Sexy 18+

"Okay, let's make a deal." I shouldn't have engaged him. I know I shouldn't have, but I did it anyway. "What deal?" "Six months. I give you six months. If you fall in love with me within that time frame, I kill you. If you don't, your freedom is guaranteed." He gave me a sinister smile. If I looked hard enough, I'd see the horns on his head, portraying him as the devil he really is. "Deal?" Everything in me was screaming to say no and get the fuck away from him. I knew I was going against everything I know when I said, "Deal." Alessandro Maurizio is someone Jordan shouldn't mess with, but she hasn't been known to make the best decisions either. What happens when she disrespects her boss, the crazy mafia don?

The story of a garbage girl. Ibinenta, tumakas, nagmahal at nabigo. Niligtas s'ya ng isang Doctor at natutunan s'yang mahalin nito. And they fought their love for all the odds.

I was forced to marry the man I didn't know and meet. Hindi sana ako papayag pero ako raw ang gustong pakasalan ng lalaki at kung hindi ako papayag, hindi nila ipapagamot ang kakambal ko. Akala ko nakatakas na ako sa masamang magulang ko, pero hindi pala. Iniipit nila ako gamit ang kapatid ko. I am Mariah Georgiane Delevingne - De Luca. Married for 3 years with unknown man. Alam ko lang ang pangalan niya. He is Czar Amadeo de Luca . . . iyon lang. I never saw his face nor meet him. Hindi niya ako sinipot sa kasal namin. I was living miserable life. Hanggang sa biglang dumating ang isang lalaki na nagpakilala bilang si Ryuu Keir Yniguez, isang military doctor. Siya raw ang gagamot sa kakambal ko at magiging body guard ko. Anong papel niya sa buhay ko? Bakit parang siya ang asawa ko?

"คืนนั้นเราได้กันใช่ไหม?" นี่คือประโยคแรกที่เขาถามเธอหลังจากไม่ได้เจอกันถึงห้าปี ภายนอกที่ดูสุขุม ใจเย็น อ่อนโยน ที่คนอื่นเห็น เธอรู้ดีที่สุดว่ามันแค่ภาพลวงตา คืนนั้นต่างหากที่เป็นเรื่องจริง!

เขาต้องแต่งงานกับเธอ เพราะไม่ทันเล่ห์เหลี่ยม มารยา แต่เธอกลับทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้แต่งงานกับเขา

ถ้าไม่ติดว่าพ่อสามีขอร้อง เธอคงขอหย่ากับเขาไปนานแล้ว ไม่ปล่อยให้เขามาหยามเกียรติควงผู้หญิงอื่นไปทั่วเมืองอยู่แบบนี้หรอก

เมื่ออยู่ดีๆ พนักงานต้อนรับอย่าง ขวัญข้าว ต้องเข้ามาอยู่ในร่างของคู่หมั้นท่านประธานเจ้าของโรงแรมที่เธอทำงานอยู่อย่าง ภาคย์ เธอจะเอาตัวรอดจากการใช้ชีวิตเป็นคนรวยที่นิสัยแย่อย่าง อลิชา ได้ยังไง?

"ไหนเคยบอกว่าอยากได้ผม?" "ตอนนี้ก็ยังอยากได้อยู่" รวีธารสบตาคนตัวสูงนิ่ง ส่งสายตาสื่อความหมายความรู้สึกภายในใจ วันนั้นอยากได้ยังไง วันนี้ก็ยังไม่เปลี่ยน... "แล้วยุ่งกับเพื่อนผมทำไม" "เพื่อนคุณมายุ่งกับฉันก่อนเอง" เธอไม่ได้โกหก ก็เพื่อนเขาเป็นฝ่ายเข้าหาเธอก่อนจริงๆ "อ้อ! ดีนี่ แล้วไอ้ที่ยืนกันอยู่หน้าห้องน้ำเมื่อกี้ได้ทำแบบเดียวกับที่ทำกับผมวันนั้นรึเปล่า" "หมอไทม์!" "ว่าไง? มันได้ทำแบบนี้ไหม" ริมฝีปากร้อนเคลื่อนไหวช้าๆ สัมผัสเบาๆ ที่ติ่งหู กระซิบแผ่วเบาพร้อมลมหายใจอุ่น ก่อนความอุ่นร้อนจากริมฝีปากจะแตะสัมผัสที่ต้นคอ ย้ำเตือนในสิ่งที่เขาเคยทำกับเธอ "มะ...ไม่ได้ทำ" "งั้นไปสานต่อเรื่องคืนนั้นกัน" *************** "ที่ผ่านมาคุณเป็นคนอยากได้ผมเองไม่ใช่รึไง" "หมอไทม์!" "ทำไม? ผมพูดอะไรผิด คุณอยากได้ผมก็แค่สนอง" ส่วนเขา...ก็ไม่ได้รักเธอสักหน่อย ไม่เห็นมีอะไรต้องแคร์!

ในเมื่อความปรารถนาสูงสุดของอีกฝ่ายไม่ใช่ครอบครัว เธอจึงกลายเป็นคนที่เขาอยากเขี่ยทิ้งไปให้พ้นตัว เหตุผลที่เขาก้าวเข้ามาในชีวิตของเธอ ใช้ถ้อยคำหวานหลอกล่อจนหญิงสาวตายใจ ในที่สุดเธอก็ได้ตัดสินใจแต่งานกับเขาอย่างไม่มีข้อแม้ใด ๆ ท้ายที่สุดแล้วความจริงก็ปรากฏขึ้น เพราะปรเมศเข้าใจผิด คิดว่าเขมิกาคือสาเหตุที่ทำให้ผู้เป็นมารดาของเขาต้องจากโลกนี้ไปโดยไม่ได้เอ่ยคำบอกลา “เขมท้อง!” หญิงสาวตัดสินใจพูดเรื่องทารกน้อยในครรภ์ เพราะลึก ๆ แล้วยังแอบหวังที่จะได้อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา อารมณ์ของเขมมิกาแปรปรวน เธอเองไม่อาจควบคุมได้ บางทีก็คิดอยากอยู่ประเดี๋ยวก็อยากไป “กี่เดือน” “หกสัปดาห์แล้วค่ะ” “เด็กคนนี้เป็นลูกของใคร” “คุณปรเมศ!” เขมมิการู้สึกผิดหวังในตัวชายหนุ่ม เขาไม่ควรตั้งคำถามนี้กับเธอ

“คุณเสือคะ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะคะ เนตรกับคุณเมธเราไม่ได้มีอะไรกัน มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้นค่ะ” เนตรแพรปรับโทนเสียงข่มความโกรธที่เขาดูถูกเธอ พยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ “เธอคิดว่าฉันจะเชื่อผู้หญิงร่านร้อนอย่างเธอเหรอเนตรแพร” เขาเดินมาหาหญิงสาวที่ยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเขา พูดแล้วชี้นิ้วจิ้มเข้าที่หน้าผากมนออกแรงผลักเพียงนิดเดียวศีรษะทุยก็เอียงเอนจนทรงตัวไม่อยู่ “พี่เสือคะ ฟางมารับไปทานข้าวกลางวันค่ะ” อยู่ ๆ เฟยเฟิ่งก็เปิดประตูเข้ามา ทำให้ทั้งศรุตและเนตรแพรหันไปทางต้นเสียงอย่างรวดเร็ว ส่วนคนที่เข้ามาไม่ดูเวลาตกใจเล็กน้อย ดูเหมือนว่าสองคนในห้องกำลังมีปากเสียงกันอย่างไรอย่างนั้น “น้องฟางมาแล้วเหรอครับ รอพี่แป๊บหนึ่งนะ” ศรุตบอกผู้มาใหม่ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แล้วหันมาตวาดใส่คนตัวเล็กเสียงแข็ง “ส่วนข้าวเที่ยงที่เธอเอามา ฉันไม่กินเอากลับไป พร้อมกับร่างกายเน่า ๆ ของเธอซะ” “คุณเสือคะ เนตรมีเรื่องสำคัญอยากจะบอกคุณเสือค่ะ” เนตรแพรตัดสินใจที่จะบอกเรื่องสำคัญให้ศรุตได้รับรู้ มันคือเรื่องที่น่ายินดีสำหรับเธอ แต่ไม่รู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะยินดีกับสิ่งที่เธอจะพูดหรือไม่