เมื่อคืนนั้นเธอเป็นคนขับรถและทำให้เมียของเขาต้องจากไป โดยที่เธอได้หัวใจของผู้หญิงคนนั้นมาอยู่ในร่างกายแทน เขาโทษว่าทุกอย่างเป็นความผิดของเธอและเธอต้องชดใช้ วุ้นเย็นยอมรับในชะตากรรมที่เขามอบให้และเธอก็เต็มใจที่จะเลี้ยงดูเด็กแฝดที่ในคืนนั้นหมอสามารถช่วยชีวิตได้แค่ลูกทั้งสองแต่แม่ต้องจากไป เมธัชรู้มาตลอดว่าน้องสาวนอกสายเลือดคนนี้แอบชอบเขา ทุกอย่างที่เกิดขึ้นสำหรับเขามันคือแผนการที่เธอจงใจให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ ในเมื่อเธอทำให้เขาต้องเสียแม่ของลูกไป เธอก็ต้องได้รับบทเรียนอย่างสาสม....
View Moreตอนที่1
รักใหม่ของแม่
ปลายเท้าเล็กซอยถี่ ๆ ทันทีที่ปิดประตูรั้วเรียบร้อย ดวงตากลมใสเปล่งประกายระยิบระยับ เมื่อเห็นว่ามีรถเก๋งคันใหม่เอี่ยมจอดอยู่ที่หน้าบ้านและเธอจำได้ว่านั่นเป็นรถของแม่ ที่ขับมาหาทุกปี
“คุณแม่ขา”
วุ้นเย็นเด็กหญิงวัยสิบสองปีร้องขึ้นด้วยความดีใจ ก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปกอดโสภา ผู้เป็นแม่ด้วย ความรักและคิดถึง โดยไม่ทันได้มองว่ายังมีคนอื่นนอกจากแม่และยายนั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขกด้วย
โสภาก็ทั้งกอดทั้งหอมวุ้นเย็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของเธอ พอชื่นใจและหายคิดถึง ก็ดันเด็กหญิงออกห่างเล็กน้อย ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“วุ้นเย็น นี่คุณอาวิชัย เจ้านายของแม่และ...กำลังจะเป็นพ่อเลี้ยงของหนูจ้ะ”
พูดพร้อมกับผายมือไปที่ชายวัยประมาณห้าสิบกว่า ๆ สวมชุดลำลองเรียบง่าย แต่กลับทำให้เรือนกายสูงใหญ่ดูภูมิฐาน วุ้นเส้นจำได้ว่าแม่โสภาเคยส่งรูปผู้ชายคนนี้มาให้ดูก่อนแล้ว รวมทั้งพูดให้ฟังบ่อย ๆ ว่าเจ้านายดีกับแม่มาก ทั้งให้เงินเดือนที่สูง ทั้งยังดูแลเรื่องที่พักที่อาศัยดี ๆ ให้ตั้งแต่ตอนที่แม่เข้าไปทำงานที่บริษัทเมื่อสามปีก่อน วุ้นเส้นไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้ทำงานตำแหน่งอะไร รู้แค่ว่าเป็นเจ้านายที่แสนดีของแม่เท่านั้น และตอนนี้ก็จะกลายเป็นพ่อเลี้ยงตามที่แม่บอก นั่นก็แสดงว่าแม่กำลังจะแต่งงานกับเจ้านายแล้ว
“สวัสดีค่ะคุณอา”
เด็กหญิงพนมมือไหว้อย่างนอบน้อม ด้วยน้ำเสียงที่น่ารักและท่าทางที่น่าเอ็นดู วิชัยรับไหว้พร้อมกับรอยยิ้มที่ดูอบอุ่นอ่อนโยน
“สวัสดีครับ หนูวุ้นเย็น น่ารักอย่างที่คุณแม่เล่าให้ฟังจริง ๆ แต่ต่อไปนี้หนูต้องเรียกฉันว่าพ่อนะครับ เพราะต่อจากนี้ไป ฉันก็จะดูแลหนูกับแม่และทุกคนในครอบครัวด้วย”
น้ำเสียงที่อ่อนโยน กับรอยยิ้มที่ดูใจดี ทำให้เด็กหญิงรู้สึกผ่อนคลายและไว้ใจมากขึ้น เธอยิ้มรับ ก่อนจะถามออกมาตรง ๆ
“อย่างนี้ก็หมายความว่าคุณอากับคุณแม่จะแต่งงานกันใช่ไหมคะ”
“อื้อ!ยายวุ้น” โสภาดุลูกสาวผิวแก้มขาวเนียนแดงปลั่งด้วยความเขินอาย เพราะถึงวิชัยจะบอกรักและขอดูแลเธอกับลูก แต่ก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องงานแต่งงานมาก่อนและเธอก็ไม่ได้คาดหวังด้วย แค่วิชัยพาเธอไปจดทะเบียนสมรสให้ถูกต้องตามตากฎหมายมันก็ดีที่สุดสำหรับเธอแล้ว
วิชัยหัวเราะเสียงดังด้วยความชอบใจ นึกเอ็นดูในความกล้าพูดกล้าถามของเด็กหญิงหน้าตาน่ารักอย่างวุ้นเย็นเป็นอย่างมาก
“ใช่แล้ว ฉันกำลังจะแต่งงานกับคุณแม่ของหนูเร็ว ๆ นี้ครับผม” วิชัยพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น พร้อมทั้งปรายตามองโสภาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก
โสภานิ่งงันไปเพราะไม่คิดมาก่อนว่าวิชัยจะทำให้เธอถึงขนาดนี้ แต่วุ้นเย็นกลับร้องขึ้นมาด้วย ความยินดีและตื่นเต้น ตามประสาเด็กหญิงที่มองโลกในแง่ดี
“เย้ !ดีใจจังเลยค่ะหนูจะได้เห็นคุณแม่ใส่ชุดเจ้าสาวสวย ๆ ปกติคุณแม่ก็สวยมากอยู่แล้ว ถ้าได้สวมชุดแต่งงานสีขาวพอง ๆ ยาว ๆ เหมือนในซีรี่ คุณแม่จะต้องสวยมากแน่ ๆ เดินคล้องแขนกับคุณอาที่หล่อเหลาและใจดี ท่ามกลางกลีบดอกไม้และเสียงเพลงหวาน ๆ ว้าว! เป็นงานแต่งงานที่ โรแมนติกมากเลยค่ะ”
เด็กหญิงพูดพลางจินตนาการถึงงานแต่งตามแบละคร ที่เธอชอบดู แต่ภาพจินตนาการแสนหวานต้องดับลง เมื่อรู้สึกเจ็บนิด ๆ ที่แขน
“อุ๊ย! คุณแม่หยิกหนูทำไมคะ” วุ้นเย็นร้องเกินจริง กระพริบตาปริบ ๆ จนขนตางอนหนาสั่นไหวราวกับปีกผีเสื้อ
“คุณยายปล่อยให้ดูละครเยอะไปแล้ว ดูสิพูดจาเพ้อเจ้อใหญ่เลย” โสภาดุลุกสาวเบา ๆ ก่อนจะหันไปหาวิชัย พร้อมยิ้มอาย ๆ
“อย่าไปถือสาคำพูดลูกสาวของฉันเลยค่ะ แค่ที่คุณให้เกียรติรับฉันกับลูกไปดูแล ก็พอแล้วล่ะค่ะ เรื่องงานแต่งงานอะไรฉันไม่ได้..” โสภาพูดไม่ทันจบประโยค วิชัยก็คว้ามือบางของเธอไปกุมไว้ พร้อมกับทอดสายตามองด้วยความรัก
“ตอนแรกผมกะว่าจะเซอร์ไพรซคุณ แต่แม่หนูน้อยพูดออกมาขนาดนี้ ผมก็คงต้องบอกคุณว่าผมได้จัดเตรียมงานแต่งงานไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้รอแค่ชุดเจ้าสาวที่สั่งตัดเสร็จแล้วให้คุณไปลอง ถ้าไม่มีอะไรต้องแก้ งานแต่งงานระหว่างคุณกับผมก็จะถูกจัดขึ้นบนเรือสำราญในแม่น้ำเจ้าพระยาครับ”
“คุณวิชัย!”
โสภาตะลึงงัน นี่เป็นเรื่องที่เธอไม่คาดคิดมาก่อน เธอไม่เคยสวมชุดแต่งงานแม้ในตอนที่แต่งกับพ่อของวุ้นเย็น ก็เพียงสวมชุดธรรมดา และผูกข้อไม้ข้อมือกันแค่ในหมู่ญาติพี่น้องเท่านั้น ด้วยฐานะทั้งสองฝ่ายที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไร เพราะเธอจบปริญญาตรีการบริหารและการจัดการ แต่สอบทำงานในที่ว่าการอำเภอได้เป็นนักวิชาการฝ่ายการเงินและการบัญชี เงินเดือนแค่หมื่นกว่าบาท ส่วนพ่อของวุ้นเย็น ก็เป็นครูอัตราจ้างที่เงินเดือนพอ ๆ กัน แต่ในตอนนั้นเธอก็คิดว่ามันดีที่สุดสำหรับเธอแล้ว แต่เรื่องร้ายก็เข้ามาเมื่อพ่อของวุ้นเย็นเกิดอุบัติเหตุขณะที่พานักเรียนไปทัศนศึกษา เพราะกระโดดลงไปช่วยเด็กนักเรียนที่พลัดตกน้ำ
ตอนที่29 รอผลตรวจ “คุณธัช ยายดาวล่ะคะ ยายดาวเป็นอย่างไรบ้าง เจ็บมากหรือเปล่า โถ่เอ๊ย! แม่บอกว่าไม่ให้พูดอะไรที่ไม่เป็นมงคลก่อนแต่งงานก็ไม่ฟัง เกิดเรื่องจนได้ ฮือ..”ญาดาร้องถามทันทีที่เห็นเมธัชยืนอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน พร้อมทั้งโวยวายตีโพยตีพายด้วยความเป็นห่วงลูก สีหน้าก็ซีดขาวราวกระดาษ เนื้อตัวอ่อนปวกเปียกคล้ายจะเป็นลม จนภากรต้องเข้ามาพยุงไว้เมธัชขยับจะพูดแต่ประตูห้องฉุกเฉินก็เปิดออกมาเสียก่อน ดุจดาวเดินออกมา เมื่อเห็นว่าแม่กำลังร้องไห้และมีท่าทีคล้ายจะเป็นลมเธอก็ถลาเข้าไปหาทันที “คุณแม่” “ยายดาว ฮือ...เจ็บตรงไหนไหมลูก แม่แทบจะช็อคตายเมื่อรู้ว่าเกิดอุบติเหตุขึ้นกับลูก ฮือ..” ญาดาพูดพลางสังเกตุไปตามเนื้อตัวของลูกสาวไปด้วยดุจดาวจับมือของแม่ไว้ พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานและอ่อนโยน&nb
ตอนที่28 หากต้องจากกันชั่วนิรันดร์ “ทำไมดาวถึงอนุญาตให้เจ้าของร้านเอารูปไปทำโปสเตอร์ติดหน้าร้านละครับ” เมธัชเอ่ยถาม ระหว่างการเดินทางกลับบ้านดุจดาวแหงนมองเขา ด้วยสีหน้าที่กังวลเล็กน้อย “ทำไมคะธัชไม่ชอบหรือ งั้นดาวโทรไปยกเลิกไม่ให้เขาเอารูปไปใช้นะ” พูดพลางล้วงหยิบมือถือขึ้นมา เพื่อที่จะโทรหาเจ้าของร้าน เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเมธัชจะไม่โอเค แต่ข้อมือบางก็ถูกคว้าไว้ด้วยฝ่ามือหนาเสียก่อน “เปล่า ๆ ผมโอเค แต่อยากฟังความคิดของดาวแค่นั้นเอง ผมรู้ว่าทุกอย่างที่ดาวทำจะต้องมีเหตุผล แค่อยากรู้เหตุผลนั้นเองครับ” น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนและจริงใจ ดุจดาวจึงยิ้มหวานออกมา “ธัชแน่ใจนะว่า จะฟังความคิดและเหตุผลของดาวได้ โดยที่ไม่ตกใจ”ถามหยั่งเชิงดูก่อน เพราะความคิดบางอย่างของเธออาจทำให้คนฟังตื่นตกใจได้ ต
ตอนที่27เลือนรางราวหมอกควันเรือนร่างบอบบางที่อยู่ในชุดแต่งงานสีขาว ค่อย ๆ ก้าวออกมาจากห้อง ผ่านผ้าม่านบาง ๆ ชายหนุ่มมองไล่ขึ้นไปจากเท้าเล็ก ๆ ที่อยู่ในรองเท้าส้นสูงสีเดียวกับชุดผ่านช่วงเอวที่คอดกิ่ว ไปจนถึงผิวเนื้อเหนือเนินอกที่ขาวนวลเนียน ลำคอที่บางระหง แต่พอถึงใบหน้าเรียวเล็ก เขาก็ต้องผงะ นิ่งงันไปชั่วคราวเพราะนั่นไม่ใช่ดุจดาว แต่เป็นใบหน้าของวุ้นเย็นน้องสาวของเขานั่นเอง “ธัชคะ ธัช” ดุจดาวเห็นเมธัชเอาแต่จ้องมอง ด้วยสีหน้าที่แปลก ๆ จึงร้องเรียกขึ้นเบา ๆเสียงหวานทำให้เขาได้สติ ที่แท้ก็แค่เกิดภาพหลอน มองเห็นดุจดาวเป็นวุ้นเย็นไปได้ “เจ้าสาวสวยมากจนเจ้าบ่าวตกตลึง พูดไม่ออกเลยเชียวค่ะ” เจ้าของร้านดีไซเนอร์ชื่อดัง เอ่ยแซวพร้อมกับขยิบตาให้ดุจดาวอย่างมีจริตดุจดาวก้มหน้าลงเล็กน้อย หลบตาคมด้วยความเอียงอาย ถึงแม้เธอกับเขาจะสนิทกันมาก และรู้จักกันมานานแต่เธอก็ไม่เคยกล้าสบตาคม
ตอนที่26 หนูก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้นโสภากอดลูกสาว พยายามฝืนกลั้นน้ำตาไว้ภายในอย่างเข้มแข็ง เพราะรู้ว่าลูกกำลังอ่อนแอ เธอจะต้องเป็นหลักให้ลูก “มันก็อยู่ที่ว่าหนูจะรอให้ใครมาปลดปล่อยความรู้สึกนั้น หรือหนูจะปลดปล่อยด้วยตัวเอง มันก็อยู่ที่หนูจะเลือก หัวใจเป็นของหนู หนูจะยอมให้ใครหรืออะไรมากักขังมันไว้ทำไมล่ะ” “แต่หัวใจของหนูมันไม่ดีนี่คะ ทั้งอ่อนแอทั้งขี้เกียจ พร้อมที่จะหยุดทำงานได้ทุกเมื่อ หนูเกลียดหัวใจดวงนี้เหลือเกินค่ะ ทำไมละคะแม่ ในเมื่อให้หนูเกิดมาแล้ว ทำไมถึงไม่ให้หนูเอาหัวใจที่แข็งแรงเหมือนคนอื่นมาด้วย มันอ่อนแอกับทุกความรู้สึกของหนูเลยค่ะ”เธอรำพึงรำพันด้วยความทุกข์ที่อัดอั้นอยู่ในใจ พร้อมกับซุกใบหน้าเล็กเข้าหาความอบอุ่นจากอกของผู้เป็นแม่ “แม่ถึงบอกให้หนูอยู่กับความเป็นจริงอย่างไรล่ะลูก หากเลือกได้แม่ก็จะเลือกเอาหัวใจของแม่ ให้กับลูก
ตอนที่25ความรู้สึกผิดกักขังหัวใจคนวุ้นเย็นพยักหน้าอย่างดีใจ เพราะเธอเป็นคนที่ชอบกินน้ำส้มคั้นสดมาก ๆ โสภารีบเทน้ำส้มใส่แก้ว แล้วเอาไปส่งให้ลูกสาว วุ้นเย็นรับมาก่อนจะดื่มอึก ๆ ไปครึ่งแก้ว “ค่อย ๆ ดื่มซิลูก เดี๋ยวก็สำลักเอาหรอก” โสภาพูดไม่ทันขาดคำ วุ้นเย็นก็สำลักจนน้ำตาไหล “เห็นไหม แม่บอกแล้วว่าให้ค่อย ๆ ดื่ม สำลักจนหน้าแดงแล้ว แม่ออกไปเรียกหมอดีกว่า”โสภาพูดขึ้นด้วยความกังวล พลางหมุนตัวจะออกไปเรียกหมอ แต่วุ้นเย็นคว้าข้อมือของผู้เป็นแม่ไว้เสียก่อน “แค่ก ไม่ต้อง ๆ หนูไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ” “แน่ใจนะว่าไม่เป็นไรแล้ว ถ้าเหนื่อยก็รีบบอกนะลูก” โสภายังไม่คลายกังวล “หนูหายแล้วจริง ๆ ค่ะ นี่ไงไม่สำลักแล้ว เขาว่ากันว่า เวลาที่จู่ ๆ เราจามหรือว่าสำลักแสดงว่ามีคนคิดถึง นี่ก็แสดงว่ามีคนคิดถึงหนูแน่ ๆ เลยค่ะ” วุ้นเย็นพูดติดตลกเพียงเพื่อไม่ให้แม่กังวลมากเกินไปโสภาส่ายหน้าก่อนจะบีบที่ปลายจมูกโด่งรั้นของลูกสาวเบา ๆ “คิดถึงจนทำให้ เกือบเอาชีวิตไม่รอดแบบนี้แม่ว่าอย่าคิดถึงเลยดีกว่า” โสภาพูดกลั้วหัวเราะวุ้นเย็นยิ้มบาง ๆ ตากลมหรุบมองแก้วน้ำส้มในมือ
ตอนที่24 ซ้อมตาย “ไม่เป็นไรก็ดีแล้วน่าคุณ หายตกใจได้แล้วมั้ง”ภากรปลอบภรรยา ที่ยังหน้าซีดตัวสั่นไม่หาย พร้อมทั้งส่งยาดมยาหอมให้อีกด้วย “โอ๊ย จะไม่ให้ตกใจได้ไงละคุณ นี่ถ้าหากฉันไม่ฟังลูก แล้วหลบงูตามรถคันนั้นไป จะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ ใจคอไม่ดีเลยค่ะ แถมวันนี้หลวงพ่อก็พูดแปลก ๆ ประมาณว่าไม่ให้ยึดติด ให้ปล่อยวางอะไรแบบนั้นด้วยนะคะ ฉันว่าท่านคงรู้อะไรล่วงหน้าแน่ ๆ เลยค่ะคุณ” ญาดาพูดให้ฟังด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือดุดาวส่ายหน้าเบา ๆ พร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆ “คุณแม่คะ สิ่งที่หลวงตาพูด นั่นเป็นเรื่องของสัจจะความจริงที่คนเราต้องพึงระลึกไว้เสมอ เพื่อที่ว่าจะได้ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท และหากถึงวาระสุดท้าย ก็จะได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบอย่างไรล่ะคะ หลวงตาท่านไม่ได้รู้เห็นอะไรล่วงหน้าหรอกค่ะ เป็นบุญของพวกเรามากกว่า ที่ได้ฟังธรรมจากหลวงตา”ดุจดาวพูดด้วยหัวใจที่เปี่ยมสุข ไม่ได้ตระหนกต่อสิ่งใดเพราะเชื่อว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ต่างกับญาดาผู้เป็นแม่ ที่รู้สึกไม่สบายใจกับคำพูดของลูกสาวเอาเสียเลย “วารงวาระสุดท้ายอะไร จะแต่งงานแล้วห้ามพูดอะไรที่ไม่เป็นมงคลนะลูก โบราณเขาถือรู้ห
Comments