ภรรยามิเป็นที่ต้องตาของสามีย่อมไร้อำนาจ แล้วอย่างไรเล่า!!!นางต้องทนเขาหรือ เขาก็อยู่ส่วนเขา นางก็อยู่ส่วนนาง หากเขาดูแคลนนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า นางก็พร้อมไฟต์นะบอกเลย!!! ฮ่องเต้โฉดผู้นี้นางจะไม่ยอมเขาอีก!!! #พระเอกเรื่องนี้ ปากร้าย ดิบ เถื่อน เจ้าอารมณ์ เด้อเจ้าค่ะ เพราะแฝดน้อง สวีหลานฮวา หนีการแต่งงานไปอย่างไร้ร่องรอย ทำให้แฝดพี่ นามว่า สวีเหลียนฮวา ต้องแต่งงานกับ อวิ๋นซีเฉิน ฮ่องเต้ปากร้าย อีกทั้งยังหลงตัวเองเป็นอย่างมาก และชอบดูถูกดูแคลนนางไม่เว้นวัน เขาทั้งกลั่นแกล้งและเห็นนางเป็นที่รองรับอารมณ์ และยังชอบแอบมองหน้าอกนางอีกด้วย!!! แต่ทว่านานวันเข้า เมื่อความเกลียดชังเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความผูกพัน ความคลั่งรักแบบไม่ลืมหูลืมตาจึงบังเกิดขึ้น
View Moreเมืองหลวงต้าเทียน
รัชศกซีเฉินปีที่5
ฮ่องเต้นามว่า อวิ๋นซีเฉิน
เมืองหลวงต้าเทียนแห่งนี้ คือเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ท่ามกลางแคว้นทั้งสี่ ประกอบไปด้วยแคว้นฉินตั้งอยู่ทางทิศเหนือ แคว้นหาน ตั้งอยู่ทางทิศใต้ แคว้นเยี่ยนตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก และแคว้นเย่ว์ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก เมืองต้าเทียนโอบล้อมไปด้วยภูเขาและต้นไม้มากมาย ให้ความเย็นสบายตลอดทั้งปี อีกทั้งยังโอบล้อมด้วยแม่น้ำฉางเจียง ซึ่งให้ความอุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งปี เมืองต้าเทียนจึงอุดมไปด้วยเสบียงอาหารที่พร้อมสรรพ และนับเป็นเมืองมหาอำนาจที่สุดในสี่แคว้น
หยาดน้ำฝนที่ตกลงมาเป็นสาย สลับกับสายลมที่พัดมาเป็นครั้งคราว ทำให้ต้นไม้ดอกไม้น้อยใหญ่ต่างเปียกชุ่มฉ่ำและเขียวขจีชวนมอง ราวกับหยาดน้ำทิพย์จากแดนสวรรค์ที่ส่งมาปลอบประโลมดินแดนมนุษย์
สตรีนางหนึ่งกำลังนั่งเหม่อมองไปที่ด้านนอกหน้าต่าง ดวงตาคู่สวยทอดมองไปยังสระน้ำที่ยามนี้ดอกเหลียนฮวาหลากสี (ดอกบัว) กำลังเบ่งบานรับหยาดฝนอย่างงดงาม มือเรียวสวยยื่นออกไปรองรับหยาดฝนที่ตกลงมาไม่ขาดสายที่ด้านนอกหน้าต่างด้วยแววตาที่เศร้าหมอง
หลายวันก่อน
"พี่เหลียนฮวา ข้ายังมิอยากอภิเษกสมรสกับฝ่าบาทเลยเจ้าค่ะ"
สวีเหลียนฮวาหันไปมองสาวน้อยที่ทำน้ำเสียงออดอ้อนนางพร้อมกับซบใบหน้าลงมาที่หัวไหล่ของนางราวกับเด็กน้อยที่กำลังขอขนมกินไม่มีผิด
"หลานฮวา พี่ดีใจกับเจ้าด้วย สตรีทั่วทั้งเมืองหลวงต่างอิจฉาเจ้า ฝ่าบาทเองก็ทรงชื่นชอบเจ้าเป็นอย่างมาก เทศกาลซีซีปีที่ผ่านมา เจ้าเข้าร่วมแข่งขันศิลปะหลายแขนง จนสามารถเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งแห่งต้าเทียนได้ ฝ่าบาทจึงทรงอยากรับเจ้าเข้าไปเป็นฮองเฮาในวังหลวง"
สวีหลานฮวาเบ้ปากอย่างไม่เห็นด้วย นางเองยังมิอยากแต่งงานเลยด้วยซ้ำ ยามนี้นางเพิ่งจะอายุครบสิบเจ็ดปีเต็ม นางยังอยากท่องเที่ยวไปในโลกกว้าง ยังคงอยากจะใช้ชีวิตอย่างอิสรเสรีมากกว่าการถูกกักขังอยู่ในวังหลวงแห่งนั้น
จวนตระกูลสวีเป็นจวนที่มีอำนาจมากที่สุดในเมืองต้าเทียน สวีเจียงเสวี่ย ผู้เป็นบิดาของสวีเหลียนฮวาและสวีหลานฮวานั้น ดำรงตำแหน่งเป็นท่านแม่ทัพใหญ่แห่งต้าเทียน ตระกูลสวีสืบทอดอำนาจทางการทหารมาหลายชั่วอายุคน อีกทั้งยังเป็นสหายรักกับฮ่องเต้พระองค์ก่อนอีกด้วย
สวีเหลียนฮวาเป็นพี่สาวฝาแฝดของสวีหลานฮวา แม้จะมีใบหน้างดงามเหมือนกัน แต่ทว่านิสัยกลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
สวีเหลียนฮวา เป็นสตรีที่เรียบร้อย และขี้กลัว นางเองมิมีความสามารถใดใดเลย อีกทั้งยังมิเป็นที่ชื่นชอบของบิดาอีกด้วย เพราะนางอ่อนแอมิสมกับเป็นบุตรีของเขาเลยแม้แต่น้อย
แต่ทว่าสวีหลานฮวากลับเป็นสตรีที่งดงามและเพียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง นางเก่งทั้งดีดพิณ คัดอักษร หมากรุก และร่ายรำ เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนที่ได้พบเห็นเป็นอย่างมาก
แต่ถึงอย่างนั้น สวีเหลียนฮวาก็ไม่เคยอิจฉาริษยาสวีหลานฮวาเลยแม้แต่น้อย นางมิคิดต่อสู้แย่งชิงความโปรดปรานใดใดจากใครเลยด้วยซ้ำ
สวีเหลียนฮวายื่นมือสวยไปลูบเส้นผมดำสลวยของสวีหลานฮวาด้วยแววตารักใคร่ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนน่าฟัง
"หลานฮวา เจ้าน่ะโชคดีมากนะรู้หรือไม่?"
"โชคดีอย่างไรกัน ข้าน่ะยังมิเคยเห็นพระพักตร์ฝ่าบาทเลยด้วยซ้ำ อีกทั้งข้ายังเคยได้ยินผู้คนเขาเล่าลือกันว่า ฮ่องเต้พระองค์นี้ทรงจิตใจอำมหิตที่สุด แค่คิดข้าก็รับไม่ได้แล้วเจ้าค่ะ!!!"
สวีหลานฮวาส่ายหน้าไปมาอย่างไม่เห็นด้วย หลังจากจบเทศกาลซีซีเมื่อปีที่แล้ว นางก็ได้รับราชโองการจากวังหลวง ว่าฮ่องเต้จะทรงรับนางเข้าวังหลวงไปเป็นฮองเฮา แม้ว่าเขาจะดูรูปงามราวเทพสวรรค์แต่ชื่อเสียงของเขานั้นน่าหวาดกลัวเสียจนใจสั่น จะให้นางแต่งได้อย่างไรเล่า!!!
"หลานฮวา เจ้าอย่าเพิ่งคิดไปไกลนักเลย ฝ่าบาทน่ะ ทรงมีเมตตาเป็นอย่างมากนะ"
"พอเถิด!!! พี่เหลียนฮวา ข้ามีเรื่องอยากขอให้ท่านพี่ช่วยเจ้าค่ะ"
"เรื่องใดหรือ?"
"พี่เหลียนฮวา ช่วยอภิเษกกับฝ่าบาทแทนข้าได้หรือไม่เจ้าคะ!!!"
เพล้ง!!!
ถ้วยชาในมือของสวีเหลียนฮวาร่วงตกลงพื้นด้วยความตกใจ สวีหลานฮวาที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบถลึงตามองแฝดผู้พี่ทันที
"เบา ๆ สิเจ้าคะ เดี๋ยวท่านแม่ก็มาได้ยินเราสองคนพูดคุยกันจนได้!!!"
"หลานฮวา พี่..."
"ท่านพี่ เพียงแค่สลับตัวกันเท่านั้น เราสองคนเหมือนกันจนแยกไม่ออกขนาดนี้ ฝ่าบาทมิอาจจับได้หรอกเจ้าค่ะ ท่านพี่เชื่อข้าเถอะ!!!"
"หลานฮวา หากฝ่าบาททรงรู้เข้า ตระกูลสวีเรา..."
"ไม่มีทาง!!! เชื่อข้า!!!"
"เหตุใดเจ้าจึงทำเช่นนี้!!!
"ท่านพี่!!! ข้ายังมิอยากแต่งงาน นะเจ้าคะ!!! ท่านพี่ช่วยข้าด้วยนะเจ้าคะ!!!"
สวีหลานฮวาโผเข้าไปกอดสวีเหลียนฮวาผู้เป็นพี่สาวด้วยความหวาดกลัว นางมิอยากทนรองรับอารมณ์ของฮ่องเต้อำมหิตผู้นั้น นางมิอยากแต่งงานและต้องทนอยู่กับสามีเช่นนี้ไปชั่วชีวิต
สวีเหลียนฮวารู้สึกสงสารน้องสาวฝาแฝดของตนเองอย่างสุดหัวใจ รู้อยู่เต็มอกว่าหากเกิดถูกจับได้ขึ้นมา ชะตาชีวิตของนางคงไม่รอดเงื้อมมือของฮ่องเต้เป็นแน่ ไหนจะท่านพ่อกับท่านแม่อีกเล่า!!!
ตำหนักมังกรสวรรค์
อวิ๋นซีเฉินกำลังนั่งเหม่อมองออกไปที่ด้านนอกหน้าต่างด้วยสายตาที่มีความสุข แววตาคมดุจเหยี่ยว คิ้วโก่งได้รูปของเขาบางคราดูเหมือนคนเจ้าเล่ห์ ใบหน้าหล่อเหลาชวนให้เหล่าสตรีทั้งเมืองหลวงต่างอยากถวายตัวและใจให้แก่เขา
อวิ๋นซีเฉินในวัยยี่สิบห้าปี เขาขึ้นครองราชย์ตั้งแต่อายุยี่สิบปี ตอนที่ยังเป็นองค์รัชทายาท ในตอนนั้นเขาอายุเพียงสิบห้าปีเท่านั้น แต่กลับต่อสู้กับเหล่ากบฏต่างแคว้นจนได้รับชัยชนะ เขานำหัวพวกมันกลับมาถวายให้แก่เสด็จพ่อ เขาถือเป็นฮ่องเต้หนุ่มที่เก่งกาจและน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก
ในวังหลังของเขามีสนมนางในหลายสิบคน ประกอบไปด้วยเฟยทั้งสี่ สนมขั้นผิน สนมกุ้ยเหริน แต่จนแล้วจนรอดเขาเองก็ไม่เคยเปิดป้ายเรียกพวกนางให้มาปรนนิบัติเลยสักครา และยังไม่คิดแต่งตั้งฮองเฮาเลยสักครั้ง กระทั่งเขาได้พบกับนางในคืนนั้น
เขาปลอมตัวเป็นชาวบ้าน สวมใส่หน้ากากปิดบังใบหน้าเพื่อเข้าไปเที่ยวเล่นในเทศกาลซีซี และได้เห็นสวีหลานฮวาที่มีความสามารถเก่งกล้าหาสตรีใดเทียม ใบหน้าของนางงดงามล่มเมือง หวานล้ำราวหยาดน้ำผึ้ง อีกทั้งยังได้ตำแหน่งสตรีงามแห่งต้าเทียนในครั้งนั้นอีกด้วย
นี่แหละ!!! ฮองเฮาที่เขาตามหา!
เขาตามสืบจนรู้ว่าที่แท้นางคือบุตรสาวของท่านแม่ทัพตระกูลสวี ซึ่งเป็นสตรีที่เสด็จพ่อทรงหมายมั่นให้อภิเษกกับเขา เสด็จพ่อกับท่านแม่ทัพสวียังเป็นสหายสนิทกันมาตั้งแต่วัยเด็ก จึงทำสัญญาหมั้นหมายระหว่างเขากับบุตรสาวตระกูลสวีเอาไว้
และเขายังได้รู้อีกว่านางมีฝาแฝดนามว่าสวีเหลียนฮวา!
แต่สตรีนางนั้นเขารู้สึกมิถูกตาต้องใจนางเอาเสียเลย แม้ใบหน้าของนางจะเหมือนกับสวีหลานฮวา แต่นางดูอ่อนแอ อีกทั้งยังมิเชี่ยวชาญเรื่องใดใดเลยแม้แต่น้อย ดู ๆ ไปแล้วเหมือนกับสตรีโง่งมและอ่อนแออย่างไรอย่างนั้น!!!
เขาไม่มีวันรับสตรีไร้ความสง่างามเช่นนั้นเข้ามาในวังเป็นอันขาด!!!
เมื่อคิดได้เช่นนั้นเขาจึงเขียนราชโองการอภิเษกสมรสกับสวีหลานฮวาทันทีอย่างไม่รั้งรอ จะรอช้าไปทำไมเล่า!!! เขาชื่นชอบนางยิ่งนัก!!!
"ฝ่าบาท"
อวิ๋นซีเฉินหันไปมองราชเลขาคนสนิทที่เดินเข้ามาหาเขาด้วยท่าทีนอบน้อม
"มีสิ่งใด?"
"การจะแต่งตั้งฮองเฮาต้องทรงปฏิบัติตามประเพณี เราจะต้อง..."
"หุบปาก!!! ข้าจะแต่งนางเข้ามาเช่นไรก็เรื่องของข้า ต้องให้พวกเจ้ามาสั่งสอนด้วยหรือ!!!"
"หามิได้พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท!!!"
"ไสหัวไป!!! ส่งคนไปจัดเตรียมชุดให้นางที่ตระกูลสวี!!! ข้าจะแต่งกับนางในอีกสามวันข้างหน้า!!!"
"พ่ะย่ะค่ะ!!!"
ราชเลขาพยักหน้ารับก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปทันที
อวิ๋นหลัว อดีตฮ่องเต้พระองค์ก่อนได้แต่มองบุตรชายของตนด้วยแววตาเอือมระอา อวิ๋นซีเฉินเป็นพระโอรสเพียงองค์เดียวของเขา เขามีฮองเฮาเป็นภรรยาเพียงผู้เดียวและไม่รับนางสนมใดอีก เมื่อนางตายจากไปเขาจึงสละราชบัลลังก์และให้พระโอรสองค์นี้ขึ้นครองราชย์แทน ส่วนเขาก็ใช้ชีวิตปลูกผักทำสวนอยู่ที่ตำหนักท้ายวังอย่างมีความสุข
แต่จนแล้วจนรอดอวิ๋นซีเฉินก็ยังเอาแต่ใจตนเองไม่เปลี่ยน!!! เขาพยายามหาสตรีมาให้มากมายหวังจะดัดนิสัยพระโอรสจอมโอหังแต่กลับไร้ผล
ทว่าไม่นานมานี้อวิ๋นซีเฉินกลับมาบอกเขาว่าชื่นชอบสตรีนางหนึ่ง โชคดียิ่งนักที่เป็นบุตรสาวของท่านแม่ทัพสวี เขาจึงเห็นดีเห็นงามด้วย
"อาเฉิน"
"เสด็จพ่อ"
"เจ้าอย่าดุด่าเหล่าบ่าวรับใช้นักเลย"
"หากจะมาเพื่อต่อว่าข้า ก็ทรงกลับไปเถิด!'
บัดซบ!!! ลูกเวรนี่กล้าไล่ข้ารึ!!!
"ข้าเบื่อจะพูดกับเจ้าแล้ว!!!"
"ลูกก็เบื่อเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อ ลูกจะรับนางเข้าวังมาเป็นฮองเฮาในอีกสามวันข้างหน้า"
"มิเร็วไปหรือ?"
"ไม่พ่ะย่ะค่ะ ลูกต้องการนาง สวีหลานฮวา ช่างงดงามเพียบพร้อมยิ่งนัก ในใต้หล้านี้ไม่มีสตรีใดเทียบนางได้อีกแล้ว"
"แต่สวีเหลียนฮวาก็ใช้ได้นะ"
"หึ!!! โง่งมเช่นนั้น ลูกมิต้องการพ่ะย่ะค่ะ!!!"
"เอาเถิด แต่ใครเข้ามาก็เหมาะสมทั้งนั้น อย่างไรเสียตระกูลสวีก็มีอำนาจเหมาะสมคู่ควรกับราชวงศ์ของเรา"
"พ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ"
อวิ๋นซีเฉินรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เขาจะได้แต่งงานกับนางแล้ว เขามิเคยชื่นชอบสตรีใดเท่านางมาก่อนเลย
ด้านสวีเหลียนฮวากำลังนั่งครุ่นคิดอย่างหนัก นางมิยอมตกปากรับคำขอของสวีหลานฮวา จนน้องสาวเสียใจและหนีกลับเรือนไป
หลังจากนั้นตระกูลสวีก็เกิดเรื่องวุ่นขึ้นมา เมื่อสวีหลานฮวาเกิดหายตัวไปจากจวน สวีเจียงเสวี่ยสั่งคนให้ออกตามหาบุตรสาวไปทั่วทั้งจวนแต่ก็ไม่พบ
งานแต่งกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว อีกสามวันสวีหลานฮวาจะต้องเข้าวังหลวงแล้ว จะทำเช่นไรดีเล่า!!!
สวีเหลียนฮวากลับมาถึงต้าเทียนได้หลายวันแล้ว ยามนี้ท่านแม่ทัพใหญ่สวีที่รู้สึกผิดต่อบุตรสาวก็พยายามมาขอพบนางที่ตำหนักเฟิ่งหวง แต่สวีเหลียนฮวากลับไม่ยอมให้เขาเข้าพบเลยสักครั้งนางมิใช่สวีเหลียนฮวาคนเก่า และนางรู้ดีว่านี่คือความตั้งใจของสวีเหลียนฮวาที่ตายไปแล้ว บิดาผู้นี้ไม่เคยเห็นนางเป็นบุตรสาว เพราะนางอ่อนแอ และสู้สวีหลานฮวาไม่ได้ อีกทั้งตอนที่นางหนีไปจากต้าเทียน หลิงเจียวได้เล่าให้นางฟังว่า แม่ทัพใหญ่สวีโกรธนางมาก ถึงกับมาทูลต่อไท่ซังหวงว่านางคือความอับอายของตระกูลสวี ไท่ซังหวงที่ได้ยินเช่นนั้นจึงต่อว่าแม่ทัพใหญ่สวีไปเสียยกใหญ่ อีกทั้งยังบอกอีกด้วยว่า หากไม่เห็นนางเป็นบุตรสาว ก็ไม่เป็นไร พระองค์พึงใจสะใภ้ผู้นี้ ใครก็อย่าได้คิดมาต่อว่านางเป็นอันขาดเช่นนั้นนางเองก็จะไม่ขอพบเจอกับบิดาเช่นนี้อีก แม้จะไม่ได้เกลียด แต่การไม่พบกันย่อมจะเป็นเรื่องที่ดีเสียมากกว่าด้านจิ้งกุ้ยเฟยก็ได้ออกจากวังหลวงไปแต่งกับบัณฑิตตระกูลโจว ชีวิตของนางดูจะมีความสุขเป็นอย่างมาก มีหลายคราที่นางแวะเวียนมาเยี่ยมเยือนสวีเหลียนฮวาถึงในวังหลวงอยู่หลายครั้ง อีกทั้งยังบอกอีกด้วยว่าสามียอดรักของนางนั้น 'ยาว' ถูกใจนางเพียงใ
ท้ายที่สุดสวีเหลียนฮวาก็ต้องปิดร้านบะหมี่ไปก่อน นางนั่งมองอวิ๋นซีเฉินที่เดินไปเก็บร้าน ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหานาง พร้อมกับจ้องมองนางด้วยแววตาที่ล้ำลึก สวีเหลียนฮวาที่เห็นเช่นนั้น จึงถลึงตามองเขาทันที "มองข้าทำไม?""เหลียนฮวา เจ้ายอมคืนดีกับข้าเถิดนะ""ไม่!!! เจ้ามันคนนิสัยไม่ดี ชอบข่มเหงจิตใจข้า!""ข้าจะไม่ทำอีกแล้ว ข้ายอมเจ้าแล้ว เอาเถิด ข้าจะรอจนกว่าเจ้าจะยอมใจอ่อนนะ""ไม่..."ยังไม่ทันที่สวีเหลียนฮวาจะเอ่ยสิ่งใดต่อ ดวงตาคู่สวยของนางก็เหลือบลงไปที่หว่างขาของอวิ๋นซีเฉิน คงเพราะเขาไม่ทันระวังตอนที่กระทืบชายผู้นั้น ทำให้เป้ากางเกงของเขาขาดออกเป็นวงกว้าง เผยให้เห็นลำแท่งเอ็นร้อนขนาดใหญ่ที่โผล่ออกมาท้าทายสายตาของนาง สวีเหลียนฮวาลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ คล้าย ๆ กับว่ามันจะใหญ่ขึ้นใช่หรือไม่? นางไม่ได้กินมันมานานแล้วด้วย?ให้ตายเถอะ!!! นางคิดสิ่งใดอยู่กันแน่!!! "ข้าจะไปอาบน้ำแล้ว"สวีเหลียนฮวาเอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะเดินหนีเขาไปอาบน้ำทันที ยามค่ำคืนมาเยือน เพราะที่นี่คือแคว้นที่อยู่ในป่า จึงค่อนข้างเงียบสงบ มีเพียงเสียงจากสัตว์ป่าดังแว่วมาในบางคราเท่านั้น เหล่าชาวบ้านต่างเข้านอนกันหมดแ
ผู้นำแคว้นม่อเป่ยรีบวิ่งหนีไปทันทีอย่างไม่รีรอ อวิ๋นซีเฉินจึงหันไปมองเสิ่นเหยาและหานเยียนเล็กน้อย "เรียบร้อยดีหรือไม่?""อาเฉิน ทางนั้นเรียบร้อยดี เจ้าจะกลับต้าเทียนเมื่อใด?""ยังไม่มีกำหนด เจ้ากลับไปกราบทูลเสด็จพ่อเสียก่อน ว่าข้าจะพาเหลียนฮวากลับไปด้วย""นางยังมิยอมกลับหรือ?""ยัง แต่อีกไม่นานหรอก""ตกลง ข้าจะกลับไปรายงานไท่ซังหวงที่ต้าเทียนเสียก่อน แล้วจะกลับมาหาเจ้าอีกครา ส่วนศพของอวิ๋นเสวี่ยเฟยข้าโยนทิ้งเป็นอาหารสัตว์ป่าไปแล้ว""อืม ดีมาก! นำศีรษะมันไปเสียบประจานที่หน้าประตูเมืองต้าเทียนด้วย ส่วนเจ้าเสิ่นเหยา ข้าขอบใจเจ้ามาก""กระหม่อมมิกล้ารับพ่ะย่ะค่ะ เป็นเพราะความเมตตาของฝ่าบาท กระหม่อมจึงสามารถล้างแค้นให้ตระกูลเสิ่นได้"เมื่อเอ่ยวาจากันจนเข้าใจแล้ว เสิ่นเหยาและหานเยียนจึงขอตัวลากลับทันที อวิ๋นซีเฉินมุ่งหน้ากลับมาที่บ้านของสวีเหลียนฮวา ก่อนจะเอ่ยเรียกนาง "เหลียนฮวา""มีอะไร?""ข้านำอาหารมาเผื่อเจ้าด้วย เจ้าออกมากินเสียหน่อยเถิด""ไม่ ข้าจะนอนแล้ว"สวีเหลียนฮวาเอ่ยปฏิเสธเพียงเท่านั้น ก่อนจะดับแสงเทียนในห้องลงทันที อวิ๋นซีเฉินก้มหน้างุดด้วยความเหนื่อยล้า เขาเอนกายพิงที่เสาไม้ตร
สวีเหลียนฮวาที่เห็นว่าหมดหน้าที่ของตนเองแล้ว จึงหันหลังเพื่อจะกลับไปที่แคว้นม่อเป่ยทันที "อาเฉิน""พวกเจ้าจัดการเก็บกวาดแคว้นฉินให้เรียบร้อย สังหารให้หมดสิ้น ส่วนชาวบ้านบริสุทธิ์ก็อย่าเข่นฆ่าให้พวกเขาหวาดกลัว""เจ้าจะไปที่ใด?""อาเยียน ข้าจะไปตามหัวใจของข้ากลับคืน"อวิ๋นซีเฉินเอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะมุ่งหน้าติดตามสวีเหลียนฮวาไปทันที สวีเหลียนฮวาที่เห็นว่าเขาติดตามนางมาด้วยก็รีบเร่งฝีเท้าให้เร็วมากกว่าเดิม นางไม่อยากเจอหน้าเขาอีก แต่ทว่าอีกใจหนึ่งนางก็แอบดีใจที่เห็นว่าเขาปลอดภัยดี "เหลียนฮวา""ตามมาทำไมเพคะ?""เหลียนฮวา อยู่ที่นี่ข้ามิใช่ฝ่าบาท แต่ข้าเป็นอาเฉินของเจ้า""ของหม่อมฉันหรือ?""อย่าเอ่ยวาจาห่างเหินกับข้าเช่นนี้เลย""ไม่พอใจก็ไสหัวไปเสีย!!! ข้าขอให้เจ้ามาตามข้าหรืออย่างไรกัน!!!"สวีเหลียนฮวาเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะสะบัดหน้าหนีเขาและเดินจากไปทันที อวิ๋นซีเฉินเองก็ไม่ยอมลดละ เขายังคงตามนางจนเข้าสู่แคว้นม่อเป่ย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้มองดูแคว้นม่อเป่ยอย่างชัดเจน ที่นี่มีทั้งอากาศที่บริสุทธิ์ และอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของธรรมชาติที่จรรโลงใจ เดินตามนางมาได้ครู่หนึ่ง ก่อนจะพบกับบ้
อวิ๋นซีเฉินส่งคนออกไปตามหาสวีเหลียนฮวาอย่างไม่ยอมลดละ แต่ก็ไร้ซึ่งวี่แววของนาง เขานึกโกรธเกลียดตนเองในใจเป็นอย่างยิ่ง ที่คืนนั้นเขาคลาดสายตาจากนางและยังพูดจากระทบกระเทือนจิตใจของนางอีก ยามนี้เขาเข้าใจแล้ว ว่าหากไม่มีนางคอยอยู่ข้างกาย เขาเองก็ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป เรื่องของหัวใจก็ช่างหนักหนาสาหัส เรื่องของฉินอ๋องก็ประเดประดังเข้ามาอย่างรวดเร็ว อวิ๋นเสวี่ยเฟยส่งคนมาสอดแนมที่ต้าเทียน และให้ลอบสังหารเสิ่นเหยาเสีย เสิ่นเหยาคือผู้ที่จะปล่อยเอาไว้ไม่ได้ เนื่องจากมันล่วงรู้ความเป็นไปของแคว้นฉินเป็นอย่างดี อวิ๋นเสวี่ยเฟยรู้ว่าสวีเหลียนฮวาได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เขายกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก เช่นนี้ก็ดีแล้ว เขาจะได้สังหารอวิ๋นซีเฉินให้ตกตายไปเสีย และตามล่าหาตัวนางมาเป็นนางบำเรอของเขา เขาชื่นชอบนางเป็นอย่างมาก นางทั้งงดงามและเก่งกาจกว่าสตรีใดในใต้หล้า หากเขาได้นางมาครอบครอง ย่อมต้องเป็นเรื่องดีแต่ทว่าหน่วยสอดแนมของอวิ๋นเสวี่ยเฟยก็ถูกอวิ๋นซีเฉินจับได้ในเวลาต่อมา และถูกเขาสังหารทิ้งทันที พร้อมกับส่งหัวของหน่วยสอดแนมผู้นั้นกลับไปให้อวิ๋นเสวี่ยเฟยที่แคว้นฉิน อวิ๋นเสวี่ยเฟยโกรธแค้นเป็นอย
ด้านเสิ่นเหยานั้น เขาต่อสู้กับฉินอ๋องอย่างเอาเป็นเอาตาย ด้วยเพราะเขาเก่งทั้งด้านบุ๋นและด้านบู๊ จึงสามารถรอดตายมาได้อย่างเหลือเชื่อ เขาพาร่างที่โชกเลือดโซซัดโซเซมาถึงต้าเทียนอย่างยากลำบาก เดิมทีเหล่าทหารที่เฝ้าเวรยามหน้าประตูไม่ยอมให้เขาเข้าไปในต้าเทียนได้ แต่ทว่าอวิ๋นซีเฉินและหานเยียนกลับมาถึงต้าเทียนพอดี จึงได้พบกับเสิ่นเหยา ก่อนจะพาเขาเข้ามารักษาตัวในวังหลวง สวีหลานฮวาที่ได้รู้ข่าวว่าเสิ่นเหยายังไม่ตาย นางจึงรีบวิ่งเข้ามาหาเขาที่ตำหนักมังกรสวรรค์ทันที ภาพที่นางเห็นคือเสิ่นเหยาบาดเจ็บสาหัส ร่างกายของเขาโชกไปด้วยเชือด สวีหลานฮวาทนไม่ไหวจนต้องปล่อยโฮออกมา "เสิ่นเหยา ท่านห้ามตายนะ ฮึก อย่าตายนะ""หลานฮวา""ข้าตั้งครรภ์ลูกของท่าน ข้าตั้งครรภ์แล้วเสิ่นเหยา"เสิ่นเหยาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ดีใจเป็นอย่างยิ่ง เขาพยายามเอื้อมมือไปจับใบหน้าของนางด้วยความยากลำบาก "หลาน ฮวา""ฮือออ ท่านต้องอยู่กับข้านะ!!!"อวิ๋นซีเฉินสั่งให้ตามหมอหลวงมารักษาเขาอย่างเร่งด่วน เสิ่นเหยาเจ็บหนักปางตาย แต่ยังดิ้นรนมาถึงต้าเทียนเพื่อพบกับคนรักของเขา อวิ๋นซีเฉินที่ได้เห็นเช่นนั้นก็อดชื่นชมไม่ได้ "เจ้าก็อยู่เฝ้าสามีเจ้
สวีเหลียนฮวาและสวีหลานฮวาเอ่ยเล่าเรื่องราวของกันและกันจนถึงรุ่งเช้า ทั้งสองพี่น้องต่างยิ้มแย้มแจ่มใส และดีใจที่ได้กลับมาพบกันอีกครา "ข้าขอให้สามีของเจ้าปลอดภัยนะหลานฮวา""เจ้าค่ะ ข้าก็ขอให้เป็นเช่นนั้น หากเขาตายจากข้าไป ชีวิตนี้ของข้าจะไม่ขอมีสามีอีก ข้าจะบวชชีอยู่ที่วัดบนเขาไปชั่วชีวิตเจ้าค่ะ"สองวันต่อมา อวิ๋นซีเฉินกับหานเยียน ออกเดินทางไปที่แคว้นเยี่ยนและแคว้นเย่ว์ในทันที ทางวังหลวงแห่งนี้นั้น เขาสั่งให้สวีเหลียนฮวาคอยรักษาการแทนเขาไปก่อนอวิ๋นซีเฉินควบม้าห้อตะบึงไปเรื่อย ๆ อย่างไม่หยุดพัก จนกระทั่งไปถึงที่แคว้นเยี่ยนและแคว้นเย่ว์ ซึ่งมีทางเชื่อมต่อกันได้ เย่ว์อ๋องและเยี่ยนอ๋องที่ทราบว่าฝ่าบาททรงเสด็จมา จึงรีบออกมาทำการต้อนรับอย่างเร่งด่วน "ถวายพระพรฝ่าบาท""ไม่ต้องมากพิธี ข้ามีเรื่องอยากจะปรึกษาพวกท่านเสียหน่อย""ทูลเชิญฝ่าบาทที่ตำหนักเยี่ยนอ๋องของกระหม่อมก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ""อืม"อวิ๋นซีเฉินพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะมุ่งหน้าตรงไปที่ตำหนักของเยี่ยนอ๋องทันที แคว้นเยี่ยนเป็นแคว้นที่อยู่ติดทะเลทราย จึงค่อนข้างแห้งแล้งไปบ้าง ต่างจากแคว้นเย่ว์ ที่อยู่ติดกับภูเขาจึงทำให้อากาศเย็นชื้นตลอด
อวิ๋นซีเฉินเดินเข้ามาในตำหนักเฟิ่งหวง ก่อนจะขมวดคิ้วมุ่น เมื่อพบว่าภายในตำหนักช่างเงียบเชียบ ไร้เสียงหัวเราะกังวานสดใสของสวีเหลียนฮวาเหมือนเช่นทุกวัน เมื่อเดินเข้าไปก็พบกับนางที่กำลังนั่งอยู่ริมหน้าต่าง โดยมีเปาจื่อกอดเอาไว้แนบอก "เหลียนฮวา"สวีเหลียนฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็รีบหันไปมองอวิ๋นซีเฉินทันที นางเก็บแววตาที่เศร้าโศกซ่อนเอาไว้ไม่ให้เขามองเห็น ก่อนจะเดินเข้าไปหาเขาอย่างไม่รีบไม่ร้อน "หลานฮวาเล่าเพคะ?'"ถามทำไมกัน นางก็อยู่ในตำหนักที่ข้าจัดเอาไว้ให้สิ"อวิ๋นซีเฉินเอ่ยตอบด้วยความสงสัย จะทำหน้าเหมือนใกล้ตายเช่นนี้ไปทำไมกัน เขาไม่ได้ฆ่าน้องสาวของนางเสียหน่อย เพียงให้สวีหลานฮวาหลบซ่อนตัวอยู่ในวังหลวงรอจนสถานการณ์คลี่คลายก็เท่านั้น สวีเหลียนฮวาพยักหน้าเล็กน้อย ในใจนึกก่นด่าตนเองที่ไม่สมควรไปถามเขาเลยด้วยซ้ำ สวีหลานฮวาเป็นคนรักของเขา อวิ๋นซีเฉินย่อมไม่มีทางยอมปล่อยนางให้หนีไปอีกเป็นแน่ "ฝ่าบาทเพคะ?""หืม?""หม่อมฉันจะกลับไปอยู่ที่จวนตระกูลสวีเพคะ ฝ่าบาทจะได้ไม่ต้องทรงลำบากพระทัยอีก"อวิ๋นซีเฉินจ้องมองสวีเหลียนฮวาด้วยแววตาที่เย็นชา "นี่เจ้าเป็นอะไรไปอีก? เราเคยพูดคุยกันเรื่องนี้ไปแ
ภายในตำหนักมังกรสวรรค์ อวิ๋นซีเฉินจ้องมองสวีหลานฮวาอย่างไม่ละสายตา ตั้งแต่ได้พบนางอีกครา เขาก็เดินเข้าไปจับแขนของนางและพานางเข้ามาในตำหนักมังกรสวรรค์ โดยสั่งห้ามไม่ให้ผู้อื่นเข้ามา ไม่เว้นแม้แต่สวีเหลียนฮวา สวีหลานฮวาจ้องมองอวิ๋นซีเฉินด้วยแววตาที่ว่างเปล่า นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นใบหน้าของเขาชัดเจนเช่นนี้ แต่อย่างไรเสียคนที่นางรักมีเพียงเสิ่นเหยาผู้เดียวเท่านั้น!"หลานฮวา""เพคะฝ่าบาท""เจ้าหนีข้าไปทำไมกัน?"อวิ๋นซีเฉินจ้องมองนางราวกับจะคาดคั้นเอาคำตอบ สวีหลานฮวาเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น ดวงตาคู่สวยจ้องมองเขาอย่างไม่ลดละเช่นกัน เขารู้สึกว่าการได้เผชิญหน้ากับนางตรง ๆ เช่นนี้ ไม่ได้ทำให้จิตใจของเขาสั่นไหวและโหยหานางมากเหมือนเช่นที่เขาคิดเอาไว้ เขาเพียงต้องการฟังคำตอบที่ยังคาใจจากนางก็เพียงเท่านั้น "ตอบข้า""หม่อมฉันมิได้รักฝ่าบาทเพคะ หม่อมฉันมีคนรักอยู่แล้ว ขอฝ่าบาททรงอภัยด้วย"อวิ๋นซีเฉินพยักหน้าเล็กน้อย นับว่านางยังกล้าเอ่ยความจริงไม่คิดปิดบังเขา เขาไม่ได้มีความรู้สึกโกรธแค้นนางเช่นในวันวาน กลับเป็นความรู้สึกอื่นที่เข้ามาแทนที่ แม้นางจะมีใบหน้าเดียวกันกับสวีเหลียนฮวา แต่นางมิ
Comments