เมื่อหญิงสาวในยุคปัจจุบัน ได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตอีกครั้งเพื่อพบกับรักแท้ที่รอคอยเธออยู่ จ้าวชิงชิง หญิงสาวผู้มีพรสวรรค์เกี่ยวกับความงาม เธอมีฐานะร่ำรวยและมีความสามารถและพรสวรรค์ของเธอ เธอคิดค้นครีมและสิ่งของบำรุงผิวพรรณเกี่ยวกับความงามทั้งชายและหญิง จนร่ำรวยจนไม่มีใครเทียบเธอได้เธอฉลาดและเก่ง แต่ทว่า โชคชะตาช่างโหดร้ายนัก สามีที่เธอแต่งงานด้วยเกือบสองปี นอกใจและรวมหัวกับเพื่อนสนิทของเธอฆ่าเธอเพื่อชิงสมบัติ ความรู้สึกนึกคิดสุดท้ายของเธอจบลงที่ตรงนั้น จ้าวชิงชิงตื่นขึ้นมาในยุคสมัยของราชวงศ์ต้าโจว ที่มีฮ่องเต้นามว่า จ้าวชิงเฟย และมีพระโอรสสองพระองค์นามว่า จ้าวจิ้งเทียน และ จ้าวเฟยหรง จ้าวชิงชิงตื่นมาอยู่ในร่างของหลิวลี่เซียน บุตรสาวคนโตของตระกูลหลิวที่งดงามเพรียบพร้อมแต่ขี้โรคและอ่อนแอนัก และมีน้องสาวฝาแฝดนามว่าหลิวลี่ซือที่ภายนอกดูเรียบร้อยอ่อนโยนแต่ร้ายกาจยิ่งนัก
View Moreท่ามกลางดวงดาวที่เจิดจ้าบนท้องนภา จ้าวชิงชิงหญิงสาวผู้เพียบพร้อมทั้งรูปร่างหน้าตาและทรัพย์สมบัติกลับรู้สึกว่าวันนี้ท้องฟ้าช่างมืดมิดเหลือคณา ราวกับว่าความมืดมิดกำลังจะคืบคลานเข้ามาหาเธอไปตลอดกาล
"ตายรึยังคะที่รัก?"
"ไม่น่าจะรอดแล้ว เรารีบจัดการเถอะ"
จ้าวชิงชิงใช้แรงเฮือกสุดท้ายหันไปมอง หลี่เย่สามีผู้เป็นที่รักของเธอกับหยางมี่เทียนเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวในชีวิตที่รวมหัวกันฆ่าเธอ คนทรยศ!!
"ขอโทษนะชิงชิง ผมหวังว่าคุณจะหลับให้สบายไม่ต้องห่วงอะไร ผมจะดูแลทุกอย่างแทนคุณเอง"
"ทะ ทำไม?"
จ้าวชิงชิงใช้แรงที่เหลือเปล่งเสียงที่ดังเพียงน้อยนิดออกไป ทว่าดูเหมือนเธอจะไร้เรี่ยวแรงเหลือเกิน
"ยาที่คุณกินเข้าไปมันค่อยๆ ออกฤทธิ์ช้าๆ ตอนนี้พ่อแม่ของคุณได้หลับใหลไปตลอดกาลแล้วนะ ผมจะฉีดมันเข้าไปให้คุณทรมานน้อยลง คุณจะได้หลับสบายๆ"
จ้าวชิงชิงพยายามส่ายหน้าไปมาช้าๆ เธอไม่มีแม้กระทั่งเรี่ยวแรง เธอเพิ่งรู้วันนี้ว่าเธอถูกสามีกับเพื่อนสนิทแสนชั่วช้าแอบวางยาเธอและคนในครอบครัวมาโดยตลอด เธอไม่เคยสงสัยเลยว่าอาการแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับเธอกับพ่อแม่ของเธอจะเป็นฝีมือของหลี่เย่กับหยางมี่เทียน
หลี่เย่หยิบกระดาษออกมาหนึ่งใบ เขาจับนิ้วโป้งของจ้าวชิงชิงกดลงกับหมึกและประทับลงไปที่กระดาษ
"เรียบร้อยแล้วที่รัก เท่านี้เราก็รวยมหาศาลแล้ว"
พวกชั่วทั้งสองคน!!! ไม่คิดเลยว่าจะใช้วิธีสกปรกแบบนี้กับเธอ จ้าวชิงชิงมองหลี่เย่กับหยางมี่เทียนด้วยสายตาโกรธแค้น แต่ที่เจ็บปวดมากกว่านั้นคือเธอไม่สามารถจะทำอะไรได้เลย
เธอเป็นผู้หญิงเก่ง ฉลาด ชาติตระกูลดี แต่ทำไม? ทำไมโชคชะตาเล่นตลก นำพาให้เธอไปพบเจอคนชั่วทั้งสองคนนี้
หลี่เย่ค่อยๆ ฉีดยาเข้ามาที่แขนของจ้าวชิงชิง ความเจ็บปวดแวบผ่านเข้ามา ก่อนที่ทุกอย่างจะมืดมิดลงไป
ราชวงศ์ต้าโจว
จวนตระกูลหลิว
"คุณหนู!!! คุณหนูฟื้นแล้วรึเจ้าคะ ฮือออ คุณหนูใหญ่!!!
เสียงเอะอะโวยวายปนเสียงสะอื้นไห้ ทำให้จ้าวชิงชิงที่เพิ่งฟื้นได้สติค่อยๆ ลืมตาขึ้นด้วยความหนักอึ้งที่ศีรษะ
จ้าวชิงชิงมองไปรอบๆ ด้วยความมึนงง
ที่นี่ที่ไหนกัน? ไม่ใช่ที่บ้านเหรอ แล้วหลี่เย่กับหยางมี่เทียนล่ะ?
"ฉันยังไม่ตายเหรอเนี่ย?"
จ้าวชิงชิงจับใบหน้าและลูบตามร่างกายของตนเองก่อนจะต้องตกใจ ทำไมเธอถึงมาแต่งกายด้วยชุดโบราณเช่นนี้
ชุดผ้าไหมปักลายดอกเหมยชมพูอ่อนทั้งชุด ช่างงดงามนัก
เดี๋ยวก่อน!!! นี่ฉันหลงมากองถ่ายหนังจีนโบราณเขวี้ยงดาบฟึ่บฟั่บๆ เหรอ
"คุณหนูใหญ่เจ้าคะ ดื่มยาก่อนนะเจ้าคะ ท่านตกน้ำไปตอนที่ไปชมสวนดอกเหมยที่จวนตระกูลเจินแล้วหมดสติไป บ่าวเป็นห่วงท่านแทบแย่!"
จ้าวชิงชิงมองไปที่เด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้ม ดูแล้วน่าจะอายุราวสิบห้าปีด้วยความสงสัย เธอจึงเผยรอยยิ้มออกมาแล้วมองไปที่เด็กคนนั้น
"ที่นี่ที่ไหนเหรอ? แล้วกำลังถ่ายซีรีส์อะไรกัน ใช่เรื่องที่หยางหยางเป็นพระเอกปะ? ฉันชอบเขามากเลยอะ ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน? เอ๊ะ!!! ว่าแต่ใครเป็นนางเอก ใช่หลิวอี้เฟยรึเปล่า? ไม่ๆๆๆ สิ แล้วใครพาฉันมาที่นี่กันเนี่ย?"
เด็กสาวตรงหน้ามองจ้าวชิงชิงด้วยสายตาไม่เข้าใจ
"คุณหนูพูดเรื่องอันใดเจ้าคะ บ่าวไม่เข้าใจ"
"แหม!! แม่หนูเลิกเล่นละครละตอบพี่สาวมาสิจ๊ะว่าที่นี่ที่ไหน แล้วเอ่อ? หนูเห็นผู้ชายที่หล่อๆ กับหญิงสาวผิวขาวๆ ผ่านมาทางนี้บ้างไหม?"
จ้าวชิงชิงพยายามข่มโทสะเมื่อต้องเอ่ยถึงหลี่เย่กับหยางมี่เทียน หึ! คนชั่ว ถ้าฉันได้เจอหน้าพวกแก ฉันจะจัดการพวกแกให้สาสมเลย
"ว่าไงสาวน้อย?"
"ที่นี่จวนตระกูลหลิวของท่านเสนาบดี หลิวเทียนเฉิงกับฮูหยินลี่หยางเจ้าค่ะ"
เด็กสาวตรงหน้ายังคงตอบคำถามของจ้าวชิงชิงด้วยสายตาใสซื่อ
จ้าวชิงชิงเริ่มรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ เธอค่อยๆ ลุกขึ้นพยายามจะก้าวไปที่กระจก แต่รู้สึกว่าร่างกายช่างไม่มีแรงเอาเสียเลย
"คุณหนูจะไปที่ใดเจ้าคะ คุณหนูต้องรักษาตัวนะเจ้าคะ"
"ฉันจะไปที่กระจก!"
จ้าวชิงชิงไม่สนใจเสียงร้องเตือนของเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้า เธอค่อยๆ เดินโซเซไปหยุดอยู่ที่หน้ากระจก
หญิงสาวที่หน้าตาเหมือนกับเธอ แต่ดูแล้วอายุน้อยกว่าเธอไปถึงครึ่งหนึ่ง หญิงสาวในกระจกดูราวอายุสิบหกปี หน้าตาอ่อนแรง แต่ยังคงความสง่างามเอาไว้
จ้าวชิงชิงกลั้นใจเดินออกไปที่นอกห้อง ทันทีที่ออกไปลมหนาวก็พัดมาปะทะร่างของเธอ ทำให้เหน็บหนาวนัก จ้าวชิงชิงกวาดสายตามองไปโดยรอบ หญิงสาวมากมายบ้างก็กำลังกวาดลาน บ้างก็กำลังเช็ดถู บ้างกำลังยกถ้วยน้ำชาเดินไปตามทาง แต่เมื่อทุกคนเห็นจ้าวชิงชิงก็โค้งกายทำความเคารพ
"คารวะคุณหนูใหญ่เจ้าค่ะ"
ไม่จริง!!! ที่นี่มันที่ไหนกันแน่ ฉันหลุดมาอยู่ที่ไหน คุณพ่อคุณแม่ล่ะ
ในระหว่างที่จ้าวชิงชิงกำลังอยู่ในอาการตกใจและสับสน ก็มีเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้น
"ลี่เซียน! เจ้าฟื้นแล้วรึลูกแม่!"
จ้าวชิงชิงหันไปมองตามเสียงก็พบกับหญิงผู้หนึ่งอายุราวสามสิบกว่าปี ใบหน้าสูงวัยดูงดงามคล้ายเธอถึงเจ็ดแปดส่วนวิ่งเข้ามากอดเธอทั้งน้ำตา
"โธ่! ลี่เซียนลูกแม่ แม่คิดว่าเจ้าจะไม่ฟื้นแล้วซะอีก แล้วนี่อะไรกัน ไป๋หลาง! เจ้าปล่อยให้คุณหนูใหญ่ออกมาตากลมหนาวได้อย่างไร!!!"
"ขออภัยเจ้าค่ะฮูหยิน บ่าว เอ่อ คือบ่าวห้ามแล้วแต่คุณหนูไม่ยอมฟังบ่าวเจ้าค่ะ"
"นี่เจ้า"
จ้าวชิงชิงหันมองเด็กสาวที่ชื่อไป๋หลางสลับกับมองหญิงที่แทนตนเองว่าแม่ตรงหน้า
หรือว่าผู้หญิงคนนี้จะคือ ลี่หยาง ฮูหยินที่ไป๋หลางพูดถึง
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!!!
จ้าวชิงชิงมองหน้าฮูหยินลี่หยางด้วยความสับสน
"ลี่เซียน เจ้าเป็นอะไรไป? ทำไมมองแม่แบบนี้เล่า"
"ที่นี่ที่ไหน?"
จ้าวชิงชิงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ทำให้ฮูหยินลี่หยางขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
"เจ้าถามอะไร? แม่ไม่เข้าใจ"
"ที่นี่ที่ไหน เอ่อ ฉันหมายถึง รัชสมัยไหน ราชวงศ์อะไร?"
"ราชวงศ์ต้าโจว ฮ่องเต้นามว่าจ้าวชิงเฟย เจ้าถามทำไมหรือ?"
ใบหน้าของจ้าวชิงชิงซีดเผือด เธอหลับตาลงและนึกย้อนเรื่องราว เธอตายจากโลกปัจจุบันย้อนกลับมาสู่อดีตในร่างของตัวเองวัยเด็กที่ชื่อหลิวลี่เซียนงั้นหรือ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!
จ้าวชิงชิงไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็ทำใจให้ไม่เชื่อไม่ได้ ภาพตรงหน้าทำให้เธอมึนงงสับสนไปหมด
"ไม่จริง!!! ไม่จริง"
"หลิวลี่เซียนเป็นอะไรลูก!!!"
ฮูหยินลี่หยางรีบวิ่งมาประคองร่างที่หมดสติไปของจ้าวชิงชิงด้วยความตกใจ
"เกิดอะไรขึ้นรึเจ้าคะท่านแม่?"
"ลี่ซือ เจ้ารีบไปตามหมอเร็วเข้า แล้วให้คนไปแจ้งท่านพ่อเจ้าด้วยว่าพี่เจ้าฟื้นขึ้นมาแล้วหมดสติไป!!!"
"อะไรนะเจ้าคะ พี่ใหญ่ฟื้นแล้วรึ!!!"
"เจ้าตกใจอันใด รีบไปทำตามที่แม่สั่งเร็วเข้า!!!"
หลิวลี่เซียนค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ความรู้สึกอ่อนเพลียและเหนื่อยล้าถาโถมเข้าใส่ร่างกายของนางอย่างตั้งรับเอาไว้แทบไม่ทัน"ดื่มน้ำก่อนนะคะ คุณหนู"หลิวลี่เซียนหันไปมองก่อนจะพบเข้ากับเลขาหวัง เลขาประจำตัวของนางที่เพิ่งจ้างเข้ามาทำงานให้เมื่อห้าปีก่อนเดี๋ยวนะ!! นี่มันเรื่องอะไรกัน?หลิวลี่เซียนยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มด้วยความหิวกระหาย ก่อนจะมองสังเกตไปโดยรอบ ก็พบว่าตอนนี้ตนเองกำลังใส่ชุดของโรงพยาบาลอยู่นี่มันเกิดอะไรขึ้น? นางย้อนกลับมาร่างเดิมเช่นนั้นหรือ?หลิวลี่เซียนยกมือขึ้นบีบหว่างคิ้วที่ปวดหนึบขึ้นมาเสียดื้อๆ ความคิดมากมายประเดประดังเข้ามาในหัวของนางอย่างไม่จบไม่สิ้น"คุณหนูชิงชิงคะ อีกเดี๋ยวคุณหมอคงจะมาแล้วค่ะ""เลขาหวัง""คะคุณหนู?""ข้า เอ่อ ฉันหลับไปนานเท่าไร แล้วที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง?"เลขาหวังขมวดคิ้วมอง 'จ้าวชิงชิง' ด้วยแววตาสงสัย แต่ก็ยอมเอ่ยปากเล่าให้เธอฟังทุกเรื่องเลขาหวังเล่าว่า คุณพ่อของจ้าวชิงชิงโทรมาหาเลขาหวังกลางดึกให้รีบพาตำรวจมาที่บ้านโดยด่วนที่สุด เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรท่านประธานจึงให้เรียกตำรวจเข้าไปในเวลาดึกดื่นเช่นนี้แต่เมื่อเธอไปถึงก็พบว่าหลี่เย่สามีของจ้าว
ภายในคุกหลวงที่มืดมิดไร้ซึ่งแสงไฟส่องสว่าง ปรากฏร่างของเหมยฮวาชิงที่นอนดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้นที่มีหนูตัวน้อยใหญ่ไต่ยั้วเยี้ยไปมาอย่างน่าขนลุก"ได้เวลาดื่มยาพิษแล้ว"เสียงผู้คุมคุกหลวงที่นางได้ยิน ราวกับเสียงแห่งขุมนรกกำลังเรียกร้องหานาง นางไม่อาจจะยอมรับได้เลยว่า สุดท้ายแล้วนางต้องมาตกตายด้วยยาพิษที่ตนเองเป็นคนสร้างมันขึ้นมาด้วยมือของนางเองหลังจากเหมยฮองเฮาตายจากไปแล้ว ก็มีคำสั่งให้ประหารคนตระกูลเหมยจนสิ้นซาก ไม่เหลือรอดแม้เพียงคนเดียว บ่าวไพร่ถูกโบยจนตกตายไปตามกัน ป้ายคำสั่งทหารนับแสนนายที่เคยอยู่ในมือของท่านพ่อก็ถูกยึดคืนสู่ราชสำนักไปหมด จ้าวจิ้งเทียนช่างโหดร้ายยิ่งนัก เขาถอนรากถอนโคนตระกูลเหมยจนสิ้นซากไร้การได้ลืมตาอ้าปากอีกครั้งจวนตระกูลเหมยถูกยึดเป็นสมบัติคลังหลวง ตระกูลเหมยที่เคยโอ่อ่าใหญ่โต อำนาจบารมีล้นฟ้า ไม่มีผู้ใดกล้าต่อกรด้วย สุดท้ายแล้วกลับหายสาบสูญตายจากไปอย่างไม่เหลือรอดแม้แต่คนเดียวเหมยฮวาชิงถูกกรอกยาพิษทุกวัน วันละสามมื้อ หลิวลี่เซียนช่างจิตใจอำมหิตจนน่าหวาดกลัวเหมยฮวาชิงดิ้นทุรนทุราย ดวงตาเบิกโพลงกระอักเลือดออกมาคำโต ช่วงชีวิตสุดท้ายของนางนั้น นางนึกหวนย้อนไปถึง
รัชศกจิ้งเทียนปีที่หนึ่งหลิวลี่เซียนกำลังนั่งอยู่ที่หน้ากระจกมองดูตนเองถูกเหล่านางกำนัลจัดแต่งอาภรณ์ให้ด้วยความใส่ใจ นางยกยิ้มมุมปากมองดูสตรีที่สูงส่งตรงหน้าด้วยสายตาพอใจ นี่ใช่นางจริงหรือ? ราวกับฝันไปเสียจริงๆ"ได้เวลาแล้วเพคะฮองเฮา"หลิวลี่เซียนพยักหน้าก่อนจะมองไป๋หลางด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ไป๋หลางนั้นได้เลื่อนขั้นเป็นนางกำนัลคนสนิทของหลิวลี่เซียนคอยรับใช้อยู่ข้างกายนางหลิวลี่เซียนนั่งอยู่บนเกี้ยว มองดูเหล่าขันทีนางกำนัลหมอบกราบทำความเคารพนางด้วยสายตาอ่อนโยนมีเมตตา เสียงดนตรีบรรเลงขับขาน ช่างฟังแล้วให้ความรู้สึกตื้นตันในใจเหลือคณานางกับจ้าวจิ้งเทียนอภิเษกสมรสกันเมื่อสองเดือนก่อน หลังจากที่ไท่ซังหวงทรงสละราชสมบัติ จ้าวจิ้งเทียนจึงแต่งตั้งนางขึ้นเป็นฮองเฮาหลิวฮองเฮาสวมชุดสีแดงปักลายหงส์คู่มังกร แถบเซี๊ยะเพ่ยปักลายหงส์พิลาสคู่ มงกุฎหงส์เป็นรูปแบบดั้งเดิมของราชวงศ์ต้าโจว มีหงส์รำแพนคู่หนึ่งตัว ด้านข้างคือหงส์พิลาสข้างละหนึ่งตัว ประดับด้วยทับทิมและอัญมณี ส่งเสริมให้พระนางดูงามสง่าและน่าเกรงขามยิ่งนัก ใบหน้าที่งดงามดูทรงอำนาจชวนมอง ทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นไม่สามารถละสายตาจากนางไปได้ฮ่องเต้จ้
หลิวลี่ซือจ้องมองร่างอันไร้ซึ่งลมหายใจของเหมยฮองเฮาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะใช้ผ้าปิดบังใบหน้า แล้วเดินก้มหน้าก้มตาออกมาจากคุกหลวงโดยไร้ซึ่งพิรุธใดๆ นางเดินไปอย่างไม่รีบไม่ร้อน ชื่นชมบรรยากาศภายในวังหลวงยามค่ำคืนอย่างสงบเยือกเย็นคืนนี้พระจันทร์ช่างงดงามเหลือเกิน ท่านแม่เจ้าคะ ป่านนี้ท่านคงกำลังชื่นชมข้ากับท่านพี่ลี่เซียนอยู่บนสรวงสวรรค์ใช่หรือไม่?รุ่งเช้าข่าวการตายอย่างปริศนาของเหมยฮองเฮาก็เป็นที่โจษจันกันไปทั่วทั้งวังหลวง สภาพศพช่างน่าเวทนาและน่าขยะแขยงไปในคราเดียวกัน อดีตฮองเฮาพระองค์นี้ช่างอายุสั้นยิ่งนัก เพิ่งจะได้เสวยความสุขอยู่ในตำแหน่งที่สูงสุดได้ไม่นาน ก็ร่วงตกลงมาสู่ความตายเบื้องล่างอย่างน่าอนาถในที่เกิดเหตุพบผ้าคลุมผืนหนึ่งปักตัวอักษรฮวาชิงเอาไว้ คาดว่าน่าจะเป็นของฆาตกรที่ใช้ฆ่าอดีตฮองเฮา ผู้คุมคุกหลวงถูกสอบสวนอย่างหนัก เขาให้การว่ามีนางกำนัลของตำหนักพระชายารององค์รัชทายาทมาขอพบกับอดีตฮองเฮา บอกว่าพระชายารองให้นำสิ่งของมามอบให้อดีตฮองเฮา หลังจากที่นางกำนัลผู้นั้นเดินออกมา อดีตฮองเฮาก็กลายเป็นศพไปเสียแล้ว กว่าจะทราบว่านางตายก็เกือบจะรุ่งสางของอีกวันเหมยฮวาชิงถูกควบคุมตัวมา
จ้าวเฟยหรงมองเหมยฮองเฮาด้วยแววตาเย็นเยียบ บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนที่เขารักยิ่ง นางถึงกับกล้ามาวางยาพิษเชียวหรือ ช่างบังอาจเทียมฟ้ายิ่งนัก!!!"นังคนสารเลว!!!""หึ!! ไม่ใช่แค่บุตรชายของเจ้านะ แม้แต่แม่ของเจ้าก็ถูกข้าวางยาพิษมานานเสียจนร่างกายอ่อนแอ อีกไม่นานนางคงจะไปสู่ปรโลกอย่างเป็นสุขพร้อมกับบุตรชายของเจ้า ฮ่าาๆๆๆ""นังคนสารเลว สุดท้ายเจ้าก็หลุดปากออกมาทั้งหมดว่าเจ้าเป็นคนทำ!!!""แล้วอย่างไรเล่า!! ข้าเป็นคนทำเรื่องทั้งหมดด้วยตนเอง คนในตระกูลข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง"จ้าวจิ้งเทียนส่งเสียงเฮอะในลำคอ ใครเชื่อนางก็บ้าเต็มทนแล้ว เขามองนางด้วยสายตาดูแคลนก่อนจะเอ่ยปากกับนาง"คนในตระกูลของเจ้าจะมีส่วนรู้เห็นในความเลวของเจ้าหรือไม่นั้น ข้าจะเป็นคนสืบหาเอง!!!"จางอิงอิงมองเหมยฮองเฮาก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก นางค่อยๆ ย่องไปทางด้านหลังของเหมยฮองเฮาด้วยฝีเท้าที่เบาเป็นอย่างยิ่ง ก่อนจะใช้เข็มเงินอาบยาพิษแทงเข้าไปที่ต้นคอของเหมยฮองเฮาฉึก!!!"อ๊าาาา"หลิวลี่เซียนอาศัยช่วงเวลาชุลมุนนี้ กระทุ้งศอกไปที่ปลายคางของเหมยฮองเฮาอย่างแรงจนนางมึนงง เซถลาใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความทรมาน"จับนางไว้!!!"เหล่าทหารจับ
หลิวลี่เซียนยื่นมือไปทุบประตู หวังจะร้องขอความช่วยเหลือ แต่กลับพบว่ามันร้อนเสียจนนางต้องรีบชักมือกลับ ควันสีขาวภายในห้องยิ่งพวยพุ่งมากขึ้นจนนางรู้สึกจุกแน่นที่จมูกและเริ่มหายใจไม่ออก นางถอยหลังออกมาทรุดตัวลงนั่ง สติเริ่มรางเลือนลงไปทุกขณะ"ชิงชิง"หลิวลี่เซียนพยายามประคองสติและเงยหน้าไปมอง ร่างของนางถูกจ้าวจิ้งเทียนช้อนตัวอุ้มขึ้นมาไว้ในอ้อมอก ก่อนที่เขาพานางพุ่งทะยานออกมาจากเรือนที่ไฟกำลังไหม้ลุกโหม"แค่ก แค่ก""เป็นอย่างไรบ้าง"หลิวลี่เซียนพยักหน้าน้อยๆ นางเองรู้สึกดีขึ้นไม่น้อยที่ได้ออกมาจากควันสีขาวที่ลอยคลุ้งเช่นนั้น"ท่านมาได้อย่างไร""ข้ารู้สังหรณ์ในใจว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีกับเจ้าก่อนถึงวันแต่งงานของเรา ข้าคาดเดาไว้ไม่ผิดเลย พวกมันลงมือรวดเร็วยิ่งนัก""ลี่เซียน เจ้าไม่เป็นอะไรนะ""ท่านพี่ ข้าปลอดภัยดีเจ้าค่ะ ซินฮวาเล่า""นางสำลักควันจนหมดสติ หมอหลวงกำลังดูอาการอยู่""เหตุใดไฟจึงไหม้ได้เจ้าคะ""คาดว่าเหมยฮองเฮาคงจะลงมือแล้ว สายสืบภายในของข้าที่แฝงอยู่ในตำหนักนางถูกนางสังหารจนสิ้นไปเสียแล้ว"หลิวลี่เซียนใจหล่นวูบ นางมองจ้าวฝูหมิงด้วยสายตาเป็นกังวล จ้าวฝูหมิงรับรู้ในความกังวลของน
Comments