เข้าสู่ระบบพ่อเลี้ยงคิมหันต์หนุ่มหล่อดีกรีนักเรียนนอก อนาคตไกล ชายผู้ยอมละทิ้งความฝันของตัวเอง เพราะเบื่อความวุ่นวายของชีวิต ทุกคนเข้าหาเขาเพียงเพื่อหวังผลประโยชน์ เขาเลือกถอนตัวจากวงจรทุกอย่างที่มี “ผลประโยชน์” เป็นเงื่อนไข แล้วพาตัวเองกลับมาอยู่บ้านไร่บนที่ดินมรดกของพ่อแม่ ที่นั่นเขาอยู่กับธรรมชาติ ป่าเขา …จนวันหนึ่งอังวรี หญิงสาวเมืองกรุงปรากฏตัวขึ้นกลางหุบเขาในค่ำคืนแสนเหน็บหนาว พร้อมเสียงปืนปริศนา “การฆาตกรรมหมู่” ที่มีเพียงเธอรอดชีวิตมาได้ เพราะการช่วยเหลือของเขา แต่การรอดทำให้ชีวิตของหญิงสาวเปลี่ยนไป การช่วยเหลือเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความผูกพัน
ดูเพิ่มเติม“พักร้อนทั้งทีเลือกไปเดินป่าเดินเขาเนี่ยนะยัยอิ้งค์ ไม่ไปเที่ยวต่างประทงต่างประเทศแบบคนอื่นเขาบ้าง ทำงานเหนื่อยมาทั้งปี แล้วยังจะพาตัวเองไปลำบากลำบนอีกทำไม”
“โถ่พี่เกตุ ก็อิ้งค์ชอบของอิ้งค์แบบนี้นิคะ ได้เดินบนเขาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ใหญ่ เดินไปสูดอากาศบนที่สูงๆ หันไปทางไหนก็เจอแต่ต้นไม้ เจอหมอก เจอก้อนเมฆ นั่นแหละความสุขของอิ้งค์”
“เอาเถอะๆเที่ยวให้สนุก ไปคนเดียวก็ระวังตัวด้วย ที่สำคัญอย่าลืมของฝากพี่ด้วยก็แล้วกัน”
“แหม! ไม่ลืมหรอกค่ะ ฝากพี่เกตุดูแลงานแทนอิ้งค์ด้วยนะคะ ช่วงที่อิ้งค์ไม่อยู่น่ะ”
“สบายใจได้เลย เที่ยวให้สนุกไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้ มีพี่อยู่ทั้งคน”
อิ้งค์ อังวรี สาวสวยวัย 26 ปี พนักงานกราฟิกบริษัทเอกชน หญิงสาวผู้หลงใหลในการผจญภัยดื่มด่ำธรรมชาติ เธอมักจะเก็บวันพักร้อนไว้รอหน้าหนาวของไทยที่มีเพียงไม่กี่วัน เพื่อใช้ช่วงเวลานี้ดื่มด่ำธรรมชาติตามประสาคนโสด วันนี้ก็เช่นกัน อังวรีเดินทางขึ้นเชียงรายเพื่อพักผ่อน เดิมทีเธอนัดกับพริมเพื่อนสาวคนสนิทมาด้วย แต่ด้วยอีกฝ่ายติดงานด่วนทำให้ต้องเดินทางคนเดียวอย่างช่วยไม่ได้เพราะทุกอย่างถูกวางแผนไว้หมดแล้ว
อังวรีในชุดเสื้อยืดสีขาว กางเกงสีขี้ม้าขายาว คลุมด้วยเสื้อแจ็กเก็ตแขนยาวสีเดียวกับกางเกง รองเท้าหุ้มข้อสำหรับเดินเขาโดยเฉพาะ ที่คอมีกล้องถ่ายรูปห้อยคล้องสไตล์นักท่องเที่ยว ด้านหลังสะพายกระเป๋าเป้ใบใหญ่ มีอุปกรณ์สำหรับเดินเขาครบครันและพร้อมสำหรับพักค้างแรม
ขณะยืนรอไกด์อังวรียกกล้องถ่ายรูปออกมาเตรียมพร้อมสำหรับเก็บภาพสวยๆระหว่างการเดินทาง ขณะที่หญิงสาวกำลังวุ่นกับการหยิบเอสดีการ์ดใส่กล้องอยู่นั้น มีชายฉกรรจ์สองคนกึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้ามาชนเข้าอย่างจัง จนของที่อยู่ในมือร่วงหล่นกระจายเต็มพื้น
พรึบ!
“ว้าย...” อังวรีร้องด้วยความตกใจ กลัวว่าของตนเองจะเสียหาย
“ขอโทษครับ” หนึ่งในสองคนนั้นกล่าวขอโทษ สายตามองที่เธอสลับกับทางที่พวกเขาเดินมา
“ไม่เป็นไรค่ะ” หญิงสาวตอบขณะก้มเก็บของที่อยู่บนพื้น
“เดินยังไงของมึงวะ”
หนึ่งในสองคนนั้นสบถใส่เพื่อนที่มาด้วยกันอย่างไม่พอใจ สีหน้าท่าทางส่อพิรุธเกินเหตุ จนเพื่อนอีกคนจับไหล่ปรามก่อนกระซิบบอก
“ปล่อยไป ของล่ะยังอยู่ดีมั้ย” ชายคนเดิมถามด้วยสีหน้ากังวล
“ชิปหายละ หายไปแล้วพี่”
“รีบหาซิว่ะ เร็ว”
“ตรงนี้ไม่มี”
“นั่นหล่นไปโน่นแล้ว”
เมื่อได้ของสำคัญที่ตามหาจึงรีบเก็บขึ้นมาด้วยความรวดเร็ว ก่อนพากันวิ่งหายไปปล่อยหญิงสาวมองตามหลังอย่างงงงวย -ขอโทษกันหน่อยก็ไม่มี- อังวรีบ่นอย่างหัวเสีย
ระหว่างกำลังก้มเก็บของที่หล่นกระจายบนพื้นอยู่ ก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์อีกสามคนวิ่งตามไปทางเดียวกับชายสองคนก่อนหน้าผ่านหน้าเธอไป
อังวรีมองตามก่อนส่ายหัวให้ แต่ไม่ได้สนใจมากเพราะรถที่รอมาถึงพอดี ใช้เวลาไม่นานรถสองแถวก็พาหญิงสาวเดินทางมาถึงสถานที่ปล่อยตัวให้นักท่องเที่ยวเริ่มเดินขึ้นเขา ตลอดการเดินทางขึ้นหญิงสาวถ่ายรูปเก็บบรรยากาศตามทางที่เดินผ่านไปเรื่อย
ใช้เวลาเดินทางทั้งวันในที่สุดก็เดินทางมาถึงจุดหมาย นั่นคือสถานที่พักค้างแรมในคืนนี้ โดยไม่รู้เลยว่าตลอดการเดินทางมีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งเดินตามขึ้นมาเพื่อจะเอาของ ของพวกมันคืน ซึ่งตามมาไม่ห่างจากจุดที่หญิงสาวอยู่มาก
เมื่อถึงจุดหมายอังวรีและนักท่องเที่ยวคนอื่น ต่างแยกย้ายกันกางเต็นท์เตรียมพื้นที่สำหรับพักแรมในคืนนี้ ทุกคนพูดคุยทักทายกันตามประสาคนชอบเที่ยวป่าเหมือนกัน แบ่งปันประสบการณ์ของสถานที่ที่เคยไปสัมผัส ถึงจะไม่ได้มาด้วยกันหรือรู้จักกันมาก่อน แต่ถือเป็นเพื่อนร่วมทางรักในสิ่งเดียวกัน จึงคุยถูกคอสนิทสนมราวกับรู้จักกันมานาน
สถานที่เที่ยวแห่งนี้เพิ่งเปิดใหม่ ทำให้ยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แถมที่นี่เป็นสถานที่ส่วนตัวหากใครจะมาต้องจองล่วงหน้าเสียก่อน ทำให้มีนักท่องเที่ยวยังไม่มาก เพราะมีจุดชมวิวภูเขาที่สวยงาม
บางช่วงเป็นทะเลหมอกให้มองสุดลูกหูลูกตา ทั้งความงามของทิวต้นไม้ใหญ่ตามลาดเขาตลอดเส้นทางเดินสองข้างทางรายล้อมไปด้วยทัศนียภาพของหุบเขาสลับซับซ้อนสวยงาม มีดอกไม้ป่าบานสะพรั่งอวดสีสันสดใสให้ผู้ที่มาเยือนได้เชยชมกันอย่างเต็มอิ่ม
ที่สำคัญสถานที่พักยังรายล้อมด้วยน้ำตกขนาดใหญ่หลากหลายชั้น ทำให้ที่นี่มีอากาศเย็นสดชื่นตลอดทั้งวัน เป็นบรรยากาศที่ผู้คนในเมืองส่วนใหญ่ใฝ่ฝันจะได้เจอ ด้วยจุดชมวิวที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ไหน นักท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติต่างอยากมาสัมผัสบรรยากาศด้วยตัวเองสักครั้ง
“เอ๊ะ ทำไมเอสดีการ์ดเต็มไวจัง จำได้ว่าเพิ่งจะเคลียร์รูปไปเองนิ”
อังวรีเปิดเช็กรูปที่ถ่ายมาทั้งวันด้วยความสงสัย และเมื่อเปิดดูไปเรื่อย ๆ สิ่งที่เห็นทำให้ถึงกับตาโตด้วยความตกใจ หัวใจดวงน้อยเต้นแรงไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
ในเอสดีการ์ดอันนี้มีภาพผู้คนที่เธอไม่เคยรู้จัก เลื่อนไปเพียงไม่กี่รูปก็เจอภาพคนตายในสภาพสยดสยอง เป็นผู้ชายคนหนึ่ง ใบหน้าเขียวช้ำตามร่างกายมีรอยเขียวแดงช้ำเลือดไปทั่วร่าง แถมมีภาพเคลื่อนไหวเหตุการณ์ก่อนหน้าที่ชายคนนั้นจะเสียชีวิต
กลุ่มชายฉกรรจ์ชุดดำร่างกายบึกบึนราวยี่สิบคน หน้าตามีแต่โหดๆทั้งนั้น พูดคุยกันก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้น เธอไม่ได้เปิดเสียงดังทำให้ไม่ได้ยินว่าพวกเขากำลังพูดคุยเรื่องอะไรกัน
แต่เสียงปืนที่ได้ยินกับดังออกมาชัดเจน ก่อนภาพคนในวิดีโอจะแน่นิ่งไป ตามด้วยเลือดสีแดงสดไหลนองอาบพื้น ยิ่งเปิดดูยิ่งทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวเร็วขึ้น
-นี่มันเรื่องบ้าอะไร ภาพพวกนี้มาอยู่ที่ฉันได้ยังไง-
แสงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าเป็นสัญญาณบอกว่าหมดไปอีกวัน อังวรีอยู่คนเดียวทีไร ทุกครั้งที่หลับตาลงภาพเหตุการณ์ในคืนนั้นยังตามมาหลอกหลอนเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความรู้สึกผิดที่เป็นสาเหตุให้ผู้อื่นต้องตายผุดวนเวียนในห้วงความคิดอยู่เสมอ รู้สึกเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ความเศร้าเสียใจกัดกินเธอช้า ๆ หญิงสาวนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่ข้างเตียงนานหลายชั่วโมงเหตุการณ์ครั้งนั้นสะเทือนใจเธอมาก ยิ่งต้องมาอยู่แปลกที่แปลกทางเช่นนี้ ยิ่งรู้สึกเหงาไม่รู้จะระบายความอัดอั้นตันใจนี้กับใคร ทำได้เพียงเก็บไว้คนเดียวคิมหันต์กลับมาถึงบ้านระหว่างเดินผ่านห้องนอนของหญิงสาว เห็นแสงไฟส่องรอดออกมาประตู จึงถือวิสาสะเปิดเข้าไปโดยไม่ขออนุญาตเจ้าของห้องก่อน อย่างที่เขาคิดไว้ เธอไม่ได้ล็อกห้องอีกแล้ว ทั้งยังนั่งร้องไห้คนเดียวอย่างคืนที่ผ่านมา เห็นภาพสะเทือนใจเช่นนี้ก็อดเป็นห่วงไม่ได้“เป็นอะไรไปครับ ร้องไห้อีกทำไม”“พ่อเลี้ยง ..” ใบหน้าสวยเปื้อนหยาดน้ำตาเงยหน้ามองคนมาใหม่ราวกำลังต้องการที่พึ่งพิง“ครับ คุณเป็นอะไรไป”“ฉันจะทำยังไงดีค่ะ ภาพคืนนั้นม
“พวกมันยอมรับสารภาพมั้ย” พ่อเลี้ยงหนุ่มถามเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เฝ้าหน้าห้องขัง“ยังไม่มีใครยอมสารภาพเลยครับ” เขากัดฟันแน่นข่มอารมณ์เมื่อได้คำตอบ พร้อมสูดหายใจเข้าลึก ๆ“ผมขอเข้าไปคุยกับพวกนั้นได้มั้ย”เมื่อได้รับอนุญาตพ่อเลี้ยงหนุ่มจึงเดินเข้าไปด้านใน คิ้วหนาขมวดเข้าหากันแน่น สีหน้าเรียบตึงดุดัน น่าเกรงขาม“ไงได้ข่าวว่าไม่มีใครยอมพูดอะไรเลย”“กูไม่มีอะไรจะพูดทั้งนั้น”“ที่จริงฉันชอบนะ พวกที่ไม่มีปากนะ เพราะว่ามันเก็บความลับได้ดีแต่ไม่ใช่กับพวกแก ไหนขอทดสอบหน่อยว่าไม่มีปากจริงมั้ย”ใบหน้าคมปรายตามองไปยังผู้ติดตาม ทันทีที่สบตากับเจ้านาย วรุตก็รู้ในทันทีว่าต้องทำอะไรภาพวิดีโอถูกเปิดผ่านสมาร์ตโฟน หันไปให้กลุ่มชายฉกรรจ์ในห้องขังดู เป็นภาพเด็กและผู้หญิง คนในครอบครัวของหนึ่งในพวกมัน ชายคนหนึ่งพอได้เห็นภาพลูกสาวและเมียตัวเองในวิดิโอ ถึงกับนั่งไม่ติดยิ่งตอนท้ายวิดิโอเป็นชายชุดดำถือปืนเล็งใส่ลูกและภรรยายื่นหน้าบ้านตัวเอง ยิ่งกระวนกระวายจนเกิดพิรุธ จาก
เจ้าของไร่เป็นคนขับรถพาหญิงสาวชมสถานที่ด้วยตนเอง ทำทุกคนในไร่พากันซุบซิบถึงสิ่งที่เห็นด้วยความสงสัย ตื่นตาตื่นใจไปตามๆกัน เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเจ้านายที่รักพาผู้หญิงนั่งรถมาด้วย“ที่นี่ไร่ของคุณทั้งหมดเลยหรือคะ”“ครับ ที่นี่แบ่งเป็นสี่ส่วน รีสอร์ต ไร่องุ่น ไร่ส้ม และไร่ชา ด้านหน้าที่คุณเห็นเป็นไร่องุ่นปลอดสารพิษ ตอนนี้คนงานกำลังเก็บผลผลิตส่งให้ลูกค้า”พ่อเลี้ยงหนุ่มอธิบายเกี่ยวกับไร่ของตนเองขณะขับรถผ่านแต่ละสถานที่ ถือเป็นการเปลี่ยนเรื่องคุยไปในตัว เวลานี้ตลอดสองข้างทางที่รถแล่นผ่านเต็มไปด้วยองุ่นพวงโต มีคนงานกำลังทยอยลำเลียงขนขึ้นรถ เตรียมจัดส่งให้ลูกค้าคนไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ตาวาวเป็นประกายด้วยความตื่นตาตื่นใจไม่น้อย“คุณอยากลองชิมดูหน่อยมั้ย หวานนะ”“ไม่ดีกว่าค่ะ ของซื้อของขาย”“ผมให้คุณชิม ไม่ได้ให้กินทั้งไร่เสียหน่อย คุณคงไม่กินจนผมเจ๊งหรอกมั้ง”เขาบอกยิ้มๆ ก่อนจอดรถแล้วเดินไปหยิบองุ่นจากคนงานที่เพิ่งตัดจากต้นมาให้ ดวงตาวาวมองตามทั้งส่งรอยยิ้มให้กับความใจดีของเจ้
“คุณตำรวจคะ ฉันเป็นห่วงแม่ที่อยู่กรุงเทพค่ะ เรื่องนี้พอจะทำอะไรได้บ้างมั้ยคะ จากเหตุการณ์ที่เจอเมื่อคืน กับที่คุณเล่าให้ฟังเมื่อกี้ ฉันกลัวพวกมันจะไปตามที่อยู่ในบัตรประชาชน จนเจอแม่กับน้องชายของฉันค่ะ”“เรื่องนี้ผมจะดำเนินการส่งสายตรวจไปคอยดูแลให้นะครับไม่ต้องเป็นห่วงทางนั้น”“แล้วถ้าฉันจะกลับกรุงเทพเลยได้มั้ยคะ”“ได้ครับ ถ้าคุณอิ้งค์ต้องการผมจะประสานงานให้ แต่ผมว่ารอให้ขาของคุณหายดีก่อนดีกว่ามั้ย กลับไปสภาพนี้คนที่บ้านจะไม่เป็นห่วงแย่เหรอครับ”“ถ้าอย่างนั้นฉันขอคิดดูอีกทีก่อน ขอนามบัตรของคุณไว้ด้วยนะคะ”“พ่อเลี้ยงมีเบอร์ผมอยู่ หากคุณต้องการติดต่อกับผม บอกเขาได้เลย”“ค่ะ”“มีคำถามอะไรอยากถามเพิ่มเติมมั้ยครับ”“พ่อเลี้ยงเป็นคนดีมั้ยคะ”คุณตำรวจหนุ่มอมยิ้มเมื่อได้ยินคำถาม“เกิดอะไรขึ้นบนเขาครับ พ่อเลี้ยงรังแกคุณหรือเปล่า บอกผมได้เลย ผมจะไปจัดการให้” เขาไม่ตอบแต่กลับถามกลับ“ปะ เปล่าค่ะเค้าไม่ได้ทำอะไร อิ้งค์แค่อยากถามให้มั่นใจ”“เมื่อกี้ผมแค่ล้อเล่น สบายใจได้ครับพ่อเลี้ยงเป็นคนดี คุณไว้ใจเขาได้ผมรับประกัน”เธอก็คิดเช่นนั้น แต่ก็นะเพื่อความสบายใจถามให้มั่นใจเสียหน่อย “วันนี้ขอบคุณมากนะค
อังวรีมองอย่างไม่เข้าใจเท่าไหร่ เป็นจังหวะที่ป่านทองนำอาหารเข้ามาให้พอดี พ่อเลี้ยงจึงหยุดบทสนทนาไว้เพียงเท่านั้น“คุณทานข้าวก่อน เดี๋ยวสักพักจะมีตำรวจมาสอบปากคำเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นคืนนั้น คุณก็เล่าตามความจริงได้เลย”“เดี๋ยวคะ เออ คุณ..”“คิมหันต์ครับ” เขาตอบโดยไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายถาม“คิมหันต์ ที่นี่ไร่คิมหันต์”“ใช่ครับไร่ของผมเอง เรียกผมว่าพี่เขมก็ได้ ผมอายุมากกว่าคุณหลายปีอยู่”“เข้าใจแล้วค่ะ เอ่อคุณคิมหันต์คือว่าชุดที่ฉันใส่ก่อนหน้านี้ในกางเกงมี...”“เอสดีการ์ด แม่บ้านเอามาให้ผมแล้ว”-ดูเหมือนเขาจะรู้ความคิดเธอไปซะหมด -อังวรีคิด“เอ่อ..คุณเปิดดูหรือยังคะ”“ครับดูแล้ว คุณคงตกใจมากตอนที่เห็นมัน”“ค่ะ ฉันคิดว่า เพราะสิ่งนี้ ฉันถึงโดนพวกมันตามฆ่า”“ไม่ต้องกังวลอะไรนะครับ ผมรับปากคุณแล้วว่าอยู่ที่นี่คุณจะปลอดภัย”พ่อเลี้ยงหนุ่มย้ำน้ำเสียงจริงจัง ให้อีกฝ่ายมั่นใจว่าตนไม่ได้พูดปลอบเธออย่างเดียวแต่เขาจริงจังกับทุกคำที่พูดออกไป อังวรีสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ก่อนเอ่ยถามเรื่องที่ค้าง
ด้านอังวรีหลังจากได้หลับยาวไปสองวันเต็มๆ ในฝันเธอมีแต่ภาพเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวถูกยิง คิ้วบางขมวดนิ่วพลิกตัวไปมา จนคนนั่งเฝ้างงว่าหญิงสาวเป็นอะไร“ไม่นะ อย่ายิงอย่า” ร่างบางสะดุ้งตื่นขึ้นพร้อมหยดน้ำตาใส ๆไหลออกมา ก่อนที่เธอจะรีบเช็ดมันออกเมื่อรู้สึกตัว มองสำรวจรอบห้องว่าตนเองอยู่ที่ไหน ความทรงจำสุดท้ายจำได้ว่าอยู่กระท่อมกลางป่า “ฝันร้ายเหรอคะคุณ รู้สึกเป็นยังไงบ้าง”อังวรีกวาดสายตามองตามเสียงอ่อนนุ่มที่กล่าวทักทาย ภาพที่เห็นคือหญิงสูงวัยท่าทางอ่อนน้อม ดูใจดีทั้งสุภาพเรียบร้อยในเวลาเดียวกัน ยืนมองมาด้วยสายตาห่วงใย เธอสังเกตได้“ค่ะ ที่นี่ที่ไหนหรือคะ”“ไร่คิมหันต์ค่ะ คุณหลับไปสองวันเต็มเลยนะคะ ป้าเป็นห่วงแทบแย่”“แล้วอิ้งค์มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ”“พ่อเลี้ยงพาคุณมาค่ะ ตอนนั้นคุณมีไข้สูง ตามร่างกายมีแต่บาดแผล” ป่านทองอธิบายอย่างคลายกังวล“พ่อเลี้ยง...” อังวรีย้ำคำ ในแววตาเต็มไปด้วยคำถาม“ใช่ค่ะ คุณหิวมั้ยคะป้าจะไปหาอะไรมาให้ทานก่อน คุณไม่ได้ทานอะไรมาตั้งสองวันแล้ว”พอหญิงสูงวัยพูดเรื่องอาหาร ร่างกายก็รีบฟ้อง ท้องเริ่มส่งเสียงร้องเป็นสัญญาณว่าหิว ป่านทองมองแล้วก็อมยิ้มนิดๆอย่างเอ็นดู






ความคิดเห็น