางให้ออกห่าง “คุณชาย! ข้าขอบอกเรื่องบางอย่างให้ท่านทราบ ต่อจากนี้ท่านจะทำเช่นไรก็สุดแล้วแต่ท่านขอรับ” เป็นเพ่ยตงที่เดินกลับเข้ามาพร้อมถ้วยน้ำแกงไก่ “ว่ามา” “ข้าเพียงอยากจะบอกกล่าวคุณชาย ว่าแท้จริงคนที่ดูแลคุณชายตอนที่เป็นไข้จนหมดสติหาใช่พวกข้าเช่นที่เคยรายงาน แต่เป็นคุณหนูรองหมิงที่ช่วยตามท่านหมอและดูแลคุณชายจนหายตัวร้อน เมื่อพวกข้ากลับมาถึงเรือนก็โดนนางตำหนิที่ปล่อยคุณชายไว้ตามลำพังพร้อมกำชับไม่ให้ข้ากับฉงซานบอกเรื่องนี้กับคุณชาย เพราะคุณหนูร
5 ขอทำดีอยู่ห่าง ๆ (2) หลินถงบ่นไปน้ำตาซึมไปด้วยความเป็นห่วงคุณหนูของตน โชคดีที่น้ำแกงไก่นั่นคลายความร้อนแล้ว ยามเทราดบนตัวคุณหนูจึงไม่ลวกผิวมาก เรื่องการเชิญท่านหมอมารักษาอาการบาดเจ็บที่ศีรษะของคุณหนูถูกเก็บเป็นความลับ ไม่
“แล้วข้าจะทราบได้เช่นไร ว่าระหว่างที่ข้าปลีกตัวไปสนทนากับท่านอ๋อง พวกเจ้าจะไม่แอบใส่ยาพิษในน้ำแกงเพื่อใส่ร้ายข้า” “พวกข้าจงรักภักดีกับคุณชาย ย่อมไม่ทำเรื่องเช่นนั้นขอรับ” “คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ อาจจะมีสิ่งใดบางอย่างสามารถซื้อใจพวกเจ้าได้ก็ได้ อย่างเช่นเงินทอง หรือสตรี” ก็มีถมเถไปไม่ใช่หรือที่มีคนพ่ายแพ้แก่เรื่องพวกนี้ หากไม่ถูกซื้อด้วยเงินทองจำนวนมากก็มักจะพ่ายแพ้ต่อสตรียอมตายใต้ดอกโบตั๋นแม้เป็นผีก็ยังสุขสำราญ[1] “คุณหนูรอง ท่านอย่าได้เสียเวลาต่อปากต่อคำกับฉงซานเลยขอรับ ในเมื่อต่างฝ่ายต่างไม่ไว้ใจกัน เช่นนั้นข้าจะเข้าไปพร้อมท่านเองขอรับ” เพ่ยตงเอ่ยเพราะสำหรับเขาคุณชายย่อมสำคัญที่สุด การได้กินน้ำแกงไก่บำรุงคงดีต่อคุณชายไม่น้อย “เป็นเจ้าที่จงรักภ
“นางมารผู้นั้นจะเป็นจะตายก็ไม่เกี่ยวกับข้า” กล่าวจบก็หมุนตัวหันกลับเข้าห้องของตน ด้านหมิงเจียวซือที่ถูกคังอ๋องลากตัวมาสนทนาด้วย และที่ต้องเรียกว่าลาก ก็เพราะบุรุษสูงศักดิ์ใช้นิ้วดึงรั้งอาภรณ์บริเวณแขนของนางเอาไว้ก่อนจะบังคับให้นางเดินตาม “ท่านอ๋องปล่อยหม่อมฉันก่อนดีหรือไม่เพคะ” “ปากก็บอกว่าชื่นชอบข้า พึงใจข้าแต่ดูเจ้าทำสิ แค่อยู่ใกล้ข้ายังไม่อยากทำเลย” “ท่านอ๋องคิดมากเกินไปแล้วเพคะ หม่อมฉันเพียงไม่อยากให้ผู้คนติฉินนินทาท่านอ๋องในทางเสียหาย” “ใจจริงข้าอยากใ
“ข้าไม่ได้อยากยุ่งเกี่ยวกับเด็กคนนั้น แต่ข้าเพียงอยากทราบว่าเขากับคังอ๋องสนิทสนมกันเพียงใด ถึงได้มาเยี่ยมเยียนถึงจวนเช่นนี้” “แต่ข้าไม่อยากยุ่ง” “ไปดูให้แม่หน่อยเถิดนะซือเอ๋อร์” หมิงฮูหยินเปลี่ยนมาอ้อนวอนบุตรสาวให้ใจอ่อน “ก็ได้เจ้าค่ะ ข้าจะไปดูให้ท่าน แล้วนี่เซียวเหยาจะกลับมาเมื่อใดหรือเจ้าคะ” เพราะน้องสาวไปอยู่บ้านท่านตาในช่วงเหมันต์ นางจึงไม่ได้เจออีกฝ่ายนานแล้ว “เพิ่งให้ท่านตาส่งจดหมายมาบอกแม่ว่าขออยู่ที่เมืองจิ้นหงอีกหนึ่งเดือน” “เจ้าเด็กคนนี้ ติดใจบ้านท่านตาจนลืมพี่สาวคนนี้แล้วกระมัง” อาจจะเพราะเป็นห
4 ขอทำดีอยู่ห่าง ๆ (1) ผ่านไปเกือบสามชั่วยาม ที่คุณหนูรองหมิงช่วยเปลี่ยนผ้าที่วางบนหน้าผากพี่ชายไปเรื่อย ๆ จนอีกฝ่ายไม่ได้ตัวร้อนมากเช่นในตอนแรก เสียงสนทนาที่ดังขึ้นด้านนอกห้อง ทำให้นางทราบได้ทันทีว่าบ่าวรับใช้คนสนิทของพี่ชายต่างมารดากลับมาแล้ว “หลินถง เรากลับกันเถิด” นางปลุกสาวใช้ที่นั่งฟุบหลับอยู่ข้าง ๆ “คุณหนู คุณชายใหญ่ดีขึ้นแล้วหรือเจ้าคะ” “บ่าวรับใช้ของพี่ใหญ่กลับมาแล้ว เรากลับเรือนกันเถิด” “เจ้าค่ะ” สาวใช้คนสนิทของนางลุกขึ้นด้วยท่าทางงัวเงีย พรึ่บ! เมื่อประตูเปิดออกบ่าวรับใช้ทั้งสองคนที่กำลังสนทนากันก็หยุดมือทันทีเพื่อจะเข้ามาหาคุณชายของตน แต่กลับต้องตกใจเมื่อคนที่เดินออกมาเป็นสตรีร้ายกาจเช่นคุณหนูรอง “คุณหนู! ท่านมากลั่นแกล้งคุณชายของข้าอีกแล้วใช่หรือไม่” เป็นเพ่ยตงเอ่ยถามพลางมองสตรีตรงหน้าด้วยท่าทางระวังตัว “ข้าคิดอย
Comments