ใครจะไปหลงรักผู้หญิงอย่างเธอได้ลง…รีบๆ แต่งให้จบๆ ไปแล้วค่อยหาเรื่องหย่าทีหลังก็แล้วกันอย่าคิดว่าฉันจะรักเธอเพราะไม่มีวัน!!
ดูเพิ่มเติมบ้านพิบูลย์ลักษณ์
“พ่อรับปากเองก็แต่งเองสิครับผมมีแฟนแล้วจะให้ผมไปแต่งงานกับคนอื่นได้ยังไง”
“บ๊ะ..ไอ้ลูกคนนี้ ดูมันพูดดูสิคุณเดี๋ยวนี้ชักลามปามใหญ่แล้วไม่รู้เหมือนใครไม่ได้อย่างใจเลยจริงๆ”
“ใจเย็นก่อนเถอะน่าคุณ..ลูกโตแล้วค่อยๆพูดค่อยๆ จากกันก็ได้”
“ถูกต้องครับคุณแม่ผมโตแล้วนะครับจะมาบังคับคุมถุงชนกันแบบนี้ได้ยังไง”
“อย่าพูดอย่างนั้นสิลูกนี่เป็นคำสัญญาของพ่อกับแม่ที่ให้ไว้กับเพื่อนรักนะ ลูกจะให้พ่อกับแม่ผิดสัญญากับเพื่อนที่ช่วยเหลือกันมาจนเรามีทุกวันนี้ได้ยังไงหนูอรก็เป็นเด็กดีมากนะการศึกษาก็ไม่น้อยหน้าใครรับรองว่าถ้าลูกได้เห็นน้องลูกเองก็จะต้องหลงรักน้องเหมือนพ่อกับแม่แน่ๆ ”
“ไม่มีทางหรอกครับแม่ผมรักปัดคนเดียวผมจะแต่งงานกับลูกปัดครับ”
“โอ๊ยคุณผมปวดหัวเราออกไปดูเรือนหอกันดีกว่าว่าสร้างไปถึงไหนแล้วนะ”
“อุ้ยดีเลยค่ะคุณถ้าอย่างนั้นรอแป๊บนะคะฉันไปหยิบกระเป๋าก่อน ”
“อ้าวทำไมจบแบบนี้ล่ะครับพ่อ..แม่ นี่ถึงขนาดสร้างเรือนหอเลยเหรอครับปลูกเรือนต้องตามใจผู้อยู่สิครับพ่อกับแม่ทำแบบนี้กับผมได้ยังไง”
“ทีอย่างนี้แล้วจะมาเรียกร้องความเป็นธรรมทีตอนแกเป็นเด็กพ่อกับแม่เลี้ยงแกมายากลำบากขนาดไหนไม่เห็นแกจะอยากตอบแทนเลยพอๆ ไม่ต้องมาพูด”
“พร้อมแล้วค่ะคุณไปกันเถอะค่ะ”
“เดี๋ยวสิครับแม่กลับมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนสิครับ..แม่..พ่ออย่าเพิ่งไป”
“อย่าไปฟังเสียงนกเสียงกาเลยเราไปกันดีกว่า…”
เมื่อพูดจบสุเมธและทัศนีย์ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของจอมทัพก็เดินควงแขนกันออกจากบ้านไปอย่างอารมณ์ดี ทั้งสองมั่นใจว่าถึงแม้ตอนนี้ลูกชายของเขาและเธอจะค้านหัวชนฝายังไงแต่เมื่อถึงเวลาที่เขาได้เจอกับว่าที่ภรรยาของเขาแล้วจะต้องหลงรักเธออย่างแน่นอน
“เฮ้อ…”
จอมทัพทิ้งตัวลงนั่งกับโซฟาตัวใหญ่ก่อนจะหลับตาลงด้วยความรู้สึกเซ็งกับชีวิตที่ถูกพ่อและแม่จับคู่ให้แต่งงานกับลูกของเพื่อนที่ได้ตกลงกันเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่ทั้งสองครอบครัวยังไม่มีลูกว่าถ้าหากลูกของทั้งสองครอบครัวเกิดมาเป็นผู้หญิงและผู้ชายก็จะให้แต่งงานกันแต่ถ้าหากเป็นเพศเดียวกันก็ให้นับเป็นพี่น้องกัน
แล้วก็ดันเป็นไปตามที่ทั้งสองครอบครัวหวังเอาไว้พวกเขาได้ลูกสาวและลูกชายคำสัญญาที่ให้ไว้ในวันนั้นวันนี้กำลังจะเป็นเรื่องจริง
บ้าน เศรษฐสิริ
“แต่ว่าอรยังไม่พร้อมเลยนะคะคุณแม่.. คุณพ่อช่วยอรพูดหน่อยสิคะอรยังใช้ชีวิตไม่คุ้มเลยนะคะยังมีอะไรที่อรยังไม่ได้ทำอีกตั้งหลายอย่างแน่ะ”
“แต่งงานแล้วก็ทำได้นะลูกแถมดีซะอีกที่จะได้มีคนคอยช่วยคิดคอยดูแลพ่อกับแม่จะได้สบายใจที่เห็นลูกเป็นฝั่งเป็นฝามีครอบครัวกับเขาสักที”
“ที่แม่พูดก็ถูกนะลูก..พ่อกับแม่ก็แก่ลงทุกวันไม่รู้ว่าจะอยู่ดูแลลูกไปได้อีกนานแค่ไหนการที่ลูกแต่งงานมันคือความฝันสูงสุดของพ่อกับแม่พี่เขาก็ไม่ใช่คนไม่ดี เดี๋ยวแต่งกันไปแล้วก็รักกันเอง”
“แต่อรยังไม่เคยเจอกันเลยนะคะ ไม่เคยรู้นิสัยใจคอกันเลยจะอยู่ด้วยกันได้ยังไงคะ”
“ลุงสุเมธกับป้าทัศนีย์ เป็นคนดีขนาดนั้นต้องเลี้ยงลูกให้โตขึ้นมาเป็นคนดีได้แน่ๆ จากที่แม่เห็นมาพี่จอมเขาก็เป็นคนดีสุภาพบุรุษมากนะลูกพ่อกับแม่มองคนไม่ผิดแน่ๆ เชื่อแม่นะ”
“โธ่แม่คะ..”
“อรก็รู้ว่าแม่มีโรคประจำตัวไม่รู้จะอยู่ได้อีกนานแค่ไหนแม่ขอแค่เรื่องนี้ได้ไหม..เรื่องเดียวทำให้แม่ก่อนที่แม่จะเป็นอะไรไปได้ไหมลูก..”
“อย่าใช้ไม้นี้สิคะแม่พูดแบบนี้แล้วอรจะขัดใจแม่ได้ยังไง”
เมื่อได้ยินอรหรือดีลูกสาวคนสวยพูดอย่างนั้นคนเป็นแม่อย่างสิริวดีก็อ้าแขนโอบกอดเธอไว้อย่างอ่อนโยน ด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขบนใบหน้า ซึ่งแตกต่างกับอรฤดีที่ ครุ่นคิด หาทางทำให้ตัวเองรอดพ้นจากการแต่งงานที่ไม่เต็มใจครั้งนี้ไปได้
“อรก็ยังไม่มีใครนี่ลูกเรียนก็จบมาหลายปีแล้วพ่อว่าควรเป็นฝั่งเป็นฝาได้แล้วนะ”
คเชนทร์เดินมาลูบหัวลูกสาวที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของตัวเองเบาๆ ถึงแม้สิ่งที่อรฤดีพูดนั้นจะถูก แต่สิ่งที่คนเป็นพ่อและแม่อย่างเขาสองคนเลือกให้เธอก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดเหมือนกัน
ความคิด
[ คอยดูเถอะฉันจะทำให้เธอทนไม่ได้จนต้องหนีงานแต่งไปเลย ]
[ คอยดูเถอะงานแต่งงานครั้งนี้จะต้องไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ]
ทั้งสองต่างคิดออกมาพร้อมๆ กัน ก่อนจะยิ้มออกมากับภาพในหัวที่จินตนาการไว้ว่าอีกฝ่ายจะต้องขนหัวลุกกับแผนการของตัวเอง…
.
.
.
“เห้อ… บอกตรงๆ นะ ไม่รู้จะช่วยยังไงดีเลยว่ะงานนี้ คุณลุงกับคุณป้าเล่นใหญ่ซะขนาดนั้นอะไรก็หยุดไม่อยู่แล้วแหละ ”
“แล้วที่สำคัญนะชั้นยังไม่เคยเจอกับผู้ชายคนนั้นเลย ไม่รู้จักนิสัยใจคอ หน้าตาเป็นยังไงถึงคุณลุงกับคุณป้าจะเป็นคนดีก็เถอะแต่ถ้าเกิดลูกชายดันผ่าเหล่าขึ้นมาจะทำยังไงเล่า ”
อรฤดีทำหน้าสยดสยองเมื่อจินตนาการภาพของอีกคนไว้ในหัว
“นั่นสิ เวรกรรมแท้ๆ เลย เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วชั้นพาไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ที่วัดนะ วัดนี้เด็ดขออะไรไม่เคยพลาด”
กรองขวัญเพื่อนสนิทของอรฤดีพูดออกมาด้วยความเห็นใจเพื่อนสาว ถ้าเป็นเธอก็คงจิตตกเหมือนกันที่จะต้องแต่งานกับคนที่ตัวเองไม่เคยเจอมาก่อนแบบนี้
เมื่อมาถึงวัดแล้วสองสาวเพื่อนสนิทก็พนมมือพร้อมกับท่องบทสวดบูชาพระพุทธรูปที่ตั้งใจว่าเพื่อความสิริมงคลในชีวิต โดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่ากำลัง ถูกจดจ้องอยู่ด้วยคนที่ เต็มไปด้วยความเกลียดชังและแค้นเคือง
“เพราะแกทำให้ฉันต้องเป็นแบบนี้อีนังผู้หญิงหน้าด้าน เกลียด..ฉันเกลียดแก”
แววตาอาฆาตมาดร้ายจากหญิงสาวใบหน้าสวยที่เธอเองก็ตั้งใจมากราบพระขอพรที่นี่เช่นเดียวกันแต่ไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอกับศัตรูหัวใจผู้เป็นเจ้ากรรมนายเวรที่เธอไม่อยากจะหายใจร่วมโลกด้วยเลยสักนิด
ถึงจะไม่ใช่ความผิดของผู้หญิงตรงหน้าแต่แล้วยังไง..ในเมื่อถ้าไม่มีผู้หญิงคนนี้เรื่องวุ่นวายทั้งหมดก็คงจะไม่เกิดขึ้นคนที่จะได้แต่งงานกับจอมทัพป่านนี้ก็คงจะเป็นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น
“ผมรักแต่คุณ คุณก็รู้เรื่องการแต่งงานผมไม่ได้ยินยอมแต่ถึงอย่างนั้นผมก็ขัดใจพ่อกับแม่ไม่ได้อยู่ดี”
จอมทัพเอ่ยพูดพร้อมกับโอบกอดเอวบางของแฟนสาวที่ซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดเขาด้วยความน้อยอกน้อยใจเมื่อคนรักของตัวเองกำลังจะต้องถูกทางครอบครัวคลุมถุงชนให้แต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น
“ปัดทำอะไรผิดคะถึงต้องเจอกับเรื่องแบบนี้แล้วอีกหน่อยจอมต้องใช้ชีวิตร่วมกับแม่นั่นทุกวันเดี๋ยวจอมก็คงต้องลืมปัดไป..แล้วก็หลงรักผู้หญิงคนนั้นเหมือนที่พ่อกับแม่ของคุณตั้งใจเอาไว้”
ลูกปัดแฟนสาวคนสวยของจอมทัพเธอกับเขาตกหลุมรักกันตั้งแต่เรียนอยู่ที่เมืองนอกครอบครัวของ ลูกปัดเป็นไฮโซทางเธอเองก็มีคนที่ทางครอบครัววางตัวเอาไว้อยากให้เป็นลูกเขยซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่จอมทัพแต่เป็นลูกชายของรัฐมนตรีที่มีหน้ามีตาในแวดวงสังคมเดียวกัน…ถูกต้องลูกปัดเองก็ฝืนคำสั่งพ่อแม่มาคบกับจอมทัพเช่นกันเดียวกันเธอเลือกที่จะทำตามหัวใจของตัวเองจนต้องมาพบกับความเจ็บปวดอยู่เช่นนี้
“คุณเชื่อใจผมนะผมจะทำให้ผู้หญิงคนนั้นเป็นฝ่ายยกเลิกการแต่งงานให้ได้หรือถ้าไม่เป็นตามที่คิดผมก็จะทำให้ผู้หญิงคนนั้นเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอหย่ากับผมให้เร็วที่สุด”
”ปัดเชื่อคุณนะคะ ปัดรักคุณค่ะ…“
“กรี้ดดดดด!! ไอ้สวะเอ้ย! งานง่ายๆ แค่นี้ก็ทำพลาดเสียอารมณ์จริงๆ เลย” ลูกปัดกำโทรศัพท์ในมือแน่นเมื่อรู้ข่าวว่ามือดีที่ส่งไปจัดการกับศรัตรูหัวใจทำงานพลาดแถมยังจบชีวิตอีกต่างหากก็ทำเอาเธอถึงกับสติหลุดแต่ก็ดีเหมือนกันที่ตำรวจะได้สาวไม่ถึงตัวเธอ แต่หญิงสาวกลับไม่ได้รู้เลยว่าคนที่ต้องเจ็บตัวเพราะเรื่องที่เธอก่อขึ้นมานั้นคือคนที่เธอรัก …“เสียงดังโวยวายอะไรยายปัด” เปรมที่กำลังเดินผ่านมาพอดีเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นน้องสาวของตนเองกำลังหงุดหงิดกับอะไรบางอย่าง“พี่เปรม! ไหนบอกว่ารักบอกว่าชอบ อีนางนั่นไงคะ ทำไมไม่เห็นทำอะไรสักทีปัดจะทนไม่ไหวแล้วนะคะ!” “ปัดคิดจะทำอะไร ..”“ก็ถ้าพี่เปรมไม่ทำอะไรปัดจะทำเองค่ะ” “ถ้าปัดทำอะไรคุณอรละก็…”“ทำไมคะ พี่เปรมจะทำไม” “เรื่องอื่นพี่ไม่ว่า แต่ถ้าเรื่องคุณอร ปัดรู้เอาไว้เลยไม่ว่ายังไงพี่ก็จะไม่ยอมเด็ดขาด”คนเป็นพี่ยืนพูดด้วยน้ำเสียงดุดันและแววตาที่แข็งกร้าวท่าทางแบบนี้เธอจะเห็นได้ก็ต่อเมื่อพี่ชายของเธอโกรธจัดหรือตอนที่จะทำเรื่องเลวร้ายเท่านั้น ลูกปัดได้แต่จ้องมองดวงตาคู่นั้นด้วยด้วยความไม่พอใจ อีนังนั่นมันมีดีอะไรนักหนาทุกคนถึงได้รุมปกป้องมันขนาดนั้น คิดอย่
“อยากจะเป็นพระเอกมากนักหรอมึง.. ตายซะ!” ปั้ง!… เสียงปืนดังลั่นไปทั่วบริเวณอรฤดีหยุดชะงัก ทั้งที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่หยาดน้ำตาไหลรินออกมาอย่างห้ามไม่ได้หัวใจเธอตอนนี้มันเหมือนจะหยุดเต้นไปด้วยในทันที ร่างของคนร้ายล้มหงายลงไปนอนกองอยู่กับพื้นแน่นิ่ง จอมทัพเองก็ทิ้งตัวนอนลงไปด้วยความเหนื่อยหมดแรงหายใจหอบตัวโยน แล้วเสียงตำรวจก็วิ่งกรูกันเข้ามา ให้ตายเถอะนี่แค่จะมารับสาวเองไม่ใช่เหรอทำไมเกือบได้เอาชีวิตมาทิ้งซะอย่างนั้นดูจากการต่อสู้แล้วต้องเป็นมืออาชีพแน่ๆ ถ้าตำรวจมาช้าอีกนิดคงเป็นเขาแน่ๆ ที่นอนหมดลมหายใจอยู่ตรงนี้ “ฮึก ..ฮึก คุณ คุณ เป็นอะไรมากไหมคุณ “อรฤดีรีบวิ่งมาหาจอมทัพที่นอนเลือดอาบไปทั่วทั้งใบหน้าด้วยความเป็นห่วง แก้มใสๆ อาบชุ่มไปด้วยน้ำตาแต่เมื่อเห็นว่าเธอปลอดภัยแล้วสติการรับรู้ของเขาก็ค่อยๆ เลือนหายไป.. “คุณ อย่าเป็นอะไรไปนะคุณ ฟื้นสิ.. ฟื้นสิคุณ ฮึก ฮึก..”สองมือของเธอเขย่าร่างชายตรงหน้าด้วยหัวใจที่เจ็บปวด ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ต้องทำอะไร ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วไปหมด .….“ลูกไม่เป็นอะไรหรอกคุณ อย่าเป็นกังวลไปเลย”คนเป็นสามีพูดปลอบใจภรรยาที่นั่งเฝ้าลูกชายไม่ห่างจากเตีย
“นี่คุณยังไม่หายโกรธผมเรื่องนี้อีกเหรอ”“ไม่ได้โกรธค่ะก็เราตกลงกันแล้วว่าจะไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวชั้นแค่ไม่อยากถูกใครมากล่าวหามาว่าชั้นอีก”มันก็จริงของเธออย่างที่เธอว่า..เธอมีสิทธิ์ที่จะไม่พอใจในเมื่อควรเป็นเค้าเองที่จะต้องจัดการเรื่องส่วนตัวของตัวเองให้ดี ต่อให้เอ่ยคำขอโทษไปอีกกี่ครั้งเรื่องราวมันก็ไม่ได้เปลี่ยนไปความรู้สึกของเธอก็ไม่ได้กลับมาเป็นเหมือนเดิมด้วยเช่นกันเขาไม่ได้พูดอะไรระหว่างทางเพียงแต่ขับรถตรงไปยังร้านอาหารแห่งใหม่ที่คิดว่าเธอน่าจะชอบเพื่อเป็นการชดเชยที่ทำให้เธอต้องรู้สึกไม่ดีหญิงสาวนั่งตรงสายตาจ้องมองไปยังเส้นทางด้านหน้าเมื่อรถเลี้ยวเข้ามาในร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งเธอนั้นคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี“คุณรู้จักร้านนี้ได้ยังไง..”คำพูดของเธอเรียกความสนใจจากชายหนุ่มได้ไม่น้อยเค้าเองก็หันมามองหน้าเธอเช่นเดียวกันเพราะ ไม่คิดว่าเธอเองก็จะรู้จักร้านนี้เช่นกัน“คุณก็รู้จักร้านนี้เหมือนกันเหรอ”“นี่เป็นร้านที่ฉันชอบมากับคุณปู่บ่อยๆ แต่ว่าตั้งแต่คุณปู่เสียไปฉันก็ไม่ค่อยได้มาอีก”สายตาของเธอไหววูบลงเมื่อนึกถึงคนที่จะไปอยู่บนสรวงสวรรค์และยิ่งคิดถึงมากขึ้นไปอีกเมื่อตอนนี้เธออยู่ไห
“ทำไมต้องเจอผู้หญิงหน้าด้านที่นี่นะ”คำพูดของลูกปัดดังพอที่จะทำให้ทั้งอรฤดีและกรองขวัญได้ชัดชัดเจนจนต้องเงยหน้ามามองตากันในทันทีตอนนี้อรฤดีรู้แล้วว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนรักของว่าที่สามีเธอและเป็นผู้หญิงเดียวกันกับที่เดินชนเธอในวันก่อนไม่รู้ทำไมเมื่อเรียบเรียงสถานการณ์ได้อย่างนั้นแล้วก็เกิดความความรู้สึกไม่พอใจบางอย่างขึ้นมาทันทีทั้งที่ตกตกลงกันไว้เรียบร้อยแล้วแต่ปล่อยให้มีเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไงอรฤดีหันไปมองลูกปัดด้วยแววตาเอาเรื่องแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปเพราะไม่อยากจะทำให้ เสียบรรยากาศอุตส่าห์ตั้งใจจะกินไอติมให้อารมณ์เย็นลงให้ใจดีขึ้นมา แต่กลับมาเจอต้นต่อตัวปัญหาเข้าเต็มๆ“มองทำไมยะ ไม่เคยเห็นคนมากับแฟนรึไงหรือว่ามองเพราะอยากจะได้ของของคนอื่นจนตัวสั่น!”“มันจะมากไปแล้วนะนังลูกปัด จะพูดจะจาอะไรหัดคิดก่อนซะบ้าง”กรองขวัญเอ่ยพูดสวนขึ้นมาทันที เมื่อ รู้สึกว่าผู้หญิงที่สวยแต่เปลือกคนนี้นั้นพูดจารุนแรงเกินไป“แหมก็เรื่องจริงทั้งนั้นทนฟังไม่ได้เหรอ จะคบเพื่อนก็เลือกคบหน่อยนะ ระวังจะโดนเพื่อนรัก สวมเขาให้รู้ตัว”ลูกปัดเบะปากพูดจีบปากจีบคอหน้าระรื่นหันไปทางกรองขวัญเพื่อนที่สนิทและก็ไม่อยากสน
”อ้าวสวัสดีครับเจอกันอีกแล้ว“เสียงที่ไม่ค่อยคุ้นหูจากคนที่ไม่ค่อยคุ้นหน้าเอ่ยทักทายอย่างเป็นกันเองด้วยรอยยิ้มพร้อมกับสองขาที่สาวเท้าก้าวเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าอรฤดีด้วยท่าทางที่เป็นมิตรกว่าครั้งก่อนที่เจอ”วันนี้มาคนเดียวเหรอครับ“ชายหนุ่มเอ่ยถามพร้อมกับกวาดสายตามองรอบๆ ไปด้วยซึ่งก็ไม่เห็นว่าจะมีเงาของจอมทัพหรือใคร“อรมากับเพื่อนค่ะ”“ผมอยากรู้จักคุณมากกว่านี้นะ..””อย่าดีกว่าค่ะอรกำลังจะแต่งงานแล้วนะคะคงจะดูไม่ดี“”การแต่งงานปลอมๆ น่ะเหรอครับ“ทันทีที่เปรมพูดอย่างนั้นอรฤดีก็เงยหน้าขึ้นมองสบตาเขาทันทีเพราะไม่คิดว่าชายหนุ่มตรงหน้านี้จะรู้ความจริง“คุณรู้ได้ยังไงคะ”“ผมรู้ได้ยังไงไม่สำคัญหรอกครับ ที่สำคัญคือผมช่วยคุณได้ถ้าหากคุณต้องการ”ชายหนุ่มตรงหน้าพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเขาถูกใจเธอตั้งแต่แรกพบแต่เมื่อเห็นว่าเธอนั่งอยู่กับคนรักของน้องสาวตนเองในวันนั้นก็รู้สึกผิดหวังไม่น้อยที่เธอเข้ามาเป็นบุคคลที่สามของชีวิตคู่คนอื่น แต่เมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากน้องสาวของตัวเองเขาก็มีแรงฮึดสู้ที่จะสานสัมพันธ์กับเธออีกครั้ง แล้วตอนนี้เขาก็พร้อมลุยเดินหน้าเต็มที่เพื่อที่จะดึงผู้หญิงคนนี้
หลายวันต่อมา “ไม่ต้องห่วงนะคะคุณแม่ขวัญจะคอยเคี่ยวเข็ญให้ยายอรทำตามที่คุณแม่พูดอย่างเคร่งครัดเลยค่ะ”กรองขวัญจีบปากจีบคอพูดรับปากสิริวดีแม่ของเพื่อนสนิทตัวเองเป็นมั่นเป็นเหมาะในการรับหน้าที่พาอรฤดีไปเข้าคอร์สเจ้าสาวในวันนี้“ดีมากลูกถ้าเกิดว่ายายอรดื้อขึ้นมาโทรบอกแม่เลยนะ”“ได้เลยค่ะคุณแม่ไม่ต้องห่วงนะคะขวัญจะดูแลอย่างดีเลยค่ะงั้นพวกเราไปก่อนนะคะ”คนเป็นแม่โบกมือบ๊ายบายให้กับหญิงสาวทั้งสองที่รักปานดวงใจ เห็นลูกสาวของเธอมีเพื่อนสนิทที่รักใคร่กันดีพร้อมให้ความช่วยเหลือกันแบบนี้คนเป็นแม่แบบเธอก็นอนตายตาหลับ แต่ดูเหมือนว่าที่เจ้าสาวจะหน้างอไม่พอยังไม่ค่อยให้ความร่วมมือสักเท่าไหร่อีกต่างหาก “ไม่เห็นจำเป็นเลยคอร์สเจ้าทรงเจ้าสาวอะไรมันจะทำให้สวยขึ้นมาได้สักแค่ไหนกันเชียวก็แค่แผนการตลาดหาเงินเพิ่มเฉยๆ ไม่ใช่เหรอ”อรฤดีขึ้นมาบนรถคาดเข็มขัดนิรภัยเสร็จแล้วก็นั่งกอดอกแล้วบ่นอุ๊บอิ๊บในทันที “จะบ้าเหรออรมันจำเป็นมากเลยนะ ไม่ว่าแกจะแต่งเล่นหรือแต่งจริงแต่งแล้วจะอยู่ทนหรือจะเลิกมันไม่สำคัญมันสำคัญตรงที่วันที่แกได้แต่งตัวแต่งหน้าแต่งชุดเจ้าสาวคนที่สวยที่สุดในงานก็คือแกทุกสายตาจะต้องจับจ้องมาที่แก
ความคิดเห็น