เมื่อหญิงสาวในยุคปัจจุบัน ได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตอีกครั้งเพื่อพบกับรักแท้ที่รอคอยเธออยู่ จ้าวชิงชิง หญิงสาวผู้มีพรสวรรค์เกี่ยวกับความงาม เธอมีฐานะร่ำรวยและมีความสามารถและพรสวรรค์ของเธอ เธอคิดค้นครีมและสิ่งของบำรุงผิวพรรณเกี่ยวกับความงามทั้งชายและหญิง จนร่ำรวยจนไม่มีใครเทียบเธอได้เธอฉลาดและเก่ง แต่ทว่า โชคชะตาช่างโหดร้ายนัก สามีที่เธอแต่งงานด้วยเกือบสองปี นอกใจและรวมหัวกับเพื่อนสนิทของเธอฆ่าเธอเพื่อชิงสมบัติ ความรู้สึกนึกคิดสุดท้ายของเธอจบลงที่ตรงนั้น จ้าวชิงชิงตื่นขึ้นมาในยุคสมัยของราชวงศ์ต้าโจว ที่มีฮ่องเต้นามว่า จ้าวชิงเฟย และมีพระโอรสสองพระองค์นามว่า จ้าวจิ้งเทียน และ จ้าวเฟยหรง จ้าวชิงชิงตื่นมาอยู่ในร่างของหลิวลี่เซียน บุตรสาวคนโตของตระกูลหลิวที่งดงามเพรียบพร้อมแต่ขี้โรคและอ่อนแอนัก และมีน้องสาวฝาแฝดนามว่าหลิวลี่ซือที่ภายนอกดูเรียบร้อยอ่อนโยนแต่ร้ายกาจยิ่งนัก
View MoreWarning Mature Content‼️ Rated: 18 ‼️
Giselle's POV “TUMAYO ka na d’yan, Giselle! ‘Wag kang umiyak nang umiyak d’yan. Wala na! Hindi na matutuloy ang kasal mo!” malakas na bulyaw ni Mama habang panay ang hagulhol ko. Parang hindi ko siya naririnig. Nakasalampak pa rin ako sa malamig na semento at humahagulhol na parang nawawala na ako sa sarili. Mababaliw talaga ako kapag iniwan ako ni Wellar. Sobrang kahihiyan ang ginawa niya. Kanina pa ako naghihintay sa simbahan at magpahanggang ngayon ay wala pa siya. Nag-alisan na ang mga tao at bisita namin. Pati si Father na dapat ay magkakasal sa amin ni Walter ay umalis na rin. Kami na lang ni Mama ang natira rito sa loob. At eto ako, nakaluhod at halos mamatay sa sobrang kahihiyan. Nasayang pa pati lahat ng ginagastos ko sa pesteng kasal na 'to. Inubos ko ang lahat ng savings ko, nakautang na rin ako para sa kulang. Pero hindi rin pala matutuloy dahil hindi na sisipot si Walter. Sumama siya sa sekretarya niya. Sobrang durog na durog ang puso ko. Paano nagawa ni Walter ‘to sa akin? Akala ko mahal niya ako. Magpapakasal pa kaming dalawa, at napakatagal na namin itong pinagplanuhan. Dalawang oras na akong naghihintay. Dalawang oras, pero hindi pa rin siya dumarating. Iniwan niya ako. Kasal namin ngayon, pero hindi siya nagpakita. Kagabi lang masaya pa kaming nagpaalam sa isa’t isa. Ngayon, bigla-bigla na lang niya akong hindi sisiputin? Ang g*go niya para paasahin ako nang ganito. Napakasama niya para lokohin ako, kami ni Mama. Akala ko totoo ang lahat ng ipinapakita niya. Pero lahat ng iyon pala ay puro pakitang-tao lang. Hilam ng luha ang mga mata ko nang tumingin ako kay Mama. Kalat-kalat na ang make up ko sa mukha. “Ma, baka na-traffic lang po si Walter. Konting oras pa po. Sabihan mo si Father, pupunta po ‘yon si Walter. Tuloy ang kasal namin. Hindi niya ako puwedeng iwanan nang ganun lang. Mahal ako ni Walter,” pakiusap ko kay Mama. Pero alam ko, pinapaniwala ko lang ang sarili ko na matutuloy pa rin ang kasal. Kahit wala nang pag-asa. Limang taon na kaming may relasyon. Since senior high. Siya ang first love ko at first boyfriend. At ngayon, siya rin ang unang pinakamasakit na heartbreak ko. Sobrang sakit na halos para akong mamatay. Kami ang bumuo ng lahat ng plano para sa araw na ‘to. Pero nasaan siya? Umiling si Mama, bakas ang awa sa mga mata. “Dalawang oras na tayo rito. Kung pupunta siya, kanina pa sana. Anak, tanggapin mo na… niloko ka ni Walter. Hindi na siya sisipot. Tumayo ka na, umuwi na tayo. Please.” Ayaw ko pang tanggapin sa sarili ko. Kahit anong sabihin ni Mama, hindi ako aalis. Maghihintay ako. Baka dumating si Walter tapos nakauwi na ako. Magkasalisihan pa kaming dalawa. Napasabunot ako sa aking buhok. Lalo kong binibigyan ng false hope ang sarili ko sa mga naiisip ko. “No! Dadating siya, Ma. Nangako siya sa ‘kin. Ang sabi niya, ikakasal kami at magkakaroon ng maraming anak. Ang dami naming pangarap na dalawa,” iyak ko habang dumadaloy ang luha na parang di na mauubos. Napaharap ako sa altar. Diyos ko, ibalik Mo siya sa akin. Kahit lumuhod at magmakaawa ako, huwag Mo lang akong pabayaan na ganito ka-durog, nausal kong panalangin. Baka sakali na bumalik si Walter sa akin. Itutuloy namin ang mga pangarap namin. Umupo si Mama sa tabi ko at niyakap ako. “I’m sorry, Giselle. Si Walter at si Lorraine ay magkasama silang umalis. Hindi alam ng kahit sino kung nasaan sila. Pero, may nakapagsabi na lumabas sila ng bansa. Kanina ko pa gustong sabihin ito. Pero alam kong guguho ka kapag nalaman mo kung bakit hindi ka sinipot.” Para akong binuhusan ng malamig na tubig. Nanlaki ang mga mata ko. “Sigurado ka ba, Ma?” Hindi ko matanggap. Hindi magagawa ni Walter sa akin 'to… lalo na si Lorraine. Kilala ko siya, e. Close na kami at madalas mag-usap kapag nasa opisina ako ni Walter." Tumango si Mama at parang pinagsakluban ako ng langit at lupa. Pinagkatiwalaan ko silang dalawa. Yun pala, sa likod ko… pinagtataksilan nila ako. Iyong mga ngiti ni Lorraine sa akin ay peke pala at ang mga ipinapakita ni Walter ay puro pagpapanggap lamang. Pinasakay lang talaga ako. Wala naman silang makukuha sa akin. Umupo si Mama at pinantayan ako. Marahan niyang hinagod ang likod ko. “Anak, bumangon ka d'yan. Huwag mong hayaan na lamunin ka ng sakit na ‘to. Naiintindihan ko na hindi ito madaling paniwalaan. Pero kailangan mong magpakatatag. Huwag mong ibaba ang sarili mo dahil nawalan ka. Mahal kita at ayoko na nakikita kitang sirang-sira. Nandito lang ako para sa'yo. Kayanin mo at alam kong kaya mo." Mas lalong dumaloy ang malakas na agos ng luha ko sa narinig ko kay Mama. Siya na lang ang magiging karamay at kakampi ko. “Mama…” mahina kong bulong, sabay yakap sa kanya.หลิวลี่เซียนค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ความรู้สึกอ่อนเพลียและเหนื่อยล้าถาโถมเข้าใส่ร่างกายของนางอย่างตั้งรับเอาไว้แทบไม่ทัน"ดื่มน้ำก่อนนะคะ คุณหนู"หลิวลี่เซียนหันไปมองก่อนจะพบเข้ากับเลขาหวัง เลขาประจำตัวของนางที่เพิ่งจ้างเข้ามาทำงานให้เมื่อห้าปีก่อนเดี๋ยวนะ!! นี่มันเรื่องอะไรกัน?หลิวลี่เซียนยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มด้วยความหิวกระหาย ก่อนจะมองสังเกตไปโดยรอบ ก็พบว่าตอนนี้ตนเองกำลังใส่ชุดของโรงพยาบาลอยู่นี่มันเกิดอะไรขึ้น? นางย้อนกลับมาร่างเดิมเช่นนั้นหรือ?หลิวลี่เซียนยกมือขึ้นบีบหว่างคิ้วที่ปวดหนึบขึ้นมาเสียดื้อๆ ความคิดมากมายประเดประดังเข้ามาในหัวของนางอย่างไม่จบไม่สิ้น"คุณหนูชิงชิงคะ อีกเดี๋ยวคุณหมอคงจะมาแล้วค่ะ""เลขาหวัง""คะคุณหนู?""ข้า เอ่อ ฉันหลับไปนานเท่าไร แล้วที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง?"เลขาหวังขมวดคิ้วมอง 'จ้าวชิงชิง' ด้วยแววตาสงสัย แต่ก็ยอมเอ่ยปากเล่าให้เธอฟังทุกเรื่องเลขาหวังเล่าว่า คุณพ่อของจ้าวชิงชิงโทรมาหาเลขาหวังกลางดึกให้รีบพาตำรวจมาที่บ้านโดยด่วนที่สุด เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรท่านประธานจึงให้เรียกตำรวจเข้าไปในเวลาดึกดื่นเช่นนี้แต่เมื่อเธอไปถึงก็พบว่าหลี่เย่สามีของจ้าว
ภายในคุกหลวงที่มืดมิดไร้ซึ่งแสงไฟส่องสว่าง ปรากฏร่างของเหมยฮวาชิงที่นอนดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้นที่มีหนูตัวน้อยใหญ่ไต่ยั้วเยี้ยไปมาอย่างน่าขนลุก"ได้เวลาดื่มยาพิษแล้ว"เสียงผู้คุมคุกหลวงที่นางได้ยิน ราวกับเสียงแห่งขุมนรกกำลังเรียกร้องหานาง นางไม่อาจจะยอมรับได้เลยว่า สุดท้ายแล้วนางต้องมาตกตายด้วยยาพิษที่ตนเองเป็นคนสร้างมันขึ้นมาด้วยมือของนางเองหลังจากเหมยฮองเฮาตายจากไปแล้ว ก็มีคำสั่งให้ประหารคนตระกูลเหมยจนสิ้นซาก ไม่เหลือรอดแม้เพียงคนเดียว บ่าวไพร่ถูกโบยจนตกตายไปตามกัน ป้ายคำสั่งทหารนับแสนนายที่เคยอยู่ในมือของท่านพ่อก็ถูกยึดคืนสู่ราชสำนักไปหมด จ้าวจิ้งเทียนช่างโหดร้ายยิ่งนัก เขาถอนรากถอนโคนตระกูลเหมยจนสิ้นซากไร้การได้ลืมตาอ้าปากอีกครั้งจวนตระกูลเหมยถูกยึดเป็นสมบัติคลังหลวง ตระกูลเหมยที่เคยโอ่อ่าใหญ่โต อำนาจบารมีล้นฟ้า ไม่มีผู้ใดกล้าต่อกรด้วย สุดท้ายแล้วกลับหายสาบสูญตายจากไปอย่างไม่เหลือรอดแม้แต่คนเดียวเหมยฮวาชิงถูกกรอกยาพิษทุกวัน วันละสามมื้อ หลิวลี่เซียนช่างจิตใจอำมหิตจนน่าหวาดกลัวเหมยฮวาชิงดิ้นทุรนทุราย ดวงตาเบิกโพลงกระอักเลือดออกมาคำโต ช่วงชีวิตสุดท้ายของนางนั้น นางนึกหวนย้อนไปถึง
รัชศกจิ้งเทียนปีที่หนึ่งหลิวลี่เซียนกำลังนั่งอยู่ที่หน้ากระจกมองดูตนเองถูกเหล่านางกำนัลจัดแต่งอาภรณ์ให้ด้วยความใส่ใจ นางยกยิ้มมุมปากมองดูสตรีที่สูงส่งตรงหน้าด้วยสายตาพอใจ นี่ใช่นางจริงหรือ? ราวกับฝันไปเสียจริงๆ"ได้เวลาแล้วเพคะฮองเฮา"หลิวลี่เซียนพยักหน้าก่อนจะมองไป๋หลางด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ไป๋หลางนั้นได้เลื่อนขั้นเป็นนางกำนัลคนสนิทของหลิวลี่เซียนคอยรับใช้อยู่ข้างกายนางหลิวลี่เซียนนั่งอยู่บนเกี้ยว มองดูเหล่าขันทีนางกำนัลหมอบกราบทำความเคารพนางด้วยสายตาอ่อนโยนมีเมตตา เสียงดนตรีบรรเลงขับขาน ช่างฟังแล้วให้ความรู้สึกตื้นตันในใจเหลือคณานางกับจ้าวจิ้งเทียนอภิเษกสมรสกันเมื่อสองเดือนก่อน หลังจากที่ไท่ซังหวงทรงสละราชสมบัติ จ้าวจิ้งเทียนจึงแต่งตั้งนางขึ้นเป็นฮองเฮาหลิวฮองเฮาสวมชุดสีแดงปักลายหงส์คู่มังกร แถบเซี๊ยะเพ่ยปักลายหงส์พิลาสคู่ มงกุฎหงส์เป็นรูปแบบดั้งเดิมของราชวงศ์ต้าโจว มีหงส์รำแพนคู่หนึ่งตัว ด้านข้างคือหงส์พิลาสข้างละหนึ่งตัว ประดับด้วยทับทิมและอัญมณี ส่งเสริมให้พระนางดูงามสง่าและน่าเกรงขามยิ่งนัก ใบหน้าที่งดงามดูทรงอำนาจชวนมอง ทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นไม่สามารถละสายตาจากนางไปได้ฮ่องเต้จ้
หลิวลี่ซือจ้องมองร่างอันไร้ซึ่งลมหายใจของเหมยฮองเฮาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะใช้ผ้าปิดบังใบหน้า แล้วเดินก้มหน้าก้มตาออกมาจากคุกหลวงโดยไร้ซึ่งพิรุธใดๆ นางเดินไปอย่างไม่รีบไม่ร้อน ชื่นชมบรรยากาศภายในวังหลวงยามค่ำคืนอย่างสงบเยือกเย็นคืนนี้พระจันทร์ช่างงดงามเหลือเกิน ท่านแม่เจ้าคะ ป่านนี้ท่านคงกำลังชื่นชมข้ากับท่านพี่ลี่เซียนอยู่บนสรวงสวรรค์ใช่หรือไม่?รุ่งเช้าข่าวการตายอย่างปริศนาของเหมยฮองเฮาก็เป็นที่โจษจันกันไปทั่วทั้งวังหลวง สภาพศพช่างน่าเวทนาและน่าขยะแขยงไปในคราเดียวกัน อดีตฮองเฮาพระองค์นี้ช่างอายุสั้นยิ่งนัก เพิ่งจะได้เสวยความสุขอยู่ในตำแหน่งที่สูงสุดได้ไม่นาน ก็ร่วงตกลงมาสู่ความตายเบื้องล่างอย่างน่าอนาถในที่เกิดเหตุพบผ้าคลุมผืนหนึ่งปักตัวอักษรฮวาชิงเอาไว้ คาดว่าน่าจะเป็นของฆาตกรที่ใช้ฆ่าอดีตฮองเฮา ผู้คุมคุกหลวงถูกสอบสวนอย่างหนัก เขาให้การว่ามีนางกำนัลของตำหนักพระชายารององค์รัชทายาทมาขอพบกับอดีตฮองเฮา บอกว่าพระชายารองให้นำสิ่งของมามอบให้อดีตฮองเฮา หลังจากที่นางกำนัลผู้นั้นเดินออกมา อดีตฮองเฮาก็กลายเป็นศพไปเสียแล้ว กว่าจะทราบว่านางตายก็เกือบจะรุ่งสางของอีกวันเหมยฮวาชิงถูกควบคุมตัวมา
จ้าวเฟยหรงมองเหมยฮองเฮาด้วยแววตาเย็นเยียบ บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนที่เขารักยิ่ง นางถึงกับกล้ามาวางยาพิษเชียวหรือ ช่างบังอาจเทียมฟ้ายิ่งนัก!!!"นังคนสารเลว!!!""หึ!! ไม่ใช่แค่บุตรชายของเจ้านะ แม้แต่แม่ของเจ้าก็ถูกข้าวางยาพิษมานานเสียจนร่างกายอ่อนแอ อีกไม่นานนางคงจะไปสู่ปรโลกอย่างเป็นสุขพร้อมกับบุตรชายของเจ้า ฮ่าาๆๆๆ""นังคนสารเลว สุดท้ายเจ้าก็หลุดปากออกมาทั้งหมดว่าเจ้าเป็นคนทำ!!!""แล้วอย่างไรเล่า!! ข้าเป็นคนทำเรื่องทั้งหมดด้วยตนเอง คนในตระกูลข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง"จ้าวจิ้งเทียนส่งเสียงเฮอะในลำคอ ใครเชื่อนางก็บ้าเต็มทนแล้ว เขามองนางด้วยสายตาดูแคลนก่อนจะเอ่ยปากกับนาง"คนในตระกูลของเจ้าจะมีส่วนรู้เห็นในความเลวของเจ้าหรือไม่นั้น ข้าจะเป็นคนสืบหาเอง!!!"จางอิงอิงมองเหมยฮองเฮาก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก นางค่อยๆ ย่องไปทางด้านหลังของเหมยฮองเฮาด้วยฝีเท้าที่เบาเป็นอย่างยิ่ง ก่อนจะใช้เข็มเงินอาบยาพิษแทงเข้าไปที่ต้นคอของเหมยฮองเฮาฉึก!!!"อ๊าาาา"หลิวลี่เซียนอาศัยช่วงเวลาชุลมุนนี้ กระทุ้งศอกไปที่ปลายคางของเหมยฮองเฮาอย่างแรงจนนางมึนงง เซถลาใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความทรมาน"จับนางไว้!!!"เหล่าทหารจับ
หลิวลี่เซียนยื่นมือไปทุบประตู หวังจะร้องขอความช่วยเหลือ แต่กลับพบว่ามันร้อนเสียจนนางต้องรีบชักมือกลับ ควันสีขาวภายในห้องยิ่งพวยพุ่งมากขึ้นจนนางรู้สึกจุกแน่นที่จมูกและเริ่มหายใจไม่ออก นางถอยหลังออกมาทรุดตัวลงนั่ง สติเริ่มรางเลือนลงไปทุกขณะ"ชิงชิง"หลิวลี่เซียนพยายามประคองสติและเงยหน้าไปมอง ร่างของนางถูกจ้าวจิ้งเทียนช้อนตัวอุ้มขึ้นมาไว้ในอ้อมอก ก่อนที่เขาพานางพุ่งทะยานออกมาจากเรือนที่ไฟกำลังไหม้ลุกโหม"แค่ก แค่ก""เป็นอย่างไรบ้าง"หลิวลี่เซียนพยักหน้าน้อยๆ นางเองรู้สึกดีขึ้นไม่น้อยที่ได้ออกมาจากควันสีขาวที่ลอยคลุ้งเช่นนั้น"ท่านมาได้อย่างไร""ข้ารู้สังหรณ์ในใจว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีกับเจ้าก่อนถึงวันแต่งงานของเรา ข้าคาดเดาไว้ไม่ผิดเลย พวกมันลงมือรวดเร็วยิ่งนัก""ลี่เซียน เจ้าไม่เป็นอะไรนะ""ท่านพี่ ข้าปลอดภัยดีเจ้าค่ะ ซินฮวาเล่า""นางสำลักควันจนหมดสติ หมอหลวงกำลังดูอาการอยู่""เหตุใดไฟจึงไหม้ได้เจ้าคะ""คาดว่าเหมยฮองเฮาคงจะลงมือแล้ว สายสืบภายในของข้าที่แฝงอยู่ในตำหนักนางถูกนางสังหารจนสิ้นไปเสียแล้ว"หลิวลี่เซียนใจหล่นวูบ นางมองจ้าวฝูหมิงด้วยสายตาเป็นกังวล จ้าวฝูหมิงรับรู้ในความกังวลของน
Comments