หลินลี่ชา ฮูหยินร้ายจวนโหว

หลินลี่ชา ฮูหยินร้ายจวนโหว

last updateTerakhir Diperbarui : 2025-09-24
Oleh:  จ้าวฮุ่ยอิงBaru saja diperbarui
Bahasa: Thai
goodnovel4goodnovel
10
1 Peringkat. 1 Ulasan
46Bab
1.0KDibaca
Baca
Tambahkan

Share:  

Lapor
Ringkasan
Katalog
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi

ลี่มี่มี่นางงิ้วชื่อดังและบิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อก้องถูกย้อนเวลากลับไปเมื่อ 600กว่าปีก่อน ณ.จวนสกุลหลินซึ่งถูกพระราชโองการสั่งประหาร 9 ชั่วโคตร จนหมดสิ้นตระกูล และเธอคือคุณหนูสิบหกนามว่าาหลินลี่ชา ซึ่งถูกไฟคลอกตายภายในบ่อน้ำร้าง ท่ามกลางสายตาคู่หนึ่งขององครักษ์เสื้อแพรซึ่งเป็นว่าที่คู่หมั้นของเธอในชาติอดีต "ข้าจะกลับมาหาเจ้าอย่างแน่นอน...ซือหม่าเยี่ยคัง ข้าจะต้องได้กลับมาแน่!!! ครั้นเธอถูกนำกลับมาอีกครั้งในฐานะลี่มี่มี่ นางงิ้วชื่อดังแห่งหอเลี่ยงเฟิ่ง และวางแผนที่จะเข้ามาเป็นอนุภรรยาของท่านโหวจอมโหด เพื่อเข้ามาอยู่ในจวนตงฉ่างโหวให้ได้ ลี่มี่มี่ต้องการคิดบัญชีแค้นกับทุกคนที่ทำให้ตระกูลหลินต้องสูญสิ้นโดยเฉพาะตงฉ่างโหวหรือซือหม่าเยี่ยคัง ผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพรคนปัจจุบัน ท่านโหวจอมโหด ตาหนวดหน้าเหี้ยมที่ลี่มี่มี่ใช้เรียก แต่แล้วกลับถูกซ้อนแผนอย่างย่อยยับจากที่จะต้องเข้ามาเป็นอนุภรรยา ดันกลับกลายมาเป็นฮูหยินของท่านโหวจอมโหดแทน

Lihat lebih banyak

Bab 1

ตอนที่ 1 บทนำ

รัชศกเจี้ยนเหวิน ปีที่ 4

รัชสมัยจักรพรรดิหมิงฮุ่ยตี้(ฮ่องเต้เจี้ยนเหวิน)

         จักรพรรดิหมิงฮุ่ยตี้เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิงหลังจากจักรพรรดิหงหวู่ พระราชอัยกาเสด็จสวรรคต พระองค์ได้ทรงใช้พระนามว่าฮุ่ยตี้ และใช้ศักราชประจำพระองค์ว่าเจี้ยนเหวิน ทรงดำเนินนโยบายลดทอนอำนาจของบรรดาหวางต่างๆ อย่างเข้มงวด อ๋อง 5 พระองค์ถูกย้ายออกจากเมืองที่ประทับ บางพระองค์ถูกปลด บางพระองค์ต้องฆ่าตัวตาย และเยี่ยนอ๋องจูตี้เองก็ถูกแพ่งเล็งเนื่องจากเป็นผู้ที่มีบทบาทมากในการศึกคราวก่อนๆ

 และก่อนที่จักรพรรดิหงหวู่จะเสด็จสวรรคตนั้น จักรพรรดิเจี้ยนเหวินทรงมีพระราชโองการห้ามให้อ๋องต่างๆ เข้ามาถวายบังคมพระบรมศพ ด้วยเหตุที่ว่าเกรงจะมีการก่อรัฐประหาร แต่มีอ๋องพระองค์หนึ่งคือเยี่ยนอ๋องไม่ยอมทำตามราชโองการนั้น พร้อมกับนำทหารราชองครักษ์เดินทางมายังเมืองหลวงนานกิง 

 แต่ด้วยมีราชโองการของจักรพรรดิส่งมาห้าม พระองค์จึงจำเป็นต้องกลับไปที่เมืองเป่ยจิง หลังจากสะสมอาวุธและฝึกซ้อมทหารจนใช้ชำนาญแล้ว เยี่ยนอ๋องจึงตัดสินพระทัยชิงลงมือยกทัพจากเป่ยจิงลงใต้เผชิญหน้ากับหลานชาย โดยอ้างว่าเพื่อกำจัดเหล่าขุนนางกังฉินสอพลอที่อยู่รอบข้างองค์จักรพรรดิ 

 มีบันทึกว่าก่อนที่พระองค์จะนำกองทัพยกออกจากเมืองนั้น ได้เกิดพายุพัดแรงจนกระทั่งหลังคาวังหักพังเสียหายซึ่งพระองค์กล่าวว่าเป็นเพราะได้เวลาที่พระองค์จะได้เสด็จเข้าไปประทับที่พระราชวังหลังคาเหลืองแล้ว

 การต่อสู้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 1942 (ค.ศ. 1399) เป็นเวลานานถึง 3 ปี ในระยะแรกฝ่ายเยี่ยนอ๋องเป็นฝ่ายเสียเปรียบเนื่องจากฝ่ายจักรพรรดิมีกองทหารปืนไฟ ซึ่งมีอานุภาพสูงทำให้ต้องทรงถอยทัพกลับไปทางเหนือแต่ทหารทางใต้ไม่คุ้นเคยกับอากาศหนาวทางภาคเหนือจึงล้มป่วยเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก 

 จนกระทั่ง พ.ศ. 1945 (ค.ศ. 1402) กองทัพของพระองค์ก็ได้ยกมาถึงชานกรุงหนานจิง ซึ่งกองทัพฝ่ายวังหลวงไม่สามารถต้านทานได้อีกเนื่องจากไม่มีแม่ทัพที่ชำนาญศึกเพราะถูกประหารไปตั้งแต่ปลายรัชกาลของจักรพรรดิหงหวู่ เหล่าขุนนางต่างพากันมาสวามิภักดิ์มากขึ้น และเมื่อถึงวันที่สาม เยี่ยนอ๋องก็สามารถบุกเข้าสู่ภายในเมืองได้ ปรากฏว่าเกิดเพลิงไหม้ภายในวังหลวง และมีผู้พบพระศพของฮองเฮากับพระราชโอรสของหมิงฮุ่ยตี้ถูกเพลิงครอกภายในวังชั้นในแต่ไม่มีใครพบพระศพของหมิงฮุ่ยตี้แม้แต่น้อย

 และนั่นจึงทำให้มีผู้สันนิษฐานว่าพระองค์ลอบหนีออกไปจากวังหลวงได้โดยการอารักขาจากกองทหารองครักษส่วนพระองค์ซึ่งกลุ่มขุนนางที่มีความจงรักภักดีนำเสด็จหนีออกมาจากวังหลวงได้เป็นผลสำเร็จและทรงผนวชก่อนที่จะเสียเมือง 

 ภายหลังต่อมาอีก 39 ปี ในรัชศกจ้งถ่ง มีผู้พบพระภิกษุชรารูปหนึ่งที่มีคนจำได้ว่าคือจักรพรรดิฮุ่ยตี้ หมิงอิงจงจึงมีราชโองการให้เชิญพระองค์มาประทับที่กรุงปักกิ่ง ที่ประทับของพระองค์ถูกปิดเงียบและสวรรคตอย่างสงบในกรุงปักกิ่งในเวลาต่อมา

 เยี่ยนอ๋องซึ่งมีชัยชนะเหนือกองกำลังของอดีตองค์จักรพรรดิเจี้ยนเหวินสถาปนาตนเองขึ้นปกครองเป็นจักรพรรดิพระองค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์หมิง เฉลิมพระนามว่าหมิงเฉิงจู่ ใช้ศักราชว่าหย่งเล่อ หลังจากที่ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิง 

 พระองค์ทรงมีราชโองการให้ประหารขุนนาง เนื่องจากทรงระแวงว่าขุนนางเหล่านั้นจงรักภักดีต่อพระนัดดาของพระองค์ซึ่งมีจำนวนกว่า 870 คน นอกจากนี้ยังดำเนินนโยบายลดทอนอำนาจเจ้าองค์อื่น ๆ อย่างเข้มงวด เช่น ห้ามมีกองทหารประจำเมืองให้มีได้แต่ทหารรักษาพระองค์จำนวนหนึ่ง ห้ามเจ้าแต่ละเมืองติดต่อกันเองโดยไม่ได้รับพระราชานุญาติ 

 ภารกิจแรกที่พระองค์ทรงทำคือดำริย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่เป่ยจิงอันเป็นฐานที่มั่นของพระองค์ด้วยเหตุผลว่าเพื่อป้องกันการรุกรานของชนกลุ่มน้อยทางเหนือ ทรงมีพระราชโองการให้อพยพคนมากมายหลายแสนคนจากเมืองหนานจิง มณฑลซานซีและมณฑลเจ้อเจียง 

 โดยแบ่งเป็น 5 สายเข้ามายังเมืองเป่ยจิงหรือเมืองปักกิ่งในยุคปัจจุบัน พร้อมกับเป็นการหาแรงงานเพื่อสร้างพระราชวังที่ประทับของจักรพรรดิในเมืองหลวงซึ่งก็คือ พระราชวังกู้กง หรือเป็นที่รู้จักกันดีนั่นก็คือ "พระราชวังต้องห้าม" 

 ในการนี้พระองค์ต้องเกณฑ์คนหนึ่งแสนพร้อมกับช่างฝีมืออีกหลายพันคน การก่อสร้างพระราชวังต้องห้ามนี้กินระยะเวลานานถึง 15 ปี พระองค์ให้ความสำคัญกับการก่อสร้างพระราชวังต้องห้ามแห่งนี้เป็นอย่างมาก และจะเสด็จมาตรวจตราการก่อสร้างด้วยพระองค์เอง หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 1956 (ค.ศ. 1413) พระองค์จึงทรงย้ายเมืองหลวงจากกรุงหนานจิงมาประทับที่กรุงปักกิ่ง เป็นการถาวร 

 และในช่วงของเหตุการณ์จลาจลดังกล่าว บรรดาขุนนางที่จงรักภักดีในรัชสมัยของจักรพรรดิเจี้ยนเหวิน ซึ่งถูกคำสั่งให้ประหารชีวิต จำนวนกว่า 870 คนนั้น หาใช่ประหารเพียงตัวขุนนางแต่เป็นการประหารทั้งตระกูล สายเลือดเหล่าขุนนางน้อยใหญ่ถูกกำจัดและฆ่าล้างโคตรล้มตายนับหลายพันชีวิต 

 และในการสำเร็จโทษประหารครั้งใหญ่กองกำลังองครักษ์เสื้อแพร ซึ่งเป็นหน่วยอารักขาขององค์จักรพรรดิที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความโหดเหี้ยมและอำมหิตอย่างยิ่งยวด องครักษ์เสื้อแพรถวายความซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อจักรพรรดิเพียงพระองค์เดียวเท่านั้นและเป็นหน่วยงานรับหน้าที่สนองพระราชโองการ จัดการกวาดล้างเหล่าขุนนางที่เป็นปรปักษ์ต่อองค์จักรพรรดิหย่งเล่อ ทั้งสอบสวน จับกุม กักขัง ทรมานตลอดจนสำเร็จโทษ

 สาเหตุที่จักรพรรดิหยงเล่อทรงกระทำเช่นนี้นั้นก็เพราะเมื่อครั้งเข้ายึดครองเมืองหนานจิงได้แล้ว จั่วเชียนโตวยวี้ซื่อ ซึ่งเป็นเจ้ากรมสืบสวนฝ่ายซ้าย ส่งจิ่งชิงพยายามที่จะลอบสังหารพระองค์ จักรพรรดิหย่งเล่อจึงสั่งประหารเก้าชั่วโคตร พร้อมทั้งทำลายหลุมฝังศพบรรพบุรุษทั้งหมด รวมทั้งสมาชิกคนอื่นๆ ในหมู่บ้านถูกถ่ายโอนออกนอกหมู่บ้านจนหมด หมู่บ้านนี้ถูกทำลายทิ้ง 

 ภายหลังได้กลายเป็นการกล่าวอ้างถึงจักรพรรดิหย่งเล่อว่าทรงจัดการกับขุนนางซึ่งจงรักภักดีต่อจักรพรรดิเจี้ยนเหวินอย่างโหดเหี้ยม ดั่งเช่นฟางเสี้ยวหรู ถูกประหารชีวิตสิบชั่วโคตร ครอบครัว 873 คนถูกเนรเทศ ผู้มีสายเลือดเกี่ยวดองเป็นญาติห่างๆถูกประหารมากกว่าพันคน 

 ฟางเสี้ยวหรู ซึ่งเป็นยอดมหาบัณฑิตแห่งต้าหมิง เคยเป็นพระอาจารย์สอนหนังสือให้แก่รัชทายาทจูอวิ่นเหวิน ภายหลังคือจักรพรรดิเจี้ยนเหวินแห่งราชวงศ์หมิง เป็นขุนนางที่จงรักภักดีต่อฮ่องเต้เจี้ยนเหวินเป็นที่สุด และยังเป็นกำลังสำคัญในการต่อต้านแผนชิงบัลลังก์ของเยี่ยนอ๋องจูตี้ 

 แต่สุดท้ายเมื่อจักรพรรดิเจี้ยนเหวินได้ตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เยี่ยนอ๋องได้ครองบัลลังก์แทน สถาปนาขึ้นเป็นจักรพรรดิหย่งเล่อ พระองค์ได้บีบให้ฟางเสี่ยวหรูเขียนหนังสือขอขมา ทว่าฟางเสี้ยวหรูยอมตายแต่ไม่ยอมจำนน 

 ฮ่องเต้หย่งเล่อจึงทรงมีพระราชโองการรับให้สั่งประหารชีวิตเก้าชั่วโคตร แต่ฟางเสี้ยวหรูยังกล่าวออกมาจนกลายเป็นวาทะอันโด่งดังที่สุดในชีวิตของเขาคือ "เก้าไม่พอ ต้องสิบต่างหาก" ชั่วโคตรที่สิบหมายถึงลูกศิษย์ของเขา ก่อนตายเขายังกัดเลือดจากนิ้วตัวเองเขียนอักษร (ช่วน) หมายถึง การแย่งชิง เพื่อประณามการกระทำของฮ่องเต้หย่งเล่อที่ได้อำนาจมาโดยไม่ชอบธรรม 

 การตายของเหลี่ยนจีหนิง ทำให้ทั้งเมืองกลายเป็นเมืองร้างล้มตายไป1051คน ครอบครัวและญาติพี่น้องร่วมสายโลหิตเดียวกันถูกประหารเก้าชั่วโคตร รวมทั้งเนรเทศคนเป็นหลักร้อยเช่นเดียวกัน การตายของเฉินตี๋ เนรเทศคนไปถึง180 คนโดยประมาณ ในบรรดาคนที่ถูกประหารเป็นครอบครัวที่ถูกประหาร 80 กว่าคน 

 การตายของหูหรุ่นครอบครัวทั้งหมด270 คนถูกประหารทั้งหมดการตายของต่งย้งครอบครัวทั้งหมดโดนประหาร 230 คน จั้วจิ้น ฮวงกวน ฉีไท่ ฮวงจีเฉิง หวางตู้ ลู๋หยวนจื่อ 

 และขุนนางคนอื่นๆ ที่ถวายความจงรักภักดีต่อจักรพรรดิเจี้ยนเหวินล้วนถูกประหารทั้งสิ้น นับได้ว่าเป็นการสั่งประหารครั้งใหญ่ที่ถูกบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ของราชวงศ์หมิง 

 ชีวิตของขุนนางที่ถวายความภักดีให้แก่อดีตองค์จักรพรรดิผู้สาบสูญและครอบครัวของผู้คนเหล่านั้นต้องถูกปลิดชีพด้วยคมดาบจนมิเหลือสิ้น เพื่อตัดรากถอนโคนไม่ให้เหลือผู้สืบทอดที่จะกลับมาเป็นผู้ก่อการกบฏและล้างแค้นต่อจักรพรรดิหย่งเล่อในภายหลัง

 ยามเมื่อลมพัดหวนมิอาจคืนกลับมาได้ดั่งเช่นกาลก่อนอีกต่อไป เมื่อรัชสมัยของจักรพรรดิเจี้ยนเหวินล่มสลายผลัดเปลี่ยนไปสู่แผ่นดินใหม่ของจักรพรรดิหย่งเล่อ 

 หน่วยตงฉ่างองครักษ์เสื้อแพรรับคำสั่งจากองค์จักรพรรดิ และจำต้องปฏิบัติตามพระบรมราชโองการอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง สังหารขุนนางที่เป็นปรปักษ์และไม่ถวายจงรักภักดี ฆ่าอย่าให้เหลือทั้งตระกูล!!!

Tampilkan Lebih Banyak
Bab Selanjutnya
Unduh

Bab terbaru

Bab Lainnya

Komen

default avatar
Nina Fahsai
ชอบมากๆ คนเขียนมีพื้นภูมิทั้งทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมแน่นหนามาก พล็อตเรื่องแบบไซไฟแฟนตาซีทำให้รับได้ง่ายกว่าพวกข้ามชาติข้ามภพแบบ(มัก)ง่ายที่คนอื่นมักชอบลอกเลียนกัน อ่านแล้วได้ความรู้ไปด้วย ภาษาสำนวนก็ละเมียดละมัย แต่เขียนได้กระชับไม่ยืดเอาคำเพิ่มแบบงกค่าเรื่อง เป็นเรื่องที่น่าอ่านจริงๆ
2025-09-22 03:28:21
0
46 Bab
ตอนที่ 1 บทนำ
รัชศกเจี้ยนเหวิน ปีที่ 4 รัชสมัยจักรพรรดิหมิงฮุ่ยตี้(ฮ่องเต้เจี้ยนเหวิน) จักรพรรดิหมิงฮุ่ยตี้เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิงหลังจากจักรพรรดิหงหวู่ พระราชอัยกาเสด็จสวรรคต พระองค์ได้ทรงใช้พระนามว่าฮุ่ยตี้ และใช้ศักราชประจำพระองค์ว่าเจี้ยนเหวิน ทรงดำเนินนโยบายลดทอนอำนาจของบรรดาหวางต่างๆ อย่างเข้มงวด อ๋อง 5 พระองค์ถูกย้ายออกจากเมืองที่ประทับ บางพระองค์ถูกปลด บางพระองค์ต้องฆ่าตัวตาย และเยี่ยนอ๋องจูตี้เองก็ถูกแพ่งเล็งเนื่องจากเป็นผู้ที่มีบทบาทมากในการศึกคราวก่อนๆ และก่อนที่จักรพรรดิหงหวู่จะเสด็จสวรรคตนั้น จักรพรรดิเจี้ยนเหวินทรงมีพระราชโองการห้ามให้อ๋องต่างๆ เข้ามาถวายบังคมพระบรมศพ ด้วยเหตุที่ว่าเกรงจะมีการก่อรัฐประหาร แต่มีอ๋องพระองค์หนึ่งคือเยี่ยนอ๋องไม่ยอมทำตามราชโองการนั้น พร้อมกับนำทหารราชองครักษ์เดินทางมายังเมืองหลวงนานกิง แต่ด้วยมีราชโองการของจักรพรรดิส่งมาห้าม พระองค์จึงจำเป็นต้องกลับไปที่เมืองเป่ยจิง หลังจากสะสมอาวุธและฝึกซ้อมทหารจนใช้ชำนาญแล้ว เยี่ยนอ๋องจึงตัดสินพระทัยชิงลงมือยกทัพจากเป่ยจิงลงใต้เผชิญหน้ากับหลานชาย โดยอ้างว่าเพื่อกำจัดเหล่าขุนนางกังฉ
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-08-26
Baca selengkapnya
ตอนที่ 2 จวนตระกูลหลิน
จวนตระกูลหลิน กรี๊ดดดด!!!! เสียงกรีดร้องอย่างโหยหวนของสตรีจำนวนมากมายด้วยความเจ็บปวดดังออกมาเป็นระยะติดตามด้วยร่างอันไร้วิญญาณร่วงหล่นฟุบลงไปกับพื้นจวน เมื่อถูกเชือดคออย่างไร้สิ้นความปราณีจากคมดาบ อ๊าคคคค!!!! เสียงบุรุษจำนวนมากก็ไม่แตกต่างไปจากเสียงร้องโหยหวนของสตรีแม้แต่น้อย ทุกชีวิตในจวนตระกูลหลิน ถูกสั่งประหารเก้าชั่วโคตร ชีวิตของหลินเหยียนเจิ้ง เสนาบดีผู้จงรักภักดีต่ออดีตองค์จักรพรรดิพร้อมด้วยฮูหยินและอนุภรรยาทั้งหก คุณชายทั้งสิบห้าคนซึ่งเกิดจากฮูหยินและอนุภรรยา คุณหนูสองนาง คุณหนูใหญ่บุตรีลำดับที่สิบหกเกิดจากฮูหยินเซียวและคุณหนูเล็กบุตรีลำดับที่สิบเจ็ดเกิดจากอนุภรรยาคนสุดท้อง รวมไปถึงข้าทาสบริวารที่คอยรับใช้ภายในจวนตระกูลหลินอีกกว่า 203 ชีวิต มีคำสั่งให้ประหารไม่เหลือสิ้น ทันทีที่ผู้เชิญพระราชโองการมาถึงจวนดังกล่าว เสียงกรีดร้องของเด็กน้อยมากมายทั้งชายและหญิงดังก้องระงมไปทั่วทั้งจวนตระกูลหลิน เมื่อถูกบรรดาองครักษ์เสื้อแพรซึ่งรับราชโองการจากองค์จักรพรรดิโดยตรงเท่านั้นให้จัดการปลิดชีพเสนาบดีหลินเหยียนเจิ้ง ผู้ไม่ภักดีพร้อมทุกชีวิตที่อยู่ภายในจวนตระกูลหลินทั้งหมด
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-08-26
Baca selengkapnya
ตอนที่ 3 ฝันจากอดีต 1.1
ยุคปัจจุบัน มหานครปักกิ่ง คอนโดขนาดใหญ่สูงเสียดฟ้ามีความสูงถึง 59 ชั้นตั้งอยู่ในเขตเฉาหยาง ของมหานครปักกิ่งเมืองหลวงของประเทศจีนที่ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในทวีปเอเชียและกำลังก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในมหาอำนาจของโลกที่แม้แต่ทางโลกตะวันตกยังต้องเฝ้าจับตามองการเจริญเติบโตชนิดที่ว่าก้าวกระโดดทางด้านเทคโนโลยีอันทันสมัยล้ำยุค เจริญก้าวหน้าไปอย่างมีมีที่สิ้นสุด ภายในห้องพักอาศัยขนาดสามห้องนอน มีสมาชิกเข้ามาอาศัยพักอยู่ด้วยกันสามคนล้วนเป็นหญิงสาววัยแรกรุ่นกำลังเรียนในระดับมหาวิทยาลัยด้วยกันทั้งสิ้น หญิงสาวทั้งสามเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่ยังเรียนระดับประถมและเติบโตมาพร้อมกัน จนกระทั่งต่างแยกย้ายสอบเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยแต่ก็อยู่ภายในมหานครปักกิ่งทั้งสิ้น หวังจิวเซียน หญิงสาวในวัย 20 ปีลูกสาวเพียงคนเดียวของนักธุรกิจใหญ่ทางการเงิน กำลังศึกษาในมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ทางด้านเศรษฐศาสตร์เพื่อรับช่วงต่อของกิจการตระกูลหวังครอบครัวเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีต้นๆ ของจีนที่มีทรัพย์สินมากมายหลายหมื่นล้าน เฉินเสวี่ยม่าน หญิงสาววัย 20 ปีเช่นกัน ครอบครัวเป็นนักการเมืองใหญ่เป็นบุตรสาวคนเล็กข
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-08-27
Baca selengkapnya
ตอนที่ 4 ฝันจากอดีต 1.2
อือ! เฉินเสวี่ยม่านพูดพลางพยักหน้าขึ้นลงพลางอธิบาย  “แต่บันทึกนี้ไม่ได้ระบุในพงศาวดารหลวงเป็นเพียงบันทึกข้อสันนิษฐานของกลุ่มขุนนางที่มองว่าแท้จริงแล้วหลินเหยียนเจิ้งถูกใส่ร้ายจากศัตรูคู่อาฆาต อาศัยเหตุการณ์และความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความหวาดระแวงของฮ่องเต้หย่งเล่อที่มีต่อขุนนางของอดีตฮ่องเต้เจี้ยนเหวิน เหล่าขุนนางมองว่าหย่งเล่อได้ราชบัลลังก์มาด้วยวิธีการแย่งชิงจากหลานตัวเอง ด้วยเหตุนี้ขุนนางที่ถวายความจงรักภักดีกับอดีตฮ่องเต้เจี้ยนเหวินจึงมีรับสั่งนำมาประหารชีวิตเป็นจำนวนมาก เหล่าขุนนาง ครอบครัว รวมไปถึงเครือญาติลามไปถึงลูกศิษย์ถูกประหารไม่เหลือ ล้มตายนับหมื่นชีวิตเลย”เฉินเสวี่ยม่านพูดพลางยื่นปากออกมา  “ดีนะที่พวกเราเกิดในยุคนี้ขืนได้ไปเกิดยุคนั้นประสาทได้กินตายกันพอดี ขุนนางหรือพวกมีอิทธิพลคหบดีผู้ร่ำรวยผิดปกติที่ร่วมมือกับขุนนางฉ้อฉล จะถูกองครักษ์เสื้อแพรซึ่งได้รับคำสั่งจากองค์จักรพรรดิเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น มีอำนาจล้นเหลือสามารถไล่ล่า จับกุม กักขัง สืบสวนสอบสวนและทรมานจนถึงลงโทษอย่างโหดเหี้ยมที่ท้ายสุดก็คือความตายที่จะได้รับอย่างทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสเลยทีเ
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-08-28
Baca selengkapnya
ตอนที่ 5 เมื่อดอกอวี้หลันโปรยปราย 1.1
ถนนหนานโหลวกู่เซียง   หนานโหลวกู่เชียง เป็นถนนคนเดินซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในกรุงปักกิ่ง ตั้งอยู่ในเขตตงเฉินทางทิศเหนือของพระราชวังต้องห้าม ทั้งสองข้างทางกว่า 800 เมตรเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย มีทั้งร้านเสื้อผ้า เครื่องประดับ ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่าง ร้านกาแฟ ผับ บาร์ และร้านอาหาร   อาคารบ้านเรือนของที่นี่มีอายุหลายร้อยปี นับเป็นตรอกซอกซอยที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงปักกิ่ง ซึ่งได้รับการอนุรักษ์จากรัฐบาลไว้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งส่วนใหญ่จะทำการดัดแปลงเป็นร้านค้าแต่ก็ยังคงความเก่าแก่ของแบบบ้านโบราณเอาไว้ทุกอย่างดั่งเช่นบ้านเรือนของผู้คนในยุคอดีต   แก๊งนางร้ายที่สามสาวใช้เรียกเวลารวมตัวกัน แต่ละคนมีลักษณะโดดเด่นแตกต่างกันออกไป แต่ที่แน่นอนก็คือความสวยที่โดดเด่นและสรีระของร่างกายที่กินกันไม่ลง   ร่างสูงงามระหงเกือบจะเท่ากันทุกคนตามยุคสมัยของผู้คนในยุคสมัยใหม่ในศตวรรษที่ 21 มีเพียงเฉินเสวี่ยม่านเท่านั้นที่สูง 168 เซนติเมตร ส่วนลี่มี่มี่และหวังจิวเซียนสูง 170 เซนติเมตรเท่ากัน หวังจิวเซียนถูกเพื่อนร่วมแก๊งตั้งฉายาให้แก่เธอว่านางร้ายแห่งเฉาห
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-08-29
Baca selengkapnya
ตอนที่ 6 เมื่อดอกอวี้หลันโปรยปราย 1.2
ห้องสมุดอวี้หลัน  ในเวลานี้สามสาวสวยของแก๊งนางร้ายกำลังพากันหยุดยืนมองบานประตูขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นในสมัยโบราณทำมาจากไม้เนื้อแข็งอย่างดี บานประตูดังกล่าวทำมาจากต้นสนพันปีจึงมีความแข็งแรงและคงทนยืนหยัดอยู่นาน มีร่องรอยของการชำรุดตามกาลเวลาที่ผ่านมาหลายร้อยปีแต่ยังคงสภาพสมบูรณ์เอาไว้เกือบ 90% เลยทีเดียว  “โอโห่! แน่ใจนะว่านี่มันบานประตูบ้านคนหรือบานประตูของพระราชวังต้องห้ามกันแน่ ทำไมถึงได้ใหญ่โตอลังการขนาดนี้เลยละเสี่ยวม่าน แต่พวกเราก็มาเดินเที่ยวแถวนี้เดือนละครั้งทำไมถึงไม่เคยเห็นบ้านหลังนี้มาก่อนเลย”หวังจิวเซียนถามเพื่อนรักกลับไปด้วยความสงสัยก่อนจะหันกลับไปถามลี่มี่มี่  “มี่มี่คิดว่าอย่างไงเคยเห็นบ้างไหมหรือว่าเป็นฉันคนเดียวที่ไม่ได้สังเกตว่าแถวนี้มีบ้านหลังมหึมาตั้งอยู่แถบนี้”  ใบหน้าคมเฉี่ยวของลี่มี่มี่ส่ายไปมาติดต่อกันอย่างช้าๆ เป็นการปฏิเสธกลับมา  “ฉันก็เพิ่งจะเห็นครั้งแรกเหมือนกัน”หญิงสาวตอบกลับไปเสียงเบา ดวงตาเฝ้าจับจ้องบานประตูขนาดใหญ่ตรงหน้าราวกับว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน  ทันใดนั้นเอง  พรึบ! บานประตูทางเ
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-08-30
Baca selengkapnya
ตอนที่ 7 เมื่อดอกอวี้หลันโปรยปราย 1.3
ทันใดนั้นเอง  ภาพเหตุการณ์ในครั้งอดีตปรากฏให้ลี่มี่มี่ได้เห็นขึ้นมาทันที บ้านร้างไร้สิ้นผู้คนพลันปรากฏผู้คนมากมาย เต็มไปด้วยข้าทาส บริวารและบ่าวรับใช้ เสียงเด็กน้อยหัวเราะร่วนอย่างมีความสุขและเสียงหัวเราะของสตรีสาววัยกลางคนสวมอาภรณ์เลอค่าผู้หนึ่งกำลังนั่งปลูกต้นไม้กับบุตรสาววัยย่างเข้าดรุณีแรกแย้มของนางอยู่ตรงบริเวณท้ายจวนห้อมล้อมไปด้วยบ่าวรับใช้ ที่กำลังช่วยกันคนละไม้คนละมือปลูกต้นอวี้หลันอยู่ในเวลานั้น  “ท่านแม่ชอบต้นอวี้หลันสีอะไรเจ้าคะ ช่าช่าชอบสีม่วงที่สุดเลยเจ้าค่ะดูลึกลับ มีเสน่ห์และหอมมากด้วย”เสียงลูกสาวตัวน้อยของนางส่งเสียงถามเจื้อยแจ้ว ซึ่งในขณะนั้นเพิ่งจะมีอายุสิบสี่ปี  “แม่ก็ชอบสีม่วงเหมือนกัน แต่ดอกอวี้หลันยังมีอีกหลายสีนะลูกนอกจากสีม่วงแล้ว ยังมีสีขาว สีเหลือง สีชมพูก็มีนะแต่ไม่ว่าจะเป็นสีอะไรล้วนแล้วสวยงามทั้งสิ้น ส่งกลิ่นหอมเช่นกันแม่ได้พันธ์สีม่วงกับสีขาวมา เดี๋ยวเรามาช่วยกันปลูกเว้นระยะห่างไม่ให้เบียดกันไปตามแนวกำแพงจวน และแบ่งไปปลูกตรงประตูด้านหน้าจวนสักสองสามต้น”ฮูหยินเซียวบอกบุตรสาวของนาง  “เจ้าค่ะท่านแม่..เดี๋ยวข้าช่วยปลู
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-08-31
Baca selengkapnya
ตอนที่ 8 ห้วนคืนสู่สกุลหลิน 1.1
บริเวณท้ายจวน          ร่างของหญิงสาวสวมอาภรณ์ซึ่งเป็นที่นิยมในศตวรรษที่ 21 กางเกงยีนรัดรูปสีน้ำเงินเข้มสวมทับเสื้อเบี่ยงไหล่แขนข้างเดียวสีดำสนิทเปลือยเรียวแขนขาวโพลนดั่งลำเทียนข้างซ้าย ในขณะที่แขนข้างขวาความยาวของแขนเสื้อแนบยาวคลุมถึงข้อมือ เสื้อนั้นรัดรูปเน้นทรวงอกอวบตามวัยสาว 19 ปีของเธออย่างเห็นได้ชัด   อีกทั้งยังมีความยาวเพียงแค่เหนือสะดือ มิหนำซ้ำกางเกงยีนที่สวมอยู่ยังเอวต่ำเปิดเปลือยหน้าท้องขาวนวลเนียนโชว์สะดือสวยรับกับสะโพกกลมกลึงและช่วงขาเรียวยาว สวมรองเท้าบูธสีดำยาวจนเลยเหนือเข่าไปอีกหนึ่งคืบ ปลายส้นร้องเท้าบูธสูงถึงสี่นิ้วยิ่งทำให้เธอสูงระหงมากยิ่งขึ้นไปอีก  ลี่มี่มี่นั่งกอดเข่าเจ่าจุกอยู่ตรงหน้าบ่อน้ำมาตลอดทั้งคืน หญิงสาวไม่ยอมลุกเดินไปไหนด้วยเพราะเธอกำลังสับสนและตกใจอย่างสุดขีดกับเหตุการณ์ประหลาดที่กำลังเกิดขึ้นกับตัวเธออยู่ในเวลานี้ ด้วยยังหวังอยู่ภายในใจลึกๆ ว่าหากยังนั่งอยู่ตรงนี้หญิงสาวจะได้กลับไปในยุคที่เธอจากมาก็อาจเป็นได้  หากแต่กลับไม่เป็นไปอย่างที่คิดเพราะลี่มี่มี่นั่งกอดเข่าอยู่หน้าบ่อน้ำดังก
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-09-01
Baca selengkapnya
ตอนที่ 10 หวนคืนสู่สกุลหลิน 1.3
 ประตูห้องนอน  แอดดดด!!!! บานประตูห้องนอนใหญ่ค่อยๆ ถูกเปิดออกอย่างช้าๆ เผยให้เห็นร่างระหงของลี่มี่มี่สวมอาภรณ์บุรุษของยุคสมัยราชวงศ์หมิงสีขาวลออตา หญิงสาวเลือกที่จะสวมเสื้อผ้าของบุรุษเพราะความสูงของเธอไม่สามารถสวมใส่เสื้อผ้าของสตรีที่ตัดสำเร็จมาแล้วได้เลย   อีกทั้งเสื้อผ้าสตรีเหล่านั้นมีความยาวของกระโปรงสั้นเกินไปกว่าที่เธอจะสวมได้เนื่องจากสตรีโบราณจะมีส่วนสูงไม่เกิน 160 เซนติเมตรเสียส่วนใหญ่ ซึ่งความสูงดังกล่าวถือว่าสูงมากแล้วในยุคสมัยนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วจะมีความสูงเฉลี่ยต่ำกว่านี้ลงไปอีก   และนั่นจึงทำให้ลี่มี่มี่เลือกที่จะสวมเสื้อผ้าของบุรุษที่มีความสูงโดยทั่วไปเฉลี่ยแล้วเท่ากับตัวเธอได้อย่างพอดิบพอดีมากกว่าจะสวมเสื้อผ้าของสตรี หญิงสาวกลายเป็นคุณชายหน้าหวานร่างสูงโปร่งบาง สวมอาภรณ์ขาวปักลวดลายเมฆสีทองทั้งชุดมาพร้อมกับพัดคู่กายที่เลือกหยิบได้ตามใจภายในห้องเก็บทรัพย์สิน   และสิ่งที่เธอลืมไม่ได้เลยคือเลือกหยิบก้อนเงินใส่ไว้จนเต็มถุงผ้าและตั๋วแลกเงินเก็บไว้ภายในอกเสื้อ เส้นผมสีดำสนิทที่มวยเอาไว้อยู่ก่อนหน้านี้แ
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-09-02
Baca selengkapnya
ตอนที่ 9 หวนคืนสู่สกุลหลิน 1.2
เรือนชิงเหลียน  สองเท้าเดินก้าวข้ามสะพานเพื่อเดินตรงไปที่เรือนใหญ่ของประมุขจวนสกุลหลินในอดีต เรือนชิงเหลียนมีสระน้ำกว้างใหญ่ตั้งอยู่ก่อนถึงจะถึงตัวเรือน ภายในสระเต็มไปด้วยดอกบัวสีฟ้ามากมายยังคงเบ่งบานและปรากฏให้เห็น   ร่างระหงของลี่มี่มี่ค่อยๆ ก้าวเดินพลางกวาดสายตามองไปที่ศาลากลางน้ำพร้อมปรากฏภาพหลินลี่ชามักจะมานั่งเล่นหมากล้อมกับฮูหยินเซียวอยู่เป็นประจำ กระดานหมากล้อมยังคงวางอยู่บนโต๊ะศาลากลางน้ำอยู่เช่นนั้น  “กระดานหมากล้อมของท่านแม่จนป่านนี้ก็ยังตั้งวางอยู่เหมือนเดิมหรือนี่”หญิงสาวพูดพึมพำ  ลี่มี่มี่ชะลอฝีเท้าหยุดยืนมองศาลากลางน้ำอยู่บนสะพานข้ามสระใหญ่ พร้อมขอบตาเริ่มมีน้ำตาคลอหน่วยขึ้นมาเมื่อเห็นภาพในอดีตก่อนจะรู้สึกตัว  “เอาแล้วไง! ยิ่งมองยิ่งเห็นภาพทำไมเราถึงจำได้นะแปลกจริงเชียว”ลี่มี่มี่บ่นพึมพำก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินข้ามสะพานตรงไปยังเรือนใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า  เพียงครู่ร่างระหงของลี่มี่มี่ก็มาหยุดยืนอยู่ภายในห้องนอนของหลินเหยียนเจิ้งและฮูหยินเซียวในอดีต ดวงตาสีน้ำตาลคู่สวยที่ถูกกรีดอายไลเนอร์จนดำข
last updateTerakhir Diperbarui : 2025-09-02
Baca selengkapnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status