ซ่งจื่อเหยียนถูกน้องสาววางแผนร้าย ในงานวันเกิดองค์หญิงหกกลับพบว่านอนกอดก่ายอยู่กับเว่ยเซียวหยาง แต่เขารังเกียจสตรี แต่งกับนางหรือฝันเฟื่องหรือไง นางจึงถูกไล่ไปอยู่จวนร้างไกลเมืองหลวงถึงห้าสิบลี้ ****************** "อ๊ายย โอ๊ยเจ็บโอ๊ยเวรกรรมฉิบหายยังไม่ทันมีผัว ไม่ทันได้รู้รสชาติการป๊าบๆกับผู้ชายเลย ก็ต้องมาเบ่งลูก อื้อเจ็บ อ๊ะ อ๊ายยย" "คุณหนู ท่านเบ่งอีกนิด น้ำร้อนเตรียมแล้ว เย่วหลีกำลังไปเอาเจ้าค่ะ เหตุใดท่านอ๋องพระทัยร้ายนักฮือๆๆ" "พอแล้ว ไอ้อ๋องสุนัขนั่นสมควรไปตายซะ อ๊าย ข้าเจ็บจะตายเจ้าจะมารำพึงรำพันอะไรเย่วเล่อ ออกแล้วข้าคลอดแล้ว อ๊ะ อ๊ายยย" หลี่จื่อเหยียนคลอดบุตรชายของร่างเดิมออกมาหนึ่งคน จากนั้นนางก็เพลียจนหลับไป
Lihat lebih banyakแคว้นเป่ยฉี
งานเลี้ยงวันเกิดขององค์หญิงหก ผู้คนมาร่วมงานกันมากมาย ทั้งขุนนางและคุณหนูรวมถึงฮูหยินจากหลายๆจวน ซ่งจื่อเหยียนที่เป็นคุณหนูใหญ่ของจวนรองเจ้ากรมโยธา วันนี้นางถูกแม่เลี้ยงและน้องสาวพามาด้วย เดิมทีซ่งจื่อเหยียนไม่ได้สาวเท้าออกจากเรือน เพราะฮูหยินรองหลิวซื่อเหมยและน้องสาวของนางซ่งซย่าอวิ๋นกดขี่นางเอาไว้ในเรือน มารดาจากไปแล้วบิดาก็ไร้ใจ
ซ่งจื่อเหยียนที่ไม่มีคนรู้จักเท่าไหร่และไม่มีใครคุยด้วยได้แต่นั่งรออยู่ที่ศาลาริมน้ำ ซ่งซยาอวิ๋นเห็นพี่สาวต่างแม่นั่งอยู่ก็เดินมาหาก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงอ่อนหวาน
“พี่ใหญ่ ท่านมานั่งทำอันใดตรงนี้กันเจ้าคะ ท่านแม่บอกว่าให้ท่านไปรอที่ห้องรับรองด้านข้างก่อน ตอนนี้ท่านหญิงเสด็จมาแล้ว ท่านแม่เกรงว่าท่านที่ไม่เคยได้ออกงานจะทำเรื่องให้ตนเองขายหน้าได้”
“น้องรอง..พี่อยากกลับจวนแล้ว งานนี้ความจริงไม่มีพี่ก็ได้ บอกแม่รองว่าพี่ขอกลับก่อนได้หรือไม่”
“พี่รองกล่าวอันใดเช่นนั้นกัน มาด้วยกันจะกลับก่อนได้อย่างไรเจ้าคะ ท่านไปพักเถอะ”
ซ่งจื่อเหยียนไม่รู้ว่าน้องสาวกับแม่เลี้ยงวางแผนร้ายใส่ตนเองจึงเดินตามสาวใช้ไป ซ่งซยาอวิ๋นยิ้มร้ายตามแผ่นหลังที่เดินจากไป นางเตรียมคนขับรถม้าของจวนไว้ให้พี่สาวต่างแม่คนนี้เรียบร้อยแล้ว ขอเพียงเข้าไปในนั้นเจ้าก็จะได้สามีเป็นคนขับรถม้าทันที
“ซ่งจื่อเหยียนถ้าจะโทษก็จงโทษใบหน้าจิ้งจอกของเจ้าที่ทำให้องค์ชายห้าหลงไหล ข้าอยากเห็นตอนที่เขาเห็นเจ้านอนกอดก่ายกับคนชั้นต่ำนั่นนัก หึ”
ซ่งขจื่อเหยียนไม่รู้เลยว่าโชคร้ายกำลังมาหาตนแล้ว และจะเปลี่ยนชีวิตนางไปตลอดกาล
ด้านงานเลี้ยงคนที่ไมชอบสุงสิงและเกลียดงานรื่นเริงได้ปรากฎตัวท่ามกลางสายตาชื่นชมและเชื้อเชิญจากสตรีทั้งแคว้น องค์ชายห้าเว่ยหยางหมิง และชินอ๋องผู้ตรวจการแผ่นดินเว่ยเซียวหยางอนุชาหนึ่งเดียวของฮ่องเต้เว่ยหยางเทียน
สองอาหลานเดินมาในงานก่อนจะทักทายบรรดาขุนนาง เว่ยเซียวหยางที่ไม่ชอบงานรื่นเริงเดินปลีกตัวออกมาอีกด้าน เขาอยากพักสักหน่อยเพราะเพิ่งมาถึงเมืองหลวง แต่หลานชายชวนมางานวันเกิดน้องสาวเขาจึงได้มา
“ท่านอ๋องไปพักห้องข้างไหพ่ะย่ะค่ะ องค์หญิงอยากให้พระองค์อยู่ในงานด้วย แต่นางก็เกรงใจเสด็จอายิ่งนัก”
“อืม ลู่กงกงท่านนำทางเถอะ”
ลู่จงหรือขันทีประจำตำหนักองค์หญิงพาเว่ยเซียวหยางไปยังห้องพักรับรอง ก่อนจะถึงห้องพักมีขันทีน้อยมาเรียกเขา เว่ยเซียวหยางจึงให้เขาไปทำหน้าที่ของเขาส่วนตนเองเดินไปหาห้องพักเองเพราะเคยพักที่ตำหนักหลานสาวบางครั้ง
เห็นห้องที่แง้มประตูอยู่เว่ยเซียวหยางแปลกใจ ใครมาวุ่นวายห้องพักเขากันจึงเปิดประตูแล้วเดินเข้าไป ในห้องมีกลิ่นกำยานแปลกๆอบอวน แต่เพราะเขาเพลียมากนักจึงอยากพักสายตาสักหน่อย เว่ยเซียวหยางที่กำลังจะล้มตัวลงนอนบนเตียงกับเห็นว่ามีสตรีหน้าตางดงามและดูเหมือนว่านางกำลังทุรนทุรายจากอาการบางอย่าง
เขารังเกียจสตรีมิใช่ว่าไม่มีใครรู้ ใครเอานางแพศยานี่มาไว้ในห้องเขากัน เว่ยเซียวหยางที่กำลังจะลุกออกไปก็ปรากฏว่าร่างกายของเขาเริ่มร้อนรุ่ม ตรงกลางลำตัวบวมและแข็งชันอยากปลดปล่อยออกมา ร่างงามบนเตียงบิดเร่าๆก่อนจะพยายามลุกมาหาเขา
“คุณชายช่วยข้าด้วย ข้ามรมานนัก อื้อ ข้าต้องการท่านได้โปรด ช่วยข้าที”
“อ่าห์..เจ้าเป็นใครกล้าวางยาข้าอยากตายมากหรือไง อ่าห์ สารเลวนักข้าจะตัดหัวเจ้า”
ซ่งจื่อเหยียนไม่ฟังเสียงตวาดของเขา นางปลดอาภรณ์ตนเองออกก่อนจะเดินมาหาเขากอดรัด เว่ยเซียวหยางผลักนางออกแต่ร่างกายนุ่มนิ่มกลับปลุกกำหนัดในกายเขาอย่างรุนแรง ให้ตายสิเขาถูกวางยาปลุกกำหนัดงั้นหรือ
“สตรีน่าตายเจ้ากล้าวางยาข้าหรือ อ่าห์ ข้าจะทำให้เจ้ารู้ว่าอะไรคืออยู่ไม่สู้ตายมานี่เลย”
ร่างบางถูกเหวี่ยงลงกลางเตียง ตอนนี้ซ่งจื่อเหยียนไม่รับรู้แล้วว่าเขาพูดอะไร นางต้องการเขาและต้องการอย่างมากด้วย เว่ยเซียวหยางไม่มีการเล้าโลมแต่อย่างใด เขาจับนางกางขาเรียวออกแล้วสอดใส่ทันที ซ่งจื่อเหยียนน้ำตาไหลพรากนางเจ็บมากนัก แต่นางกลับหยุดไม่ได้ร่างกายนางต้องการเขา
“อ่าห์ คุณชายแรงอีก แรงกว่านี้ อ๊า ข้าจะถึงอีกแล้วอ๊าย”
“อืม สตรีสารเลว อ่าห์ เสร็จกิจเมื่อไหร่ข้าจะฆ่าเจ้า นางสตรีแพศยา”
เว่ยเซียวหยางทั้งสอดใส่กระแทกกระทั้นตามอารมณ์ ซ่งจื่อเหยียนกระตุกเกร็งครั้งแล้วครั้งเล่าจนนางหมดแรง กว่าฤทธิ์ยาจะหมดก็ล่วงเลยไปถึงสองชั่วยาม งานเลี้ยงด้านนอกเลิกแล้ว ซ่งจื่อเหยียนที่หมดแรง และตอนนี้นอกอดก่ายอยู่กับเว่ยเซียวหยาง
ด้านนอกมีเสียงเรียกหานางไม่หยุด ซ่งซยาอวิ๋นทำทีร้องห่มร้องไห้ เว่ยหยางหมิงก็ตกใจ เขายอมรับว่าซ่งจื่อเหยียนงามมากนักยังคิดจะให้นางมาเป็นชายารองของเขาเลย นางหัวอ่อนไม่เหมาะกับตำแหน่งชายาเอก เมียรองพอได้อยู่ แต่ว่านางหายไปไหน เหมือนได้ยินสาวใช้ของคุณหนูรองบอกว่านางหนีไปกับคนขับรถม้า หากนางเป็นสตรีเช่นนั้นต่อให้งดงามเขาก็มิอยากได้ ซ่งซยาอวิ๋นมองหน้ากับอี้ถังสาวใช้ตนเองและมารดาก่อนจะเอ่ย
“อี้ถังเจ้าบอกว่าเห็นนางเดินมาทางนี้จริงๆหรือ นี่ดึกมากแล้วนางจะไปที่ใดได้ หรือว่านางหนีตามคนขับรถม้าของจวนไปจริงๆ คนขับรถม้าก็ไม่อยู่อีกด้วย พี่ใหญ่ท่านคึงไม่ทำเรื่องเลวร้ายไร้ยางอายหรอกนะ ฮือๆๆ”
"คุณหนูรองท่านอย่าร้องไห้อีกเลย นางไร้มารดาสั่งสอนจะทำตัวต่ำช้าก็ไม่แปลกนักหรอก ไปดูห้องนั่นเถอะเหลืออีกห้องที่ยังไม่ได้ค้น องค์หญิงหกได้หรือไมพ่ะย่ะค่ะ”
เหล่าคุณชายที่ไม่เคยเห็นซ่งจื่อเหยียนก็คิดว่าซ่งซยาอวิ๋นเป็นสตรีที่งามที่สุดในเมืองหลวง พวกเขาจึงพยายามเอาใจนาง
“นั่นเป็นห้องพักของเสด็จอา พวกเจ้ากล้าค้นหรือไม่เล่า”
เว่ยซูถิงหรือองค์หญิงหกเอ่ยถามบรรดาคุณชายที่เอ่ยถามนาง
“แต่ว่าหาตั้งนานยังไม่เจอ ลองดูเถอะหากชินอ๋องคาดโทษพวกเราค่อยขออภัยนะเพคะ”
ซ่งซยาจื่อมั่นใจว่าชินอ๋องไม่อยู่ ถ้าเจอนางแพศยานั่นกำลังเสพสมกับคนขับรถม้า และยังเป็นห้องรับรองชินอ๋องอีกด้วย หากเขารู้ซ่งจื่อเหยียนเจ้าไม่รอดแน่ๆ ท่านอ๋องเกลียดสตรีมิใช่ทั้งเมืองหลวงไม่มีใครรู้
ซ่งซยาจื่อช้อนสายตากล้าๆกลัวไปยังองค์ชายห้า ในที่สุดมือหนาของเขาก็ผลักประตูเข้าไปเอง ด้านในลงกลอนเว่ยหยางหมิงสะมือทีเดียวประตูก็เปิดออก ภาพที่ทุกคนเห็นนั้นทำเอาไม่อยากเชื่อสายตา
ชินอ๋องนอนกอดร่างสตรีที่เปลือยเปล่า มีเพียงไหล่มนที่พ้นผ้าห่มออกมา ด้านชินอ๋องผ้าห่มคลุ่มเพียงช่วงเอวลงไป เว่ยเซียวหยางลืมตาขึ้นมาก่อนจะกวาดสายตามองไปยังกลุ่มคนที่มามุงดูเขา จากนั้นก็เอ่ยเสียงกังวาน
“มีเรื่องอันใดน่าดูหรือ ไส หัว ไป!!”
ทุกคนรีบออกไปทั้งหมด องค์ชายห้าแอบผิดหวังเล็กน้อยนั่นสตรีที่เขาหมายตาเชียวนะ เขากำลังจะสู่ของนางแล้วเชียว กลับมานอนอยู่บนเตียงกับเสด็จอาได้อย่างไร
ซ่งซยาอวิ๋นเห็นว่าผิดแผนตนเอง ทำไมกลายเป็นชินอ๋อง คนขับรถม้าไปไหนกัน นางหันไปมองสาวใช้แต่นางส่ายหน้า ซ่งซยาอวิ๋นไม่รู้ว่าขันทีน้อยมาตามลู่กงกงตอนนั้น เพราะเห็นมีคนแปลกหน้าลักลอบมาด้านในตำหนัก เกรงว่าองค์หญิงจะมีอันตรายเลยให้คนมาจับตัวไป และยังไม่ได้ไต่สวน
หลี่ผิงอันมาส่งเหวินเมิ่งหรูกลับจวนเหวิน สวนทางกับขบวนของราชครูหยางที่มาสู่ขอเว่ยซูหนีว์ให้กับหยางตงหยาง ทั้งสี่คนหมั้นหมายจ้าวสาวของตนเองเรียบร้อยแล้ว เด็กสาวทั้งสี่ถูกเข้มงวดให้เรียนการเรือน และการปกครองเรือนเพราะอีกสองเดือนพวกเขาจะต้องแต่งงานแล้วทั้งสี่ตระกูลตกลงแต่งงานพร้อมกันวันเดียวกัน ทางด้านนักพรตทำนายฤกษ์ให้แล้วเรียบร้อย เว่ยเซียวหยางที่ปรับปรุงจวนนอกเมืองอยู่ก็กอดเมียรักที่ตามมาดูด้วย จวนกว้างกว่าพันหมู่จางจื่อเหยียนนำผลไม้มาลงปลูก ตามหาต้นชาชั้นดีบนภูเขามาปลูก ดอกไม่หลากหลายพันธุ์ เหมยกุ้ยสายพันธุ์เลื้อยบ่าวทำค่างให้เกาะเกี่ยวไปตามชอบรั้วยิ่งมองยิ่งงามมากนัก ด้านหลังสุดทำโรงเรือนเพราะอยู่ใกล้เชิงเขา เว่ยเซียวหยางตามใจพระชายาของตน นางเปิดโรงเรียนสอนเด็กๆมิได้ต้องการเงินทอง แต่เพื่อให้บิดามารดาเด็กเหล่านั้นได้ไปทำมาหากินสะดวกไม่ต้องกังวลเรื่องบุตร"เสี่ยวเหยียน..อยากได้อะไรเพิ่มเติมหรือไม่""ไม่เพคะ..เด็กๆเล่าไปเที่ยวเล่นบนเขายังไม่กลับมาอีกหรือ""ปล่อยพวกเขาเถอะ อีกสองเดือนก็แต่งงานกันแล้ว พวกเขาแปดคนคงรู้ตัวว่าต้องทำอย่างไร ว่าแต่เมียพี่เหนื่อยหรือไม่""ไม่เหนื่อยเพคะ กล่
ยามเฉินเหวินเมิ่งหรูตื่นมาล้างหน้าบ้วนปาก วันนี้นางมิต้องไปสำนักศึกษาท่านแม่บอกว่าจะมีเรื่องสำคัญให้นางอยู่บ้าน ทางด้านเหวินลี่ซินเองก็อยู่บ้านเช่นกัน สองคนพี่น้องได้แต่มองหน้ากันไปมา"ชิงชิงไปสืบมาหน่อยวันนี้ที่จวนมีเรื่องอันใด""คุณหนู..ท่านแม่คาดโทษท่านอยู่นะเจ้าคะ""หึ..ไม่สนใจหรอก อยู่ๆจะให้ข้าแต่งกับตาแก่ที่ไหนก็ไม่รู้ ข้าจะไปหาพี่เมิ่งหรู""เจ้าจะไปทำไมหรือ""ข้าจะหนีออกจากบ้าน หึ"เหวินลี่ซินชะงักเพราะเสียงที่ถามนางกลับมามิใช่เสียงของชิงชิง เหวินลี่ซินหันกลับไปก็เจอกับเว่ยจื่อห่าวยืนอยู่ ชิงชิงไปไหนแล้ว ดรุณีน้อยลุกขึ้นทันที นางไม่อยากมองหน้าคนใจร้ายคนนี้ เพราะเขามาฟ้องนางจึงถูกลงโทษคุกเข่าสามวัน ท่านแม่ยังให้สวดมนต์กินเจอีกเพื่อให้จิตใจสงบ หึ..สงบกับผีบรรพบุรุษน่ะสิ นางหิวจนแทบจะจับพี่สาวกินได้อยู่แล้ว เหวินลี่ซินเอ่ยอย่างไม่พอใจทันที"ท่านมาทำไมอาจารย์เว่ย""โอ้ว..สรรพนามเปลี่ยนไวจังลูกศิษย์ของข้า มิเรียกพี่จื่อห่าวแล้วหรือ""ไม่ล่ะ เราไม่ได้สนิทกันถึงเพียงนั้น"เว่ยจื่อห่าวอมยิ้มก่อนจะเดินมาหาคนตัวเล็กที่นั่งหน้างอแก้มป่องอยู่ เขานั่งลงข้างๆก่อนจะโอบไหล่บางมาหา บรรจงหอมแก้ม
ในห้องเหวินเมิ่งหรูนอนพลิกกายไปมา นางไม่อยากคิดถึงคนใจร้ายคนนั้นอีก หลี่ผิงอันคนใจดำเสียแรงที่นางทุ่มเทนางรักเขาแต่เขา ต่อไปอย่าหวัง แต่งงานกับเขาหรือไม่มีทางเสียหรอก นางจะไปให้เขายกเลิกการหมั้นหมายครั้งนี้"หึ..แต่งให้ท่านหรือไม่มีทาง ครั้งก่อนท่านผลักไสข้ามิใช่หรือ คนใจดำ"คนตัวเล็กข่มตาหลับไปแล้วแต่คนตัวโตยังไม่นอนเขากำลังคิดถึงเรื่องเมื่อสามเดือนก่อน ที่แม่ตัวดีก่อเรื่องขึ้นมาสามเดือนก่อนหน้าเหลาสุราเถาจิ่วจางเย่วหลีที่เปิดเหลาสุรากำลังนั่งนับเงินอยู่ วันนี้ต้องไปจัดการคิดบัญชีคำนวณส่วนแบ่งกับร้านย่อยต่างๆที่มารับสุราของนางไปขาย มีบางร้านเบี้ยวไม่จ่าย ร้านไหนกำไรน้อยนางให้ทยอย แต่ถ้าใครเบี้ยวนางก็ไม่เอาไว้เช่นกัน จางเย่วหลีเลี้ยงคนของตนเองไว้พอสมควรนางไม่ออยากใช้คนของสามี เหวินชางเป็นเจ้ากรมกลาโหม ทุกก้าวต้องระมัดระวัง นางไม่อยากให้พวกหัวเก่าเอาเรื่องเหล่านี้ไปหาเรื่องสามีในท้องพระโรงได้ เจ้าตัวดีเหวินเมิ่งหรูวันนี้ไม่ไปเรียนหนังสือ ขอนอนอยู่ที่จวนแต่ตกบ่ายกลับมาเสนอหน้าที่ร้านน่าตียิ่งนักหลี่ผิงอันพาลูกน้องที่ทำผลงานได้ดีครั้งที่แล้วปราบปรามพวกโจรขโมยเด็กและค้ามนุษย์ได้ยกกลุ่
เด็กทั้งสี่คนถูกลงโทษให้คุกเข่าที่หอบรรพบุรุษของแต่ละจวนเป็นเวลาสามวัน จากนั้นพวกนางต้องคัดกฎสกุลของตนเอง เหวินชางที่กำลังกลับมาจากไปทำงานให้ฝ่าบาทมาถึงเมืองหลวงก็นั่งที่โรงน้ำชา เขาสวมหมวกฟางเอาไว้ยังไม่ได้ถอดออกมาเสี่ยวเอ้อรีบมารับหน้าก่อนจะถามเขาว่ารับสิ่งใด เขาสั่งน้ำชาหนึ่งกาพร้อมกับอาหารสามสี่จาน แม้จะคิดถึงจางเย่วหลีกับบุตรสาวและบุตรชายแต่ลูกน้องยังไม่ได้กินข้าวจำต้องหยุดรั้งที่ร้านอาหาร กระทั่งมีบางอย่างเข้าหูเขา"นี่เจ้ารู้ไหม..ผู้ตรวจการหลี่สามวันก่อนอุ้มสตรีงดงามออกมาจากตรอกหลังตลาดด้วยล่ะ""หา..ได้ยินว่าที่บ้านเขาไร้สาวใช้ข้ายังนึกว่าเขาจะชอบบุรุษด้วยกันเสียอีก""ได้ยินว่าสตรีคนนั้นอ่อนระโหยโรยแรงจนเดินไม่ไหว ไม่รู้เข้าไปทำอันใดในตรอกแห่งนั้นกัน ฮ่าๆๆๆ""ชู่..จุ๊ๆๆ...อย่าเสียงดังไป สตรีที่ใต้เท้าหลี่อุ้มออกมาคือคุณหนูเหวินบุตรสาวคนโตเจ้ากรมกลาโหมเหวินชาง คุณหนูเหวินเมิ่งหรูน่ะ""ห๊า..จุ๊ๆๆ เช่นนั้นอาจไม่มีอะไรพวกเขาเป็นน้าหลานกัน""น้าหลานอันใด พวกเขาไม่มีสัมพันธ์ทางสายเลือดสักหน่อย""ฺฮ่าๆๆ เรื่องนี้คนซุบซิบกันทั่วเมืองหลวง เกรงว่าคุณหนูเหวินคนนั้นคงได้แต่แต่งกับชายแก่หร
เหวินเมิ่งหรูวิ่งแยกออกมาอีกทาง ตอนนี้นางแทบจะถอดรองเท้าวิ่งด้วยซ้ำ เมื่อมาถึงตรอกทางแยกนางจึงเลือกตรอกที่ไปคนละทางกับสำนักศึกษา วิ่งจนมาเกือบพ้นปากตรอกก็ขนเข้ากับอะไรบ้างอย่างที่แข็งๆ เหวินเมิ่งหรูเจ็บจนแทบน้ำตาร่วง นางตวาดออกมาทันที"โอ๊ย เดินดูทางสิวะ ข้ารีบไม่เห็นหรือไง"ร่างเล็กคลำจมูกตนเองนางเจ็บมาก คนตัวสูงที่ยืนมองนางอยู่ก็ข่มอารมณ์ก่อนจะเอ่ยออกมา"โอ่ว..รีบมากไหมเหวินเมิ่งหรู เรียนหนักจนหัวหูมีแต่เศษดินเศษหญ้าเชียวหรือ อีกอย่างทางนี้คนละทางกับสำนักศึกษานี่"เหวินเมิ่งหรูจำเสียงเขาได้ทันที ให้ตายสิเขาไม่ได้อยู่กับเจ้าหน้าที่พวกนั้นบนเขาหรือ นางถึงกับลอบกลืนน้ำลายก่อนจะเงยหน้า นางเอ่ยตะกุกตะกัก"ทะ ท่านน้าคือว่าข้าๆ ว้าย" หลี่ผิงอันจับสาวน้อยแบกขึ้นบ่าทันที"ท่านน้าท่านทำอะไร แบกข้าทำไม่ปล่อยข้าลงนะ ตาเฒ่าหลี่ โอ๊ยยย เจ็บนะท่านตีก้นข้าทำไมเพียะ เพียะ เพียะ หลี่ผิงอันฟาดก้นนางไม่นับเลยทีเดียว ปากคอเราะรายวาจาน่าเกลียดเหลือทน เหวินเมิ่งหรูร้องไห้ออกมา นางถูกเขาแบกจนห้อยหัวลงมา สายตามองเห็นแต่พื้นอิฐของถนนในเมืองหลวง ไม่กล้าเอ่ยอันใดอีกเลย เขาใจร้ายท่านพ่อกับท่านแม่ยังไม่เคยตีนาง
ทั้งสี่สาวเข้าเรียนปกติ จนกระทั่งพักกลางวันเมื่อกินข้าวกันเรียบร้อยแล้วก็เริ่มกระซิบกระซาบกันปากต่อปาก เว่ยซูหนีว์เดินออกไปก่อนตามด้วยน้องสาว เหวินเมิ่งหรูไปหาท่านลุงที่ตรอกตรงข้ามกับสำนักศึกษาก่อนจะรับเอากระบอกไม้ไผ่มาสี่อันไม่นานเด็กในสำนักศึกษากว่าสามสิบคนก็มาอยู่บนเนินเขาหลังสำนัก โจวผิงบุตรชายคหบดีของเมืองหลวงเอากระบอกไม้ไผ่ของตนเองออกมา จากนั้นเด็กๆก็เริ่มวางเดิมพัน"พวกเจ้าพนันข้างไหนกันมาๆข้าวางข้างคุณชายโจว""ข้าวางข้างท่านหญิง""มาๆวางๆเริ่มที่สองร้อยอีแปะพวกเจ้าวางเท่าไหร่""ข้าห้าร้อยอีแปะ""ข้าแปดร้อย""ข้าหนึ่งตำลึง""ข้าลงสองร้อยตำลึง"เมื่อวางเดิมพันเรียบร้อยทั้งสองคนก็เริ่มเปิดกระบอกไม้ไผ่ที่เจาะรูเอาไว้เทเอาจิ้งหรีดออกมาลงในสนามที่พวกเขาสร้างวเอาไว้ เมื่อทั้งสองตัวลงมาเจอก็นก็เริ่มสู้กันเอาเป็นเอาตาย เด็กๆส่งเสียงฌอลั่น จิ้งหรีดของเว่ยซูถิงกำลังจะแพ้ พวกนางลุ้นจนตัวเกร็ง สุดท้ายโจวผิงก็ชนะ"เอาใหม่ ตานี้เอาของข้า โจวผิงเจ้าจะลงอีกไหมกลัวหรือเปล่า""เหอะคุณหนูเหวิน ท่านดูถูกใครกันมาสิเอาของท่านออกมา""หึข้าไม่เอาเปรียบเจ้าจะเปลี่ยนตัวไหม"เหวินเมิ่งหรูกอดอกยืนเดาะปาก
Komen